หลังจากเป็นข่าวครึกโครมกรณีเครื่องหมายการค้า "Netbook" (ข่าวเก่า) ของบริษัท Psion ที่มีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายโดยไม่ขออนุญาต จนเกิดคดีฟ้องกันไปฟ้องกันมามากมาย
ล่าสุดบริษัท Psion ก็ประกาศสิ้นสุดการต่อสู้แล้ว โดย Psion จะเป็นผู้เสียสละถอนการจดทะเบียนที่เกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า "Netbook" ออกทั้งหมด และยังยกประโยชน์การใช้คำว่า "Netbook" ให้กับบริษัทอื่นทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ผมไม่แน่ใจว่าทาง Psion นึกอยากเป็นคนดีขึ้นมา หรือว่าอินเทลจ่ายจนพอใจแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ถือว่าเป็นข่าวดีของหลายๆ บริษัทจะได้ใช้คำว่า "Netbook" อย่างสบายใจเสียที
มีข่าวลือจาก DigiTimes ซึ่งเป็นเว็บข่าวในแวดวงอิเล็กทรอนิกส์ของไต้หวันออกมาว่า ไมโครซอฟท์และอินเทลกำลังจะจำกัดขนาดของเน็ตบุ๊กตามหน้าจอให้อยู่ที่ 10.2" เท่านั้น
ถ้าเน็ตบุ๊กมีขนาดใหญ่เกินกว่านี้ (เช่น 11" หรือ 12") จะไม่สามารถซื้อ Windows 7 แบบยกล็อตราคาถูกตามแผนการ Windows 7 สำหรับเน็ตบุ๊กของไมโครซอฟท์ได้ (Starter?) ถ้าต้องการแถม Windows 7 ไปด้วย ทางผู้ผลิตต้องลงทุนซื้อ Windows 7 รุ่นแพงขึ้นแทน
หลังจากที่ปล่อยให้รุ่นพี่อย่าง i7 ตีตลาดบนมาช่วงหนึ่งแล้ว ทางอินเทลได้เตรียมส่งแพลตฟอร์ม i5 ออกสู่ตลาดหลักในช่วงไตรมาสที่สามแล้ว
โดยแพลตฟอร์ม i5 นั้นประกอบด้วยชิพประมวลผลในรหัส "Lynfield" และชิพเซต P55 โดยมีทั้งหมดสามรุ่นแต่ยังไม่มีการระบุชื่อในแต่ละโมเดล มีแต่เพียงความเร็วที่ระบุไว้ที่ 2.93GHz, 2.8GHz, 2.66GHz และทุกตัวมี FSB อยู่ที่ 2.0 Ghz และมีเทคโนโลยี HT (Hyper-threading) เหมือน i7 ทุกประการจึงทำให้สามารถทำงานเสมือนมีคอร์ทั้งหมด 8 คอร์
นาย Tom McCoy ผู้บริหารชั้นสูงเกี่ยวกับด้านกฎหมายของ AMD ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่แอปเปิลจะต้องเซ็นสัญญากับอินเทลที่จะเลือกใช้ชิปของอินเทลแต่เพียงรายเดียวนั้นเนื่องมาจากการที่อินเทลจ่ายเงินให้กับแอปเปิลในช่วงเปลี่ยนจาก PowerPC มาเป็น x86
โดยเพื่อเป็นการตอบแทน แอปเปิลจำเป็นที่จะต้องเซ็นสัญญาว่าจะเลือกใช้เพียงแต่หน่วยประมวลผลของอินเทลเท่านั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ นาย McCoy เชื่อว่าสัญญานี้คงอยู่ไม่นาน และสุดท้ายแอปเปิลอาจจะต้องเลือกที่จะใช้ชิปตามประสิทธิภาพของชิป เมื่อถึงเวลานั้น เราคงอาจจะได้ทำธุรกิจกับแอปเปิล
แม้ว่าในตอนนี้ ระบบปฏิบัติการที่ใช้ในเน็ตบุคส่วนมากจะเป็น Windows ของไมโครซอฟท์ แต่ทว่าทางอินเทลก็ไม่ได้ไปปล่อยให้ทางไมโครซอฟท์ครองตลาดแต่เพียงผู้เดียวด้วยการประกาศปรับแต่งความสามารถลินุกซ์เพื่อให้สามารถใช้งานกับเน็ตบุคได้ดีขึ้น
