รายงานผลสำรวจของ Retrevo พบว่า 34% ของผู้ใช้ไอโฟนคิดว่าตัวเองกำลังใช้มือถือระบบ 4G อยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ทั้งผู้ใช้ BlackBerry กว่า 24% และมือถือ Android ทั้งหลาย 29% ก็คิดว่าตนกำลังใช้มือถือระบบ 4G เช่นเดียวกัน แม้ว่ามือถือยี่ห้อ RIM และแอปเปิลยังไม่ได้ใช้เทคโนโลยี LTE แต่อย่างใด

สาเหตุหลักของการเข้าใจผิดเกิดจากการตลาดทั้งสิ้น สำหรับกรณีของผู้ใช้ไอโฟนแล้ว ผู้ใช้อาจจะสับสนตัวเลข "4" ในเครื่องหมายการค้าของ iPhone 4 เข้ากับระบบเครือข่าย 4G เข้า ในขณะที่ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือในสหรัฐเช่น AT&T และ T-Mobile ได้เลือกที่จะเรียกเครือข่าย HSPA+ ของตนเองว่าเครือข่าย 4G

เป็นไปได้ว่าแอปเปิลอาจจะเลือกที่จะเรียกไอโฟนรุ่นต่อไปของตัวเองเป็นมือถือ 4G หากตัวมือถือรองรับ HSPA+

หลังจากที่แอปเปิลได้ยื่นเรื่องร้องต่อ ITC กรณี HTC ละเมิดสิทธิบัตรของแอปเปิลแล้ว ล่าสุดทาง HTC ได้ออกมาแสดงท่าทีต่อการกระทำดังกล่าวแล้ว โดยตัวแทนของ HTC ได้ออกมากล่าวกับสำนักข่าว AP ว่า:

HTC ผิดหวังกับการที่แอปเปิลเลือกที่จะสู้กันทางด้านกฎหมายมากกว่าการแข่งขันกันอย่างแฟร์ ๆ ในตลาด ทาง HTC ขอไม่ยอมรับข้อครหาทั้งหมดที่แอปเปิลได้อ้างขึ้นมาตั้งแต่ครั้งก่อน ๆ จนถึงตอนนี้ และเราก็ขอยืนหยัดที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของเรา

ที่มา - 9to5Mac

มีข่าวจากแวดวงโฆษณาว่าโนเกียจะอัดงบมหาศาล ทุ่มโฆษณาปรับภาพลักษณ์ใหม่ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงเดียวกับการเปิดตัวมือถือ Windows Phone ที่หลายๆ คนรอคอย

แคมเปญโฆษณานี้จะเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลก และยิงต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน โดยโนเกียกำลังร่วมมือกับเอเยนซี่โฆษณาในประเทศต่างๆ สร้างโฆษณาชุดนี้อยู่ ตามข่าวบอกว่าแคมเปญนี้มูลค่า 80 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท

ที่มา - Marketing Magazine

ไมโครซอฟท์ออกมากระตุ้นให้ผู้ใช้ Windows XP อัพเกรดไปใช้ Windows 7 อีกรอบ โดยบอกว่าจะสนับสนุนและออกแพตช์ให้ Windows XP อีก 1,000 วันเท่านั้น

ตอนนี้ Windows XP อยู่ในสถานะที่เรียกว่า "Extended Support" ซึ่งในวันที่ 8 มิถุนายน 2014 ไมโครซอฟท์จะเลิกออกแพตช์ทุกชนิดให้กับ XP ดังนั้นองค์กรที่ยังใช้ XP อยู่จะมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยทันที

ไมโครซอฟท์ยังอ้างรายงานของ Gartner ว่าถ้าองค์กรขนาดใหญ่ไม่เตรียมอัพเกรด XP ภายในต้นปี 2012 ก็จะย้ายระบบเสร็จไม่ทันระยะ Extended Support ของ XP (ดังนั้นจงรีบๆ ซื้อ Windows 7 กันซะ)

