เมื่อคืนนี้ บัญชี Twitter และ Pinterest ของคนดังอย่าง Mark Zuckerberg โดนแฮ็ก แต่หลังจากเป็นข่าว ทั้งสองบริการก็แก้ปัญหาและนำข้อมูลกลับคืนมาปกติแล้ว
กลุ่มแฮ็กเกอร์ OurMine โพสต์ข้อความลงบัญชีของ Zuckerberg ระบุว่าได้รหัสผ่านของเขามาจากบัญชี LinkedIn ที่ถูกเจาะในปี 2012 และเพิ่งถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นปัญหาของการใช้รหัสผ่านซ้ำกันระหว่างบริการหลายตัว (ซึ่งหลายคนก็ทราบเรื่องนี้ดี แต่ความสะดวกในการจดจำก็เป็นปัจจัยหนึ่ง)
ไม่คิดว่าการหางานจะเป็นเรื่องใหญ่เพียงนี้ เมื่อเครือข่ายสังคมออนไลน์สายอาชีพอย่าง LinkedIn เปิดตัวคุณสมบัติใหม่ชื่อ Premium Insights ที่ให้ผู้ใช้ที่อาจกำลังหางานใหม่ได้ดูความเคลื่อนไหวของโพรไฟล์ตัวเองว่ามีใครเข้ามาดูบ้าง พร้อมทั้งดูข้อมูลของบริษัทที่ตนสนใจได้อย่างละเอียดว่าการเติบโตของบริษัทและจำนวนบุคลากรเป็นอย่างไร สัดส่วนบุคลากรแต่ละแผนกเป็นอย่างไรตามไตรมาส โอกาสการจ้างงานในตำแหน่งที่สนใจเพิ่มขึ้นหรือไม่ และดูได้ด้วยว่าคนออกจากที่นี่แล้วไปทำงานที่ไหนต่อ และเครื่องมือนี้ยังเป็นประโยชน์กับฝั่งบริษัทด้วยว่าตนเองอยู่ระดับไหนของวงการ (น่ากลัวมาก)
ตัวเลขผู้ใช้ LinkedIn ตอนนี้อยู่ที่ 433 ล้านคนทั่วโลกครับ
ที่มา - LinkedIn
Will Johnson ครูประจำโรงเรียนและนักเขียนจากเมืองนิวยอร์ก เผยแพร่ข้อเขียนของเขาในเว็บไซต์นิตยสาร Slate โดยระบุว่าตนเองถูกเชื่อมโยงเข้ากับกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนการเหยียดผิว ผ่านอีเมลที่ส่งโดย LinkedIn ไปให้ผู้ใช้รายอื่นๆ ที่เขารู้จัก
สำนักข่าว AFP รายงานผ่านสำนักข่าว France 24 ของฝรั่งเศสว่า LinkedIn ได้ออกประกาศแจ้งเตือนไปยังสมาชิกว่า ข้อมูลที่ได้มาจากการเจาะระบบเมื่อปี 2012 ตอนนี้ถูกปล่อยสู่สาธารณะแล้ว และแนะนำให้เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นการด่วน
ข้อมูลระบุว่า บัญชีผู้ใช้กว่า 100 ล้านบัญชีได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ (มากกว่าที่ระบุไว้ตอนแรกที่ 6.5 ล้านบัญชี) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากแฮกเมื่อปี 2012 ดังกล่าว โดนในตอนนี้ LinkedIn ทำการยกเลิกรหัสผ่านเดิมของผู้ใช้ทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบ และจะติดต่อเพื่อขอให้เปลี่ยนรหัสผ่าน ขณะที่ระบุว่ายังไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ว่ามีการแฮกรอบใหม่เกิดขึ้น
ปัญหาของครอบครัวสมัยใหม่ที่สุภาพสตรีที่ร้างราจากสนามการทำงานออกมาดูแลบุตร แต่ยังมีความต้องการกลับไปหางาน ทำงานใหม่อีกครั้งก็กลัวไม่ทันรุ่นน้องที่สดกว่าใหม่กว่า หรือได้งานชั้นเริ่มต้นทั้งที่มีประสบการณ์โชกโชน
Jennifer Gefsky อดีตนักกฎหมายที่ออกจากงานมาดูแลบุตรก็พบข้อจำกัดนี้ และสร้าง Après ขึ้นมาเพื่อเป็นตลาดงานสำหรับคุณแม่ที่ต้องการกลับไปทำงาน สานต่อคอนเนคชั่นในแวดวงตัวเองได้ โดยมีหลายองค์กรที่ต้องการความหลากหลายทางบุคลากรเริ่มเข้ามาลงประกาศแล้ว แม้เพิ่งเปิดตัวเป็นการไปเมื่อ 4 พ.ค. แต่ก็มีผู้ใช้หลักหลายพันคนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัย 35 ปีขึ้นไป
