ศาลของเบลเยียมมีคำสั่งให้ Facebook หยุดการติดตามผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกผ่านทางคุกกี้ (cookie) ภายใน 48 ชั่วโมง หาก Facebook ไม่ปฏิบัติตามจะต้องจ่ายค่าปรับ 250,000 ยูโรต่อวัน

โดยศาลให้เหตุผลว่าข้อมูลที่ถูกติดตามเหล่านี้ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของเบลเยี่ยม และ Facebook จะสามารถนำไปใช้ได้หากผู้ใช้ยินยอมเท่านั้น

โดยทาง Facebook แถลงว่าการเก็บข้อมูลในลักษณะนี้ (บริษัทเรียกว่า Datr cookie) มานานกว่า 5 ปีเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ พร้อมทั้งยื่นอุทธรณ์คำพิพากษานี้แล้ว

ที่มา - The Guardian

น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับคอเกม Blizzard คลาสสิคสุดฮิตอย่าง StarCraft, Warcraft III และ Diablo II เมื่อ Blizzard มีแผนจะรีมาสเตอร์เกมดังกล่าวและเริ่มประกาศรับสมัครซอฟต์แวร์เอ็นจิเนียร์เพื่อมารับผิดชอบโครงการนี้แล้ว

อย่างไรก็ตามต้องรอติดตามถึงรายละเอียดของการรีมาสเตอร์เกมคลาสสิคทั้ง 3 ต่อไปครับ

ที่มา - Blizzard via WCCF Tech

นิตยสาร Forbes ได้เผยผลการจัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกประจำปีนี้แล้ว โดยส่วนใหญ่คือผู้ที่อยู่ในแวดวงการเมืองโลก ขณะเดียวกันก็มีผู้คนจากแวดวง IT ติดอันดับอยู่หลายคนด้วยเช่นเดียวกัน โดยมีเพียง Bill Gates และ Larry Page เท่านั้นที่ติดในอันดับท็อปเท็นผู้ทรงอิทธิพลของโลก

ขณะที่คนในแวดวง IT ที่ติดอันดับทั้งหมดมีดังนี้

เมื่อคืนฮัลโลวีนที่ผ่านมา Steam มีจำนวนผู้เล่นออนไลน์พร้อมกันเป็นสถิติใหม่ที่ 13,480,916 คน โดยเกมที่มีผู้เล่นพร้อมกันมากที่สุดในคืนนั้นคือ Counter-Strike: Global Offensive ที่ 790,795 คน ตามมาด้วย Dota 2 ที่ 542,691

ขณะที่อันดับ 3 คือ Team Fortress 2 ตามาด้วย Grand Theft Auto V และ ARK: Survival Evolved

อันดับอื่นๆ ดูได้จากที่มาครับ

ที่มา - Dark Side of Gaming

นับตั้งแต่รูปแบบการทำเงินจากเกม เริ่มเปลี่ยนจากขายตัวเกมแต่เพียงอย่างเดียวแล้วจบ มาเป็นตัวเกม บวกด้วย Downloadable Contents (DLCs) หรือส่วนเสริม ไม่ว่าจะเป็นไอเท็มหรือเนื้อเรื่องเพิ่มเติม ที่ต้องจ่ายเพิ่มหากอยากได้ และจากผลประกอบการของ Electronic Arts ล่าสุดที่ทำเงินจาก DLCs ได้มากกว่าตัวเกมหลัก ยิ่งตอกย้ำว่าทำไมบริษัทพัฒนาเกม เลือกใช้วิธีนี้ในการดูดเงินจากผู้เล่นกันเป็นส่วนใหญ่

โมโตโรลาเปิดตัว Droid Turbo 2 และ Moto X Force ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Shatterproof หรือหน้าจอกันแตก และเทคโนโลยีที่ว่านี้โมโตโรลาเรียกว่า ShatterShield ซึ่งใช้เวลาพัฒนามากว่า 3 ปี