โดยจะมีการปรับปรุงในส่วนของอินเตอร์เฟซต่างๆ ให้เหมาะกับขนาดหน้าจอของเน็ตบุค และ MID อีกทั้งยังปรับปรุงในส่วนของ UI ให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวมไปถึงการบริหารจัดการแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น
อนึ่งลินุกซ์รุ่นปรับปรุงนี้ถูกเรียกว่า Moblin นั่นเองและในตอนนี้ได้ออกรุ่นเบต้ามาแล้วที่ Moblin's Web site
หวังว่านี่จะช่วยให้ผู้ใช้ลินุกซ์มีจำนวนมากขึ้นนะ :D
ระบบปฏิบัติการ Moblin ที่อินเทลตั้งใจจะทำให้เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับ MID (Mobile Internet Devices) และเน็ตบุ๊คในยุคหน้านั้นได้ออกรุ่น Beta แล้วในวันนี้ครับ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปส่วนใหญ่คือส่วนติดต่อกับผู้ใช้ โดยมี M-zone เป็นหน้าจอหลักหลังจากผู้ใช้เริ่มเปิดเครื่อง ซึ่งจะมีปฏิทินประจำวัน, สิ่งที่ต้องทำและโปรแกรมกับไฟล์ที่ใช้ล่าสุด นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่เว็บไซต์, รูปภาพต่างๆ, ไฟล์วิดีโอและเพลง รวมถึงการอัพเดตสถานะส่วนตัวบน Social Network ได้จากทูลบาร์ด้านบนอีกด้วย (ลองดูวิดีโอประกอบ) ผู้ที่สนใจนั้นสามารถดาวน์โหลดได้จาก Moblin Zone ครับ
ปัญหาระหว่างอินเทลและ NVIDIA นั้นมีมานานแล้ว แต่ล่าสุด Jen-Hsun Huang, CEO ของ NVIDIA ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการตลาดของอินเทลนั้นไม่เป็นธรรมกับทาง NVIDIA
คำกล่าวนี้ใช้ความจริงที่อินเทลลดราคาชิป Atom ให้กับผู้ผลิตที่ซื้อชิป Atom พร้อมกับชิปเซ็ตของทางอินเทล ซึ่งทำให้ผู้ผลิตที่ต้องการใช้ชิปเซ็ตของทาง NVIDIA นั้นจะมีต้นทุนที่สูงขึ้น โดยการซื้อชิปอย่างเดียวนั้นอาจมีราคาสูงถึง 45 ดอลลาร์ต่อชุด ขณะที่การซื้อพร้อมชิปเซ็ตนั้นอินเทลจะลดราคาเหลือ 25 ดอลลาร์
อินเทลโต้ว่าอินเทลนั้นแข่งขันอย่างยุติธรรม และทางอินเทลไม่ได้บังคับให้ผู้ผลิตใช้ชิปเซ็ตของอินเทลแต่อย่างใด โดยเป็นเรื่องชัดเจนการซื้อเป็นชุดนั้นจะทำให้ราคารวมดีขึ้น
ถ้าใครติดตามข่าวอินเทลใน Blognone มาบ้างอาจจะคุ้นกับชื่อ "Menlow" ซึ่งเป็นรหัสเรียกแพลตฟอร์มสำหรับ Mobile Internet Device (MID) ถึงแม้ว่าตลาดนี้จะยังไม่เติบโตนักเมื่อเทียบกับ Atom/Netbook แต่ล่าสุดอินเทลก็เริ่มเผยแผนการแล้วว่ามันจะไปบรรจบกับมือถือในท้ายที่สุด
อินเทลเผยเรื่องนี้ในงานประชุมกับนักลงทุน โดยต่อจาก Menlow ที่ออกแล้วในปี 2008 จะเป็น
ตลาดโทรศัพท์มือถือทุกวันนี้โดยเฉพาะสมาร์ตโฟนยังคงครองโดยซีพียู ARM เป็นหลัก แต่แนวทางของชิป Atom ที่ลงมายังอุปกรณ์ขนาดเล็กเช่น MID นั้นแสดงท่าที่ชัดเจนว่ามันจะมาบรรจบกับตลาดโทรศัพท์มือถือเข้าสักวันหนึ่ง คำถามคือเมื่อใหร่?
