วันนี้ Intel ออกประกาศแจ้งเตือน (advisory) ด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ 3 ตัวด้วยกัน โดยให้ลูกค้าที่ใช้ Windows 10 รีบอัพเดตไดรเวอร์กราฟิกสำหรับเครื่องที่มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของบริษัท และ SGX SDK เนื่องจากพบช่องโหว่ความปลอดภัย รวมถึงแจ้งเตือนให้เลิกใช้ Intel Matrix Storage Manager ที่มีปัญหาความปลอดภัยโดยทันที

สำหรับรายละเอียดการแจ้งเตือนของทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มีดังต่อไปนี้

อินเทลและกลุ่มบริษัทไอทีหลายราย ประกาศตั้งกลุ่ม Compute Express Link (CXL) พัฒนาบัสความเร็วสูง เชื่อมต่อซีพียูกับหน่วยความจำ และตัวช่วยเร่งการประมวลผล (accelerator) อย่างจีพียู, FPGA, อุปกรณ์เครือข่าย หรือหน่วยประมวลผลเฉพาะงาน AI ที่เริ่มออกสู่ตลาดกันบ้างแล้ว

พันธมิตรของอินเทลรอบนี้ได้บริษัทสำคัญๆ มากันครบ ได้แก่ Alibaba, Cisco, Dell EMC, Facebook, Google, Hewlett Packard Enterprise, Huawei, Microsoft โดยรูปแบบการใช้งานเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลเป็นหลัก

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า ตอนนี้ NVIDIA กับอินเทลกำลังแย่งซื้อ Mellanox บริษัทออกแบบชิปสำหรับศูนย์ข้อมูลจากประเทศอิสราเอล

Mellanox ก่อตั้งในปี 1999 โดยอดีตพนักงานของอินเทล ปัจจุบันบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ และย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ที่เมือง Sunnyvale ในแคลิฟอร์เนีย ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อให้ Mellanox คือสวิตช์ความเร็วสูง InfiniBand แต่ภายหลังก็ขยายมาออกแบบ SoC และซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์เครือข่ายด้วย

ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่า อินเทลเสนอซื้อ Mellanox ในมูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ แต่ล่าสุด NVIDIA เข้ามาเสนอราคาแข่งแล้ว คาดกันว่าเสนอราคาแพงขึ้นอีก 10%

USB Promoter Group กลุ่มผู้พัฒนามาตรฐาน USB เปิดตัว USB 4 รองรับการส่งข้อมูลสูงสุดที่ 40 Gbps เพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก USB 3.2 ที่แบนด์วิดท์สูงสุด 20 Gbps

เทคโนโลยีของ USB 4 พัฒนาต่อยอดจาก Thunderbolt ของอินเทล โดยอินเทลระบุว่าต้องการเปิดสเปกของ Thunderbolt ให้ทุกคนเข้าถึงได้ (เท่ากับว่าต่อจากนี้ไป ไม่น่าจะมี Thunderbolt 4 อีกแล้ว เพราะรวมมาเป็น USB 4 เลย แต่อินเทลก็ยังไม่ยืนยันเรื่องนี้)

USB 4 ยังรักษาความเข้ากันได้ย้อนหลังกับเทคโนโลยีที่มีในปัจจุบันคือ USB 3.2, USB 2.0 และ Thunderbolt 3 และสามารถใช้ร่วมกับพอร์ต-สาย USB Type-C ที่มีอยู่แล้วได้ แต่การจะส่งข้อมูลที่ระดับ 40 Gbps ต้องเป็นสายที่ผ่านการรับรองด้วย

เว็บไซต์ VentureBeat สัมภาษณ์ Bob Swan ซีอีโอคนใหม่ของอินเทล ถึงทิศทางของบริษัทที่เปลี่ยนไปจากในอดีต ไม่สามารถขายซีพียูเพียงอย่างเดียวได้อีกแล้ว

Swan บอกว่าอินเทลกำลังปฏิรูปตัวเอง โดยเปลี่ยนนิยามของสโลแกน "Intel Inside" ที่เป็นหัวใจสำคัญของบริษัทมานาน จากเดิม Intel Inside หมายถึงซีพียูของอินเทลที่อยู่ในพีซี แต่ปัจจุบันตลาดของอินเทลกว้างใหญ่กว่านั้นมาก ไม่ได้เป็นแค่พีซี แต่ยังรวมเซิร์ฟเวอร์ ศูนย์ข้อมูล รถยนต์ และอุปกรณ์ฝังตัวจำนวนมหาศาล

