Google เพิ่งได้สิทธิบัตรสำหรับสิ่งประดิษฐ์ใหม่เป็น "แผ่นรองจมูกสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ซึ่งปรับความแข็งได้ด้วยระบบไฟฟ้า" ซึ่งคาดว่าจะเป็นชิ้นส่วนที่ตั้งใจทำมาเพื่อเสริมการใช้งาน Google Glass
Google กล่าวถึงที่มาของสิทธิบัตรนี้ว่าจะช่วยให้อุปกรณ์สำหรับสวมใส่ศีรษะ โดยเฉพาะส่วนแสดงผลที่อยู่ใกล้ดวงตากระชับและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการใช้งาน เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้ยิ่งขึ้น
ตามข้อมูลในสิทธิบัตร ผู้ใช้จะสามารถปรับความแข็ง-อ่อนของวัสดุส่วนที่เป็นแผ่นรองจมูกได้ด้วยสัญญาณไฟฟ้า โดยยกตัวอย่างการสั่งงานผ่านทางแถบสัมผัสซึ่งอยู่บริเวณขาแว่น
เว็บไซต์ The Verge อ้างแหล่งข่าววงในหลายรายว่าไมโครซอฟท์กำลังพัฒนาแท็บเล็ตขนาด 7" จับตลาดเกมเมอร์โดยเฉพาะ
ตอนนี้เรายังไม่รู้ชื่ออย่างเป็นทางการของมัน แต่เพื่อให้เข้าใจง่าย The Verge เลยเรียกมันว่า "Xbox Surface" ไปก่อน สเปกเท่าที่ทราบคือซีพียู ARM และแรมประเภทแบนด์วิธสูงๆ เพื่อรองรับการส่งข้อมูลปริมาณมากๆ สำหรับบางเกม ส่วนระบบปฏิบัติการใช้เคอร์เนลของวินโดวส์ แต่ไม่ใช่วินโดวส์เต็มรูปแบบ ถือเป็นระบบปฏิบัติการเฉพาะสำหรับเล่นเกมอย่างเดียว
ที่มา - The Verge
ข้อความทวีตล่าสุดจาก Sony ฝรั่งเศส ระบุว่า กำหนดการวางขายสมาร์ทโฟนรุ่น Xperia V จะถูกเลื่อนไปเป็นช่วงเดือนมกราคมปีหน้า โดยจะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android รุ่น Jelly Bean
ทั้งนี้สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าว ได้รับการเปิดตัวตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยพี่น้องร่วมรุ่นอย่าง Xperia T และ Xperia J นั้นต่างก็ออกวางขายกันไปก่อนหน้าด้วยกันแล้วทั้งคู่ ส่วน Xperia V โดนเลื่อนกำหนดการวางขายเป็นช่วงเดือนธันวาคม ก่อนจะมาโดนโรคเลื่อนซ้ำระลอกสองในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือน Sony จะพยายามชดเชยเวลาที่เสียไปด้วยการปรับระบบปฏิบัติการจากเดิมจะใช้ Ice Cream Sandwich มาเป็น Jelly Bean หากแต่ทวีตต้นตอของข่าวไม่ได้ระบุว่าเป็นเวอร์ชัน 4.1 หรือ 4.2
ถ้ายังจำกันได้ เอซุสประเทศไทยเคยโปรโมท Nexus 7 รุ่น 16GB บนเฟซบุ๊กของบริษัท ในราคาที่บอกว่า "คนซื้อที่มาบุญครองเตรียมตัวร้องจ๊ากกก" (ราคาที่เปิดตัวในภายหลังคือ 9,900 บาท)
คราวนี้เอซุสกลับมาอีกครั้งด้วย Nexus 7 รุ่น 32G Wi-Fi ที่จะขายในงาน Commart Comtech 2012 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ (15-18 พ.ย.) โดยระบุราคาคร่าวๆ ว่า
ราคาที่เครื่องหิ้วต้องร้องจ๊ากเจี๊ยกกันอีกครั้งหนึ่ง ราคา XXXX
ผมไม่แน่ใจว่าตัว XXXX มีความหมายว่าราคาเป็นตัวเลขสี่หลักหรือไม่นะครับ ที่เหลือคงต้องฝากเดากันเองแล้ว
