ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ให้ Office 365 ในอัพเดตเดือนตุลาคม 2017 โดยตัวที่น่าสนใจคือการผนวก LinkedIn เข้ามาใน Outlook.com
ฟีเจอร์นี้เป็นการผนวกข้อมูลของ LinkedIn เข้ามายังสมุดที่อยู่ของ Outlook.com โดยเราจะเห็นประวัติของคนที่ส่งอีเมลเข้ามา ว่าเป็นใครใน LinkedIn และมีประวัติอย่างไรบ้าง จะเริ่มเปิดใช้งานในเดือนพฤศจิกายนให้กับผู้ใช้ทีละกลุ่มๆ ไป
ฟีเจอร์ใหม่อย่างอื่นได้แก่ ระบบการแปลภาษาใน Word ที่เริ่มย้ายมาใช้เอนจิน neural machine translation, Custom Functions ของ Excel เริ่มเปิดทดสอบพรีวิว, Visio Online เริ่มเปิดบริการ
LinkedIn โซเชียลเน็ตเวิร์คภายใต้ Microsoft ได้เริ่มหาหนทางทำเงินใหม่ นั่นคือการขายโฆษณาในรูปแบบวิดีโอเล่นอัตโนมัติ
สำหรับวิดีโอโฆษณาแบบใหม่ของ LinkedIn นี้ จะปรากฏเหมือนกับวิดีโออื่น ๆ บน LinkedIn ซึ่งทางบริษัทกล่าวว่าวิดีโอนั้นมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าคอนเทนต์ในแบบอื่น ๆ บน LinkedIn โดยวิดีโอนั้นถูกแชร์บ่อยกว่าโพสต์แบบอื่นถึง 20 เท่า ซึ่งแน่นอนว่าโฆษณาแบบวิดีโอจะต้องแพงกว่าโฆษณาแบบอื่น
Microsoft นำ LinkedIn บุกตลาดประเทศเกิดใหม่โดยการเปิดตัว LinkedIn Lite แอพ LinkedIn บนมือถือที่ถูกตัดการใช้ทรัพยากรในบางส่วนลง เพื่อให้ผู้ใช้ในตลาดเกิดใหม่ซึ่งมีโทรศัพท์มือถือที่ประมวลผลช้าและอินเทอร์เน็ตมีราคาแพงใช้งานได้สะดวกขึ้น
แอพ LinkedIn Lite เริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดแล้วในประเทศอินเดีย โดยทางบริษัทเผยว่าจะขยายการใช้งานให้ครอบคลุมกว่า 60 ประเทศทั่วโลกในสัปดาห์หน้าและเดือนหน้า
เวลาผ่านไปสมควรหลัง LinkedIn ขายกิจการให้ไมโครซอฟท์ ก็ได้เวลาของสิ่งที่ควรทำให้ต้นสังกัด นั่นคือแอพ LinkedIn แบบ UWP บน Windows 10
แอพตัวนี้ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ของ Windows 10 อย่างเต็มที่ เพราะมันเชื่อมตัวเองเข้ากับ Start Menu (แสดง Live Tile) และระบบแจ้งเตือน (Notification) บนแถบ Action Center
แอพเริ่มทยอยเปิดให้ดาวน์โหลดบน Windows Store แล้ว (ผมลองหาใน Store ของไทยยังไม่มี) และไมโครซอฟท์ระบุว่ามันมีทั้งหมด 22 ภาษาซึ่งรวมถึงภาษาไทยด้วย
บริษัทไอที 5 รายคือ HPE, LinkedIn, GE Digital, Flex, Vapor IO ประกาศตั้งมูลนิธิ The Open19 Foundation เป็นองค์กรกลางเพื่อวางมาตรฐานฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์-ศูนย์ข้อมูลร่วมกัน
แนวทางของ Open19 จะคล้ายกับโครงการ Open Compute Project (OCP) ที่ริเริ่มโดย Facebook แต่กรณีของ Open19 จะเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กที่บริษัททั่วไปมีกัน ต่างไปจาก OCP ที่เน้นการออกแบบเซิร์ฟเวอร์สำหรับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ระดับ Facebook หรือ Microsoft
