ก่อนหน้านี้สิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ iOS รู้สึกอึดอัดใจเมื่อทำงาน คือการที่แอปเปิลได้จำกัดให้แต่ละแอพพลิเคชั่นทำงานแยกกันอิสระอย่างชัดเจน (sandboxing) โดยทุกวันนี้ นักพัฒนาแอพหลายคนได้ตัดสินใจที่จะหาทางออกด้วยการใช้วิธีลัดอย่าง URL scheme หรือผลิต SDK ของตัวเองขึ้นมา เพื่อให้นักพัฒนาแอพคนอื่นสามารถเรียกใช้บริการของแอพตัวเองได้ ในขณะที่ผู้ใช้ Android สามารถให้แอพส่งต่องานไปสู่แอพอื่นได้ผ่านทาง Intent

เว็บไซต์ Android Police รายงานข่าววงในว่ากูเกิลเตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของแอนดรอยด์ที่ใช้ชื่อว่า Nearby โดยมันจะเป็นส่วนหนึ่งของ Google Play Services รุ่นหน้า (น่าจะเปิดตัวที่งาน I/O ปลายเดือนนี้)

ความสามารถของ Nearby คือบอกว่าอุปกรณ์พกพาของเรานั้นอยู่ใกล้กับคน สิ่งของ สถานที่ใดบ้าง เพื่อให้บริการหรือแอพสามารถทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เช่น เปิด Bluetooth/Wi-Fi เมื่อไปยังสถานที่ที่กำหนด จุดเด่นของ Nearby คือมันสามารถบอกได้ว่าอุปกรณ์สองชิ้นมาอยู่ใกล้กันแค่ไหน เพื่อจะติดต่อสื่อสารกันได้เองโดยอัตโนมัติ

การเปิดใช้ Nearby จะต้องเปิดใช้ Location History และ Location Reporting ของแอนดรอยด์ด้วย ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้ในหน้า Settings > Location

Nintendo of Europe ปิดสำนักงานใหญ่ที่เมือง Großostheim ในเยอรมนี และย้ายงานไปอยู่ที่สำนักงานของนินเทนโดในเมือง Frankfurt แทน

นินเทนโดอธิบายว่าการปิดสำนักงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับตัวให้ธุรกิจฝั่งยุโรปคล่องตัวมากขึ้น การปิดสำนักงานครั้งนี้จะส่งผลให้พนักงานของนินเทนโดในเยอรมนีต้องตกงานประมาณ 130 คน และงานบางส่วนจะถูกย้ายไปให้เอาท์ซอร์สแทน

ที่มา - Eurogamer

หนังสือพิมพ์ Nikkei Review ของญี่ปุ่น รายงานข่าวลือว่าเราจะได้เห็นอุปกรณ์แบบสวมใส่ (wearable) จากแอปเปิลเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้

ตามข่าวบอกว่ามันเป็นอุปกรณ์ลักษณะเดียวกับนาฬิกา (watch-like) ใช้หน้าจอ OLED ทรงโค้ง และเน้นการเก็บข้อมูลด้านสุขภาพ เช่น แคลอรีที่บริโภค กลูโคสในเลือด ออกซิเจนในเลือด อัตราการนอนหลับ เป็นต้น นอกจากนี้มันยังสามารถเชื่อมโยงกับสมาร์ทโฟนได้ด้วย สามารถอ่านข้อความ SMS ที่ส่งเข้ามายังสมาร์ทโฟนได้

ข้อมูลจากผู้ผลิตระบุว่าแอปเปิลสั่งผลิตสินค้าตัวนี้มากถึง 3-5 ล้านตัวต่อเดือน นอกจากนี้แอปเปิลยังจับมือร่วมกับหน่วยงานด้านสุขภาพหลายแห่งเพื่อพัฒนาระบบการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพเหล่านี้ รวมถึงมีข้อตกลงกับ Nike ในการเชื่อมโยงบริการระหว่างกันด้วย

