นาย Matthias Mann ผู้ซึ่งไม่สามารถทนรออีกสามเดือนสำหรับเกม Final Fantasy XIII รุ่นสำหรับยุโรป ซึ่งเป็นเกมส์ภาคล่าสุดของเกมชุด Final Fantasy ที่ขายไปแล้วกว่า 92 ล้านชุดนับแต่ปี 1987 เป็นต้นมา ได้ตัดสินใจบินข้ามทวีปเป็นระยะทางกว่า 5,500 ไมล์จากเยอรมนีไปยังกรุงโตเกียว เพื่อที่จะซื้อเกมรุ่นที่ใช้ภาษาที่เขาไม่รู้จัก

Mark Shuttleworth ผู้ก่อตั้ง Ubuntu และบริษัท Canonical ประกาศลาออกจากตำแหน่ง CEO ของบริษัท

แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะเขาลาออกจากแค่ตำแหน่ง CEO เท่านั้น เหตุผลเพื่อลงไปลุยในงานออกแบบผลิตภัณฑ์ ดูแลคู่ค้าและลูกค้าแทน ส่วนตำแหน่ง CEO ของบริษัทก็จะเลื่อนขั้น Jane Silber ซึ่งดำรงตำแหน่ง COO อยู่แล้วมาดูแลแทน สำหรับตำแหน่งใน Ubuntu นั้น เขาจะยังมีที่นั่งใน Ubuntu Community Council กับ Ubuntu Technical Board อยู่เช่นเดิม

Mark Shuttleworth เคยมาเมืองไทยหลายครั้ง แถวนี้ก็น่าจะเคยเจอกันหลายคน

ที่มา - Mark Shuttleworth

Fede Alvarez ผู้กำกับหนังสั้นชาวอุรุกวัย ได้โพสต์หนังความยาว 4:48 นาทีลงใน YouTube โดยหนังมีชื่อว่า "Ataque de Panico!" (ชื่อภาษาอังกฤษคือ Panic Attack!) มีเนื้อหาเกี่ยวกับหุ่นยนต์ต่างดาวบุกถล่ม Montevideo เมืองหลวงของประเทศอุรุกวัย

หนังเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างเพียง 300 ดอลลาร์ (10,000 บาท) แต่โปรดักชันอลังการมาก และมีคนดูบน YouTube ไปแล้วว่า 1.6 ล้านครั้ง

Alvarez โพสต์วิดีโอนี้เมื่อวันพฤหัสที่แล้ว และวันจันทร์ถัดมา เขาก็ได้รับข้อเสนอจากสตูดิโอฮอลลีวู้ดจำนวนมาก ในที่สุดเขาตัดสินใจรับข้อเสนอให้สร้างหนังไซไฟเรื่องใหม่ ทุนสร้าง 30 ล้านดอลลาร์ และสปอนเซอร์โดย Sam Raimi ผู้กำกับสไปเดอร์แมน

RIM เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่สามของปี มันเป็นไตรมาสประวัติศาสตร์ของบริษัท เพราะสามารถขาย BlackBerry ไปได้ถึง 10.1 ล้านเครื่อง ชนะสถิติเก่าที่ 8.3 ล้านเครื่องอยู่มากโข

ตั้งแต่เปิดบริษัทมา RIM ขาย BlackBerry ออกไปแล้ว 75 ล้านเครื่อง และมีผู้ใช้รวมกันประมาณ 36 ล้านคน (เพราะบางคนมีหลายเครื่อง) ไตรมาสนี้ RIM มียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 11% และกำไรเพิ่มขึ้น 32% เหตุผลที่ยอดขายเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดคือการเปิดตัวมือถือตัวสำคัญครบไลน์ ได้แก่ Bold 9700, Curve 8530 และ Storm 2

คู่แข่งอย่างแอปเปิลนั้นขายได้เพียง 7.4 ล้านเครื่องในไตรมาสที่แล้ว นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขไตรมาสนี้น่าจะอยู่ประมาณ 8-9 ล้านเครื่อง