ในเบื้องต้น Open19 ยังออกแบบเฉพาะมาตรฐานเซิร์ฟเวอร์สำหรับศูนย์ข้อมูล แต่ในอนาคตก็เตรียมจะออกแบบคอมพิวเตอร์ประมวลผลปลายทาง (edge computing) สำหรับตลาด IoT ด้วย
LinkedIn เผยอันดับ 50 บริษัทในสหรัฐที่น่าทำงานด้วยที่สุดประจำปีที่แล้ว นำมาโดย Alphabet, Amazon, Facebook, Salesforce และ Uber ใน 5 อันดับแรก
ส่วนอันดับ 6-10 ได้แก่ Tesla, Apple, Time Warner (บริษัทแม่ Warner Bros, HBO), Walt Disney และ Comcast NBC Universal
ขณะที่บริษัทไอทีอื่นๆ อย่าง Airbnb อยู่อันดับ 11, Netflix อันดับ 12, Dell อันดับ 14, ทวิตเตอร์อันดับ 17, VISA อันดับ 19, Adobe อันดับ 24, Oracle อันดับ 26, Cisco อันดับ 28, Verizon อันดับ 29, Fitbit อันดับ 32, Yelp อันดับ 35, Lyft อันดับ 38, Pandora อันดับ 40, Dropbox อันดับ 42, Gartner อันดับ 43, Box อันดับ 47 และ Square อันดับ 49
LinkedIn เผยมียอดผู้ใช้ทะลุ 500 ล้านคนแล้วใน 200 ประเทศ ส่วนประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดคือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รองลงมาคือเนเธอร์แลนด์ ด้านเมืองที่มีผู้ใช้มากที่สุดคือ ลอนดอน และ อัมสเตอร์ดัม
ไมโครซอฟท์ซื้อ LinkedIn มาตั้งแต่ปีที่แล้วในราคาถึง 26.2 พันล้านดอลลาร์ ตอนนี้ก็เริ่มการหลอมรวมบริการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของไมโครซอฟท์ด้วยการเชื่อมต่อเข้ากับบริการ Dynamics 365 โดยเชื่อมต่อทั้งบริการด้านงานขายและงานฝ่ายบุคคล
ด้านการขายจะกลายเป็นโซลูชั่น Microsoft Relationship Sales ที่เชื่อม LinkedIn Sales Navigator เข้ากับ Dynamics 365 for Sales เพื่อจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า ขณะที่งานด้านฝ่ายบุคคลจะเชื่อม Dynamics 365 for Talent เข้ากับ LinkedIn's Recruiter and Learning เพื่อบริการบุคคลากรในองค์กร
Microsoft Relationship Sales คิดค่าบริการ 135 ดอลาร์ต่อผู้ใช้ต่อเดือน โซลูชั่นทั้งสองจะเริ่มเปิดบริการจริงเดือนกรกฎาคมนี้
LinkedIn ได้โอเพ่นซอร์ส Flashback เครื่องมือสำหรับทำเลียนแบบทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตเพื่อทดสอบการพัฒนา ภายใต้สัญญา BSD two-clause โดย LinkedIn นั้นได้นำ Flashback มาเป็นเครื่องมือสำหรับทดสอบระบบหลายอย่าง ทั้งความเร็ว, ความคงทน และความสามารถในการขยายตัวบนโค้ดใหม่ก่อนที่จะเริ่มใช้งานเป็นวงกว้าง
Flashback นั้นพัฒนาอยู่บน Betamax ซึ่งเป็นเครื่องมืออีกอย่างที่ช่วยเลียนแบบการทำงานของเว็บเซอร์วิส และ REST API แต่มีความแตกต่างคือ Flashback สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งเหมาะกับ LinkedIn ที่จำเป็นต้องทดสอบระบบในสภาพแวดล้อมปิดเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย ในขณะที่ Betamax จะทำงานเมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น
