กูเกิลเปิดตัว TPU (Tensor Processing Unit) ชิปสำหรับประมวลผล deep learning รุ่นที่สอง พัฒนาจากรุ่นแรกที่ใช้เพื่อการคำนวณผลลัพธ์จากเครือข่ายนิวรอนเป็นหลัก รุ่นใหม่นี้จะมีความสามารถในการฝึกเครือข่ายนิวรอน (inference) ได้ด้วย พร้อมกับเปิดบริการ Cloud TPU รุ่น Alpha (ต้องขอเข้าร่วมทดสอบ)
TPU แต่ละชุดจะมีพลังประมวลผล 180 TFLOPS กูเกิลออกแบบระบบเป็นตู้ (pod) แต่ละตู้มี TPU 64 ชุด รวมพลังประมวลผล 11.5 PFLOPS โค้ด TensorFlow สามารถรันบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยเปลี่ยนโค้ดเล็กน้อย
Cisco ประกาศเตรียมเข้าซื้อ MindMeld สตาร์ทอัพด้าน AI ด้วยมูลค่ากว่า 125 ล้านดอลลาร์
MindMeld นั้นมีผลงานด้านการสร้างอินเตอร์เฟสที่เกี่ยวกับการสนทนาโดยใช้ AI ซึ่งเทคโนโลยีและสิทธิบัตรของบริษัทนี้จะเน้นไปทางด้าน AI และ deep learning ซึ่งจะช่วยทำการปรับปรุง Cisco Spark และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Cisco ได้
ปัจจุบัน MindMeld ยังมีแพลตฟอร์มสำหรับการสร้างบอทและผู้ช่วยส่วนตัวด้วยเสียง รวมถึงยังมี API ที่ปัจจุบันใช้โดยบริษัทกว่า 1,200 แห่งทั่วโลก โดยลูกค้าและนักลงทุนของบริษัทก็มี Google, Samsung, Intel, Telefonica, Liberty Global, IDG, USAA, Uniqlo, Spotify และ In-Q-Tel โครงการกองทุนของ CIA
NVIDIA เปิดตัวจีพียู Tesla รุ่นใหม่ในชื่อ V100 สำหรับงานดาต้าเซ็นเตอร์, AI แทน P100 เดิม ความน่าสนใจอยู่ที่ใช้จีพียูชื่อสถาปัตยกรรมใหม่ Volta ในรหัส GV100 ที่พร้อมผลิตเป็นการ์ดรุ่น GeForce ซีรีย์ 2000 ในลำดับต่อไป
สเปคที่น่าสนใจของ Tesla V100 อยู่ที่จำนวนทรานซิสเตอร์ขึ้นไปอยู่ที่ 21 พันล้านหน่วย (จากเดิม 15.3 พันล้านบน P100) ผลิตโดย TSMC ที่เทคโนโลยีระดับ 12nm FF (จากเดิม 16nm FF) มากับ CUDA Core 5,120 หน่วย ถูกหารเป็น 84 Volta Streaming Multiprocessor ทำงานกับแรม HBM2 16GB แบนด์วิดธ์ 900GB/s รีดพลังประมวลผลได้ 15 FP32 TFLOPS ยังไม่มีสเปคความร้อนหรือสัญญาณนาฬิกาออกมา ในรูปแบบการ์ด PCI-Express และ NVLINK ครับ (สเปคทรงพลังเกินกว่าจะเล่นเกมจริงๆ)
ในงาน Build 2017 วันแรกเมื่อคืนนี้ ไมโครซอฟท์ประกาศขยายความสามารถให้ Cortana เปิดให้นักพัฒนาภายนอกเข้ามาเชื่อมต่อได้ (สักที)
ฟีเจอร์นี้เรียกว่า Cortana Skills (ชื่อและแนวคิดเหมือนกับ Alexa Skills ของฝั่ง Amazon) สามารถใช้งานได้กับ Cortana ข้ามแพลตฟอร์ม ทั้งบน Windows 10, Android, iOS รวมถึง Cortana ที่ฝังอยู่บนฮาร์ดแวร์อย่างลำโพง Harman Kardon Invoke และในอนาคตจะมีฮาร์ดแวร์จาก HP กับ Intel ตามมา
ตัวอย่าง Skills ในตอนนี้ก็เช่น สั่งพิซซ่าจาก Domino's, ถามสูตรอาหารจาก Food Network เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Skills ยังใช้งานได้เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