Scott Guthrie หัวหน้าฝ่ายนักพัฒนาของไมโครซอฟท์ แจ้งข่าวร้ายให้กับผู้ใช้ VS/.NET ว่า VS 2010 และ .NET 4.0 มีเหตุให้ต้องเลื่อนการออกรุ่นจริง

ปัญหาคือ VS 2010 Beta 2 มีปัญหาด้านประสิทธิภาพและ virtual memory ซึ่งไมโครซอฟท์รับรู้แล้ว และกำลังแก้ไขปัญหานี้ในตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามเพื่อความชัวร์ ไมโครซอฟท์จะออกรุ่น RC เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรุ่นเพื่อเปิดให้ผู้ใช้ทดสอบ รุ่น RC จะออกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2010 ซึ่งเป็นผลให้รุ่นจริงต้องเลื่อนออกไปอีกสักพัก

ที่มา - Scott Guthrine (ขอบคุณคุณ @meekob ที่แจ้งข่าวนี้ครับ)

เว็บไซต์ TechCrunch แจ้งข่าววงในว่า กูเกิลกำลังคุยกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายหนึ่ง เพื่อออกเน็ตบุ๊กแบรนด์ "กูเกิล" (แน่นอนว่าใช้ Chrome OS)

รายละเอียดอื่นๆ ยังแทบไม่มีอะไร ยกเว้นแค่มันอาจขายผ่านโอเปอเรเตอร์แบบเดียวกับเน็ตบุ๊กของโนเกีย และจะเปิดตัวช่วงปลายปี 2010

เหตุผลที่เป็นไปได้ก็เหมือนกับ Nexus One นั่นคือผู้ผลิตฮาร์ดแวร์สร้างเครื่องไม่ได้อย่างที่กูเกิลต้องการ เลยต้องลงมาทำเองทั้งหมด

ที่มา - TechCrunch

บริษัทวิจัย comScore ออกรายงานภาพรวมของตลาดมือถือในสหรัฐ พบว่าคนอเมริกันกำลังสนใจ Android มากขึ้นในอัตราที่เพิ่มเร็วมาก สาเหตุสำคัญคือโฆษณา Droid ของ Verizon นั่นเอง

ผลการสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือนสิงหาคม ผู้ตอบ 22% เท่านั้นที่รู้จัก Android และมีเพียง 7% ที่บอกว่าสนใจจะซื้อ แต่พอเป็นการสำรวจในเดือนพฤศจิกายน ตัวเลขเพิ่มเป็น 37% และ 17% ตามลำดับ ในขณะที่ iPhone นั้นตัวเลขคนที่ตั้งใจซื้อลดลงจาก 21% มาเหลือ 20% ในช่วงเวลาเดียวกัน (แต่แชมป์เป็น BlackBerry นะครับ รวมกันทุกรุ่น 51% แบบว่า iPhone กับ Android อาย)

สถิติอีกอันในรายงานชุดนี้คืออัตราการใช้งานมัลติมีเดียและอินเทอร์เน็ต ซึ่ง iPhone กับ Android ทิ้งห่างสมาร์ทโฟนค่ายอื่นๆ (iPhone ดีกว่า Android เล็กน้อย)

มีการรายงานใน Engadget ว่าโปรแกรมทวิตเตอร์บน Zune HD ที่เพึ่งเปิดตัวไปเมื่อวานนี้เซ็นเซอร์คำพูดไม่เหมาะสมของเขา โดยเขาได้ทวีตข้อความไปแล้วมีคำว่า "fuck" อยู่ แต่กลับถูกเซ็นเซอร์เป็น "f***"

ทาง Ars Technica ได้สอบถามไปทางไมโครซอฟท์แล้ว ได้รับคำตอบว่ากำลังจะปรับปรุงโปรแกรมดังกล่าวอยู่

ที่มา: Engadget ผ่าน Ars Technica

เราอาจถือได้ว่า Android เป็นแพลตฟอร์มมือถือที่มาแรงที่สุดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เท่าที่ผมทราบ คนแถวนี้มีใช้กันบ้างหลายคนแล้ว กระแสความนิยมของ Android โดยเฉพาะในสื่อต่างประเทศ ย่อมทำให้คนที่ยังไม่เคยใช้ ไม่เคยจับ เกิดความสงสัยขึ้นว่า "มันเป็นยังไงของมันวะ ดีจริงอย่างที่คุยหรือเปล่า?"

ผมเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น และโอกาสก็มาเยือนเมื่อ HTC ประเทศไทยได้ส่งเครื่อง HTC Magic มาให้ทดสอบ (ด้วยการประสานงานของคุณ @pawoot ขอบคุณมา ณ ที่นี้)

หลังจากนั้นผมได้ทดลองใช้ HTC Magic ในหลายๆ แง่มุมจนเริ่มเข้าใจแนวคิดของแพลตฟอร์ม Android มากขึ้น แต่ด้วยภาระหน้าที่การงานรุมเร้า (แปลว่า 'ขี้เกียจ' นั่นเอง) จึงไม่ได้เขียนถึงมันเสียที :P

กูเกิลเปิดตัวเครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนาเว็บ มีชื่อว่า Browser Size

หน้าที่ของมันก็ตามชื่อครับ เอาไว้ดูว่าคนเข้าเว็บส่วนมากมีขนาดหน้าจอประมาณเท่าไร เพื่อที่เราจะได้ออกแบบให้จุดสำคัญๆ ของเว็บ (เช่น ปุ่มดาวน์โหลดหรือบริจาค) อยู่ในครึ่งบนของหน้าจอที่เห็นได้ทันทีโดยไม่ต้อง scroll

กูเกิลยกสถิติว่าในหน้าดาวน์โหลดของ Google Earth นั้น การขยับปุ่มดาวน์โหลดให้อยู่สูงกว่าเดิม 100 พิกเซล ช่วยให้ยอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นถึง 10%

ใครอยากลองเข้าไปทดสอบกันได้ที่ Browser Size สถิติหน้าจอเป็นสถิติที่กูเกิลเก็บสะสมเอง โครงการนี้เกิดจากช่วงว่าง 20% ของพนักงานกูเกิลครับ

FTC หรือคณะกรรมการด้านการค้าของรัฐบาลสหรัฐ ได้ยื่นฟ้องอินเทลในข้อหาผูกขาด CPU และ GPU

ในส่วนของการผูกขาด CPU ไม่มีอะไรใหม่เพราะอินเทลโดนมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นคำฟ้องจาก AMD หรือคณะกรรมการยุโรป (ข้อหาเหมือนกันคืออินเทลใช้ลูกเล่นตุกติก เช่น บีบราคา ขายพ่วง โกงเบนช์มาร์ค ฯลฯ) แต่ที่น่าสนใจคือ FTC พ่วงข้อหา "อินเทลจะผูกขาดตลาด GPU แบบออนบอร์ด" มาด้วย

ใกล้ปลายปี เว็บไซต์ใหญ่น้อยต่างเผยสถิติประจำปีของตัวเองกันใหญ่ คราวนี้เป็นทีของ YouTube มาเผยสถิติวิดีโอยอดนิยมในรอบปีกันบ้าง 5 อันดับแรกได้แก่

กระทู้หนึ่งจากเว็บไซต์เกี่ยวกับการถ่ายรูป Fred Miranda ได้รายงานถึงเหตุการณ์ของกล้องดิจิตอลที่หลุดออกมาจากที่ยึดศีรษะของนักดิ่งพสุธาและหล่นลงมาสู่พื้น แต่ยังพบว่ากล้องนั้นทำงานได้อยู่ครับ