LinkedIn ได้เปิดตัวแอพใหม่ทั้งหมดสามตัวในงาน Future Decoded ที่จัดขึ้นในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เพื่อช่วยการหางานในประเทศอินเดีย โดยทั้งหมดเป็นแอพที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานกับชาวอินเดีย
แอพตัวหลักในชุดนี้คือ LinkedIn Lite ซึ่งเป็นแอพที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับการเชื่อมต่อทุกระดับ รวมถึง 2G ด้วย ซึ่ง Satya Nadella บอกว่าแอพนี้จะเร็วกว่า LinkedIn แบบเดิมถึง 4 เท่า ทำให้ชาวอินเดียที่มักจะมีข้อจำกัดต่าง ๆ สามารถใช้งานแอพนี้ได้อย่างราบรื่น
ถัดไปคือแอพ Starter Pack คือแอพที่รวมโซลูชั่นธุรกิจแบบพรีเมี่ยมบน LinkedIn ไว้ ทั้งสำหรับธุรกิจระดับเล็กและระดับกลาง เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงเครื่องมือการจ้างงาน, การจัดการความสามารถ, การตลาด และการขายแบบ B2B ของ LinkedIn
LinkedIn มีชื่อเสียงมานานเรื่องหน้าตาที่รกและหาข้อมูลลำบาก แต่ในที่สุด LinkedIn ก็เผยโฉมหน้าเว็บแบบใหม่ ถือเป็นการยกเครื่องดีไซน์ครั้งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดบริษัทมา
ของใหม่ในเว็บโฉมใหม่คือหน้าตาใช้ง่ายขึ้น แยกแท็บ-ไอคอนเป็นหมวดหมู่ที่เมนูด้านบนทั้งหมด 7 แท็บ (Home, Messaging, Jobs, Notifications, Me, My Network, Search) รูปแบบจะคล้ายกับแอพมากกว่าเว็บ สลับหน้าจอได้ง่าย ทำงานรวดเร็วขึ้น ไม่จำเป็นต้องโหลดเพจทั้งหน้า
LinkedIn ได้โอเพ่นซอร์สซอฟต์แวร์ที่ใช้งานสำหรับรันการทดสอบแอพบน iOS เรียกว่า Bluepill เพื่อให้รันการทดสอบได้ทีละหลายการทดสอบ
ปัญหาของ Xcode อย่างหนึ่งคือ นักพัฒนาสามารถรัน instant บน simulator ได้ครั้งละการทดสอบ ในขณะที่ LinkedIn ต้องทดสอบ UI กว่า 2,000 ครั้งเพื่อทำให้แน่ใจว่าโปรแกรมสามารถทำงานได้กับแอพหลักอย่างไม่มีปัญหา โดย Bluepill จะช่วยให้ LinkedIn รันการทดสอบทีละหลายครั้งได้อย่างรวดเร็วและไม่ซับซ้อน
Omidyar Network ของ Pierre Omidyar (ผู้ก่อตั้ง eBay) ร่วมกับ Reid Hoffman (ผู้ก่อตั้ง LinkedIn) และมูลนิธิ Knight Foundation ลงเงินกัน 27 ล้านดอลลาร์ ก่อตั้งกองทุนวิจัย AI เพื่อมวลชน โดยเน้นการใช้งาน AI ที่อย่างมีจรรยาบรรณและมีการควบคุมดูแลที่ดี
กองทุนนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า Ethics and Governance of Artificial Intelligence Fund โดยมีหน่วยงานภาคการศึกษา The MIT Media Lab ของสถาบัน MIT และศูนย์ the Berkman Klein Center for Internet & Society ของ Harvard University มาช่วยสนับสนุน กองทุนจะให้เงินกับโครงการวิจัยด้าน AI ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ไม่จำกัดเฉพาะสายงานไอที แต่ครอบคลุมไปถึงนักสังคมศาสตร์ นักปรัชญา เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย นโยบาย และด้านศาสนา-ความเชื่อ
