คณะตุลาการของศาลยุติธรรมยุโรปหรือ ECJ ได้มีคำพิพากษาให้ข้อตกลง เซฟ ฮาร์เบอร์ (Safe Harbour) ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ว่าด้วยการอนุญาตให้บริษัทต่างๆ ของสหรัฐ สามารถส่งข้อมูลส่วนตัวพื้นฐานของผู้ใช้และลูกค้าชาวยุโรป กลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ ณ ประเทศแม่ มีผลเป็นโมฆะ

คดีดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่นักศึกษาด้านกฎหมายชาวออสเตรีย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมาธิการด้านการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของรัฐบาลไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานเฟซบุ๊คในยุโรป ให้ตรวจสอบว่าเฟซบุ๊คว่าส่งข้อมูลใดกลับไปยังสหรัฐบ้าง แต่ทางการไอร์แลนด์ปฏิเสธคำร้องดังกล่าว โดยอ้างอำนาจของข้อตกลงเซฟ ฮาร์เบอร์ ทำให้นักศึกษาด้านกฎหมายผู้นี้ยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมยุโรปแทน

เอ็ดเวิร์ด สโนวเดน อดีตเจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐหรือ NSA ได้ออกมาเปิดเผยกับสำนักข่าว BBC ว่าศูนย์บัญชาการการสื่อสารของรัฐบาลอังกฤษ (British's Government Communications Headquarters - GCHQ) สามารถเจาะเข้าระบบสมาร์ทโฟนของประชาชนผ่านระบบการส่งข้อความเข้ารหัส เพื่อบันทึกเสียงการสนทนา ถ่ายรูป รวมไปถึงเข้าไปดูบันทึกการโทร ข้อความ รายชื่อ สถานที่ที่อยู่และสิ่งที่เจ้าของเครื่องค้นหาบนเบราว์เซอร์ได้

หลังจากเรื่องการดักข้อมูลส่วนตัวของรัฐบาลสหรัฐถูกเผยแพร่ออกมาจนเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายเป็นห่วง ในช่วงปีที่ผ่านมา Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลได้ให้สัมภาษณ์กับวิทยุแห่งชาติของสหรัฐ (National Public Radio) เกี่ยวกับประเด็นข้างต้นว่าไม่เปิดเผยข้อมูลให้รัฐบาล รวมไปถึงไม่เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ เพราะเป็นสิทธิพื้นฐาน

หลังจากที่วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์รัฐบาลทั้งหมด 6 เว็บและของพรรคประชาธิปัตย์อีก 1 เว็บไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งคาดว่าเกิดจากการโจมตีแบบ DDoS ของชาวเน็ตที่ต่อต้านนโยบาย Single Gateway โดยอาศัยการกดรีเฟรชหรือ F5 รวมไปถึงใช้เว็บไซต์ refreshthis.com เพื่อออโต้รีเฟรชหน้าเว็บดังกล่าว

ล่าสุดทางกระทรวง ICT ได้บล็อคเว็บไซต์ refreshthis เรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาการถูกใช้เป็นเครื่องมือโจมตีเว็บไซต์รัฐบาล

ที่มา - VoiceTV

อย่างที่ทราบกันว่า Nexus 5X นั้นมาพร้อมกับพอร์ท USB Type-C ที่สามารถเสียบด้านไหนก็ได้ แต่คนที่ตั้งตารอ Nexus รุ่นนี้อาจต้องคิดหนักหน่อยเสียแล้ว เพราะอาจต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มอีกชิ้น เมื่อสาย USB ที่แถมมาพร้อมกับ Nexus 5X นั้นกลับเป็น Type-C ทั้ง 2 ด้าน