งาน Microsoft Build 2017 วันแรกเริ่มต้นด้วยคีย์โน้ตของ Satya Nadella ซีอีโอของไมโครซอฟท์ ขึ้นมาแสดงวิสัยทัศน์ใหม่ของไมโครซอฟท์ (next phase) ว่ากำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน (paradigm shift) จาก Mobile First, Cloud First ไปสู่ Intelligent Cloud, Intelligent Edge ที่เน้นไปที่คลาวด์, ปัญญาประดิษฐ์และ IoT มากยิ่งขึ้น
Adobe เปิดตัวเครื่องมือวิเคราะห์ใหม่ Virtual Analyst เพื่อนำมาเสริมทัพ Analytics Cloud โดย Virtual Analyst นี้จะรันอยู่ในเบื้องหลังตลอดเวลาเพื่อตรวจจับข้อมูลและตรวจสอบหาสาเหตุของสิ่งผิดปกติของกิจกรรมออนไลน์ โดยจะนำมาใช้แทนที่การใช้วิศวกรหรือทีมงานที่เป็นคนทำการค้นหาข้อมูลที่ผิดปกติในข้อมูลจำนวนมาก
eMarketer บริษัทวิจัยตลาดคาดการณ์การใช้งานลำโพงอัจฉริยะที่สั่งงานด้วยเสียงในปีนี้ จะมีชาวอเมริกันใช้งานราว 35.6 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 128.9% โดย Amazon Echo จะครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดถึง 70.6% จากยอดผู้ใช้งานทั้งหมด
ส่วน Google Home ตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 23.8% ที่เหลือ 5.6% เป็นของเจ้าอื่นๆ รวมกัน อาทิ Lenovo, Harman Kardon, Mattel โดย eMarketer คาดว่าปีต่อไป ส่วนแบ่งของ Amazon Echo จะลดลงและไปเพิ่มให้กับ Google Home แทน แต่ก็ยังเป็นผู้นำตลาดอยู่เช่นเดิม
ทั้งนี้ eMarketer จัดหมวดหมู่ลำโพงอัจฉริยะแยกต่างหากจากกลุ่ม Virtual Assistance ซึ่ง eMarketer คาดว่าจะมีการใช้งานเพิ่มขึ้น 23.1% ในปีนี้
NVIDIA เปิดตัว NVIDIA Metropolis แพลตฟอร์มวิเคราะห์วิดีโอที่ประกอบจากสินค้าจำนวนมากของ NVIDIA เดิม ตั้งแต่บอร์ด Jetson สำหรับการประมวลผลที่ตัวกล้องวงจรปิด ไปจนถึงการ์ด Tesla บนเซิร์ฟเวอร์หรือบนคลาวด์ และซอฟต์แวร์ของ NVIDIA โดย Metropolis จะอยู่ภายใต้สถาปัตยกรรมเดียวกัน (unified architecture)
NVIDIA ไม่ได้บอกชัดเจนนักว่าความหมายของสถาปัตยกรรมเดียวกันนี้แปลว่าอะไร อาจจะแปลได้ตั้งแต่มีโครงสร้างชัดเจนถอดเปลี่ยนผู้ผลิตซอฟต์แวร์ส่วนต่างๆ ได้ ไปจนถึงแค่ว่าใช้สินค้าของ NVIDIA เป็นส่วนประกอบเหมือนๆ กัน
Facebook ทำปัญญาประดิษฐ์ช่วยการใช้งานใน Facebook Messenger มีชื่อเรียกว่า M ทำตามคำสั่งของผู้ใช้เช่นเรียกรถ โอนเงินให้เพื่อน เป็นต้น อย่างไรก็ตามผู้ใช้สามารถสั่งงาน M ได้ด้วยการพิมพ์เท่านั้น ไม่สามารถใช้คำสั่งเสียงเหมือน Alexa ของ Amazon และ Siri ของ Apple ได้
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น Stan Chudnovsky หัวหน้างานในส่วน Messenger มีคำตอบ
จากที่เคยมีข่าวปลายปีที่แล้วว่า Harman Kardon จับมือกับไมโครซอฟท์ทำลำโพงอัจฉริยะ โดยมี Cortana ทำงานอยู่เบื้องหลัง วันนี้ Invoke คู่แข่ง Amazon Echo และ Google Home ได้ถูกเผยโฉมออกมาบนหน้าเว็บไซต์แล้ว
