นี่อาจเป็นหนึ่งข่าวที่ช่วยตอกย้ำประเด็นของความเป็นส่วนตัว จากการที่ RIM สามารถเก็บข้อมูลและสถิติการใช้งานของผู้ใช้ BlackBerry ได้ จากสไลด์ Blackberry 6 Developer ที่ได้มีการหลุดออกมา ทำให้เห็นถึงสถิติของผู้ใช้งาน BlackBerry
ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้
ข้อมูลการใช้ BlackBerry เพื่อการติดต่อสื่อสาร
ข่าวออกมาสักหลายวันแล้ว แต่เพิ่งมีให้ดาวน์โหลดตัวโปรแกรม
ก่อนอื่นเท้าความก่อน เดิมที Chrome มีให้ดาวน์โหลด 3 เวอร์ชัน (ไม่รวม Chromium) คือ Stable, Beta, Dev เรียงตามเสถียรภาพของโปรแกรม ซึ่งผกผันกับความใหม่ของฟีเจอร์
แต่ทางนักพัฒนาของกูเกิลเริ่มไม่พอใจกับอัตราการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในรุ่น Dev เท่าที่ควร เลยออกเวอร์ชันที่สี่ซึ่งใหม่ที่สุด แต่ต้องแลกมาด้วยบั๊กและการขาดเสถียรภาพ ชื่อของมันคือ Canary Build (มาจากคำว่า canary in a coal mine หรือการเลี้ยงนกขมิ้นไว้ในเหมืองถ่านหินเพื่อเตือนภัยเรื่องก๊าซพิษ กูเกิลใช้เปรียบเทียบกับการเตือนว่าโปรแกรมมีบั๊ก)
โครงการ OpenStreetMap (มักย่อว่า OSM) เป็นโครงการแบบเดียวกับวิกิพีเดีย แต่เปลี่ยนสารานุกรมเป็นแผนที่ถนน หลักการคือสร้างแผนที่แบบเสรีที่ใครๆ ก็นำไปใช้ได้ (เพราะแผนที่พวก Google Maps มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง) โดยอาสาสมัครทั่วโลกจะช่วยกันวาดแผนที่ถนนหนทางในท้องถิ่นของตนผ่าน GPS (รายละเอียดของ OpenStreetMap อ่านได้จากบล็อกของคุณ Thepitak)
ส่วนข่าวนี้คือ Bing Maps บริการแผนที่ออนไลน์ของไมโครซอฟท์ ได้นำข้อมูลจาก OpenStreetMap มาใช้เช่นกัน โดยสร้างเป็นเลเยอร์ทางเลือกอีกอันหนึ่งที่สามารถเปิดปิดได้ตามชอบ เนื้อข่าวสั้นๆ แค่นี้ แต่ประเด็นสำคัญคือข้อมูลใน OpenStreetMap บางพื้นที่ดีพอที่จะใช้งานได้จริงแล้ว
มีภาพหลุดของ BlackBerry 9800 Slider (คลิกเพื่อดูภาพ) ออกมาแล้วจาก FCC ทั้งที่งานกำลังจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมง โดยรายละเอียดอย่างคร่าวของ BlackBerry ตัวใหม่มีดังนี้:
ไม่ต้องรอถึง 11 โมงพรุ่งนี้ (เวลาฝั่งตะวันออกของ US) ก็ได้อะไรนิดๆ หน่อยๆ ของ BlackBerry 9800 Slider แล้ว เมื่อเจ้า Slider ตัวนี้ เข้าสู่ FCC (กทช. ของสหรัฐฯ) ได้อนุมัติ BlackBerry 9800 แล้ว คุณสมบัติคร่าวๆ คือ
อย่างไรก็ตาม ควรจะรองานของ AT&T และ RIM พรุ่งนี้ 4 ทุ่ม (เวลาในไทย) น่าจะดีกว่านะครับ
ที่มา - Engadget
คนแถวนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Chrome และคงลองใช้กันหมดแล้ว (ใช้จริงหรือเปล่าอีกเรื่องนึง) วันนี้กูเกิลได้แถลงข่าวเปิดตัว Chrome อย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย ซึ่งก็คงช่วยให้คนรู้จัก (และหันมาใช้) Chrome กันมากขึ้นครับ
