Richard Sapper ผู้ออกแบบ ThinkPad 700C โน้ตบุ๊ก ThinkPad ตัวแรกที่วางขายในปี 1992 เสียชีวิตเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาด้วยวัย 83 ปี
เขาเป็นนักออกแบบอุตสาหกรรมที่มีผลงานตั้งแต่สินค้าเทคโนโลยี, เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ นอกจาก ThinkPad 700C แล้วเขายังร่วมออกแบบ ThinkPad 701 หรือ ThinkPad Butterfly อันโด่งดังจากขนาดที่เล็กด้วยการย่อคีย์บอร์ดลง
Sapper และ Kaz Yamasaki วางรากฐานการออกแบบ ThinkPad ให้เรียบเป็นกล่องซิการ์หรือกล่องเบนโตะญี่ปุ่น
เป็นเวลานานถึง 22 ปีติดต่อกันเข้าไปแล้ว ที่ IBM คือบริษัทผู้ที่จดสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกาได้มากที่สุดมาทุกปี แต่ปีนี้ดูเหมือนว่า Samsung กำลังจะกลายเป็นบริษัทเจ้าคิดค้นที่ได้สิทธิบัตรมากที่สุดในรอบปี 2015 นี้ หลังจากรั้งอันดับ 2 ตามหลัง IBM มาตลอดทุกปียาวนานกว่าทศวรรษ
ในปีนี้ Samsung จดสิทธิบัตรสำเร็จไปแล้ว 7,679 ราย และยังอยู่ระหว่างการขอจดสิทธิบัตรอีก 4,443 รายการ พุ่งพรวดจากปีก่อนที่จดสิทธิบัตรสำเร็จเพียง 4,952 รายการ ในขณะที่ IBM ปีนี้ได้รับการอนุมัตรสิทธิบัตรไปแล้ว 7,005 รายการ พ่วงด้วยคำขอจดสิทธิบัตรที่รอการอนุมัติอีก 4,126 ฉบับ โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ IBM สามารถจดสิทธิบัตรได้เกินกว่า 7,000 รายการ
ตามหลังจากที่ Apple โอเพ่นซอร์สภาษา Swift ทาง IBM ก็ได้เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่คือ IBM Swift Sandbox โดยสามารถเปิดหน้าเว็บมาเขียนภาษา Swift และรันได้ทันที
ตัวเว็บ IBM Swift Sandbox จะมีแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งซ้ายเป็น text editor สำหรับการเขียนโค้ดภาษา Swift ส่วนฝั่งขวาจะเป็น output ซึ่งเมื่อกดปุ่ม Run ผลลัพธ์ก็จะแสดงทางด้านขวา โดยโค้ดที่เขียนลงในเว็บจะถูกคอมไพล์บน Linux Server
IBM Swift Sandbox เป็นหนึ่งในผลจากการเปิดภาษา Swift เป็นโอเพ่นซอร์ส และความร่วมมือระหว่าง Apple กับ IBM โดยในอนาคตเราน่าจะได้เห็นการใช้งานภาษา Swift และการพัฒนาที่หลากหลายยิ่งขึ้น
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา IBM ประกาศโอเพนซอร์ส SystemML ซึ่งเป็นตัวแปลข้อมูลสากล (universal translator) สำหรับงานด้านข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) และ machine learning อย่างเป็นทางการ โดยเป็นแผนการต่อเนื่องที่ประกาศว่าจะสร้างระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Spark เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยจะยกให้ Apache เป็นคนดูแลโครงการนี้อย่างเป็นทางการ และจะได้ชื่อว่า Apache SystemML
แนวทางซีพียูประสิทธิภาพสูงในอนาคตจะต้องมี FPGA มาประกอบเพื่อให้รองรับโหลดรูปแบบเฉพาะทางได้เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังอินเทลร่วมมือกับ eASIC และถึงกับเข้าซื้อ Altera ที่งาน SC15 Diane Bryant รองประธานฝ่ายสินค้าศูนย์ข้อมูลก็ออกมาระบุแล้วว่าสินค้าชุดแรกจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าไตรมาสแรกของปี 2016
