YouTube ร่วมมือกับ Ticketmaster แสดงปฏิทินการแสดงคอนเสิร์ตในสหรัฐฯของศิลปินใต้คลิป และยังคลิกต่อเพื่อซื้อบัตรคอนเสิร์ตได้ด้วย

YouTube ระบุว่ารายได้จากคอนเสิร์ตกลายเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้หลักของศิลปิน ทางบริษัทต้องการเพิ่มช่องทางให้ศิลปินเข้าถึงแฟนๆ ของพวกเขาได้มากขึ้น จึงร่วมมือกับ Ticketmaster เพิ่มช่องทางซื้อบัตรคอนเสิร์ต เริ่มจากเปิดตัวในสหรัฐฯ ก่อน และมีแผนจะขยายฟีเจอร์นี้ให้เข้าถึงศิลปินให้มากที่สุด และขยายการบริการไปทั่วโลกด้วย

ก่อนหน้านี้บรรดาศิลปินก็ไม่พอใจกับบทบาทของ YouTube ที่จ่ายให้กับค่ายเพลงและศิลปินไม่มากพอ และยังมีเรื่องคลิปวิดีโอละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย ฟีเจอร์นี้อาจช่วยให้ศิลปินเพิ่มรายได้จาก YouTube ได้มากขึ้น

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าตัวแทนของศิลปินสาว Taylor Swift ได้แจ้งกับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายต่างๆ ในเบื้องต้นว่าจะไม่นำอัลบั้มใหม่ Reputation ให้ฟังผ่านบริการสตรีมมิ่งทั้งหลาย อย่างน้อยในช่วงสัปดาห์แรกที่อัลบั้มวางจำหน่าย ซึ่งกำหนดอยู่วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ (รวมทั้งช่องทางดาวน์โหลดอย่าง iTunes)

Billboard ประกาศปรับวิธีการจัดอันดับเพลงฮิตในอเมริกา มีผลตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป โดยที่ผ่านมา Billboard นำข้อมูลการฟังเพลงสตรีมมิ่งมาใช้อยู่แล้ว แต่ด้วยความหลากหลายของบริการสตรีมมิ่ง จึงมีการปรับการให้น้ำหนักของการฟังสตรีมมิ่งแต่ละแบบ

โดย Billboard แบ่งบริการสตรีมมิ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ เสียเงิน (Apple Music, Spotify, Tidal), มีโฆษณา (Spotify, YouTube) และรายการวิทยุ (Pandora) ซึ่งอันดับเพลง Billboard Hot 100 จะให้น้ำหนักข้อมูลจากกลุ่มเสียเงินสูงกว่ากลุ่มอื่น (ปัจจุบันเท่ากัน) และอันดับอัลบั้ม Billboard 200 ก็ปรับไปในแนวทางเดียวกัน

ความสามารถเปิดเพลงจาก Spotify ก่อนหน้านี้ยังจำกัดเฉพาะ Google Home ล่าสุด Spotify ประกาศว่าสามารถใช้ Google Assistant เปิดเพลงจากแพลตฟอร์มได้บนอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่รองรับ Google Assistant แล้ว

ตัวอย่างเสียงคำสั่งคือ "Ok Google, play Spotify", "Ok Google, play Discover Weekly", "Ok Google, play Today’s Top Hits on my Chromecast"

สามารถใช้งานคำสั่งนี้ได้ทั้งผู้ใช้ Spotify ทั้งแบบฟรีและพรีเมี่ยม

ไมโครซอฟท์ยุติบริการออนไลน์อีกรายคือ Groove Music Pass บริการฟังเพลงแบบเหมาจ่ายรายเดือน โดยจะให้ผู้ใช้ย้ายไปใช้บริการพันธมิตรคือ Spotify แทน