Reuters รายงานว่า Google ได้ดึงวิศวกรด้านไมโครชิปจากบริษัทที่พัฒนาชิปทั้ง Intel, Qualcomm, Broadcom และ NVIDIA นับสิบรายไปร่วมงานในออฟฟิศของ Google ที่เมืองบังกะลอร์ ประเทศอินเดีย รวมถึงกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการรับคนเพิ่มอยู่ในตอนนี้ด้วย

ท่าทีดังกล่าวทำให้คาดว่า Google น่าจะเริ่มพัฒนาชิปเซ็ตใช้งานกับฮาร์ดแวร์ของตัวเองตามรอยแอปเปิล ประกอบกับเมืองบังกะลอร์เป็นหนึ่งในแหล่งของโรงงานผลิตชิปเซ็ตด้วยแล้ว ทำให้นักวิเคราะห์ยิ่งมั่นใจถึงความเป็นไปได้ดังกล่าว

Intel ประกาศข่าวความร่วมมือกับสโมสฟุตบอล Arsenal, Liverpool และ Manchester City โดยจะนำเทคโนโลยี Intel True View ไปใช้งาน ช่วยเพิ่มอรรถรสสีสันการรับชมเกมฟุตบอลจากรังเหย้าของทั้ง 3 ทีมดัง

ระบบ Intel True View เป็นเทคโนโลยีการถ่ายทอดเพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมเกมกีฬาเสมือนดำดิ่งเข้าไปอยู่ในสนามแข่งขัน ด้วยภาพจากกล้องวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 5K จำนวน 38 ตัวที่จะถูกติดตั้งรอบสนาม ผนวกด้วยพลังประมวลผล ทำให้ผู้ที่รับชมการถ่ายทอดสามารถย้อนดูภาพจังหวะสำคัญต่างๆ ได้แบบ 360 องศา โดย Intel True View มีฟีเจอร์เด่นที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมเกมดังนี้

ชะตากรรมของซีพียู Itanium นั้นชัดเจนว่าไม่อยู่ในแผนการของอินเทลมานานแล้ว ในปี 2017 อินเทลประกาศวางขาย Itanium 9700 รุ่นสุดท้าย (รหัส Kitson) และมาวันนี้ อินเทลก็แจ้งว่าเตรียมเลิกขาย Kitson แล้ว

Itanium 9700 Kitson จะยังมีขายไปจนถึงกลางปี 2021 หรืออีกประมาณ 2 ปีนับจากนี้

ผลกระทบจากการที่ HP หยุดขาย Itanium คงมีไม่มากนัก เพราะเหลือเพียง HPE บริษัทเดียวที่ยังใช้ Itanium ไปทำเซิร์ฟเวอร์อยู่ โดย HP (ในสมัยนั้น ก่อนแยกเป็น HPE) ถือเป็นพันธมิตรที่ร่วมปั้น Itanium มาตั้งแต่ต้น

ที่มา - AnandTech

ในที่สุดอินเทลก็ได้ตัวซีอีโอคนใหม่แล้ว หลังจากเว้นวรรคไม่มีซีอีโอมานานครึ่งปี

คนที่มาเป็นซีอีโอก็ไม่เหนือความคาดหมายนัก เพราะเป็น Bob Swan ซีเอฟโอที่นั่งรักษาการซีอีโอมานานถึง 7 เดือน ตอนแรกเขาแสดงท่าทีว่าไม่ต้องการเป็นซีอีโอ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจรับตำแหน่งนี้

หลังจากที่เปิดตัวแบบแง้มๆ มาพักใหญ่ สำหรับซีพียู 28 คอร์ 56 เธรด ล่าสุดอินเทลเปิดตัวอออกมาแล้วในชื่อ Intel Xeon W-3175X ที่ปลดล็อกตัวคูณ โอเวอร์คล็อกได้ ราคาเฉพาะซีพียูอยู่ที่ 2,999 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 94,000 บาท, ราคาขายต่อหนึ่งพันหน่วย) ส่วนสเปคที่น่าสนใจมีดังนี้

จากรายงานผลประกอบการของอินเทลไตรมาส 4 ปี 2018 ข้อมูลหนึ่งที่อินเทลระบุถึงคือสถานการณ์ซีพียูขาดตลาดที่ต่อเนื่องมานานหลายเดือน โดยระบุว่าเป็นหนักกับซีพียูราคาถูก (value-end) และคาดว่าจะดีขึ้นในช่วงกลางปีนี้

