โตโยต้ากำลังทดสอบนำรถยนต์ i-Road ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าขนาดเล็ก 3 ล้อ (หน้า 2 หลัง 1) มาให้บริการ Ride Sharing ในเมือง Grenoble ของฝรั่งเศส โดยรูปแบบการให้บริการจะคล้ายกับการเช่ารถ คือผู้ที่ต้องการใช้รถจะต้องไปรับรถที่จุดรับรถต่างๆ ภายในเมือง

i-Road เพิ่งถูกเปิดตัวในงาน LA Auto Show เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มี 1 ที่นั่ง ทำความเร็วได้สูงสุดประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สามารถวิ่งได้สูงสุด 50 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ที่ความเร็วเฉลี่ย 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

สถานการณ์ Uber ในยุโรปยังไม่สู้ดี เพราะมีบริษัทแท็กซี่ท้องถิ่นทั้งในสเปน ฝรั่งเศส ยื่นฟ้องศาล เรียกร้องให้ Uber ทำตามกฎหมายคมนาคมในภูมิภาค เท่าเทียมกันกับที่แท็กซี่ท้องถิ่นปฏิบัติตาม

ทาง Uber โต้ด้วยการบอกว่าบริษัทไม่ใช่บริการรับส่งผู้โดยสาร แต่เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลระหว่างผู้โดยสารกับคนขับ เรื่องนี้จึงค้างคาอยู่ในศาลยุติธรรมยุโรป เพื่อตัดสินว่า Uber จะเป็นอะไรกันแน่

ถ้าผลออกมาว่า Uber เป็นบริษัทบริการรับส่งผู้โดยสาร Uber ก็ต้องอยู่ในกรอบระเบียบของยุโรปเหมือนบริษัทแท็กซี่ทั่วไป แต่ถ้าเป็นสื่อกลาง Uber ก็จะมีอิสระในการดำเนินธุรกิจมากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ Uber กำลังต่อสู้เพื่อให้ได้มา เพราะตลาดยุโรปเป็นตลาดใหญ่และสำคัญมากสำหรับ Uber

Ola ผู้ให้บริการเรียกรถคู่แข่งของ Uber ในอินเดียประกาศเปิดตัว Ola Play ฟีเจอร์ควบคุมแอร์ ระบบความบันเทิงและอื่นๆ บนรถยนต์ผ่านแอพ โดยทาง Ola ได้จับมือกับ Apple Music และ Sony Picture India ในการนี้ด้วย

ระบบ in-car entertainment ของ Ola จะให้อารมณ์เดียวกับระบบความบันเทิงบนเครื่องบิน (in-flight entertainment) ที่ผู้โดยสารสามารถเลือกและควบคุมสื่อได้ตามต้องการ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ของ Ola ในการสร้างความแตกต่างและดึงลูกค้าจาก Uber

ปัจจุบัน Ola ถูกประเมิณมูลค่าไว้อยู่ที่ราว 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีแท็กซี่ในสังกัดกว่า 5.5 แสนคันในกว่า 100 เมืองทั่วอินเดีย

ที่มา - Factor Daily

Lyft ออกอุปกรณ์ใหม่ Amp เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อกันระหว่างคนขับและคนโดยสารผ่านระบบบลูทูธ แสดงแถบสีที่ตรงกันระหว่างสองฝ่าย ให้ผู้โดยสารรู้ว่ารถคันไหนจะมารับเรา

รูปร่างอุปกรณ์คล้ายลำโพงเล็กติดตั้งไว้ที่แผงหน้าปัดรถยนต์ เมื่อมีคนเรียกใช้จะมีข้อความปรากฏที่ Amp คนขับกดปุ่มเชื่อมต่อ จากนั้นแจ้งเตือนไปยังแอพพลิเคชั่นบนมือถือของผู้ใช้ ผู้ใช้รู้ได้ง่ายขึ้นว่ารถคันไหนจะมารับ

Amp จะเปิดให้ใช้ภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ในซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลิส ลาสเวกัส และนิวยอร์ก และจะแพร่ออกสู่ตลาดทั้ง 200 กว่าแห่งของ Lyft ภายในครึ่งปีหน้า

ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไต้หวันและ Uber ยังคงหาที่ลงไม่ได้ เมื่อล่าสุดรัฐบาลไต้หวันติดต่อไปยังแอปเปิลและกูเกิล เพื่อให้นำแอพ Uber พร้อม UberEATS ออกจากแอพสโตร์ของทั้งสองแพลตฟอร์ม