ShatterShield คือเทคโนโลยีหน้าจอที่ประกอบไปด้วย 5 ชั้น (layer) ชั้นล่างสุด (1) คือโครงที่ทำจากอะลูมิเนียม (Aluminium Chassis) ถัดขึ้นมา (2) เป็นหน้าจอ AMOLED ที่มีความยืดหยุ่น (flexible) เพื่อดูดซับแรงกระแทก ถัดขึ้นมา (3) คือชั้นของทัชสกรีนแบบคู่ (dual) กล่าวคือหากหน้าจอเกิดการกระแทกจนทัชสกรีนเสียหาย จะมีเลเยอร์ทัชสกรีนอีกชั้นคอยทำหน้าที่แทน

หลังจากเปิดตัว Droid Turbo 2 ที่ผูกกับเครือข่าย Verizon ในสหรัฐฯ ไปแล้ว ล่าสุดโมโตโรลาเปิดตัว Moto X Force เรือธงประจำปีนี้เป็นรุ่นที่ 3 ตามข่าวลือก่อนหน้านี้

ถ้าจะเรียกให้ถูก Moto X Force ก็คือ Droid Turbo 2 รุ่นไม่มีโลโก้ Droid อยู่ด้านหลังเท่านั้น เนื่องจากสเปคภายในเหมือนกับ Droid Turbo 2 ทุกประการ โดยมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 5.4 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560x1440) พร้อมเทคโนโลยี ShatterShield กันหน้าจอแตก

DxoMark จับ Droid Turbo 2 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อคืนมาทดสอบคุณภาพของกล้องแล้ว ปรากฏว่าได้ไป 84 คะแนน เทียบเท่า Nexus 6P และมากกว่ารุ่นพี่อย่าง Moto X Style เพียงคะแนนเดียว

โดยภาพรวมภาพถ่ายจาก Droid Turbo 2 มีไวท์บาลานซ์และสีที่ค่อนข้างถูกต้อง เก็บรายละเอียดครบ ขณะที่จุดด้อยหลักๆ อยู่ที่การถ่ายภาพในที่มืดเช่น มีแสงแทรก มีเงาและ noise บริเวณมุมภาพยามใช้แฟลช ขณะที่วิดีโอมีปัญหาในที่มืดเช่นกัน รวมไปถึงปัญหาการออโต้โฟกัสและการโฟกัสวัตถุเคลื่อนที่

ที่มา - DxOMark

เมื่อมีผลิตภัณฑ์ออกใหม่ ก็ย่อมหนีไม่พ้นที่ iFixit จะนำมางัดแงะตามธรรมเนียม โดยตราวนี้เป็นทีของ Surface Pro 4 ที่ยังคงสืบทอดความแกะยากมาจากรุ่นก่อนๆ

คราวนี้ iFixit บอกว่าหน้าจอแกะง่ายขึ้นเล็กน้อยและไม่แตกเหมือนคราวที่แล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นส่วนที่เปราะบางมาก ส่วน SSD ยังสามารถเปลี่ยนได้เช่นเดิม แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้หน้าจอแตกได้ ขณะที่บานพับของ kickstand ทางไมโครซอฟท์ใส่จารบีเข้ามาด้วย iFixit จึงแนะนำว่าระวังอย่าให้เศษผมหรือทรายหลุดเข้าไป

คะแนนความยากในการซ่อมสำหรับ Surface Pro 4 อยู่ที่ 2 เต็ม 10 (ยิ่งมากยิ่งซ่อมง่าย)

ที่มา - iFixit

เว็บไซต์ The Next Web รายงานว่า Facebook กำลังทดสอบการรายงานผลกีฬาสดบน Messenger อยู่ในขณะนี้

The Next Web รายงานอ้างอิงผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง โดยเจ้าตัวบอกว่าขณะที่เขากำลังคุยกับเพื่อนเรื่องการแข่งขันเบสบอลผ่านทาง Messenger อยู่ดีๆ ก็มีหน้าป๊อปอัพเด้งขึ้นมาด้านบน ถามว่าต้องการจะติดตามผลการแข่งขัน MLB World Series หรือไม่ และเมื่อเขากด subscribe ปรากฎว่ามีผลการแข่งขันแทรกขึ้นมาระหว่างบทสนทนา

โดยเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเริ่มทดสอบในสหรัฐฯ ก่อนและทดสอบกับผลการแข่งขันกีฬาที่นิยมอยู่ในสหรัฐฯ อย่างเบสบอลและบาสเก็ตบอลก่อนเท่านั้น (ผู้เขียนคาดเดาเอง)

Motorola เปิดตัวนสมาร์ทโฟนเฉพาะเครือข่าย Verizon ในสหรัฐฯ รุ่นใหม่ถึง 2 รุ่น โดยใช้ชื่อต่อจากรุ่นที่แล้วว่า Droid Turbo 2 และ Droid Maxx 2 โดยสเปคของ Droid Turbo นอกจากจะใกล้เคียงกับ Moto X Force ที่เคยหลุดออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ยังมีหน้าจอ Shatterproof ที่ทนต่อการแตกด้วย

Droid Turbo 2 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 5.4 นิ้ว ความละเอียด QHD 1440p รันชิปเซ็ต Snapdragon 810 ความถี่ 2.0GHz แรม 3GB กล้องหลัง 21 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชหน้าหลัง แบตเตอร์รี่ 3,760 mAh พร้อมรองรับฟีเจอร์ Fast Charging และรองรับแท่นชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi และ PMA ความจุ 32 และ 64GB รองรับ microSD รัน Android 5.1.1 Lollipop

Juniper Research สำนักวิจัยในอังกฤษ ได้สำรวจข้อมูลจากผู้ใช้สมาร์ทโฟนในสหราชอาณาจักร 2,000 คน (ทั้งผู้ใช้ iPhone และแอนดรอยด์) ปรากฎว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่โหวตให้ Apple เป็นแบรนด์อุปกรณ์สวมใส่ที่เท่ที่สุด ('coolest brand' for wearable technology)

ขณะที่บริษัทด้านแฟชันและนาฬิกาหรูอย่าง TAG Heuer, Rolex หรือ Dior รวมไปถึงแบรนด์ด้านกีฬาอย่าง Nike และ Adidas ล้วนอยู่ในอันดับที่รองลงมาจากบริษัทด้านเทคโนโลยีทั้งสิ้น โดย
นอกจาก Apple แล้วอันดับที่ 2-5 ได้แก่ Samsung, Google, LG และ Sony

Google งัดกลยุทธ์ทางการตลาดในการดึงดูดผู้ใช้ให้มาใช้ Android Pay มากยิ่งขึ้นด้วยการใช้กลยุทธ Loyalty Reward หรือการเก็บแต้มสะสมทุกครั้งที่ใช้งาน Android Pay แล้วนำไปแลกรางวัล

พาร์ทเนอร์แรกที่จับมือกับ Google ในโปรแกรมนี้คือ Coca-Cola โดยทุกครั้งที่ผู้ใช้ซื้อเครื่องดื่มจากตู้ขายน้ำอัตโนมัติของ Coca-Cola โดยใช้ Android Pay ก็จะได้รับแต้ม แล้วนำไปแลกซื้อ Coca-Cola ได้ฟรี

นอกจากนี้ทาง Google ยังจะย้ำเตือนกับผู้ให้บริการเครือข่ายในสหรัฐฯ ทั้ง Verizon, AT&T และ T-Mobile และพาร์ทเนอร์บัตรเครดิตทั้ง American Express, MasterCard และ VISA ให้สร้างการรับรู้และกระตุ้นผู้บริโภคถึงโปรแกรมนี้ของ Android Pay

Google ปล่อยอัพเดตให้กับ Play Store เพิ่มฟีเจอร์รองรับการใช้ลายนิ้วมือ เพื่อยืนยันตนก่อนใช้จ่ายภายในสโตร์แล้ว จากเดิมที่ต้องใส่แอคเคาท์ของ Google เพียงอย่างเดียว เพื่อรองรับการมาของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบน Nexus รุ่นใหม่