ในงาน LinuxCon Europe เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ณ เมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน ทาง Linux Foundation ประกาศว่าบริษัท Hewlett Packard หรือ HP ได้อัพเกรดจากสมาชิกระดับทอง (gold member) เป็นสมาชิกระดับ platinum ซึ่งเป็นสมาชิกระดับสูงสุด โดยทาง HP ได้จ่ายค่าสมาชิกมูลค่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ HP จะได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ Linux Foundation
กทค. มีมติให้สำนักงาน กสทช. จ้างที่ปรึกษากำหนดเพดานราคาค่าโทรศัพท์ในระบบ 3G เป็นการชั่วคราว เพื่อให้ทันกำหนดการออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการ 3 รายที่ประมูลความถี่ไปก่อนหน้านี้ โดยเล็งให้ราคาต่ำกว่าค่าโทรศัพท์ในระบบ 2G ในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 0.99 บาทต่อนาที
ทั้งนี้ข้อกำหนดดังกล่าว จะพิจารณาเฉพาะส่วนของบริการวอยซ์ (บริการโทรศัพท์แบบเสียง) แต่เพียงอย่างเดียวก่อนเท่านั้น เนื่องจากมีข้อมูลต้นทุนของระบบวอยซ์จากผู้ประกอบการอยู่ก่อนแล้ว ในขณะที่ค่าบริการดาต้า (บริการเข้าถึงข้อมูล หรือเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต) ยังไม่มีข้อมูลเรื่องต้นทุนที่จะนำมาพิจารณากำหนดค่าบริการได้
ปัญหาการทำใบรับรองปลอมจาก DigiNotar สร้างความกังวลทั่วโลกว่าระบบใบรับรองทุกวันนี้มีความน่าเชื่อถือเพียงใด รายงานการสำรวจความเสียหายโดยบริษัท Fox IT เพื่อส่งให้กับกระทรวงมหาดไทยของเนเธอร์แลนด์ได้รายงานถึงกระบวนการที่แฮกเกอร์เข้ามาสร้างใบรับรองปลอมจำนวน 531 ใบ
เครือข่ายของ DigiNotar ภายในแบ่งออกเป็น 24 ส่วน เซิร์ฟเวอร์สำหรับสร้างใบรับรองที่ติดตั้งสมาร์ตการ์ดที่ใช้รับรองนั้นตั้งอยู่ในห้องรักษาความปลอดภัยสูงแยกออกไป
สหภาพยุโรปประกาศแผนความร่วมมือในการแปลงคลื่นย่าน 2000 (ช่วงคลื่น 1920-1980 MHz และ 2110-2170 MHz เรียกในระบบ 3G ว่า 2100) ที่ใช้ให้บริการ UMTS หรือบริการ 3G ไปเป็นบริการ 4G ภายในปี 30 มิถุนายน 2014
ประเทศในเครือสหภาพยุโรปใช้คลื่นช่วงนี้ให้บริการ UMTS มาตั้งแต่ปี 1999 ก่อนจะกำหนดให้ครอบคลุมทั่วยุโรปมาตั้งแต่ปี 2002
ยังไม่มีการกำหนดว่าจะใช้เทคโนโลยีอะไร แต่สหภาพยุโรปก็มีแผนชัดเจนว่าจะทำให้เทคโนโลยีในคลื่นย่านนี้เป็นเทคโนโลยีที่ทำงานร่วมกันได้ทั้งภูมิภาค ในแง่นี้ดูเหมือน LTE จะเป็นเทคโนโลยีที่ได้เปรียบที่สุดในตอนนี้
คลื่นทั้งสองช่วงจะทำให้สหภาพยุโรปมีคลื่นสำหรับให้บริการบรอดแบนด์เพิ่มอีก 120 MHz รวมแล้วจะมีคลื่นให้บริการบรอดแบนด์รวมถึง 1000 MHz
