ในโลกยุคที่ใครๆ ก็หันมาทำเรื่อง AI ล่าสุดบริษัท Salesforce เปิดตัว "Einstein" แพลตฟอร์มการใช้ AI มาช่วยปรับปรุงข้อมูลในบริการซอฟต์แวร์ของ Salesforce เอง ไม่ว่าจะเป็นระบบ CRM, Sales, Marketing, Analytics และอื่นๆ เช่น การใช้บ็อตมาช่วยตอบคำถามลูกค้า หรือการวิเคราะห์และพยากรณ์ข้อมูลยอดขาย
Salesforce บอกว่าตนเองมีข้อมูลจำนวนมากจากลูกค้าที่มาใช้บริการอยู่แล้ว การนำ AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจึงเป็นการต่อยอดให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองดีขึ้น
สงครามซอฟต์แวร์ CRM ระหว่างรายใหญ่ Salesforce, Oracle และ Microsoft Dynamics CRM รอบใหม่ จบลงด้วยชัยชนะของไมโครซอฟท์ ที่สามารถชิงลูกค้ารายใหญ่อย่าง HP ให้เปลี่ยนระบบงานขายเดิมที่ใช้ Salesforce/Oracle มาเป็น Dynamics แทนได้สำเร็จ
HP มีทีมเซลส์ประมาณ 6,500 คน และทีมซัพพอร์ต 20,000 คน (จากพนักงานทั้งหมด 50,000 คน) พนักงานเหล่านี้จะเปลี่ยนมาใช้ Dynamics แทน โดยเซ็นสัญญากับไมโครซอฟท์นาน 6 ปี
เดิมทีทีมเซลส์ของ HP ใช้ระบบ Salesforce ส่วนทีมซัพพอร์ตใช้ Oracle ซึ่งถือเป็นสองระบบที่แตกต่างกัน ผู้บริหารของ HP ระบุว่าการเปลี่ยนมาใช้ Dynamics เพียงตัวเดียวช่วยลดความซับซ้อนของระบบงานลง ช่วงนี้ HP กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงระบบงานภายในของตัวเอง หลังแยกตัวจาก HPE ที่ทำธุรกิจไอทีฝั่งองค์กร
บริษัท Synergy Research Group ออกรายงานสถิติส่วนแบ่งตลาดผู้ให้บริการ SaaS ลูกค้าองค์กรทั่วโลก ประจำไตรมาสที่ 2/2016
รายงานดังกล่าวเผยว่า ตลาดรวม SaaS มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ตอนนี้มีมูลค่าต่อไตรมาสเกือบ 11 พันล้านดอลลาร์แล้ว และมูลค่าตลาดปีนี้น่าจะอยู่ระหว่าง 44-48 พันล้านดอลลาร์
ในส่วนของผู้เล่นในตลาดนั้น ไตรมาสสอง Microsoft ขึ้นเป็นผู้นำ แซง Salesforce แล้ว โดยมีส่วนแบ่งตลาด 15% ส่วน Salesforce มีส่วนแบ่งตลาด 14% หลังจากที่ไตรมาสแรกทั้งสองมีส่วนแบ่งตลาดเท่ากันที่ 14% และก่อนหน้านี้ Salesforce เป็นที่หนึ่งมาตลอด
Salesforce ประกาศซื้อกิจการ Quip แอพ word processor แนวใหม่ของ Bret Taylor อดีตซีทีโอของ Facebook
Quip เป็นแอพลูกผสมระหว่าง word processor กับอีเมล โดยผนวกเอาเรื่องการแก้ไขเอกสารร่วมกันระหว่างคนในทีม เข้ากับระบบแจ้งเตือน ระบบคอมเมนต์ และระบบแชทภายในแอพ เพื่อพูดคุยกันว่าเอกสารไหนถูกแก้ไขไปแล้วบ้าง ช่วยลดปัญหาของการแก้เอกสารแล้วอีเมลกันไปมาลงได้
Salesforce ซื้อ Quip ด้วยมูลค่า 750 ล้านดอลลาร์ โดย Mac Benioff ซีอีโอของ Salesforce ระบุชัดเจนว่าซื้อกิจการบริษัทสตาร์ตอัพในราคาค่อนข้างแพง เพราะต้องการตัว Bret Taylor ดาวรุ่งของวงการไอทีมาร่วมงานด้วย
Salesforce ประกาศซื้อบริษัท Coolan สตาร์ตอัพที่ทำระบบปรับแต่งประสิทธิภาพของศูนย์ข้อมูล (data center optimization)
ความน่าสนใจของ Coolan อยู่ที่ผู้ก่อตั้ง Amir Michael เป็นอดีตวิศวกรสายฮาร์ดแวร์ของ Google และ Facebook รวมถึงเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งโครงการ Open Compute ที่เปิดสเปกฮาร์ดแวร์สำหรับศูนย์ข้อมูลของ Facebook ด้วย
