Walmart เริ่มทดลองใช้หุนยนต์ในร้านค้าอย่างจริงจังในช่วงระยะหลังมานี้ ก่อนหน้านี้เพิ่งทดลองหุ่นยนต์เช็กสินค้าบนชั้นวาง ล่าสุดทดลองหุ่นยนต์ทำความสะอาดพื้นแล้ว โดยเป็นหุ่นยนต์จากบริษัท Brain Corp
ลักษณะหุ่นยนต์ สูงเกือบเท่าตัวคน มีกล้องและเซนเซอร์เพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวาง มีแท่นควบคุมขับเคลื่อนโดยคนด้วย แต่ก็ขับเคลื่อนตัวเองอัตโนมัติได้ด้วยเช่นกัน
รัฐบาลจีนประกาศนโยบายสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เต็มที่ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา โดยหวังจะเท่าสหรัฐฯ ภายในสามปีข้างหน้า ตอนนี้ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ของจีนก็เริ่มกำหนดเป้าหมายย่อยออกมา โดยเป้าหมายหนึ่งคือการพัฒนาชิปสำหรับปัญญาประดิษฐ์ที่ดีกว่า NVIDIA Tesla M40 ไปอีก 20 เท่าตัว ทั้งในแง่ประสิทธิภาพพลังงานและพลังประมวลผล
Tesla M40 เป็นชิปเก่าสองปีที่ใช้สถาปัตยกรรม Maxwell และมีพลังประมวลผลแบบ single-precision เพียง 7 TFLOPS (การ์ดใช้งานตามบ้านรุ่นใหม่อย่าง 1080Ti มีพลังประมวลผล 10.6 TFLOPS)
หน่วยงานผู้รับผิดชอบด้านกองทุนบำเหน็จบำนาญในญี่ปุ่น หรือ GPIF (The Government Pension Investment Fund) กำลังพิจารณ์ใช้ปัญญาประดิษฐ์มาวิเคราะห์การตลาดและการจัดการสินทรัพย์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามนุษย์ ทางหน่วยงานตั้งเป้าใช้งานช่วงต้นปีงบประมาณ 2018 ซึ่งจะเริ่มต้นช่วงเดือนเมษายน
การใช้ AI กำลังได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมการจัดการสินทรัพย์ ตัวอย่างในสหรัฐฯ ก็มีบริษัท BlackRock Inc. และ Goldman Sachs ใช้ AI ในการจัดการสินทรัพย์ บริษัทบางแห่งใช้ AI ให้บริการที่ปรึกษาให้คำแนะนำที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในการจัดสรรสินทรัพย์
ONNX (Open Neural Network Exchange) เป็นโครงการสร้างฟอร์แมตกลางสำหรับแลกเปลี่ยนโมเดล AI ที่ริเริ่มโดยไมโครซอฟท์และเฟซบุ๊ก และมีบริษัทอื่นๆ เข้าร่วมอีกหลายราย
ล่าสุด ONNX ได้สมาชิกรายสำคัญคือ Amazon Web Services (AWS) โดยเข้ามาช่วยทำแพกเกจสำหรับ Apache MXNet ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์คด้าน deep learning ที่ได้รับความนิยมอีกตัว (และเป็นเฟรมเวิร์คหลักที่ AWS เลือกใช้) ตอนนี้โครงการ ONNX-MXNet เปิดเผยซอร์สโค้ดแล้วบน GitHub
Azure ขยายบริการด้านปัญญาประดิษฐ์ของตัวเอง โดยขยายภาษาที่รองรับสำหรับบริการแปลภาษา, แปลงเสียงเป็นข้อความ, และการวิเคราะห์ข้อความ
การอัพเดตแต่ละบริการมีดังนี้
รัฐบาลท้องถิ่นเซี่ยงไฮ้ประกาศแผนการ 21 ข้อ นำเมืองเซี่ยงไฮ้ไปสู่การเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีในประเทศจีน กระตุ้นอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี ตั้งเป้ามีขนาดอุตสาหกรรมมูลค่า 20.5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2020