งานจัดที่ True Cafe สาขา Digital Gateway ผมเก็บภาพบรรยากาศมาฝากนิดหน่อย
พวกนี้คงรู้กันหมดแล้ว ไปเร็วๆ เน้นแต่ภาพพอนะครับ
Wall Street Journal ได้เผยปัญหาการเมืองภายในบริษัทไมโครซอฟท์ ซึ่งเกิดขึ้นจากฟีเจอร์ InPrivate Filter ใน Internet Explorer 8 ก่อนการเปิดตัวเบราว์เซอร์ดังกล่าวเมื่อหลายปีก่อน
สำหรับ Kindle รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว (จะขอเรียกว่า Kindle 3 เพื่อความง่ายในการอ้างอิงนะครับ) แม้ว่าตัวเครื่องจะยังไม่ส่งมอบ แต่ทางเว็บไซต์ Kindle Chronicle ได้เยี่ยมสำนักงานของ Amazon และพบปะกับผู้บริหารของทีม Kindle ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้
ผู้ใช้ iPhone 4 (อย่างน้อยก็ในต่างประเทศ) อาจมีเหตุผลสำหรับการ jailbreak เพิ่มขึ้นอีกข้อ เพราะสามารปรับแต่งการสนทนาผ่าน FaceTime บนเครือข่าย 3G ได้
งานนี้ต้องซื้อโปรแกรมชื่อ My3G (ราคาอยู่ราว 3-4 ดอลลาร์) เพื่อ "หลอก" ให้ iOS คิดว่ามันกำลังส่งผ่านข้อมูล FaceTime บน Wi-Fi ดังเช่นปกติ แต่แท้จริงแล้วเราคุยผ่านเครือข่าย 3G ต่างหาก แน่นอนว่าคุณภาพของภาพและเสียงอาจแย่กว่าการคุยผ่าน Wi-Fi จริงๆ
นอกจาก FaceTime แล้ว โปรแกรม My3G ยังใช้แก้ข้อจำกัดอื่นๆ ของผู้ใช้ iPhone ในสหรัฐได้ เช่น ดู YouTube เวอร์ชันความละเอียดสูงผ่าน 3G เป็นต้น
ไมโครซอฟท์ออกมาเผยวันวางขายและราคาของ Microsoft Office for Mac 2011 ว่าจะวางขายสิ้นเดือนตุลาคมนี้ โดยแยกเป็น 2 รุ่นคือ Home and Student (Word, PowerPoint, Excel) กับ Home and Business (เพิ่ม Outlook) นอกจากนี้ยังมีรุ่น Academic ที่ไม่วางขายทั่วไปอีกรุ่นหนึ่งซึ่งเหมือนกับ Home and Business ทุกประการ
ความน่าสนใจคือราคาครับ
ทั้งสองรุ่นมีแบบ Family Pack และ Multi-Pack ที่ติดตั้งได้มากกว่าหนึ่งเครื่องด้วย
Amazon เปิดเผยตัวเลขส่วนแบ่งตลาดหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (ตัวหนังสือ ไม่ใช่ตัว Kindle) เป็นครั้งแรก
Ian Freed หัวหน้าฝ่าย Kindle ของ Amazon ให้สัมภาษณ์กับ CNET ดังนี้
บริษัทสำรวจตลาดที่ได้รับความเชื่อถือค่อนข้างสูงในบ้านเราอย่าง The Nielsen Company ได้นำเสนอตัวเลขของบริษัทว่าไตรมาสที่สองของปี 2010 เป็นไตรมาสที่ยอดขาย Android แซงหน้า iPhone ไปได้ โดย Android ครองตลาด 27% ขณะที่ iPhone ครองตลาด 23%
เมื่อต้นปีทาง NPD Group เคยสำรวจแบบเดียวกันแล้วรายงานว่า Android นั้นแซงหน้า iPhone ไปตั้งแต่ไตรมาสแรก ขณะที่ตัวเลขของทาง Nielsen นั้นรายงานว่าไตรมาสแรกของปีนี้ Android ยังครองตลาดเพียง 17% และ iPhone ยังครองตลาดอยู่ 27% น่าสนใจว่าหลังการเปิดตัว iPhone 4 มาส่วนแบ่งของ iPhone กลับลดลงเรื่อยๆ ตามรายงานของ Nielsen
