หลังจากขึ้นปีใหม่ได้แค่วันเดียว ปรากฎว่าเนื้อที่ของ Gmail ไม่มีการเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ไปดูที่หน้าหลักของ Gmail ตอนนี้จะเห็นว่าเนื้อที่ี่หยุดอยู่ที่ 2800 MB ไม่มีการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้ว ไม่รู้ว่ากูเกิลลืมใส่โค้ดให้มันเพิ่มเนื้อที่ หรือจงใจไม่ให้เพิ่มขึ้นอีกแล้ว ย้อนไปดูประวัติของ Gmail เริ่มจากเปิดให้บริการในวันที่ 1 เมษายน 2004 ด้วยเนื้อที่ 1 GB และเพิ่มเนื้อที่เป็น 2 GB พร้อมกับเพิ่มขึ้นวันละ 0.33 MB ในวันที่ 1 เมษายน 2005 และจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2007 ได้หยุดเพิ่มเนื้อที่แล้ว
เห็นที่ OSNews เค้าเล่นกัน เลยอยากเล่นบ้าง มาประกวดความรกของเดสก์ท็อปกันดีกว่า
กติกาก็ง่ายๆ จับภาพหน้าจอตัวเองไปฝากไว้ที่ไหนซักแห่ง จากนั้นก็ลิงก์มา (ในช่องคอมเมนต์ใส่แท็ก a ได้เหมือน html ปกติ) จะให้ดีเขียนอธิบายเล็กน้อย เช่น ใช้ระบบปฏิบัติการอะไร, ลงธีมอะไรบ้าง เป็นต้น
ผมเริ่มก่อน: mk's desktop Ubuntu 6.10 Edgy Eft ไม่ได้แต่งอะไรพิเศษ (ใช้วอลล์เปเปอร์ Sunset Bliss II)
จริงๆ ผมเคยเขียนเรื่อง Windows ตัวต่อไปรหัส Fiji และ Vienna ไปหลายทีแล้ว แต่ไหนๆ มีข่าวอีกรอบก็เอามาลงซะหน่อยให้เป็นเรื่องเป็นราว
"Windows Fiji"
"Windows Vienna"
ช่วงหลังเราจะเห็นว่าค่ายซีพียูหันไปแข่งจำนวนคอร์แทนความเร็วสัญญาณนาฬิกา เนื่องจากติดปัญหาเรื่องพลังงาน (ยิ่งเร็วยิ่งกินไฟ) ซึ่งเอาจริงแล้วมันเป็นคนละเรื่องกัน คอร์เยอะหมายถึงจำนวนงานที่ทำได้พร้อมกันมีเยอะขึ้น ส่วนความเร็วสัญญาณนาฬิกาเพิ่มขึ้นคือทำงานอันเดิมได้เร็วขึ้น
แน่นอนว่าสงครามสัญญาณนาฬิกายังไม่จบ
ไอบีเอ็มเปิดเผยรายละเอียดของซีพียูใหม่ 2 รุ่น ตัวแรกคือ Power6 ที่จะออกภายในปี 2007 นี้ มันทำงานได้ที่ 4GHz และ 5GHz ใน "high-performance mode" กินไฟต่ำกว่า 100 วัตต์ (ซึ่งเทียบกับ 95 วัตต์ของ Opteron หรือ 80 วัตต์ของ Xeon แล้วก็พอไหว) ใช้การผลิตขนาด 65 นาโนเมตรเลยทั้งเร็วและกินไฟน้อย
MacScoop/MacOSXRumors รายงานว่าภายในเดือนมกราคมนี้ เราจะได้เห็น 8-Core Mac Pro ในส่วน Quad-Core Mac Pro อาจจะวางขายต่อไปในราคาต่ำกว่าในลักษณะ low-end Mac Pro
นอกจากนี้หลังจากที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้มาว่าแอปเปิลจะเปิดตัวมอนิเตอร์ใหม่นั้น MacScoop กล่าวว่ารุ่น 23" อาจจะถูกแทนที่ด้วยรุ่น 24" แทน และยังมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีรุ่น 50" วางขายอีกด้วย
ที่มา - MacRumors
