Open Source Initiative (OSI) หน่วยงานผู้ให้นิยามของซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ประกาศนิยามของปัญญาประดิษฐ์โอเพนซอร์ส The Open Source AI Definition – 1.0 เพื่อให้อุตสาหกรรมเข้าใจตรงกันว่าการเป็นโอเพนซอร์ส (ตาม OSI) ต้องมีเงื่อนไขใดบ้าง
แนวทางนิยามของ OSI สำหรับปัญญาประดิษฐ์นั้นไม่ต่างจากซอฟต์แวร์มากนัก แต่เพิ่มนิยามรายละเอียด แยกส่วน เช่น ข้อมูลที่ใช้ฝึกนั้นต้องให้รายละเอียดเพียงพอ แม้จะไม่ต้องแชร์ข้อมูลออกมาเสมอไป, ตัวโค้ดที่ใช้รันต้องใช้สัญญาอนุญาตที่ OSI รองรับว่าเป็นโอเพนซอร์ส, และตัวพารามิเตอร์ต้องแจกในสัญญาอนุญาตที่ OSI รับรองเช่นกัน
วงการเคอร์เนลลินุกซ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีประเด็นดราม่าว่า นักพัฒนาเคอร์เนลชาวรัสเซียถูกถอดสิทธิจากการเป็น maintainer โดย Greg Kroah-Hartman (gregkh) เบอร์สองของวงการเคอร์เนลให้เหตุผลสั้นๆ ว่าเป็นเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบหลายอย่าง (due to various compliance requirements) และนักพัฒนาเหล่านี้สามารถขอคืนสิทธิได้เมื่อส่งเอกสารตามที่เราต้องการ
เมื่อเหตุผลไม่ชัดเจน จึงมีเสียงประท้วงว่าทำไมถึงตัดสิทธินักพัฒนาเหล่านี้ตามมา ซึ่ง Linus Torvalds เจ้าเก่าก็มาตอบ (แบบดุดันเหมือนเดิม) ว่าการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นไปแล้ว การรวมตัวประท้วงกันเยอะๆ (เขาใช้คำว่า Russian troll factories) ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาแต่อย่างใด
ประเด็นเรื่องการนำซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สไปใช้งานหารายได้ แล้วไม่นำกำไรที่ได้ส่งกลับสู่ชุมชน เป็นสิ่งที่ถกเถียงกันในโลกโอเพนซอร์สตลอดมา (กรณีล่าสุดคือ WordPress กับ WP Engine และ WordPress กับ 37signals ก่อนหน้านี้มีอีกหลายสมรภูมิ เช่น Elasticsearch กับ AWS และ Redis)
IBM เปิดตัวโมเดล Granite เวอร์ชัน 3.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันอัพเดตจาก Granite 1.0 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม
Granite เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่เปิดเป็นโอเพนซอร์สใต้สัญญาอนุญาตแบบเปิดกว้าง Apache 2.0 ชูจุดเด่นด้านประสิทธิภาพสูงกว่าหรือเทียบเท่าโมเดล LLM โอเพนซอร์สหรือเชิงพาณิชย์
Granite 3.0 มีให้เลือก 2 ขนาดพารามิเตอร์คือ 2B และ 8B โดย IBM โชว์เบนช์มาร์คคะแนน Hugging Face OpenLLM Leaderboard ว่าสามารถเอาชนะโมเดลโอเพนซอร์สขนาดใกล้เคียงกันอย่าง Llama 3.1 8B และ Mistral 7B