งานประชุมนักลงทุนของทางอินเทลได้มีการเปิดเผยแผนกลยุทธ์การวางตลาดของชิป Atom รุ่นใหม่ที่อยู่ในแผนที่มีชื่อรหัสว่า Medfield นั้นจะเป็นชิป Atom ตัวแรกที่ออกแบบมาสำหรับโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะ
รายละเอียดของชิป Medfield นั้นมีเพียงว่าจะใช้เทคโนโลยี 32 นาโนเมตรในการผลิต โดยทางอินเทลหวังว่าจะใช้ชิปนี้บุกตลาดโทรศัพท์สมาร์ตโฟนกระแสหลักที่มีขนาดตลาดกว่า 400 ล้านตัวต่อปี
ดูเหมือนว่า AMD คงจะดีใจไม่น้อยจากการที่สหภาพยุโรปทำการปรับอินเทล หลังจากการทำผิดกฎหมายป้องกันการผูกขาด โดยการปรับหน้าหลักของเว็บตัวเอง ให้มีธงของสหภาพยุโรปและมีข้อความเขียนไว้ว่า "สหภาพยุโรปพบอินเทลกระทำการผิดกฎหมายป้องกันการผูกขาดและทำร้ายผู้บริโภค"
นอกจากนี้แล้ว AMD ยังมีหน้า Break Free ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิดของอินเทล และข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้ทั้งหมด ให้ผู้ที่สนใจอีกด้วย
ที่มา - AMD
เป็นเรื่องไม่บ่อยนักที่บริษัทใหญ่ๆ จะร่วมมือกันเพื่อทำอะไรซักอย่าง แต่ว่าในตอนนี้ยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีของโลกอย่างอินเทล และเจ้าพ่อวงการเครื่องมือสื่อสารอย่างโนเกีย ได้ออกมาประกาศความร่วมมือในการสร้างระบบปฏิบัติการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตัวใหม่ที่มีฐานมาจากลินุกซ์ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า oFono
โดยโครงการนี้จะดึงตัวทีมงานของทั้งสองบริษัทมาร่วมทำงาน ได้แก่ กลุ่มทีมงาน Moblin ของอินเทล และทีมงาน Maemo ของโนเกีย
ในเรื่องของรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่มีการเปิดเผยเพิ่มเติม แต่คาดว่าน่าจะเป็นข่าวที่สั่นสะเทือนวงการ Smart Phone อย่างแน่นอน
ปล. ขอเพิ่มแทก oFono นะครับ
Update : oFono Official Website
GPU ลูกผสมของอินเทลรหัส Larrabee นั้นออกข่าวให้ตื่นเต้นกันมานานแต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าออกมาเท่าไรนัก ล่าสุดในงานเปิดตัว Visual Computing Institute ของมหาวิทยาลัย Saarland อินเทลได้โชว์ต้นแบบของ Larrabee แบบ 32 คอร์ และทุกคอร์จะมี vector math unit เป็นของตัวเอง นั่นแปลว่ามันจะทำให้ Larrabee ประมวลผลงานลักษณะเฉพาะบางชนิด เช่น คณิตศาสตร์ วิศวกรรม และกราฟฟิกได้เร็วมาก (ตัวอย่างซีพียูในปัจจุบันที่ใช้การประมวลผลแบบเวกเตอร์คือ Cell ของ PS3 ที่มี SPE ถึง 7 ตัว)
Joseph Schultz ตัวแทนของอินเทลได้ประกาศในงานนี้ว่าอินเทลเลื่อนกำหนดออก Larrabee จากเดิมปลายปี 2009 เป็นครึ่งแรกของปี 2010 แทน
AMD เคยร้องเรียนไปในปี 2000 ว่า Intel จ่ายเงินให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์เพื่อไม่ให้ใช้ชิพจาก AMD