คงเป็นเรื่องที่สร้างความสงสัยพอสมควรว่า ณ วันนี้ผู้ที่มีซีพียูแบบ 64-bit ควรจะใช้ระบบปฏิบัติการแบบ 64-bit เพื่อใช้ความสามารถของซีพียูได้อย่างเต็มที่ หรือจะยังคงใช้แบบ 32-bit เพื่อรักษาความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ที่ยังไม่มีรุ่น 64-bit ต่อไป
Camfrog กลายเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อตำรวจได้บุกยึดเซิร์ฟเวอร์ของห้อง ฮาเร็ม, ไทยเกย์แคม และ ไทยเกิร์ลมูฟ เอ็กซ์ เอ็กซ์ เอ็กซ์ ได้จากบรรดาดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศซึ่งหนึ่งในนั้นตั้งอยู่ในการสื่อสารแห่งประเทศไทยอีกด้วย เมื่อโดนยึดก็แปลว่าเจ้าของเครื่องจึงกลายเป็นผู้ต้องหาไปโดยปริยาย และแล้วบรรดาเจ้าของจึงจับมือกันเดินเข้าไปมอบตัวกับทางตำรวจเมื่อวานนี้เอง สำหรับคำให้การก็ตรงไปตรงมา คาดได้ไม่ยาก ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 แนวทาง
1. เปิดเพื่อความสนุก ไม่หวังผลประโยชน์ มีกฏชัดเจน สมาชิกเยอะ ดูแลไม่ทั่วถึง 2. มีผู้ไม่หวังดีขโมยไอพีไปกระทำผิด
Matthew Szulik CEO ของเรดแฮท ประกาศว่า Red Hat Enterprise Linux 5 จะออกวันที่ 28 กุมภาพันธ์ปีหน้าแน่นอน โดยตัวที่จะออกวางเป็น gold version ที่มีการเปลี่ยนแปลงหลักคือ ใช้ Linux kernel 2.6.18, เพิ่มคุณสมบัติด้านความปลอดภัย, ทำให้เครื่องเดสก์ท็อปดึงข้อมูล และการตั้งค่ามาจากเครื่องเซิร์ฟเวอร์กลางได้ และที่สำคัญเวอร์ชันนี้มีการใส่ี Xen เข้ามาเพื่อทำ virtualization แล้ว
ที่มา - CNET
ท้ายปีแต่ละสำนักก็มีการจัดอันดับหลายต่อหลายเรื่อง ทาง BBC ก็เลยเอากับเค้าบ้าง แต่เป็นเรื่องที่เคยอยู่ในมุมเล็กๆในหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งบางเรื่องก็น่าสนใจ ในขณะที่บางเรื่องก็ไม่เห็นจะต้องไปสนใจเลย ... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเค้าก็อุตส่าห์รวบรวมมาให้อ่านกันจุใจถึง 100 เรื่องด้วยกัน
ที่เกี่ยวข้องกับชาวไอที และน่าสนใจก็อย่างเช่น
เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต เมื่อผู้ใช้คนหนึ่งของ GMail เข้าเมลแล้วพบว่าเมลทั้งหมดหายไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อเขาได้โพสปัญหานี้ลงใน Google Groups ก็พบว่ามีผู้ใช้อีกหลายคนที่มีปัญหาอย่างเดียวกัน โดยในตอนนี้ทางกูเกิลได้ออกมาตอบว่าวิศวกรของบริษัทกำลังทำงานเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง
ประเด็นหนึ่งที่เราเคยได้ยินกันมาในช่วงที่ GMail ออกมาใหม่ๆ คือประเด็นความเป็นส่วนตัวเนื่องจากกูเกิลมีการใช้ข้อมูลในเนื้อเมลเพื่อแสดงโฆษณา ตอนนี้ไมโครซอฟท์กำลังพยายามเจาะตลาดโฆษณาซึ่งมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งนี้ ด้วยการนำข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งผู้ใช้ Hotmail ได้กรอกไว้เมื่อสมัครสมาชิกเพื่อเลือกโฆษณาให้ตรงเป้าหมาย และการใช้วิธีการนี้มีผลต่อบริการจำนวนมากของไมโครซอฟท์
