ผ่านไปไม่ถึง 1 วันดีสำหรับ Instagram for Android ที่มีคนดาวน์โหลดและถ่ายภาพอย่างล้นหลาม
ล่าสุดทางผู้พัฒนาออกอัพเดตแรกของ Instagram ผ่าน Google Play แล้ว โดยอัพเดตนี้จะแก้บั๊กแอพกล้องแครชบนมือถือหลายรุ่น (ไม่บอกว่ารุ่นใดบ้าง) ซึ่งก็คงมาจากข้อมูลที่ผู้พัฒนาได้รับ หลังจากผู้ใช้ทดลองมันกับอุปกรณ์ Android สารพัดชนิดนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ The Verge รายงานว่ามือถือเรือธงตัวใหม่ของ HTC อย่าง HTC One X ยังไม่สามารถใช้กล้องกับ Instagram ได้ครับ
ที่มา - The Verge
ซัมซุงประกาศเลื่อนวันวางขายแท็บเล็ตรุ่นใหม่ Galaxy Tab 2 (ทั้งรุ่น 7.0 และ 10.1) ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (ข่าวเก่า)
เดิมทีซัมซุงตั้งใจขายที่อังกฤษเป็นที่แรก โดยเริ่มขายเดือนมีนาคม แต่สุดท้ายก็ประกาศเลื่อนเป็นช่วงสิ้นเดือนเมษายนแทนแล้ว โดยให้เหตุผลว่าซัมซุงและกูเกิลต้องการปรับแต่ง Ice Cream Sandwich ให้ดีขึ้น (แต่ไม่บอกว่ามีเรื่องอะไรบ้าง)
จากข่าวลือก่อนหน้านี้ ว่า Yahoo!
Read It Later แอพสำหรับอ่านคอนเทนต์บนอินเทอร์เน็ตที่สามารถซิงค์ข้ามอุปกรณ์ ได้เปิดเผยข้อมูลจากผู้ใช้งานจำนวนกว่า 4 ล้านคนที่น่าสนใจว่า แท้จริงแล้วนอกจากคอนเทนท์ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เลือกเก็บทั้งบทความ และรูปภาพกราฟิก ซึ่งมันควรจะหมดแค่นี้ แต่จริงๆ แล้วมีผู้ใช้อีกกลุ่มใหญ่เก็บวิดีโอเอาไว้ด้วย
ทางทีมงานของ Read It later สังเกตเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนปี 2010 หลังจากที่มีผู้ใช้จำนวนมากเก็บหน้าเว็บจากเว็บไซต์วิดีโออย่าง YouYube หรือ Vimeo จึงได้อัพเดตให้แอพสามารถเล่นวิดีโอได้จากตัวแอพเอง ผลคือผู้ใช้ยิ่งเก็บหน้าวิดีโอมากขึ้น เพิ่มขึ้นถึง 138% จากก่อนหน้าที่จะมีฟีเจอร์ดังกล่าว
ในขณะที่คู่แข่งยังไม่มีแผนว่าจะเปิดตัวเครื่องเกมคอนโซลรุ่นต่อไปในปีนี้ เจ้าที่เปิดตัวไปแล้ว และเตรียมขายในปีนี้อย่าง Wii U จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษว่าจะนำหน้าคู่แข่งไปมากแค่ไหน หลังจากโชว์ตัวไปในงาน E3 เมื่อปีที่ผ่านมา และเตรียมขาย
หลังจาก Instagram ปล่อยแอพเวอร์ชั่นบน Android ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่แอพยอดนิยมได้ขยายกลุ่มผู้ใช้ออกไปสู่แพลตฟอร์มอื่น แต่ดูเหมือนผู้ใช้งาน iPhone บางส่วนไม่คิดเช่นนั้น โดย Android Community รายงานว่าจากการตรวจสอบใน Twitter พบทวีตซึ่งแสดงความไม่พอใจที่ Instagram มาลง Android
กูเกิลเพิ่งอัพเดต Google Maps เพื่อต้อนรับโอลิมปิกภาคฤดูร้อนที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษแล้วด้วยการเพิ่มความสามารถการแสดงเส้นทางรถเมล์ และรถไฟฟ้า (live transit) ในลอนดอนแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ใช้ได้แค่ในบางเมืองในสหรัฐฯ และสองเมืองในแถบยุโรปอย่างมาดริด (สเปน) และโตรีโน่ (อิตาลี)