โดยปกติพอร์ท USB ที่ค่อนข้างใช้กันอย่างแพร่หลายคือ Standard-A ที่เราเสียบถูกเสียบผิดกันอยู่ทุกวันนี้ แต่ทว่าในรายละเอียดที่ Google ระบุถึงอุปกรณ์เสริมที่ใส่มาในกล่องของ Nexus 5X กลับเป็นสาย USB Type-C to Type-C ทำให้หากต้องการจะโอนข้อมูลกับช่อง USB แบบดั้งเดิม ต้องซื้อสายแปลงเพิ่มครับ

DxOMark บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพ และจัดอันดับกล้องได้ยกให้เรือธงปีนี้ของโซนี่อย่าง Xperia Z5 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องที่ดีสุด ทำให้แชมป์เก่าอย่าง Galaxy S6 Edge ตกลงไปอยู่อันดับ 2 ขณะที่น้องใหม่ตระกูล Nexus ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง Nexus 6P ถูกจัดให้อยู่อันดับ 3

สำหรับ Xperia Z5 ทาง DxOMark ได้ให้คะแนนถึง 87 โดยจุดเด่นคือคุณภาพของภาพที่ดีขึ้นมาก ทั้งแสง สีและไวท์บาลานซ์ รวมไปถึงเป็นกล้องที่มีการชดเชยแสงดีที่สุดที่เคยทดสอบมา ขณะที่การถ่ายวิดีโอดีไม่แพ้ภาพถ่ายทั้งไวท์บาลานซ์และสี รวมไปถึงภาพค่อนข้างนิ่ง ไม่มีปัญหาการสั่น

หลังจากที่รอลุ้นกันมาพักใหญ่ว่า Lenovo จะนำเอา Motorola ที่ซื้อมาจากกูเกิลกลับเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้งหรือไม่ ล่าสุดทาง Lenovo ประเทศไทยได้ยื่นเรื่องให้ กสทช. ดำเนินการตรวจสอบสมาร์ทโฟน Motorola 3 รุ่นที่จะนำมาวางขายในประเทศไทยครับ

3 รุ่นที่กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบคือ Moto X Play (XT1562), Moto X Style แบบ Dual Sim (XT1572) และรุ่นที่คาดว่าน่าจะใช้ชื่อ Moto X Force หรือโค้ดเนม Bounce ที่เคยหลุดออกมาก่อนหน้านี้ (XT1580) ที่ยังไม่เปิดตัว

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องการสั่งแบบ custom ผ่านหน้า MotoMaker ในบ้านเรา รวมถึงยังไม่มีรายละเอียดว่าจะนำ Moto G เข้ามาจำหน่ายด้วยครับ

ผู้ใช้ Apple Watch กำลังมีทางเลือกที่มากกว่าแค่ Apple Maps หากต้องการใช้แผนที่หรือตัวช่วยนำทางบนข้อมือตัวเอง เมื่อ Google ได้อัพเดต Google Maps บน iOS ให้รองรับ Apple Watch แล้ว

Google Maps บนข้อมือนั้นไม่ได้มีความสามารถมากเท่า Apple Maps ในการแสดงแผนที่ทั้งหมด เพราะ Google Maps นั้นมีให้แค่ 3 ตัวเลือกคือเส้นทางกลับบ้าน เส้นทางไปที่ทำงาน และเส้นทางล่าสุด ขณะเดียวกันหากผู้ใช้เลือกระบบนำทางจากแอพบน iPhone บนข้อมือก็ยังคงแสดงเส้นทางไปยังเป้าหมายเช่นกันเดียว

หลังจากที่หน่วยงานป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ ออกมาเผยว่า Volkswagen มีซอฟต์แวร์ที่โกงผลการทดสอบการตรวจจับค่ามลพิษ ล่าสุด Audi และ Skoda ผู้ผลิตรถยนต์ในเครือ Volkswagen Group ออกมาเปิดเผยว่ามีซอฟต์แวร์แบบเดียวกันอยู่ในรถของตัวเองด้วย