ตัวอย่างการใช้ข้อมูลเหล่านี้ เช่นเมื่อผู้ใช้ค้นหาผ่านทาง Microsoft Live Search ด้วยคำว่า "รถ" เว็บของไมโครซอฟท์จะตรวจสอบว่าผู้ค้นหาเป็นผู้ใช้ Hotmail หรือไม่ หากใช่ก็จะตรวจสอบถึงเพศ อายุ และข้อมูลอื่นๆ เพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด
หลังจากอุตสาหกรรมบันเทิงพยายามป้องกันการทำสำเนาสื่อของตนอีกครั้งกับมาตรฐาน AACS ที่จะถูกใช้งานในแผ่นระดับ HD ทั้ง HD-DVD และ Bluray ฝั่งแฮกเกอร์ทั้งหลายก็พยายามกันอย่างเต็มแรงที่จะเจาะมาตรฐานนี้ให้ได้เช่นเดียวกับที่เคยทำสำเร็จมาแล้วใน DVD
เมื่อวานนี้ในฟอรั่ม Doom9 ผู้ใช้ที่ชื่อว่า muslix64 ก็ได้ประกาศความสำเร็จในการถอดรหัสข้อมูลในแผ่น HD-DVD ได้เป็นครั้งแรก โดยเขาระบุว่าการเจาะมาตรฐาน AACS ครั้งนี้ทำได้ด้วยการดึงเอาคีย์ที่ใช้ในการถอดรหัสแผ่นมาจากโปรแกรม PowerDVD ที่ระหว่างการทำงานจะมีการเก็บคีย์ถอดรหัสไว้ในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ เปิดโอกาสให้เขาสามารถดึงเอาคีย์ดังกล่าวมาถอดรหัสแผ่น HD-DVD ได้ในที่สุด
ช่วงนี้มีข่าวลือว่า AOL อาจถูกรวมกับ Yahoo! ในช่วงปีหน้า เพราะบริษัทแม่ Time Warner กำลังคิดจะขาย AOL อยู่แล้วด้วย ข่าวลือนี้มันแพร่สะพัดมากเนื่องจากนิตยสาร Fortune เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้
แต่ก็มีข่าวอีกกระแสว่า ทั้ง AOL และ Yahoo! จะถูกอย่างไมโครซอฟต์ซื้อไปด้วย
ที่มา - ArsTechnica via Neowin.Net
มีเร่ืองโน้ตบุ๊กระเบิดมาทั้งปี ตอนนี้วงการกล้องดิจิตอลอาจจะร่วมวงไปด้วย เมื่อแคนนอนออกประกาศเตือนผู้ใช้ว่ากล้อง Canon A530 และ A540 มีปัญหาในสายการผลิตทำให้กล้องมีความร้อนสูงกว่าปรกติ ทำให้ประสิทธิภาพกล้องลดลง ภาพสูญเสียรายละเอียด เรื่องนี้แคนนอนแจ้งว่าผู้ใช้ที่พบปัญหาสามารถติดต่อศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนกล้องตัวใหม่ได้ฟรี
ปัญหานี้เกิดกับกล้องรุ่นดังกล่าวบางตัวที่มีหมายเลขเครื่องที่นำหน้าด้วย 21, 22, 23 และ 24 โดยปัญหาเกิดจากสปริงในส่วนบานพับฝาปิดแบตเตอรี่ที่มีสริงยื่นออกมาถูกส่วนขั้วแบตเตอรี่
เผื่อใครกังวล ตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีกล้องตัวไหนระเบิดแต่อย่างใด
บล็อกเกอร์ชื่อดังหลายคนในสหรัฐรายงานถึงการติดต่อจากไมโครซอฟท์ เพื่อส่งมอบเครื่อง Acer Ferrari พร้อมวินโดวส์วิสต้าเพื่อให้บล็อกเกอร์เหล่านั้นได้เขียนรีวิววิสต้าในบล็อกของตน ที่น่าสนใจคือเครื่องที่ส่งมอบมานั้นไมโครซอฟท์ระบุว่าผู้เขียนรีวิวสามารถเลือกที่จะ "เก็บไว้เอง" หรือส่งกลับไมโครซอฟท์ก็ได้
เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ไมโครซอฟท์ว่าพยายามติดสินบนบล็อกเกอร์ทั้งหลายให้เขียนรีวิววิสต้าออกมาดีๆ แต่ในเรื่องนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ว่าไมโครซอฟท์พยายามกดดันบล็อกเกอร์เหล่านั้นให้เขียนรีวิววิสต้ออกมาในแง่บวก แต่ขณะเดียวกันอีกหลายคนก็แย้งว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรจากการที่ค่ายเพลงส่งมอบซีดีให้กับสถานีวิทยุ
มาตรฐาน RSS กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันคนจำนวนมากอาจจะใช้งานมันโดยไม่รู้ตัวมาก่อน ในช่วงหลังไมโครซอฟท์เองก็ยอมรับถึงกระแสนี้ด้วยการเพิ่มความสามารถในการอ่าน RSS เข้าไปใน IE7 และตกลงใช้ไอคอนร่วมกันกัไฟร์ฟอกซ์ แต่ตอนนี้เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับมาตรฐานนี้ เมื่อไมโครซอฟท์พยายามจดสิทธิบัตร API ในการสร้างข้อมูล RSS
ไมโครซอฟท์ระบุว่าการสร้างสรรของไมโครซอฟท์นั้นเป็นไปเพื่อให้นักพัฒนาและผู้ใช้เข้าถึง RSS ได้ง่ายขึ้น ไม่ได้เป็นความพยายามในการจดสิทธิบัตรในตัว RSS เองแต่อย่างใด แต่การจดสิทธิบัตรที่ครอบคลุมอย่างนี้้ก็อาจจะสร้างปัญหาในอนาคต เช่นใครจะรู้ว่าจะ Drupal อาจจะมี API ในการสร้าง RSS ไปละม้ายคล้ายกับ API ที่ไมโครซอฟท์จดสิทธิบัตรไปแล้ว
อ่านผลรางวัลของปีที่แล้ว Blognone Best of 2005 ประกอบได้ เผื่อใครจะสังเกตเทรนด์อะไรออก
ฮาร์ดแวร์ยอดเยี่ยม
Bangkok Post Database ฉบับส่งท้ายปี มีสกู๊ปเรื่อง Tech's Winners and Losers for 2006 เขียนโดย Wanda Sloan คอลัมนิสต์เจ้าประจำ คัดมาให้ดูเฉพาะรายชื่อนะครับ
กลุ่มผู้ชนะ:
ที่ผมชอบเป็นพิเศษคือเวียดนาม
ทุกคนคงคุ้นเคยกับไอคอนแม่กุญแจ และ URL Bar สีเหลืองเวลาเราเข้าเว็บที่ใช้โปรโตคอล HTTPS กันดี
แต่ด้วยปัญหา phishing ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในปัจจุบัน แค่แม่กุญแจบอกว่าเว็บนั้นมีใบรับรองดิจิทัลคงไม่พอที่จะชี้ชัดได้ว่าเป็นเว็บจริงหรือเปล่า (เช่น ได้ใบรับรองมาจริง แต่อาจไม่ใช่ Citibank จริงๆ ก็ได้) ทาง CA/Browser Forum จึงต้องการยกระดับความปลอดภัยขึ้นมาอีกชั้น โดยเรียกมันว่า Extended Validation SSL
จากอีกสำนักครับ GameSpot นี่ของเครือ CNET จะเห็นว่ารางวัลเกมยอดเยี่ยมของแต่ละแพลทฟอร์ม ตรงกับของ IGN เป๊ะเลย นอกจากนี้ยังมีรางวัลแปลกๆ ตลกๆ หลายอัน คัดมาให้ดูบางส่วนเท่านั้น
ช่วงปลายปีแต่ละสำนักก็ประกาศผลอันดับของตัวเอง อันนี้เอาเฉพาะของ IGN นะครับ เนื่องจากว่ามีเยอะมาก เลยคัดมาเฉพาะรางวัลใหญ่ๆ ที่เหลือก็เข้าไปดูรายละเอียดกันเอง
ที่มา - IGN: Best of 2006, PC: Games of 2006
