DigiTimes ได้รายงาน ตามแผนกลยุทธ์ด้านโน้ตบุ๊กปีพ.ศ.2552 ถึง 2554 ของ AMD นั้น จะมุ่งเน้นการทำชิปประมวลผลและการ์ดจอ (รวมถึง AMD Fusion) สำหรับโน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊กเป็นหลัก ไม่พัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแต่อย่างไร
กทช. เร่งผลักดันให้ออกใบอนุญาต 3.9G เตรียมเปิดประชาพิจารณ์ปลายเดือนนี้ เริ่มประมูลเดือน ส.ค. เสร็จสิ้น ก.ย. หวังให้ได้ใช้กันภายในปีนี้
วันที่ 26 พ.ค. 2553 พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) และประธานคณะทำงาน 3.9 จี เริ่มให้ความชัดเจนว่าการประมูลใบอนุญาตจะเสร็จสิ้นประมาณเดือน ก.ย. ปีนี้และคาดว่าคนไทยจะได้ใช้บริการดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ได้มีการจัดรับฟังความคิดเห็นแบบโฟกัสกรุ๊ปไปรอบหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา
บิล เกตส์ ให้สัมภาษณ์กับ Larry King ของ CNN (พร้อมกับพ่อของเกตส์คือ William Henry Gates, Sr.) โดยมีประเด็นที่กล่าวถึงสตีฟ จ็อบส์, iPad และ Facebook ด้วย
เกตส์เริ่มจากการชมสตีฟ จ็อบส์ ว่าฉลาด และผลงานดีเยี่ยม เขาบอกว่าสนุกกับการมีคู่แข่งอย่างสตีฟมาก (ต้นฉบับใช้คำว่า sparring หมายถึง "คู่ซ้อม")
แต่สำหรับ iPad เกตส์บอกว่ามันยังไม่ดีพอที่เขาจะนำไปใช้ในห้องประชุม เพราะยังใช้กับปากกาไม่ได้ เขาบอกว่าแท็บเล็ตในอุดมคติต้องใช้ได้ทั้งปากกาและเสียงสั่งการ และตอนนี้มีอุปกรณ์ในแล็บ (คาดว่าหมายถึงแล็บของไมโครซอฟท์) ที่น่าจะทำงานได้จริงแล้ว
Mark Hurd ซีอีโอของ HP พูดให้นักลงทุนว่า เขาตัดสินใจซื้อ Palm ไม่ใช่เพราะต้องการลุยตลาดมือถือ แต่เป็นเพราะเขาสนใจ webOS และต้องการใช้มันเป็นพื้นฐานให้อุปกรณ์ต่างๆ ของ HP เช่น เครื่องพิมพ์ หรือแท็บเล็ตต่อเชื่อมกับอินเทอร์เน็ตได้
เขายังเสริมด้วยว่า HP จะไม่ลงทุนกับสมาร์ทโฟนเป็นหลักพันๆ ล้านดอลลาร์อย่างแน่นอน แต่ webOS จะกระจายตัวไปอยู่ในอุปกรณ์สารพัดชนิดของ HP แทน - Engadget
ล่าสุดแอปเปิลได้ทำหน้าเว็บแสดงพลังของ HTML5 แล้ว โดยตัวอย่างแต่ละอย่างที่แอปเปิลเอามาโชว์อาจจะทำให้นักพัฒนาเว็บหลาย ๆ คนน้ำลายไหลเลยก็ได้ โดยแอปเปิลก็ได้ทิ้งคำพูดเล็กน้อยไว้ว่า...
Standards aren't add-ons to the web. They are the web.