หลังจากที่พัฒนาระบบของ Watson ด้านสุขภาพในฝั่งของวิทยามะเร็ง (Oncology) ไปแล้ว ล่าสุด IBM ได้แถลงความร่วมมือกับโรงพยาบาลเด็กบอสตัน (Boston Children's Hospital) เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบของ Watson ให้รองรับในสาขาการแพทย์เฉพาะทางเพิ่มเติม ซึ่งก็คือสาขากุมารเวช (Pediatrics) หลังจากมีความร่วมมือในการสร้างแพลตฟอร์มด้านคลาวด์ OPENPediatrics ไปแล้วเมื่อปี 2013
เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา IBM ประกาศว่าได้ลงนามในข้อตกลงเข้าซื้อส่วนกิจการ The Weather Company หนึ่งในผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการพยากรณ์อากาศรายสำคัญของโลก โดยจะเข้าซื้อในส่วนที่เป็น B2B (ธุรกิจต่อธุรกิจ), ส่วนกิจการดิจิทัลและโทรศัพท์มือถือทั้งหมด (เช่นเว็บไซต์ WSI, weather.com) รวมไปถึงแบรนด์ของบริษัทด้วย ยกเว้นส่วนด้านกิจการช่องโทรทัศน์ The Weather Channel เท่านั้นที่ IBM จะไม่ซื้อไป โดยทั้งสองฝ่ายไม่เปิดเผยตัวเลขมูลค่าการเข้าซื้อในครั้งนี้
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 โดยมีรายได้ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 14 แล้ว อยู่ที่ 19,280 ล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,950 ล้านดอลลาร์
รายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่ที่ไอบีเอ็มคาดหวังไว้ตามกลยุทธ์ (บริการกลุ่มเมฆ, Big Data Analytics, บริการบนมือถือ และบริการความปลอดภัย) ยังคงมีการเติบโตอยู่ที่ 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่การเติบโตนี้ก็ไม่สามารถชดเชยรายได้จากธุรกิจเดิมได้ ทำให้ภาพรวมรายได้ลดลงต่อเนื่องนั่นเอง
ผลกระทบอีกอย่างที่สำคัญคือรายได้จากลูกค้าในประเทศจีนซึ่งลดลงถึง 17% และหากพิจารณารวมในกลุ่มประเทศ BRIC รายได้ก็ลดลงมากถึง 30%
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา IBM ประกาศเพิ่มความสามารถให้กับ Watson Analytics ระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ใช้พลังของ Watson ในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งคราวนี้ระบบของ Watson Analytics จะสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ พร้อมกับรองรับการค้นหาข้อมูลแบบถาม-ตอบ (Q&A) ได้ดีกว่าเดิม
สำหรับการรองรับการหาข้อมูลเพิ่มเติมนั้น Watson จะรองรับการเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลอย่าง DB2, Informix, Netezza และฐานข้อมูลของบริษัทอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี, เพิ่มระบบ Secure Gateway เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลในบริษัทได้อย่างปลอดภัย และนำเอาข้อมูลจากบริษัทที่เป็นพันธมิตร อย่างเช่น Twitter, The Weather Company, Deloitte เข้ามาอยู่บนระบบของ Watson Analytics ด้วย
