ที่ผ่าน Tesla ไม่เคยเสียเงินทำการตลาดใดๆ เลย แต่อาศัยการยิงอีเมลมาร์เก็ตติ้ง, บอกปากต่อปาก, สร้างแบรนด์ให้คนบอกต่อ ไปจนถึง Referral Program ซึ่ง Musk เคยบอกว่า "เจ้าของคนรถ Tesla คือ Brand Ambassador"
ล่าสุด Musk ให้สัมภาษณ์เปิดเผยว่า จะลองจ่ายเงินทำตลาดดูบ้างเล็กน้อย และลองดูว่าจะเป็นยังไง ซึ่งสาเหตุที่อาจทำให้ Musk ตัดสินใจเรื่องนี้ มาจากการที่ Musk มาเป็นซีอีโอ Twitter ที่ต้องพึ่งรายได้จากการโฆษณา ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า "การทำโฆษณามันเจ๋ง ทุกคนควรทำ"
ที่มา - TechCrunch
Telly บริษัทผู้ผลิตทีวีหน้าใหม่ มาพร้อมกับโมเดลธุรกิจสุดแหวกแนว แจกทีวี 55 นิ้ว 4K ฟรี แลกกับการที่ต้องดูโฆษณาตลอดไป
ทีวีของ Telly เป็นทีวีแบบคัสตอมที่มีสองหน้าจอ หน้าจอหลักเป็นทีวี 55 นิ้ว 4K ตามปกติ แต่มีหน้าจอที่สองอยู่ข้างใต้ซาวน์บาร์อีกที หน้าจอนี้ใช้แสดงข้อมูลอื่นๆ เช่น สภาพอากาศ ราคาหุ้น ผลกีฬา รวมถึงแสดงโฆษณา
การที่ทีวี Telly มีกล้องเว็บแคมในตัว และมีหน้าจอที่สองให้ด้วย จึงมีฟีเจอร์เด่นอื่นๆ เช่น การคุยวิดีโอคอลล์ Zoom โดยใช้หน้าจอด้านล่างแสดงหน้าของเพื่อนร่วมคอลล์คนอื่นๆ แทนการใช้หน้าจอหลัก, การเล่นเกมที่ใช้หน้าจอที่สองมาแสดงผลร่วมด้วย
Meta เปิดตัว AI Sandbox สำหรับผู้ลงโฆษณา เพื่อช่วยสร้างสรรค์รูปแบบโฆษณาด้วย Generative AI หรือ AI สร้างเนื้อหา ทั้ง ข้อความ พื้นหลัง และการครอปรูปภาพในฟอร์แมตต่าง ๆ สำหรับใช้ลงโฆษณาใน Facebook กับ Instagram
Meta บอกว่าเครื่องมือนี้เริ่มทดสอบใช้งานแล้วกับผู้ลงโฆษณากลุ่มเล็ก โดยจะนำผลตอบรับมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น ในเดือนกรกฎาคมจะขยายไปยังผู้ลงโฆษณามากขึ้น และเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ ภายในปีนี้
ตัวอย่างเครื่องมือ เช่น การสร้างข้อความ (ก๊อปปี้) ของโฆษณาในแบบที่ต่างกันตามกลุ่มเป้าหมาย แต่ยึดคอนเซปต์หลักที่ต้องการสื่อสารไว้, การสร้างพื้นหลังแบบต่าง ๆ ทำให้ได้ชุดงานหลากรูปแบบในแคมเปญ และฟีเจอร์ครอปรูปภาพ สำหรับการโพสต์ลงแต่ละรูปแบบที่ต้องการฟอร์แมตแตกต่างกัน
Pinterest รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2023 รายได้รวมเติบโต 5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 603 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนตามบัญชี GAAP 209 ล้านดอลลาร์ โดยมีจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) เพิ่มขึ้น 7% เป็น 463 ล้านดอลลาร์