แน่นอนว่าฟีเจอร์นี้ใช้ได้เฉพาะบนแอนดรอยด์ 6.0 Marshmallow และเครื่องที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเท่านั้น โดยฟีเจอร์นี้จะถูกปิดเป็นค่าดีฟอลต์ และผู้ใช้ต้องไปเปิดตัวเลือกนี้ในหัวข้อ User Control ในหน้า Setting ของ Play Store

ที่มา - Android Police

ต่อจากข่าวกูเกิลเปิดตัว YouTube Red ที่มาพร้อม Original Contents จาก Content Creator บน YouTube ล่าสุดเทรลเลอร์แรกของคอนเทนต์ที่มาจาก PewDiePie นักแคสเกมชื่อดังได้ถูกปล่อยออกมาแล้ว

คอนเทนต์นี้มีชื่อว่า Scare PewDiePie เป็นซีรีย์แนว reality-adventure โดยได้ Skybound Entertainment ผู้สร้าง The Walking Dead และ Robert Kirkman หนึ่งในทีมสร้างซีรีย์ซอมบี้ดังกล่าวมาช่วยดูแลเบื้องหลังและกำกับให้

ด้านเนื้อเรื่องจะเป็นกึ่งการแกล้งกึ่งระทึกขวัญที่จะสร้างเซอร์ไพร์สอยู่ตลอด (part prank and part suspense-adventure as there are "hidden surprise around each corner") โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเกมสุดโปรดของ PewDiePie เอง

ศาลในนิวยอร์คมีคำสั่งให้ Apple ถอดรหัสข้อความ iMessage ใน iPhone ของผู้ต้องหาคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและปืน แต่ Apple ชี้แจงต่อศาลว่า บริษัทไม่สามารถถอดรหัสสมาร์ทโฟนกว่า 90% ที่รัน iOS 8 ขึ้นไปได้ เนื่องจากบริษัทใช้ระบบเข้ารหัสแบบ end-to-end ที่แม้แต่บริษัทเองก็ถอดรหัสไม่ได้

ขณะเดียวกัน ถึงแม้ Apple จะยังพอสามารถถอดรหัสข้อความใน iPhone อีก 10% ที่เหลือได้ (รวมถึงเครื่องที่ศาลร้องขอ) แต่ทนายของ Apple ได้แถลงต่อศาลว่า การบังคับให้บริษัทถอดรหัส เพื่อช่วยเหลือในคดีนี้ ทั้งๆ ที่บริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมาย จะส่งผลต่อความไว้วางใจของลูกค้าและสร้างความเสียหายต่อแบรนด์ Apple

ถึงแม้ทางนิตยสาร Consumer Reports จะให้คะแนนสมรรถนะของ Tesla Model S รุ่นใหม่ไปแบบทะลุชาร์ทก็ตาม แต่ Model S กลับสอบตกในเรื่องความน่าเชื่อถือของตัวรถ

กล่าวคือทาง Consumer Reports ไม่กล้ารับประกันได้ว่าตัว Tesla Model S จะไม่มีปัญหาในส่วนต่างๆ ภายในระยะเวลา 2 ปีแรกหลังการซื้อ โดยทางนิตยสารได้สำรวจความเห็นของผู้ใช้รุ่น Model S กว่า 1,400 คนที่ส่วนใหญ่บ่นไปในทางเดียวกันว่า Model S ส่วนใหญ่มักมีปัญหาที่ระบบขับเคลื่อนและส่งกำลัง (Drivetrain) อุปกรณ์ที่จ่ายไฟ (Power Equipment) อุปกรณ์ชาร์จไฟ (Charging Equipment) หลังคาซันรูฟที่มักส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด เสียงแปลกๆ ภายในตัวรถ (rattles) และการรั่วตามจุดต่างๆ

ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ในเกาหลีใต้ได้เปิดพรีออเดอร์ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยโควต้าทั้งหมดกว่า 100,000 เครื่องหมดลงภายในไม่กี่นาที