กล้องตัวนี้คือ Rebel XT ของ Canon (บ้านเราใช้ชื่อว่า EOS 350D และคาดว่าบางคนก็คงซื้อมาและขายทิ้งไปแล้ว) ซึ่งได้หลุดออกมาระหว่างการดิ่งพสุธาที่ความสูงระดับ 3,000 ฟุต (ประมาณ 914 เมตร) พร้อมกับกล้องวิดีโออีกตัว (ดูจากในรูปคาดว่าเป็นยี่ห้อ Sony) หลังจากเก็บมันขึ้นมาจากพื้นพบว่ากล้องดิจิตอลนั้นยังอยู่ในสภาพดี และสามารถทำงานได้แม้จะมีเสียงเล็กน้อยขณะซูม ในขณะที่กล้องวิดีโอนั้นพังเละ (ดูรูปได้จากที่มาประกอบ)

ทางสหภาพยุโรปได้ทำการถอนฟ้องคดีผูกขาดทางการค้าของไมโครซอฟท์ที่ฝัง Internet Explorer ลงไปในวินโดวส์แล้ว หลังจากที่ไมโครซอฟท์ทำหน้าจอเลือกเบราว์เซอร์ตอนเปิดเครื่องครั้งแรกเสร็จสิ้น (ดูข่าวเก่า) โดยระบบนี้จะเริ่มใช้งานในเดือนมีนาคมปีหน้านี้

ในทศวรรษที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ต้องเสียค่าปรับให้กับ EU ไปแล้วกว่า 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการถอนฟ้องครั้งนี้ก็ทำให้โล่งใจขึ้นอีกว่า ไมโครซอฟท์จะไม่ต้องเสียเงินก้อนโตให้กับ EU อีก

ที่มา - AppleInsider

หลังมีข่าวลือว่าไมโครซอฟท์กำลังซุ่มพัฒนาแอพฯ Bing และเมสเซนเจอร์บนไอโฟนไปเมื่อสองวันที่แล้ว เมื่อคืนนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ) ไมโครซอฟท์ก็ได้ปล่อย Bing สำหรับไอโฟนให้ดาวน์โหลดผ่าน App Store แล้ว หน้าตาเป็นอย่างไรดูได้จากภาพท้ายข่าว

นอกจากนั้นไมโครซอฟท์ยังประกาศผ่านทวิตเตอร์ ว่า ในวันพรุ่งนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ) จะเปิดตัวทวิตเตอร์แอพฯ สำหรับ Zune HD ด้วย

เมื่อเดือนสิงหาคม ผมได้ขอให้ผู้อ่าน Blognone ช่วยกันตอบแบบสอบถาม “อนาคตของอินเทอร์เน็ต ปี 2020″ และเชิญคนแถวๆ นี้หลายคนไปช่วยให้ความเห็นในโฟกัสกรุ๊ป ตอนนี้งาน (เกือบ) เสร็จแล้ว และได้แถลงผลการศึกษาไปเมื่อวานนี้ เลยนำสไลด์มาแปะแถวนี้ เพื่อเผยแพร่ให้ผู้ตอบแบบสอบถามรู้กันด้วยครับ ว่าผลการศึกษาเป็นอย่างไร

ความฝัน "โน้ตบุ๊ก 100 เหรียญ" ของ OLPC และ MIT อาจเป็นจริงแล้วในอีก 5 ปีถัดมา โดยบริษัท Cherrypal จากฮ่องกง เปิดตัวเน็ตบุ๊กราคาถูกชื่อ "Africa" ในราคา 99 ดอลลาร์เท่านั้น

เน็ตบุ๊กตัวนี้ใช้ซีพียู 400 MHz (ไม่ระบุยี่ห้อและรุ่น) แรม 256MB หน้าจอ 7" และพื้นที่เก็บข้อมูลเป็น flash 2GB สามารถติดตั้งได้ทั้งลินุกซ์และ Windows CE

กลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่ไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์มาก่อนเลย กินไฟน้อย ใช้ส่วนประกอบไม่มาก และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ Cherrypal ยังมีเน็ตบุ๊กสำหรับตลาดปกติที่ใช้ Atom N280 หน้าจอ 13.3" และ Windows XP ขายในราคาเครื่องละ 389 ดอลลาร์ หน้าตาของทั้งสองเครื่องดูได้จาก Cherrypal