ซอฟต์แวร์ของ Coolan จะอ่านค่าต่างๆ จากฮาร์ดแวร์ในศูนย์ข้อมูล และวิเคราะห์สภาพการทำงานได้ละเอียดระดับฮาร์ดแวร์แต่ละชิ้นของเซิร์ฟเวอร์แต่ละเครื่อง เพื่อให้องค์กรสามารถบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำขึ้นกว่าเดิม
ทีมงาน Coolan จะเข้าไปช่วย Salesforce ปรับปรุงศูนย์ข้อมูลของตัวเอง ส่วนตัวของ Michael ก็จะยังมีบทบาทในโครงการ Open Compute ต่อไปด้วย
ข่าวใหญ่วงการไอทีสัปดาห์นี้คือ ไมโครซอฟท์ซื้อ LinkedIn ด้วยมูลค่าถึง 26.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเท่าที่ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการมา
วันนี้เริ่มมีข้อมูลเบื้องหลังดีลนี้ออกมาแล้วว่า เหตุผลที่ราคาพุ่งสูง เป็นเพราะมี Salesforce มาร่วมเสนอซื้อกิจการ LinkedIn แข่งกับไมโครซอฟท์ด้วย
Bloomberg รายงานว่าไมโครซอฟท์ไม่ได้เป็นฝ่ายขอซื้อ LinkedIn แต่ LinkedIn เองต่างหากที่สอบถามไปยังไมโครซอฟท์ว่าสนใจซื้อหรือไม่ (สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของหลายสำนัก ที่มองว่า LinkedIn ผลประกอบการไม่ค่อยดี และราคาหุ้นตกลงมากในช่วงหลัง)
ปัญหาเซิร์ฟเวอร์ Salesforce ล่ม และเมื่อกู้กลับมาได้ข้อมูลกลับเสียหาย วันนี้ซีอีโอ Salesforce ให้ความเห็นกับทาง The Register ระบุว่าข้อมูลที่เสียหายมีไม่มากนัก เพราะเป็นเซิร์ฟเวอร์โซนอเมริกาเหนือและเป็นช่วงเวลากลางคืน และการกู้คืนข้อมูลจะทำงานกับลูกค้าเป็นกรณีๆ ไป
ก่อนหน้านี้โฆษกของ Salesforce ระบุว่าบริษัทจะทำตามสัญญาที่ระบุไว้ น่าจะหมายถึงการชดเชยให้กับลูกค้าที่เสียข้อมูลและไม่สามารถใช้งานได้
ที่มา - The Register
ศูนย์ข้อมูล NA14 ของ Salesforce เกิดปัญหาในอุปกรณ์ไฟฟ้า จนเซิร์ฟเวอร์ล่ม ระบบจึงย้ายศูนย์ข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูลวอชิงตันดีซี และทำงานเป็นปกติอยู่ประมาณ 8 ชั่วโมงคลัสเตอร์ฐานข้อมูลก็ทำงานผิดพลาดจนกระทั่งข้อมูลสูญหาย
ทาง Salesforce พยายามกู้ข้อมูลกลับมา แต่ข้อมูลที่เขียนลงฐานข้อมูลช่วงวันที่ 10 พฤษภาคม เวลา 9:53 ไปจนถึง 14:53 ตามเวลา UTC หายไปทั้งหมด
รายงานเหตุการณ์นี้แสดงความเสียใจต่อข้อมูลที่เสียหาย และระบุว่าบริษัทจะเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้และป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำต่อไป
ระบบคลาวด์ของ Salesforce ในอเมริกาเหนือ (Instance หมายเลข NA14 จากทั้งหมด 45 Instance) เกิดล่มติดต่อกันยาวนานเกือบวัน โดยสาเหตุมาจากระบบฐานข้อมูลมีปัญหา จนทำให้ลูกค้าองค์กรที่รันระบบอยู่บน Salesforce เขตนี้ไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนลูกค้าในภูมิภาคอื่นๆ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
ตอนที่เขียนข่าวนี้ ระบบของ NA14 กลับมาทำงานได้บางส่วนแล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพอยู่ (และแน่นอนว่า Salesforce ก็โดนลูกค้าถล่มยับในช่องทางโซเชียลต่างๆ) ส่วนซีอีโอ Marc Benioff ก็ออกมาขอโทษแล้ว พร้อมขอให้ลูกค้าอีเมลหาเขาโดยตรงได้เลย