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา IBM โดยแผนก IBM Research และมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ของสหรัฐอเมริกา ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มและเครื่องมือสนับสนุนอื่นๆ เพื่อให้สามารถสร้างแอพสำหรับช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาบนสมาร์ทโฟน ให้นำทางและรับรู้ถึงบรรยากาศรอบตัวได้ดียิ่งขึ้น
หลังจากที่มีข่าวว่า IBM จะจัดซื้อเครื่อง Mac ให้แก่พนักงานกว่าสองแสนเครื่องนั้น Fletcher Previn รองประธานของ IBM ได้กล่าวที่งาน JAMF Nation User Conference ว่า
"Every Mac that we buy is making and saving IBM money"
หรือแปลเป็นไทยก็คือ Mac ที่บริษัทจัดซื้อมาให้พนักงานใช้นั้นนอกจากจะสร้างกำไรให้บริษัท ยังช่วยบริษัทประหยัดเงินอีกด้วย
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเริ่มจัดซื้อ Mac ให้พนักงานใช้แล้ว พบว่ามีเพียง 5% ของผู้ใช้งานทั้งหมดที่พบปัญหา และต้องเรียกช่างไอทีให้เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับสถิติก่อนหน้านี้เมื่อตอนใช้พีซีแล้วนั้น กลับมียอดดังกล่าวสูงถึง 40%
เมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา IBM ประกาศแผนการขยายธุรกิจด้านคลาวด์ของตนเอง โดยประกาศจัดตั้งศูนย์ที่อินเดีย และ Industry Platforms ชุดใหม่เพิ่มเติม
ในส่วนแรกสำหรับการจัดตั้งศูนย์ที่อินเดียนั้น IBM จะจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมธุรกิจด้านคลาวด์ขึ้นที่เมืองบังกาลอร์ของอินเดีย ซึ่งศูนย์นี้จะทำหน้าที่กับลูกค้าในการสร้างโซลูชั่นด้านคลาวด์ให้กับลูกค้า ร่วมกับทีมภายในของ IBM สำหรับอีกส่วนคือการเพิ่ม Industry Platforms ชุดใหม่นั้น จะเป็นโซลูชั่นสำหรับลูกค้าที่รวมเอางานด้านคลาวด์มาใส่ ประกอบไปด้วย
แม้ว่าจะขายส่วนกิจการเซิร์ฟเวอร์สาย x86 ไปให้กับ Lenovo แล้ว แต่ในสายของ Power Systems นั้น IBM ยังคงทำตลาดอยู่ ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา IBM ได้ทำการเปิดตัว Power Systems LC เซิร์ฟเวอร์ตัวใหม่ของตัวเองสำหรับ Linux ที่นำเทคโนโลยีจากสมาชิก OpenPOWER Foundation มูลนิธิที่ผลักดันเทคโนโลยีการประมวลผลสาย POWER ของ IBM เข้ามาใส่ไว้ด้วย
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา IBM ได้ประกาศเพิ่มความสามารถเพิ่มเติมสำหรับ Bluemix ระบบคลาวด์ของตนเอง ซึ่งความสามารถดังกล่าวก็คือการที่นักพัฒนาสามารถ debug แอพที่พัฒนามาจาก Node.js ได้ด้วยเครื่องมือโอเพ่นซอร์สภายนอกได้ทันที
IBM ระบุว่า แต่เดิมนั้นการ debug แอพที่พัฒนามาจาก Node.js นั้นเต็มไปด้วยความยุ่งยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องมือโอเพ่นซอร์สบนเครื่องของนักพัฒนา ซึ่งนักวิศวกรรมของ IBM ก็ได้พัฒนาโซลูชั่นแก้ไข จนสามารถทำให้การ debug จากเครื่องนักพัฒนานั้นง่ายขึ้นกว่าเดิม