"มาตรฐาน[ที่แท้จริง]ของเว็บต้องไม่ใช่ Add-on แต่มันคือตัวเว็บเอง"
ข้อเสียคือแอปเปิลบังคับให้ดาวน์โหลด Safari เพื่อชมเว็บนี้
คลิกเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ HTML5 Showcase
ที่มา - Daring Fireball
อิทธิพลของสตีฟ จ็อบส์ สำหรับการตอบคำถามจากลูกค้าทางอีเมล อาจส่งผลสะเทือนต่อ CEO ของบริษัทอื่นๆ เสียแล้ว
จากกรณีของ AT&T เริ่มจำกัดปริมาณการใช้งาน data ทำให้ลูกค้าหลายคนไม่พอใจ และมีลูกค้ารายหนึ่งชื่อ Giorgio Galante ได้ตัดสินใจอีเมลไปบ่นกับ Randall Stephenson (ซีอีโอของ AT&T) ว่าการคิดราคาแบบนี้ไม่สมเหตุสมผล โดยเขาจะเปลี่ยนไปใช้ Sprint แทน แถมยังดักคอไว้ด้วยว่าอย่าให้พนักงานประชาสัมพันธ์ประจำตัว CEO ที่ไม่รู้เรื่องอะไรโทรมาหาเขา
ไม่นานหลังจากนั้น เขาได้รับ voicemail จากพนักงานประชาสัมพันธ์ที่ว่า พูดสั้นๆ ว่า "ขอบคุณสำหรับความเห็น แต่อย่ามารบกวน CEO ของเราอีก มิฉะนั้นคุณจะได้รับจดหมายเตือนทางกฎหมาย"
คู่หูที่มีชื่อเสียงมากอีกคู่หนึ่งในโลกไอทีคือ Janus Friis กับ Niklas Zennstrom หนุ่มชาวสแกนดิเนเวีย เหตุเพราะพวกเขาสามารถสร้างบริการออนไลน์ที่มีชื่อเสียงได้ถึง 2 ครั้งคือ Kazaa และ Skype (แม้ว่าความพยายามครั้งที่สามกับ Joost จะพังไม่เป็นท่า)
ล่าสุดพวกเขากลับมากับบริการใหม่ Rdio (อ่านว่า อาร์ดิโอ) ซึ่งเป็นบริการเพลงออนไลน์ตามสมัยนิยม แต่จุดขายของมันคือการเก็บเพลงไว้บน cloud และฟังจากที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นผ่านเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์พกพา (ตอนนี้รองรับ iPhone/BlackBerry และจะมี Android ตามมา)
เอเอ็มดีเปิดกองทุนสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในชื่อ "Fusion Fund" ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถดึงเอาประสิทธิภาพของ APU ที่ทางเอเอ็มดีสัญญาว่าจะออกสู่ตลาดภายในครึ่งปีหน้า
โครงการที่จะรับความช่วยเหลือจากกองทุนต้องเป็นโครงการที่ใช้ความสามารถของชิป Fusion ของเอเอ็มดี ซึ่งครอบคลุมทั้งโปรแกรม, เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา รวมไปถึงอุปกรณ์และฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่จะดึงความสามารถของชิปที่มีทั้งซีพียูและจีพียูอยู่ร่วมกัน
ในงาน Computex ไมโครซอฟท์ได้โชว์ต้นแบบแท็บเล็ตที่ติดตั้ง Windows Embedded Compact 7 รุ่น CTP (Community Technology Preview) ซึ่งเป็นวินโดวส์รุ่นถัดจาก Windows Embedded CE ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานบนอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะ อาทิ แท็บเล็ต เครื่องเล่นเพลงพกพา เป็นต้น
วินโดวส์ดังกล่าวจะสนับสนุนมัลติทัชและ gesture control เช่นเดียวกับ Windows Phone 7 นอกจากนั้น Internet Explorer จะได้รับการปรับปรุงขนานใหญ่ และสนับสนุน Flash 10.1, Silverlight for Windows Embedded อีกด้วย