Après ใช้งานฟรี หรือเป็นสมาชิกพรีเมี่ยมที่ปีละ 250 เหรียญสหรัฐฯ หรือเดือนละ 25 เหรียญสหรัฐฯ ครับ ไม่มี "กินค่าหัวคิว" เมื่อสมาชิกได้งานผ่านแพลตฟอร์ม
ที่มา - Apres ผ่าน Fast Company
ปัญหาของหลายคน (รวมถึงผมด้วย) คือเรียนจบมาแล้วแต่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรือเหมาะกับงานไหน LinkedIn เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เด่นเรื่องหางานและติดต่อผู้คนในสายวิชาชีพ เปิดตัวแอพ LinkedIn Students ช่วยเด็กจบใหม่หางานที่ตรงตามสาขาที่จบมา โดยใช้ข้อมูลจากเส้นทางอาชีพของผู้ใช้ในระบบ และเอื้อให้หาคอนเนคชั่นจากรุ่นพี่ร่วมคณะที่จบไปแล้วได้ด้วย ดาวน์โหลดได้ฟรีบน iOS และ Android แล้ว แต่ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐฯ ครับ
ที่มา - LinkedIn
Jeff Weiner ซีอีโอของ LinkedIn สละสิทธิในหุ้นที่ผู้บริหารจะได้รับในปี 2016 (ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าตอบแทนผู้บริหาร นอกเหนือจากเงินเดือน) โดยเขายกโควต้าหุ้นส่วนนี้ให้เป็นหุ้นส่วนกลางสำหรับพนักงาน (stock pool) แทน
เว็บไซต์ Re/code ได้ข้อมูลวงในว่าหุ้นก้อนนี้มีมูลค่าประมาณ 14 ล้านดอลลาร์ หรือราว 500 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับหุ้นที่ Weiner ได้ในปีที่แล้ว 13 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้เราเคยเห็นข่าว ซีอีโอ Twitter ยกหุ้น 1/3 ให้กับพนักงานของบริษัท และ ซีอีโอเลอโนโวใจป้ำ ยกโบนัสให้พนักงานระดับล่าง
ในยุคที่บริษัทอินเทอร์เน็ตหันมาออกแบบฮาร์ดแวร์ในศูนย์ข้อมูลกันเอง เราเห็นข่าวกูเกิล-เฟซบุ๊กทำอะไรแบบนี้กันอยู่บ่อยๆ บริษัทอย่าง LinkedIn ก็มีโครงการแบบเดียวกัน โดยเปิดตัวสวิตช์รุ่นแรกของตัวเองที่เรียกว่า "Pigeon"
โครงการของ LinkedIn มีชื่อว่า Project Falco มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหา latency ภายในศูนย์ข้อมูลของตัวเอง ทีมวิศวกรพบว่าปัญหา latency เกิดจากอาการ "microbust" หรือบัฟเฟอร์แพ็คเก็ตมีข้อมูลเยอะจนล้น แต่ผู้ขายอุปกรณ์เครือข่ายในท้องตลาดไม่ตอบโจทย์ เพราะไม่เปิดให้คนภายนอกเข้าถึง API ดูข้อมูลชิปควบคุม ส่งผลให้ LinkedIn ไม่สามารถพัฒนาฟีเจอร์หรือแก้บั๊กเองได้ นั่นแปลว่าชะตาชีวิตของบริษัทอยู่ในกำมือคนอื่น
เครือข่ายสังคมสำหรับคนทำงาน LinkedIn ปรับหน้าจอหางานสำหรับผู้ใช้ใหม่ โดยนำเทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูล (analytics) จากฐานผู้ใช้จำนวนมาก มาปรับปรุงให้ผู้ใช้หางานได้แม่นยำมากขึ้น
LinkedIn เครือข่ายสังคมสำหรับคนทำงาน ที่เคยถล่มอินบ็อกซ์ของทุกท่านด้วยอีเมลจำนวนมาก เคยประกาศมาตรการว่าจะลดปริมาณอีเมลลง
วันนี้บริษัทออกมาประกาศว่าหลังดำเนินมาตรการแล้ว ลดปริมาณอีเมลลงได้ 50% และลดการร้องเรียนเรื่องนี้ลงได้ 65% แถมบริษัทยังพัฒนาแพลตฟอร์มชื่อ Air Traffic Controller (ATC) สำหรับการติดต่อทุกประเภททั้งอีเมล การแจ้งเตือนในแอพ และ SMS โดยใช้เทคนิค machine learning หาปริมาณความถี่ที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน เช่น สำหรับผู้ใช้ที่เปิดเว็บ-แอพบ่อยๆ จะได้อีเมลลดลง เพราะรับทราบข้อมูลจากการแจ้งเตือนบนเว็บอยู่แล้ว