ที่มา - PCWorld
ช่วงนี้เทคโนโลยี deep learning กำลังมาแรง ล่าสุด Salesforce ประกาศซื้อกิจการบริษัท MetaMind สตาร์ตอัพที่ Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce เคยไปลงทุนไว้
MetaMind ก่อตั้งมา 1.5 ปี ต้องการนำเทคโนโลยี deep learning มาช่วยกระบวนการตัดสินใจทางธุรกิจ การไปอยู่กับ Salesforce จะนำระบบ AI ไปเสริมซอฟต์แวร์องค์กรของ Salesforce ทั้งด้านการตลาด การบริการลูกค้า และธุรกิจอื่นๆ
ส่วนบริการของ MetaMind เดิมจะหยุดให้บริการในเดือนพฤษภาคมนี้ ข้อมูลของผู้ใช้ทั้งหมดจะถูกลบ
ก่อนหน้านี้ Salesforce เพิ่งซื้อบริษัทด้าน machine learning ชื่อ PredictionIO และกำลังสร้างทีมด้าน data science ให้แข็งแกร่งขึ้น
Salesforce เปิดตัว App Cloud บริการคลาวด์แบบ PaaS สำหรับพัฒนาแอพขององค์กร
App Cloud ถือเป็นการอัพเกรดแพลตฟอร์ม Salesforce1 เดิมให้ทำงานเชื่อมต่อกันมากขึ้น และเพิ่มส่วนประกอบต่างๆ ให้แพลตฟอร์มสมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิม โดยหลักแล้ว App Cloud ประกอบด้วย 5 ชิ้นส่วนคือ
ตอนที่สองของซีรีส์ "สัมภาษณ์คนไทยในซิลิคอนวัลเลย์" คราวนี้เรามาคุยกับคุณปรัชญ์ ผลาภิรมย์ คนไทยที่เคยทำงานกับบริษัทไอทีรายใหญ่ของโลกมาแล้ว 2 แห่งคือ Yahoo และ Salesforce ทำให้มีประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมการทำงานของบริษัทไอทีที่แตกต่างกันหลายแบบ ทั้งเว็บ (Yahoo) และแอพสำหรับลูกค้าองค์กร (Salesforce) จุดที่ผมคิดว่ามีประโยชน์มากๆ คือประสบการณ์ในการสัมภาษณ์งานกับบริษัทไอทีหลายแห่งที่คุณปรัชญ์นำมาถ่ายทอดผ่านบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้
สมัยเรียนปริญญาตรีที่เมืองไทย คุณปรัชญ์ยังเคยเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่ง Imagine Cup ในปี 2006 ด้วย ปัจจุบันคุณปรัชญ์กำลังเริ่มงานใหม่กับบริษัท Platfora ที่ทำด้าน big data analytics
จากข่าวลือปลายเดือนที่แล้ว ว่า Salesforce เตรียมขายกิจการ คาดว่าผู้ซื้อเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการซอฟต์แวร์สักรายหนึ่ง
ล่าสุดเว็บไซต์ CNBC รายงานว่าผู้ซื้อรายนี้คือไมโครซอฟท์ แต่สุดท้ายเจรจาไม่ลงตัวเพราะตกลงราคากันไม่สำเร็จ โดยไมโครซอฟท์เสนอให้ 55 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Salesforce เรียกราคา 70 พันล้านดอลลาร์ (2.4 ล้านล้านบาท)
ตามข่าวบอกว่าทั้งสองบริษัทหยุดการเจรจาไปตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม และไม่น่าจะกลับมาเจรจากันอีก
ที่มา - CNBC
สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวลือว่า Salesforce.com เตรียมขายกิจการ โดยตอนนี้บริษัทกำลังทำงานร่วมกับที่ปรึกษาด้านการเงินอยู่