เราเห็นแอพ Facebook สำหรับสมาร์ทโฟนกันมาเยอะแล้ว แต่ในความเป็นจริง โลกยังมีคนใช้โทรศัพท์ที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนอีกมาก ซึ่งก็เป็นตลาดใหญ่ให้ Facebook ได้ตักตวงอีกมาก

ก่อนหน้านี้ Facebook ไม่ชัดเจนนักว่าจะรองรับผู้ใช้ฟีเจอร์โฟนเหล่านี้แค่ไหน และมักบอกให้ใช้ m.facebook.com เป็นหลัก แต่ล่าสุดบริษัทก็ออกแอพ Facebook for Every Phone สำหรับมือถือที่รันแอพ Java ME กว่า 2,500 รุ่น ฟีเจอร์ของแอพรุ่นนี้ก็มีครบครัน ทั้ง news feed, inbox, photos, events

แอพตัวนี้สามารถดาวน์โหลดได้จาก m.facebook.com หรือร้านขายแอพออนไลน์อื่นๆ เช่น GetJar นอกจากนี้ Facebook ยังจับมือกับโอเปอเรเตอร์บางประเทศ (ไม่มีไทย) ให้ผู้ใช้แอพตัวนี้ไม่ต้องจ่ายค่า data เป็นเวลา 90 วันอีกด้วย

Android Market เป็นจุดอ่อนของแพลตฟอร์ม Android มานาน คราวนี้กูเกิลปรับโฉมตัวแอพ Market บนมือถือใหม่หมด

Market โฉมใหม่จะแสดงเนื้อหา 4 ประเภทคือ แอพ, เกม, ภาพยนตร์, หนังสือ (สองอย่างหลังยังซื้อได้เฉพาะในสหรัฐ) เปลี่ยนการแสดงรายการแอพเป็นแบบ swipe ซ้ายขวา และเพิ่มหมวด Editor's Choice เข้ามา

แอพ Market ตัวใหม่ต้องการ Android 2.2 ขึ้นไป และจะทยอยอัพเกรดให้ผู้ใช้ทั่วโลกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ที่มา - Google Mobile Blog

ที่งาน Worldwide Partner Conference 2011 วันที่สอง ไมโครซอฟท์ได้เผยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ใช้ Windows Phone "Mango" จากเอเซอร์ (อาจเป็นตัวเดียวกับที่เอเซอร์โชว์ที่งาน Computex) ฟูจิตสึ ซัมซุง และ ZTE โดยไฮไลท์ของการโชว์นี้เป็นสมาร์ทโฟนจากซัมซุงที่ตัวเครื่องบางและหน้าตาเครื่องออกมาแนวเดียวกับ Galaxy S II

หน้าตาสมาร์ทโฟนทั้งหมดจะเป็นอย่างไรเชิญชมได้ที่ท้ายข่าวครับ

ที่มา: PocketNow, WinRumors

Electronic Arts หรือ EA ประกาศเข้าซื้อกิจการ PopCap Games อย่างเป็นทางการแล้วจากที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้ โดยดีลนี้ประกอบด้วยเงินสด 650 ล้านดอลลาร์, หุ้น EA 100 ล้านดอลลาร์ และเงินพิเศษตามผลประกอบการของ PopCap หลังเข้าซื้อ ทำให้มูลค่ารวมของดีลนี้อาจสูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์

EA ให้เหตุผลในการซื้อกิจการว่าเพื่อเติมเต็มส่วนธุรกิจเกมในเครือข่ายสังคมออนไลน์และอุปกรณ์พกพา ซึ่ง PopCap ทำได้ดีในส่วนนี้ โดยเฉพาะจากเกมดังอย่าง Plants vs. Zombies, Bejeweled และ Zuma

ที่มา: TechCrunch

เว็บไซต์อเมซอนได้เปิดให้สั่งจองเน็ตบุ๊กพลังแสงอาทิตย์รุ่น NC215s จากซัมซุงแล้ว สนนราคาอยู่ที่ 399 ดอลลาร์ (ราว 12,300 บาท) มาพร้อมกับสเปคดังนี้

