Walmart เชนค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐ ประกาศซื้อกิจการ Vizio บริษัทผลิตทีวีของอเมริกา ที่มูลค่าดีล 2,300 ล้านดอลลาร์ โดยจ่ายเป็นเงินสด
Walmart อธิบายเหตุผลหลักของดีลนี้ ว่าเพื่อผลักดันธุรกิจสื่อ Walmart Connect ที่มีรายได้หลักผ่านการโฆษณาสินค้าในช่องทางต่าง ๆ ซึ่งบริษัทวางแผนเชื่อมต่อแพลตฟอร์มนี้กับระบบปฏิบัติการ SmartCast ของทีวี Vizio ซึ่งใช้ในการรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ
ธุรกิจโฆษณาเป็นธุรกิจที่เติบโตสำหรับร้านค้าปลีกอย่าง Walmart และมีอัตรากำไรที่สูง (แนวโน้มนี้เกิดขึ้นกับ Amazon เช่นกัน) ทั้งนี้ระบบปฏิบัติการ SmartCast ของ Vizio มีผู้ใช้งานลงทะเบียนแล้ว 18 ล้านบัญชี มีอัตราการเติบโตนับจากปี 2018 ถึง 400% จึงเป็นโอกาสเติบโตอีกมากนั่นเอง
Meta ประกาศปรับปรุงรายละเอียดของการซื้อบูสต์โพสต์ หรือโฆษณาใน Facebook และ Instagram ผ่านแอปบน iOS โดยจะมีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีก 30% ของราคาที่กำหนดไว้ มีผลตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป
ค่าธรรมเนียมที่ Meta คิดเพิ่มนี้เป็นผลจากกฎใหม่ที่แอปเปิลประกาศสำหรับ App Store ในปี 2022 ซึ่งกำลังจะมีผล ที่ระบุว่าการซื้อบูสต์โพสต์ จะต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบ In-App Purchase ของแอปเปิล และแอปเปิลจะหักค่าธรรมเนียม 30% ทุกรายการ จึงทำให้ Meta ประกาศเก็บคิดค่าธรรมเนียมส่วนนี้กับลูกค้าเพิ่มเติมนั่นเอง
การแข่งขัน Super Bowl ครั้งที่ 58 อเมริกันฟุตบอลของ NFL นัดชิงชนะเลิศ ได้แข่งขันจบลงแล้วโดยปีนี้ Kansas City Chiefs เป็นทีมที่คว้าชัยชนะไป
การแสดงช่วงพักครึ่งเวลาหรือ Halftime Show ที่มี Apple Music เป็นผู้สนับสนุนหลักนั้น ศิลปินที่แสดงคือ Usher และมาพร้อมศิลปินรับเชิญอย่าง Alicia Keys, H.E.R., will.i.am, Lil Jon และ Ludacris
อีกไฮไลท์ทุกปีของ Super Bowl คือหนังโฆษณาที่ฉายระหว่างการแข่งขัน ซึ่งปีนี้บริษัทเทคโนโลยีก็ต่างทุ่มงบซื้อโฆษณาโปรโมตสินค้าผลิตภัณฑ์กันมากมายเช่นเคย ซึ่ง AI ก็เป็นหัวข้อหลักที่หลายบริษัทนำมาเป็นจุดขาย รวบรวมมาไว้แล้ว
Apple ออกหนังโฆษณาประจำปีต้อนรับเทศกาลตรุษจีน โดยยังอยู่ภายใต้แคมเปญ Shot on iPhone ที่นำเสนอภาพยนตร์สั้นถ่ายทำด้วย iPhone ทั้งเรื่อง
หนังสั้นปีนี้ชื่อว่า "Little Garlic" กำกับโดย Marc Webb (The Amazing Spider-Man, The Amazing Spider-Man 2) เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงที่ไม่มั่นใจในตนเอง และได้พลังพิเศษเปลี่ยนลุคเป็นคนอื่นได้ ซึ่งเรื่องราวในตอนจบก็เดาได้ไม่ยากว่าต้องการสื่อสารให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเอง โดยมีคุณปู่ที่อยู่เคียงข้างเปรียบเทียบเรื่องนี้กับการปั้นซาลาเปา