Audi ระบุว่ามีรถยนต์ของตัวเองกว่า 2.1 ล้านคันทั่วยุโรปและสหรัฐที่มีซอฟต์แวร์แบบเดียวกับของ Volkswagen ซึ่งสามารถโกงการตรวจวัดปริมาณมลพิษจากไอเสียเครื่องยนต์ดีเซล โดยรุ่นที่มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้แก่รุ่น A1, A3, A4, A5, A6, TT, Q3 และ Q5 ขณะที่ Skoda เปิดเผยเพียงว่ามีรถยนต์ของตนทั้งหมด 1.2 ล้านคันที่มีซอฟต์แวร์ดังกล่าว

จะเรียกว่าเกาะกระแสหรือว่าไปป่วนดี เมื่อซัมซุงได้ส่งพนักงานไปโปรโมทสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของตัวเอง ท่ามกลางชาวลอนดอนที่กำลังต่อคิวหน้า Apple Store ในกรุงลอนดอนเพื่อรอซื้อ iPhone 6s

ซัมซุงได้ส่งทีมมาเก็ตติ้งมาโปรโมทสมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่ของตัวเอง ทั้ง Galaxy S6 Edge และ Edge+ บริเวณหน้าร้าน Apple Store แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนที่กำลังจะวางขาย iPhone รุ่นใหมม่ พร้อมแจกใบปลิวเชิญชวนและของที่ระลึกต่างๆ ให้กับผู้คนและลูกค้าแอปเปิลที่รอซื้อ iPhone 6s

ดูแล้วอาจจะทั้งป่วนทั้งเกาะกระแสก็ได้

ที่มา - Cult of Android

Google ประกาศผ่าน Research Blog ว่าตอนนี้ได้ปรับใช้เอนจินใหม่ให้กับ Voice Search ของตัวเอง ซึ่งสามารถคาดเดาคำได้แม่นยำมากขึ้นและตอบสนองเร็วมากกว่าเดิม

Google ระบุว่าเอนจินตัวใหม่นี้เป็นการสร้าง neural network acoustic model ตัวใหม่ ซึ่งเป็นส่วนเสริม (extension) ของ Recurrent Neutral Network - RNNs ซึ่งมีความแม่นยำในการตรวจจับเสียงในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังมากกว่า รวมไปถึงรวดเร็วกว่ามาก

การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการอัพเดตทางฝั่งของระบบของ Google ซึ่งมีผลกับผู้ใช้ทั้งบนแอนดรอยด์และ iOS โดยไม่ต้องอัพเดตแอพครับ

Opera Software ได้เผยโฉมโลโก้แบบใหม่ พร้อมเน้นย้ำว่าไม่ใช่แค่เปลี่ยนโลโก้ แต่เป็นการเปลี่ยนลุคและตัวตนใหม่ของ Opera หลังจากให้บริการมากว่า 20 ปี

แนวคิดของตัว O แบบใหม่ที่มีมิติมากขึ้นนี้ ไม่ใช่แค่จะสื่อถึงชื่อของบริษัทเท่านั้น แต่ยังสื่อความเป็นประตู (gateway) ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่าพันล้านคนไปสู่คอนเทนท์บนโลกออนไลน์ที่มีมิติมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทก็มองตัวเองว่าเติบโตไปมากกว่าเป็นแค่บริษัทซอฟต์แวร์ จึงตัดสินใจเอาคำว่า "software" ออกจากโลโก้

ที่มา - Opera

หลังจากที่แอปเปิลปล่อยแอพ Move to iOS ลงบนแอนดรอยด์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้แอนดรอยด์ย้ายไปใช้ iPhone แต่ก็ถูกแฟนๆ ผู้ใช้แอนดรอยด์รุมให้ 1 ดาวกันไปตามระเบียบ เท่านั้นยังไม่พอ มีนักพัฒนารายหนึ่งปล่อยแอพ Stick with Android ตามมาเสมือนล้อเลียนแอปเปิลกลายๆ