ปัจจุบัน Salesforce.com เป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ มีมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้นประมาณ 49 พันล้านดอลลาร์ ดังนั้นการที่จะมีบริษัทอื่นมาซื้อ Salesforce.com แปลว่าต้องเป็นบริษัทที่ใหญ่มาก รายชื่อบริษัทที่คาดกันจึงเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Oracle, IBM, Microsoft, SAP และอาจรวมถึง Google ด้วย
Marc Benioff ซีอีโอ Salesforce.com เผยที่มาที่ไปของการเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Fortune
ไมโครซอฟท์เซ็นสัญญาความร่วมมือกับ Salesforce.com ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม วันนี้ Salesforce.com จัดงานสัมมนาประจำปี Dreamforce และมีข้อมูลเพิ่มเติมของดีลดังนี้
Salesforce.com เจ้าพ่อซอฟต์แวร์ CRM องค์กร ประกาศแพลตฟอร์ม Salesforce Wear เพื่อรองรับการใช้งานอุปกรณ์แบบสวมใส่ได้ในตลาดองค์กร
เป้าหมายของ Salesforce Wear คือเตรียมพร้อมการใช้อุปกรณ์แบบสวมใส่ได้สำหรับภาคธุรกิจ เช่น เซลส์สามารถเช็คยอดขายล่าสุดได้จากนาฬิกา, แขกของโรงแรมได้รับสายรัดข้อมือเพื่อใช้แทนกุญแจห้อง, ลูกค้าสวนสนุกดูแผนที่หรือพิกัดเครื่องเล่นจากสายรัดข้อมือ, ช่างเทคนิคดูข้อมูลเรียลไทม์จากแว่นตาขณะตรวจสอบเครื่องจักร
Salesforce Wear ได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตนาฬิกาอัจฉริยะและอุปกรณ์สวมใส่ได้หลายค่าย ได้แก่ Android Wear, ARM, Fitbit, Google Glass, Pebble, Philips, Samsung Gear 2, Myo, Nymi, OMsignal
ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับ Salesforce.com ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ CRM บนกลุ่มเมฆ โดยมีรายละเอียดดังนี้
Forbes จัดอันดับบริษัทที่มีนวัตกรรมสูงจากบริษัทที่มีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์มา 7 ปีขึ้นไป, มูลค่าตลาดเกิน 10,000 ล้านดอลลาร์, และต้องมีสัดส่วนงบประมาณวิจัยและพัฒนาต่อยอดขายสูงพอที่จะได้รับพิจารณา
ในปีนี้บริษัทในเอเชียเข้าอยู่ใน 100 อันดับแรกอยู่ 20 บริษัท
สำหรับบริษัทด้านบริการคอมพิวเตอร์ ที่เราเคยได้ยินกันได้แก่
ออราเคิลเตรียมประกาศความร่วมมือกับบริษัขนาดใหญ่หลายบริษัทเพื่อสร้างพันธมิตรให้บริการ โดยจะระบุรายละเอียดอีกครั้งในงานแถลงข่าวสัปดาห์หน้า
NetSuite และ Salesforce นั้นเป็นลูกค้าของออราเคิลอยู่แล้ว ความร่วมมือใหม่ที่จะประกาศจึงไม่ชัดเจนนักว่าจะมีอะไรเพิ่มเติมเข้ามา แหล่งข่าวที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวระบุกับ New York Times ว่าข้อตกลงนี้จะเป็นการแชร์ข้อมูลข้ามแอพพลิเคชั่นที่ทำได้ง่ายขึ้น
ขณะทีความน่าสนใจจะไปตกกับไมโครซอฟท์ แม้ว่าไมโครซอฟท์จะเป็นผู้ให้บริิการโครงสร้างพื้นฐานผ่าน Azure แต่ไมโครซอฟท์ก็เป็นคู่แข่งกับออราเคิลจาก SQL Server และซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่ทับสายกันไปมา ความร่วมมือที่ชัดเจนที่สุดคงเป็นการรองรับ Oracle บน Azure ที่คู่แข่งอย่างอเมซอนนั้นรองรับไปก่อนนานแล้ว