การถ่ายทำทั้งหมดใช้ iPhone 15 Pro Max และแอปเปิลก็ลงคลิปเบื้องหลังการถ่ายทำด้วย สามารถรับชมได้ท้ายข่าว
ที่มา: Muse
กูเกิลประกาศนำโมเดลภาษา Gemini เข้ามาใช้งานใน Google Ads เพื่อช่วยเขียนข้อความโฆษณาได้สะดวกสบายกว่าเดิม ฟีเจอร์นี้เปิดตัวมาตั้งแต่ Google I/O 2023 แต่เพิ่งเริ่มปล่อยให้ใช้งานจริง
บริการนี้จะเพิ่มหน้าต่างแชทลักษณะเดียวกับ Bard หรือใน Google Workspace เข้ามาด้านข้าง เราสามารถใส่ลิงก์เว็บของเราเอง แล้วสั่งให้ Gemini เข้าไปอ่านข้อมูลบนหน้าเว็บ เพื่อร่างข้อความโฆษณามาให้เราตรวจก่อนได้ (ตอนนี้ยังรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ) ผลจากการทดลองกับผู้ใช้บางกลุ่มพบว่าโฆษณามีคุณภาพ (ตามมาตรฐาน Ad Strength ของกูเกิลเอง) ดีขึ้นมาก
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Wacom ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับงานวาด ได้ออกแคมเปญเพื่อโปรโมตปากกา Intuos ต้อนรับปีมังกร แต่กลายเป็นประเด็นเนื่องจากภาพมังกรที่ใช้ในการโฆษณานั้น ถูกตั้งข้อสงสัยว่าสร้างด้วย Generative AI เพราะมีรายละเอียดหลายอย่างที่ผิดปกติ แถมดูย้อนแย้งสักหน่อย กับการโฆษณาสินค้าสำหรับครีเอเตอร์
Wacom เลือกลบรูปภาพดังกล่าว และไม่ได้ออกมาชี้แจงอะไรในตอนแรก แล้วมีกรณีคล้ายกันของ Magic the Gathering ที่บริษัทออกมาชี้แจง ทำให้กลุ่มนักวาดกดดันให้ Wacom ชี้แจงมากขึ้น
ทีมนักวิจัยจากวิทยาลัยสาธารณสุขแห่งฮาร์วาร์ด หรือ Harvard T.H. Chan School of Public Health ได้เผยแพร่งานวิจัยในวารสาร PLOS One เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (27 ธันวาคม 2023) พบว่าโซเชียลมีเดียทำรายได้โฆษณาจากผู้ใช้เยาวชนในประเทศสหรัฐอเมริกาไปกว่า 1.1 หมื่นล้านเหรียญ
ที่มาของจำนวนรายได้ดังกล่าวมาจาก ทีมวิจัยประเมินจำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ประกอบไปด้วยผู้ใช้ Facebook, Instagram, Snapchat, TikTok, Youtube และ X
จากที่เคยประกาศอย่างเป็นทางการไปก่อนหน้านี้ว่า Amazon เตรียมจะแทรกโฆษณาในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของตัวเอง อย่าง Prime Video ตามรอยคู่แข่งเจ้าอื่นๆ อย่าง Netflix, Disney Plus, Paramount Plus ฯลฯ แต่ยังไม่ได้บอกวันที่ที่แน่ชัด
ณ วันนี้ (27 ธันวาคม 2023) Amazon ประกาศผ่านอีเมลที่ส่งไปให้ผู้ใช้บริการ ว่านโยบายดังกล่าวจะมีผลในวันที่ 29 มกราคมนี้ โดยผู้ใช้ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่ม 2.99 เหรียญ (ประมาณ 103 บาท) ต่อเดือน เพื่อยังคงใช้บริการโดยที่ไม่มีโฆษณามารบกวนเหมือนเดิม รวมเป็น 18 เหรียญ (ประมาณ 620 บาท) และ 12 เหรียญ (ประมาณ 413 บาท) ต่อเดือน สำหรับ Amazon Prime และ Prime Video ตามลำดับ