W3C ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลมาตรฐานเว็บ (รวมถึง HTML5 ที่ก่อนหน้านี้ WHATWG เป็นผู้พัฒนามาตรฐาน) ได้ออกประกาศขอข้อมูลการใช้ประดิษฐ์ที่มีการก่อน (prior art) ของสิทธิบัตรและใบขอสิทธิบัตรของแอปเปิล เพื่อให้มาตรฐานการขอสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของ Widget สามารถประกาศใช้ได้

แอปเปิลมีสิทธิบัตรหมายเลข 7,743,336 และคำขอสิทธิบัตรหมายเลข 11/432,295 โดยระหว่างการพัฒนามาตรฐาน

กลุ่ม Anonymous ประกาศความสำเร็จในการแฮกเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท Booz Allen Hamilton ได้ข้อมูลอีกเมล, และรหัสผ่านแบบผ่านฟังก์ชั่นแฮชแล้วจำนวนกว่า 90,000 รายชื่อ โดยมาจากระบบฐานข้อมูลการฝึกและการทดสอบของกองทัพ

บริษัท Booz Allen Hamilton รับงานจากกองทัพสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2010 แต่ทางกลุ่ม Anonymous ก็อ้างว่าสามารถเจาะฐานข้อมูลนี้ได้ภายในเวลาสี่ชั่วโมงเท่านั้น พร้อมกับส่งใบเสร็จล้อเลียนบริษัทโดยขอเก็บค่าตรวจสอบความปลอดภัยเป็นเงิน 310 ดอลลาร์

Booz Allen Hamilton เป็นบริษัทที่บริหารงานโดยอดีตผู้บริหารหน่วยงานด้านความมั่นคงสหรัฐฯ จำนวนมากเช่น อดีตผู้อำนวยการ NSA, อดีตผู้อำนวยการ CIA, หรือบางคนก็นั่งควบทั้งตำแหน่งบริหารหน่วยงานและตำแหน่งผู้บริหารบริษัท

แม้ว่าเครื่องเมนเฟรมจะเสื่อมความนิยมไปจากตลาดหลักแล้วก็ตาม แต่บริษัทอย่างไอบีเอ็มก็ยังทำรายได้จากเมนเฟรมอย่างเป็นกอบเป็นกำ และวันนี้ไอบีเอ็มก็เปิดตัวเครือง zEnterprise 114 ซึ่งเป็นเมนเฟรมที่มาราคาเริ่มต้น 75,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2,200,000 บาทเทียบกับรุ่นปีที่แล้วคือ zEnterprise 196 ที่ราคาเริ่มต้น 100,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 3,000,000 บาท

ถึงแม้ว่า Nexus 3 จะโดนคาดการณ์ว่าจะมาจากสองคู่หู LG + Nvidia แต่ล่าสุดก็มีข่าวลือออกมาว่า HTC จะกลับมารับทำ Nexus 3 อีกครั้ง ซึ่งก็มีการคิดชื่อรุ่นเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า น่าจะออกมาในชื่อ Nexus+ เพื่อให้สอดคล้องกับบริการฮอตฮิตติดลมบนอย่าง Google+ ซึ่งแต่เดิม HTC ก็เคยออก ChaCha กับ Salsa ที่เป็น Facebook Phone หน้าตาดี มีปุ่ม F ให้คอยกดเล่น ซึ่ง Nexus+ ก็น่าจะออกมาในลักษณะเดียวกัน

โดย Nexus 3 หรือ Nexus+ จะเป็นต้นแบบตัวแรกที่ใช้ Ice-Cream Sandwich และมีทุกอย่างที่ Nexus S มี แต่จะเพิ่มปุ่ม Google+ แบบ Hardware ที่ด้านหน้าตัวเครื่อง เพื่อใช้เป็นทางลัดเข้าแอพ Google+ ได้สะดวกขึ้น