ไมโครซอฟท์เผยฟีเจอร์ใหม่ของ Cortana คือ การเข้าถึงข้อมูลจาก LinkedIn ของคนที่จะเข้าประชุม (อาทิ รูปภาพ ตำแหน่งงาน บริษัทที่ทำงานอยู่) ในการแจ้งเตือนปฏิทินนัดหมายได้แล้ว
ในการใช้งานนั้น ผู้ใช้จะต้องผูกบัญชี LinkedIn กับ Cortana ก่อน เมื่อมีการแจ้งเตือนปฏิทินนัดหมายซึ่งถูกบันทึกในแอพ Mail & Calendar บน Windows 10 ผู้ใช้จะสามารถดูโปรไฟล์ของคนที่จะเข้าร่วมประชุมได้
ที่มา: Windows Experience Blog
แต่เริ่มเดิมที LinkedIn มีระบบส่งข้อความแล้ว แต่เป็นฟีเจอร์ที่ไม่ได้มีการปรับปรุงจริงจังอะไรนัก แต่ล่าสุด LinkedIn ได้มีการปรับปรุงระบบข้อความใหม่ โดยแสดงระบบข้อความในลักษณะการแชตส่วนตัวมากขึ้น ตั้งกรุ๊ปได้ ส่งสติกเกอร์ อีโมจิ และไฟล์ GIF ก็ได้
ดูหน้าตาระบบข้อความแบบใหม่ได้ท้ายเบรก
LinkedIn ยกเครื่องระบบข้อความของตัวเองใหม่ หน้าตาเรียบง่ายกว่าเดิม ดูคล้ายแอพแชททั่วไปมากขึ้น แถมยังรองรับการส่งสติ๊กเกอร์, emoji, แอนิเมชัน GIF ด้วย
การปรับระบบข้อความของ LinkedIn รอบนี้ทำให้ข้อความอัตโนมัติบางประเภท เช่น invitation ขอเป็นเพื่อน หรือ introduction ขอให้คนอื่นแนะนำให้รู้จัก ถูกย้ายออกจากระบบ Message แบบแชทไปอยู่ในหน้า Connection แทน
LinkedIn เปิดใช้ระบบข้อความแบบใหม่กับสมาชิกที่พูดภาษาอังกฤษแล้วทั้งเวอร์ชันเว็บและอุปกรณ์พกพา ส่วนภาษาอื่นๆ จะตามมาต่อไปครับ
ที่มา - LinkedIn
แนวทางการส่งอีเมลประชาสัมพันธ์ หรือจดหมายแจ้งข่าว (newsletter) เป็นวิธีที่บริการออนไลน์ส่วนมากนิยมใช้กันเพื่อชักจูงให้ผู้ใช้มาเข้าใช้บริการบ่อยๆ แน่นอนว่าวิธีการแบบนี้ทำให้ผู้ใช้หลายคนเกิดความรำคาญ บางคนถึงขั้นนำอีเมลจำพวกนี้ใส่เข้าไปในอีเมลขยะ ล่าสุดบริการที่ส่งอีเมลแจ้งข่าวบ่อยๆ อย่าง LinkedIn ออกมาประกาศทิศทางใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว
Pulse แอพอ่านข่าวที่ถูก LinkedIn ซื้อไปแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น LinkedIn Pulse พร้อมตั้งเป้าเป็นแอพสำหรับแชร์ข่าวสารในเครือข่ายคนทำงาน ล่าสุดอัพเดตใหม่เพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างคนที่รู้จัก กับเรื่องที่ควรอ่านเข้ามา
LinkedIn Pulse โฉมใหม่เรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงไปจากความเป็นแอพอ่านฟีดข่าวเดิม กลายไปสู่การเชื่อมโยงข้อมูลความสนใจของเรากับผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ และแสดงบทความ และโพสต์น่าอ่านในสายงานนั้นๆ เพิ่มเติมจากฟีดข่าวเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยอิงจากบริบทของผู้ใช้ ทั้งบริษัทที่ทำงานอยู่ และกลุ่มเครือข่ายที่รู้จัก