Groove Music Pass จะยุติบริการในวันที่ 31 ธันวาคม 2017 โดยหลังจากนั้น แอพ Groove Music (ซึ่งตัวแอพยังใช้งานต่อไปสำหรับการฟังเพลงออฟไลน์) จะนำตัวเลือกที่เกี่ยวข้องกับ Groove Music Pass ออกทั้งหมด ส่วนลูกค้าที่สมัครไปแล้วและบริการยังไม่หมดอายุ สามารถกดย้ายไปใช้ Spotify ได้ทันที

ข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมสื่อบันทึกแห่งอเมริกาหรือ RIAA รายงานว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 นั้น บริการสตรีมมิ่งแบบจ่ายเงินมีผู้ใช้ถึง 30.4 ล้านคนในสหรัฐฯ​ แล้ว โดยเพิ่มขึ้นจาก 20.2 ล้านคนในครึ่งแรกของปี 2016 ซึ่งทำให้รายได้จากบริการเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ในข้อมูลรายงานว่า รายได้จากบริการสตรีมมิ่งแบบจ่ายเงินนั้นเติบโตอย่างมากในปี 2017 โดยไปแตะที่ 1.49 พันล้านดอลลาร์แล้ว ถือว่าสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับรายได้ 995 ล้านดอลลาร์ของปีที่แล้ว

Bloomberg รายงานว่า Facebook กำลังเจรจายื่นข้อเสนอผลตอบแทนมูลค่า หลายร้อยล้านดอลลาร์ ให้กับค่ายเพลงต่างๆ เพื่อแลกกับการให้ผู้ใช้งานสามารถแทรกเพลงที่มีลิขสิทธิ์ลงไปในคลิปวิดีโอได้ได้

ปัจจุบันแนวทางที่ Facebook ใช้เมื่อมีวิดีโอที่ติดปัญหาลิขสิทธิ์เพลงอัพโหลดคือการลบออก ซึ่ง Facebook ก็พยายามหาวิธีการอื่นที่เหมาะสมกว่านี้ ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Facebook กำลังพัฒนาระบบตรวจจับลิขสิทธิ์เหมือน Content ID ที่ YouTube ใช้ แต่ระบบนี้ต้องใช้เวลาพัฒนาประมาณ 2 ปีจึงแล้วเสร็จ ทำให้ทั้ง Facebook และค่ายเพลงต่างต้องการทางออกที่รวดเร็วกว่านี้

มีรายงานว่าแอปเปิลได้ยืนยันการยกเลิกการจัดงาน Apple Music Festival เทศกาลดนตรีที่จัดเป็นประจำทุกปีในลอนดอน หลังจัดมาครบ 10 ปี โดยมีชื่อเดิมคืองาน iTunes Music Festival

แอปเปิลระบุว่าต้องการปรับวิธีนำเสนอเพลง จากเดิมที่เป็นงานใหญ่ปีละครั้ง มาเป็นรูปแบบอื่นที่มีการนำเสนอต่อเนื่อง ซึ่งก็สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจ ที่เดิมเป็น iTunes เน้นการขายเพลง แต่เมื่อมาถึงยุค Apple Music ที่เป็นสตรีมมิ่ง การนำเสนอเพลงก็ควรมีอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีมากกว่า

ที่มา: 9to5Mac

เมื่อปีที่แล้วกลุ่มอุตสาหกรรมเพลงใหญ่นำโดย RIAA ได้ฟ้องร้องเว็บไซต์ YouTube-Mp3 ซึ่งเป็นเว็บแปลงไฟล์จาก YouTube ให้เป็น MP3 ด้วยเหตุผลละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ล่าสุดเจ้าของเว็บไซต์ได้ขอยอมความและจ่ายค่าเสียหายแล้ว

ในรายละเอียดของเอกสารข้อเสนอ YouTube-Mp3 จะจ่ายเงินค่าเสียหายเป็นจำนวนที่ไม่เปิดเผย และจะโอนโดเมนเนมให้กับค่ายเพลงหนึ่งที่เป็นสมาชิก RIAA