ถึงแม้ Harman Kardon จะเอาหน้าเว็บที่มีรายละเอียด Invoke ลง แต่จากข้อมูลที่ขึ้นก่อนหน้านี้ ตัว Invoke มีลักษณะทรงกระบอกสูงแบบเดียวกับ Amazon Echo และรองรับคำสั่งเสียงในการสั่งงานไม่แตกต่างจากทั้ง Echo และ Google Home มีสองสีคือสีเงินและสีดำ โดย Harman Kardon ระบุว่าจะวางขายภายในปลายปีนี้ (coming fall 2017) และไม่มีการระบุราคาครับ
Google Cloud Natural Language API ประกาศเพิ่มความสามารถ จากเดิมที่ใช้งานได้เฉพาะภาษาอังกฤษ, สเปน, และญี่ปุ่น ตอนนี้ภาษาเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก โดยภาษาแถบเอเชียที่รองรับเพิ่มคือจีนและเกาหลี ที่เหลือได้แก่ ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, และโปรตุเกส
นอกจากการรองรับภาษาเพิ่มเติม API เวอร์ชั่นใหม่ยังเพิ่มฟีเจอร์การวิเคราะห์อารมณ์ของภาษา (sentiment) เฉพาะส่วนของข้อความ จากเดิมที่การวิเคราะห์ข้อความที่มีอารมณ์ขัดแย้งอาจจะสับสน เช่น "โทรศัพท์เครื่องนี้ดีแต่แบตเตอรี่ไม่ทน" ในเวอร์ชั่นใหม่จะสามารถแยกอารมณ์ออกเป็นสองส่วน และบอกได้ว่าเมื่อพูดถึงโทรศัพท์จะเป็นด้านดี แต่พูดถึงแบตเตอรี่ในด้านแย่
การสร้างท่าทางเคลื่อนไหวของตัวละครในเกมเป็นงานสำคัญของการพัฒนาเกมที่ต้องอาศัยการบันทึกท่าทางจากนักแสดงไว้ล่วงหน้าที่มีต้นทุนสูง หรือมีเทคนิคการสร้างท่าทางเคลื่อนไหวจากการประมาณการท่าเคลื่อนไหวอื่นๆ ล่าสุดงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Edinburgh อาศัยเครือข่ายนิวรอนเพื่อการสร้างท่าเคลื่อนไหวได้อย่างสมจริง
Phase-Functioned Neural Networks เป็นเครือข่ายนิวรอนที่มี Phase-Function เข้าควบคุมน้ำหนักระหว่างนิวรอน
ความได้เปรียบหลักของการสร้างท่าทางเคลื่อนไหวด้วยเทคนิคใหม่นี้คือมันใช้หน่วยความจำเพียงประมาณ 10 เมกกะไบต์ และไม่กินเวลาประมวลผลมากนัก ขณะที่ได้ท่าทางเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติ การใช้งานในเกมจริงๆ จึงเป็นไปได้ในอนาคตอันใกล้นี้
ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวแล้วสำหรับรัฐบาลสิงคโปร์ เมื่อรัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลและการสื่อสารของสิงคโปร์ ประกาศโครงการ AI.SG ของรัฐบาล นำโดย National Research Foundation ในการผลักดันและร่วมมือกันในด้านการวิจัย พัฒนาและการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ ตั้งแต่ภาครัฐ เอกชนไปจนถึงสตาร์ทอัพ ในทุกๆ อุตสาหกรรม
รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลและการสื่อสารระบุว่าตอนนี้โปรเจ็คนี้มีเป้าหมายอยู่ 3 อย่าง