โฆษกรัฐบาลไต้หวันให้เหตุผลว่า Uber ไม่ยอมทำตามที่ได้ตกลงกันไว้ รัฐบาลจึงต้องหาหนทางอื่นแทน ขณะที่แอปเปิลยังไม่แสดงความเห็นในประเด็นนี้ ส่วนโฆษกของกูเกิลตอบแต่เพียงว่า Play Store มีนโยบายไม่อนุญาตให้มีแอพที่ทำผิดกฎหมายอยู่บนสโตร์ แต่ก็ไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ เพิ่มเติม

ที่มา - Reuters

Uber ปรับปรุงแอพเวอร์ชันใหม่ โดยจัดระเบียบบริการเรียกรถประเภทต่างๆ ที่ช่วงหลังเพิ่มเข้ามาจนเริ่มรก ให้มีประสบการณ์ใช้งานง่ายเหมือนสมัยแรกๆ รถแต่ละประเภทจะมีราคาเปรียบเทียบให้เห็น พร้อมทั้งระยะเวลาที่รถน่าจะเดินทางมา เพื่อให้เราตัดสินใจได้ว่าควรเลือกรถแบบใด

แอพเวอร์ชันใหม่จะมี "ช็อตคัต" ไปยังสถานที่ที่เราน่าจะเลือกเดินทางในเวลานั้น (เช่น ตอนเย็นเรานิยมไปยิม ก็จะเป็นไอคอนของยิม) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ไม่ต้องกดพิมพ์สถานที่เอง ในอนาคต Uber จะเปิดให้เราเชื่อมตารางนัดหมายกับแอพได้ด้วย เพื่อให้ Uber อ่านข้อมูลจากตารางนัดแล้วรู้ว่าเราจะไปที่ไหนต่อ

Uber ยังระบุว่าในอนาคตจะมีฟีเจอร์กดเรียกรถไปหา "เพื่อน" แทนสถานที่ตายตัว โดยแอพจะเปิดให้เราซิงก์ contact และถ้าเพื่อนเราแชร์พิกัดไว้ให้ เราสามารถกดเรียกรถไปยังสถานที่นั้นได้เลย

ที่มา - Uber

Uber ประเทศไทยประกาศเปิดทดลองการให้บริการ UberX ในตัวเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

พื้นที่ที่ให้บริการคือภายในตัวเมืองเชียงใหม่ ไปจนถึงวงแหวนรอบตัวเมืองรอบที่ 3 คิดค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 20 บาท บวกกับค่าโดยสารกิโลเมตรละ 2 บาทและค่าโดยสารนาทีละ 2 บาท รวมทั้งมีบริการเหมาไป-กลับสนามบินที่ 150 บาท และเหมาไป-กลับดอยสุเทพที่ 250 บาท ซึ่ง Uber รับการจ่ายค่าบริการทั้งบัตรเครดิตและเงินสด (เงินสดเริ่มวันที่ 2 พฤศจิกายน)

นอกจากนี้ Uber ยังมีโปรโมชันสำหรับผู้ที่ไม่เคยนั่ง Uber ให้กรอกรหัส HELLOCM หลังลงทะเบียน สามารถนั่ง UberX ในเชียงใหม่ฟรีได้ 2 ครั้งๆ ละ 75 บาท

ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์

Uber ออกเอกสารแผนการสร้างระบบรถแทกซี่ลอยฟ้าเพื่อบรรเทาการจราจรติดขัดบนพื้นดิน ในชื่อว่า VTOL (vertical take-off and landing) ตัวพาหนะเป็นเครื่องบินเล็ก ใช้พลังงานไฟฟ้า ไม่สร้างมลภาวะในอากาศ

เอกสารดังกล่าวมี 98 หน้า ทางอูเบอร์ส่งเชื้อเชิญให้นักพัฒนาต่างๆ มาร่วมกันพัฒนาต่อยอดไอเดียนี้ ไดอะแกรมในเอกสารแสดงตัวเครื่องบินเล็กออกแบบมาหลายรูปแบบ มีลานจอดบนตึก มีจุดเติมพลังงาน นอกจากนี้ทางอูเบอร์ยังคิดจะนำระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเข้ามาไว้ในเครื่องบินด้วย เพื่อลดปัญหาความผิดพลาดที่เกิดจากคนขับ

อย่างไรก็ตาม การที่จะให้โครงการดังกล่าวดูน่าเชื่อถือ ดูปลอดภัย จำเป็นต้องมีการอนุมัติตามกฎหมาย มีการฝึกนักบินที่ดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ

นอกจากประเด็นด้านกฎหมายคมนาคมที่ Uber ต้องเผชิญแล้ว ประเด็นด้านการฟ้องร้องจากคนขับ ที่ต้องการเรียกร้องสิทธิของการเป็นพนักงานก็เป็นอีกประเด็นที่ Uber ต้องสู้คดีในหลายประเด็น เช่นเดียวกับในอังกฤษและเวลส์ที่ล่าสุด ศาลแรงงานในกรุงลอนดอนตัดสินให้คนขับ Uber มีสถานะเป็นพนักงาน และเรียกร้องสิทธิอื่นๆ ตามที่พนักงานพึงได้

ด้าน Uber ระบุว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป พร้อมอ้างด้วยว่า ที่ชาวสหราชอาณาจักรออกมาขับ Uber กันก็เพราะอยากเป็นนายของตัวเอง ต้องการอิสระและความยืดหยุ่นในการทำงาน

Grab ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ GrabChat สำหรับคนขับและผู้โดยสารใช้สื่อสารกัน โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพื่อโทรศัพท์หากัน ซึ่งฟีเจอร์นี้รองรับทั้ง GrabCar และ GrabTaxi ทั่วภูมิภาคอาเซียนที่ Grab ไปเปิดให้บริการ

บริษัทระบุว่าต้องการแก้ปัญหาการสื่อสารระหว่างชาวต่างชาติและเจ้าของรถ โดยตั้งเป้าพัฒนาให้แอพรองรับการแปลภาษาที่ใช้กันอยู่ในหลายประเทศตั้งแต่อังกฤษ, ไทย, บาฮาซาของมาเลเซีย, บาฮาซาของอินโดนีเซีย, จีน (ตัวย่อ) และเวียดนาม นอกจากนี้ฟีเจอร์ GrabChat เองยังมี tamplate ข้อความไว้ให้จำนวนหนึ่งด้วย เพื่อช่วยให้ไม่ให้คนขับเสียสมาธิจากการขับรถมากเกินไปด้วย

ก่อนหน้านี้เมื่อผู้ใช้ค้นหาเส้นทางบน Google Maps ก็สามารถเรียกรถจากบริการต่างๆ เช่น Uber หรือ Grab ได้ ล่าสุด Google อัพเดตฟีเจอร์แบบนี้ลงไปในแอพ Google บนมือถือแล้ว

เพียงแค่ค้นหาเส้นทางไปยังสถานที่ที่ต้องการบนแอพ Google ก็จะแสดงเส้นทางมาให้ เมื่อเลือกตัวเลือกเรียกรถแท็กซี่ ก็จะแสดงรายชื่อของแอพที่พร้อมให้บริการตามพื้นที่, ค่าโดยสารโดยประมาณและระยะเวลาที่ต้องรอรถ เมื่อกดเรียกก็จะสลับไปยังแอพที่ใช้บริการและเรียกรถให้ทันทีโดยที่ไม่ต้องกรอกข้อมูลใดๆ หากบริการที่เรียกไม่มีแอพติดตั้งอยู่ในมือถือก็จะลิงก์ไปยังร้านค้าเพื่อให้ดาวน์โหลดแอพ

สามารถใช้งานได้แล้วทั่วโลกผ่านแอพ Google บน iOS และ Android

ที่มา : The Next Web

หน่วยงานคมนาคมของลอนดอนหรือ Transport for London (TfL) ได้ออกกฎใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ขับรถ Uber ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น UberX หรือ UberBlack ต้องผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษก่อน โดยแต่เดิมข้อเสนอนี้จะให้ใช้เฉพาะผู้ขับรถ Uber ที่มาจากประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักเท่านั้น

TfL บอกว่าภาษาอังกฤษเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่งผู้ขับรถที่จะได้รับใบอนุญาตต้องสามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ในระดับที่เหมาะสม โดยภายใต้กฎใหม่นี้ ผู้ขับรถจะต้องจ่ายเงิน 200 ปอนด์เพื่อทดสอบภาษาอังกฤษ

เมือง Summit ในรัฐนิวเจอร์ซีย์กำลังประสบปัญหาที่จอดรถมีไม่เพียงพอ และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น ผู้ว่าของเมืองได้ตัดสินใจจับมือกับ Uber และจ่ายเงินสนับสนุน (subsidise) ให้กับผู้ที่เรียก Uber ในการเดินทางระหว่างบ้านและสถานีรถไฟของเมืองไปทำงาน