หากการเจรจามีข้อยุติ เว็บไซต์ YouTube-Mp3 จะปิดตัวลงภายใน 24 ชั่วโมง และเข้าสู่การโอนย้ายโดเมนต่อไป

ที่มา: Torrent Freak

Netflix เข้าซื้อซีรีส์จำนวน 8 ตอน เรื่อง The Eddy ผลงานกำกับโดย Damien Chazelle ที่มีผลงานโดดเด่นและได้รางวัลออสการ์หลายรายการอย่าง La La Land และยังมีนักเขียนบทมือดี Glen Ballard ที่ถนัดเขียนบทละครเพลงมาร่วมงานในเรื่อง The Eddy ด้วย

Spotify เซ็นสัญญาระยะยาวร่วมกับค่ายเพลงใหญ่ Warner Music หลังจากเจรจาต่อรองกันมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปี โดย Warner Music ประกาศความเคลื่อนไหวนี้ผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง และมีความเป็นไปได้ว่าการเซ็นสัญญาครั้งนี้จะนำพา Spotify สู่การเข้าตลาดหุ้น IPO ง่ายขึ้น

เหตุที่ทำให้การเจรจากินระยะเวลานาน เพราะ Spotify จ่ายส่วนแบ่งให้ค่ายเพลงในตัวเลขที่ค่ายยังไม่พอใจ ตัวอย่างเช่นสัญญากับค่ายเพลงอื่นอย่าง Universal Music และ Sony Music ลดค่าตอบแทนค่ายจาก 55% มาเป็น 52% และจำกัดเพลงใหม่ของค่ายมาลงแพลตฟอร์มก่อน 2 สัปดาห์

ในส่วนของ Warner Music มีศิลปินดังในค่ายคือ Ed Sheeran ส่วนข้อตกลงระหว่าง Spotify และ Warner Music จะเป็นเหมือนข้อตกลงที่เซ็นกับค่ายอื่นหรือไม่นั้นยังไม่เปิดเผย

โซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ใหญ่เริ่มมาตรการแบนคอนเทนต์ขวาจัด ซึ่งเป็นผลจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างฝ่ายนิยมผิวขาวแบบสุดโต่งกับฝ่ายต้านการเหยียดผิวที่เมืองชาร์ล็อตต์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย เว็บไซต์สตรีมมิ่งเพลง Spotify ก็ใช้นโยบายแบนด้วย โดยแบนวงดนตรีที่มีเนื้อหาแสดงความเกลียดชังออกจากแพลตฟอร์ม

M คือปัญญาประดิษฐ์ใน Facebook Messenger สามารถช่วยการทำงานให้ผู้ใช้หลากหลายเช่นเรียกอูเบอร์ เตือนความจำ ทำโพล และกำลังจะเพิ่มความสามารถแนะนำเพลงจาก Spotify ได้ โดยสามารถพิมพ์ "play music" หรือ "listen to music" หลังจากนั้น M จะแสดงข้อความ Find Music พร้อมโลโก้ Spotify

ผู้ใช้ยังสามารถให้ M แสดงข้อมูลเพลงอื่นๆ เป็นอัลบั้ม เป็นศิลปิน และแนวเพลงผ่านแชทได้ และสามารถกด play เพื่อเล่นเพลงได้จากในแชทเลย

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงไม่ต้องพึ่งบริการ VPN ไปต่างประเทศแล้ว เมื่อ Spotify ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลง เริ่มส่งจดหมายเชิญสื่อมวลชนร่วมเปิดตัวการให้บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 22 สิงหาคม 2560 ในจดหมายเชิญดังกล่าวยังไม่มีรายละเอียดในส่วนราคาแบบพรีเมี่ยมและแบบครอบครัวแต่อย่างใด