เว็บไซต์ MailOnline ในเครือของหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ Daily Mail เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดซึ่งไปสอบถามความคิดเห็นของชาวอเมริกันกว่า 2 หมื่นคนระบุว่า ผู้ที่ซื้อ iPad มาครอบครองเป็นเจ้าของ โดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นคนที่มีนิสัยใจร้าย ไม่มีความเมตตากรุณาปรานี และไม่ค่อยจะมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ผู้ดำเนินการสำรวจความเห็นระบุว่า เจ้าของ iPad โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีฐานะดี มีการศึกษาสูง มีลักษณะนิสัยใฝ่อำนาจ ชอบความสำเร็จ เจนโลก ใจร้าย และไม่คำนึงถึงจิตใจผู้อื่น โดยเขาได้ให้เหตุผลว่า เนื่องด้วยราคาของ iPad ที่ค่อนข้างสูง ซึ่งมีตั้งแต่ 499-829 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6–2.6 หมื่นบาท) เป็นเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้พวกบรรดาลูกค้ามักจะมีนิสัยแบบนั้น
หลังการประกาศว่า Motorola Droid กำลังเริ่มได้รับอัพเดตเป็น Android 2.2 กันแล้ว ทาง Motorola ก็ออกมาประกาศว่าการอัพเดตนี้จะไม่มีความสามารถในส่วนของการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi แต่อย่างใด โดยให้เหตุผลว่าฮาร์ดแวร์ไม่รองรับ อย่างไรก็ตามความสามารถอื่นๆ เช่น Flash, หน้าจอใหม่ และ API ชุดใหม่ยังคงมาครบ
ข้ออ้างว่าฮาร์ดแวร์ไม่รองรับนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยในตอนนี้ซอฟต์แวร์จำนวนมากสามารถทำให้ Droid รองรับแชร์อินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ได้อยู่แล้ว แต่ยังทำได้เฉพาะในโหมด Ad Hoc เท่านั้น โดยระบบแชร์อินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ใน Android 2.2 นั้น Wi-Fi ในโทรศัพท์จะทำหน้าในเป็น Access Point อย่างเต็มตัว
เริ่มอยากได้ Galaxy S
เป็นสถิติชุดเดียวกับ IE มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็นเดือนที่สองติดกัน และอาจถือว่าเดือน ก.ค. 2010 เป็นเดือนของไมโครซอฟท์อย่างแท้จริง
สถิติที่สำคัญของฝั่งระบบปฏิบัติการคือ Windows 7 แซงหน้า Vista ในแง่จำนวนผู้ใช้ (ที่ต่อผ่านอินเทอร์เน็ต) เรียบร้อยแล้ว โดย Windows 7 มีส่วนแบ่งตลาด 14.46% และ Vista มี 14.34% แชมป์ยังเป็น XP ที่ครองถึง 61.87% ของตลาดทั้งหมด (กราฟ) โดยรวมแล้ววินโดวส์มีส่วนแบ่งตลาด 91.32% ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน
Kevin Turner COO ของไมโครซอฟท์หลุดออกมาแล้วว่า มือถือ Windows Phone 7 จะวางตลาดในยุโรปก่อน ประมาณเดือนตุลาคมนี้ ส่วนสหรัฐจะตามมาทีหลังคือเดือนพฤศจิกายน
ไม่มีคำอธิบายว่าทำไมยุโรปได้ใช้ก่อน แต่นี่เป็นข้อมูลวันวางจำหน่าย Windows Phone 7 ที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นข่าวกันมา