เว็บไซต์ The Verge รายงานว่า ทางแอปเปิลและกูเกิลต่างตกลงที่จะนำแอพ LinkedIn โซเชียลมีเดียด้านการหางาน ออกจากหน้า App Store และ Play Store ในประเทศรัสเซีย หลังจากที่ตัวเว็บไซต์ได้ถูกบล็อกไปก่อนแล้ว
LinkedIn ถูกบล็อกในรัสเซียเนื่องจาก ได้ทำผิดกฎหมายของรัสเซียว่าด้วยการห้ามทำการเก็บข้อมูลของชาวรัสเซียไว้นอกประเทศ
ที่มา - The Verge
Lynda.com เว็บไซต์รวมวิดีโอสอนทักษะวิชาชีพซึ่งเป็นของ LinkedIn ได้รีเซ็ทรหัสผ่านผู้ใช้ 55,000 คนเนื่องจากพบปัญหาข้อมูลรั่วไหลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลของผู้ใช้ Lynda.com ที่มีกว่า 9.5 ล้านบัญชี โดยข้อมูลที่เข้าถึงได้ เช่น ชื่อของผู้ใช้, ที่อยู่อีเมล และคอร์สที่ดูไปแล้ว
ฐานข้อมูลที่เป็นเป้าหมายนั้น ยังมีรหัสผ่านของผู้ใช้อีกว่า 55,000 บัญชีอีกด้วย โดยโฆษกของ LinkedIn กล่าวกับ Fortune ว่ารหัสผ่านที่ถูกขโมยไปทั้งหมดนี้ถูกแฮชและ salted ไว้เรียบร้อยแล้วเพื่อทำให้ข้อมูลแกะยากขึ้น โดยใช้อัลกอริทึม PBKDFv2 ในการแฮชรหัสผ่าน
อภิมหาดีลในช่วงกลางปีอย่างการเข้าซื้อ LinkedIn ของไมโครซอฟท์เป็นมูลค่ากว่า 2.6 หมื่นล้านเหรียญ ล่าสุดดีลนี้สำเร็จลุล่วงแล้ว
Satya Nadella ได้โพสต์ลงบนโน้ตของ LinkedIn ระบุว่าตลอดระยะเวลากว่า 6 เดือนที่ผ่านมา ได้ทำงานร่วมกันมาตลอด พร้อมทั้งเผยแผนการณ์รวม LinkedIn เข้ากับผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์คร่าวๆ ดังนี
สถานีโทรทัศน์ในรัสเซียพร้อมกันรายงานข่าวว่า LinkedIn โซเชียลมีเดียด้านการหางานถูกศาลรัสเซียสั่งบล็อค หลังละเมิดกฎหมายไซเบอร์ฉบับใหม่ ที่บังคับให้ผู้ให้บริการเก็บล็อกข้อมูลไว้ในรัสเซีย 6 เดือน
ถึงแม้ศาลจะอ้างว่าละเมิดกฎหมาย แต่หลายฝ่ายก็คาดว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลรัสเซีย ที่จะปิดกั้นการเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เนื่องจากถูกใช้เป็นเครื่องมือในการปลุกปั่นและนัดประท้วงต่อต้านรัฐบาล ซึ่ง LinkedIn เป็นสื่อโซเชียลมีเดียแรกที่โดน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของรัฐก็อ้างด้วยว่า LinkedIn เคยมีประวัติเสียเรื่องการเก็บล็อกข้อมูลเก่าและข้อมูลผู้ใช้รั่วไหลด้วย
เพราะชีวิตจริงไม่ใช่กระทู้พันทิปที่เอาไว้อวดเงินเดือนกัน LinkedIn เครือข่ายสังคมออนไลน์สายอาชีพ เปิดตัว LinkedIn Salary ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบรายได้, โบนัส และผลตอบแทนกับผู้ใช้รายอื่นในสายงานเดียวกันได้สะดวกขึ้น พร้อมคำนึงถึงตัวแปรต่างๆ ทั้งขนาด สถานที่ อายุงาน ระดับการศึกษาด้วย และข้อมูลปัจเจกทุกอย่างจะยังถูกเข้ารหัสเหมือนเดิม