เมื่อเดือนที่แล้ว See You Again ขึ้นมาเป็นวิดีโอที่มียอดผู้ชมสูงสุดบน YouTube แซง Gangnam Style ไปได้สำเร็จ แต่ในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน แชมป์คนใหม่ก็ได้ปรากฏขึ้นแล้ว นั่นคือเอ็มวีเพลง Despacito ของศิลปินชาวเปอโตริโก Luis Fonsi

สิ่งที่น่าสนใจมากของ Despacito คือความเร็วของยอดวิวที่เพิ่มขึ้น วิดีโอเริ่มเผยแพร่เมื่อวันที่ 12 มกราคมของปีนี้ หากวัด ณ ตอนนี้ก็ใช้เวลาไม่ถึง 7 เดือน อีกทั้งเป็นวิดีโอแรกที่มียอดวิวถึง 3 พันล้านวิว ซึ่งยังมีแนวโน้มเพิ่มต่อไปได้อีกระยะหนึ่งเลย (See You Again เผยแพร่มา 2 ปีแล้ว ส่วน Gangnam Style 5 ปี)

แฟนคลับทั่วโลกรอการกลับมาของหนุ่มๆ EXO วงไอดอลเกาหลีชื่อดังอันดับต้นๆ หลังจากกลับมาออกอัลบั้มใหม่และกำลังอยู่ในช่วงโปรโมท ทวิตเตอร์ในเกาหลีใต้ทำแผนที่ความนิยมของ EXO ว่าได้รับความนิยมในประเทศใดบ้าง และหนึ่งในประเทศที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอทวีตเกี่ยวกับหนุ่มๆ ก็คือ เกาหลีเหนือ

ในบรรดา 11 ล้านทวีตเกี่ยวกับ EXO ตลอดช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา มี 15 ทวีตพบว่ามาจากประเทศเกาหลีเหนือ พบในพื้นที่จังหวัดเล็กๆ อย่าง Pyongan และ Hamgyong

อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่า 15 ทวีตที่พบในเกาหลีเหนือนั้นโพสต์โดยใคร เป็นชาวเกาหลีเหนือหรือชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเกาหลีเหนือ และโพสต์ด้วยถ้อยคำว่าอะไรบ้าง เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการเข้มงวด และห้ามประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เรียกได้ว่าตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง

ควอน จี ยง หรือ G-Dragon ศิลปินเกาหลีที่กำลังมาแรงและเป็นหนึ่งในสมาชิกวง Big Bang ทำอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองขายเป็น USB แทนที่จะเป็นอัลบั้มดิจิทัลและแผ่นเพลงเหมือนที่ศิลปินรายอื่นทำ

ล่าสุด Gaon Chart ของเกาหลีใต้ ดำเนินการโดยสมาคมผู้ผลิตเนื้อหาเพลงของเกาหลี (KMCIA) ออกมาบอกว่าเพลงของ G-Dragon จะได้รับการพิจารณาในรูปแบบ Gaon Digital Chart เท่านั้น (จัดลำดับเป็นรายเพลง) ไม่ถูกจัดอยู่ในการจัดลำดับอัลบั้ม หรือ Gaon Album Chart เนื่องจากเป็นรูปแบบ USB drive ที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของ YG Entertainment คนที่ซื้ออัลบั้มเพียงกรอกหมายเลขซีเรียลที่อยู่บน USB ลงในเว็บไซต์เพื่อโหลดเพลง แต่ใน USB ไม่ได้บรรจุเพลงเอาไว้ จึงไม่สามารถเรียกผลงานชุดใหม่ของ G-Dragon ว่าเป็นอัลบั้มได้