ตัวแอพเรียกได้ว่าแทบไม่มีอะไรเลยก็ว่าได้ เพราะจะขึ้นเพียงว่า 'Click here to stick with Android' ให้เรากดแสดงความภักดีต่อหุ่นเขียวเท่านั้น แต่ตัวแอพก็ถูกดาวน์โหลดไปแล้วมากกว่า 5 พันครั้ง แถมได้รับคะแนนรีวิวสูงถึง 4.9 พร้อมรีวิวของแฟนๆ ว่าจะแอพนี้เป็นการตบหน้าแอปเปิลอย่างจัง และจะไม่มีวันย้ายไป iOS แน่นอน

หลังจากแอปเปิลเริ่มวางจำหน่าย iPad mini 4 ผู้เชี่ยวชาญด้านการแกะและการซ่อมอย่าง iFixit ได้จัดแจงงัดแงะภายในของ iPad mini รุ่นล่าสุดมาให้ดูกัน

เนื่องด้วย iPad mini 4 มีขนาดที่บางลงกว่ารุ่นก่อนหน้า ทำให้ภายในของตัวเครื่องมีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหน้าจอ LCD และกระจกด้านหน้าที่ติดกันเป็นแผ่นเดียว ซึ่งทำให้ง่ายต่อการแกะแต่ก็กลายเป็นข้อเสียหากหน้าจอแตก ที่จะทำให้ค่าซ่อมแพงมากขึ้นตามไปด้วย รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่เล็กลงและความจุลดลง รวมไปถึงเปลี่ยนมาเป็น single cell ด้วย (รุ่นก่อนหน้าเป็น 2 cell)

หลังจากที่มีข่าวลือออกมาสารพัด เกี่ยวกับภาคเสริม (Downloadable Content) ของ GTA V ในโหมดเล่นคนเดียว ล่าสุดทาง Rockstar ออกมาบอกแล้วว่าตอนนี้ยังไม่มีแผนพัฒนา dlc ในโหมดเนื้อเรื่องหลักของ GTA ภาคล่าสุด เพราะบริษัทกำลังโฟกัสไปที่ GTA Online อย่างเดียว

Imran Sarwar ผู้อำนวยการฝ่ายดีไซน์ของ Rockstar ที่ให้สัมภาษณ์กับ IGN ให้เหตุผลเพียงง่ายๆ ว่าเพราะ GTA Online ได้รับความนิยมเกินความคาดหมายของบริษัทไปมาก และขณะนี้ทีมพัฒนาเกม GTA ทุกๆ คนต่างมีส่วนร่วมในการพัฒนาโหมดออนไลน์

อย่างไรก็ดี Sarwar ไม่ได้ปฏิเสธเสียทีเดียวว่าไม่มีแผน dlc แฟนๆ ก็คงทำได้แต่รอและหวังต่อไปครับ

ที่มา - IGN

หลังจากที่เคยมีข่าวลือว่าแอปเปิลสนใจเรื่องรถไร้คนขับ ล่าสุดมีข่าวลือว่าทางแอปเปิลได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของกรมยานยนต์ (Department of Motor Vehicle) ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งพอจะช่วยตอกย้ำข่าวลือข้างต้นได้มากขึ้น

The Guardian รายงานว่าตัวแทนด้านกฎหมายของแอปเปิล เข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญด้านรถไร้คนขับของกรมยานยนต์ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ที่ดูแลและรับผิดชอบประเด็นด้านกฎหมายเกี่ยวกับรถไร้คนขับ จึงคาดเดาว่าประเด็นเรื่องรถไร้คนขับของแอปเปิลน่าจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ

ทวีปยุโรปและอียูในขณะนี้ กำลังเผชิญกับวิกฤติการหลั่งไหลของผู้อพยพและผู้ลี้ภัยจากทวีปแอฟริกาและตะวันออกกลาง จากปัญหาความอดอยากและสงคราม ซึ่งเป็นวิกฤติผู้อพยพครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ล่าสุด Google ได้จัดแคมเปญ Refugee Relief ระดมทุนหาเงินช่วยเหลือผู้ลี้ภัยดังกล่าวแล้ว