อัพเดตข่าวสารวงการ WordPress ประจำวัน บริการโฮสติ้ง WordPress.com ในเครือบริษัท Automattic ออกโปรโมชั่นใช้งานฟรี 1 ปี หากย้ายมาจาก WP Engine ที่ทะเลาะกันอยู่ แถม WordPress.com ยังบริจาค 5% ของราคาโฮสติ้ง (ที่ไม่ต้องจ่ายในปีแรกด้วย) ให้กับมูลนิธิ WordPress Foundation เพื่อนำไปใช้พัฒนา WordPress ต่อไป
นอกจากนี้ WordPress.org ยังขนพันธมิตรโฮสติ้งรายอื่นๆ มาให้เลือกใช้บริการ หากต้องการย้ายออกจาก WP Engine โดยหลายรายยกเว้นค่าบริการย้ายข้อมูล (migration cost) ให้ด้วย
ที่มา - WordPress.com, WordPress.org
ซอร์สโค้ดของ Winamp บน GitHub ถูกลบออกไปแล้ว หลังจาก Llama Group บริษัทที่เป็นเจ้าของ Winamp ได้โอเพนซอร์สเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นโอเพนซอร์สที่มีข้อจำกัดเยอะมาก
โค้ดของ Winamp ถูกเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Winamp Collaborative License (WCL) ซึ่งระบุว่าการแก้ไขโค้ด สามารถทำได้เพื่อการใช้งานส่วนตัวเท่านั้น ไม่สามารถเผยแพร่โค้ดที่ถูกแก้ไขได้เอง ต้องให้ทีมงานหลักเผยแพร่เท่านั้น
Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress ซีอีโอ Automattic โพสต์บล็อกตอบโต้กับ David Heinemeier Hansson หรือ DHH ผู้สร้าง Ruby on Rails หลังจาก DHH แสดงความเห็นต่อสงคราม WordPress ระหว่าง Automattic กับ WP Engine ว่ากำลังทำให้วงการโอเพนซอร์สโดยรวมสกปรกขึ้น
Matt เริ่มต้นว่านี่เป็นการโต้แย้งด้วยความเคารพต่อกัน จริง ๆ ทั้งสองคนควรโทรคุยกันเอง แต่ไม่สะดวกเพราะต่างคนต่างเดินทางอยู่ เขาบอกว่า DHH พยายามบอกว่าตนคือผู้เชี่ยวชาญโอเพนซอร์ส แต่ผลิตภัณฑ์ในบริษัท 37signals ทั้ง Hey, Campfire, Writebook, Basecamp ต่างก็ไม่ใช่โอเพนซอร์ส แถมไม่ได้รับความนิยมมากนัก
eBPF เป็นซอฟต์แวร์ที่ฝังไว้ในเคอร์เนลลินุกซ์เพื่อเก็บค่าต่างๆ เพื่อให้โลกข้างนอกเคอร์เนลมองเห็น (observability) มันจึงถูกนิยมใช้ในซอฟต์แวร์ด้านมอนิเตอร์จำนวนมาก (ทั้งมอนิเตอร์ทราฟฟิก โหลดบาลานซ์ ความปลอดภัย ฯลฯ) ข้อดีของ eBPF คือไม่ต้องแก้ไขอะไรเคอร์เนลเลย และตัวโค้ดถูกรันใน sandbox ที่มีความปลอดภัย (เอกสารอธิบาย eBPF)
อัพเดตข่าว WordPress รายวัน ล่าสุด Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress ออกมาโพสต์ว่าสิทธิในการ fork หรือแยกโครงการ ถือเป็นหัวใจของโลกโอเพนซอร์ส เพราะตัว WordPress เองก็ถูก fork มาจากซอฟต์แวร์ b2/cafeblog ซึ่งเป็น CMS ยุคแรกๆ ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีโครงการ b2evolution ที่เป็นอีกสายย่อยพัฒนาต่อไป
David Heinemeier Hansson หรือ DHH ผู้สร้าง Ruby on Rails และซีทีโอ 37signals เจ้าของแอป Basecamp ออกมาแสดงความเห็นจากประเด็นความขัดแย้งในวงการ WordPress ระหว่าง Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress ซีอีโอ Automattic กับ WP Engine โดยมองว่าตอนนี้ Automattic กำลังทำตัวออกนอกเส้นทาง