กลุ่มของแฮกเกอร์ที่เรียกตัวเองว่า HTP ได้อ้างถึงการโจมตีเว็บไซต์ ImageShack และ Symantec ทำให้สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลได้ หรือในกรณีของ ImageShack ได้มีการอ้างว่าสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ทุกตัวรวมไปถึงอุปกรณ์เครือข่ายด้วย
สำหรับเหยื่อสองเว็บแรกนั้นทาง HTP ได้มีการโพสต์หลักฐานการเข้าถึงไดเรกทอรี่ ไฟล์ และฐานข้อมูลลงบนเว็บไซต์ pastebin อีกทั้งยังกล่าวสบประมาทประสิทธิภาพของระบบรักษาความปลอดภัยของทั้งสองเว็บไซต์อีกด้วย
มาตรฐาน HSTS เป็นส่วนเสริมของ HTTP/HTTPS ที่เปิดให้เว็บบังคับให้เบราว์เซอร์เชื่อมต่อกันแบบเข้ารหัสเสมอ (ดูข่าวเก่า) โดยสัปดาห์นี้ทาง Mozilla ได้ประกาศว่า Firefox ในรุ่นถัดไปจะบังคับให้ใช้มาตรฐาน HSTS แล้ว
มาตราฐาน HSTS จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มเว็บไซต์ที่เราต้องการเชื่อมต่อผ่านทาง HTTPS ได้ผ่านทาง preload list (ดูตัวอย่างจาก Chrome) ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดเวอร์ชันเบต้ามาทดลองใช้งานก่อนได้ โดยในเวอร์ชันเต็มคาดว่าจะออกมาในเร็วๆ นี้ครับ
ถึงรอบการอัพเกรด SSD ของอินเทลประจำปี สำหรับรุ่นใหญ่สุดในสาย 7xx ปีนี้อินเทลปรับเปลี่ยนชื่อสายเป็น DC S3700 ที่มีตั้งแต่รุ่น 100GB ไปจนถึง 400GB
ไดร์ฟรุ่นใหม่รองรับการเข้ารหัสแบบ AES มีหน่วยความจำสำรองบนไดร์ฟในกรณีที่มีหน่วยความจำบางส่วนเสียหายไปก็ยังสามารถทำงานได้ต่อ โดยหากเขียนแล้วลบทั้งลูกวันละสิบครั้ง อายุการใช้งานเฉลี่ยจะอยู่ที่ 5 ปี
ประสิทธิภาพในแง่ IOPS จะอยู่ที่ 35,000 IPS สำหรับการเขียนบล็อค 4KB และ 75,000 IOPS สำหรับการอ่านบล็อค 4KB ระยะเวลารอการเขียนโดยเฉลี่ย 65uS และมีโอกาสต่ำกว่า 500uS ที่ความน่าจะเป็น 0.999 การถ่ายข้อมูลได้ความเร็วในการอ่าน 500MB/s และเขียน 460MB/s การอ่านเร็วขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว 2 เท่าตัวขณะที่การเขียนเร็วขึ้น 15 เท่าตัว
นอกจากเรื่องส่วนติดต่อผู้ใช้ของ Windows 8 ที่เปลี่ยนแปลงไปจากวินโดวส์รุ่นก่อนๆ เป็นอย่างมาก จุดเปลี่ยนสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือช่องทางจัดจำหน่ายของไมโครซอฟท์เอง ที่เริ่มเปลี่ยนจากการขายซอฟต์แวร์เป็นแผ่น หันมาใช้ระบบดาวน์โหลดไฟล์ดิจิทัลกันมากขึ้น รวมไปถึงการลดราคาไลเซนส์แบบอัพเกรดลงมากเพื่อจูงใจให้ผู้ใช้ปรับรุ่นตาม
ผมเชื่อว่าผู้อ่าน Blognone คงติดตั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์รุ่นก่อนๆ กันได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนการติดตั้ง Windows 8 เหมือนจะง่ายแต่เอาจริงแล้วมีรายละเอียดเล็กๆ ซ่อนอยู่พอสมควร หลังจากลองติดตั้ง Windows 8 แบบอัพเกรดด้วยตัวเอง ผมเลยคิดว่าควรเขียนบทความไว้สำหรับอ้างอิงสักหน่อยครับ