มูลนิธิกระจกเงาประสบความสำเร็จในการตามหาบ้านของคนหาย (กลับข้างกับการตามหาคนหายตามปกติ) โดยเป็นการตามหาบ้านของนายอั้มที่หนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุเพียง 7-8 ขวบ และออกจากบ้านไปถึง 15 ปี ด้วยความไม่ได้เรียนหนังสือจึงไม่สามารถอ่านเขียนได้ แต่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้เพราะเล่นเกมออนไลน์
Brian Chin ผู้บริหารของธนาคารสัญชาติสวิส Credit Suisse เผยว่าตอนนี้ทางธนาคารได้เริ่มนำหุ่นยนต์ 20 ตัวมาใช้ภายในบริษัท โดยมีส่วนหนึ่งช่วยพนักงานในการตอบคำถามอย่างง่าย ๆ เพื่อช่วยลดจำนวนสายโทรศัพท์ที่เข้ามายังคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารได้สูงสุดถึง 50%
หุ่นยนต์เหล่านี้ Chin บอกว่าจะเอาไว้ใช้ตอบคำถามอย่างง่าย ๆ ผู้ใช้เพียงถามคำถาม และหุ่นยนต์ก็จะตอบคำตอบที่เหมาะสมมาให้ โดยไม่จำเป็นต้องไปเปิดคู่มือหรือเว็บไซต์ ซึ่งมันใช้งานได้ดีมากในการถามคำถามทั่วไป
เทคโนโลยีดังกล่าวนั้นคล้ายกับ Amazon Alexa ซึ่งแม้ว่า Chin จะเรียกเทคโนโลยีเหล่านี้ว่าหุ่นยนต์ แต่ก็ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าอุปกรณ์ดังกล่าวนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่ หรือพนักงานโต้ตอบกับตัวอุปกรณ์อย่างไร
หลัง AlphaGo ชนะ Lee Sedol และโปรคนอื่นๆ รวม 60 เกม Demis Hassabis ซีอีโอของ DeepMind ก็ไปบรรยายที่งาน DLD Conference (Digital - Life - Design Conference) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เล่าถึงความเป็นมาของ AlphaGo และผลกระทบของ AlphaGo ต่อมนุษย์ในอนาคต
Hassabis พูดถึงหมากที่ 37 ในตาที่สองที่แข่งกับ Lee Sedol ที่ AlphaGo เล่นเส้นที่ 5 ที่มักไม่เล่นกันเพราะให้พื้นที่กับฝ่ายที่อยู่เส้นด้านล่างมากเกินไป แต่สุดท้ายหมากนี้กลับเป็นหมากสำคัญในช่วงจบเกม หรือเกมกับ Gui Zihao ที่ AlphaGo เล่นจุด 3-3 และเกมกับ Park Jungwan ที่ AlphaGo สร้างกำแพงที่เส้น 2
คนที่ติดตามวงการ deep learning คงรู้จัก Caffe เฟรมเวิร์คสำหรับเทรน AI ให้เรียนรู้ด้วยเทคนิค deep learning
Caffe ถูกสร้างโดย Yangqing Jia อดีตนักวิจัยปริญญาเอกของมหาวิทยาลัย UC Berkeley ปัจจุบันมันเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่ดูแลโดย Berkeley AI Research
ตัวของ Yangqing Jia ตอนนี้มีสถานะเป็นพนักงานของ Facebook (ก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานกับกูเกิล และอยู่ในทีม TensorFlow ด้วย) สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Jia พัฒนาเฟรมเวิร์คตัวใหม่ Caffe2 ที่ดีกว่าของเดิม
สิ่งที่มนุษย์กลัวเกิดขึ้นแล้ว บริษัท Shentong Express ทำเรื่องการขนส่งทางเรือในจีน แถลงว่าได้เริ่มนำระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์มาทำงานทดแทนคนในส่วนงานของโกดังแล้ว