แอปเปิลเผยแพร่หนังโฆษณาตัวใหม่ความยาว 15 วินาที ที่ต้องการชูจุดขายของ iPhone เกี่ยวกับแบตเตอรี่ว่าใช้งานได้นานมากขึ้น
โฆษณาตัวนี้ชื่อว่า "Miss You" เป็นภาพของเต้าเสียบปลั๊กไฟร้องเพลง Way Too Long ของ Doe Boy เมื่อมองไปที่ iPhone 15 Plus ซึ่งใช้งานได้ยาวนาน จนไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จบ่อย ๆ นั่นเอง
iPhone รุ่น Plus ถูกวางจุดขายเรื่องแบตเตอรี่ใช้งานได้นานมาตั้งแต่ iPhone 14 Plus แล้ว ข้อมูลสเป็กของแอปเปิลระบุว่า iPhone 15 Plus เล่นวิดีโอต่อเนื่องได้นาน 26 ชั่วโมง (20 ชั่วโมงถ้าผ่านสตรีม)
ชมหนังโฆษณานี้ได้ท้ายข่าว
The Information รายงานว่า Alphabet บริษัทของแม่กูเกิล ได้จัดการประชุมในฝ่ายขายโฆษณา ซึ่งตอนนี้มีพนักงานประมาณ 30,000 คน โดย Sean Downey หัวหน้าฝ่ายในอเมริกาบอกว่าจะมีการปรับโครงสร้างทีมฝ่ายขายใหม่ แต่ไม่ได้ระบุว่าจะมีการปลดพนักงานด้วยหรือไม่
แนวทางเบื้องต้นคือการรวมพนักงานในฝ่ายต่าง ๆ และย้ายพนักงานจำนวนหนึ่งไปดูแลส่วนลูกค้ารายใหญ่ที่งบโฆษณาสูงเพิ่มเติม ในรายงานบอกว่ากูเกิลจะผลักดันการใช้ Machine Learning ในการขายโฆษณามากขึ้น ซึ่งช่วยให้ลูกค้าซื้อโฆษณามากขึ้นในทุกแพลตฟอร์มของกูเกิล
YouTube ประกาศปรับวิธีการแสดงโฆษณาบนจอทีวี โดยจับกลุ่มโฆษณามาแสดงต่อๆ กันให้ยาวขึ้น แต่มาแทรกกลางคลิปน้อยลง (fewer, longer ad breaks คือเห็นโฆษณารวมนานเท่าเดิม แค่เปลี่ยนวิธีแสดง) ผลจากการทดสอบพบว่าผู้ชมมีอัตราการรับชมคลิปที่ยาวนานขึ้น เพราะไม่โดนโฆษณาแทรกกลางทางบ่อย
YouTube บอกว่าคอนเทนต์แต่ละแบบมีรูปแบบโฆษณาที่เหมาะสมต่างกัน กรณีของการชมบนจอทีวี มักเป็นรายการที่ยาวกว่าชมบนอุปกรณ์พกพา ทำให้ต้องปรับโฆษณาตาม
อีกอย่างที่เปลี่ยนแปลงคือ ตรงมุมล่างขวาของโฆษณาจะแสดง "ระยะเวลาที่ต้องชมโฆษณา" (total time remaining) แทนการแสดงจำนวนคลิปโฆษณา (number of ads) แบบที่เราคุ้นกันบนมือถือ เพื่อให้ผู้ชมบนทีวีคาดเดาเวลาได้ง่ายกว่า ว่าอีกนานแค่ไหนโฆษณาถึงจบแล้วได้กลับมาดูคอนเทนต์ต่อ
Bloomberg อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด ระบุว่า X/Twitter มีรายได้จากโฆษณาราว 2.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2023
ตัวเลขเฉลี่ยรายได้จากโฆษณาต่อไตรมาสของ X อยู่ที่ราว 600 ล้านดอลลาร์ (ลดลงจากปี 2022 ที่ X ทำรายได้จากโฆษณาได้ไตรมาสละ 1,000 ล้านดอลลาร์) หากในไตรมาสสุดท้ายของปียังรักษาตัวเลขระดับนี้ได้ เท่ากับว่ารายได้ทั้งปีจะอยู่ราว 3.4 พันล้านดอลลาร์