ผู้ให้บริการเครือข่ายของเกาหลีใต้ 3 เจ้าคือ SK Telecom, KT และ LG Uplus เปิดให้ชาวเกาหลีใต้พรีออเดอร์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของแอปเปิล โดยทาง KT เปิดเผยว่า 10,000 เครื่องแรกถูกจองภายในระยะเวลาไม่ถึงนาที และโควต้าทั้งหมด 50,000 เครื่องของทางเครือข่ายถูกจองหมดภายใน 10 นาที

ทางด้าน LG Uplus ระบุว่าโควต้าของตัวเองหมดภายใน 5 นาที ส่วนทาง SK Telecom นั้น iPhone 6s ทั้งหมด 50,000 เครื่องถูกจองหมดโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที

หากยังพอจำกันได้ เมื่อปลายปีที่แล้ว คนขับ Uber ของอินเดียถูกกล่าวหาและจับกุม ฐานข่มขืนผู้โดยสาร ตอนนี้คดีมาถึงที่สิ้นสุดแล้วเมื่อศาลในกรุงนิวเดลี มีคำตัดสินให้อดีตคนขับรถ Uber มีความผิดจริง

นาย Shiv Kumar Yadav ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงใน 4 ข้อหาคือข่มขืน ลักพาตัว ข่มขู่คุกคาม และทำให้เกิดอันตราย จากกรณีข่มขืนผู้โดยสารหญิงวัย 25 ปีที่เรียกใช้บริการ โดยนาย Yadav มีกำหนดการเข้ารับฟังพิจารณาโทษในวันที่ 23 ตุลาคมนี้

นอกจากจะกำลังพัฒนารถไร้คนขับแล้ว ตอนนี้ Uber ได้แถลงว่ากำลังเริ่มเก็บข้อมูลแผนที่เป็นของตัวเองแล้ว หลังจากมีภาพหลุดออกมาบนโซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้

TechCrunch ได้ติดต่อสอบถามไปยัง Uber และได้คำตอบว่าบริษัทเริ่มปล่อยรถยนต์ที่ติดกล้องในลักษณะเดียวกับรถ Street View ของ Google มาได้ซักพักแล้ว เพราะทาง Uber ต้องการเก็บข้อมูลเส้นทาง ที่จะนำไปปรับปรุงการแนะนำเส้นทางและการกำหนดเวลาเดินทางโดยประมาณบนแอพ

Uber ยังบอกด้วยว่าเทคโนโลยีที่ใช้นี้ เป็นส่วนที่ซื้อมาจากส่วนย่อยของธุรกิจ Bing Map ของไมโครซอฟท์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงพนักงาน 100 กว่าคนด้วย

ที่มา - TechCrunch

เนื่องในวันที่ชาวอเมริกันให้ความสำคัญกับตัวตนของ LGBT ในสังคม (National Coming out Day) ในวันที่ 11 ตุลาคมและวันสำหรับการแสดงออก เพื่อสนับสนุนชาว LGBT ที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง (Spirit Day) ในวันที่ 15 ตุลาคม ทางเฟซบุ๊คได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่ามีชาวอเมริกันแสดงออกว่าตัวเองเป็นเพศทางเลือกหรือ LGBT กันมากขึ้น

เฟซบุ๊คได้สำรวจข้อมูลจากการใส่ข้อมูลบนหน้าโปรไฟล์ของผู้ใช้ ที่ระบุว่าตัวเองเป็นเพศทางเลือก ซึ่งชี้ว่าตั้งวัน National Coming out Day ในปีที่แล้ว มีชาวอเมริกันแสดงออกว่าเป็นเพศทางเลือกมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะมีบางช่วงที่ตกลงไปบ้าง

ประเด็นเรื่องความไว้วางใจต่อเครื่องจักร โดยเฉพาะเรื่องของรถยนต์ไร้คนขับ กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งเมื่อ David Mindell ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ว่าด้วยวิศวกรรมศาสตร์ที่ MIT ได้แสดงความเห็นไว้ว่า การปล่อยให้รถยนต์มีอิสระในการควบคุมตัวเองได้นั้น เป็นความคิดในสมัยศตวรรษที่ 20