เห็นกีคแบบนี้ก็มีอารมณ์สุนทรีย์ในหัวใจ เมื่อ Qualtrics บริษัทวิจัยเผยผลการศึกษาว่าเหล่านักพัฒนาโปรแกรมฟังเพลงแนวไหนระหว่างทำงาน ผลออกมาน่าสนใจทีเดียวเพราะ 6 อันดับออกมาเป็น U2, Taylor Swift, The Beatles, Maroon 5, Linkin Park และ Katy Perry ตามลำดับ (แมสจัง) ทั้งนี้สำรวจกับ 400 ตัวอย่างเท่านั้น และที่มี U2 ในอันดับอาจเป็นเพราะเป็นอัลบั้มบังคับดาวน์โหลดใน iPhone ด้วย

ทั้งนี้ข้อมูลน่าสนใจคือพวกเขาใช้ Pandora เป็นหลัก ตามด้วย YouTube และ Spotify, ใช้หูฟัง Bose มากสุด ตามด้วย Sony และ Beats

Coachella เทศกาลดนตรีที่จัดเป็นประจำที่ California มีศิลปินระดับท็อปของโลกเข้าร่วมแสดงอย่างคับคั่ง ผู้เข้าร่วมเทศกาลดนตรีต้องซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์ Coachella โดยขณะนี้มีสมาชิกเว็บไซต์กว่า 9 แสนราย

ล่าสุด Goldenvoice บริษัทโปรโมทคอนเสิร์ตออกมาเตือนผู้ใช้เว็บ Coachella ว่ามีความเสี่ยงจะถูกล้วงข้อมูลออกมาเผยแพร่ เนื่องจากมีแฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ วันเกิด

ทางผู้ทำเว็บไซต์บอกว่ายังไม่มีข้อมูลใดถูกขโมย และกำลังอยู่ระหว่างสอบสวนบริษัท third party ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตามทางผู้จัดขอให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัย

The Verge รายงานว่ากูเกิลรวมทีม Google Play Music และ YouTube Music เข้าด้วยกันแล้ว ถึงแม้ตัวบริการยังแยกจากกันดังเดิม แต่ก็น่าจะเป็นสัญญาณว่ากูเกิลพยายามรวมบริการ 2 ตัวนี้เข้าด้วยกันในอนาคต เหลือเป็นบริการเพลงของกูเกิลเพียงตัวเดียว

โฆษกของกูเกิลยืนยันข่าวนี้ โดยอธิบายสั้นๆ ว่ากูเกิลรวมทีมเข้าด้วยกันเพื่อพัฒนาบริการด้านเพลงให้ดีที่สุด และตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในแง่ของผู้ใช้งาน

ปัจจุบัน ผู้ที่สมัคร YouTube Red แบบเสียเงิน สามารถใช้บริการแบบพรีเมียมทั้งสองตัวได้พร้อมกัน

AIAIAI บริษัทหูฟังในประเทศเดนมาร์กได้เปิดตัวหูฟังแบบประกอบเองได้ TMA-2 มาแล้ว 2 ปี คือผู้ใช้สามารถเลือกอุปกรณ์สำหรับทำหูฟังเองได้ แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปก็ยังเลือกลำบากอยู่ดีว่าควรจะใช้อุปกรณ์ใดมาทำหูฟัง

ตอนนี้ ทาง AIAIAI ก็ได้เปิดตัวระบบการรวมเข้ากับเพลย์ลิสต์ Discover Weekly ของ Spotify โดยเรียกฟีเจอร์นี้ว่า TMA-2 Discovery เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกอุปกรณ์หูฟัง TMA-2 โดยขึ้นกับการแนะนำเพลงของ Spotify ได้ ผู้ใช้เพียงแค่ให้บัญชี Spotify ที่ติดตามเพลย์ลิสต์ Discover Weekly ไว้เท่านั้น แล้วระบบ TMA-2 Discovery ก็จะเลือกอุปกรณ์ประกอบหูฟังให้ทันที