ปกติแล้ว X มีรายได้จากโฆษณาคิดเป็น 70-75% ของรายได้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือคือรายได้จาก subscription (Twitter Blue หรือ X Premium) และการขายข้อมูลจาก API (ในปี 2021 ขายข้อมูลได้ 572 ล้านดอลลาร์ต่อปี)
จากกรณีดราม่าแบรนด์ดังๆ จำนวนหนึ่งถอนโฆษณาออกจาก X/Twitter จนทำให้บริษัทสูญรายได้ถึง 75 ล้านดอลลาร์
ท่านผู้นำ Elon Musk มีคิวไปพูดที่งานสัมมนา DealBook ของหนังสือพิมพ์ The New York Times พอดี เขาตอบคำถามประเด็นนี้อย่างเผ็ดร้อน โดยบอกว่าถ้าแบรนด์เหล่านี้ต้องการแบล็คเมล์เขาด้วยวิธีงดโฆษณา ก็ "go fuck yourself" (พูดซ้ำสองรอบ พร้อมทำมือประกอบ)
ถึงแม้มีแบรนด์จำนวนมากที่ถอนโฆษณาจาก Twitter รอบนี้ แต่เป้าหมายของ Elon ชัดเจนว่าหมายถึง Disney โดยเขาเอ่ยชื่อ "Bob" (หมายถึง Bob Iger ซีอีโอ Disney) ว่าหากเขานั่งฟังอยู่ในกลุ่มคนดูด้วย ก็ขอให้เข้าใจตามนี้ (go fuck yourself)
มีผู้เล่นเกม Assassin's Creed จำนวนหนึ่งรายงานว่าเล่นๆ เกมอยู่แล้วพบการขึ้นป๊อปอัพแบบเต็มหน้าจอ โฆษณาขายเกม Assassin's Creed Mirage ที่ลดราคา 20% ในช่วงเทศกาล Black Friday
การขึ้นโฆษณาแบบเต็มหน้าจอในจังหวะที่กำลังเล่นเกมอยู่ ย่อมเป็นเรื่องที่บรรดาเกมเมอร์รับไม่ได้แน่ๆ เหตุการณ์นี้จึงทำให้แฟนๆ วิจารณ์ Ubisoft กันอย่างมากว่าทำแบบนี้ได้อย่างไร
จากประเด็นที่แบรนด์โฆษณารายใหญ่ต่างหยุดการลงโฆษณาใน X ชั่วคราว เนื่องจากพบว่าโฆษณาถูกแสดงถัดจากคอนเทนต์ที่สนับสนุนนาซี The New York Times อ้างเอกสารภายใน X ล่าสุด ซึ่งพูดถึงผลกระทบจากปัญหานี้ และดูเหมือนจะหนักกว่าที่เห็น
ในเอกสารซึ่งมาจากฝ่ายขายของ X ระบุรายชื่อแบรนด์ที่หยุดการลงโฆษณา ซึ่งมีมากกว่า 200 แบรนด์ มีแบรนด์ดังเพิ่มเติมจากรายงานก่อนหน้านี้รวมทั้ง Airbnb, Amazon, Coca-Cola และ Microsoft ตัวเลขเบื้องต้นเงินโฆษณาหายไปแล้วประมาณ 75 ล้านดอลลาร์ และอาจมากกว่านั้นเนื่องจากสัปดาห์นี้เป็นเทศกาลลดราคาในสหรัฐอเมริกา ที่แบรนด์น่าจะซื้อโฆษณากันมากขึ้น
แอปเปิลปล่อยหนังโฆษณาตัวใหม่ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส ในชื่อว่า "Fuzzy Feelings" เล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยถูกชะตากันระหว่างพนักงานออฟฟิศกับหัวหน้างาน ซึ่งเธอใช้ช่วงนอกเวลางานถ่ายทำอนิเมชันแบบสต็อปโมชันที่บ้าน เพื่อระบายความอึดอัดนี้ผ่านตัวละครที่มีลักษณะคล้ายกับหัวหน้า
ในหนังโฆษณาเล่าถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่นางเอกเจอ และกลับบ้านไประบายลงที่หนังสต็อปโมชัน พร้อม ๆ กับการไทอินว่าการถ่ายทำอนิเมชันนี้สามารถใช้ iPhone 15 Pro Max และตัดต่อด้วย MacBook Air ได้
เนื้อเรื่องจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้งตามสไตล์หนังโฆษณาธีมคริสต์มาส ชมวิดีโอกันได้ท้ายข่าว