มีรายงานว่าผู้ดูแลเว็บไซต์ที่โฮสติ้งบน WordPress.org พบว่าในหน้าล็อกอิน มีกล่องให้ติ๊กยืนยันเพิ่มเติมว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ WP Engine ไม่ว่าจะทางการเงินหรืออื่น ๆ หากไม่ยืนยันก็จะไม่สามารถล็อกอินเข้าไปในหน้าแอดมินได้
สงครามโลก WordPress ระหว่าง Automattic และ WP Engine ยังร้อนแรงต่อเนื่อง และยิ่งร้อนแรงขึ้นไปอีกเมื่อ Jason Bahl ผู้พัฒนาปลั๊กอิน WPGraphQL (ใช้แปลงข้อมูลจาก WordPress เป็นฟอร์แมต GraphQL ที่นิยมใช้ในโลกโซเชียล) ประกาศย้ายค่ายจาก WP Engine มาทำงานกับ Automattic โดยตรง
หลังจาก Redis ประกาศเปลี่ยนสัญญาอนุญาตเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้ก็มีหลายโครงการแยกโค้ดที่โอเพนซอร์สแบบ BSD มาพัฒนาต่อเอง โดยเดือนที่ผ่านมาโครงการ Valkey ของ Linux Foundation ก็ออกเวอร์ชั่น 8.0 มาแล้ว ขณะที่โครงการ Redis เดิมก็เตรียมออกเวอร์ชั่น 8.0 เหมือนกัน
ประเด็นสำคัญคือซอฟต์แวร์ทั้งสองตัวนั้นต่างกันอย่างมาก Redis 8.0 นั้นโชว์ความสามารถใหม่ๆ เช่น JSON, ข้อมูแบบ time series และการค้นหาแบบใหม่เช่น vector search เพิ่มเข้ามา โดยฟีเจอร์เหล่านี้เดิมเคยเป็นโมดูลแยกออกจากโครงการหลัก
Dries Buytaert ผู้ก่อตั้ง Drupal ออกมาโพสต์แสดงความเห็นถึงกรณีสงครามกลางเมืองของโลก WordPress โดยยกตัวอย่างแนวทางแก้ปัญหาของ Drupal ที่ประสบปัญหาแบบเดียวกัน
Dries บอกว่าเขารู้จักกับ Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress มานาน ในฐานะผู้ก่อตั้งซอฟต์แวร์ CMS โอเพนซอร์สลักษณะเดียวกัน ในอีกด้าน เขาก็รู้จักกับ Heather Brunner และ Founder Jason Cohen ของฝั่ง WP Engine เช่นกัน ในฐานะคนนอกที่ไม่รู้รายละเอียดความขัดแย้ง จึงไม่ขอตัดสิน
หลังจากรอคอยกันมายาวนานหลายปี Mozilla ก็ออก Thunderbird เวอร์ชัน Android มาให้ทดสอบกันแบบ Beta แล้ว
Thunderbird for Android เป็นการนำอีเมลไคลเอนต์โอเพนซอร์สชื่อ K-9 มาพัฒนาต่อ โดย Christian Ketterer (cketti) นักพัฒนาหลักของ K-9 เข้ามาเป็นพนักงานเต็มเวลาของ Mozilla ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อต่อยอด K-9 ให้มีฟีเจอร์เท่ากับที่ Mozilla ต้องการ ตัวโครงการยังพัฒนาแบบโอเพนซอร์สต่อไป เปิดซอร์สบน GitHub
ศึกในวงการ WordPress ระหว่าง Automattic ของ Matt Mullenweg ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง WordPress และให้บริการ wordpress.com กับ WP Engine บริษัทโฮสติ้ง WordPress ยังดำเนินต่อไป ล่าสุด Automattic ได้เผยแพร่ข้อตกลงที่เสนอให้กับ WP Engine เมื่อวันที่ 20 กันยายน เพื่อยืนยันว่าไม่ใช่การขู่เรียกเงินแบบที่ WP Engine ระบุ