Sainsbury’s ห้างสรรพสินค้าดังในสหราชอาณาจักรได้ร่วมมือกับกูเกิลในการจัดทำเว็บแอพพลิเคชันชื่อว่า Sainsbury’s Food Rescue ขึ้น โดยผู้ใช้สามารถพิมพ์หรือพูดชื่อวัตถุดิบที่เหลืออยู่ในตู้เย็น เช่น มะเขือเทศ ไก่ พริกหยวก เป็นต้น แอพจะทำการหารายการอาหารที่ต้องใช้วัตถุดิบเหล่านั้น รวมถึงวิธีการประกอบอาหาร แล้วนำมาแสดงให้ผู้ใช้ทราบครับ

หัวข่าวไม่ได้เขียนผิด แต่ทวิตเตอร์จาก @CIA ซึ่งเป็นบัญชีทวิตเตอร์ที่ยืนยันตัวตนแล้วทวีตข้อความว่า "เราไม่สามารถยืนยันหรือปฎิเสธได้ว่านี่เป็นทวีตแรกของเรา" น่าจะเรียกได้ว่าเป็นการ "ไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ"

พร้อมกันนี้ CIA ก็เปิดหน้า Fan Page บนเฟซบุ๊กไปพร้อมกัน

ก่อนหน้านี้ CIA หรือ The Central Intelligence Agency ปรากฎตัวบนเว็บสังคมออนไลน์อย่าง Flickr และ YouTube มาก่อนแล้ว ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า CIA จะเริ่มถ่ายทอดสดรายการบางส่วนผ่าน Ustream อีกด้วย

ที่งาน Computex 2014 นอกจากอินเทลจะเปิดตัวชิปประหยัดพลังงาน Core M พร้อมโชว์เครื่องต้นแบบหน้าจอ 12.5 นิ้วที่มีความหนาเพียง 7.2 มิลลิเมตรและหนัก 670 กรัมเท่านั้น บริษัทยังโชว์ต้นแบบ docking station พร้อมชุดพัดลม (ต้นฉบับบอก a set of fans) สำหรับรีดพลังประมวลผลของ Core M ให้แรงขึ้นได้อีก

อินเทลกล่าวว่า dock ดังกล่าวช่วยให้ประสิทธิภาพการประมวลผลเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ทางเว็บไซต์ CNET ยังเสริมว่าในระหว่างการเดโมนั้นเสียงพัดลมเบามาก แต่เนื่องจากการเดโมนั้นไม่ได้เป็นงานที่เค้นการประมวลผลของซีพียูอย่างเต็มที่ จึงไม่ทราบว่าเมื่อซีพียูทำงานเต็มที่แล้วเสียงพัดลมจะดังกว่านี้หรือไม่และแค่ไหน

เมื่อไม่กี่นาทีก่อน ทิม คุก ทวีตภาพโรงงานประกอบ Mac Pro ในเมือง Austin ข้อความขอบคุณทีมงานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญชาวสหรัฐฯ

เรื่องนี้คงไม่แปลกนัก หากทิม คุกไม่ได้โพสภาพโรงงานที่มี iMac เป็นเครื่องสำหรับสถานีประกอบ แต่บนเครื่อง iMac กลับมีวินโดวส์รันอยู่

งานนี้ถ้าใครโดนแซวว่าซื้อแมคมารันวินโดวส์ ก็คงใช้ภาพนี้ยืนยันได้แล้วครับ ว่าใครๆ ก็ทำกัน แม้แต่แอปเปิลเอง

ที่มา - @tim_cook

ในงานเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ของอินเทล Core M ซึ่งเป็นชิปกินพลังงานต่ำมาก ได้โชว์ตัวแท็บเล็ตรุ่นต้นแบบที่นอกจากจะบางมากเพียง 7.2 มม. แล้ว ยังเป็นพีซีแบบไร้พัดลมอีกด้วย เมื่อเห็นแบบนี้แล้วใครๆ ต่างก็คงเตรียมถอยหนีเพราะคงสู้ราคาไม่ได้เป็นแน่ แต่หลายคนอาจต้องเปลี่ยนความคิด หลังจากที่อินเทลออกมาพูดถึงราคาของเจ้าพีซีตัวที่ว่านี้

ในระบบปฏิบัติการ CyanogenMod 11S ที่ใช้กับ OnePlus One นั้น หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคงหนีไม่พ้นระบบธีมที่จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเอ็กซ์คลูซีฟให้กับรุ่นนี้รุ่นเดียวเท่านั้น แต่ก็มีข่าวดีมาก่อนหน้าว่า Cyanogen จะนำฟีเจอร์นี้ไปให้รุ่นอื่นได้ใช้ด้วย และตอนนี้ก็ประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมมาแล้วครับ

