ในงานประชุมภายใน Microsoft Global Experience สำหรับฝ่ายขายและการตลาดของไมโครซอฟท์ บริษัทได้โชว์วิดีโอแนะนำตัวพร้อมสโลแกนใหม่ "Be What's Next" ซึ่งจะแปะท้ายโลโก้แทน "Your potential. Our passion." ของเดิม
ในวิดีโอนี้ยังโชว์โลโก้อีกแบบของ Windows, Windows Phone, Bing และ Xbox ด้วย ไม่รู้ว่าเป็นแค่ตัวโชว์ หรือเปลี่ยนโลโก้จริงๆ วิดีโอดูได้ด้านในครับ
ว่าแต่ใครยังจำ "Where Do You Want to Go Today?" ได้บ้าง
ที่มา - Engadget, Seattle PI
ไมโครซอฟท์เปิดเผย 5 บริษัทที่จะผลิตฮาร์ดแวร์ของ Windows Phone 7 ขายในวันเปิดตัว ได้แก่
หลายเจ้ามีข่าวออกมาก่อนนานแล้ว เช่น Dell Lightning, HTC Mozart, LG GW910 ส่วนซัมซุงก็ทำมือถือต้นแบบชื่อ Taylor ให้อยู่แล้ว
ที่มา - Pocket-lint
John Rubinstein อดีตซีอีโอของ Palm ผู้กู้ชีพบริษัทไม่สำเร็จ (ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารคนหนึ่งของ HP) ให้สัมภาษณ์กับ Fortune ว่าเราจะได้เห็น webOS 2.0 ภายในปีนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่า Palm กำลังพัฒนาฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ อย่างเต็มที่
ที่มา - Engadget
ข่าวแถมอีกข่าวคือ HP บอกว่า Palm จะมีฐานะเป็นแบรนด์ย่อยของบริษัท เฉกเช่นเดียวกับ Compaq ในปัจจุบัน (เช่น "HP Palm Pre 2" อะไรแบบนี้) ซึ่งเป็นแนวทางที่ HP ยึดมาโดยตลอดเวลาซื้อกิจการ
ที่มา - Engadget
ในรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของไมโครซอฟท์ ได้มีหมายเหตุตัวเล็กๆ ไว้ว่าการหยุดพัฒนา KIN ทำให้รายได้หายไป 240 ล้านดอลลาร์จากที่คาดการณ์เอาไว้
Cost of revenue increased $240 million or 2%, primarily reflecting increased online costs and charges resulting from the discontinuation of the KIN phone, offset in part by decreased Xbox 360 console costs and reductions in other costs due to resource management efforts.
เหตุปัจจัยนี้ทำให้ฝ่าย Entertainment and Devices ขาดทุนทันที 172 ล้านดอลลาร์ แม้ว่า Xbox จะทำกำไรให้ก็ตาม
Dell ได้ตกลงจ่ายเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อยอมความกับคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ในกรณีถูกกล่าวหาว่าบริษัทได้มีการทำบัญชีแบบไม่โปร่งใส และตัวนาย Michael Dell ก็จะต้องจ่ายอีก 4 ล้านเหรียญด้วย
สาเหตุของการยอมความในครั้งนี้ก็เนื่องจากการที่ Dell ไม่สามารถทำให้นักลงทุนเชื่อได้ว่า รายรับ "พิเศษ" ที่ได้มาจาก Intel นั้น ไม่ได้เป็นการจ่ายเพื่อให้ Dell ไม่ใช้ชิปของคู่แข่งในคอมพิวเตอร์ของ Dell ที่ออกขาย ซึ่งรายรับ "พิเศษ"นี้ ทำให้รายได้ของ Dell ระหว่างปี 2001 - 2006 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ข่าวโน้ตบุ๊กเทพอย่าง Dell Precision อาจจะไม่ใช่ของที่เราๆ ท่านๆ ได้ใช้กัน แต่อย่างไรก็ดี Dell Precision M6500 แสดงถึงความต้องการแรมที่เพิ่มขึ้นในวงการไอที โดยโน้ตบุ๊กตัวนี้จะมาพร้อมกับจอ 17", ซีพียูเป็น Core i7 Extreme Edition, แรม DDR3 1600MHz ขนาด 32GB, และการ์ดจอ Nvidia Quadro FX 3800M