Bill Ready ซีอีโอ Pinterest กล่าวว่าการเติบโตที่ผ่านมา เป็นผลจากการปรับปรุงระบบแสดงเนื้อหาของผู้ใช้งาน ระบบการซื้อสินค้า และผลตอบรับที่แข็งแกร่งจากผู้ลงโฆษณา
Pinterest ยังประกาศขยายธุรกิจโฆษณา โดยร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ภายนอก ซึ่งรายแรกคือ Amazon เพื่อเชื่อมต่อระบบโฆษณาและการซื้อสินค้าระหว่าง Pinterest กับ Amazon โดยระบุว่าความร่วมมือนี้เป็นแบบระยะยาวหลายไตรมาส คาดว่าจะเริ่มต้นได้ภายในปีนี้
Microsoft Advertising แพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ของไมโครซอฟท์ ประกาศหยุดรองรับบริการจัดการโพสต์บน Twitter โดยจะมีผลในวันที่ 25 เมษายน 2023 โดยยังสามารถใช้เชื่อมต่อโซเชียลตัวอื่นๆ อย่าง Facebook, Instagram, LinkedIn ได้ตามปกติ
ไมโครซอฟท์ไม่ได้อธิบายเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่คาดว่าสาเหตุมาจากแพ็กเกจราคา Twitter API แบบใหม่ ที่แพงขึ้นจากเดิมมาก ราคาแบบ enterprise เริ่มต้นที่ 42,000 ดอลลาร์ต่อเดือน และส่งผลให้บริการโซเชียลลักษณะเดียวกันหลายๆ ตัวเลือกหยุดรองรับ Twitter เช่นกัน
ไมโครซอฟท์เริ่มเผยแนวทางการปรับอินเทอร์เฟซของ New Bing พลังแชท GPT เพื่อเพิ่มโอกาสส่งทราฟฟิก-เพิ่มพื้นที่ทำเงินให้เจ้าของเว็บไซต์มากขึ้น
กูเกิลเปิดตัว Ads Transparency Center ศูนย์รวมข้อมูลโฆษณาจากผู้ลงโฆษณาที่ยืนยันตัวตน เพื่อความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งผู้ใช้งานสามารถค้นหารายละเอียดของโฆษณาที่พบในแพลตฟอร์มของกูเกิล, YouTube ตลอดจนโฆษณาผ่านเครือข่าย Display ได้
นอกจากข้อมูลว่าโฆษณาตัวนั้น ใครเป็นผู้ลงโฆษณา ยังสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ เช่น โฆษณานี้เลือกลงในภูมิภาคใด แพลตฟอร์มใด และแคมเปญนั้นรันมาตั้งแต่วันที่เท่าใด นอกจากเข้าไปดูรายละเอียดผ่าน Ads Transparency Center แล้ว ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าตรงได้ผ่านเครื่องหมาย 3 จุด ในมุมโฆษณา เพื่อเข้ามาที่หน้า Transparency Center และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้
Instagram ประกาศเพิ่มเครื่องมือใหม่สำหรับฝั่งแบรนด์ผู้ลงโฆษณา มีสองอย่างดังนี้
ที่มา: Instagram
YouTube ประกาศยกเลิกการแสดงโฆษณาในรูปแบบ Overlay ที่เป็นแบนเนอร์ปรากฏขึ้นมาระหว่างการดูวิดีโอ ซึ่ง YouTube บอกว่าวิธีการแสดงโฆษณาแบบนี้เป็นรูปแบบเก่า และรบกวนการรับชม
โดยตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2023 เป็นต้นไป YouTube จะหยุดการการแสดงโฆษณาแบบ Overlay รวมทั้งครีเอเตอร์จะไม่มีตัวเลือกโฆษณาแบบนี้ใน YouTube Studio ทั้งนี้ YouTube บอกว่าผลกระทบต่อครีเอเตอร์จะมีอย่างจำกัด เนื่องจากครีเอเตอร์มักเลือกแสดงโฆษณาแบบใหม่กันแล้ว
ปัจจุบันการแสดงผลโฆษณาแบบ Overlay มีเฉพาะการดู YouTube บนเดสก์ท็อปเท่านั้น ส่วนบนแอปมือถือมีเฉพาะ pre-, mid- และ post- ที่เป็นการเล่นคลิปวิดีโอเต็มหน้าจอ
Meta ประกาศอัพเดตฟีเจอร์ Facebook ที่อธิบายว่า "Why am I seeing this ad?" หรือ "ทำไมฉันจึงเห็นโฆษณานี้" ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีมาตั้งแต่ปี 2014 อยู่ที่ปุ่มด้านบนขวาของส่วนโฆษณาที่แสดง เพื่ออธิบายกับผู้ใช้งาน ว่าทำไม Facebook จึงแสดงโฆษณานี้ขึ้นมาจากปัจจัยต่าง ๆ อายุ เมือง ภาษา ความสนใจ
โดยเครื่องมือที่อัพเดตใหม่นี้ จะแสดงข้อมูลแบบสรุปด้วย Machine Learning ทั้งกิจกรรมใน Facebook และกิจกรรมที่เกิดนอก Facebook เช่นการเข้าชมเว็บไซต์ ว่าทำไมโฆษณานี้จึงถูกนำมาแสดง แยกรายละเอียดระดับฝั่งผู้ลงโฆษณา จนถึงกิจกรรมฝั่งผู้ใช้งานที่ตรงกับความต้องการผู้ลงโฆษณา (ดูตัวอย่างท้ายข่าว)
กูเกิลมีโครงการ Privacy Sandbox เปลี่ยนระบบตามรอยผู้ใช้เพื่อยิงโฆษณา จากการตามด้วยคุกกี้แบบดั้งเดิมมาเป็นระบบตามรอยแบบใหม่ Topics API โดยเริ่มจาก Chrome มาตั้งแต่ปี 2022 และประกาศทำบน Android ด้วย
หลังทดสอบ Privacy Sandbox SDK ในกลุ่มนักพัฒนามาได้เกือบปี กูเกิลเริ่มปล่อยอัพเดต Privacy Sandbox Beta ให้ผู้ใช้ Android 13 ใช้งานแล้ว แต่ยังจำกัดเฉพาะผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ ในช่วงแรก แล้วจะค่อยๆ ขยายเพิ่มในลำดับต่อไป
Super Bowl ครั้งที่ 57 ศึกอเมริกันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศของ NFL ซึ่งเป็นโปรแกรมกีฬารายการใหญ่ของปี ได้แข่งขันจบไปแล้วพร้อมชัยชนะของ Kansas City Chiefs
ในปีนี้ Super Bowl มีผู้สนับสนุนรายใหม่ของการแสดงในช่วงพักครึ่งเวลา (Halftime Show) คือ Apple Music ซึ่งประเดิมปีแรกด้วยการแสดงของ Rihanna ที่กลับมาแสดงสดต่อหน้าผู้ชมครั้งแรกในรอบหลายปี
Yahoo! ประกาศแผนปลดพนักงานรวม 1,600 คน คิดเป็น 20% ของพนักงานทั้งหมด โดยแบ่งเป็นกลุ่มแรก 1,000 คน มีผลทันที และอีก 600 คน ใน 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งพนักงานที่ถูกปลดทั้งหมดอยู่ในส่วนธุรกิจ Ad Tech และจำนวนที่ปลดนี้คิดเป็นครึ่งหนึ่งของฝ่าย
Jim Lanzone ซีอีโอ Yahoo! ให้สัมภาษณ์ว่าการปลดพนักงานรอบนี้ไม่ใช่ผลจากปัญหาเศรษฐกิจ แต่เป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจที่ยังไม่ทำกำไร โดยภาพรวมนั้น Yahoo! มีกำไรในปีที่ผ่านมา 8 พันล้านดอลลาร์