Chen Mingbo ผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและเทคโนโลยีประจำเซี่ยงไฮ้ ระบุว่า เศรษฐกิจเมืองเซี่ยงไฮ้เติบโตเร็ว ส่งผลให้มีทรัพยากรข้อมูลมาก รวมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมากมาย มีรากฐานมั่นคงมากพอจะพัฒนาเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีได้ในอนาคต
Dell Technology ประกาศตั้งแผนกใหม่ควบคุมงานและการลงทุนด้าน IoT ทั้งหมด เพิ่มเงินลงทุนอีก 1 พันล้านดอลลาร์ในรอบ 3 ปีในผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น ห้องปฏิบัติการ ระบบนิเวศน์และโปรแกรมคู่ค้าใหม่สำหรับ IoT พร้อมทั้งประกาศยุทธศาสตร์ Distributed Core โมเดลใหม่ในการประมวลผลเพื่อรุกตลาด IoT
หลังพัฒนาปัญญาประดิษฐ์จนมีแพลตฟอร์ม AI ของตัวเองในชื่อ DuerOS วันนี้ Baidu ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานแพลตฟอร์ม AI เป็นครั้งแรก 2 ตัว ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับบริษัทลูก Raven Tech สตาร์ทอัพพัฒนาลำโพงอัจฉริยะที่ Baidu ซื้อมาเมื่อต้นปี
ตัวแรกคือลำโพงอัจฉริยะ Raven H ที่รันด้วย DuerOS แพลตฟอร์ม AI รองรับการสั่งงานลักษณะเดียวกับ Alexa หรือ Google Assistant โดยจุดเด่นของ Raven H คือแพแนลชั้นบนสุดที่เป็นจอ LED สามารถถอดออกจากตัวฐานลำโพง และพกติดตัวหรือนำไปวางไว้ที่อื่นเพื่อสั่งการ AI ไม่ว่าจะค้นหา เปิดเพลงหรือควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่นๆ โดยไม่ต้องพกลำโพงทั้งตัวไป วางจำหน่ายราคา 1,699 หยวนหรือราว 8,500 บาท
กูเกิลประกาศไว้ในงาน I/O 2017 ว่าจะนำเอนจิน TensorFlow Lite มาสู่ Android Oreo เพื่อให้สามารถประมวลผล deep learning ภายในมือถือได้โดยไม่ต้องส่งข้อมูลออกไปนอกเครื่อง
วันนี้ TensorFlow Lite เปิดให้ทดสอบแบบ developer preview แล้ว มันสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์ โดยเริ่มจาก Android, iOS และในอนาคตจะรันบนอุปกรณ์ IoT ได้ด้วย
ค่ายเพลงเกาหลีชื่อดังอย่าง S.M. Entertainment เปิดเผยว่ากำลังพัฒนา AI แชทบอทที่เป็นตัวแทนศิลปินให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนได้แชทกับศิลปินอยู่จริงๆ
งานนี้ค่าย S.M. ได้ร่วมมือกับ Korea Creative Content Agency (KOCCA) ในการพัฒนาผลงานชิ้นนี้ขึ้นมา มีจุดประสงค์เพื่อผสานเทคโนโลยี AI และบริการด้านความบันเทิงและดนตรีเข้าไว้ด้วย ซึ่ง AI แชทบอทตัวนี้มีชื่อว่า Celeb Bot กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาโดย Scatter Lab โดยขณะนี้กำลังพัฒนาให้การสนทนาระหว่างบอทและผู้ใช้มีความเป็นธรรมชาติและให้ความรู้สึกเหมือนกำลังแชทอยู่กับศิลปินจริงๆ เบื้องต้นจะใช้แอพแชท Kakao Talk เป็นที่ให้บอทได้เรียนรู้การสนทนาและพัฒนาต่อไป
ในงานเปิดตัวได้สาธิตการทำงานของ Celeb Bot เล็กน้อย สามารถดูคลิปได้ท้ายข่าว
ปัจจุบันมีช่องทางรับข่าวสารมากมาย แต่เมื่อพูดถึงบทวิเคราะห์เจาะลึก ก็ยังเป็นสำนักข่าวใหญ่อย่าง The Guardian, The New York Times, The Washington Post ก็ยังเป็นช่องทางที่คนใช้เสพบทความเจาะลึก และแต่ละสำนักข่าวก็จะมีผู้เขียน ผู้เชี่ยวชาญอธิบายสถานการณ์โลกด้วยมุมมองของพวกเขา