เอเอ็มดีอัพเกรดชิปในตระกูล Opteron จากสาย 6200 มาเป็น 6300 ประสิทธิภาพรวมเพิ่มขึ้นสูงสุด 24% และประสิทธิภาพต่อพลังงานเพิ่มขึ้นถึง 40%
ฟีเจอร์ในชิปรุ่นนี้ได้แก่ Turbo CORE ที่เร่งความเร็วตามการใช้งานจริง, AMD-P ระบบจัดการพลังงานแบบใหม่, หน่วยความจำแบบ 4 channel รองรับสูงสุด 12 สล็อต 384GB, และบัส HyperTransport 3.0 x16
ชิปออกมาพร้อมกัน 10 รุ่น ไล่ราคาตั้งแต่ 293 ดอลลาร์ต่อชิป ในรุ่น 6320 (8 คอร์ 115 วัตต์ 2.8-3.3 GHz) ไปจนถึง 1,392 ดอลลาร์ต่อชิปในรุ่น 6386 S (16 คอร์ 140 วัตต์ 2.8-3.5 GHz)
นอกจากตระกูลใหญ่อย่าง 6300 แล้วเอเอ็มดียังประกาศว่าจะเปิดตัว Opteron อีกสองตระกูล คือ 4300 และ 3300 ภายในสิ้นปีนี้
ไมโครซอฟท์โชว์ "Kinect Fusion" ฟีเจอร์ใหม่ของ Kinect for Windows ที่ใช้ในงานวิจัย ความสามารถของมันคือใช้กล้องของ Kinect จับภาพวัตถุหรือสภาพแวดล้อมภายในห้อง แล้วสร้างเป็นโมเดล 3 มิติให้อัตโนมัติ
เทคนิคนี้ใช้ภาพในทางลึก (depth data) จากกล้องของ Kinect โดยการสแกนหลายๆ ครั้งจากหลายมุม (หลักร้อยหรือพันครั้ง) นำมาสร้างพื้นผิว 3 มิติของวัตถุหรือสภาพแวดล้อม
ฟีเจอร์นี้จะถูกรวมเข้ามาใน Kinect for Windows ในอนาคต ตอนนี้ยังเป็นแค่ของโชว์เฉยๆ ครับ หน้าตาเป็นอย่างไรดูกันเองตามลิงก์
ที่มา - Kinect for Windows
คดีนี้เป็นคดีที่แอปเปิลยื่นฟ้องโมโตโรลาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2010 (ก่อนกูเกิลซื้อโมโต) โดยยื่นฟ้องข้อหาโมโตโรลาละเมิดสิทธิบัตรต่อศาลเขตวิสคอนซิน (ข่าวก่อนหน้านี้ Apple จะยอมจ่ายค่าใช้งานสิทธิบัตรไร้สายของ Motorola แค่ 1 ดอลลาร์ต่อเครื่อง)
คดีอยู่ระหว่างการรอไต่สวนโดยทนายความจากฝั่งแอปเปิล แต่ยังไม่ทันไต่สวน ศาลก็พิพากษา "ยกฟ้องโดยห้ามให้ฟ้องใหม่" (dismiss with prejudice) ในศาลเขตอื่นๆ (แต่ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเขตนี้ได้)
ตัวแทนของกูเกิลออกมาแสดงความยินดีกับผลการตัดสินของศาล ส่วนตัวแทนของแอปเปิลปฏิเสธการให้ความเห็น
เว็บไซต์ Channelnews รายงานข่าววงในว่าซัมซุงกำลังรีแบรนด์ตัวเองใหม่ตั้งแต่โลโก้ไปจนถึงภาพลักษณ์ต่างๆ ของบริษัท เพื่อปรับเปลี่ยนความเป็น "บริษัทเอเชีย" สู่ "บริษัทระดับโลก"
หัวหน้าโครงการรีแบรนด์ครั้งนี้คือ Scott Bedbury ซึ่งเคยมีผลงานกับ Nike มาหลายชิ้น และยังเคยทำงานเป็นที่ปรึกษาให้ Starbucks อีกด้วย ตามข่าวบอกว่า Bedbury เตรียมปรับภาพลักษณ์ของซัมซุงให้ผลิตภัณฑ์มีความเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนมากขึ้น
คาดว่าซัมซุงจะเปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ในงาน CES 2013 ช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้