Jonathan Petit นักวิทยาศาสตร์และวิจัยด้านความปลอดภัยที่ Security Innovation บริษัทด้านความปลอดภัยซอฟต์แวร์ ได้เขียนเปเปอร์งานวิจัยที่จะนำไปพรีเซนท์ที่งาน Black Hat ในยุโรป โดยระบุว่าสามารถโจมตีรถยนต์ไร้คนขับในลักษณะ DoS (Denial of Service) โดยการหลอกเซ็นเซอร์ LIDAR ที่ถูกใช้ในรถไร้คนขับเป็นส่วนใหญ่ จนทำให้รถไม่สามารถขับเคลื่อนได้

Google ได้ประกาศแต่งตั้ง John Krafcik เป็นซีอีโอให้กับโครงการรถยนต์ไร้คนขับ ขณะที่ Chris Urmson อดีตหัวหน้าโปรเจ็ครถไร้คนขับ จะกลายเป็นหัวหน้าทีมพัฒนายานยนต์และซอฟต์แวร์และขึ้นตรงกับ Krafcik แทน

Krafcik จบวิศวกรเครื่องกลและการบริหาร เคยเป็นหัวหน้าวิศวกรให้ Ford Motor และเคยเป็นซีอีโอให้กับ Hyundai Motor ในสหรัฐอเมริกาก่อนมารับตำแหน่งนี้ ซึ่งประสบความสำเร็จในการเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดให้กับ Hyundai ในสหรัฐ

การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างครั้งนี้อาจเป็นเค้าว่า โครงการรถไร้คนขับซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้สังกัด Google X อาจแยกตัวออกมาเป็นอิสระและไปอยู่ภายใต้ Alphabet แทน รวมไปถึงอาจคิดจะเริ่มทำธุรกิจจากโครงการนี้ด้วยเช่นกัน

Travis Kalanick ซีอีโอและโคฟาวเดอร์ของ Uber ประกาศว่าบริษัทจะบุกตลาดจีนเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนจะขยายการบริการเพิ่มอีกกว่า 100 เมืองภายใน 12 เดือนข้างหน้า หลังจากที่ให้บริการในกว่า 20 เมืองในปัจจุบัน

Kalanick ระบุว่าแรกเริ่ม Uber มีส่วนแบ่งตลาดในจีนเพียง 1% แต่ตอนนี้บริษัทตั้งเป้าถึงส่วนแบ่งตลาดกว่า 30-35% ขณะที่คู่แข่งใหญ่ในจีนของ Uber อย่าง Didi Kuaidi เพิ่งจะระดมทุนเพิ่มได้กว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐเช่นกัน

ในประเทศจีน Uber ได้รับการสนับสนุนจาก Baidu ขณะที่ Didi Kuaidi ได้รับการสนับสนุน Alibaba และ Tencent

ที่มา - Reuters

เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับแอปเปิล ที่ไม่ค่อยจะบอกสเปคภายในของอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่เปิดตัวออกมา จนต้องรอดูข้อมูลจากบุคคลที่ 3 ที่งัดแงะอุปกรณ์เพื่อดูสเปคภายใน ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อคืนทั้ง iPhone 6s/6s Plus และ iPad Pro แอปเปิลก็ไม่ได้บอกรายละเอียดของสเปคมากนักเช่นกัน แต่ทว่า Adobe ที่จับมือกับแอปเปิลทำแอพรองรับ iPad Pro กลับหลุดข้อมูลแรมของ iPad Pro ออกมา บอกว่ามาพร้อมแรมขนาด 4GB

Google ได้ออกมาเปิดเผยสัดส่วนจำนวนผู้ใช้งานแอนดรอยด์ ผ่านการเก็บข้อมูลจากจำนวนผู้ใช้งานแอพ Google Play Store ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ปรากฎว่า Android 5.x Lollipop มีสัดส่วนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 21% แล้ว