กูเกิลเผยแพร่คลิปโฆษณา Pixel 7 ที่จะฉายในการแข่ง Super Bowl ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ใช้ชื่อว่า Fixed on Pixel ชูฟีเจอร์ Magic Eraser ลบส่วนที่ไม่ต้องการในรูป และ Photo Unblur แก้ปัญหารูปถ่ายเบลอด้วยพลัง AI ซึ่งสามารถใช้กับรูปเก่าหรือรูปที่ถ่ายด้วยมือถือเครื่องอื่นได้ด้วย
โฆษณานี้ได้นักแสดง Amy Schumer, นักบาสเก็ตบอล Giannis Antetokounmpo และนักดนตรี Doja Cat มาร่วมแสดง ถือเป็นทิศทางของกูเกิลที่จริงจังกับการโฆษณา Pixel ให้คนรู้จักในวงกว้างมากขึ้น สอดคล้องกับยอดขาย Pixel ช่วงหลังที่เติบโตขึ้นมาก
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ยื่นฟ้องกูเกิลในข้อหาผูกขาดตลาดโฆษณาดิจิทัล (กลุ่ม display ad ไม่ใช่ search ad ที่เคยฟ้องแยกไปแล้วตั้งแต่ปี 2020 และคดียังอยู่ในชั้นศาล) จากการซื้อคู่แข่งและปรับเปลี่ยนวิธีการประมูลโฆษณาให้คู่แข่งเข้ามาสู้ไม่ได้
พฤติกรรมของกูเกิลที่ทำลายการแข่งขัน มีหลายอย่างประกอบกัน ได้แก่
Meta ประกาศปรับปรุงระบบโฆษณาสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่อายุต่ำกว่า 18 ปี หรือวัยรุ่น จากก่อนหน้านี้จำกัดไม่ให้โฆษณาอิงบนความสนใจและกิจกรรม
โดยเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ผู้ลงโฆษณาจะไม่สามารถทำโฆษณาเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น อิงตามข้อมูลเพศได้อีก มีผลทั้ง Facebook และ Instagram ข้อมูลที่ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดได้จะมีเพียงอายุและพื้นที่เท่านั้น
นอกจากนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ผู้ใช้งานกลุ่มวัยรุ่นยังสามารถกำหนดค่าการแสดงโฆษณาได้ใน Ad Preferences เช่น จำกัดให้แสดงโฆษณาบางประเภทน้อยลงได้ด้วย
ที่มา: Meta
Twitter ประกาศปรับเปลี่ยนและผ่อนคลายนโยบายที่ออกมาตั้งแต่ปี 2019 เรื่องการตรวจสอบอย่างเข้มงวดและจำกัดไม่ให้ลงโฆษณาทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมทนักการเมืองหรือวิธีลงคะแนนเลือกตั้ง หรือการรับบริจาคของพรรคการเมือง รวมถึงโฆษณาส่งเสริมประเด็นทางสังคม อย่างเช่น ประเด็นการทำแท้งหรือสภาวะโลกร้อน
อย่างไรก็ตาม ในประกาศทางบัญชี Twitter Safety ยังไม่ได้ลงรายละเอียดแต่อย่างใดว่านโยบายจะผ่อนคลายมากน้อยแค่ไหน แต่ระบุแค่ว่า Twitter จะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับมาตรฐานการโฆษณาการเมืองของสื่อโทรทัศน์และสื่ออื่น ๆ และจะมีผลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