Nielsen บริษัทวิจัยเรตติ้งออกรายงานวิจัยปี 2016 ออกมา พบว่า สตรีมมิ่งเพลงกลายเป็นช่องทางหลักของคนอเมริกันในการฟังเพลงและอุดหนุนเพลงไปแล้ว ข้อมูลทั้งปี 2016 ระบุว่ามียอดซื้อขายกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า76% และมีสัดส่วนคิดเป็น 38% ของอุตสาหกรรมเพลงทั้งหมด

Nielsen เพิ่มเติมว่าส่วนหนึ่งที่สตรีมมิ่งประสบความสำเร็จคือ เป็นแพลตฟอร์มสำหรับแฟนเพลงฮิปฮอปและ R&B เป็นแนวเพลงที่มีการดาวน์โหลดสูง คิดเป็น 22% ของเพลงทั้งหมดบนสตรีมมิ่ง รองลงมาเป็นเพลงร็อค

Facebook โดยตัวของมันเองเป็นโซเชียลมีเดียแต่ก็เป็นสื่อที่คนเสพกันแทนวิทยุ-โทรทัศน์ไปแล้ว เพลงจึงเป็นอีกคอนเทนต์หลักที่มีการแชร์กันอย่างแพร่หลาย แน่นอนว่าปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลงและวิดีโอก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

ล่าสุด David Israelite ซีอีโอ NMPA (National Music Publishers Association) เขียนลงในเว็บไซต์ billboard ว่า ถึงเวลาแล้วที่ Facebook ต้องจัดการกับคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์บนแพลตฟอร์ม หลังจากนั้น Financial Times ก็รายงานว่า Facebook กำลังพัฒนาระบบตรวจสอบ Content ID เหมือนที่ YouTube มี

เมื่อวานนี้ YouTube เปิดเผยอย่างภาคภูมิใจว่าบริษัทสนับสนุนศิลปิน จ่ายส่วนแบ่งค่าโฆษณาให้ค่ายเพลงถึงพันล้านดอลลาร์ วันนี้ สมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ หรือ IFPI ออกมาบออกว่า YouTube นี่แหละ ทำประโยชน์และรายได้ให้ศิลปินน้อยที่สุด

IFPI กล่าวเพิ่มเติมว่า YouTube มีผู้ใช้กว่า 800 ล้าน สร้างรายได้เฉลี่ยให้ผู้ใช้ต่อคนคิดเป็น 1 ดอลลาร์ ในขณะที่ Spotify ในปี 2015 จ่ายให้ค่ายเพลงถึง 2 พันล้าน เทียบจ่ายต่อคน 18 ดอลลาร์

ในขณะที่ Apple, Deezer, Spotify จ่ายเงินให้ค่ายเพลงเยอะมหาศาล YouTube ทำแค่นั่งเฉยๆ รอให้คนมาอัพโหลดคอนเทนต์ หรือบางครั้งก็เป็นคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยซ้ำ YouTube ไม่ต้องจ่ายอะไร และสามารถหารายได้จากการลงโฆษณาควบคู่ไปด้วย

Abba เจ้าของบทเพลงชื่อดัง Mamma Mia และ Dancing Queen เตรียมกลับมาทำเพลงอีกครั้งหลังจากแยกย้ายหายไปนานกว่า 30 ปี และการกลับมาครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพราะจะใช้เทคโนโลยี VR และ AI เข้ามาทำเพลงด้วย

Simon Fuller ผู้จัดการค่ายเพลง Universal Music Group และอดีตโปรดิวเซอร์วง Spice Girls กล่าวในการแถลงว่า ทางเรากำลังมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ทางดนตรี โดยนำ AI และ VR มาเป็นตัวชูโรงหลัก สมาชิกทั้งสี่ของวงกำลังเดินทางเข้าสู่เส้นทางใหม่ของวงการดนตรี

เห็นทีแฟนเพลงที่ส่วนใหญ่อายุเริ่มจะมากแล้วคงต้องเตรียมรับประสบการณ์ใหม่จากการฟังเพลงและชมคอนเสิร์ต Abba