หลังจากที่ภาษาซีขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งอีกครั้งในคราวที่แล้วที่เรารายงานข่าวถึงดัชนี TIOBE เดือนนี้ก็มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งเมื่อภาษา Objective-C ก้าวขึ้นมาอยู่อันดับที่ 10 ของดัชนีนี้ได้สำเร็จ โดยระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมามีภาษา 13 ภาษาเท่านั้นที่เข้ามาอยู่ในรายการนี้ได้
เหตุผลของความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภาษาที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1986 อย่าง Objective-C นั้นคงหนีไม่พ้นความนิยมของ iPhone และ iPad ที่ดึงดูดนักพัฒนาเข้ามาพัฒนาในแพลตฟอร์มนี้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับรายชื่อ 10 อันดับแรกได้แก่ C, Java, C++, PHP, VB, C#, Python, Perl, Delphi, และ Objective-C
อยู่ๆ @SamsungBlogSA ก็ปล่อยภาพ Galaxy Tab ที่เราอาจจะเรียกได้ว่าเป็น Galaxy S ยักษ์อย่างแท้จริงยิ่งกว่า iPad ที่เป็น iPhone ยักษ์ เพราะ Galaxy Tab นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 7 นิ้ว และยังสามารถใช้โทรศัพท์ได้
ดูจากสเปคที่ออกมาคร่าวๆ แล้วดูเหมือนมันจะเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Dell Streak มากกว่าแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ที่มีหน้าจอใหญ่กว่านี้
ทวิตเตอร์ที่ประกาศข่าวนี้เป็นทวิตเตอร์ของซัมซุงแอฟริกาใต้ และ Galaxy Tab นี้ก็ไปเปิดตัวครั้งแรกที่นั่น (อาจจะเพราะกระแสบอลโลก?)
ดูภาพได้ท้ายข่าว
ข่าวนี้ต้องย้อนความกันสักนิด ถ้ายังจำกันได้ เมื่อไม่นานมานี้ ไมโครซอฟท์ได้ปรับกลยุทธ์ Windows Live ใหม่ แยกผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Hotmail, Messenger และโปรแกรมที่เหลือทั้งหมดในชุด Essentials
และหลังจากปล่อยข่าวอัพเดตของ Windows Live Messenger 2010 กับ Hotmail Wave 4 ก็ถึงคิวของส่วนสุดท้าย Windows Live Essentials Wave 4 ครับ
ที่งาน Computex ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกที่ไม่ใช่สาย x86 อันประกอบด้วย ARM, Freescale, IBM, Samsung, ST-Ericsson และ Texas Instruments ได้ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Linaro ซึ่งเป็นการผลักดันให้ลินุกซ์ทำงานบนอุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ (ที่ไม่ใช่ x86) ได้ดีขึ้น
Linaro จะมีสภาพทางกฎหมายเป็นบริษัทแบบไม่หวังผลกำไร จดทะเบียนในอังกฤษ มีพนักงานเริ่มต้น 25 คน และมีเงินสนับสนุนหลักหลายสิบล้านดอลลาร์ โดยจะลงทุนในโครงการโอเพนซอร์สต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับอุปกรณ์จำพวก SoC และจะออกดิสโทรรวมความคืบหน้าทุก 6 เดือน โดยชุดแรกจะออกเดือนพฤศจิกายน 2010 โดยเน้นซีพียูตระกูล ARM Cortex-A
หลังจากเปิดตัวกันมานานข้ามปี และปล่อยให้ Android ขโมยความโดดเด่นอยู่คนเดียว ทางกูเกิลก็เริ่มพูดถึง Chrome OS แล้วว่า เราจะได้เห็นตัวเครื่องเน็ตบุ๊กที่รัน Chrome OS กันในปีนี้
