ไมโครซอฟท์ประกาศข่าวว่าเขียน Windows MIDI Services ของ Windows ใหม่ทั้งหมด พร้อมเปิดโค้ดเป็นโอเพนซอร์ส

ฟอร์แมตไฟล์ MIDI นิยมใช้กันแพร่หลายในวงการดนตรี ตัวมันเองไม่ใช่ไฟล์เสียง (audio) แต่เป็นชุดคำสั่งบอกว่าให้เครื่องดนตรีชิ้นไหนเล่นอย่างไร มาตรฐาน MIDI เวอร์ชัน 1.0 ออกครั้งแรกในปี 1983 แล้วข้ามมาออกอัพเดตใหญ่ MIDI 2.0 ในปี 2020 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาอีกจำนวนมาก ทั้งการควบคุมความเร็ว การสื่อสารระหว่างอุปกรณ์แต่ละชิ้น และการเชื่อมต่อกับ USB

พบกันทุกเดือนพฤษภาคมของทุกปี ไมโครซอฟท์ประกาศวันจัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี Build 2025 เป็นวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2025 ที่ซีแอทเทิล

ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า Build 2025 จะพูดเรื่องอะไรบ้าง ยังไม่มีประกาศหัวข้อออกมา แต่ทุกคนก็น่าจะเดากันได้ว่าหัวข้อหลักคงหนีไม่พ้น Copilot ทุกสิ่งอย่าง และอัพเดตเรื่องแผนการ AI ต่างๆ ของไมโครซอฟท์อีกนั่นเอง

ไมโครซอฟท์ยังทยอยปล่อยของบน PS5 อย่างต่อเนื่อง (อวสานแฟนบอย) ถัดจาก Forza Horizon 5 ก็ตามมาด้วยเกมวางแผนตระกูล Age อีกสองเกมคือ

ไมโครซอฟท์อัพเดต Microsoft Paint ให้มีปุ่ม Copilot เพิ่มเข้ามาในแถบเครื่องมือ รวมฟีเจอร์ AI ทุกอย่างไว้ในปุ่มเดียว สามารถกดเพื่อให้ Copilot ช่วยงานได้ 4 อย่างคือ

Shawn Layden อดีตบอสของ PlayStation Studios ที่ออกมาแสดงความเห็นต่ออุตสาหกรรมเกมบ่อยครั้ง (เรามอบแท็กของเขาให้แล้ว) ล่าสุดไปออกช่อง Kiwi Talkz พูดถึงยุทธศาสตร์ใหม่ของไมโครซอฟท์ที่นำเกมของตัวเองมาวางขายบนแพลตฟอร์มคู่แข่ง (กรณีล่าสุดคือ Forza Horizon 5 บน PS5)

Layden บอกว่ายุทธศาสตร์ขายเกมข้ามแพลตฟอร์มเป็นสิ่งจำเป็น ในโลกยุคที่ต้นทุนค่าพัฒนาเกมแพงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบต่อแบรนด์ Xbox เพราะไม่สามารถสร้างอารมณ์ fear of missing out (FOMO) ให้คนมาซื้อฮาร์ดแวร์ Xbox เพราะต้องการเล่นเกมเอ็กซ์คลูซีฟของ Xbox ได้อีกต่อไป

ไมโครซอฟท์ประกาศขยายโครงการ Rewards with Xbox จากเดิมที่เพียงการเล่นเกมบนเครื่องคอนโซล Xbox เท่านั้นจึงจะได้รับแต้มที่สามารถนำไปแลกเป็นเกม Xbox, บัตรของขวัญ Xbox, สมาชิก Xbox Game Pass, นำไปแลกของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย หรือไปบริจาคองค์กรการกุศลต่างๆ ก็ได้ที่ Microsoft Rewards

ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมที่เป็นต้นมา โครงการดังกล่าวจะครอบคลุมการเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์ผ่าน PC Game Pass ด้วย ผู้เล่นที่สมัครสมาชิก PC Game Pass จะได้รับเควสต์ให้ทำภารกิจตามที่กำหนดเพื่อสะสมแต้ม โดยเควสต์จะแสดงให้เห็นในแอพ Xbox ทั้งบนพีซีระบบปฏิบัติการ Windows, มือถือ และเครื่องคอนโซล Xbox

ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 26120.3073 (Dev/Beta) มีของใหม่ที่น่าสนใจคือ Windows Search ที่เพิ่งยกระดับการค้นหารูปในเครื่องด้วยพลัง NPU อัพเกรดความสามารถเพิ่มอีกเด้ง ให้สามารถค้นรูปในคลาวด์ แล้วนำมาแสดงบน File Explorer ได้ด้วย

ตัวอย่างการใช้งานคือ ล็อกอิน OneDrive แล้วสั่งค้นหารูปภาพโดยใช้คำว่า "mountain bike" ในช่องค้นหาของ File Explorer เราจะได้ผลลัพธ์เป็นรูปภาพจักรยาน ทั้งจากรูปในเครื่อง และรูปในคลาวด์ OneDrive แสดงมาให้รวมกันเลย

ฟีเจอร์นี้ยังรองรับเฉพาะ OneDrive personal แต่ไมโครซอฟท์ระบุชัดเจนว่าจะเปิดให้คลาวด์ยี่ห้ออื่น (เช่น Google Drive หรือ iCloud) เข้ามาใช้งานได้ด้วยในอนาคต

เมื่อปี 2021 ไมโครซอฟท์ปรับวิธีเรนเดอร์ฟอนต์ของ Microsoft Edge บนวินโดวส์ให้คมชัดมากขึ้น และประกาศว่าจะส่งแพตช์เข้าโครงการ Chromium

เวลาผ่านมาเกือบ 4 ปี แพตช์ตัวนี้ถูกผนวกเข้ากับโครงการ Chromium เรียบร้อยแล้ว และ Chrome 132 ที่ออกรุ่นเสถียรเมื่อกลางเดือนมกราคม ถือเป็น Chrome รุ่นแรกที่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้ แพตช์ตัวนี้ยังจะมีผลกับเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ ที่ใช้ Chromium ด้วย (เช่น Opera, Vivaldi, Brave)

ไมโครซอฟท์เปิดให้ผู้ใช้ Copilot ทุกคน เข้าถึงโมเดล OpenAI o1 ที่มีจุดเด่นเรื่องการคิดอย่างมีเหตุผล (reasoning model) และมีความสามารถตอบคำถามด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เขียนโปรแกรม ดีขึ้นกว่าโมเดลรุ่นก่อนๆ มาก แลกกับการที่ต้องใช้เวลาประมวลผลนานขึ้นเป็นราวๆ 30 วินาที

ไมโครซอฟท์เรียกฟีเจอร์นี้ว่า Think Deeper เปิดให้ผู้ใช้ทุกคนใช้งานฟรี หากเข้าไปในเว็บหรือแอพ Copilot จะเห็นปุ่ม Think Deeper โผล่ขึ้นมาแล้ว เมื่อกดแล้ว Copilot จะใช้เวลานานขึ้นในการคิด และตอบคำถามให้ยาวและละเอียดมากขึ้น

มาตามนัด ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Pro 11 for Business และ Surface Laptop 7 for Business เวอร์ชันซีพียู Intel Core Ultra 200V (Lunar Lake) เพิ่มเติมจาก เวอร์ชันซีพียู Snapdragon ที่เปิดตัวช่วงกลางปี 2024

นอกจากซีพียูต่างกันแล้ว หน้าตาและสเปกอย่างอื่นเหมือนกันแทบทุกประการ (ถือเป็น Copilot+ PC เหมือนกันด้วย) สิ่งสำคัญอีกอย่างคือราคา เพราะ Surface Pro 11 และ Surface Laptop 7 รุ่นซีพียู Intel ราคาแพงขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่น Snapdragon

ไมโครซอฟท์ประกาศออก Forza Horizon 5 บน PS5 ตรงตามข่าวลือเมื่อปีที่แล้ว เป็นไปตามยุทธศาสตร์ใหม่ของไมโครซอฟท์ในฐานะบริษัทซอฟต์แวร์เกมอันดับหนึ่งของโลก