สหภาพยุโรปตัดสินให้ปรับบริษัท Intel 1,450 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 50,000 ล้านบาท) จ่ายค่าปรับในข้อหา ละเมิดกฎห้ามผูกขาดสินค้าของยุโรป ค่าปรับนี้ถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับครั้งที่ไมโครซอร์ฟโดนปรับ 1,300 ล้านดอลลาร์
โดย Intel ได้มีการให้ส่วนลดลับ ๆ อย่างผิดกฎหมายกับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ในยุโรป เพื่อจะขับไล่คู่แข่งออกจากตลาด และมีการพบว่า Media Saturn ผู้ค้าปลีกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของยุโรปได้รับเงินจาก Intel เพื่อจะขายคอมพิวเตอร์ที่มีชิพ Intel อย่างเดียว
สหภาพยุโรปสั่งให้ Intel หยุดกระทำการที่ผิดกฎหมายดังกล่าวในทันที
ดูจากรายงานสหภาพยุโรปแล้ว ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าทางสหภาพยุโรปเตรียมที่จะทำการปรับอินเทล เนื่องจากการกระทำผิดกฎหมายป้องกันการผูกขาดทางการค้า
คาดว่าฝ่ายบริหารสหภาพยุโรป นอกจากที่จะทำการปรับอินเทลแล้ว ยังจะบังคับให้อินเทล เลิกการตัดราคาให้กับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อีกต่อไปด้วย เพื่อที่ผู้แข่งขันที่อยู่ในตลาดรายอื่น ๆ สามารถตีตลาดได้มากขึ้น
ทางสหภาพยุโรป ยังมีหลักฐานยืนยันอีกเช่นกันว่า ทางอินเทลนั้นมีการแจกเงินคืน (Rebate) ให้กับผู้ผลิต OEM เพื่อที่จะชะลอการปล่อยสินค้าของพวกเขาที่ใช้ชิปจาก AMD แล้วให้ปล่อยสินค้าที่มีส่วนชิปจากอินเทลก่อน
แม้ว่าเราจะเห็นภาพอินเทลกับไมโครซอฟท์เป็นมิตรที่ดีต่อกันเสมอมา แต่ในทางหนึ่งแล้วอินเทลเป็นผู้สนับสนุนโอเพนซอร์สโครงการหลักๆ เช่นตัวลินุกซ์เอง, โครงการ X.org หรือกระทั่งลินุกซ์ดิสโทรอย่าง Moblin
อย่างไรก็ตามโครงการสำคัญเช่น GCC นั้นกลับไม่ได้รับความช่วยเหลือจากอินเทลมากนัก เนื่องจากอินเทลมีคอมไพล์เลอร์เป็นของตัวเอง (ไม่ได้แจกฟรี) ต่างจากเอเอ็มดีที่ส่งโค้ดมาปรับปรุง GCC ให้ทำงานกับชิปของตัวเองได้ดีขึ้นอยู่เรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม Melanie Blower ซึ่งเป็นพนักงานของทางอินเทลได้ติดต่อไปยังมูลนิธิซอฟต์แวร์เสรี (Free Software Foundation - FSF) เพื่อขอเอกสารที่มูลนิธิต้องการ สำหรับการส่งโค้ดเข้าไปยังโครงการของมูลนิธิ
ทุกวันนี้เวลาเราดูโฆษณาโน้ตบุ๊กสักรุ่นสิ่งที่เราเห็นตามมาคงเป็นประโยค "อินเทลภายใน หัวใจของคอมพิวเตอร์ชั้นยอด" พร้อมกับโลโก้อินเทลและเสียง "ตึ๊งตึง ตึ่งตึ๊ง" ตามมา
แต่อย่าแปลกใจว่าโล้โก้แบบเก่าทั้งหมดที่เป็นโลโก้อินเทลเต็มๆ แล้วมีชื่อสินค้าอยู่ด้านล่างนั้นกำลังจะหายไป เนื่องจากในวันนี้อินเทลก็ประกาศเปลี่ยนโลโก้ทั้งหมดแล้ว โดยจะขยายขนาดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้วเพิ่มลายวงจรของชิปที่เกี่ยวข้องกับสินค้าตัวนั้น เช่นถ้าเป็น Centrino ก็จะเป็นลายวงจรของ Core2
สำหรับภาพทั้งหมดนั้นดูได้ในเว็บของอินเทล ส่วนภาพตัวอย่างขนาดใหญ่นั้นดูได้โดยกด read more ครับ