Foursquare เริ่มเพิ่มระบบให้คะแนนแก่สถานที่ โดยคะแนนอยู่ระหว่าง 1-10 (มีทศนิยม 1 จุด) และเริ่มใช้ในแอพเวอร์ชัน iOS ที่ออกอัพเดตแล้ววันนี้
คะแนนนี้จะแสดงอยู่หลังชื่อสถานที่ โดยเริ่มจากแท็บ Explore หรือการค้นหาสถานที่ใหม่ๆ รอบตัว
ที่มาของคะแนนรีวิวมาจากการประมวลผลของ Foursquare เอง โดยอิงจากข้อมูลต่างๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเช็คอิน การกดไลค์ การเขียนทิปของผู้ใช้ รวมถึงความถี่ในการเช็คอินของผู้ใช้ด้วย (ถ้าผู้ใช้กลับมาร้านนี้บ่อยๆ น่าจะแปลว่าร้านนี้ดี)
Foursquare บอกว่าระบบคะแนนรีวิวแบบนี้มีประโยชน์กว่าบริการของคู่แข่งหลายๆ ราย ที่ใช้ระบบ 5 ดาวและร้านส่วนใหญ่ได้คะแนน 3.5 ดาวเท่ากันหมด
ช่วงที่กระแสแอพมือถือเริ่มบูมใหม่ๆ เราเห็นปรากฏการณ์โอเปอเรเตอร์ทั่วโลกหันมาเปิด "ร้านขายแอพ" ของตัวเองเพื่อหวังชิงตลาดจากเจ้าของแพลตฟอร์ม
เวลาผ่านมาหลายปี ล่าสุด Verizon โอเปอเรเตอร์อันดับหนึ่งของสหรัฐ ประกาศว่าร้าน Vcast Apps ของตัวเองที่ให้บริการบน Android/BlackBerry จะปิดตัวในเดือนมีนาคม 2013 หรือสามปีเต็มนับจากวันเปิดตัวในปี 2010 พอดี
Verizon บอกว่าลูกค้าไม่ต้องเป็นห่วงอะไร เพราะแอพส่วนใหญ่บน Vcast มีขาย-ดาวน์โหลดบนร้านขายแอพรายใหญ่อื่นๆ เช่น Google Play, Amazon Appstore และ BlackBerry App World อยู่แล้ว ส่วนบริษัทจะเปลี่ยนไปใช้วิธีแนะนำแอพที่น่าสนใจจากร้านขายแอพรายใหญ่เหล่านี้แทน
ข่าวนี้คงเป็นหลักฐานชั้นดีว่า "แนวทางนี้ไม่เวิร์ค"
Bloomberg รายงานว่าแอปเปิลกำลังหาทางที่จะผลิตหน่วยประมวลผลบนแมคด้วยตัวเอง และจะเลิกใช้หน่วยประมวลผลจากอินเทล ลักษณะเดียวกับที่แอปเปิลเลือกที่จะผลิตหน่วยประมวลผลด้วยตัวเองบนอุปกรณ์ iOS โดยวิศวกรที่ทำงานในแอปเปิลเองเชื่อว่าซักวันชิปที่ถูกออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์พกพาจะแรงพอที่จะนำมาใช้งานบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้
Facebook บน iOS ออกอัพเดตเวอร์ชัน 5.1 วันนี้ โดยมีคุณสมบัติใหม่ที่เพิ่มเข้ามาดังนี้ครับ
ที่มา: The Next Web
The Verge รายงานว่าไมโครซอฟท์กำลังเตรียมประกาศปิด Windows Live Messenger หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อเก่า MSN Messenger โดยเชื่อว่าไมโครซอฟท์จะออกมาประกาศอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้
การประกาศปิด Windows Live Messenger ไม่น่าจะเป็นเรื่องน่าตกใจอะไร เพราะก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ได้ยกเลิกแบรนด์ Windows Live ทั้งหมดมาได้ซักพักแล้ว และมีความเป็นไปได้สูงที่ไมโครซอฟท์อาจจะแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนมาใช้ Skype แทน เนื่องจากระบบรับส่งข้อความของ Skype ก็มีพื้นฐานบน messenger service แบบเดียวกันกับ Windows Live Messenger