ข่าวสั้นทันโลกครับ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Thomson Reuters และ IBM ประกาศข้อตกลงที่จะนำเอาเทคโนโลยีประมวลผลข้อมูล Watson เอามาใช้ในองค์กรและโซลูชั่นสำหรับลูกค้าอย่างเป็นทางการ
ความร่วมมือดังกล่าวนี้ ทาง Thomson Reuters จะนำเอาเทคโนโลยีของ Watson มาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในเครือของบริษัท และสร้างโซลูชั่นให้กับลูกค้าโดยรวม ในทางกลับกัน ข้อมูลของ Thomson Reuters จะทำให้ IBM สามารถพัฒนาความสามารถของ Watson ในสาขาต่างๆ อย่างเช่น การเงิน กฎหมาย วิทยาศาสตร์ เพิ่มเติมด้วย
น่าจะเป็นการมาที่ถูกทางแล้ว
ที่มา - IBM
ข่าวนี้มีสองเรื่องคู่กันนะครับ
IBM ประกาศเปิดตัวสำนักงานแห่งที่สองสำหรับแผนก Watson (เรียกว่า Watson Hub) อย่างเป็นทางการ โดยสำนักงานแห่งใหม่นี้ จะตั้งอยู่ที่ย่าน South of Market นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยจะเป็นหน่วยงานที่ช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ในย่าน Silicon Valley รวมถึงใช้เป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของแผนก IBM Commerce ด้วย จะเปิดอย่างเป็นทางการในปีหน้า
เทคโนโลยีเบื้องหลัง Bitcoin อย่าง blockchain ซึ่งมีหลายองค์กรกำลังสนใจและศึกษาอยู่ (ตัวอย่างเช่น Deutsche Bank ของเยอรมนี) แต่ล่าสุด IBM กำลังพัฒนาซอฟต์แวร์ซึ่งอิงกับเทคโนโลยีดังกล่าว และเตรียมที่จะเปิดเป็นซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์สในอีกไม่กี่เดือนนี้
สำหรับซอฟต์แวร์ที่ IBM พัฒนาขึ้นนั้น จะไม่ใช่ซอฟต์แวร์ที่มุ่งเน้นไปที่เรื่องของการสร้างสกุลเงินแบบเสมือน (virtual currency) แต่เป็นเรื่องของการทำสัญญาบนโลกดิจิทัล (digital contracts) โดยข้อมูลจะถูกบันทึกเอาไว้เป็นสาธารณะบนอินเทอร์เน็ต
IBM ประกาศซื้อกิจการบริษัท StrongLoop ผู้เชี่ยวชาญการสร้างแอพด้วย Node.js เพื่อเสริมทัพธุรกิจด้านการพัฒนาแอพพลิเคชันของตัวเอง
หลังซื้อกิจการแล้ว IBM จะนำเทคโนโลยีของ StrongLoop ไปใช้งานทั้งการพัฒนาแอพบนคลาวด์ (Bluemix), อุปกรณ์พกพา (MobileFirst), เว็บแอพ (WebSphere) รวมถึงงานด้าน IoT เพื่อให้นักพัฒนาแอพยุคใหม่สามารถสร้าง API ให้บุคคลอื่นเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบัน IBM เป็นสมาชิกระดับ platinum ของมูลนิธิ Node.js Foundation องค์กรกลางที่รับผิดชอบการพัฒนา Node.js
ที่มา - IBM
ความฝันอย่างหนึ่งของมนุษย์คือการติดต่อกันโดยเพียงแค่นึกคิดก็สามารถคุยกันได้ และถึงแม้ว่าจะมีโทรศัพท์มือถือเข้ามาช่วยแล้ว แต่หลายๆ คนอาจจะยังต้องการให้ไปไกลกว่านั้น คือเพียงแค่นึกถึงก็สามารถโทรหากันได้ทันที ทั้งหมดอาจจะยังคงเป็นเพียงความฝันอยู่ แต่งานสำรวจงานวิจัย (literature review) ชิ้นล่าสุดที่ตีพิมพ์ออกมาอาจจะช่วยให้มนุษย์สามารถติดต่อเช่นนั้นได้จริงๆ
ความร่วมมือระหว่าง IBM กับแอปเปิลเรื่องยุทธศาสตร์อุปกรณ์พกพา MobileFirst เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ช่วงหลังเราจึงเห็น IBM ออกมาสนับสนุน iOS และ Mac อย่างจริงจัง จนหลายคนอาจเริ่มสงสัยว่า IBM จะเอาแต่แอปเปิลอย่างเดียวเลยใช่ไหม แล้วแพลตฟอร์มอื่นๆ จะเป็นอย่างไร