หลายคนอาจจะลืม Art Project โครงการที่ใช้เวลาว่าง 20% ที่เหลือของพนักงานกูเกิลเพื่อเก็บบรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์ชื่อดัง 17 แห่งเอาไว้ โดยเฉพาะงานศิลปะจะถูกเก็บเป็นภาพความละเอียดสูงถึง 7 พันล้านพิกเซลเลยทีเดียว
วันนี้โครงการนี้กลับมาอีกครั้งด้วยการเปิดให้เข้าไปชมภายใน White House หรือที่ทำงานของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในวอชิงตัน ดี.ซี. โดยสามารถเข้าไปดูในรูปแบบคล้าย Street View ความละเอียดสูง 360 องศาได้ที่โครงการ Art Project ดูเบื้องหลังการถ่ายทำได้ท้ายข่าวครับ
ตลาด LTE ในสหรัฐฯ ใกล้เริ่มถึงจุดปะทะแล้ว หลังจากที่เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ MetroPCS ที่เน้นให้บริการพรีเพดราคาถูก และเริ่มให้บริการ 4G LTE แล้วในปีนี้ ได้ประกาศแพคเกจอันลิมิตสำหรับ LTE ออกมาแล้ว
ก่อนหน้านี้ MetroPCS มีแพคเกจแพงสุดอยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สามารถใช้บริการทุกอย่างได้อย่างไม่จำกัด (โทร ข้อความ อินเทอร์เน็ต อีเมล์ และมีบริการเพลง+วิดีโอแบบ on-demand ด้วย) มาวันนี้ได้ประกาศแพคเกจที่แพงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเป็น 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตผ่าน 4G LTE ได้แบบอันลิมิตเลยทีเดียว ส่วนโปรเก่าราคา 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถใช้ 4G LTE ได้ที่ 5GB หลังจากนั้นจะถูกลดความเร็วลง "เล็กน้อย"
ไม่นานมานี้มีข่าวลือว่า Asus จะเป็นผู้ผลิตแท็บเล็ต Nexus ให้กูเกิลต่อเนื่องถึงสองข่าว (ข่าวแรก,
ใครที่ใช้งาน Dropbox มานานแล้วคงรู้วิธีพื้นฐานสำหรับเพิ่มพื้นที่ความจุใน Dropbox ให้เพิ่มขึ้นง่ายๆ ด้วยการชวนเพื่อนมาใช้งาน DropBox นั่นเอง โดยทั้งสองฝ่ายจะได้เพิ่มขึ้นอีกคนละ 500MB สูงสุด 32 คน (เท่ากับเพิ่มได้สูงสุด 16GB นั่นเอง)
ล่าสุด Dropbox ได้โพสต์บล็อกว่าสำหรับผู้ใช้งานตั้งแต่ Pro เป็นต้นไปจะได้รับพื้นที่จากการชวนเพื่อนมาใช้งานเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1GB ต่อคน (แต่ผู้ใช้งาน Pro จะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นเริ่มต้นที่ 50GB อยู่แล้วนะ)
ส่วนใครที่ยังอยากใช้ฟรี แต่อยากมีเพิ่มก็สามารถไปทำเควสท์สอนการใช้งานให้เรียบร้อย ไม่ก็ใช้ฟีเจอร์อัปโหลดภาพอัตโนมัติ (ได้สูงสุด 3GB นะ) หรือใครเตรียมซื้อ HTC ซ๊รีส์ One อยู่แล้วก็จะได้พื้นที่เพิ่มอีก 25GB นะ