Marc Benioff ซีอีโอ Salesforce.com ได้กล่าวในงานสัมมนาของ Salesforce.com ชื่อ Cloudforce ว่า Windows 8 ควรจะเป็นจุดสิ้นสุดของระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจากไมโครซอฟท์ เนื่องจากเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่ก้าวหน้าอย่าง LTE ทำให้ลดความจำเป็นของเครือข่าย WAN และ LAN [เสริมโดยผู้เขียนลง Blognone การลดความจำเป็นของ WAN และ LAN ที่อยู่ระหว่างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอินเทอร์เน็ตหมายถึงลดความจำเป็นของเซิร์ฟเวอร์ หรือนั่นคือระบบปฏิบัติการที่ต้องใช้ดูแลเครือข่ายนั่นเอง] และแอพเพื่อการใช้งานด้านธุรกิจได้ถูกย้ายขึ้นไปให้บริการผ่านกลุ่มเมฆ (cloud) มากขึ้นเรื่อยๆ ระบบปฏิบัติการ Windows จึงไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นอีกต่อไป แต่ Benioff ก็ยอมรับว่า ณ วันนี้เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น
โมเดลธุรกิจของบริษัทคอมพิวเตอร์เปลี่ยนจากการขายเครื่องมาขายบริการกันมากขึ้นเรื่อยๆ เดลล์เองแม้จะโตมาจากการขายพีซีก็อยู่ในแนวทางนี้เหมือนกัน โดยวันนี้ Dell Services ประกาศเปิดให้บริการให้คำปรึกษาการวางระบบ Saleforce แล้ว โดยตอนนี้เดลล์ได้รับสถานะ Saleforce Platinum Partner มาแล้วจากการมีพนักงานที่ได้รับใบรับรองมากพอตามเงื่อนไข
บริการที่เดลล์จะเปิดให้บริการ รวมตั้งแต่การวางระบบ, การเชื่อมต่อกับเครือข่ายสังคมออนไลน์, การเชื่อมระบบและย้ายระบบ, และการวางสถาปัตยกรรมของกลุ่มเมฆ
ที่มา - Dell
Salesforce.com ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Buddy Media มูลค่า 689 ล้านดอลลาร์
Buddy Media เป็นบริษัทการตลาดออนไลน์ผ่านเครือข่ายสังคมหลายชนิด เปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 2007 ช่วงที่ Facebook กำลังเริ่มดัง ผลิตภัณฑ์ของ Buddy Media เป็นซอฟต์แวร์ออนไลน์ที่ช่วยให้นักการตลาดของแบรนด์ต่างๆ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลบนเครือข่ายสังคมได้ง่าย และตรวจวัดผลตอบรับได้รอบด้านมากขึ้น
จุดเด่นของ Buddy Media คือฐานลูกค้าเป็นบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Ford, HP, L'Oreal รวมกว่า 1,000 ราย
Salesforce.com ได้เข้าซื้อกิจการ Assistly ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์สนับสนุนลูกค้า (customer support) แล้ว
Assistly ให้บริการซอฟต์แวร์สนับสนุนลูกค้า ที่เน้นการเข้าถึงบริการและตอบสนองลูกค้าได้หลายช่องทาง อาทิ social media (Facebook/Twitter), โทรศัพท์, อีเมล และระบบ help center ที่มีไว้บริการตามเว็บไซต์ของลูกค้าที่ใช้บริการ Assistly
Salesforce.com เป็นถือว่าเป็นผู้นำของโลกซอฟต์แวร์ลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management - CRM) โดยให้บริการด้วย Cloud Computing มีลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำจำนวนมากเช่น Dell, Google, หรือ eBay นอกจากบริการลูกค้าสัมพันธ์แล้ว บริการหนึ่งที่เหมาะกับผู้ใช้บริการ Saleforce ในประเทศไทยอาจจะเป็นบริการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าผ่านทางเครือข่ายสังคม (Social Network)