แอป Amazon Shopper Panel ที่เป็นแอปสำหรับข้อข้อมูลผู้ใช้เพิ่มเติมเพื่อการโฆษณาเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เป็นหมวด Ad Verification ยืนยันว่าผู้ใช้ดูโฆษณาจากโทรศัพท์มือถือจริง
แม้จะบอกว่าฟีเจอร์นี้ใช้สำหรับยืนยันการดูโฆษณา แต่เมื่อผู้ใช้เปิดบริการนี้ ตัวแอปจะทำหน้าที่ VPN แล้วดึงข้อมูล DNS ทั้งหมดส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Amazon ทำให้บริษัทเห็นข้อมูลโดเมนทุกโดเมนที่เครื่องเข้าถึง
ก่อนหน้านี้แอป Amazon Shopper Panel ขอซื้อข้อมูลเชิงลึกจากผู้ใช้อยู่ก่อนแล้ว คือการขอให้ผู้ใช้สแกนใบเสร็จซื้อของนอกเว็บ Amazon ส่งเข้าไปเพื่อแลกเครดิตซื้อของเช่นกัน โดยผู้ใช้แอป Shopper Panel นี้ต้องได้รับเชิญ และที่ผ่านมาก็ต้องเข้าคิวเพื่อรอใช้งาน
Elon Musk ออกรายการสัมภาษณ์ใน Twitter Spaces เปิดเผยว่าแอปเปิลกลับมาลงโฆษณาใน Twitter เหมือนเดิมแล้ว และยังบอกว่าแอปเปิลถือเป็นผู้ซื้อโฆษณารายใหญ่ที่สุดของ Twitter ด้วย
เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน Elon โวยวายแอปเปิลหยุดลงโฆษณากับ Twitter และขู่ถอดแอพออกจากสโตร์ หลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาบินไปหา Tim Cook ที่สำนักงานใหญ่ของแอปเปิล และเคลียร์กันเรื่องการถอดแอพจากสโตร์เรียบร้อย
การที่ Musk ประกาศว่าแอปเปิลกลับมาลงโฆษณาแล้ว ถือเป็นการเคลียร์ประเด็นที่สองเช่นกัน ตอนนี้เหลืออีก 1 ประเด็นคือ Musk ไม่ต้องการจ่ายส่วนแบ่ง 30% ให้แอปเปิล ซึ่งไม่รู้ว่ามีข้อสรุปอย่างไร
Financial Times รายงานข่าวว่า Elon Musk พยายามแก้ปัญหาแบรนด์ไม่ลงโฆษณาใน Twitter ด้วยการโทรไปหาซีอีโอของบางแบรนด์ เพื่อด่าว่าทำไมตัดโฆษณาออก (ต้นฉบับใช้คำว่า berate)
ผลที่ได้คือแบรนด์อื่นๆ ก็ลดโฆษณาลงอยู่ในระดับวงเงินต่ำที่สุด (bare minimum) เพื่อลดการเผชิญหน้ากับ Musk ที่มีพฤติกรรมวิจารณ์แบรนด์ที่ลดโฆษณาในที่สาธารณะ (ข่าวของ Elon วิจารณ์แอปเปิล)
Financial Times ยังบอกว่าทีมธุรกิจโฆษณาของ Twitter มีคนทำงานน้อยลงมาก จนตอนนี้เอเยนซี่โฆษณาไม่รู้แล้วว่าต้องติดต่อกับใคร เพราะคนที่เคยคุยด้วยลาออกหรือโดนไล่ออกไปเกือบหมดแล้ว บางแบรนด์ถึงขั้นไม่ได้รับข้อมูลว่าแคมเปญล่าสุดที่ลงโฆษณาไปนั้นได้ผลแค่ไหน