ก่อนหน้านี้ข่าวด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ คนเขียนมักจะจำกัดเพราะความยากในเนื้อข่าวที่ต้องอ่านทำความเข้าใจและใช้ความรู้หลายๆ อย่าง แต่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาถ้าใครสังเกตจะเห็นว่าข่าวด้านนี้ของ Blognone เยอะขึ้นมาก เพราะมีคุณ pe3z เข้ามารายงานเสมอๆ นะครับ (ดู pe3z's blog)
จากจำนวนข่าวที่เขียนอย่างต่อเนื่อง และการแก้ไขที่น้อยมาก ตลอดจนมีการพูดคุยกับคอมเมนต์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ถึงตอนนี้ก็คงได้เวลาเสนอคุณ pe3z เข้าเป็น Blognone's Writer
Jeroen Vader เจ้าของคนปัจจุบันของ Pastebin บริการด้านการรับฝากข้อมูลจำพวกตัวอักษรได้ออกมาประกาศเกี่ยวกับแผนด้านความปลอดภัยของ Pastebin โดยจะทำการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบแต่ละข้อมูลที่ถูกนำขึ้นไปบนเว็บไซต์ เพื่อป้องกันการนำข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตรวมทั้งข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปเผยแพร่สู่สาธารณะ
ในด้านความปลอดภัย Pastebin ได้ทำการบันทึกประวัติการใช้งานถึง 17 ล้านรายการต่อเดือน ซึ่งทั้งหมดนี้รวมไปถึงบันทึกการใช้งานของกลุ่ม Anonymous รวมไปถึงแฮ็กเกอร์กลุ่มอื่นๆ ด้วย โดยในอนาคต Anonymous อาจย้ายไปใช้บริการของ PasteBay ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการของ The Pirate Bay แทน
ด่านแรกของการกำกับดูแลคลื่นความถี่อย่างเต็มรูปแบบของกสทช. คือต้องประกาศแผนแม่บทลงสู่ราชกิจจานุเบกษาก่อนจึงสามารถใช้อำนาจกำกับดูแลได้ และวันนี้แผนแม่บททั้งสามฉบับ คือ แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ (พ.ศ. ๒๕๕๕), แผนแมบทกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙), และะแผนแมบทกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙) ก็ลงราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้วทำให้มีผลบังคับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
หลังจากแผนแม่บททั้งสามแผนมีผลแล้วกสทช. จะเริ่มมีอำนาจในการออกใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่และกิจการต่างๆ ตามมาตรา 48, 49, และ 50 ของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553
Tor เป็นโครงการที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับรัฐบาลทั่วโลกรวมถึงรัฐบาลไทยมายาวนาน โดยมันเป็นแรงผลักดันให้รัฐบาลอิหร่านต้องบล็อคทราฟิกเข้ารหัสทั้งประเทศมาแล้ว แต่ก็ถูกตอบโต้ด้วยด้วยการปลอมแปลงทราฟิกให้เป็นเหมือนการใช้งานเว็บที่ไม่ได้เข้ารหัส จนตอนนี้เองยังคงมีความพยายามแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์รูปแบบทราฟิกว่ามีการปลอมตัวมาหรือไม่ เช่น การทำโปรโตคอลเป็น HTTP แต่ข้างในเป็นอย่างอื่น
ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญของ Visual Studio 11 คือการปรับหน้าตาของโปรแกรมใหม่หมด เน้นความเรียบง่าย และเปลี่ยนไอคอนมาเป็นสีเทาเข้มเพียงสีเดียว (ข่าวเก่า) เหตุผลของไมโครซอฟท์ต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือต้องการให้ส่วนติดต่อผู้ใช้ไม่แย่งความสนใจเกินหน้าเนื้อหา
Android รุ่น 2.x ในปัจจุบันใช้แนวคิด "ปุ่มเมนู" ที่อยู่บนตัวเครื่องมือถือ กดแล้วหน้าจอจะแสดงเมนูที่ซ่อนอยู่มาให้เห็น แนวคิดนี้ถูกเปลี่ยนใน Android 3.x และ 4.x ที่เปลี่ยนคำสั่งในเมนูเป็น soft button แสดงอยู่ในทูลบาร์บนหน้าจอแทน
สำหรับแอพใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นมาสำหรับ Android 4 คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะนักพัฒนาเตรียมเรื่องนี้มาอยู่แล้ว แต่กรณีที่เป็นแอพเก่าของ Android 2 มารันบน Android 4 ระบบจะเช็คว่าฮาร์ดแวร์เครื่องนั้นมีปุ่มบนฮาร์ดแวร์หรือเปล่า ถ้ามีก็จะแสดงหน้าตาแบบเดิม แต่ถ้าไม่มีปุ่มฮาร์ดแวร์จริง (กรณีของ Galaxy Nexus ที่ปุ่มอยู่บนหน้าจอทั้งหมด) ก็จะเพิ่มปุ่มจุดสามจุด เอาไว้เรียกคำสั่งในเมนูแทน
ถือเป็นแอพที่มีคนรอคอยเยอะจริงๆ สำหรับ Instagram บน Android ซึ่งหลังจากเปิดตัวไม่ครบหนึ่งวันดี ซีอีโอ Kevin Systrom ก็ออกมาประกาศตัวเลขความสำเร็จว่าตอนนี้มีผู้สมัครใช้ Instagram สูงถึงนาทีละ 2,000 คนเลยทีเดียว ซึ่งถ้ารักษาอัตรานี้ได้ตลอดวันก็จะเป็น 3,000,000 คนภายในวันเดียวเลย
Instagram เปิดตัวตั้งแต่ปี 2010 โดยเป็นแอพที่มีเฉพาะบน iOS เท่านั้น แต่ก็มีจำนวนผู้ใช้งานสูงถึง 30 ล้านคน มีอัตราการอัพโหลดภาพเข้ามาในระบบถึงวันละ 5 ล้านภาพ ซึ่ง Systrom ก็คาดว่าตัวเลขนี้จะสูงขึ้นไปกว่านี้มากจากการเพิ่มฐานผู้ใช้งาน Android เข้ามา
เรียกว่านับจากนี้สังคม Instagram ที่ปกติก็คึกคักอยู่แล้วก็จะยิ่งคึกคักขึ้นไปอีกนะครับ
เรื่องนี้เริ่มจากมีรายการโทรทัศน์ของญี่ปุ่นไปถ่ายทำรายการที่หน้าโรงงาน Foxconn เมืองไท่หยวน ประเทศจีน และก็มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รับสมัครงานของ Foxconn โดยถามว่าที่นี่รับสมัครพนักงานกี่คน ซึ่งคำตอบที่เจ้าหน้าที่ Foxconn บอกมาก็คือ "เราต้องการคนอีกประมาณ 18,000 คน สำหรับการผลิต iPhone รุ่นที่ห้า"
เมื่อถามต่อไปว่า "รับเยอะขนาดนี้ไว้รองรับคำสั่งซื้อ iPhone 5 เหรอ?" เจ้าหน้าที่ก็ตอบว่า "ใช่แล้ว มันจะออกมาในเดือนมิถุนายนนี้"
เนื้อหาข่าวลือสุดๆ ก็มีเพียงเท่านี้ครับ อย่าลืมว่า iPhone รุ่นที่ห้านั้นคือ iPhone 4S ส่วน iPhone รุ่นที่เดาว่าจะชื่อ iPhone 5 นั้นมันคือ iPhone รุ่นที่หก
ข่าวนี้ต้องย้อนความนิดนึงครับ เริ่มจากช่วงกลางปีที่แล้ว Citrix เข้าซื้อกิจการ Cloud.com และจากนั้นไม่นานก็
หลังจากจ่อที่เกือบ 50% มาหลายเดือน (ข่าวเก่า) ในที่สุด Android ก็ทำลายกำแพง 50% ของตลาดสมาร์ทโฟนทั้งหมดของสหรัฐ จากการวัดผลของ comScore ได้สำเร็จ