เนื่องด้วยผู้คนส่วนใหญ่มักนั่งรถไฟเข้าไปยังนครนิวยอร์คเพื่อทำงาน ทำให้สถานที่จอดรถรอบๆ สถานีค่อนข้างแออัด ถึงแม้จะมีการจ่ายค่าอนุญาตจอดรถ (parking permits) แล้วก็ตาม ซึ่งการจับมือกับ Uber ครั้งนี้ ชาวเมือง Summit จะจ่ายค่า Uber เพื่อเดินทางระหว่างบ้านและสถานีรถไฟเพียงวันละ 4 เหรียญเท่านั้น (ขาละ 2 เหรียญ) ซึ่งเทียบเท่ากับค่าจอดรถต่อวัน และผู้ที่เคยจ่ายค่า parking permits ไปแล้วสามารถเรียกใช้บริการได้ฟรี

หลังจากทดสอบการให้บริการช่วงกลางปีที่ผ่านมา ล่าสุด Waze บริษัทลูกของ Google เปิดให้บริการคาร์พูลในย่าน Bay Area ของ San Francisco อย่างเป็นทางการแล้ว

อย่างไรก็ตาม บริการของ Waze ไม่ใช่บริการเรียกรถแท็กซี่อย่างเต็มรูปแบบเหมือน Uber หรือ Lyft แต่จะเป็นคาร์พูล หรือการติดรถคนอื่นที่เดินทางไปในเส้นทางเดียวกัน โดยเบื้องต้น Google จำกัดทั้งคนขับและลูกค้า ให้สามารถขับรถและเรียกใช้บริการได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน (ไป-กลับที่ทำงาน) และห้ามไม่ใช่คนขับ ใช้งานแพลตฟอร์ม Waze ในการหารายได้อย่างจริงจัง เพื่อเป็นการเลี่ยงกฎหมายไปในตัวด้วย

Grab สตาร์ทอัพแอพเรียกรถโดยสาร ประกาศรับเงินลงทุนรอบใหม่เพิ่มอีก 750 ล้านดอลลาร์ โดยมีกลุ่ม SoftBank เป็นแกนนำในการลงทุนครั้งนี้ ทำให้บริษัทได้รับเงินลงทุน รวม-แล้ว กว่า 1 พันล้านดอลลาร์ มีมูลค่ากิจการประเมินอยู่ราว 3 พันล้านดอลลาร์

Grab ระบุว่าเงินลงทุนรอบนี้จะนำมาขยายกิจการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักของ Grab ที่ครองส่วนแบ่งตลาดไว้สูงสุดต่อไป

หนึ่งในผู้ลงทุนรายสำคัญของ Grab ก็คือ Didi Chuxing ผู้ให้บริการแอพเรียกรถโดยสารจากประเทศจีน ที่ Uber เพิ่งขายกิจการในประเทศจีนไป ขณะที่ปลายปีที่แล้วก็มีข่าว Didi รวมกลุ่มแอพเรียกแท็กซี่ในหลายประเทศเป็นเครือข่ายกัน ก็น่าจะพอให้เห็นภาพการแข่งขันที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นไปอีกครับ

ที่มา: Grab และ Reuters

John Zimmer ผู้ก่อตั้ง Lyft บริการเรียกรถในสหรัฐอเมริกา ออกมาประกาศแผนการให้บริการ "รถยนต์ไร้คนขับ" ของ Lyft ดังนี้

• ภายใน 5 ปี เราจะได้เห็นรถยนต์ส่วนใหญ่ของ Lyft กลายเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โซลูชันนี้จะมาใช้แทนการแชร์รถยนต์ส่วนบุคคลแบบในปัจจุบัน โดย Zimmer มองว่าการใช้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ มีความคงเส้นคงวามากกว่า มีรถให้บริการได้ตลอดเวลา ในขณะที่การแชร์รถแบบปัจจุบัน ไม่สามารถควบคุมคุณภาพหรือความสะอาดของรถยนต์ได้
• เขามองว่าภายในปี 2025 ประชากรสหรัฐในเมืองใหญ่จะไม่อยากเป็นเจ้าของรถยนต์อีกต่อไป ด้วยปัญหาสารพัดทั้งค่าใช้จ่าย การหาที่จอดรถ การซ่อมบำรุง และถ้ามีระบบการคมนาคมด้วยรถยนต์ไร้คนขับที่ดีเกิดขึ้น ก็ยิ่งเป็นปัจจัยให้คนไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์เอง คนจะเปลี่ยนมา "เช่า" (subscription) การเดินทางตามระยะทางแทน
• เขามองว่าการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์มีคนขับ มาเป็นรถยนต์ไร้คนขับ ต้องใช้เวลาประมาณ 10 ปี โดยช่วงเปลี่ยนผ่านจะต้องผสมผสานระหว่างรถยนต์ไร้คนขับ กับการแชร์รถยนต์แบบมีคนขับ (ride sharing) ไปก่อน