Forza Horizon 5 เวอร์ชัน PS5 พอร์ตโดยสตูดิโอ Panic Button ในรัฐเท็กซัส ที่เคยมีผลงานพอร์ต Forza Horizon 4 เวอร์ชัน Xbox One มายัง Xbox Series X/S เมื่อปี 2020

Microsoft เปิดตัว Surface Laptop รุ่นที่ 7 แล็ปท็อป Surface PC Copilot+ รุ่นแรกที่ผลิตขึ้นมาสำหรับการใช้งานธุรกิจโดยเฉพาะ ซึ่งมาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra (Series 2) รุ่นใหม่ล่าสุด

เมื่อเทียบกับรุ่นที่ 5 แล้ว Suface Laptop รุ่นที่ 7 มีประสิทธิภาพการทำงานแบบมัลติทาสก์ที่เร็วขึ้น 26%, กราฟิกที่เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า, อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 3 เท่า เมื่อใช้งาน Teams, และขับเคลื่อนด้วย AI ที่เข้าถึง NPU ได้ดีขึ้น

Surface Laptop รุ่นที่ 7 มาพร้อมกับหน้าจอ 2 ขนาด (13.5 นิ้ว และ 15 นิ้ว) โดยรายละเอียดของแต่ละรุ่นเป็นดังนี้:

Surface Laptop รุ่นที่ 7 หน้าจอ 13.8 นิ้ว

Microsoft Edge เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ scareware blocker บล็อคเว็บไซต์ที่ปลอมเป็นหน้าจอระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้องหรือติดมัลแวร์ และหลอกล่อให้เราติดต่อซัพพอร์ตเพื่อเริ่มกระบวนการหลอก (scam)

พฤติกรรมของเว็บไซต์กลุ่ม scareware มักแสดงหน้าเว็บในโหมดเต็มจอ เพื่อให้เนียนเหมือนเป็นคำเตือนจากระบบปฏิบัติการจริงๆ และอาจดักการกดปุ่ม Esc เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้กดออกจากโหมดเต็มจอ แถมเว็บไซต์เหล่านี้มักมีอายุเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ทำให้การบล็อคจากลิสต์รายชื่อเว็บอันตรายทำได้ยาก

Frank X. Shaw หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรของไมโครซอฟท์ ออกมาตอบโต้ Marc Benioff ซีอีโอ Salesforce ที่มาวิจารณ์ Copilot ว่าไม่มีใครสนใช้งาน

Shaw ตั้งประเด็นว่าเขาสงสัยมากว่าทำไม Benioff ถึงหมกมุ่นกับ Copilot มากขนาดนี้ และพบคำตอบในหนังสือของ Benioff ที่ออกขายเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเขาเล่าตอนที่ Salesforce ทำศึกกับ Siebel และเผยเคล็ดลับส่วนตัวว่าให้วางตัวเองเป็นผู้นำ หรือคู่ต่อสู้ของผู้นำในวงการนั้นๆ เพื่อให้สื่อฉายภาพว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างบุคคลกับบุคคล ซึ่ง Salesfoce ที่ในตอนนั้นเป็นเบอร์รอง จะได้รับความสนใจมากกว่าผู้นำตลาด

ในงานแถลงผลประกอบการไตรมาส 4/2024 ของไมโครซอฟท์ มีตัวเลขของธุรกิจฝั่งเกมที่น่าสนใจดังนี้

ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มโมเดลปัญญาประดิษฐ์ R1 ของ DeepSeek ให้เลือกใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม Azure AI Foundry และบน GitHub ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งปัจจุบันแพลตฟอร์มมีโมเดลปัญญาประดิษฐ์ให้เลือกใช้งานมากกว่า 1,800 โมเดล

Asha Sharma รองประธานฝ่ายแพลตฟอร์ม AI ของไมโครซอฟท์บอกว่า จุดเด่นสำคัญของ R1 คือความเร็ว นักพัฒนาสามารถนำโมเดลนี้มาใช้กับเวิร์กโฟลว์ที่ต้องการ แล้วทดสอบเทียบกับโมเดลอื่นที่ใช้งานอยู่ได้ ส่วนความเสี่ยงด้านอื่นนั้น ไมโครซอฟท์ได้ประเมินการทำงานที่ครอบคลุม เพื่อลดความเสี่ยงแล้ว