สำนักข่าว South China Morning Post เผยแพร่วิดีโอจากโกดังบริษัท Shentong Express เผยให้เห็นหุ่นยนต์ทรงสี่เหลี่ยมสีส้ม ขนาดไม่ใหญ่มาก เคลื่อนย้ายพัสดุจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง โดยบนพื้นราบมีช่องให้หุ่นยนต์ปล่อยสิ่งของลงไป หุ่นยนต์ดังกล่าวผลิตโดยบริษัท Hikvision
ในวิดีโอมีคนช่วยทำงานคือนำสิ่งของวางบนตัวหุ่นยนต์ หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของหุ่นยนต์ทั้งหมด บริษัท Shentong ระบุว่าเพิ่งจะเริ่มใช้หุ่นยนต์ในโกดังสองแห่งเท่านั้น คาดว่าจะยายให้ใช้ในโกดังทั่วประเทศเร็วๆ นี้
ยิงนับวันมนุษย์ก็ยิ่งสามารถพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ให้ก้าวล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนกล่องดำ (black box) ที่มนุษย์ไม่เข้าใจกระบวนการทำงาน หากนับเฉพาะวงการแพทย์ งานวิจัยเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถคาดการณ์ วิเคราะห์และประเมิณอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้แม่นยำกว่าแพทย์นั้นก็มีออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง
อย่างล่าสุดนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม (University of Nottingham) ประสบความสำเร็จในการพัฒนาอัลกอริทึมสำหรับ Machine Learning ในการประเมินความเสี่ยงและคาดการณ์การเกิดอาการหัวใจวาย โดยอาศัยปัจจัยและแนวทางในการประเมินความเสี่ยงจาก the American College of Cardiology/American Heart Association (ACC/AHA)
เว็บไซต์ MIT Technology Review ชี้ประเด็นปัญหาใหม่ของโลก AI ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดจากเทคนิค Deep Learning คือ AI เก่งขึ้นมากจนผู้สร้างมันขึ้นมาก็ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ว่ามันทำงานได้อย่างไร
การเรียนรู้ของ AI ตามแนวทาง Deep Learning จะแบ่งงานย่อยๆ เป็นจำนวนมาก และทำงานหลายชั้นซ้อนกันเหมือนเส้นประสาทของมนุษย์ โดย AI จะเรียนรู้รูปแบบจากข้อมูลปริมาณมหาศาล แล้วสร้างโมเดลของตัวเองขึ้นมา ในยุคที่ AI ยังไม่ซับซ้อนมาก เราอาจเข้าใจโมเดลที่มันสร้างขึ้นได้ไม่ยากนัก แต่พอมาถึงยุคปัจจุบัน มนุษย์อาจเริ่มตามมันไม่ทันแล้ว
ปัญญาประดิษฐ์ อาจมีอคติและความคิดดูหมิ่นเหยียดหยามเพื่อนมนุษย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเหยียดเพศ เชื้อชาติ สีผิว นั่นเป็นเพราะมนุษย์นั่นเองที่สรา้งปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมา
มีผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร Science เผยว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถซึมซับลักษณะนิสัยไม่ดีได้ผ่านภาษาและคำพูดที่ป้อนเข้าไป Joanna Bryson นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัย Bath และหนึ่งในผู่ร่วมทำวิจัยบอกว่า ปัญญาประดิษฐ์อาจมีส่วนให้การเหยียดเชื้อชาติเพิ่มขึ้น เพราะปัญญาประดิษฐ์มีระบบอัลกอริทึมที่ไม่สามารถคัดค้านความคิดเชิงลบและอคติได้