LinkedIn เว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์สำหรับคนทำงาน ประกาศเข้าซื้อกิจการของ Lynda.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์การเรียนผ่านออนไลน์ (แบบเดียวกับ Coursera, Udemy) ด้วยมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ สรอ. (ประมาณ 48,000 ล้านบาท) เพื่อขยายฐานกิจการของตัวเองให้ไปไกลกว่าบริการดั้งเดิม
การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวนี้จะใช้เงินสดประมาณร้อยละ 52 ของมูลค่าการเข้าซื้อ ในส่วนที่เหลือจะเป็นหุ้น ซึ่งทาง LinkedIn คาดว่าการเข้าซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นในช่วงสิ้นไตรมาสนี้
ข่าวการเข้าซื้อดังกล่าว ทำให้ราคาหุ้นของ LinkedIn เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 โดยไปปิดอยู่ที่ 256.14 ดอลลาร์ สรอ. ต่อหุ้น (ประมาณ 8,300 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่มากกว่าปีที่แล้วอยู่ร้อยละ 12
LinkedIn ประกาศซื้อกิจการเว็บไซต์ Lynda.com เว็บรวมวิดีโอสอนทักษะอาชีพด้านต่างๆ ด้วยราคาสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นการซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดของ LinkedIn
Lynda.com เป็นเว็บเก่าแก่ที่เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1995 โดยรวมคอร์สสอนทักษะวิชาชีพหลากหลายสาขา คิดราคาแบบพรีเมียม เริ่มต้นเดือนละ 25 ดอลลาร์สำหรับบุคคลทั่วไป และมีแพ็กเกจสำหรับลูกค้าองค์กรซื้อเพื่อฝึกอบรมพนักงานด้วย
เป้าหมายของ LinkedIn นั้นชัดเจนว่าต้องการ Lynda.com มาช่วยเติมเต็มด้านการเพิ่มทักษะอาชีพให้กับคนหางานผ่านเครือข่ายสังคมของตัวเอง และน่าจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนคนทำงานที่มีทักษะตามที่ตลาดแรงงานต้องการลงได้
LinkedIn ประกาศซื้อกิจการบริษัท Careerify ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จ้างงานโดยอาศัยเครือข่ายสังคมของพนักงานในองค์กร ช่วยแนะนำหาคนมาทำงาน (employee referrals)
Careerify เป็นบริษัทจากแคนาดา ก่อตั้งในปี 2009 ช่วงเดียวกับที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก มีเป้าหมายคือนำเทคโนโลยีมาช่วยลดอัตราการว่างงาน โดยเรียกซอฟต์แวร์ของตัวเองว่า Talent Acquisition Platform และจับกลุ่มลูกค้าเป็นฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) ขององค์กรต่างๆ
Careerify บอกว่าการไปอยู่กับ LinkedIn จะช่วยให้ซอฟต์แวร์ของตัวเองเข้าถึงเครือข่ายองค์กรกว่า 30,000 แห่งที่ใช้ LinkedIn ช่วยในการจ้างงาน และเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ LinkedIn กว่า 347 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเป็นขนาดผู้ใช้ที่ตัว Careerify เองไม่สามารถทำได้โดยลำพัง
จากเมื่อปลายปีที่แล้ว ทาง Instagram ได้ออกมาประกาศจำนวนตัวเลขผู้ใช้งานที่ 300 ล้านคน ซึ่งแซงหน้า Twitter ที่ไตรมาสก่อนหน้าไปเล็กน้อย แต่เมื่อค้นพบภายหลังว่ามีบัญชีปลอมและสแปม และเดินหน้าไล่ลบบัญชีเหล่านั้น ก็คงมีคำถามกันไม่มากก็น้อยว่าแล้วบัญชีที่เหลืออยู่มีจำนวนเท่าไหร่? และยังคงแซงหน้า Twitter เหมือนที่เคยประกาศไว้หรือไม่?