หลังจากอินเทลส่ง Core i7 ซึ่งเป็นซีพียูที่ใช้แกน Nehalem รุ่นแรกออกมาจับตลาดเดสก์ท็อประดับสูงได้สักระยะ ตอนนี้ก็ได้เวลาขยายวงไปยังตลาดเซิร์ฟเวอร์ ด้วยซีพียูที่มีรหัสเดิมว่า Nehalem-EP
ในทางการตลาด อินเทลยังรักษาแบรนด์ Xeon เหมือนเดิม โดยเรียกมันว่า Xeon 5500 series แถมยังอ้างว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดตั้งแต่ Pentium Pro เมื่อ 15 ปีก่อน (ขนาดนั้นเลยรึ? อ่านบล็อกของอินเทลประกอบ From Pentium Pro to Nehalem: The Story of Transformation ประมาณว่าช่องว่างของประสิทธิภาพที่เพิ่มจากรุ่นก่อนมากที่สุดในรอบ 15 ปี)
อินเทลปล่อย Moblin V2 รุ่น Alpha2 มาให้นักพัฒนาเริ่มทดสอบกันได้แล้วเมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา โดยมีจุดขายที่ความเร็วในการทำงาน เพราะตัวลินุกซ์เคอร์เนลนั้นถูกปรับมาเพื่อชิป Atom และ Core 2 โดยเฉพาะ
ที่น่าตกใจมากคือความเร็วในการบูตที่ทีมงาน Phoronix ได้ทดสอบบนเครื่อง Samsung NC10 (กำลังเข้าเมืองไทยปลายเดือนหน้า ราคาไม่เกิน 15,000 บาท) แล้วพบว่ามันสามารถบูตได้ในเวลาเพียง 16 วินาทีเท่านั้น
ตัวเลข 16 วินาทีอาจจะดูมาก อันนี้ต้องลองดูวีดีโอกันเองว่ามันเร็วแค่ไหน
ที่มา - Phoronix
แม้ว่ากำไรในปีที่แล้วจะตกต่ำลงไปถึงร้อยละ 24 แต่ทางอินเทลก็ได้ขึ้นเงินเดือนให้กับ Paul Otellini ที่เป็น CEO ของบริษัทกว่าร้อยละ 30 คือจาก 770,000 ต่อปีเป็น 1,000,000 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 12 ล้านดอลลาร์ต่อปี
อินเทลให้เหตุผลของการขึ้นเงินเดือนในครั้งนี้ว่าตัว Paul Otellini นั้นได้รับเงินเดือนในรูปของเงินสดน้อยกว่าผู้บริหารในบริษัทระดับเดียวกันอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีเงินเดือนนี้จะอยู่ในรูปของสิทธิในการซื้อหุ้นเสียหนึ่งในสาม
อินเทลประกาศหยุดการปรับฐานเงินเดือนพนักงานในปีที่แล้วเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ
ที่มา - PhysOrg
อีกไม่นาน CPU ที่มีเพียง core เดียวก็จะหยุดวางจำหน่าย -- Multi-core CPU กำลังจะยึดครองโลก! -- เหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้โปรแกรมเมอร์ต้องหันมาเขียนโปรแกรมเชิงขนานกันอย่างจริงจัง
เมื่อวันพฤหัส-ศุกร์ที่ผ่านมา (19-20 มีนาคม) มีโอกาสได้เข้าร่วม โครงการฝึกอบรมการใช้เทคโนโลยีมัลติคอร์ (Intel Multi-core Programming Workshop) จัดโดย คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอินเทล เนื้อหาอบรมเน้นสอนการเขียนโปรแกรมเชิงขนานเบื้องต้น หลักการเปลี่ยนโปรแกรมเก่าให้ทำงานแบบเชิงขนาน ไปจนถึงการวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของโปรแกรม
แฟนๆ AMD อาจจะเริ่มท้อหลังจาก Core i7 ออกมา ช่องว่างกลับยิ่งห่าง แต่การทดสอบล่าสุดของเว็บไซต์ The Tech Report พบว่าถ้าเอาราคามาหารประสิทธิภาพ ทั้ง Phenom II และ Athlon X2 กลับชนะอินเทลไกล