สถานการณ์การถอนโฆษณาบน X ยังมีต่อเนื่อง หลังมีรายงานว่าโฆษณาของแบรนด์ต่าง ๆ แสดงผลติดกับคอนเทนต์ที่สนับสนุนนาซี จากก่อนหน้านี้ที่ IBM ประกาศระงับการโฆษณาทั้งหมดใน X
ล่าสุดรายชื่อบริษัทที่ได้สั่งระงับการลงโฆษณาบน X แล้วจากเหตุการณ์นี้ได้แก่ แอปเปิล, ดิสนีย์, Comcast, Warner Bros Discovery และ Paramount Global
Elon Musk เจ้าของ X โพสต์ถึงประเด็นนี้น่าล่าสุด โดยยืนยันว่าแม้มีการสร้างคำพูดสวยงามแต่การสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ถือเป็นความรุนแรง และขัดต่อแนวทางการให้บริการบนแพลตฟอร์มซึ่งต้องจัดการแก้ไข
กูเกิลอัพเดตว่าความสามารถด้าน Generative AI ได้เพิ่มเติมเข้ามาในระบบโฆษณา Performance Max แล้ว ตามที่เคยประกาศไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้ผู้ลงโฆษณาปรับแต่งคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
เครื่องมือที่เพิ่มมาคือความสามารถสร้าง Assets ได้จาก prompt ร่วมกับข้อมูลเบื้องต้นที่ผู้ลงโฆษณาป้อนเข้าไป และสามารถต่อยอดปรับแต่งรายละเอียดโฆษณาได้ตามต้องการ นอกจากนี้แคมเปญที่มี Assets อยู่ก่อนหน้าแล้ว ก็สามารถใช้ AI ช่วยแก้ไขงานได้ เช่น การปรับภาพพื้นหลังโฆษณา (เหมือนของ Meta, Amazon)
หลังจาก YouTube เอาจริงกับการบล็อกไม่เล่นคลิป หากพบการใช้ตัวบล็อกโฆษณาที่เบราว์เซอร์ ในระดับวงกว้างกับผู้ใช้ทั่วโลก จากที่ทดสอบมาระยะหนึ่ง ตอนนี้เริ่มเห็นผลกระทบบ้างแล้ว แต่ผลกระทบนั้นไม่ได้เกิดกับ YouTube
รายงานของ Wired พบว่านับตั้งแต่ YouTube เริ่มขยายการบล็อกทั่วโลก มีการถอนการติดตั้ง (uninstall) โปรแกรมบล็อกโฆษณาในระดับหลายแสนครั้ง เดือนตุลาคมผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บล็อกโฆษณาหลายราย มีจำนวนคนถอนการติดตั้งเป็นสถิติสูงสุดด้วย
กูเกิลประกาศการเปลี่ยนแปลงของ Google AdSense สองอย่าง ได้แก่ การปรับโครงสร้างส่วนแบ่งรายได้ใหม่ และปรับวิธีนับการจ่ายเงินให้เจ้าของเว็บไซต์ด้วย Impression
ประเด็นแรกเรื่องการปรับโครงสร้างส่วนแบ่งรายได้ กูเกิลบอกว่าเพื่อความโปร่งใสและสอดคล้องกับอัตราในอุตสาหกรรม จะแสดงรายละเอียดการหักส่วนแบ่งเป็น 2 ลำดับ กรณีโฆษณาถูกแสดงผ่าน AdSense ในรูปแบบคอนเทนต์ โดยเจ้าของเว็บไซต์จะได้ส่วนแบ่ง 80% ของรายได้หลังจากแพลตฟอร์มโฆษณา 3rd Party หักค่าธรรมเนียมไปแล้ว (ดูรูปประกอบ) ซึ่งทำให้เจ้าของเว็บไซต์ยังคงได้เงินที่อัตรา 68% ของรายได้ต่อไป
กูเกิลบอกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มมีผลต้นปีหน้า ฝั่งเว็บไซต์ไม่ต้องทำอะไร และกูเกิลบอกจะไม่กระทบกับอัตราส่วนแบ่งโฆษณาปัจจุบัน