ทิศทางของเทคโนโลยีไมโครชิปยุคต่อไปนั้นค่อนข้างแน่ว่าเทคโนโลยีด้านออปติคอลจะเข้ามามีผลมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ทุกวันนี้เราจะสามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อการส่งข้อมูลความเร็วสูงกันได้แล้ว แต่เรายังมีข้อจำกัดที่ต้องแปลงสัญญาณโฟตอนเหล่านั้นมาเป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อจัดเก็บและประมวลผลในชิปแบบดั้งเดิม
แต่ตอนนี้อนาคตอาจจะเข้าใกล้เรามากขึ้น เมื่อนักวิจัยที่ไอบีเอ็มสามารถสร้างชิปเพื่อ "หน่วง" สัญญาณโฟตอนไว้ในไมโครชิปได้เป็นเวลา 0.5 นาโนวินาที โดยก่อนหน้านี้การหน่วงสัญญาณต้องใช้สายไฟเบอร์ออปติกที่มีขนาดใหญ่และราคาแพง การสร้างไมโครชิปเพื่อทำหน้าที่นี้ทำให้เราสามารถกักเก็บสัญญาณโฟตอนไว้ได้ในอุปกรณ์ราคาถูก
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกลายๆ ว่าช่วงส่งท้ายปี บรรดาสื่อต่างๆ จะมาจัดอันดับข่าวใหญ่ในรอบปีกัน ในฐานะที่ Blognone เป็นสื่อ (กลายๆ) ก็เลยอยากจัดบ้างสนุกๆ มาดูกันว่าปี 2006 ที่ผ่านมา เราเจอกับเหตุการณ์สำคัญอะไรกันบ้าง
หมายเหตุ: รายการนี้คัดเลือกโดย mk และ lew สองคน เรียงลำดับตามเวลา ไม่ใช่ความสำคัญของข่าวครับ
1. การประกาศวางมือของบิล เกตส์ ข่าว: บิล เกตส์ประกาศวางมือในเดือน ก.ค. 2551 เดือน: มิถุนายน เขียนโดย: Conductor
มหาวิทยาลัย California State University (CSU) กำลังพิจารณาว่าจะเพิ่มการสอบพื้นฐานทางเทคโนโลยีให้กับนักเรียนปี 1 ทุกคน นอกเหนือไปจากการสอบภาษาอังกฤษและพื้นฐานคณิตศาสตร์ ที่สอบกันมานานแล้ว
ถึงแม้นักเรียนรุ่นใหม่จะมีพื้นฐานทางคอมพิวเตอร์อยู่บ้างก็ตาม แต่มันยังไม่พอเพียงสำหรับการเรียนยุคใหม่ จากการทดลองข้อสอบโดย Educational Testing Service (ETS - หน่วยงานที่จัดสอบโทเฟล) พบว่านักเรียนส่วนมากรู้จักวิธีการค้นหาข้อมูลผ่านเสิร์ชเอนจิน แต่กลับไม่รู้วิธีเลือกผลการค้นหาที่เหมาะสมกับความต้องการ และมักคิดว่าผลการค้นหาอันแรกสุด ดีที่สุดเสมอ
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (Department of Defense - DoD) ได้ยกระดับภัยคุกคามทางระบบเครือข่ายที่เรียกว่า Information Condition หรือ Infocon จากระดับ 5 (ปกติ) มาเป็นระดับ 4 (เริ่มถูกคุกคาม)
Infocon ระดับ 4 หมายถึงพนักงานต้องเพิ่มระดับการป้องกันตัวจากการโจมตีต่างๆ โดยหนึ่งในมาตรการที่นำมาใช้คือการประกาศห้ามใช้อีเมลที่เป็น HTML เนื่องจากมีอันตรายต่อ malware มากกว่า ซึ่งอีเมลที่เป็น HTML จะถูกแปลงมาเป็น text อัตโนมัติ
อีกมาตรการหนึ่งที่นำมาใช้คือห้ามใช้เว็บเมล (ในที่นี้คือ Outlook Web Access) เพราะไม่สามารถจำกัดคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้ โดยเจ้าหน้าที่ในกระทรวงต้องหันมาใช้ Outlook ผ่านทางคอมพิวเตอร์ประจำตำแหน่ง ที่ต้องล็อกอินด้วยคีย์การ์ดอีกชั้นหนึ่ง