ปีที่ผ่านมายอดการส่งมอบซีพียูเดสก์ทอปลดลง 8% โน้ตบุ๊กเพิ่มขึ้น 1% แต่ยอดของเซิร์ฟเวอร์เพิ่มขึ้นถึง 9% แม้สถานการณ์ซีพียูขาดตลาดจะเป็นต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าอินเทลทุ่มกำลังผลิตไปกับซีพียูเซิร์ฟเวอร์ที่มีราคาสูง

อย่างไรก็ดีอินเทลคาดว่าตลาดซีพียูเซิร์ฟเวอร์จะหมดความร้อนแรงแล้ว เพราะผู้ให้บริการคลาวด์สะสมซีพียูจนเพียงพอ

อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้รวม 18,657 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5,195 ล้านดอลลาร์

รายงานในไตรมาสนี้ของอินเทล ก็ยังไม่มีอัพเดตใด ๆ เกี่ยวกับซีอีโอคนใหม่ที่จะมาทำหน้าที่แทน Brian Krzanich โดยยังคงเป็นซีเอฟโอ Bob Swan ที่รับบทบาทเป็นซีอีโอรักษาการต่อไป

รายได้แยกตามหมวดธุรกิจ กลุ่ม Client Computing มีรายได้ 9,800 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10%, กลุ่ม Data Center รายได้ 6,100 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% ส่วนกลุ่มหน่วยความจำรายได้ 1,100 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25%

เว็บไซต์ Tom's Hardware สัมภาษณ์ Charles Chiang ซีอีโอของ MSI ซึ่งเขายืนยันปัญหาซีพียูอินเทลขาดตลาด และเผยว่าอินเทลให้ความสำคัญกับการผลิตซีพียูศูนย์ข้อมูล (Xeon) เป็นอันดับแรก ตามด้วยซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊ก ส่วนซีพียูเดสก์ท็อปมีความสำคัญเป็นอันดับสุดท้าย

นอกจากนี้ อินเทลยังให้ความสำคัญกับซีพียูตามความแพง (Core i9 ได้ของก่อน) ซึ่งตลาดพีซีของ MSI เป็นตลาดไฮเอนด์ จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก กลายเป็นว่าปัญหาอยู่ที่ตลาดเมนบอร์ดแทน เพราะลูกค้าหาซื้อซีพียูรุ่นล่างๆ อย่าง Pentium, Celeron หรือแม้กระทั่ง Core บางรุ่นไม่ได้ จึงชะลอการซื้อเมนบอร์ดของ MSI ตามไปด้วย

สินค้าใหม่ของอินเทลที่เปิดตัวในงาน CES 2019 คือ ซีพียู Core 9th Gen เดสก์ท็อปชุดใหม่ โดยมีซีพียูที่ห้อยรหัส F ที่ปิดการทำงานของจีพียู UHD 630 มาขายคู่กับซีพียูที่ไม่มี F และเปิดใช้ซีพียูตามปกติ

ล่าสุดมีราคาจากอินเทลออกมาแล้วว่า ซีพียูแบบห้อย F กับไม่ห้อย F นั้นคิดราคาเท่ากัน

ตัวอย่างคือตัวท็อปสุด Core i9-9900K ที่ออกในเดือนตุลาคม 2018 มีราคาขายปลีกที่แนะนำ (Recommended Customer Pricing) อยู่ที่ 488 ดอลลาร์ ส่วน Core i9-9900KF ที่เปิดตัวมาในรอบนี้ ก็มีราคา 488 ดอลลาร์เท่ากัน

เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว Brian Krzanich ซีอีโอของอินเทลประกาศลาออกแบบฉับพลัน เนื่องจากมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับพนักงาน

เวลาผ่านมาครึ่งปีกว่าแล้ว แต่อินเทลยังไม่สามารถหาซีอีโอคนใหม่ได้ (ตอนนี้ยังเป็น Bob Swan ซีเอฟโอ รักษาการไปก่อน แต่เขายืนยันว่าไม่ต้องการเป็นซีอีโอเต็มตัว)