ระบบ Publishing platform เป็นระบบที่โพสต์บทความที่เขียนเอง (เหมือนบล็อก) แต่ใช้ได้เฉพาะกลุ่มผู้มีชื่อเสียง 25,000 ราย ซึ่งทดลองใช้มาระยะหนึ่งจนตอนนี้ก็มีหนึ่งล้านโพสต์แล้ว LinkedIn จึงฉลองด้วยการขยายขอบเขตของการให้บริการ โดยผู้ใช้ที่ใช้ภาษาอังกฤษจำนวน 250 ล้านคน ก็จะได้ใช้ฟีเจอร์นี้เหมือนกัน และมีแผนที่จะขยายให้ผู้ใช้ทั่วโลกได้ใช้งานฟีเจอร์นี้ในเดือนต่อๆ ไป
เป้าหมายของการเปิดให้สมาชิกโพสต์บทความได้นั้นก็เพื่อเพิ่มยอดการเข้า LinkedIn ให้มากขึ้นนั่นเอง
ที่มา - TechCrunch
LinkedIn เครือข่ายสังคมสำหรับคนทำงาน เตรียมปรับหน้าเว็บใหม่อีกรอบเพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นข้อมูลสำคัญได้ง่ายขึ้น
LinkedIn บอกว่าจะเริ่มทยอยอัพเดตหน้าเว็บแบบใหม่ให้ผู้ใช้ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป
LinkedIn เริ่มใช้ประโยชน์จากข้อมูลในเครือข่ายสังคมของตัวเอง โดยออกแอพใหม่ชื่อ LinkedIn Connected (ตอนนี้ยังมีเฉพาะบน iPhone) หน้าที่ของมันก็ตรงตามชื่อคือเอาไว้หาคอนเนคชั่นโดยเฉพาะ
กลุ่มบริษัทไอทีชื่อดังผู้ให้บริการออนไลน์ ได้แก่ Aol., Apple, Dropbox, Facebook, Google, LinkedIn, Microsoft, Twitter, และ Yahoo! ลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีและรัฐสภาสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการปฎิรูป 5 ประเด็นสำคัญในกระบวนการสอดส่องข้อมูลออนไลน์ ได้แก่
SlideShare เว็บไซต์สำหรับแชร์สไลด์ออนไลน์ที่ LinkedIn เข้าซื้อกิจการไปเมื่อปี 2012 ได้ฤกษ์ปล่อยแอพลง Play Store แล้วเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา
ความสามารถของแอพ SlideShare ในตอนนี้ทำได้เพียงการดูและแชร์สไลด์ ติดตามหัวข้อที่สนใจ บันทึกเพื่อดูแบบออฟไลน์ แต่ยังไม่สามารถอัพโหลดเอกสารได้
นอกจากนี้แล้ว บนเว็บไซต์ SlideShare ยังเพิ่มเครื่องมือช่วยจำลองการแสดงผลสไลด์บนอุปกรณ์พกพา และปรับปรุงโมบายเว็บให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
LinkedIn เครือข่ายสังคมสำหรับอาชีพการงาน ออกมาประกาศยอดสมาชิกแตะหลัก 300 ล้านคนแล้ว สถิติที่น่าสนใจมีดังนี้