เพียงแค่ไม่กี่วันหลังจากเปิดตัว Google+ ก็ดังเป็นพลุแตก ต่างคนต่างเริ่มขวนขวายหา Invite และร้องไปถึง Google ให้เปิดให้บริการจริงๆ เสียที แต่ถึงแม้อีกมุมหนึ่งจะมองว่า Google+ น่าจะลงเหวซ้ำรอยเหมือน Google Wave และ Google Buzz ก็ตาม แต่ล่าสุด Paul Allen ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Ancestry.com ก็ได้ประเมินยอดผู้ใช้และเปิดเผยว่า ภายใน 24 ชั่วโมงนับจากนี้ Google+ จะมียอดผู้ใช้เข้าสู่หลักสิบล้านรายแล้ว และน่าจะถึง 20 ล้านรายภายในอาทิตย์นี้

บริการขายของแบบกลุ่ม (social commerce) ซึ่งต้องอิงกับพื้นที่เฉพาะเมือง กำลังเริ่มหลอมรวมกับบริการจำพวก location-based service มากขึ้นเรื่อยๆ

ล่าสุดบริษัทอย่าง Foursquare ที่เป็นผู้นำด้าน location-based service ประกาศจับมือกับผู้ค้าดีลส่วนลดแบบกลุ่ม 5 รายในสหรัฐและชาติตะวันตกอย่าง LivingSocial, Gilt City, BuyWithMe ฯลฯ ประกาศเพิ่มข้อมูล "ดีล" ลงในหน้าประกาศส่วนลด Foursquare Specials แล้ว

ข้อตกลงนี้จะช่วยให้ Foursquare มีรายได้จากส่วนแบ่งค่าช็อปปิ้งเพิ่มเข้ามา ส่วนบริษัทผู้ค้าดีลทั้งหลายก็มีช่องทางขายดีลมากขึ้น ตามรายงานของ Wall Street Journal บอกว่า Foursquare กำลังเจรจากับผู้ค้าดีลรายใหญ่อย่าง Groupon อยู่ด้วย

บริการแชร์ภาพถ่าย Photovine ของกูเกิลที่เคยเป็นข่าว เริ่มเผยโฉมหน้าเว็บแล้ว

ตกลง Photovine เป็นแอพสำหรับแชร์ภาพถ่ายบน iPhone โดยบริษัท Slide ที่กูเกิลซื้อมาตั้งแต่ปี 2008 (ยังบริหารงานอย่างอิสระอยู่ และไม่มีทีท่าว่าจะรวมบริการเข้ากับกูเกิล)

ในเว็บของ Photovine อธิบายว่าจะเชื่อมโยงภาพถ่ายจากคนที่เกี่ยวข้องกันด้วย "เถาวัลย์" (vine) ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะต่างจากบริการแชร์ภาพถ่ายอื่นๆ อย่าง Instagram, Path, PicPlz ฯลฯ อย่างไรบ้าง ตอนนี้ตัวแอพ Photovine ยังไม่มีให้ดาวน์โหลดใน iTunes Store และยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีเวอร์ชัน Android หรือไม่

เมื่อคืนนี้ที่งาน Microsoft Worldwide Partner Conference 2011 ซีอีโอสตีฟ บัลเมอร์ ขึ้นเวทีพร้อมบรรยายตัวเลขความสำเร็จของไมโครซอฟท์มากมาย

บัลเมอร์ยกตัวเลขยอดขาย Windows 7 จำนวน 400 ล้านชุด, Office 2010 อีก 100 ล้านชุด, องค์กรที่ลองใช้ Office 365 จำนวน 50,000 รายภายในสองสัปดาห์ ฯลฯ

แต่เมื่อพูดถึง Windows Phone 7 เขาก็ยอมรับตรงไปตรงมาว่าส่วนแบ่งของไมโครซอฟท์ในตลาดมือถือยัง "น้อยมาก" (very small)