ทีมพัฒนา Arch Linux ประกาศว่าได้สปอนเซอร์จาก Valve สนับสนุนให้พัฒนาโครงการย่อย 2 โครงการ ได้แก่ build service infrastructure และ secure signing enclave โดย Valve จะสนับสนุนการเงินให้กับนักพัฒนาเหล่านี้ในฐานะฟรีแลนซ์
Arc Linux บอกว่าการสนับสนุนของ Valve มีคุณค่ามาก เพราะเหล่าอาสาสมัครสามารถลงมือพัฒนาโครงการเหล่านี้ได้ทันที แทนการใช้แค่ช่วงเวลาว่างเท่านั้น โครงการเหล่านี้ยังจะช่วยแก้ปัญหาระยะยาวหลายๆ อย่างของ Arch Linux ได้ด้วย
Valve ใช้ Arch Linux เป็นแกนกลางสำหรับพัฒนา SteamOS เวอร์ชัน 3.x ที่ใช้กับเครื่องเกมพกพา Steam Deck โดย SteamOS เวอร์ชันก่อนหน้านั้น (ยุคที่ใช้กับ Steam Machine) พัฒนาบน Debian
Hugging Face ประกาศหลักไมล์สำคัญ โดยมีโมเดลปัญญาประดิษฐ์บนแพลตฟอร์มมากกว่า 1 ล้านโมเดลแล้ว ซึ่งเป็นการเติบโตที่รวดเร็วมากหลังจาก Hugging Face เปลี่ยนธุรกิจจากแอปแชทบอต มาเป็นแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สรวมโมเดล AI ในปี 2020 ซึ่งเป็นที่นิยมใช้งานทั้งกลุ่มนักพัฒนาและนักวิจัยปัญญาประดิษฐ์
Matt Wullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress ออกมาอธิบายสาเหตุของความขัดแย้งระหว่าง WordPress กับ WP Engine ผ่านบล็อกส่วนตัวของเขาเอง ว่ามาจาก WP Engine ละเมิดเครื่องหมายการค้า WordPress มายาวนานหลายปี
ฝั่งบริษัท Automattic ของ Matt พยายามเจรจาให้ WP Engine ซื้อไลเซนส์เครื่องหมายการค้ามานาน แต่ไม่เคยสำเร็จ ข้อเสนอที่ Automattic ยื่นให้มีทั้งการจ่ายเงินค่าไลเซนส์ตรงๆ หรือจะเป็นการสนับสนุนโครงการโอเพนซอร์สแทนก็ได้ เพราะจริงๆ แล้ว Automattic ไม่ได้ต้องการเงิน แต่คาดหวังว่าบริษัทอย่าง WP Engine ที่ทำเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์จาก WordPress ควรให้อะไรคืนกลับโครงการโอเพนซอร์สบ้าง แต่ WP Engine ปฏิเสธข้อเสนอทุกอย่าง
สงครามภายในของโลก WordPress ยังดำเนินต่อไป เริ่มจาก Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress วิจารณ์ WP Engine ว่าเป็นมะเร็งร้าย แล้ว ฝั่งของ WP Engine ตอบโต้ว่าโดนบริษัท Automattic ของ Matt เรียกเงินเป็นมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ต่อปี และจะดำเนินการทางกฎหมายกับฝั่ง Matt/WordPress.org
ล่าสุด Matt ออกมาซัดต่อผ่านบล็อกบน WordPress.org ว่าเนื่องจาก WP Engine จะดำเนินการทางกฎหมายกับ WordPress.org ดังนั้น ลูกค้าของ WP Engine ก็ไม่ควรเข้ามาใช้ทรัพยากรฟรีของ WordPress.org ได้อีก เช่น กระดานถามตอบปัญหา ถ้าอยากแก้ปัญหาก็ติดต่อฝ่ายซัพพอร์ตของ WP Engine กันเอง