Sundar Pichai รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของกูเกิล กล่าวในงาน Computex 2010 ที่ไต้หวันว่าเน็ตบุ๊ก Chrome OS จะวางตลาดได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณปลายปี) เขาไม่ได้ระบุว่าบริษัทใดจะเป็นเจ้าแรกที่วางขาย Chrome OS แต่มีข่าววงในมาว่าอาจเป็น Acer ครับ
ที่มา - DigiTimes
ใครๆ ก็คงจะเคยชินกับหน้าค้นหาหน้าแรกแบบจอขาวว่างๆ และมีช่องให้พิมพ์พร้อมปุ่มสองปุ่มของกูเกิล บัดนี้หน้าจอขาวว่างๆ นั้นสามารถเปลี่ยนพื้นหลังได้แล้ว
โดยผู้ใช้งาน Google.com นั้นสามารถเปลี่ยนพื้นหลังหน้าแรกได้ง่ายๆ (แต่ต้องล็อกอินเข้า Google ก่อน) โดยคลิ๊กที่ลิงก์ด้านซ้ายล่างของหน้าเว็บ และเลือกรูปภาพที่จะนำมาเป็นพื้นหลังได้ รูปภาพพื้นหลังนี้สามารถเลือกได้ทั้งจากรูปยอดนิยมที่กูเกิลเสนอ รูปที่มีอยู่ในอัลบั้มของ Picasa Web Albums หรือจะอัพโหลดรูปจากเครื่องก็ได้ครับ (แต่จะไปเก็บไว้ใน Picasa ครับ)
ที่มา: Official Google Blog
ในงาน D:All Things Digital ครั้งที่ 8 มีการโชว์ดูอัลสกรีนแท็บเล็ตชื่อ Kno ที่มุ่งตอบสนองต่อความต้องการในการอ่านตำราของนักศึกษาที่อยากจะพกตำราไปอ่านได้หลายๆ เล่มโดยไม่ต้องแบกเล่มหนังสือไป แต่ยังคงความรู้สึกเสมือนการอ่านหนังสือจริงเอาไว้ เครื่อง Kno มีรายละเอียดดังนี้
หลังจากมีข่าวเมื่อครั้งกระนู้น วันนี้ (3 มิ.ย.) โนเกียได้เผยโฉมมือถือสองซิมถึง 2 เครื่องพร้อมกัน คือ โนเกีย C1-00 และ C2 มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่างตามรายละเอียดด้านล่างครับ
C1-00
C2
Facebook มีปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวอยู่เรื่อยๆ แม้แต่ Mark Zuckerberg เองก็ยอมรับปัญหานี้ ล่าสุด Facebook ปล่อยเครื่องมือจัดการความเป็นส่วนตัวใหม่ที่ใช้ง่ายขึ้น ออกมากู้หน้า ผู้ใช้อย่างเราๆ ก็ควรรีบเรียนรู้วิธีใช้งานเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของตัวเองอย่างเต็มที่
ผมเชื่อว่าผู้อ่าน Blognone คงไม่มีใครไม่รู้จัก Norton โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยอดนิยม Norton Antivirus (หรือถ้าใครแก่พอจะทัน Norton Commander ก็ไม่ว่ากันนะครับ :P)
แม้ว่าจะเป็นเจ้าตลาดมานาน แต่ภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ตรา Norton ในสายตาของพวกเรา คงหนีไม่พ้นประโยคทำนองว่า "ช้า กินแรงเครื่องมาก น่ารำคาญ จับไวรัสได้น้อย" อันเนื่องมาจากความประทับใจใน Norton รุ่นเดิมๆ ที่สร้างชื่อ (เสีย) ไว้มาก
หลายคนจึงหนีไปใช้ผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัส (หรือรักษาความปลอดภัยที่เป็นมากกว่าแอนตี้ไวรัส) ค่ายอื่นๆ ซึ่งก็มีตัวเลือกมากมายในตลาด รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ฟรีอย่าง Microsoft Security Essentials, AVG หรือ Avast! เป็นต้น