Washington Post เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ให้คนอ่านได้รับมุมมองจากบทความอื่นที่ขัดแย้งกันกับบทความที่ผู้อ่านกำลังอ่านอยู่คือ Counterpoint วิธีการทำงานคือ เมื่อคนอ่านกำลังอ่านบทความหนึ่งชื่อ "Democrats can keep winning: Just copy (Bill) Clinton." เมื่อผู้อ่านอ่านจนจบ ตรงด้านล่างบทความจะเจอฟังก์ชั่น Counterpoint และมีข้อความล้อมกรอบที่เป็นมุมมองจากคนเขียนอีกคนที่แสดงความเห็นขัดแย้งจากเนื้อหาข้างต้น
Uber เปิดตัวภาษาโปรแกรมมิ่งแบบใหม่ชื่อว่า Pyro โดยมีจุดประสงค์สำหรับการเน้นให้นักพัฒนาสร้างโมเดลความเป็นไปได้ (probabilistic model) สำหรับการวิจัยด้าน AI ซึ่งถือเป็นโครงการที่เผยสู่สาธารณะครั้งแรกของ Uber AI Labs ซึ่งเป็นแล็บพัฒนาด้าน machine learning และนำผลวิจัยมาประยุกต์ใช้กับสิ่งต่าง ๆ เช่น รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ, การบินในเมือง, การปรับปรุงเมือง และความปลอดภัยในการขับขี่ยานพาหนะ
Eric Schmidt ประธานบอร์ดบริหาร Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล กล่าวในงานสัมมนา Artificial Intelligence and Global Security Summit โดยเตือนว่าในศาสตร์ด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI นั้น ประเทศจีนมีโอกาสแซงหน้าอเมริกาได้ และย้ำว่า "เชื่อผมเถอะ คนจีนเก่งเรื่องนี้"
ถึงอย่างนั้นเขาก็บอกว่าหากวัดที่ปัจจุบัน อเมริกายังนำหน้าจีนอยู่ไปอย่างน้อย 5 ปี แต่จีนมีการพัฒนาที่รวดเร็วมาก และนำ AI มาใช้ทั้งในทางธุรกิจและในงานทางการทหาร เขายังให้ข้อมูลว่ารัฐบาลจีนนั้นมีเป้าหมายเป็นเบอร์หนึ่งด้าน AI อยู่แล้วภายในปี 2030 ซึ่งหากอเมริกาต้องการหนีจากจุดนี้ ต้องลงทุนงานวิจัยให้มากขึ้น ตลอดจนทำให้ผู้เชี่ยวชาญ AI จากทั่วโลกสนใจมาทำงาน
เว็บไซต์ The Verge พูดคุยกับ Yann LeCun หัวหน้าฝ่ายวิจัย AI ของ Facebook มีประสบการณ์ทำงาน AI ใน Facebook มาเป็นสิบปี ผลงานของทีมงาน LeCun มีซอฟต์แวร์แคปชั่นรูปภาพอัตโนมัติสำหรับผู้พิการทางสายตา ระบบแปลภาษาใน Facebook เป็นต้น
แม้ LeCun จะคลุกคลีและพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยความสามารถทาง AI มานาน เขาก็ยังเห็นว่า AI ยังไม่โตเต็มวัยหรือแข็งแรงพอจะจัดการทุกเรื่องได้ และที่สำคัญ LeCun ไม่อยากให้กำหนดขอบเขตใดมาชี้ว่า AI ควรจะเป็นแบบไหนหรือทำอะไรได้
กลุ่มบริษัทไอทีรวมตัวกันเป็น Information Technology Industry Council (ITI) ร่วมกันออกหลักปฏิบัติในการใช้ AI โดยให้สัญญาว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยตั้งอยู่บนความรับผิดชอบ เพื่อให้มั่นใจว่า AI สามารถสร้างผลประโยชน์สูงสุดได้
เหตุที่ต้องมาร่วมกันทำข้อตกลงเพราะปัญญาประดิษฐ์สร้างความกังวลต่อสังคมมากขึ้นทุกที ตั้งแต่ความกังวลเรื่องจะเข้ามาแทนที่แรงงานคน ไปจนถึงความไม่เที่ยงธรรมของปัญญาประดิษฐ์ที่อาจฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง การตั้งกฎขึ้นมาควบคุมตัวเองยังเป็นการป้องกันไม่ให้หน่วยงานรัฐเข้ามาควบคุมการพัฒนาเทคโนโลยีได้ด้วย