Winamp เปิดซอร์สโค้ดของ Winamp Legacy เวอร์ชันดั้งเดิมบนวินโดวส์ สู่สาธารณะ ขึ้นเผยแพร่บน GitHub ตามที่สัญญาเอาไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม ซอร์สโค้ดของ Winamp อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตของตัวเองชื่อ Winamp Collaborative License (WCL) ที่อนุญาตให้นำซอร์สโค้ดไปปรับแต่งเพื่อใช้งานส่วนตัวเท่านั้น ไม่อนุญาตให้เผยแพร่ซอร์สโค้ดหรือไบนารีที่ถูกแก้ไข ทำได้แค่การส่งโค้ดกลับโครงการต้นน้ำ และเผยแพร่โดยทีมงานหลักของ official repository เท่านั้น
WP Engine ตอบโต้ Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress ที่เพิ่งออกมาโจมตี WP Engine ว่าเป็นมะเร็งของโลก WordPress โดยใช้แนวทางส่งหนังสือขอให้หยุดการกระทำ (cease and desist) และให้ Mullenweg ออกมาถอนคำพูดตัวเองเสีย
WP Engine ระบุว่า Mark Davies ซีเอฟโอของ Automattic ขู่ก่อน Mullenweg ขึ้นพูดในงาน WordCamp โดยเรียกร้องให้ WP Engine ต้องจ่ายเงินเข้า Automattic ระดับสิบล้านดอลลาร์ต่อปี โดยระบุว่าเป็นค่าไลเซนส์เครื่องหมายการค้า WordPress
นอกจากการขู่ก่อนวันงาน WordCamp ตัว Mullenweg ยังส่งข้อความมาต่อเนื่องจนถึงหน้าเวที ให้ WP Engine ตกลงจ่ายค่าไลเซนส์
Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress ออกมาเปิดศึกกับ WP Engine บริษัทโฮสติ้ง WordPress (ที่เป็นคู่แข่งกับบริษัท Automattic ของเขาเองซึ่งให้บริการ wordpress.com) โดยประกาศชัดเจนว่า "WP Engine is not WordPress"
Matt พูดเรื่องนี้ในงานสัมมนา WordCamp และมาเขียนบล็อกขยายความบน wordpress.org ซ้ำอีก ว่า WP Engine ทำเงินจากค่าโฮสติ้ง WordPress ไปหลายร้อยล้านดอลลาร์ แต่แทบไม่ส่งโค้ดกลับมายัง WordPress เลย อีกทั้งระบบของ WP Engine เป็น WordPress เวอร์ชันปรับแต่งให้มีความสามารถน้อยลงอย่างตั้งใจ เช่น ตัดฟีเจอร์ revision ของบทความทิ้งไป เพื่อลดปริมาณข้อมูลที่ต้องเก็บบนเซิร์ฟเวอร์
ดิสโทรลินุกซ์หลายตัวย้ายฐานข้อมูลดีฟอลต์จาก MySQL มาเป็น MariaDB กันนานพอสมควรแล้ว เช่น Fedora เริ่มตั้งแต่ปี 2013, RHEL ปี 2014, Debian ในปี 2017 แต่ดิสโทรยอดนิยมอย่าง Ubuntu ยังไม่ยอมเปลี่ยนมาใช้ MariaDB แทนสักที
AWS ยกโครงการ OpenSearch ที่แยกโครงการมาจาก Elasticsearch ไปให้ Linux Foundation ดูแล โดยตั้งเป็นโครงการ OpenSearch Software Foundation มีกรรมการดูแลโครงการเป็นของตัวเอง
แนวทางการยกโครงการให้หน่วยงานกลางดูแลเป็นแนวทางที่เพิ่มความมั่นใจว่าโครงการจะพัฒนาโดยดูชุมชนเป็นหลัก ไม่มีการเร่งบางฟีเจอร์หรือปิดกั้นบางฟีเจอร์ตามผลประโยชน์ขององค์กรที่ดูแลโครงการเป็นหลัก โดยการตั้งโครงการ OpenSearch Software Foundation ก็มีบริษัทประกาศเป็นสมาชิกทั้ง AWS, SAP, Uber, Canonical, Atlassian, DigitalOcean, Graylog แต่ไม่มีบริษัทที่ร่วมมาตั้งแต่ต้น เช่น Logz.io และ Red Hat