ราคาไม่แจ้ง แต่รุ่นน้องเล็กคือ Precision M4500 นั้นมาพร้อมกับสเปคพอๆ กันแต่ใส่แรมได้ "แค่" 16GB และการ์ดจอได้รุ่น FX1800M ราคานั้นอยู่ที่ประมาณ 7,000-8,000 ดอลลาร์ หรือประมาณสองแสนกว่าบาท
ถ้าเดลล์จะส่งมาให้รีวิว ช่วยทำประกันให้ล่วงหน้านะครับ พังขึ้นมาผมไม่มีจ่ายแน่นอน
เดลล์ตรวจพบเมนบอร์ดที่ส่งไปเปลี่ยนให้ลูกค้าบางส่วน ติดเวิร์ม W32.Spybot.Worm โดยทางเดลล์ได้เริ่มโทรหาลูกค้าที่เปลี่ยนเมนบอร์ดและได้รับผลกระทบนี้เพื่อเปลี่ยนเมนบอร์ดอีกครั้ง
เมนบอร์ดจากเครื่องใหม่ที่ส่งตรงจากโรงงานไม่ได้รับผลกระทบนี้ อย่างไรก็ตามเมนบอร์ดที่ติดเวิร์มเหล่านี้ได้แก่ PowerEdge R310, R410, R510, และ T410 โดยหากผู้ใช้กำลังใช้เมนบอร์ดเหล่านี้บนเครื่องที่ติดตั้ง Windows Server ก็อาจจะทำให้เครื่องติดเวิร์มเหล่านี้ไปด้วย
ใครเพิ่งเปลี่ยนเมนบอร์ดไป และเข้าข่ายรุ่นข้างบน อาจจะได้เวลาคุยกับซัพพอร์ตอีกรอบ
ไม่ใช่แค่โนเกียเท่านั้นที่มีข่าวว่ากำลังสรรหาผู้บริหารคนใหม่ แต่ไมโครซอฟท์เองก็มีแหล่งข่าวอ้างว่าตอนนี้ก็อยู่ภายใต้แรงกดดันให้เปลี่ยนตัวซีอีโอ คุณสตีฟ บัลเมอร์ ซึ่งถึงแม้ฝ่ายบริหารจะพอใจกับผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่สวยหรูก็ตามที แต่เขาก็ไม่ได้สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจที่จะส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทนั้นกระเตื้องขึ้นแต่ประการใด แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่าหากคุณบัลเมอร์ไม่ทำบางสิ่งบางอย่างใน 6 ถึง 9 เดือนข้างหน้า เขาก็อาจถูกบีบให้ออกจากตำแหน่งได้
แม้จะมี eFUSE ไว้กันการแก้ไขเฟิร์มแวร์ แต่ในที่สุด Droid X ก็ถูกเจาะ root ได้ในที่สุด
ผมไล่ขั้นตอนแล้วดูไม่ยากมาก แต่ Droid นั้นใช้ได้เฉพาะในสหรัฐฯ อาจจะต้องรอ Milestone X ออกมาก่อนบ้านเราถึงจะได้ทดสอบดูว่าเวิร์คกันไหม
ที่มา - All Droid
แม้มูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ขณะนี้แอปเปิลจะเหนือกว่าไมโครซอฟท์ แต่ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดก็ยังแสดงให้เห็นว่าแชมป์ยังไม่ถูกล้ม...อย่างน้อยก็ในจุดนี้
ไมโครซอฟท์แถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ซึ่งออกมาเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทมีรายได้รวม 16 พันล้านดอลลาร์ และเป็นกำไรสุทธิ 4.52 พันล้านดอลลาร์ ยังคงเป็นตัวเลขที่สูงกว่าของแอปเปิลซึ่งรายงานไปเมื่อวันก่อน ที่มีรายได้ 15.7 พันล้านดอลลาร์และกำไร 3.35 พันล้านดอลลาร์ ตัวเลขอื่นๆที่น่าสนใจมีดังนี้