นิตยสาร Macworld ให้รางวัล apps ยอดเยี่ยมของ iPhone และ iPod touch ประจำปี 2009 โดยแบ่งเป็น 20 หมวด 20 โปรแกรม

ผมคัดมาเฉพาะชื่อหมวดกับชื่อโปรแกรม ส่วนคำอธิบายตามไปอ่านในที่มากันเองนะครับ

การเปิดตัว Chrome สำหรับแมคและลินุกซ์ ช่วยให้ส่วนแบ่งตลาดของ Chrome เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นเบราว์เซอร์ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสามแล้ว

Chrome มีส่วนแบ่งตลาด 4.4% เพิ่มขึ้นจากเดิม 0.4 จุด แซงหน้า Safari ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด 4.37% เรียบร้อย ถ้านับเฉพาะบนแมคอย่างเดียว Chrome มีส่วนแบ่งตลาด 1.3% เพิ่มพรวดจากเดือนที่แล้วที่มีแค่ 0.32%

บนลินุกซ์ก็เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เดือนก่อน Chrome มีส่วนแบ่ง 3.81% พอมาเป็นสัปดาห์ก่อนกลายเป็น 6.34% กลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Firefox บนลินุกซ์

อันดับรวมตอนนี้ IE ยังครองตลาดด้วยส่วนแบ่ง 63.6% และ Firefox 24.7%

ข่าวนี้อาจจะเก่าไปได้สัปดาห์หนึ่งแล้ว แต่เผื่อใครยังไม่ทราบว่าตอนนี้เว็บอย่างเป็นทางการของ Google Chrome Extensions Gallery ใช้งานได้แล้วเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นเว็บตัวจริงจาก Google สไตล์เรียบง่ายพอเพียงเช่นเคย ถ้าขี้เกียจพิมพ์ URL ให้เรียกจากเมนู "ประแจ/ส่วนขยาย" ก็จะมีลิงค์ให้เลือกเข้าไซท์ได้โดยตรง

ตัว Gallery นี้มีส่วนขยาย ณ ปัจจุบันอยู่ 371 รายการ อย่าได้คาดหวังส่วนขยายที่ซับซ้อนมากๆ ส่วนใหญ่เน้นเบา และเรียบง่าย มีเพียงบางตัวที่สามารถปรับแก้ได้ เช่น ตัวเตือนเมล์ที่ยังไม่ได้อ่านของ GMail, ตัวสมัครฟีด, ปุ่ม Google Tasks, ส่วนขยายสำหรับ StumbleUpon, Picnik, eBay, WOT, Twitter และ Facebook

คนที่ใช้ Twitter คงรู้จัก Twitter Trends หรือคำที่ถูกคนพูดถึงมากที่สุดในขณะนั้น ซึ่งจะถูกแสดงอยู่ด้านขวามือของหน้าเว็บ Twitter

ด้วยความนิยมของ Twitter ทำให้เจ้า Trends สามารถใช้สะท้อนสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกได้แบบเรียลไทม์ได้เช่นกัน และเนื่องในโอกาสครบรอบปี ทาง Twitter ก็เปิดเผย Trends ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในรอบปี 2009

อันดับจะแยกเป็นหมวดๆ แต่ถ้าเอาอันดับของ hashtag รวม ที่หนึ่งคือ #musicmonday ซึ่งเล่นกันเป็นประจำทุกสัปดาห์ ส่วน #iranelection ซึ่งเป็นประเด็นร้อนในช่วงกลางปีตามมาเป็นอันดับสอง

Synaptics ผู้ผลิตทัชแพดและจอสัมผัสที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือชื่อดัง ได้พัฒนาส่วนติดต่อผู้ใช้รุ่นทดลองชื่อว่า Fuse ซึ่งรองรับการสัมผัสได้จากด้านข้างและด้านหลังของตัวเครื่อง รวมไปถึงสั่งงานโดยการบีบที่ตัวเครื่อง