เปรียบเทียบจากเดือนที่แล้ว Android 5.x Lollipop โตขึ้นมาทั้งหมด 2.9% โดย Android 5.0 เพิ่มขึ้นมา 0.4% อยู่ที่สัดส่วน 15.9% ขณะที่ Android 5.1 เพิ่มขึ้นถึง 2.5% มาอยู่ที่สัดส่วน 5.1% แล้ว ทำให้สัดส่วนของ Lollipop ทั้งหมดเพิ่มขึ้นมามีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 4 ของจำนวนผู้ใช้ Android ทั้งหมดที่ Google เก็บข้อมูล

หลังจากที่มีทั้งภาพหลุดและสเปคหลุด ของ Nexus 5 รุ่นปี 2015 มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ในเบื้องต้นกูเกิลจะเรียก Nexus 5 รุ่นใหม่นี้ว่า Nexus 5X ครับ

แหล่งข่าวระบุว่าข้อมูลเรื่องชื่ออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตอนเปิดตัว เนื่องจากยังกระบวนการยังไม่ถึงที่สุด โดยกูเกิลจะเปิดตัว Nexus 5X ในวันที่ 29 กันยายนนี้พร้อมๆ กับ Nexus รุ่นใหม่ที่ผลิตโดย Huawei โดยราคาเริ่มต้นของรุ่นความจุ 16GB อยู่ที่ 399 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 14,000 บาท ขณะที่รุ่นความจุ 32GB จะอยู่ที่ 449 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 15,750 บาทครับ

อัพเดต: แก้ไขตัวเลขค่าเงินไทย

หลังจากที่โมโตโรลาเปิดตัว Moto X สมาร์ทโฟนเรือธงไปถึง 2 รุ่นแล้ว ล่าสุดมีภาพหลุดของสมาร์ทโฟนในตระกูล Moto X ที่ทาง Lenovo ซอยเพิ่มอีกหนึ่งรุ่น โดยมีชื่อว่า Moto X Force หรือโค้ดเนมว่า Bounce หลุดออกมาอีกตัวครับ

ภาพหลุดนี้ออกมาจากแอคเคาท์ทวิตเตอร์ @upleak โดยรูปลักษณ์ภาพนอกของ Moto X Force ไม่แตกต่างจาก Moto X Style ตัวท็อปในตอนนี้ ด้านสเปค Moto X Force จะมีขนาดหน้าจอ 5.43 นิ้ว ความละเอียด QHD (1440x2560) และเป็นหน้าจอ shatterproof ทนทานต่อการกระแทก
ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 810 มาพร้อมแรม 3GB กล้องหลัง 21 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ความจุ 32GB และ 64GB แบตเตอรี่ 3,760 mAh

ทั้งนี้คาดว่า Moto X Force จะเปิดตัวในเดือนธันวาคมนี้ครับ

หลังจากที่ไมโครซอฟท์ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า [Windows 10 ถูกติดตั้งไปแล้วกว่า 75 ล้านเครื่อง](https://www.blognone.com/node/71754) ทำให้ Windows 10 มีสัดส่วนของระบบปฏิบัติการทั้งหมดอยู่ที่ 5.2% ตามรายงานของ [NetMarketshare](http://www.netmarketshare.com/operating-system-market-share.aspx?qprid=10&qpcustomd=0) ครับ

วินโดวส์ที่มีส่วนแบ่งมากที่สุดยังคงเป็น Windows 7 ที่ 57.6% ตามมาด้วย Windows XP ที่ 12% Windows 8.1 ที่ 11.4% และ Windows 10 ตามมาในอันดับที่ 4 ขณะที่ลำดับที่ 5 และ 6 คือ OS X 10.10 และ Windows 8 มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 4.76% และ 2.56% ตามลำดับ