กูเกิลเปิดตัวบริการ Gone Google ซึ่งเป็นโปรแกรมเครื่องคิดเลขออนไลน์เอาไว้สำหรับคำนวณหาความคุ้มค่าในการใช้บริการ cloud computing อย่าง Google Apps ซึ่งตัวเลขที่ได้จาก Gone Google นั้นได้มาจากการประมาณค่าว่า เมื่อลูกค้าได้ใช้บริการ Google Apps แล้วจะลดค่าใช้จ่ายและเวลาได้มากน้อยเพียงใด
มีภาพหลุด BlackBerry Curve 9300 รุ่นที่คาดว่าจะมาแทน Curve 8500 (ดูภาพท้ายข่าว) โดยจะเปลี่ยนกรอบตัวเครื่องด้านหน้าจากสีดำมันวาวเป็นชุบโครเมียม และเพิ่มการรองรับ 3G และ 802.11n เข้าไป
ที่มา: CrackBerry ผ่าน Engadget
Intel ได้เผยต้นแบบแท็บเล็ตแพลตฟอร์ม Moorestown และใช้ระบบปฏิบัติการ MeeGo ในงาน Computex ที่ผ่านมา ต้นแบบแท็บเล็ตดังกล่าวมีหน้าจอ 10 นิ้ว ใช้ชิป Moorestown 1.5GHz รองรับการแสดงผล HD ที่ 720p และลง MeeGo เวอร์ชั่น pre-alpha
MeeGo เวอร์ชั่นแท็บเล็ตนี้ มีการแสดงผลมีสองรูปแบบ คือแบบ simple และแบบ panel แบบ simple นั้นจะแสดงผลไอคอนแอพพลิเคชั่นเป็นแบบกริด ส่วนแบบ panel จะแสดงผลในแนวตั้งและผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้เองว่าจะให้โชว์รูปภาพ ฟีดข่าวสารจากชุมชนออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนั้น Intel ยังใส่ App Up store มาให้ด้วย
จากที่ทีมงาน Engadget ลองเล่นมา พบว่ามุมที่สามารถมองจอภาพได้ชัดค่อนข้างแคบ แต่การตอบสนองต่อการแท็บและการซูมค่อนข้างรวดเร็ว
ขณะที่บ้านเราการขโมยผักอาจจะเป็นเรื่องปรกติ แต่ในเกม Habbo Hotel นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป เมื่อมีการสร้างหน้าเว็บปลอมเพื่อหลอกคนคนล็อกอินแล้วขโมยเฟอร์นิเจอร์ในเกมไปถึงกว่า 400 คดี แต่ละคดีมีมูลค่าต่างกันไป โดยบางคดีมูลค่าสูงถึง 1,000 ยูโร หรือเกือบ 40,000 บาท
คดีความต่างๆ ในเกมออนไลน์กำลังจะเริ่มมีผลโดยตรงต่อชีวิตจริงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสินค้าในเกมกลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่าจริง เช่นที่ทางการจีนพิจารณาเก็บภาษีในเกมออนไลน์เนื่องจากตลาดภายในมีมูลค่าจริงสูงขึ้นเรื่อยๆ
อีกหน่อยต้องมีคดีขโมยผักออกคดีเด็ดแหงๆ
ที่มา - BBC
เมื่อ Android Market เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ บรรดาเจ้าของลิขสิทธิ์เกมและซอฟต์แวร์ต่างๆ ก็เริ่มเข้ามาป้องกันพื้นที่ของตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด The Tetris Company ผู้ถือสิทธิ์เกม Tetris ในตำนานก็ได้ยื่นใบเตือนไปยังกูเกิลเพื่อให้ถอนเกมที่มีลักษณะคล้ายกับ Tetris ออกจาก Market ทั้งหมด
ตัว Tetris นั้นไม่ได้รับการคุ้มครองด้วยสิทธิบัตร แต่เป็นการคุ้มครองด้วยลิขสิทธิ์ทำให้การพัฒนาขึ้นใหม่โดยไม่ได้ทำสำเนาจากของเดิมนั้นควรจะทำได้อย่างถูกต้อง แต่ The Tetris Company ก็อ้างว่าได้รับการคุ้มครองจากกฏหมายที่ชื่อว่า Lanham Act ที่ตราขึ้นเพื่อคุ้มครองเครื่องหมายการค้า และอ้างว่าเกมเหล่านั้นทำให้ผู้ใช้สับสนกับสินค้าของ The Tetris Company