ไมโครซอฟท์ยังมีแผนนำ DeepSeek R1 ให้เลือกรันโลคอลบนคอมพิวเตอร์ที่เป็น Copilot+ PC ได้เร็ว ๆ นี้

ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการของไตรมาสเดือนธันวาคมปี 2024 (ไตรมาส 2 ของปีการเงิน 2025) มีรายได้รวมตามบัญชี GAAP ที่ 69,632 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิ 24,108 ล้านดอลลาร์

Intelligent Cloud เป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตสูงของไมโครซอฟท์ รายได้รวม 25,544 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19% เฉพาะ Azure เพิ่มขึ้น 31%

กลุ่ม Productivity and Business Processes มีรายได้ 29,437 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% Microsoft 365 Commercial โต 15% ส่วน Microsoft 365 Consumer โต 8% และกลุ่มธุรกิจ More Personal Computing รายได้ 14,651 ล้านดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อน โดย Windows OEM และฮาร์ดแวร์ โต 4%, Xbox โต 2%

Windows 11 Insiders รองรับการแสดงข้อมูลจาก iPhone บน Start Menu โดยตรง หลังจากรองรับฝั่ง Android ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2024

เมื่อเชื่อมต่อ iPhone กับ Windows 11 แล้ว ข้อมูลบน Start Menu จะแสดงแบตเตอรี่, ความแรงสัญญาณ, ฟีเจอร์โทรศัพท์และข้อความ SMS รวมถึงรองรับการส่งไฟล์ไปยัง iPhone ด้วย

ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องใช้ Windows 11 Insider Preview Build 4805 ขึ้นไป, แอพ Phone Link เวอร์ชันล่าสุด และเปิดใช้งาน Bluetooth LE

บริษัทข้อมูลการตลาด Ampere Analysis เผยสถิติรายได้ของบริษัทเกมในเดือนธันวาคม 2024 ดังนี้

อันดับหนึ่ง ไมโครซอฟท์นำแบบทิ้งห่าง กวาดรายได้รวม 465 ล้านดอลลาร์ โดยอาศัยพลังของ Call of Duty: Black Ops 6 ที่มีฐานผู้เล่นราว 38 ล้านคนต่อเดือน แถมฐานลูกค้าของไมโครซอฟท์ตอนนี้ 64% มาจากแพลตฟอร์มคู่แข่ง PlayStation ด้วย

ด้วยโครงสร้างรายได้ของไมโครซอฟท์ที่เปลี่ยนไปหลังซื้อ Activision Blizzard การที่เราเห็นไมโครซอฟท์ผันตัวมาดันฝั่งซอฟต์แวร์สุดตัว นำเกมของตัวเองไปลงแพลตฟอร์มต่างๆ (เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่ค้า) และสนใจฮาร์ดแวร์ของตัวเองน้อยลง จึงอาจที่มาจากโครงสร้างรายได้แบบใหม่นี้

Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเปิดเผยว่า Microsoft และ OpenAI กำลังสอบสวนว่าข้อมูลที่สร้างจากเทคโนโลยีของ OpenAI ถูกนำไปใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง โดยกลุ่มพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของจีนซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับ DeepSeek

เรื่องเริ่มจากทีมงานวิจัยด้านความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ได้ตรวจสอบ พบว่ามีการดึงข้อมูลจำนวนมากออกไปผ่าน API ของ OpenAI อย่างไม่ถูกต้อง ทางไมโครซอฟท์จึงแจ้งปัญหานี้ไปที่ OpenAI ให้ตรวจสอบเพิ่มเติมในกิจกรรมที่น่าสงสัยนี้ต่อไป

Microsoft, OpenAI และ DeepSeek ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นต่อรายงานนี้