รายละเอียดชิ้นนี้มาจาก Brian Resnik ผู้จัดการคอมมิวนิตี้ของ Cyanogen บอกว่าแอพ Theme Showcase หรือระบบธีมแบบใหม่ จะเปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน Play Store ในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ นักออกแบบที่สนใจจะส่งธีมเข้ามา จะต้องทำตามแนวทางที่กำหนดไว้ โดยสามารถส่งธีมขึ้นได้ทันทีที่แอพเปิดให้ดาวน์โหลด ทั้งแบบฟรี และเสียเงิน

เพิ่งบุกเข้ามาเลเซียไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ล่าสุด Xiaomi ประกาศเตรียมวางขายสมาร์ทโฟนในอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการแล้ว ตามแผนขยายตลาดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี

Hugo Barra รองประธานของ Xiaomi Global ยืนยันการบุกอินโดนีเซียในงาน International Cellular Show (ICS) งานแสดงสินค้าคล้ายกับ CES ของสหรัฐฯ ว่า Xiaomi จะเริ่มวางขายสินค้าของตัวเองในอินโดนีเซียเร็วๆ นี้ โดยมี Erajaya ผู้ขายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ในอินโดนีเซียให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะเริ่มขายประมาณเดือนสิงหาคม และในงาน ICS ดังกล่าว Erajaya เองก็มีบูธแสดงสินค้าของ Xiaomi ตั้งโชว์แล้ว

นอกจากจะเปิดตัวแท็บเล็ตหลากรุ่นในงาน Computex แล้ว ปีนี้ ASUS ยังเอาใจเกมเมอร์ด้วยการเปิดตัวอุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นเกม นั่นก็คือหูฟังหน้าตาล้ำสมัยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนกฮูกอย่าง Strix Pro

ว่ากันด้วยเรื่องแบรนด์แล้ว Strix เป็นแบรนด์สำหรับจับตลาดคนเล่นเกมของ ASUS มาแต่ไหนแต่ไร ก่อนหน้านี้จะใช้แบรนด์ดังกล่าวกับการ์ดจอ และนี่เป็นครั้งแรกที่นำมาใช้กับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ โดยมีแผนจะออกอุปกรณ์เสริมสำหรับนักเล่นเกมภายใต้แบรนด์ Strix เพิ่มขึ้นอีกในอนาคตครับ

ข่าวลือชุดใหม่ของ Nexus 8 แท็บเล็ตตัวใหม่จากกูเกิลที่คาดกันว่าจะเปิดตัวในงาน Google I/O ช่วงปลายเดือนนี้หลุดออกมาอีกระลอกแล้ว โดยข้อมูลชุดใหม่ที่ออกมาเป็นภาพด้านหน้าตัวเครื่อง และสเปคของเจ้ารุ่นนี้

จากภาพด้านหน้าที่ออกมา บอกไม่ได้เลยว่า Nexus 8 นั้นจะคล้ายหรือต่างกับ Nexus 7 (2013) แค่ไหนเพราะว่าตัวเครื่องอยู่ในเคสป้องกันอีกชั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเหมือนกับภาพหลุดตอนแรกที่ขอบบางกว่ารุ่นเดิมมากๆ

ช่วงนี้ภาวะบ้านเมืองยังอยู่ระหว่างกฎอัยการศึก ภาวะกฎหมายยังต่างออกไปจากช่วงเวลาปกติหลายอย่าง สำหรับผู้อ่าน Blognone และผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ผมแนะนำให้อ่าน ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 26/2557 เรื่อง การดูแล และสอดส่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์ อีกครั้งนะครับ

สำหรับประกาศฉบับอื่นๆ สามารถอ่านได้ในเว็บห้องสมุดรัฐสภา

ไมโครซอฟท์เปิดให้สั่งซื้อ Kinect for Windows v2 ผ่านหน้าเว็บ Microsoft Store แล้ว ตั้งราคาที่ 199 ดอลลาร์ และสินค้าเริ่มส่งช่วงกลางเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป (SDK รุ่นเบต้าก็จะออกพร้อมกัน)