เนื่องจากตัวอาจารย์นั้นไม่เห็นด้วยกับการที่ระบบคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์เป็นตัวควบคุมรถไร้คนขับโดยสมบูรณ์ Mindell บอกว่าไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ใดๆ จะยืนยันได้ว่าระบบไร้คนขับโดยสมบูรณ์จะช่วยให้โชคชะตาของมนุษย์ดีขึ้นจริงๆ (ลดอุบัติเหตุ ความสูญเสีย ฯลฯ)

นอกจาก OnePlus X ดูเหมือนว่าทาง OnePlus กำลังซุ่มเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กอยู่ด้วยเช่นกัน โดยมีภาพหลุดพร้อมข้อมูลของสมาร์ทโฟน OnePlus Mini จากเว็บไซต์อเมซอนของอินเดีย

รายละเอียดบนหน้าเว็บระบุว่า OnePlus Mini ใช้หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด FullHD มีกรอบโลหะรอบตัวเครื่อง ใช้ชิปเซ็ต MediaTek MT6795 แรม 2GB แบตเตอรี่ลิเทียมโพลีเมอร์ขนาด 2,450 mAH รันแอนดรอยด์ Marshmallow ครอบทับด้วย OxygenOS 3.0

และแน่นอนว่าหน้าเว็บนี้ย่อมถูกลบออกไปในที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไปโผล่บนอเมซอนของอินเดีย อาจมาจากการที่ OnePlus เตรียมจะวางจำหน่ายรุ่น Mini นี้ในฐานะสมาร์ทโฟนราคาถูกของตัวเองในอินเดียครับ

กระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ เปิดตัวโครงการ “ระบบขนส่งสาธารณะแห่งอนาคต” โดยการนำรถยนต์ไร้คนขับมาทดลองวิ่งเป็นครั้งแรก

รถยนต์ต้นแบบที่ถูกนำมาทดลองวิ่งนั้น เป็นรถที่ผลิตโดยบริษัทมิตซูบิชิของญี่ปุ่น ที่สามารถเคลื่อนที่ได้สูงสุด 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กับสถาบันวิจัยและเทคโนโลยีของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ MIT ที่เล็งเห็นว่าสิงคโปร์ เป็นประเทศที่ขาดแคลนแรงงานในตำแหน่งพนักงานขับรถ ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลแก้ไม่ตกตลอดมา

ทางการสิงคโปร์ตั้งเป้าจะพัฒนารถไร้คนขับ ให้เป็นรถขนส่งสาธารณะเช่นรถเมล์และแท็กซี่ รวมไปถึงรถเก็บกวาดถนนด้วยเช่นกัน

ขณะที่บริษัทรถหรือแม้แต่บริษัทไอทีทางฝั่งตะวันตกหลายเจ้า ต่างประกาศว่ากำลังพัฒนารถไร้คนขับอยู่ในขณะนี้ โตโยต้า บริษัทรถยนต์ชื่อดังแดนปลาดิบได้เผยโฉมฟีเจอร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (semi-autonomous) ในรถยนต์แทน โดยจะทำงานก็ต่อเมื่อขับอยู่บนทางหลวงหรือทางด่วนเท่านั้น

ฟีเจอร์นี้มีชื่อว่า Highway Teammate ซึ่งโตโยต้าได้โชว์ในงาน Tokyo's Shuto Expressway บนรถ Lexus GS โดยตัวรถจะขับเคลื่อนตัวเองเมื่อเข้าสู่ทางหลวง โดยใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ รอบตัวรถ ร่วมกับซอฟต์แวร์ที่คอยประมวลผลการจราจร ตัดสินใจในการขับเคลื่อน รวมไปถึงแผนที่

โตโยต้าระบุว่ากำลังเร่งการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับ โดยตั้งเป้าว่าจะออกรถรุ่นใหม่ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Highway Teammate นี้ประมาณปี 2020