In a year, we've gone from very small to ... very small

แต่เขาก็สัญญาว่าเราจะเห็นพัฒนาการของ Windows Phone มากขึ้นเรื่อยๆ

ขอเปลี่ยนบรรยากาศ มา Review Server Platform บ้างนะครับ แก้เลี่ยนการรีวิวกองทัพหุ่นยนต์

ทีมงานของผมได้มีโอกาสร่วมติดตั้งระบบคลัสเตอร์สมรรถนะสูง PHOENIX ของ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นระบบคลัสเตอร์แรกในประเทศไทย ที่สร้างด้วยแพลตฟอร์ม IBM iDataPlex แบบเต็มรูปแบบ วันนี้เลยจะลองนำเสนอรายละเอียดของเจ้า แพลตฟอร์มตัวนี้ว่าของจริงเป็นอย่างไรครับ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ บริษัท eLife System จำกัด โดย 2BeSHOP.com และบริษัท IBM ประเทศไทย ในส่วนของฮาร์ดแวร์ต่างๆ รวมไปถึงรูปภาพเกือบทั้งหมดในบทความนี้ และทางภาควิชาเคมี ที่อนุญาตให้เขียนรีวิวฉบับนี้ครับ

จากช่วงนี้ที่มีข่าวเรื่องนโยบาย One Tablet Per Child ที่อาจได้ออกมาในรัฐบาลสมัยหน้า ตอนนี้มีบริษัทของคนไทยได้พัฒนาเครื่องต้นแบบ Android Tablet ได้สำเร็จแล้ว

หัวหน้าโครงการวิจัยของ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH ได้ออกมาโพสในเว็บบอร์ดของ pdamobiz.com ถึงความสำเร็จการพัฒนา Android Tablet เครื่องต้นแบบได้แล้ว โดยมีการประกอบเครื่องจนถึงการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ทำโดยคนไทยทั้งหมด

เครื่องต้นแบบได้มาพร้อมกับ CPU Freescale Cortex A8 ความเร็ว 800MHz ซึ่งหัวหน้าโครงการได้บอกไว้ว่าบอร์ดของเครื่องต้นแบบได้ถูกพัฒนาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ทำให้การเปลี่ยน CPU เป็นแบบ dual core ไม่ใช่เรื่องยาก ส่วนข้อมูลที่เหลือของเครื่องต้นแบบและวิดีโอติดตามได้ท้ายข่าวครับ

HP ประกาศปรับโครงสร้างการบริหารส่วนของ Palm/webOS ใหม่ดังนี้

• เปลี่ยนชื่อแผนก Palm มาเป็น webOS Global Business Unit (อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดอวสานของแบรนด์ Palm อย่างเป็นทางการ) โดยยังสังกัดฝ่าย HP Personal System Group เหมือนเดิม
• ย้าย Jon Rubinstein อดีตซีอีโอของ Palm ไปทำตำแหน่ง Product Innovation ในฝ่าย HP Personal System Group
• ย้าย Stephen DeWitt หัวหน้าทีม Personal System Group สาขาทวีปอเมริกา มาคุมแผนก webOS Global Business Unit

HP ไม่ได้ให้เหตุผลในการสลับตำแหน่งบริหารครั้งนี้ แต่คาดว่าเป็นการนำ Rubinstein ที่เก่งด้านนวัตกรรมไปคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ และย้ายคนที่เก่งงานบริหารเข้ามาคุมฝ่าย webOS แทน

ข่าวของ Google+ ยังออกมาเรื่อยๆ รวมเป็นโพสต์เดียวเช่นเคยครับ

LG ผู้ผลิตมือถืออันดับสามของโลก ประกาศลดเป้ายอดขายสมาร์ทโฟนในปี 2011 ลง 20% เหตุเพราะเสียลูกค้าให้กับคู่แข่งอย่างแอปเปิลและซัมซุง

เดิมที LG พยากรณ์ว่าปีนี้จะขายสมาร์ทโฟนได้ 30 ล้านเครื่อง แต่ตัวเลขล่าสุดลงมาอยู่ที่ 24 ล้านเครื่อง ถ้ารวมโทรศัพท์ทุกแบบด้วย ปีนี้จะขายได้ 114 ล้านเครื่อง (ยอดเดิมที่พยากรณ์ไว้คือ 120 ล้านเครื่อง)