Kinect for Windows v2 คือการนำเอา Kinect รุ่นที่สองที่มากับ Xbox One ขายแยกเพื่อให้ใช้กับพีซีวินโดวส์ได้ เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการนำเซ็นเซอร์ของ Kinect ไปใช้งานแอพพลิเคชันด้านต่างๆ

ลูกค้าที่สามารถซื้อ Kinect for Windows v2 ได้ เบื้องต้นมี 22 ประเทศ แถวนี้ที่ใกล้ที่สุดคือสิงคโปร์และฮ่องกงครับ

Punit Soni รองประธานฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของโมโตโรล่า ได้โพสต์ภาพสกรีนช็อตของสมาร์ทโฟนโมโตโรล่าลงบน Google+ ของตน และดันมีคนไปพบว่าภาพดังกล่าวมีความละเอียดอยู่ที่ 1080p ซึ่งสมาร์ทโฟนของโมโตโรล่า ณ ตอนนี้มีความละเอียดสูงสุดแค่ 720p จึงถูกคาดว่าเป็นภาพสกรีนช็อตจาก Moto X+1

เว็บไซต์ Korea IT Times รายงานยอดขายของ LG G3 มือถือเรือธงตัวใหม่ล่าสุดของ LG ที่ยังขายเฉพาะในเกาหลีใต้เพียงประเทศเดียว ว่าหลังจากผ่านสัปดาห์แรก สามารถทำยอดขายรวมเกิน 1 แสนเครื่องได้แล้ว

ตัวเลขนี้ถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดที่ LG เคยทำได้ในเกาหลีใต้ ส่วนยอดขายในวันแรกวันเดียวอยู่ที่ราว 2-3 หมื่นเครื่อง เพิ่มจากยอดขาย LG G2 วันแรกที่ทำได้น้อยกว่า 1 หมื่นเครื่องด้วยซ้ำ

ต้องรอดูว่าหลังจาก G3 เริ่มขายในประเทศอื่นๆ แล้วจะทำยอดขายได้ร้อนแรงแค่ไหนกันครับ

Nick Parker ผู้บริหารฝ่ายคู่ค้า OEM ของไมโครซอฟท์ ให้สัมภาษณ์ที่งาน Computex 2014 ว่าเราจะได้เห็นมือถือ Windows Phone ราคาต่ำกว่า 200 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,000 บาท) ออกสู่ตลาดในปีนี้แน่นอน

เขาบอกว่านโยบายของไมโครซอฟท์คือสู้สงครามราคาสำหรับอุปกรณ์จอขนาด 7-8-10 นิ้ว เมื่อปีที่แล้วไมโครซอฟท์ทำราคาระดับ 300-400-500 ดอลลาร์ได้แล้ว ปีนี้จะมุ่งสู่ราคาระดับ 100-200-300 ดอลลาร์ต่อไป

ในส่วนของ Windows Phone นั้นเขาบอกว่าเราจะได้เห็นมือถือบางรุ่นในบางประเทศ ที่ขายต่ำกว่า 200 ดอลลาร์

ทิศทางของไมโครซอฟท์สอดคล้องกับที่บริษัทเคยประกาศไว้ว่า จะแจก Windows ฟรีให้กับอุปกรณ์ที่หน้าจอเล็กกว่า 9 นิ้ว เพื่อให้คู่ค้ากดราคาขายลงมาให้ต่ำที่สุด

กองทัพสหรัฐฯ มีลูกจ้างที่เป็นสัญชาติเกาหลีจำนวนมาก ล่าสุดทางกองทัพออกมาแจ้งข่าวว่าข้อมูลส่วนตัวของลูกจ้างทุกคน ตั้งแต่ชื่อ, หมายเลขบัตรประชาชน, สถานที่ติดต่อ, การศึกษา, และประวัติการทำงาน อาจจะถูกขโมยออกไปจากระบบจ้างงานจำนวนถึง 16,000 ชุด

