สภานิติบัญญัติมาเลเซียผ่านกฎหมายใหม่เรื่องการกระจายข่าวปลอมแล้ว โดยมีโทษคือปรับ 5 แสนริงกิตหรือประมาณ 4 ล้านบาท และจำคุกสูงสุด 6 ปี ซึ่งโทษจำคุกสูงสุดนั้นลดลงจาก 10 ปีในตอนเสนอกฎหมาย
กฎหมายของมาเลเซียนี้ กำหนดว่าข่าวปลอมคือ “ข่าว, สารสนเทศ, ข้อมูล และรายงานที่ทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งเป็นความเท็จ” ซึ่งข่าวนี้จะรวมถึงเรื่องราว, วิดีโอ และเสียง โดยการตัดสินคดีเป็นอำนาจของศาลที่เป็นอิสระในการจัดการ ส่วนผู้กระทำผิดนั้นจะอยู่ในหรือนอกมาเลเซียก็ได้หากมีการเขียนถึงประชาชนหรือประเทศในแบบที่เข้าข่ายข่าวปลอม
รัฐบาลมาเลเซียเตรียมกฎหมายแบนข่าวหรือข้อมูลที่ไม่มีมูลความจริง ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบข้อความ เสียง รุปภาพหรืออื่นๆ ผู้ที่ละเมิดมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปีและโทษปรับไม่ต่ำกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ โดยกฎหมายนี้ครอบคลุมชาวต่างชาติด้วย หากข้อมูลหรือข่าวดังกล่าวเกี่ยวข้องหรือส่งผลกับประเทศมาเลเซียหรือคนมาเลเซีย
หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ากฎหมายนี้ถูกผลักดันออกมา เพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดการสื่อและข้อมูลเรื่องการคอร์รัปชันของรัฐบาล อย่างกรณีกองทุน 1MDB ของนายกรัฐมนตรี Najib Razak ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ โดยตัวแทนรัฐบาลเผยว่า ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ 1MDB ที่ไม่ได้ถูกรับรองโดยภาครัฐ จะถือว่าเป็นข่าวปลอม
ประเด็นเรื่องการเก็บภาษีของบริษัทไอทีข้ามชาติเป็นเรื่องใหญ่ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งมีการหารือกัน หลายครั้ง เรื่องแผนการเก็บภาษีของบริษัทไอทีซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นบริษัทอเมริกัน
ล่าสุดคณะกรรมการยุโรป (European Commission) เสนอร่างกฎหมายเก็บภาษีเศรษฐกิจดิจิทัล 2 ฉบับออกมาแล้ว เป้าหมายคือการเก็บภาษีของบริษัทไอที แม้บริษัทนั้นจะไม่ได้จดทะเบียนในยุโรปก็ตาม
ก่อนหน้านี้มีประเด็นว่า Facebook สั่งลบบัญชีของ Cambridge Analytica เนื่องจากทางบริษัทสงสัยเรื่องการแอบใช้ข้อมูลแม้ว่าจะถูกลบไปแล้ว โดยบริษัทสามารถดึงข้อมูลจากบัญชี Facebook ได้กว่า 50 ล้านบัญชีผ่านแอพของอาจารย์มหาวิทยาลัย Aleksandr Kogan โดยไม่ได้ขออนุญาตจาก Facebook และข้อมูลเหล่านี้ถูกนำไปทำเป็นแคมเปญโฆษณาหาเสียงของประธานาธิบดี Trump ช่วงปี 2016
ทางการญี่ปุ่นเตรียมอนุญาตให้โดรนขนส่งสินค้า สามารถนำของไปส่งในพื้นที่ห่างไกลอย่างเช่นเกาะหรือภูเขาได้ภายในปีนี้ โดยจะให้โดรนสามารถดำเนินงานได้นอกระยะการมองเห็น แต่จะยังคงจำกัดพื้นที่บิน, กำหนดความเร็วและความสูงของการใช้งาน และมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอย่างเช่นห้ามบินเหนือศีรษะคน และต้องระวังพาหนะทางอากาศอื่นรวมถึงต้นไม้ด้วย