Tencent Youtu Lab นำเสนอรายงานวิจัย Makeup-Go สร้างภาพดั้งเดิมจากภาพที่ผ่านการตกแต่งมาแล้วด้วยแอปต่างๆ เพื่อกู้คืนริ้วรอยบนและจุดด่างดำบนใบหน้าที่ผ่านการตกแต่งกลับคืนมา
Makeup-Go สามารถกู้คืนรอยกระและรอยเหี่ยวย่นได้เท่านั้น โดยไม่สามารถกู้คืนในกรณีที่มีการตกแต่งสัดส่วนภาพที่แอปแต่งภาพบางส่วนทำได้ โดยทีมวิจัยทดสอบกู้คืนภาพที่ผ่านการแต่งด้วยแอป Meitu, Photoshop Express, และ Instagram
ปัญญาประดิษฐ์มีบทบาทสำคัญแพร่ไปในอุตสาหกรรมแขนงต่างๆ ไม่เพียงในวงการไอทีและคอมพิวเตอร์ วงการแพทย์ การขนส่ง อีคอมเมิร์ซ หรือแม้แต่ร้านค้ารายย่อย ปัญญาประดิษฐ์ช่วยสร้างทางลัดการทำงานและเพิ่มรายได้ได้ในทางหนึ่ง บริษัทจึงมีแนวโน้มต้องการผู้เชี่ยวชาญ AI มากขึ้น และแน่นอนย่อมมาพร้อมกับแรงจูงใจค่าแรงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญ AI ตามบริษัทไอทีใหญ่ 9 คน (ไม่ประสงค์ออกนาม) พวกเขาบอกว่าตัวเองมีรายได้ถึงปีละ 3-5 แสนดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 10-16 ล้านบาทต่อปี) แม้จะเพิ่งจบการศึกษาใหม่หรือมีประสบการณ์เพียงปีสองปีก็ได้รับค่าจ้างอัตราสูง
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราเห็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงเปิดตัวมาพร้อมชิปเซ็ตสำหรับประมวลปัญญาประดิษฐ์ภายในอย่างน้อยๆ แล้วก็ 2 รุ่นอย่าง iPhone X, Google Pixel 2 และ Huawei Mate 10 ขณะที่ AI เองก็กำลังเป็นอีกบทหนึ่งของเทคโนโลยีหลังจากนี้ ทำให้หากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ จะมาพร้อมกับชิป AI ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่นัก
ขณะที่งานวิจัยจาก Counterpoint Technology Market Research บริษัทวิจัยตลาดระบุว่า สมาร์ทโฟนกว่า 35% จากจำนวนสมาร์ทโฟนทั้งหมดที่จะออกภายในปี 2020 หรือราวๆ 500 ล้านเครื่อง จะมาพร้อมกับชิป AI และ Machine Learning เพิ่มจากสัดส่วนในปี 2018 ที่อยู่ที่ราว 16% และปี 2019 ที่ 26%
รายงานจาก Counterpoint Technology Market Research บริษัทวิจัยการตลาดเผย ภายในปี 2020, 35% ของสมาร์ทโฟน หรือคิดเป็น 500 ล้านเครื่องจะใช้ชิปเซ็ต AI รันการทำงานทั้งหมด แปลภาษา ตรวจจับมัลแวร์ บันทึกข้อมูลสุขภาพผู้ใช้ได้แบบเรียลไทม์
ตัวเลขในรายงานระบุว่าในปีนี้ ตัวเลขสมาร์ทโฟนชิปเซ็ต AI มี 3% และในปี 2018 จะเพิ่มเป็น 16% ในปี 2019 เพิ่มเป็น 26% ในรายงานยังพูดถึง Apple ว่าเป็นผู้นำด้านชิปเซ็ตในสมาร์ทโฟนในอนาคต จากผลงาน Bionic system on chip (SoC) ที่ได้มาตรฐานของ Apple ด้าน Qualcomm ก็คาดว่าจะไล่ตามมาติดๆ ตามด้วย Samsung และ หัวเว่ย
หลังเปิดตัว Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะไปได้ราว 7 เดือน วันนี้งาน SDC 2017 ซัมซุงเผยโฉม Bixby 2.0 ด้วยจุดเด่นหลักๆ ที่พัฒนาขึ้นจากเวอร์ชันแรก คือการขยายการรองรับอุปกรณ์ Bixby ให้ไปมากกว่าสมาร์ทโฟน ไปจนถึงเปิด SDK ให้นักพัฒนาเข้าถึงแล้ว