ที่มา - Engadget
Mishkin Faustini นักพัฒนาจากเว็บไซต์ The Dirty Developer เน้นข่าวสาร Windows Phone 7 ได้ทดสอบการสร้างโปรแกรมแบบเดียวกันทุกประการบน WP7 เทียบกับบน Android
โค้ดของโปรแกรมตัวอย่างแจกซอร์สให้ดาวน์โหลดได้ตามสะดวก ผลการเปรียบเทียบคือ WP7 กับ Android มีแนวคิดในการพัฒนาโปรแกรมใกล้เคียงกัน เช่น แนวคิด "Layouts" ของ Android เหมือนกับ "Page" ของ WP7 ซึ่งเขียนเป็น XML เหมือนกัน
จุดต่างสำคัญอยู่ที่เครื่องมือในการพัฒนา ฝั่งของ WP7 ใช้ Silverlight + Expression Blend + Visual Studio นั้นให้ประสบการณ์ในการพัฒนาที่ดีกว่า Android ที่อิงกับ Eclipse เป็นหลัก (ต้องไม่ลืมว่านี่เป็นเว็บ WP7 ด้วย)
ทาง Mishkin Faustini สัญญาว่าจะเปรียบเทียบความยากง่ายในการพัฒนา iPhone กับ WP7 ในตอนหน้า
หลังจากที่มีข่าวลือหนาหูว่อนในวงการมือถือว่า เบอร์ 1 ของไทยอย่าง AIS จะร่วมลงสนามขาย iPhone ร่วมกับอีก 2 ค่ายอย่าง Dtac และ Truemove ซึ่งตอนนี้ก็มีข่าวยืนยันออกมาแล้วครับว่า AIS ได้บรรลุข้อตกลงเรื่อง iPhone 4 กับ Apple เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเปิดขายภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยไม่ได้หวังจะเอามาใช้กับคลื่น 3G 900MHz ที่ตัวเองมีอยู่เดิม (iPhone 4 รองรับคลื่นนี้) แต่หวังว่าจะใช้ได้อย่างดีที่สุดบน ระบบ 3.9G บนคลื่นความถี่ 2100MHz หรือ LTE ที่ กทช. จะเปิดให้ประมูลกันในปลายเดือนนี้
หลังจากที่มีข่าว Motorola Droid จะได้รับการอัพเกรดเป็น Android 2.2 มาไม่นานก็มาถึงคราวของรุ่นน้องอย่าง Droid 2 กันบ้าง
ล่าสุดได้มีผลการทดสอบเบนช์มาร์คของเจ้า Droid 2 ออกมา ผลปรากฏว่าได้ไป 1,299 (น้อยกว่า Nexus One เพียงนิดเดียว ดูภาพได้จากที่มา) ไม่เพียงเท่านั้นยังมาพร้อมกับสเปคภายในของ Motorola Droid 2 อีกด้วย
สเปคมีดังนี้
เราอ่าน รีวิว MeeGo Netbook 1.0 ภาคปฏิบัติโดยคุณ champjss ไปแล้ว วันนี้มาย้อนดูภาคทฤษฎีว่า MeeGo เป็นใคร ถือกำเนิดมาจากไหน ฯลฯ กันดีกว่าครับ
ผมสรุปเนื้อหามาจาก สไลด์ที่เกี่ยวข้องกับ MeeGo ในงาน OSCON 2010 ซึ่งจัดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ข้อมูลยังใหม่มาก น่าจะใช้อ้างอิงไปได้อีกสักพัก
บทความนี้เป็นแค่สรุปใจความสำคัญของ MeeGo จากสไลด์เท่านั้น สำหรับผู้สนใจควรดาวน์โหลดสไลด์ทั้ง 3 ชิ้นจากลิงก์ข้างต้น
จากข่าว การทดสอบ iPhone 4 นอกสหรัฐ พบปัญหาสัญญาณหดเช่นกัน มีผู้อ่านบางท่านระบุมาว่า "ออสเตรเลียไม่มีปัญหานี้" ผมเกิดความสงสัยว่าตกลงมันเป็นปัญหาจำเพาะของแต่ละประเทศหรือไม่ เลยลองหาข้อมูลเพิ่มเติม