ผมมีโอกาสสัมภาษณ์คุณ David Lee Heyman ผู้บริหารตำแหน่ง IBM MobileFirst Platform Leader, ASEAN และถามคำถามนี้ คำตอบที่ได้คือ "ไม่ใช่" เพราะจริงๆ แล้ว IBM ก็ต้องการตลาดอุปกรณ์พกพาทั้งหมดนั่นแหละ
วันนี้ (ตามเวลาในประเทศไทย) IBM ประกาศความร่วมมือกับ ARM บริษัทชิปบนอุปกรณ์พกพารายใหญ่ของโลก โดยทาง IBM จะขยายความสามารถของแพลตฟอร์ม IoT (Internet of Things) ของตนเองที่มีชื่อว่า IBM IoT Foundation ให้รองรับกับอุปกรณ์สายที่ใช้หน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรมของ ARM ด้วย ซึ่งทำให้อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีของแพลตฟอร์ม ARM mbed IoT Device สามารถเชื่อมต่อเข้ากับแพลตฟอร์มของ IBM ได้ทันที
นอกจากนั้นแล้ว IBM ยังถือโอกาสนี้ เปิดตัวบริการ IoT for Electronics ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถเก็บข้อมูลจากตัวตรวจจับต่างๆ (sensors) ของอุปกรณ์แล้วนำมาวิเคราะห์ได้ทันทีแบบเรียลไทม์
งาน IBM Connect 2015 มีการบรรยายของคุณ Denis Kennelly ตำแหน่ง Vice President of Development Security ของ IBM Security ซึ่งเป็นธุรกิจด้านความปลอดภัยของ IBM (ถือเป็นบริษัทความปลอดภัยรายใหญ่ในแง่รายได้ แต่คนไม่ค่อยรู้กันว่า IBM ก็มี Security)
หัวข้อการบรรยายเป็นเรื่องภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนไปของวงการความปลอดภัยยุคใหม่ ซึ่งคุณ Denis ก็เตือนบรรดาผู้บริหารของบริษัทต่างๆ ที่เข้าร่วมฟังงานนี้ว่า ได้เวลาแต่งตั้ง CISO แล้ว (ส่วน CISO คืออะไร โปรดติดตามกันต่อไป)
เดือนที่แล้ว IBM เปิดตัว LinuxOne เมนเฟรมสายเลือดใหม่พลังลินุกซ์ วันนี้ผมได้รับเชิญจาก IBM ประเทศไทย มาร่วมงานสัมมนา IBM Connect 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์ ในงานมีหัวข้อเกี่ยวกับ LinuxOne พอดี เลยนำข้อมูล พร้อมภาพ LinuxOne ตัวจริงๆ มาฝากกันครับ
ข่าวใหญ่ของโลกไอทีวันนี้ เพราะอาจถือเป็นจุดอวสานของคอมพิวเตอร์เมนเฟรมแบบดั้งเดิม เมื่อ IBM ประกาศสนับสนุนการใช้งานลินุกซ์และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สบนเครื่องเมนเฟรมของตัวเอง แทนระบบปฏิบัติการ z/OS ที่ใช้มาแต่เดิม โดยมีรายละเอียดดังนี้
วันนี้ (ตามเวลาในประเทศไทย) IBM ประกาศแสดงเจตจำนงที่จะเข้าซื้อกิจการของบริษัท Merge Healthcare ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการและประมวลผลภาพทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ
IBM ระบุว่าการเข้าซื้อกิจการในรอบนี้ จะนำเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มของ Merge เข้ามาใส่ให้กับ Watson และทำให้ Watson สามารถประมวลผลข้อมูลแบบภาพได้ (ต้นฉบับระบุว่า เทคโนโลยีนี้จะทำให้ Watson สามารถ "เห็น" ได้) จากเดิมที่ประมวลผลได้เฉพาะข้อมูลแบบประเภทข้อความ/อักษรเท่านั้น ซึ่งทำให้ Watson สามารถประมวลผลภาพถ่ายรังสี, ภาพ MRI ทางการแพทย์ได้