Volkswagen Group China บริษัทลูกในจีนของ Volkswagen Group ลงทุนซีรีส์ D กับบริษัท Mobvoi บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ของจีน ที่ได้รับเงินลงทุนจาก Google เช่นกัน
การลงทุนครั้งนี้ของ Volkswagen เป็นลักษณะ Joint Venture เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชันบนรถยนต์ ที่ทำงานอยู่บนเทคโนโลยีประมวลภาษาธรรมชาติและปัญญาประดิษฐ์ของ Mobvi โดยผลิตภัณฑ์ที่ทำออกมา จะเปิดให้แบรนด์อื่นนอกจาก Volkswagen นำไปใช้ด้วย
ทั้งนี้ Mobvi ก่อตั้งในปี 2012 โดยอดีตนักวิจัย Google ชาวจีน 2 คน ก่อนจะเป็นพาร์ทเนอร์กับ Google ในปี 2015 ในการนำเทคโนโลยีตรวจจับและประมวลภาษาจีนไปใช้บน Android Wear
กูเกิลเปิดตัวเว็บ AutoDraw แปลงภาพที่วาดแบบไม่บรรจงกลายเป็นสวยๆ ที่วาดโดยนักวาดมืออาชีพ ทำให้คนทั่วไปสามารถลองวาดภาพแบบหวัดๆ แล้วแปลงภาพกลายเป็นการ์ดอวยพรหรือภาพร่างได้
บริการ AutoDraw ยังเปิดรับภาพวาดจากศิลปินภายนอกสามารถส่งภาพเข้าไปให้ผู้ใช้ AutoDraw สามารถเลือกไปใช้งานได้อีกทางด้วย
ตัวซอฟต์แวร์ภายใน ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับเกม Quick, Draw! ที่กูเกิลสร้างขึ้นทดสอบว่าปัญญาประดิษฐ์จะสามารถเดาว่าภาพที่เราวาดเป็นภาพอะไรได้หรือไม่ (แต่เท่าที่ผมลองแล้ว AutoDraw ฉลาดกว่ามาก)
ที่มา - Google
หลังซัมซุงเปิดตัว Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะเมื่อเดือนที่แล้ว และเป็นผู้ช่วยบน Galaxy S8 โดยข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าจะเปิดให้ใช้งานวันที่ 21 เมษายนนี้ในวันวางจำหน่าย
ล่าสุดซัมซุงออกมายืนยันอีกครั้งว่า Bixby Voice ฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงจะยังไม่เปิดให้ใช้งานในวันวางขาย Galaxy S8 นี้ และคาดว่าน่าจะเปิดให้ใช้งานได้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลินี้ (ช่วงเดือนมิถุนายน)
ที่มา - TechCrunch
DeepMind แถลงจัดงาน Future of Go Summit ที่ประเทศจีน จัดขึ้นเป็นเวลา 5 วันคือ 23-27 พ.ค. ไฮไลท์ในงานคือแข่งเกมโกะระหว่างปัญญาประดิษฐ์ AlphaGo และแชมป์โกะของโลก
งาน Future of Go Summit เป็นการร่วมจัดกันระห่าง DeepMind และรัฐบาลจีน สมาคมโกะในจีน ผู้เล่นโกะที่มีชื่อเสียง และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จากทั้ง Google และในประเทศจีนเอง
ด้านการแข่งขันมีสามรูปแบบคือ Pair Go คือผู้เล่นโกะแข่งกันเอง Team Go คือแข่งเป็นทีมระหว่างทีมคนเล่นและปัญญาประดิษฐ์ AlphaGo และสุดท้ายคือ Ke Jie แข่งกับ AlphaGo เป็นไฮไลท์โดดเด่นที่สุดเพราะ Ke Jie คือผู้เล่นโกะอันดับหนึ่งของโลกในเวลานี้