แหล่งข้อมูลที่เป็นเรื่องเป็นราวหน่อยมาจาก CNET Australia ครับ รีวิวเพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ แต่น่าเสียดายแทนแฟนๆ แอปเปิลด้วยว่าปัญหาสัญญาณก็เกิดในออสเตรเลียเช่นกัน และทาง CNET ได้สรุปว่าสำหรับคนที่ใช้ iPhone 3G เดิม ควรเปลี่ยนมาใช้ iPhone 3GS จะดีกว่า iPhone 4
สถาบัน Royal School of Artillery ในอังกฤษ เริ่มใช้ iPad เป็นเครื่องมือประกอบการเรียนการสอนวิชายิงปืนใหญ่ของนายทหาร จากเดิมที่ผู้เรียนได้แต่ดูสไลด์บนจอ ก็จะได้ฝึกซ้อมการวางเป้าปืนผ่าน app เฉพาะทางบน iPad
Jason Markham นายทหารซึ่งปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน เล่าให้ผู้สื่อข่าว BBC ฟังว่าการเรียนแบบนี้สนุกกว่าดูบนจอเฉยๆ และเป็นการฝึกซ้อมไปในตัว ช่วยให้เขาปฏิบัติการยิงสนับสนุนได้ดีขึ้น
Rich Gill หนึ่งในทีมงานที่พัฒนาโปรแกรมตัวนี้ อธิบายว่าการสอนผ่านโปรแกรมจะช่วยลดระยะเวลาในการฝึกซ้อมลงได้เยอะมาก
ที่มา - BBC
ต่อจาก Internet Explorer ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 0.57% ในเดือนมิถุนายน ล่าสุดเดือนกรกฎาคม IE มีส่วนแบ่งเพิ่มเป็นเดือนที่สองแล้ว
สถิติจาก Net Market Share ในเดือนก่อน IE มีส่วนแบ่งตลาด 60.32% ในเดือนที่แล้ว เดือนนี้ขยับขึ้นมาเป็น 60.74% เพิ่มขึ้นมาประมาณ 0.4 จุด
ส่วน Firefox ยังมีส่วนแบ่งตลาดตกลงอย่างต่อเนื่อง เหลือ 22.91% จาก 23.81% ในเดือนก่อน (สถิติสูงสุดอยู่ที่ 24.72% เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2009) ที่น่าสนใจคือ Chrome ตกลงเล็กน้อย ลงมาอยู่ที่ 7.16% จากเดิม 7.24% ส่วน Opera กับ Safari เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
เรื่องมีอยู่ว่านาง Tara Fitzgerald วัย 48 ปีแม่ของลูกวัย 14 ปีถ่ายภาพลับเฉพาะเล่นกับสามีและใส่มันไว้ในคอมพิวเตอร์ Dell ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ของเธอ ด้วยความที่ไม่สันทัดด้านคอมพิวเตอร์เธอจึงหาภาพนั้นไม่เจอและเธอก็ไม่ไว้ใจไปถามใครบนอินเทอร์เน็ต และยิ่งไม่กล้าวานลูกสาวเธอให้ช่วย เธอจึงติดต่อ Dell Support เพื่อขอความช่วยเหลือ พนักงานที่รับสายเธอซึ่ง outsource มาอีกที (ทราบภายหลังว่าเป็น Dell Certified Level 2 Technician) ชื่อ Riyaz Shaikh ได้ทำการรีโมทเข้ามาที่เครื่องของ Tara จากนั้นก็ดาวน์โหลดภาพลับเฉพาะของเธอไป
สำหรับคนที่ต้องการทำ jailbreak ให้กับ iPhone 4 และอุปกรณ์ใกล้เคียงที่รัน iOS 4.0.1 แบบง่ายๆ สามารถเลือกใช้บริการ JailbreakMe ซึ่งขั้นตอนมีเพียงแค่เข้าเว็บ http://jailbreakme.com เท่านั้น
เว็บนี้เป็นผลงานของ @comex แฮ็กเกอร์ชื่อดัง คนที่ไม่ชัวร์อาจดูขั้นตอนพร้อมภาพประกอบอย่างละเอียดจาก Redmond Pie ตอนนี้มีรายงานว่า jailbreak ด้วยวิธีนี้จะทำให้ FaceTime และ MMS มีปัญหาครับ
อย่าลืมว่า jailbreak ทำให้ประกันหมด และอาจสร้างความเสียหายแก่ตัวเครื่องได้