กฎการบินโดรนในญี่ปุ่นนั้นถูกร่างขึ้นมาตั้งแต่ปี 2015 หลังจากที่พบโดรนที่มีวัตถุกัมมันตรังสีปรากฏบนหลังคาของสำนักงานนายกรัฐมนตรี ซึ่งภายใต้กฎที่ใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ โดรนจะอนุญาตให้บินได้เฉพาะในระยะสายตาเท่านั้น แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีโดรนได้ไปไกลกว่าเดิมมาก การร่างกฎหมายใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เป็นการผลักดันของรัฐบาลปัจจุบันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2015 และเงียบหายไปจนกลางปี 2017 จึงกลับมารับฟังความเห็นอีกครั้ง ตอนนี้ร่างล่าสุดก็กลับมารับฟังความเห็นอีกครั้งแล้ว โดยมีกำหนดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 25 มีนาคมนี้
ช่วงนี้หลายคนอาจได้ยินคำว่า GDPR บ่อยขึ้น GDPR ย่อมาจาก General Data Protection Regulation คือหลักคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแบบใหม่ยุโรป ที่สภาสหภาพยุโรปผ่านกฎหมายไปเมื่อปี 2016 และจะมีผลบังคับใช้ 25 พฤษภาคม 2018
GDPR เป็นมาตรฐานคุ้มครองข้อมูลใหม่แทนที่กฎหมายเดิมในยุโรปที่บังคับใช้มานานตั้งแต่ปี 1980 เพื่อให้ตอบรับกับเทคโนโลยีรับ-ส่ง และประมวลผลข้อมูลในยุคนี้
สาเหตุที่ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี กว่าจะบังคับใช้กฎหมาย ทั้งที่ GDPR ผ่านสภามาตั้งแต่ปี 2016 นั้น ก็เพื่อให้องค์กรบริษัทห้างร้านต่างๆ มีเวลาปรับตัว และแน่ใจว่าองค์กรมีวิธีการเก็บ ถ่าย โอน ข้อมูลของลูกค้าอย่างถูกต้องตามหลัก GDPR จริงๆ ไม่เช่นนั้นอาจถูกปรับไม่เกิน 20 ล้านยูโร หรือไม่เกิน 4% ของรายได้รวมทั่วโลก ขึ้นกับอะไรสูงกว่า
James Damore อดีตพนักงาน Google ที่ถูกไล่ออกเพราะเขียนจดหมายเวียน แสดงความเห็นเชิงกีดกันทางเพศในที่ทำงาน นำไปสู่การตั้งคำถามว่า Google ทำผิดกฎแรงงานหรือไม่ที่ไล่เขาออกเพียงเพราะแสดงความคิดเห็นเรื่องนโยบายความหลากหลายในที่ทำงานเท่านั้น
ล่าสุด NLRB หรือ US National Labor Relations Board คณะกรรมการสภาแรงงานแห่งชาติ ปัดตกข้อร้องเรียนของ Damore ที่ยื่นไปยัง NLRB ในเดือนสิงหาคม 2017 (ยื่นหลังจากถูกไล่ออก) โดย NLRB ระบุว่าเนื้อหาในจดหมายของ Damore เป็นการเลือกปฏิบัติและเป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อมการทำงานอย่างชัดเจน
องค์กรสิทธิผู้บริโภคในเยอรมันเผยว่า ศาลเยอรมันตัดสิน Facebook ละเมิดกฎการป้องกันข้อมูลส่วนตัว ด้วยการตั้งค่าให้ผู้ใช้ระบุชื่อนามสกุลจริงเป็นค่าเริ่มต้น
กฎหมายการป้องกันข้อมูลของเยอรมันระบุว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทสามารถบันทึกและนำไปใช้ภายใต้ข้อตกลงที่ชัดเจนจากแต่ละบุคคล แต่ศาลตัดสินว่า การให้ผู้ใช้ต้องให้ชื่อจริงเป็นค่าเริ่มต้นนั้นเป็นความล้มเหลว เพราะไม่ได้เสนอทางเลือกให้ผู้ใช้ได้รู้เลยว่าข้อมูลจะถูกนำไปใช้อย่างไร