ข้อดีของระบบนี้ LinkedIn ระบุว่าจะช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมเรื่องรายได้ของสายงาน ทราบว่าทำงานที่ไหนจ่ายดีสุด ระดับการศึกษาที่ควรมี และเปรียบเทียบขนาดขององค์กรได้ ผู้ใช้แบบพรีเมี่ยมสามารถเข้าใช้ได้ทันที ไม่ต้องระบุข้อมูลรายได้ของตน ใช้งานได้แล้วที่สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักรและแคนาดา และเปิดทั่วโลกในปี 2017
ที่มา - LinkedIn
ปีที่แล้ว LinkedIn เข้าซื้อกิจการ Lynda.com เว็บไซต์การเรียนผ่านออนไลน์ เพื่อขยายตัวมายังธุรกิจด้าน e-learning อย่างจริงจัง วันนี้ LinkedIn เปิดตัวบริการใหม่ LinkedIn Learning ที่เป็นศูนย์รวมด้าน e-learning ของบริษัทแล้ว
เป้าหมายของ LinkedIn Learning คือช่วยพัฒนาทักษะของพนักงาน โดยดึงเนื้อหาจากทั้ง Lynda.com และในเครือข่ายของ LinkedIn เองมาผสมผสานกัน ตอนนี้ในระบบมีคอร์สการเรียนรู้ออนไลน์กว่า 9,000 คอร์ส และมีระบบแนะนำคอร์สที่น่าจะเหมาะสมกับเรา โดยอิงจากประวัติของเราบน LinkedIn ด้วย การเรียนมีทั้งผ่านวิดีโอ ฟังไฟล์เสียงบรรยาย และใช้งานได้จากแอพบนอุปกรณ์พกพา
LinkedIn ได้เปิดตัวโครงการใหม่สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ โดยใช้ชื่อโครงการว่า Open19 ซึ่งตอนเริ่มต้น LinkedIn จะเป็นผู้ดำเนินโครงการเอง และจะค่อย ๆ หาพาร์ทเนอร์เข้าร่วมกับโครงการนี้
เป้าหมายของ Open19 นี้คือจะเป็นการลดราคาต่อแร็คและเซิร์ฟเวอร์, ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และเปิดเป็นมาตรฐานสำหรับทุกคนที่สามารถเข้ามาใช้งานและมีส่วนร่วมในการพัฒนาได้ โดยมาตรฐาน Open19 นี้คือตั้งใจจะทำให้เข้ากับ rack environment แบบ 19 นิ้วสำหรับเซิร์ฟเวอร์ทุกแบบ และสามารถนำไปปรับใช้กับศูนย์ข้อมูลได้ทุกแบบไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
ที่ดินในแถบซิลิคอนวัลเลย์หายากขึ้นทุกวัน การสร้างสำนักงานขนาดใหญ่ก็ทำได้ยาก ล่าสุดกูเกิลประกาศ "แลก" ที่ดินกับ LinkedIn เพื่อให้ที่ดินของทั้งสองบริษัทยาวติดกันเป็นผืนเดียว สมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
LinkedIn มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมือง Mountain View ติดกับสำนักงานใหญ่ของกูเกิล จากข้อตกลงนี้ LinkedIn จะยกพื้นที่ตรงนี้ให้กูเกิล เพื่อไปเอาพื้นที่สำนักงานของกูเกิลแห่งอื่นในเมือง Mountain View และเมือง Sunnyvale ที่อยู่ติดกันแทน
จากข้อตกลงนี้ กูเกิลจะได้ที่ดินผืนใหญ่เพื่อไปสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ส่วน LinkedIn ก็ได้พื้นที่ใหญ่ขึ้นอีกเท่าตัว ช่วยให้ LinkedIn สามารถเดินหน้าสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของตัวเองได้เร็วกว่าแผนเดิมเช่นกัน
ยังมีข่าวสืบเนื่องจากดีล ไมโครซอฟท์ซื้อ LinkedIn โดยหน่วยงาน SEC หรือ ก.ล.ต. ของอเมริกาได้เผยแพร่ข้อมูลทางการเงิน ของรายละเอียดการซื้อกิจการนี้ เผยว่ามีผู้ยื่นขอเสนอซื้อ LinkedIn อย่างน้อย 5 ราย