หนึ่งในแนวคิดหลักของ Bixby 2.0 คือ ubiquitous ที่ขยายการรองรับของอุปกรณ์ให้ไปไกลมากกว่าบนสมาร์ทโฟน (เหมือนผู้ช่วยอัจฉริยะเจ้าอื่น) โดยอุปกรณ์แรกที่รองรับ Bixby คือสมาร์ททีวีของซัมซุงที่จะเราจะเริ่มเห็นทีวีโลโก้ Bixby-Enabled ในช่วงปีหน้าในสหรัฐและเกาหลีใต้ก่อน
แม้ว่า DeepMind จะประกาศไม่จัดแข่งโกะระหว่างมนุษย์กับ AlphaGo อีกแล้ว แต่บริษัทก็ยังพัฒนาความสามารถของมันต่อไป โดยเวอร์ชั่นล่าสุด AlphaGo Zero มีความสามารถในการพัฒนาฝีมือได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอาศัยข้อมูลการเล่นของมนุษย์แม้แต่น้อย (เป็นที่มาของชื่อ Zero)
AlphaGo Zero มองกระดานตรงๆ ด้วยเครือข่ายนิวรอนเครือข่ายเดียวจากที่เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้แยกนิวรอนสำหรับวิเคราะห์โอกาสชนะออกมา และในเวอร์ชั่นนี้อาศัยข้อมูลการเล่นกับตัวเองอย่างเดียว ไม่มีฟีเจอร์ใดๆ ที่วิศวกรของ DeepMind ปรับแก้ด้วยมือให้ก่อนหน้า การปรับปรุงเหล่านี้ทำให้ประสิทธิภาพในแง่พลังงานของ Zero ดีกว่าเวอร์ชั่นก่อนๆ มาก โดยเวอร์ชั่นนี้ใช้ชิป TPU ของกูเกิลเองเพียง 4 ตัว
Huawei เปิดตัว Mate 10 และ Mate 10 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงประจำครื่งหลังของปี ภาพรวมต้องบอกว่าฟีเจอร์ไหนที่คู่แข่งมี Mate 10 ก็มีเกือบทั้งหมด และล้ำหน้าคู่แข่งด้วยการชูความเป็น AI Phone นำ AI มาช่วยให้การทำงานต่างๆ ฉลาดขึ้น โดยอาศัยชิปประมวลผล AI แยกเฉพาะที่คู่แข่งไม่มี
เมื่อเดือนกันยายน ไมโครซอฟท์จับมือเฟซบุ๊ก สร้างฟอร์แมตกลาง ONNX สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลโมเดล AI
ล่าสุดโครงการ ONNX (Open Neural Network Exchange) ได้พันธมิตรเป็นบริษัทไอทียักษ์ใหญ่หลายราย ได้แก่ AMD, ARM, Huawei, IBM, Intel, Qualcomm
เป้าหมายของ ONNX คือสร้างฟอร์แมตกลางให้ไลบรารีด้าน AI ที่แตกต่างกันสามารถคุยกันได้ เพื่อต่อยอดการพัฒนาโมเดล AI ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ตอนนี้ ONNX รองรับ Caffe2 และ PyTorch ของ Facebook กับ Microsoft Cognitive Toolkit (สังเกตว่าไม่มีกูเกิลและ TensorFlow เข้าร่วมด้วย)
บริษัทคลาวด์สตอเรจ Box เปิดตัว Box Skills บริการที่ใช้ machine learning ช่วยแยกแยะและจัดหมวดหมู่เนื้อหาในเอกสารที่เก็บบนคลาวด์ของ Box อยู่แล้ว
ตัวอย่างทักษะของ Box Skills ได้แก่
ปัจจุบันศาสตร์ทางด้านปัญญาประดิษฐ์และการประมวลผลแบบกระจายได้พัฒนามาไกลมาก สองถึงสามปีมานี้จึงได้มีการนำสองเทคโนโลยีนี้มาใช้ควบคู่กันเพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย ตลอดจนปริมาณเนื้อหาบนโลกอินเทอเน็ตที่มากขึ้นเป็นทวีคูณ ทำให้ล่าสุด Pornhub ผู้ให้บริการเนื้อหาภาพยนต์สำหรับผู้ใหญ่เบอร์หนึ่งของโลก ได้นำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์โดยการติดป้ายกำกับเพื่อจัดหมวดหมู่ให้เหมาะสมและแม่นยำยิ่งขึ้น