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐ Uber ได้เริ่มนำรถไร้คนขับมาทดสอบให้บริการในเมือง Pittsburgh เป็นครั้งแรก ซึ่งช้ากว่าที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ โดยรถยนต์ที่นำมาใช้เป็น Ford Fusions ที่มาพร้อมด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ รอบคัน

Uber ได้เชิญผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งมาทดลองนั่งรถรอบเมืองด้วย ซึ่งทีมงานของเว็บไซต์ TechCrunch เผยว่าเหมือน Uber นำรถมาทดสอบวิ่งบนถนนจริงๆ มากกว่าที่จะนำมาให้บริการ เพราะในหลายสถานการณ์ระบบไร้คนขับยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ อาทิ การมีรถจอดขวางอยู่ในเลน ซึ่งวิศวกรที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยต้องควบคุมรถและเปลี่ยนเลนด้วยตัวเอง

สงครามแอพเรียกรถยนต์ ขยายสมรภูมิจากแอพเฉพาะของแต่ละค่าย มาเป็นการช่วงชิงตำแหน่ง "ปุ่มเรียกรถ" ในแอพแผนที่ยอดนิยม โดยก่อนหน้านี้ Google Maps เพิ่มปุ่มเรียกรถของ Uber และ Grab แล้ว

ล่าสุด Google Maps เพิ่มปุ่มเรียกรถจาก Lyft และ Gett คู่แข่งของ Uber ในสหรัฐอเมริกาแล้ว ส่งผลให้ตอนนี้ Google Maps มีบริการเรียกรถทั้งหมด 9 ยี่ห้อใน 60 ประเทศ

ที่มา - Google Lat Long

Grab ประกาศเพิ่มทางเลือกในการจ่ายค่าบริการ ด้วยการใช้แต้มในบัตรเครดิตของธนาคาร Citibank โดย 360 แต้มจะเท่ากับค่าบริการ 0.7 เหรียญสหรัฐ

บริการนี้จะเริ่มสิงคโปร์และฟิลิปปินส์เป็นที่แรกในวันที่ 8 กันยายนนี้ ก่อนจะขยายการให้บริการในอินโดนีเซีย มาเลเซียและประเทศไทยเร็วๆ นี้

ที่มา - CNET

เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเกิดเรื่องใหญ่ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เมื่อกลุ่มผู้ขับสามล้อเครื่อง (rickshaw หน้าตาคล้ายตุ๊กตุ๊กบ้านเรา) เกือบแสนคน รวมตัวหยุดงานประท้วงต่อต้านรถรับจ้างผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Uber และ Ola และเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายควบคุมรถรับจ้างเหล่านี้

ด้านผู้นำการประท้วง Shashank Rao ระบุว่า รัฐบาลล้มเหลวในการควบคุมบรรดารถรับจ้างผ่านแอพที่ทำลายธุรกิจรถตุ๊กๆ ที่มีมานาน นอกจากนี้พวกเขายังไม่ทำตามกฎกติกาใดๆ เราจึงต้องออกมาประท้วงเพราะไม่มีทางเลือกอื่น และจะทำการประท้วงกดดันต่อไป

ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วง ทางหน่วยงานขนส่งได้จัดรถบัสราว 27 คันวิ่งทั่วเมืองรองรับผู้ต้องการเดินทางไปมา

สืบเนื่องจากกรณีที่ Uber ขายกิจการในประเทศจีนให้ Didi Chuxing กระทรวงพาณิชย์ของจีน ได้เริ่มการสอบสวนการควบรวมกิจการนี้แล้ว ว่าอาจจะเข้าข่ายการผูกขาด

กระทรวงพาณิชย์เผยว่าได้พูดคุยกับ Didi ไปแล้ว 2 ครั้ง เพื่อขอข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ รวมถึงขอเหตุผลจาก Didi ด้วยว่าเหตุใด ถึงไม่ยื่นเรื่องให้ทางการตรวจสอบการผูกขาดตั้งแต่ต้น ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์จีน ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับกระบวนการและระยะเวลาในการสอบสวนครั้งนี้