โทรศัพท์รุ่นที่ใช้เป็นรุ่นต้นแบบที่ Synaptics และพันธมิตรสร้างขึ้นเพื่อเดโม มันใช้ซีพียู TI OMAP 3630, จอภาพแบบ AMOLED, จอสัมผัสรุ่น ClearPad 3000 ของ Synaptics และออกแบบอินเทอร์เฟซโดย The Alloy กับ The Astonishing Tribe ตอนนี้ยังเป็นแค่เครื่องเดโม เราก็ได้แต่หวังว่าผู้ผลิตมือถือที่ขายจริงจะนำไปพัฒนาต่อ

นอกจากระบบสัมผัสรอบเครื่องแล้ว Fuse ยังใช้การแสดงผลแบบ 3 มิติซึ่งมีลูกเล่นเพิ่มขึ้นมาพอสมควร ดูได้ในวิดีโอครับ

เมื่อปี 2007 เคยมีข่าวว่า บริษัท Monsoon โดนฟ้องข้อหาละเมิด GPL ของซอร์สโค้ด BusyBox เนื่องจากเอา BusyBox ไปใช้ในอุปกรณ์ของตัวเอง แต่ไม่ยอมปล่อยซอร์สโค้ดออกมาตามเงื่อนไขของ GPL (BusyBox คือซอฟต์แวร์ที่รวมคำสั่งและเครื่องมือที่ใช้บ่อยของ UNIX สำหรับอุปกรณ์ฝังตัว)

หลังจากนั้นก็มีบริษัทโดนฟ้องด้วยข้อหานี้อีกเรื่อยๆ (ทั้ง Cisco และ Verizon โดนกันมาหมดแล้ว) ล่าสุดโดนกัน 14 บริษัทซึ่งมีบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Best Buy, Samsung, JVC โดยอุปกรณ์ที่โดนฟ้องก็มีตั้งแต่ HDTV ของ Samsung หรือเครื่องเล่น Blu-ray ของ Best Buy

อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ ถ้าอยู่ในอเมริกา และซื้อรถยนต์ยี่ห้อ Chevrolet รุ่นใดรุ่นหนึ่งใน 7 รุ่น เราสามารถเลือกเพิ่มออปชันเสริมเป็น Wi-Fi access point สำหรับเล่นเน็ตในรถได้

บริการที่ว่าเป็นของบริษัท AutoNet โดยจะติด access point ไว้ในรถ และเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G พร้อมเทคนิคในการเชื่อมสัญญาณไม่ให้หลุดในขณะที่รถกำลังวิ่ง ส่วนรัศมีการทำงานของ Wi-Fi นั้นครอบคลุม 150 เมตรรอบตัวรถ

สนนราคาตัวเครื่อง 199 ดอลลาร์พร้อมสัญญา 2 ปี ในข่าวไม่บอกว่าจ่ายค่ารายเดือนเท่าไร ก่อนหน้านี้ Volkswagen ก็เคยเพิ่มตัวเลือกลักษณะนี้มาแล้วเช่นกัน

ที่มา - Hot Hardware

Twitter กำลังเริ่มทดลองฟีเจอร์ใหม่สำหรับลูกค้าที่เป็นหน่วยงานธุรกิจ ฟีเจอร์ที่ว่าคือ 'Contributors' สำหรับบัญชี Twitter ของแบรนด์สินค้า ที่มีคนช่วยกันส่งข้อความหลายคน

ฟีเจอร์นี้จะขึ้นเป็นตัวอักษรเล็กๆ ไว้ใต้ข้อความบนเว็บของ Twitter ว่า ข้อความนี้ส่งออกมาโดยใคร (ในนามของแบรนด์นั้นๆ) เช่น @Twitter ที่เขียนโดย @biz หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท (ดูภาพประกอบได้ด้านใน)

Twitter บอกว่าฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้เฉพาะหน่วยงานภาคธุรกิจเท่านั้น แม้จะยังไม่บอกรายละเอียดเพิ่มเติม แต่เชื่อว่านี่เป็นหนึ่งในบริการเก็บเงินที่ Twitter กำลังจะทยอยเปิดในปีหน้า

ที่มา - Twitter Blog