ส่วนธุรกิจในปีนี้ LG ฝากความหวังไว้ที่มือถือจอ 3D ที่เป็นจุดแตกต่างของบริษัท และยังบอกว่ากำลังพัฒนามือถือหน้าจอ 4.5" อยู่ด้วย

ดูเหมือน AMD กำลังบุกกินส่วนแบ่งตลาดเกมคอนโซลของ NVIDIA อย่างหนัก จากก่อนหน้าที่บริษัทประกาศว่า Wii U จะใช้ชิปกราฟิก Radeon จนถึงข่าวลือล่าสุดที่ว่าเกมคอนโซลรุ่นถัดไปจาก Sony และ Microsoft ก็จะใช้ GPU จาก AMD เช่นกัน ซึ่งแต่เดิมนั้น PlayStation 3 นั้นใช้ชิปที่พัฒนาโดย NVIDIA (Xbox 360 และ Wii นั้นใช้ชิปของ AMD อยู่แล้ว)

ยังมีข่าวลือต่ออีกว่า เกมคอนโซลรุ่นถัดไปของ Microsoft จะใช้ CPU จาก IBM (แนวทางเดียวกับที่ Wii U ที่ใช้ซีพียูตระกูล Power รุ่นพิเศษ) และ Microsoft จะเลื่อนการปล่อยเกมคอนโซลรุ่นใหม่ออกไปเนื่องจากการประสบความสำเร็จอย่างสูงของ Kinect สำหรับ Xbox 360

The Globe and Mail รายงานว่าแอปเปิลอาจจะเลิกจ้างซัมซุงในการผลิตชิ้นส่วนให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของแอปเปิลแล้ว โดยทั้งหมดนี้เกิดจากปัญหาความสัมพันธ์ที่แย่ลงระหว่างสองบริษัทนี้ หลังจากการต่อสู้คดีละเมิดสิทธิบัตรกันและกัน

ในรายงาน ความสัมพันธ์ระหว่างแอปเปิลกับซัมซุงทางด้านสายการผลิตมีมูลค่าสูงถึง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ทั้งหมดนี้สามารถดูได้จากรายงานผลประกอบการของซัมซุงครั้งล่าสุด โดยกำไรของส่วนผลิตชิ้นส่วน semiconductor และจอภาพของซัมซุงนั้นลดลงถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจจะเป็นผลของการที่แอปเปิลได้เลิกจ้างซัมซุงในการผลิตชิป A5 และจอภาพสำหรับไอโฟนและไอแพ็ด

แอปเปิลได้ยื่นเรื่องต่อ International Trade Commission (ITC) เพื่อที่จะขอให้หยุดการขายสินค้าของ HTC บางชนิดที่ได้ทำการละเมิดสิทธิบัตรของแอปเปิล โดยการยื่นเรื่องในครั้งนี้มีลักษณะคล้ายกับครั้งก่อนที่แอปเปิลพยายามที่จะหยุดการนำเข้าสินค้าของซัมซุงด้วยเหตุผลเดียวกัน

การต่อสู้ทางกฎหมายของแอปเปิลและ HTC ไม่ใช่เรื่องใหม่ เมื่อต้นปีที่แล้ว แอปเปิลได้ทำการฟ้อง HTC ด้วยข้อหาละเมิดสิทธิบัตรของแอปเปิล โดย HTC เลือกที่จะฟ้องกลับและอ้างว่าแอปเปิลได้ละเมิดสิทธิบัตรของ HTC จำนวนห้าฉบับด้วยกัน

แม้ว่านักกฎหมายจาก ITC เองได้ออกมากล่าวว่าการเข้าข้าง HTC จะเป็นเรื่องดีกว่าสำหรับทุกคน แต่แอปเปิลก็ยังเลือกที่จะยื่นคำร้องต่อ ITC อยู่ดี