ไม่มีรายงานว่าทำไมทางกองทัพสหรัฐฯ จึงตั้งข้อสงสัยว่าข้อมูลอาจจะถูกขโมยออกไป แต่ข้อมูลทางการเงินไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ทางกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่าจะแจ้งผู้เสียหายเป็นรายคนอีกครั้ง และเตรียมให้การช่วยเหลือต่อไป

ที่มา - The Register

Canon Europe เปิดตัวบริการใหม่ Irista บริการโฮสต์ไฟล์รูปภาพบนกลุ่มเมฆ ที่ออกแบบมาจับตลาดช่างภาพและคนรักการถ่ายรูปโดยเฉพาะ

กูเกิลขยายบริการร้านขายเนื้อหาดิจิทัล Google Play ไปไกลกว่าแอนดรอยด์แล้ว โดยผู้ใช้ Chrome บนพีซี หรือ Chromebook สามารถนั่งดูภาพยนตร์หรือรายการทีวีที่ซื้อไว้ในบัญชี Google Play ของตัวเองได้ด้วย

ผู้ที่อยากดูภาพยนตร์บนพีซีจำเป็นต้องติดตั้งส่วนเสริมชื่อ Google Play Movies & TV จาก Chrome Web Store จากนั้นก็เลือกภาพยนตร์ที่ต้องการจากแอพโดยตรง

ถึงแม้เบราว์เซอร์ของ Google (ทั้ง Chrome และ แอนดรอยด์เบราว์เซอร์) จะครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ของตลาดโลกไป แต่ในสหรัฐ กลับเป็นรอง Internet Explorer มาตลอด ล่าสุด Adobe Digital Index (ADI) ได้เปิดเผยว่าเบราว์เซอร์ของ Google มีสัดส่วนตลาดในสหรัฐ แซงหน้า IE เป็นครั้งแรกแล้ว

กลุ่มบริษัทไอทีชื่อดังผู้ให้บริการออนไลน์ ได้แก่ Aol., Apple, Dropbox, Facebook, Google, LinkedIn, Microsoft, Twitter, และ Yahoo! ลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีและรัฐสภาสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการปฎิรูป 5 ประเด็นสำคัญในกระบวนการสอดส่องข้อมูลออนไลน์ ได้แก่

หน้าร้านขายเกมที่เกมเมอร์รู้จักกันเป็นวงกว้างคงมีสองค่ายสำคัญคือ Steam และ Origin ที่ทั้งสองค่ายล้วนเข้าป้องกันเกมด้วยเทคโนโลยี DRM ของตัวเอเพื่อยืนยันว่าผู้เล่นเป็นผู้ซื้อตัวจริงเท่านั้น ปัญหาสำคัญของระบบนี้คือผู้เล่นเกมต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ขณะที่ข้อดีของระบบเหล่านี้คือหน้าร้านเหล่านี้มักทำตัวเป็นแพลตฟอร์มให้นักพัฒนาสามารถเพิ่มฟีเจอร์เช่นการแชตระหว่างเล่นเกม หรือการชวนกันมาเล่นเกมเดียวกัน ตลอดจนการแสดงค่าคะแนนของเพื่อนได้

เดือนที่แล้ว ARM นำเสนอจุดอ่อนของอินเทลที่มีปัญหาความเข้ากันได้, พลังงาน, และประสิทธิภาพเมื่อแปลงโค้ดจาก ARM ให้ไปรันบน x86 หนึ่งเดือนผ่านไป อินเทลก็ออกมาโต้ตอบแล้วครับ

อินเทลนำเสนอผลทดสอบคล้ายกับที่ ARM เสนอในงาน Techday โดยทดสอบแอพพลิเคชั่น 400 ตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุดในแต่ละหมวดบนชิป CloverTrail+ และ Android JellyBean (รายงานของ ARM ใช้ 25 แอพพลิเคชั่นจากแต่ละหมวด รวมสำรวจ 100 แอพ) และพบว่าไม่ว่าอุปกรณ์จะใช้ชิป ARM หรืออินเทลก็ล้วนมีปัญหาในการรันบางแอพพลิเคชั่นทั้งสิ้น อย่างไรก็ดีเครื่องที่ใช้ชิปอินเทลนั้นแม้จะพบปัญหาบ้างแต่ก็ไม่มากนัก โดยอัตราการรันโดยไม่มีปัญหาอยู่ที่ระหว่าง 97% - 99%