YouTube เชิญชวนผู้ใช้ทุกคนร่วมส่งคลิปที่แสดงถึงชีวิตประจำวันของตัวเอง ในวันที่ 24 กรกฎาคม (วันเสาร์นี้ วันเดียวเท่านั้น) คลิปนี้จะถูกนำไปตัดต่อเป็นสารคดีชื่อ "Life in a Day" ซึ่งเป็นโครงการทดลองสร้างภาพยนตร์โดยเปิดให้คนจำนวนมากคนเป็นคนถ่ายคลิปแทนการถ่ายแบบดั้งเดิม
ผู้กำกับของ Life in a Day คือ Ridley Scott (ผู้กำกับ Alien และ Gladiator) และ Kevin Macdonald (ผู้กำกับ The Last King of Scotland) หนังจะเสร็จและฉายครั้งแรกในเทศกาล Sundance เดือนมกราคม 2011
ถ้าเกิดว่าส่งคลิปเข้าร่วมแล้วคลิปถูกเลือกใช้ในหนัง เราจะมีชื่ออยู่ในเครดิต และผู้โชคดี 20 คนจะได้รับเชิญไปรอบปฐมฤกษ์ที่ Sundance ด้วย
มีคนพบช่องโหว่ของฟีเจอร์กรอกฟอร์มอัตโนมัติ หรือ AutoFill ของ Safari เวอร์ชัน 4 และ 5 ซึ่งจะดึงข้อมูลส่วนตัวของเรา เช่น ชื่อ อีเมล องค์กร จาก Address Book ของระบบ (ผมหาไม่เจอว่าเป็นเฉพาะแมค หรือรวมเวอร์ชันวินโดวส์ด้วย) ไปกรอกฟอร์มให้อัตโนมัติ
แฮ็กเกอร์สามารถใช้ช่องโหว่ที่ว่า สร้างเว็บไซต์ปลอมๆ ขึ้นมาดึงเอาข้อมูลส่วนตัวจาก Safari ไปได้เลย ตอนนี้มีคนสร้างเว็บตัวอย่างที่ทำงานขโมยข้อมูลได้จริงแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีแฮ็กเกอร์ประสงค์ร้าย ใช้โอกาสจากช่องโหว่นี้มาก่อนหรือไม่
กูเกิลนั้นมีความร่วมมือกับสายการบิน Virgin America มาตั้งแต่ปี 2007 ในการใส่ Google Maps ให้ผู้โดยสารดูว่าขณะนี้เราอยู่ตรงไหน (ภาพและข่าวใน Engadget, วิดีโอ) แต่ความสามารถของ Google Maps บนเครื่องบินยังไม่มีอะไรพิสดารมากนัก
ล่าสุดกูเกิลประกาศอัพเดตข้อมูลของ Google Maps เวอร์ชันเครื่องบิน พร้อมยกเครื่องอินเทอร์เฟซใหม่หมด ซูมเข้าออกได้ละเอียด แสดงภูมิประเทศ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจได้อีกด้วย (ภาพประกอบ)
กูเกิลเปลี่ยนนโยบายการออกรุ่นของ Chrome ใหม่ โดยประกาศว่าจะออกรุ่นใหญ่ทุก 6 สัปดาห์หรือ 1 เดือนครึ่ง ซึ่งถ้าไปด้วยอัตราอย่างนี้จริง เราจะได้เห็น Chrome 9 กันตอนปีใหม่
เหตุผลของกูเกิลมีสองข้อ อย่างแรกคือการเปลี่ยนตัวเลขทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าต้องอัพเกรดเบราว์เซอร์บ่อยขึ้น ผลคือคนใช้ Chrome รุ่นล่าสุดที่มีฟีเจอร์ใหม่สุดเยอะขึ้นตามมา อย่างที่สองเป็นเรื่องการบริหารจัดการ เพราะวัฏจักรการออกรุ่นที่สม่ำเสมอ ช่วยให้กูเกิลวางแผนการทำงานได้ง่ายขึ้น เปลี่ยนมาออกรุ่นตามเวลาแทนออกรุ่นตามฟีเจอร์ใหม่ ช่วยลดปัญหาโรคเลื่อนได้ (เหตุผลเดียวกับ GNOME และ Ubuntu)
ที่มา - TechCrunch
หนึ่งในบริษัทที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมากในช่วงนี้คือโนเกีย ว่าจะสามารถเอาตัวรอดจากตลาดมือถือได้มากน้อยแค่ไหน
ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด (2/2010) ของโนเกีย เป็นดังนี้
Blognone เสนอข่าวของ IPv6 มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหา IPv4 ใกล้หมด (ซึ่งเป็นปัจจัยผลักดันสำคัญให้คนย้ายไปใช้ IPv6)
การประเมินก่อนหน้านี้คือ IPv4 จะหมดในปี 2013 (ประเมินปี 2008) และลดลงมาเหลือ 2012 (ประเมินเมื่อต้นปีนี้) ล่าสุดทางซีอีโอของ American Registry for Internet Numbers ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการหมายเลขไอพีของภูมิภาคอเมริกาเหนือ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าปริมาณ IPv4 เหลือใช้ได้อีกไม่ถึง 1 ปีดี (ถ้านับจากวันนี้ก็คือหมดประมาณกลางปี 2011) ถ้าคิดเป็นสัดส่วนคือเหลือแค่ 6% เท่านั้น
ตามการสำรวจของบริษัทผู้ผลิตโซลูชันด้านความปลอดภัย Secunia แอปเปิลได้ก้าวขึ้นมาแทนที่ออราเคิลเป็นเบอร์หนึ่งซอฟต์แวร์ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรกนั้นแอปเปิลได้รับรายงานข้อผิดพลาดมากกว่าบริษัทอื่นๆ ส่วนไมโครซอฟท์นั้นยังรั้งอันดับสามเช่นเคย
Barnes & Noble ร้านหนังสือรายใหญ่ของสหรัฐ เดินตามรอย Amazon Kindle แทบทุกก้าว โดยล่าสุดส่งโปรแกรม NOOK for Android หลังจากที่มีเวอร์ชัน iPhone/iPad แล้ว
ลูกค้า NOOK สามารถซื้อและอ่านหนังสือจากโปรแกรมไหนก็ได้ เช่นเดียวกับ Kindle แต่ที่พิเศษกว่าคือเราสามารถแชร์หนังสือให้เพื่อนอ่านด้วยเป็นเวลา 2 สัปดาห์
นอกจากนี้ Barnes & Noble ยังรีแบรนด์สินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับ e-book ทั้งหมดของตัวเอง ให้อยู่ภายใต้ชื่อ NOOK เพื่อความสม่ำเสมอของแบรนด์ด้วย
ที่มา - TechCrunch
เป็นเรื่องที่พอคาดเดากันได้ แต่ตอนนี้ไมโครซอฟท์ยืนยันแล้วว่า Windows Phone 7 จะมี default search engine ได้เพียงอันเดียวคือ Bing เท่านั้น
Greg Sullivan ผู้บริหารของไมโครซอฟท์บอกว่า Bing ผูกกับตัวระบบปฏิบัติการอย่างมาก ดังนั้นการเปลี่ยน default search engine เป็นตัวอื่นจึงทำได้ยาก (ไมโครซอฟท์เลยไม่เปิดโอกาสให้ทำเสียเลย) อย่างไรก็ตาม Sullivan บอกว่า search engine ยี่ห้ออื่นสามารถสร้าง app หรือ hub บน Windows Phone 7 ได้ เพียงแต่จะไม่มีวันเป็น default
ที่มา - Pocket-lint
Motorola ได้ตัดสินใจฟ้อง Huawei ในข้อหาสมคบกับอดีตพนักงานของบริษัทเพื่อขโมยความลับทางการค้า