ที่มา - Wall Street Journal

Google เคยทดสอบการให้บริการคาร์พูลในย่าน Bay Area ของ San Francisco เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุด Google เตรียมเปิดบริการนี้อย่างเต็มรูปแบบภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้

Wall Street Journal รายงานอ้างอิงจากแหล่งข่าววงในว่า บริการนี้จะครอบคลุมทั้งเมือง San Francisco โดยรูปแบบและราคาในการใช้บริการจะยังคงเหมือนกับช่วงทดลอง คือผู้ใช้จะต้องเลือกว่าจะเดินทางจากจุดไหนไปจุดไหนผ่านแอพ Waze Rider ก่อนที่คนขับที่มีเส้นทางเดียวกันจะเป็นคนเลือกเพื่อนร่วมทางอีกที โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 54 เซนต์ต่อไมล์ ซึ่งผู้ใช้จะเป็นคนจ่ายให้คนขับและทาง Google จะไม่หักค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งค่าบริการตรงนี้ถือว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับบริการอื่นๆ อย่าง Uber หรือ Lyft

ดูเหมือนเอเชียจะยังเป็นของแสลงสำหรับ Uber อย่างต่อเนื่องหลังถอนตัวจากจีนไปแล้ว ล่าสุดเป็นคราวของมาเก๊าที่ทาง Uber เตรียมจะระงับการให้บริการในเดือนกันยายนนี้ หลังเปิดให้บริการมาได้เพียง 10 เดือน

หนึ่งในสมาชิกสภาของมาเก๊าได้โพสต์ภาพจดหมายจากผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียของ Uber ที่เผยว่าบริษัทมีแผนจะถอนตัวจากมาเก๊า โดยมีรายละเอียดแต่เพียงว่า เนื่องจากคนขับของ Uber ถูกปรับรวมกันถึงกว่า 1.25 ล้านเหรียญสหรัฐนับตั้งแต่ให้บริการมา ขณะที่ผู้จัดการทั่วไปของ Uber บนมาเก๊าปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องการถอนตัว ระบุแต่เพียงว่าจะพยายามร่วมมือกับรัฐบาลด้านกฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้ Uber สามารถให้บริการชาวมาเก๊าต่อไปได้

ขณะที่ Uber เตรียมจะนำรถไร้คนขับมาให้บริการในเมือง Pittsburgh ดูเหมือน nuTonomy สตาร์ทพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับในสิงคโปร์จะตัดหน้าแล้ว เมื่อบริษัทได้เริ่มทดลองให้บริการแท็กซี่รถไร้คนขับเป็นครั้งแรก โดยไม่คิดค่าบริการ

รถยนต์ที่นำมาให้บริการคือ Renault Zoe และ Mitsubishi i-MiEV ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าทั้งคู่ การทดลองให้บริการนี้จะจำกัดเฉพาะในพื้นที่ราว 4 ตารางกิโลเมตรของย่าน One North ก่อนเท่านั้น โดยจะมีคนขับนั่งอยู่หลังพวงมาลัย รวมถึงนักวิจัยอีกคนที่คอยเก็บข้อมูลอยู่ในรถด้วย อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าใครจะใช้บริการของ nuTonomy ได้ เพราะจะต้องได้รับคำเชิญจากบริษัทก่อน ซึ่งก็ต้องยื่นความประสงค์เข้าไปก่อนเช่นกัน

ทางการเยอรมนีเผยแนวคิดที่จะใช้ระบบรู้จำใบหน้าเพื่อระบุตัวผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย เป็นหนึ่งในมาตรการคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยในสนามบินและสถานีรถไฟ

Thomas De Maiziere รัฐมนตรีภายในของเยอรมนีให้สัมภาษณ์แก่ Bild am Sonntag หนังสือพิมพ์เยอรมันว่าเทคโนโลยีที่จะช่วยสอดส่องป้องกันเหตุร้ายนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยหวังว่าระบบรู้จำใบหน้าจะช่วยในการระบุตัวผู้ต้องสงสัยหรือบุคคลที่พึงเฝ้าระวังในสถานที่อย่างสนามบินและสถานีรถไฟ ที่ซึ่งเป็นสถานที่เป้าหมายหลักของการก่อการร้ายในยุโรปในช่วงไม่กี่เดือนมานี้