ในเอกสารไม่ได้ระบุว่าอีก 4 รายที่เหลือคือใคร (ใช้คำว่าบริษัท A, B, ฯลฯ) แต่ Kurt Wagner และ Mark Bergen แห่ง Recode บอกว่ามี Salesforce (ตามข่าวก่อนหน้านี้) ส่วนอีกสองรายที่รู้คือ กูเกิล และ Facebook เหลือหนึ่งบริษัทที่ไม่มีข้อมูล
ในเอกสารยังระบุช่วงเวลาการเจรจาของ LinkedIn กับบริษัททั้ง 5 แห่ง โดยบริษัท B (คาดว่าเป็นกูเกิล) ได้คุยกับซีอีโอ LinkedIn ในเดือนมีนาคม หลังจากไมโครซอฟท์และ Salesforce ได้ยื่นขอเสนอซื้อก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายก็ขอถอนตัวไปโดยระบุว่าต้องการเป็นเพียงพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ส่วนกรณี Facebook นั้นระบุว่ามีการยื่นข้อเสนอในเดือนเมษายน จากนั้นก็ได้พูดคุยกันและจบที่ทาง Facebook ได้ปฏิเสธไป
ที่มา: Recode
ข่าวใหญ่วงการไอทีสัปดาห์นี้คือ ไมโครซอฟท์ซื้อ LinkedIn ด้วยมูลค่าถึง 26.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเท่าที่ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการมา
วันนี้เริ่มมีข้อมูลเบื้องหลังดีลนี้ออกมาแล้วว่า เหตุผลที่ราคาพุ่งสูง เป็นเพราะมี Salesforce มาร่วมเสนอซื้อกิจการ LinkedIn แข่งกับไมโครซอฟท์ด้วย
Bloomberg รายงานว่าไมโครซอฟท์ไม่ได้เป็นฝ่ายขอซื้อ LinkedIn แต่ LinkedIn เองต่างหากที่สอบถามไปยังไมโครซอฟท์ว่าสนใจซื้อหรือไม่ (สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของหลายสำนัก ที่มองว่า LinkedIn ผลประกอบการไม่ค่อยดี และราคาหุ้นตกลงมากในช่วงหลัง)
ข่าวใหญ่มากของเมื่อวานคือไมโครซอฟท์ประกาศเข้าซื้อกิจการ LinkedIn เป็นจำนวนเงินมากถึง 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และในวันเดียวกันก็มีงาน WWDC 2016 ของแอปเปิลด้วย
ในตอนแรกพนักงาน LinkedIn ที่ออฟฟิศสาขาซานฟรานซิสโกมีนัดจัดปาร์ตี้ถ่ายทอดสดงาน WWDC และนั่งดูไปพร้อมๆ กัน แต่พอไมโครซอฟท์ประกาศเข้าซื้อกิจการ ทาง LinkedIn ก็ส่งข้อความหาพนักงานว่าปาร์ตี้ดังกล่าวถูกยกเลิกแล้ว และให้หาทางอื่นดูกันเอาเอง ซึ่งในข้อความดังกล่าวไม่ได้บอกเหตุผลที่ยกเลิก แต่แนะให้เข้าไปดูเว็บไซต์รวมข่าวบริษัทแทน ซึ่งเข้าไปก็เจอประกาศการซื้อกิจการเลย
ที่มา - The Next Web
ไมโครซอฟท์ประกาศเข้าซื้อ LinkedIn ด้วยมูลค่ากว่า 26.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นดีลที่แพงที่สุดที่เคยมีมา โดยปัจจุบันการเจรจาข้อตกลงอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และคาดว่าการเจรจาทั้งหมดจะเสร็จสิ้นก่อนปลายปีนี้
การเข้าซื้อครั้งนี้ LinkedIn จะมีฐานะเป็นบริษัทลูกของไมโครซอฟท์ Jeff Weiner จะยังคงเป็นซีอีโอของบริษัทเช่นเดิมและโครงสร้างองค์กรจะยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง
Satya Nadella ระบุว่าจะนำ LinkedIn มาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มซอฟต์แวร์การจัดการขององค์กรร่วมกับ Microsoft Office 365 และ Microsoft Dynamics