ที่มา: Bloomberg

Sam Altman ซีอีโอ OpenAI โพสต์ภาพเซลฟี่ร่วมกับ Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ พร้อมแคปชันว่าก้าวต่อไปของความร่วมมือระหว่าง Microsoft x OpenAI จะดีมากยิ่งกว่าที่ใครคิด

Nadella โพสต์ตอบว่าให้รอดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เลย และยังตอบความเห็นเพิ่มว่าเขาก็อยากออกรายการพอดคาสต์สักตอนร่วมกับ Altman ด้วย

Satya Nadella ซีอีโอ Microsoft ออกมาแสดงความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับ DeepSeek โดยอ้างอิงทฤษฎีพาราด็อกซ์ของเจวอนส์ (Jevons Paradox) ว่า เมื่อ AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การใช้งาน AI ก็จะพุ่งสูงขึ้นตาม และกลายเป็นสิ่งสำคัญเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตมาก เหมือนปัจจัยที่ 5

Nadella เชื่อว่า AI ที่มีประสิทธิภาพอย่าง R1 ของ DeepSeek จะขับเคลื่อนความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น และพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวหน้า แต่ก็อาจทำให้ต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้น ซึ่งอาจไม่ยั่งยืนในเชิงเศรษฐกิจ

ขณะนี้เพิ่งหมดสัปดาห์แรกของการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของ Donald Trump และหนึ่งในเรื่องที่เขาสั่งการทันทีคือปลดแบน TikTok พร้อมเลื่อนการแบนออกไปอีก 75 วัน โดยต้องขายกิจการในสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็มีหลายชื่อที่เป็นข่าว เช่น Oracle, Perplexity AI หรือแม้แต่ Elon Musk

ล่าสุด Trump เปิดเผยว่า Microsoft ก็กำลังเจรจาเรื่องนี้อยู่เช่นกัน โดยหลายคนอาจยังไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ Microsoft เจรจาซื้อกิจการ TikTok โดยเมื่อปี 2020 Microsoft ก็เคยเจรจาแต่ดีลล่มอย่างรวดเร็ว หลัง Trump (ในสมัยแรก) สั่งให้แยก TikTok ออกมาจาก ByteDance ซึ่ง Satya Nadella ซีอีโอ Microsoft ระบุในตอนนั้นว่า "นี่เป็นดีลที่แปลกที่สุดที่ผมเคยเจอ"

ไมโครซอฟท์ออกโครงการ DocumentDB (ไม่เกี่ยวกับ Amazon DocumentDB ที่เป็นบริการ MongoDB บน AWS เหมือนกัน) โดยร่วมมือกับ FerretDB โครงการแปลง PostgreSQL มาใช้แทน MongoDB ทำให้ FerretDB มีฟีเจอร์ทัดเทียมกับ MongoDB เวอร์ชั่นใหม่ๆ

แม้จะเป็นความร่วมมือกัน แต่ DocumentDB ของไมโครซอฟท์ก็เป็นโครงการแยกอิสระ เป็นส่วนขยายสำหรับ PostgreSQL ที่ทำให้ PostgreSQL รองรับข้อมูลแบบ BSON (binary JSON) โดยมีฟีเจอร์สำคัญๆ ครบถ้วน เช่น รองรับการทำ index ทั้งแบบ single field และ multi-key, รองรับข้อมูลพิกัด PostGIS, ทำงานร่วมกับ pg_vector เพื่อใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น RAG

เว็บไซต์ Windows Central รายงานข่าวลือของ Microsoft Surface รุ่นใหม่ ที่มีหน้าจอเล็กลงเหลือ 11-12 นิ้ว แต่ใช้สเปกและให้ฟีเจอร์พรีเมียมกว่า Surface Go โดยออกแบบมาเพื่อสู้กับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้วตรงๆ

ตามข่าวบอกว่า Surface รุ่นจอเล็กจะเปิดตัวช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม โดยจะมีทั้งรุ่นแท็บเล็ตแบบ Surface Pro และรุ่นโน้ตบุ๊กแบบเดียวกับ Surface Laptop ตัวชิปจะใช้ Snapdragon X หรือ X Plus เพื่อให้ถูกลงในระดับ 800-900 ดอลลาร์