ในช่วงที่โน้ตบุ๊กกำลังบูมใหม่ๆ หลายคนอาจจดจำแบรนด์ Centrino ซึ่งเป็นการจัดชุดซีพียู-ชิปเซ็ต-ชิป Wi-Fi ของอินเทลกันได้ ในปี 2019 แนวคิดนี้กำลังกลับมาอีกครั้งภายใต้โค้ดเนม Project Athena

Project Athena เป็นการกำหนดสเปกพื้นฐานของโน้ตบุ๊กยุคหน้า ว่าต้องมีคุณสมบัติดังนี้

เราอาจคุ้นเคยกับสถาปัตยกรรมซีพียูฝั่ง ARM บนมือถือที่ใช้แกนแบบ big.LITTLE ใช้แกนซีพียูสองขนาดทำงานร่วมกัน ล่าสุดอินเทลก็มีอะไรคล้ายๆ กันออกมาในชื่อโค้ดเนมว่า "Lakefield"

Lakefield เป็นแพลตฟอร์มการประมวลผล (SoC) ที่จับซีพียู 2 ตระกูลได้แก่ Core และ Atom มาไฮบริดกันอยู่บนแพ็กเกจเดียวกัน ซีพียูที่ใช้คือ Core ตัวใหม่สถาปัตยกรรม Sunny Cove จำนวน 1 คอร์ และ Atom อีก 4 คอร์ บวกกับชิปอื่นๆ ทั้งจีพียู แรม และ I/O

อินเทลเผยข้อมูลของซีพียูรุ่นถัดไปรหัส "Ice Lake" (ที่น่าจะเรียกว่า Core 10th Gen หรือเปลี่ยนระบบนับรุ่นไปเลย) ที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งฝั่งของสถาปัตยกรรม (ใช้สถาปัตยกรรม Sunny Cove ตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว) และกระบวนการผลิตระดับ 10 นาโนเมตร (อธิบายง่ายๆ คือ Sunny Cove เป็นชื่อสถาปัตยกรรม ส่วน Ice Lake เป็นชื่อผลิตภัณฑ์)

นอกจากสถาปัตยกรรมซีพียูแล้ว มันยังมาพร้อมจีพียูตัวใหม่ที่เรียกว่า Gen11 ที่มีสมรรถนะสูงถึง 1 TFLOPS น่าจะช่วยให้จีพียูของอินเทลไล่กวดทันคู่แข่งได้ดีขึ้น

อินเทลเปิดตัวซีพียู Core 9th Gen ชุดที่สองในงาน CES 2019 หลังจากเปิดตัวชุดแรกในเดือนตุลาคม 2018

ซีพียูชุดแรกของอินเทลมีด้วยกัน 3 รุ่นคือ Core i9-9900K, i7-9700K, i5-9600K ส่วนรอบนี้เปิดตัวมาพร้อมกันถึง 6 รุ่น ตั้งแต่ Core i9 ไล่ลงไปจนถึง Core i3 โดยทั้งหมดยังอยู่บนสถาปัตยกรรม Coffee Lake

หากอยากได้พีซีไซส์เล็ก ถ้าเลือกจะประกอบเองคงต้องหาเมนบอร์ดไซส์ Mini-ITX กับเคสที่รองรับการ์ดจอที่เข้ากันได้ ไม่ก็ไปคบพวก Intel NUC หรือไปสาย Mac Mini หรือ Mac Pro เลย บ้างก็ใช้โน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชั่นต่อจอแยกเอา กระนั้นประสิทธิภาพเฉพาะทางอาจจะยังไม่ดีพอ ล่าสุด ASUS เปิดตัวมินิพีซีรุ่น ProArt PA90 ทรงกระบอกตั้งสำหรับงานสายมืออาชีพ เวลาโหลดหนัก ซีพียูร้อนกว่า 80 องศาเซลเซียส ฝาด้านบนจะเปิดออกระบายความร้อนให้

ที่ว่ามันเหมาะกับงานเฉพาะทางก็เพราะสเปคภายในได้ชิป Intel Core i7-9700K หรือ i9-9900K ระบายความร้อนด้วยระบบน้ำแบบปิด กับเมนบอร์ดชิปเซ็ต Z390 รองรับ DDR4 ไซส์ SO-DIMM จุรวม 64GB สตอเรจให้เลือกได้ทั้งฮาร์ดดิสก์ 2.5”, M.2 SSD ที่สปีดแบบ SATA หรือ PCI-E พร้อมพอร์ต Thunderbolt พลิกอีกด้านสามารถใส่การ์ดจอ NVIDIA Quadro P2000 หรือ P4000 ได้ (จากภาพเป็นการ์ดแยกไม่ฝังเมนบอร์ด) เวลาโหลดหนัก ซีพียูร้อนกว่า 80 องศาเซลเซียส ฝาด้านบนจะเปิดออกระบายความร้อนให้ ราคายังไม่ระบุ