Google และ iHeartMedia เจรจาเตรียมจ่ายเงินมูลค่า 9.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับหน่วยงานกำกับดูแลการค้าของสหรัฐอเมริกา (Federal Trade Commission- FTC) และอัยการสูงสุดอีก 7 รัฐ หลังจากที่ถูก FTC พร้อมทั้งอัยการสูงสุดของรัฐทั้งหมด 7 รัฐฟ้องร้องจากการที่ Google ไปจ้างวานให้สถานีวิทยุในเครือบริษัท iHeartMedia อ่านสคริปต์โฆษณาสมาร์ทโฟน Pixel 4 โดยไม่ได้ส่งตัวอย่างสมาร์ทโฟนให้ลองใช้จริงก่อน
คำฟ้องระบุว่า Google ได้จ่ายเงินกว่า 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้สถานีวิทยุ iHeartRadio รวมทั้งจ่ายเงินอีกเกือบ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับสถานีวิทยุขนาดเล็กอื่น ๆ อีกเพื่อให้โฆษณาสมาร์ทโฟน Pixel 4 ด้วยการอ่านสคริปต์ที่ทางฝั่ง Google เป็นคนเขียนเอง
Yahoo! ประกาศซื้อหุ้น 25% ใน Taboola แพลตฟอร์มโฆษณาในรูปแบบการแนะนำคอนเทนต์ สำหรับผู้ผลิตเนื้อหา โดยผลจากดีลดังกล่าว Yahoo! จะให้ Taboola มาเป็นพาร์ตเนอร์ของระบบโฆษณา โดยมีสัญญาเป็นระยะเวลา 30 ปี
ผู้อ่านหลายคนอาจคุ้นเคยหรือเคยผ่านตาบริการของ Taboola อยู่บ้าง โดยจะเป็นชุดลิงก์แนะนำเนื้อหา วางตำแหน่งอยู่ที่ท้ายเนื้อหาในเว็บข่าวหรือเว็บคอนเทนต์
Jim Lanzone ซีอีโอปัจจุบันของ Yahoo! กล่าวว่าบริการของ Taboola จะเข้ามาเติมเต็มรูปแบบบริการโฆษณาที่หลากหลาย และทำให้บริการรวมของ Yahoo! แตกต่าง แต่ผู้ผลิตเนื้อหาได้ประโยชน์ร่วมกัน
ที่มา: Yahoo!
ก่อนหน้านี้ไม่นาน มีข่าวว่า Omnicom เอเยนซี่โฆษณารายใหญ่ของโลก แนะนำลูกค้าให้หยุดลงโฆษณา Twitter ชั่วคราว
คราวนี้มีข่าวจากเว็บสายโฆษณาดิจิทัล Digiday อ้างว่าเห็นเอกสารของเอเยนซียักษ์ใหญ่อีกรายคือ GroupM ที่ออกคำแนะนำแบบเดียวกันให้ลูกค้า ด้วยเหตุผลเดียวกันคือการลาออกของผู้บริหารระดับสูงจำนวนมาก, ปัญหาที่เกิดจาก Twitter Blue ไม่มีการยืนยันตัวตนทำให้แบรนด์เสี่ยงเสียหาย และโอกาสที่ Twitter ไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่คุยไว้กับ FTC ได้เพราะคนหายไปหมดแล้ว
เว็บไซต์ The Verge อ้างว่าได้รับเอกสารภายในของ Omnicom Media Group เอเยนซี่โฆษณารายใหญ่ของโลก แนะนำให้ลูกค้าหยุดลงโฆษณาใน Twitter ชั่วคราว เพราะมีปัญหาเรื่องความเสี่ยงที่แบรนด์จะมีภาพลักษณ์เสียหาย (Brand Safety)
ในบันทึกระบุถึงการปลดทีมดูแลด้าน trust and safety, การลาออกของผู้บริหารระดับสูงจำนวนมาก และบัญชีปลอมที่ได้ Verified Account สร้างความสับสนในวงกว้าง ทำให้เกิดความเสี่ยงว่าแบรนด์จะเสียหาย
Omnicom บอกให้แบรนด์รอดูว่า Twitter จะสามารถนำความปลอดภัยของแบรนด์กลับมาได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งตอนนี้น่าจะทำได้ยากเพราะแทบไม่มีคนดูแลด้านนี้เหลือแล้ว