ผู้พิพากษาตัดสินว่า Facebook มีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวที่ละเมิดกฎ เช่น การแชร์ข้อมูลตำแหน่งกับคู่สนทนา หรือการสร้างโปรไฟล์ให้ search engine ภายนอกสามารถค้นหาได้ ข้อกำหนดการใช้งานจำนวน 8 ย่อหน้าของ Facebook ก็ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะประเด็นการเรียกร้องให้ผู้ใช้ใช้ชื่อจริง ศาลระบุอีกว่า สโลแกน "Facebook นั้นให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ฟรี และมันจะเป็นเช่นนั้น" (Facebook is free and always will be) ก็เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะสิ่งที่ผู้ใช้ต้องจ่ายคือข้อมูล ไม่ใช่เงิน
Facebook อาจต้องเสียค่าปรับถึง 250,000 ยูโร หรือ 306,000 ดอลลาร์ แต่ Facebook ระบุว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รักษาราชการแทน เลขาธิการ ปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐ ว่า ปปง. จะเริ่มเข้ามาตรวจสอบการฟอกเงินผ่านสกุลเงินคริปโตแล้ว
แนวทางของ ปปง. คือ
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ ระบุว่าหน้าที่ของ ปปง. เป็นเรื่องการปราบปรามการฟอกเงินเท่านั้น ไม่ได้เป็นหลักประกันในแง่การลงทุนคริปโตแต่อย่างใด และขอให้ประชาชนระมัดระวังเรื่องการลงทุนลักษณะนี้ด้วย
รัฐบาลอังกฤษออกมาประกาศว่า บริษัทที่ไม่สามารถป้องกันเหตุโจมตีไซเบอร์ได้จะถูกปรับไม่ต่ำกว่า 17 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 24 ล้านดอลลาร์ โดยอุตสาหกรรมที่คาดหวังว่าจะมีระบบการป้องกันภัยที่ดีที่สุดคือ บริษัทด้านพลังงาน การขนส่ง การจัดการน้ำ และบริษัทสุขภาพ
กฎใหม่เรียกร้องให้องค์กรจัดหาบุคลากรและบริษัทที่จัดการปัญหาภัยไซเบอร์ เข้ามาทำหน้าที่รับมือการโจมตี รวมทั้งเรียกร้องให้มีซอฟต์แวร์ ระบบป้องกันภัยที่มีขีดความสามารถในการป้องกันและตรวจจับการโจมตีได้ หน่วยงานกำกับดูแลจะสามารถประเมินความปลอดภัยของบริษัทนั้นๆ ว่าอยู่ในระดับใด ถ้าระดับต่ำก็จะต้องถูกปรับ นอกจากปรับแล้วจะช่วยติดตั้งระบบความปลอดภัยให้สามารถตอบสนองภัยได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
กฎใหม่จะมีผล 10 พฤษภาคม 2018 และครอบคลุมเหตุการณ์ที่มีลักษณะเดียวกันกับเหตุ WannaCry เข้าโจมตีหน่วยงานต่างๆ
Sheryl Sandberg ซีโอโอ Facebook ระบุว่า Facebook จะเปิดช่องทางให้ผู้ใช้จัดการข้อมูลของตนง่ายขึ้น รวบให้สามารถจัดการได้ในช่องทางเดียว เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใหม่ในยุโรปที่จะบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคม 2018
มาตรฐานความเป็นส่วนตัวของข้อมูลหรือ General Data Protection Regulation (GDPR) ที่ถือเป็นการยกเครื่องการคุ้มครองข้อมูลทั้งหมด เป้าหมายใหญ่คือให้ประชากรสหภาพยุโรปมีสิทธิ์ในการจัดการข้อมูลตัวเองรวมทั้งวิธีที่บริษัทนำข้อมูลของตนไปใช้ โดย GDPR ได้รับอนุมัติผ่านสภายุโรปไปในเดือนเมษายน 2016 และจะบังคับใช้ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2018 ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรฐานใหม่คือบรรดาบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลาย บริษัทประกันภัย ธนาคาร
Facebook มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน ติดตามกิจกรรมบนออนไลน์ ก็กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบจากหน่วยงานด้านการป้องกันข้อมูลของสหภาพยุโรป