คนที่ใช้ Google+ บน Android คงทราบกันดีว่าเราสามารถดึงข้อมูลเพื่อนๆ ใน circle เข้ามาแสดงในสมุดที่อยู่ของเราได้
วันนี้กูเกิลทำกลับกัน คือดึงข้อมูลจากสมุดที่อยู่ของเราใน Google Contacts (ที่ใช้ใน Gmail) มาแสดงในหน้า About ของบุคคลนั้นๆ ใน Google+ บ้าง
การดึงข้อมูลลักษณะนี้มาแสดงจะไม่เป็นปัญหาแบบเดียวกับ Facebook ที่อาจแสดงเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้ เพราะกรณีของ Google+ นั้น ส่วนที่ดึงมาแสดงจะมาจากสมุดที่อยู่ของเราเอง (ที่มีข้อมูลของบุคคลนั้นๆ อยู่) ไม่ใช่ดึงมาจากข้อมูลส่วนตัวของบุคคลนั้นที่ไม่อนุญาตให้แสดงครับ
ฟีเจอร์เล็กๆ นี้อาจไม่สำคัญอะไรนักในแง่การใช้งาน แต่แสดงให้เห็นถึงยุทธศาสตร์การเชื่อมโยงของกูเกิลที่เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ
Bloomberg รายงานข่าวว่า Amazon Appstore กำลังทดสอบฟีเจอร์ in-app purchase เป็นการภายใน ซึ่งถ้าเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อไร ก็จะช่วยให้ Amazon Appstore มีวิธีการหารายได้ที่ทัดเทียมกับ Apple App Store และ Google Play Store มากขึ้น
นักพัฒนาแอพที่หารายได้จากการขายสินค้าภายในแอพ ก็อยากให้มีฟีเจอร์นี้ใน Amazon Appstore อยู่แล้ว เพื่อสร้างรายได้จากผู้ใช้ Kindle Fire ที่มีอยู่มากพอสมควร
ตามแผนของ Amazon จะหักส่วนแบ่ง 30% จากการขายสินค้าภายในแอพ ซึ่งเป็นอัตรามาตรฐานของวงการอยู่แล้ว
ที่มา - Bloomberg
หลังจาก Mozilla เริ่มเดินหน้าโครงการ Firefox Metro บน Windows 8 ล่าสุดมีภาพหน้าจอของ Firefox Metro รุ่นต้นแบบออกมาเผยแพร่แล้วครับ
ทีมงานของ Firefox เลือกจะใช้ส่วนติดต่อผู้ใช้เดิมของ Firefox Android (Fennec) ไปพลางๆ ก่อน เป้าหมายหลักคือทำให้มันรันบน Windows 8 Metro ให้ได้ แล้วค่อยไปปรับแต่งหน้าตาให้เข้ากับ Metro ทีหลัง
ตอนนี้สิ่งที่ใช้งานได้แล้วคือฟีเจอร์ snap ของ Metro ที่เปิดแอพพร้อมกันสองตัวในหน้าจอเดียวกัน, ใช้หน้าจอเลือกไฟล์ (file picker) แบบเต็มหน้าจอของ Metro, รองรับ Search Charm และ Share Contract ที่เป็นแถบด้านขวามือของ Metro แล้ว
ที่มา - Brian Bondy
จากข่าว Yahoo! ฟ้อง Facebook ฐานละเมิดสิทธิบัตรทั้งสิ้น 10 รายการ ตอนนี้ทาง Facebook ฟ้องกลับข้อหาละเมิดสิทธิบัตร 10 รายการเท่ากัน
ตัวอย่างสิทธิบัตรที่ Facebook ใช้ฟ้องกลับ ได้แก่ การสร้าง feed ของสมาชิกในเครือข่ายสังคม, การแท็กบุคคลในสื่อดิจิทัล, อัลกอริทึมในการเลือกโพสต์ที่เป็นหัวข่าว headline เป็นต้น สิทธิบัตรบางรายการมีชื่อ Mark Zuckerberg เป็นผู้คิดค้นด้วย แต่หลายรายการก็เป็นสิทธิบัตรที่ Mark Zuckerberg เพิ่งกว้านซื้อมาเร็วๆ นี้
ไม่รู้ว่างานนี้ Yahoo! ไปปลุกยักษ์ให้ตื่นขึ้นมาหรือเปล่า