Netflix รายงานความก้าวหน้าหลังครบรอบ 1 ปี ของการให้บริการแพ็คเกจแบบใหม่ที่คิดราคาถูกลงแต่แสดงโฆษณา ซึ่งเพิ่มเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าในหลายประเทศ (ยังไม่มีไทย) และมีแนวโน้มเป็นช่องทางรายได้ใหม่ของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ จากเดิมต้องพึ่งค่าบริการสมาชิกอย่างเดียว
โดย Netflix บอกว่าตอนนี้มีสมาชิกที่สมัครแพ็คเกจแบบมีโฆษณามากกว่า 15 ล้านบัญชีทั่วโลก (จากทั้งหมด 247 ล้านบัญชี) ให้บริการใน 12 ประเทศ นอกจากนี้ยังเพิ่มเครื่องมือใหม่ ๆ ให้กับผู้ลงโฆษณา เช่น ฟอร์แมตเวลาตั้งแต่ 10 15 20 30 และ 60 วินาที หรือรูปแบบ Binge Ad ที่หากผู้ชมดูคอนเทนต์เดียวกันต่อเนื่อง 3 ตอน อาจให้ดูตอนที่ 4 ได้แบบไม่มีโฆษณาแทรก และบอกว่าได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์นั้น ๆ
YouTube เริ่มแบนการใช้ ad blocker บล็อคโฆษณาในวงกว้าง โดยขึ้นจอดำเตือนว่า "Ad blockers violate YouTube's Terms of Service" พร้อมคำแนะนำให้เปิดโฆษณาคืนมา หรือไม่ก็ลองสมัคร YouTube Premium แทน
Facebook และ Instagram เปิดบริการจ่ายเงินเพื่อปิดโฆษณา ซึ่งมีเฉพาะในเขตสหภาพยุโรปเท่านั้น เริ่มเปิดให้ใช้งานในเดือนพฤศจิกายนนี้
ผู้ใช้ Facebook และ Instagram ในภูมิภาคเหล่านี้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้บัญชีแบบฟรี มีโฆษณาต่อไป หรือจะสมัครสมาชิกในราคา 9.99 ยูโร/เดือน (สมัครผ่านเว็บ) หรือ 12.99 ยูโร/เดือน (ผ่านแอพ iOS/Android ที่ต้องจ่ายส่วนแบ่งให้แอปเปิล/กูเกิล) เพื่อแลกกับการไม่ต้องมีโฆษณา
บริษัท Meta บอกว่ายังเชื่อมั่นในแนวทางบัญชีฟรี หารายได้จากโฆษณาเหมือนเดิม แต่เมื่อต้องปฏิบัติตามกฎของยุโรปก็ยินดีปฏิบัติตาม
ที่มา - Meta
ที่ผ่านมามีประเด็นเรื่องเพจปลอมแล้วยิงโฆษณาหลอกลวงประชาชนมาโดยตลอด ที่เด่นๆ และเห็นกันบ่อยหน่อยก็กรณีเพจอมตะปลอมหรือเพจ ดร. นิเวศน์ เหมวิชรวรากรปลอม ชักชวนลงทุน จนถึงขนาดกระทรวงดิจิทัลออกมาขู่จะบล็อคแพลตฟอร์ม
Amazon ประกาศเพิ่มเครื่องมือ Generative AI สำหรับการทำคอนเทนต์โฆษณาบน Amazon Ads ให้น่าสนใจมากขึ้น โดยสามารถแก้ไขภาพสินค้าให้มีฉากพื้นหลังเพิ่มความน่าสนใจ ซึ่งขั้นตอนนี้เดิมต้องใช้เวลามากในการตกแต่งรูป ตัวเลขที่ Amazon บอกคือลูกค้า 75% มองการสร้างโฆษณาแบบนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
Amazon บอกว่าภาพสินค้าที่มีฉากหลังทำให้ลูกค้าเห็นไลฟ์สไตล์ในการนำไปใช้งานมากขึ้น เช่น ภาพเครื่องปิ้งขนมปังพื้นสีขาว เทียบกับภาพที่ฉากหลังเป็นห้องครัว ช่วยเพิ่มอัตราการคลิกมากขึ้นถึง 40%
ฟีเจอร์นี้เป็นสถานะเบต้าอยู่ในส่วน Amazon Ad Console สามารถสร้างชุดภาพโฆษณาสินค้าหลายแบบให้เลือก และสามารถปรับแก้ไขได้เพิ่มเติมด้วย prompt