Sheryl Sandberg ยังระบุด้วยว่า Facebook ยังไม่ได้ทำงานมากพอในการหยุดยั้งการใช้งาน Facebook ในทางที่ผิด และจะเพิ่มบุคลากรทำงานด้านความปลอดภัยเป็น 20,000 คน
Snoop Dogg แรปเปอร์ชื่อดัง ไลฟ์เล่นเกม SOS เกมเอาชีวิตรอดจากเกาะ บน Twitch ระหว่างที่เล่นก็สูบกัญชาไปด้วย และ Twitch ก็ไม่ได้เอาคลิปออกแต่อย่างใด
ตามหลักเกณฑ์ของ Twitch "ผู้เล่นที่ใช้งานแพลตฟอร์มจะต้องเคารพกฎหมายท้องถิ่นที่บังคับใช้ในประเทศและระหว่างประเทศ ไม่อนุญาตเนื้อหาหรือกิจกรรมที่มีการสนับสนุนหรือชักจูงกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย" และยังระบุด้วยว่าผู้เล่นจะต้องไม่ใช้พฤติกรรมที่ทำร้ายตนเอง เช่น ดื่มเกินขนาด ใช้ยาเกินขนาด เป็นต้น
เยาวชนญี่ปุ่นตกเป็นเหยื่อโดนแพร่ภาพโป๊บนโซเชียล และปี 2017 มีตัวเลขเหยื่อมากที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา คณะกรรมการกิจการพลเรือนของกรุงโตเกียวได้เข้าหารือกับหน่วยงานทำงานด้านเยาวชน เสนอกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
กฎหมายปัจจุบันสามารถเอาผิดคนร้ายที่มีลักษณะข่มขู่คุกคามอย่างชัดเจน คือบังคับให้ผู้เยาว์เปิดเผยรูปโป๊เปลือยของตน แต่การข่มขู่ทำได้หลายแบบ และอาจมาในรูปแบบที่ไม่ข่มขู่มาก แต่เป้าหมายคือชักชวนให้ผู้เยาว์เผยแพร่รูปโป๊ของตัวเองอยู่ดี ข้อเสนอกฎหมายใหม่จะเพิ่มความเข้มงวดขึ้นคือ ผู้ใดร้องขอภาพเปลือยจากบุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปี โดยผู้เยาว์กล่าวปฏิเสธคำขอดังกล่าวแล้ว ผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับ 300,000 เยน
รัฐบาลบราซิลมีกฎควบคุมอูเบอร์ค่อนข้างเข้มงวด คนขับอูเบอร์ต้องขอใบอนุญาตกับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อให้สามารถใช้แผ่นป้ายเลขทะเบียนสีแดงสำหรับขับรถขนส่งสาธารณะในประเทศได้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังต้องการให้คนขับอูเบอร์เป็นเจ้าของรถที่ใช้ ผู้ขับขี่ต้องได้รับใบอนุญาตและอยู่ใต้กฎเกณฑ์ด้านภาษีของหน่วยงานท้องถิ่นด้วย
ล่าสุด Dara Khosrowshahi ซีอีโอคนใหม่อูเบอร์เจรจาผ่อนคลายกฎบราซิลสำเร็จ โดยคนขับไม่ต้องมีรถของตัวเองก็สามารถหารายได้จากการขับอูเบอร์ได้ Khosrowshahi ให้เหตุผลว่ากฎเข้มงวดจะกระทบคนขับชาวบราซิล 5 แสนคนในการสร้างรายได้ เขาเคยให้สัมภาษณ์สื่อบราซิลว่า ในอดีตเราอาจจะก้าวร้าวไปสักหน่อย ซึ่งเราต้องเข้าใจว่าไม่เพียงไปให้ถึงเป้าหมายที่เราต้องการ แต่เราต้องอยู่ในกฎระเบียบที่เหมาะสมด้วย
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อกรณีแคมเปญโฆษณาจากรัสเซียบนโซเชียลมีเดียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 ขณะนี้ออกกฎหมายการโฆษณาออนไลน์ออกมาโดยมีเนื้อหาคร่าวๆ คือ โซเชียลมีเดียนั้นๆ ต้องเปิดเผยสำเนาการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ข้อมูลผู้ใช้ที่ถูกกำหนดเป็นเป้าหมายของโฆษณาเหล่านี้ ข้อมูลองค์กรที่ซื้อโฆษณา และค่าใช้จ่าย เปิดเผยให้สาธารณชนทราบ