Todd Garrigues หัวหน้าโครงการคู่ค้าของอินเทลยอมรับกับสำนักข่าว CRN ว่าปีที่ผ่านมาถูกคู่ค้าแสดงความไม่พอใจที่ไม่สามารถส่งมอบซีพียูให้ได้ และสัญญาว่าจะพยายามสื่อสารให้มากขึ้น

ข่าวซีพียูขาดตลาดเริ่มเป็นข่าวตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน เมื่ออินเทลออกมายอมรับผ่านช่องทางทางการของบริษัท ปัญหาใหญ่คือคู่ค้าจำนวนมากไม่รู้ว่าอินเทลจะส่งมอบซีพียูให้ได้เมื่อใด คู่ค้าบางส่วนระบุกับ CRN ว่าสั่งซีพียู Core i5-8500 ไปแต่ไม่ได้รับสินค้า จนต้องยอมประกอบเครื่องด้วย Core i5-8600 เพื่อให้ส่งมอบกับลูกค้าได้ตามสัญญาแม้ต้นทุนจะเพิ่ม

Intel และ ESL หนึ่งในผู้จัดทัวร์นาเมนต์ esports ยักษ์ใหญ่ ได้ทำงานร่วมกันในแวดวง esports มาอย่างยาวนาน ล่าสุด ทั้งคู่ได้เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรด้าน esports ยาวถึงปี 2021 โดยมีมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นดีลความร่วมมือด้าน esports ระหว่างแบรนด์และบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

อินเทลติดหล่ม 14 นาโนเมตร นับตั้งแต่การออก Skylake ในปี 2015 ก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามมายัง 10 นาโนเมตรได้ตามแผน ทำให้ยุทธศาสตร์ Tik-Tok ต้องล่มสลาย และนับจากนั้นเป็นต้นมา เราก็ยังอยู่กับสารพัดทะเลสาบ (lake) ที่ใช้สถาปัตยกรรมเดิมของ Skylake ที่ปรับแต่งเล็กน้อย บนกระบวนการผลิต 14 นาโนเมตรดังเดิม

(หมายเหตุ: อินเทลมี Cannon Lake 10 นาโนเมตร แต่เพียงแค่รุ่นเดียวและผลิตจำนวนจำกัดมาก)

แต่ปี 2019 สถานการณ์น่าจะเปลี่ยนไป เพราะอินเทลดูพร้อมแล้วสำหรับ 10 นาโนเมตร แถมยังเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ Sunny Cove ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 4 ปีนับจาก Skylake เป็นต้นมา เรียกได้ว่า Sunny Cove เป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งกระบวนการผลิตและสถาปัตยกรรมไปพร้อมกันในรุ่นเดียว

JD.com เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในจีนประกาศร่วมมือกับอินเทล เตรียมตั้งแล็บวิจัยโดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยี smart retail โดยจะนำ IoT เข้ามาใช้เพื่อการค้าปลีก

แล็บร่วม JD.com และอินเทลนี้จะเน้นพัฒนาเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ, โซลูชั่นด้านสื่อและการโฆษณา กับเทคโนโลยีที่จะใช้ในร้านค้า อย่างเช่น ชั้นวางของและป้ายราคาอัจฉริยะ, โซลูชั่นการเช็คเอาท์ เป็นต้น ซึ่งอินเทลจะเป็นผู้ช่วยในด้านเทคโนโลยีการคำนวณ ส่วน JD.com จะเน้นเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกอย่างของ Windows 10 คือระบบไดรเวอร์แบบใหม่ที่เรียกว่า Universal Windows Driver (UWD) หรือ Windows Modern Drivers ซึ่งเป็นการจัดแพ็กเกจของไฟล์ไดรเวอร์แบบใหม่เป็น UWP เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ใดก็ได้ทั้งเดสก์ท็อป แท็บเล็ต ไปจนถึงอุปกรณ์ฝังตัว

นโยบายของไมโครซอฟท์คือเริ่มให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์เปลี่ยนมาใช้ UWD ตั้งแต่ Windows 10 October 2018 Update (v1809) เป็นต้นไป