เมื่อปี 2009 มีผู้ที่ใช้ Windows Live Messenger อยู่เป็นประจำทุกเดือนกว่า 330 ล้านคนทั่วโลก เป็นไปได้ว่าอีกไม่นานเราอาจจะเห็นจำนวนผู้ใช้ Skype พุ่งสูงขึ้นทันที
แฟนคลับ Instagram คงจะถูกใจไม่น้อย เมื่อ Instagram ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาพร้อมแล้วที่จะเปิดให้ผู้ใช้สามารถดูหน้าโปรไฟล์ Instagram ได้ผ่านหน้าเว็บแล้ว โดยภายในสองสามวันนี้ Instagram จะเปิดโปรไฟล์ผ่านหน้าเว็บให้แก่ผู้ใช้ทุกคน ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าดูหน้าโปรไฟล์ได้ผ่านทาง URL: instagram.com/[ชื่อผู้ใช้] (ลองดูตัวอย่างหน้าโปรไฟล์ได้ที่นี่)
แต่ถ้าผู้ใช้รายไหนได้ปรับหน้าโปรไฟล์ให้เป็น Private อยู่แล้ว ผู้ใช้รายอื่นจะเห็นโปรไฟล์ได้ก็ต่อเมื่อเขาได้ถูกรับเป็นเพื่อนบน Instagram แล้ว ไม่ต่างจากเครือข่ายสังคมออนไลน์อื่น ๆ
IHS iSuppli ได้ประเมินต้นทุนเฉพาะชิ้นส่วน ไม่รวมต้นทุนอื่น ๆ เช่นแรงงาน, วิจัย-พัฒนา, และการตลาดของ iPad mini รุ่น 16GB อยู่ที่เครื่องละ 188 ดอลลาร์ หรือประมาณ 5,800 บาท โดย iPad mini รุ่นนี้วางขายโดยแอปเปิลเครื่องละ 329 ดอลลาร์ (ในเมืองไทยเครื่องละ 11,200 บาท)
ในรายงานเผยว่า 43% ของราคาต้นทุนนี้มาจากจอภาพ ที่ได้ใช้วิธีผลิตแบบใหม่ที่รู้จักกันในชื่อว่า GF2 ที่สามารถทำให้จอภาพออกมามีขนาดบางกว่าเดิม โดยเชื่อว่าต้นทุนในส่วนนี้จะลดน้อยลงเมื่อแอปเปิลได้เดินสายการผลิตไปซักพัก จากขั้นตอนการผลิตที่ดีขึ้น หรือ yield rate ที่ดีขึ้น
แอปเปิลได้ออกมาประกาศว่าบริษัทสามารถขาย iPad รุ่นใหม่ที่เปิดตัว (ทั้ง 4th Generation iPad และ iPad mini) ได้ทั้งหมด 3 ล้านเครื่องภายในเวลาเพียงแค่สามวัน โดยจำนวนดังกล่าวนับเฉพาะรุ่นที่มี Wi-Fi อย่างเดียวเท่านั้น และสถิติครั้งนี้ถือว่าสูงกว่าเมื่อต้นปีตอนที่เปิดตัว 3rd Generation iPad ที่ทำยอดรุ่น Wi-Fi อย่างเดียวได้ที่ 1.5 ล้านเครื่อง
ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิลยังได้ออกมาบอกว่า แอปเปิลขาย iPad mini จนหมดสต็อก และแอปเปิลกำลังพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะผลิตสินค้าส่งถึงมือลูกค้าให้ทันเวลา
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แอปเปิลไม่ได้ระบุว่าจากยอด 3 ล้านเครื่องนี้ แบ่งเป็น iPad mini กี่เปอร์เซ็นต์
กสท. มีมติเห็นชอบร่างประกาศหลักเกณฑ์ของกิจการโทรทัศน์ซึ่งผ่านการทำประชาพิจารณ์แล้ว จำนวน 3 ฉบับ เตรียมนำเข้าที่ประชุมใหญ่ของ กสทช. ในวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง ก็จะนำออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยร่างประกาศดังกล่าว ได้แก่