การทดสอบใช้ซีพียูของอินเทล 10 รุ่น ไล่ตั้งแต่ตัวท็อป Core i7-965 ราคาตัวละ 999 ดอลลาร์ ตามมาด้วย Core 2 Quad ไปจนถึง Core 2 Duo E8400 ราคา 163 ดอลลาร์ ส่วนฝั่ง AMD นั้นมี 7 รุ่น ที่แรงสุดคือ Phenom II X4 940 ราคา 225 ดอลลาร์ และปิดด้วยซีพียูสุดประหยัด Athlon X2 6400+ ราคา 90 ดอลลาร์เท่านั้น
ถ้าใครรำคาญใจว่าเน็ตบุ๊กมันช้ากว่าที่หวัง แถมยิ่งออกรุ่นใหม่ดูเหมือนจะยิ่งช้าลงเรื่อยๆ แล้ว วันนี้มีข่าวดีหลุดมาจากไต้หวันว่าอินเทลกำลังจะวางตลาดอะตอม Atom Z550 ที่ทำงานที่สัญญาณนาฬิกา 2GHz แถมใช้พลังงานสูงสุดเพียง 2.4 วัตต์
Atom Z550 ถูกออกแบบมาให้ทำงานคู่กับชิปเซ็ต US15W ที่รองรับหน่วยความจำ 2GB ภายในมีชิปกราฟิก GMA500 รองรับวีดีโอ 720p มาในตัว กินพลังงานเฉลี่ย 0.8 วัตต์ และสูงสุดที่ 2.3 วัตต์
ที่งาน BlackHat 2009 ในกรุงวอชิงตันดีซี มีการประกาศถึงบั๊กที่ถูกค้นพบมาตั้งแต่ปลายปี 2008 คือการบุกรุกเข้าไปใช้งาน SMM (System Management Mode) ที่มีอยู่ในชิปอินเทลหลายต่อหลายรุ่น
SMM เป็นโหมดสูงสุดที่เหนือขึ้นไปกว่าโหมด Hypervisor ที่ใช้ในการทำ Virtualization โดยปรกติแล้วโหมดนี้ถูกใช้งานในการดูแลจัดการขั้นพื้นฐานเช่นการปิดเครื่องมือความร้อนสูงเกินไป หรือการควบคุมพัดลมในเครื่อง
อินเทลระบุว่ากำลังจะมีการแก้ปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยี STM (SMM Transfer Monitor) โดย ณ เวลานี้ยังไม่มีการปล่อยเทคโนโลยีนี้ออกมาแก้ปัญหาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามการบุกรุกโหมด SMM ได้นั้น ผู้บุกรุกจำเป็นต้องมีสิทธิ์ใน Ring 0 ของซีพียู หมายถึงการที่ผู้บุกรุกเป็นเจ้าของเครื่อง VM ใดๆ ในเซิร์ฟเวอร์
การแบ่งแยกบริษัทของเอเอ็มดีทำให้อินเทลแถลงการบีบให้เอเอ็มดีเปิดเผยข้อตกลงที่ทำไว้กับบริษัท Advance Technology Investment Company (ATIC) เรื่อยมา แต่ทางเอเอ็มดีก็ปฎิเสธเรื่อยมาเช่นกัน ล่าสุดทางอินเทลยื่นคำขาดให้เวลาทางเอเอ็มดี 60 วันเพื่อแก้ปัญหานี้
อินเทลนั้นเชื่อว่าบริษัท Global Foundries ที่เปิดขึ้นมาใหม่นี้ไม่น่าจะเข้าข่ายบริษัทลูกของเอเอ็มดีตามสัญญาการให้สิทธิ์ในสิทธิบัตรระหว่างกันของทั้งสองบริษัท ดังนั้น Global Foundries จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะผลิตชิป x86 ได้
อินเทลประเทศไทย ประกาศว่าจะทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลโซลิตสเตทไดรฟ์ (Solid-State-Drive หรือ SSD) รุ่น X-25 ขนาด 80GB ในตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการในงานคอมมาร์ตที่จะถึงนี้ โดยจะมีโปรโมชันคือลูกค้าที่ซื้อโปรเซสเซอร์ คอร์ ไอเซเว่นแบบบรรจุกล่อง หรือคอมพิวเตอร์ทุกแบรนด์ที่ใช้ อินเทล™ คอร์™ ไอเซเว่น โปรเซสเซอร์ หรือ อินเทล™ เซนทริโน™ 2 โปรเซสเซอร์ สำหรับโน้ตบุ๊ก สามารถนำใบเสร็จมาใช้เป็นส่วนลดมูลค่า 2,000 บาทในการซื้อ SSD รุ่น X25-M ขนาด 80 GB
ที่มา - Intel Thailand