บริษัท Motorola ได้ตัดสินใจยื่นฟ้องบริษัท Huawei ต่อศาลสูงเมืองชิคาโกในข้อหาสมคบกับอดีตพนักงานของบริษัท (ที่ถูกฟ้องไปก่อนแล้วตั้งแต่ปี 2008 หลังจากพนักงานกลุ่มนี้ได้ลาออกไปอยู่บริษัท Lemko Corp. ที่เป็นคู่ค้าของ Huawei) เพื่อขโมยความลับทางการค้าของบริษัท ซึ่ง Motorola ได้กล่าวอ้างว่าวิศกรของบริษัทคนหนึ่งได้ทำการส่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวรับส่งสัญญาณวิทยุรุ่นใหม่ รวมไปถึงเทคโนโลยีอื่นๆของบริษัทให้กับนาย Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้ง Huawei (ซึ่งตัวนาย Ren เอง ก็ได้ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาของ Motorola ว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ "เลื่อนลอย")
ข่าวนี้อาจจะช้าไปหน่อย แต่น่าจะช่วยให้ชาวไทยหลายๆ คนที่รอ iPad อยู่พอจะเตรียมเงินล่วงหน้าได้
เจ้าอุปกรณ์สุดฮิตที่หลายคนกำลังรอคอยว่าเมื่อไหร่จะเข้าไทยสักทีอย่าง iPad จะถูกวางขายที่สิงคโปร์ในวันศุกร์นี้หรือวันพรุ่งนี้นั่นล่ะครับ พร้อมๆ กับอีก 8 ประเทศเช่น ออสเตรีย ฮ่องกง เม็กซิโก เป็นต้น โดยสนนราคาจะอยู่ที่
WiFi
16GB : 728 SGD (17,304 บาท)
32GB : 878 SGD (20,870 บาท)
64GB : 1028 SGD (24,435 บาท)
WiFi + 3G
16GB : 928 SGD (22,058 บาท)
32GB : 1078 SGD (25,624 บาท)
64GB : 1228 SGD (29,189 บาท)
Chrome 5.0 เพิ่งออกเมื่อเดือนพฤษภาคม แต่ระดับกูเกิลที่ออกรุ่นใหม่ทุกๆ 3-6 เดือน ก็มองไปถึง Chrome 6 และ Chrome 7 แล้ว
เว็บไซต์ CNET ได้รวบรวมข้อมูลของฟีเจอร์ที่ได้รับการอนุมัติให้ออกพร้อม Chrome 6 รวมถึงฟีเจอร์ที่ถูกเลื่อนไปออกใน Chrome 7 ดังนี้
Chrome 6
RIM ทยอยเผยฟีเจอร์ใหม่ของ BlackBerry OS 6.0 ออกมาเรื่อยๆ คราวนี้เป็นคิวของมัลติมีเดียบ้าง
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน BB6 มีดังนี้
ในที่สุด Facebook ก็มียอดสมาชิกแตะหลัก 500 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อย
เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครั้งนี้ Facebook ได้เปิดหน้าพิเศษ Facebook Stories (ตามข่าวก่อนหน้านี้) ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถแชร์ "เรื่องราว" การใช้งาน Facebook ของตัวเองได้ ตอนที่ผมเขียนข่าวนี้มีเรื่องของเมืองไทยถูกส่งขึ้นไปแล้ว 8 เรื่อง และคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนของพนักงาน Facebook เองก็มีแคมเปญ Thanks ขอบคุณผู้ใช้งานทุกคน (เป็นโปรแกรม Cooliris 3D ต้องใช้ Flash ในการเล่น) ส่วนวิดีโอขอบคุณจาก Mark Zuckerberg ดูได้จากที่มาครับ
NVIDIA เปิดตัว Parallel Nsight ซึ่งเป็นเครื่องมือพัฒนาโปรแกรมเพื่อการประมวลผลแบบขนานบนหน่วยประมวลผลกราฟิก หรือ GPU โดย Parallel Nsight เป็นเครื่องมือเสริมที่ผนวกเข้ากับ Microsoft Visual Studio ทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถพัฒนาโปรแกรมด้วย CUDA หรือ DirectCompute ได้ง่ายและสะดวก ทั้งนี้ Parallel Nsight ได้จัดเตรียม debugger สำหรับค้นหาและแก้ไขบั๊ก และ analyzer สำหรับบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน CPU และ GPU อีกด้วย