Uber กำลังเผชิญปัญหาอีกครั้งคราวนี้เป็นประเทศกรีซ หลังรัฐบาลกำลังร่างกฎหมายฉบับใหม่เพื่อควบคุมแอปเรียกรถ (Ride-Hailing) โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวจะบีบให้แอปเรียกรถทั้ง Uber และ Taxibeat สตาร์ทอัพของกรีซ เซ็นสัญญาจ้างรถแท็กซี่มาให้บริการผ่านแอปเป็นเวลา 3 ปี
หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านเท่ากับว่า Uber จะเปลี่ยนสถานะจากคนกลางเป็นนายจ้างเต็มรูปแบบ ซึ่งส่งผลต่อทั้งการจดทะเบียนบริษัทและภาษี โดยสื่อท้องถิ่นระบุด้วยว่ารัฐบาลกำลังถูกกดดันจากกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ โดย Taxibeat ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้แล้ว พร้อมผู้ที่เห็นด้วยที่ลงชื่อกว่า 30,000 คน
ประเทศเม็กซิโกได้เสนอร่างกฎหมายใหม่ เพื่อการกำกับดูแลในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเงินโดยเฉพาะ รวมถึงเงินสกุลเงินคริปโตอย่าง Bitcoin ด้วย
Enrique Pena Nieto ประธานาธิบดีเม็กซิโกเตรียมจะนำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับวุฒิสภาก่อน 20 กันยายนนี้ โดยจุดมุ่งหมายคือเพื่อรับรองความมั่นคงทางการเงินและต่อต้านการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนของเหล่าหัวรุนแรง ซึ่งจะทำให้เม็กซิโกเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายกำกับดูแลด้านนี้อย่างจริงจัง
ความเคลื่อนไหวของร่าง พ.ร.บ. ฟินเทค (ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการประกอบธุรกิจด้วยเทคโนโลยีทางการเงิน) ขณะนี้คือกำลังอยู่ระหว่างรับฟังความเห็น ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
การสร้างกฎระเบียบให้สามารถควบคุมการคุกคามออนไลน์ หรือ cyberbullying เป็นเรื่องสำคัญ และควรทำ แต่ยังหาจุดกึ่งกลางไม่ได้ระหว่างควบคุมการคุกคามออนไลน์ กับควบคุมเสรีภาพทางความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ กลุ่มสนับสนุนความเป็นส่วนตัวบนออนไลน์
กลุ่มสิทธิดิจิทัล หรือ Digital rights group Electronic Frontier Foundation (EFF) พูดถึงกฎหมายเรื่องคุกคามออนไลน์ในวอชิงตันว่า แทนที่จะแก้ปัญหา กลับควบคุมเสรีภาพในโลกออนไลน์เสียมากกว่า โดย EFF เห็นว่า กฎหมายเรื่องการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ จนทำให้ผู้อื่นอับอาย ลำบากใจนั้นกินขอบเขตกว้างขวางเกินไปจนกระทบเสรีภาพ EFF ยกตัวอย่างการแสดงความเห็น หรือรีวิวใน Yelp แบบไม่ระบุตัวตน คือต้องการให้ร้านอาหารปรับปรุงคุณภาพ
รัฐบาลอังกฤษมีแผนขยายกฎหมายคุ้มครองข้อมูล เพิ่มสิทธิประชาชนในข้อมูลของตัวเองมากขึ้น และป้องกันการเกิดอาชญากรรมทางข้อมูล ให้สิทธิ์ประชาชนเรียกร้องไปยังบริษัทให้ลบข้อมูลของตนเองออกได้ หากองค์กรใดไม่ปฏิบัติตาม จะถูกปรับถึง 17 ล้านปอนด์ หรือไม่ต่ำกว่า 4% ของปริมาณเงินหมุนเวียนในบริษัท
รัฐบาลระบุว่ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลใหม่จะช่วยให้เกิดประโยชน์ คือ
ปัญหาเรื่องอุปกรณ์ IoT ไม่ได้อัพเดตแพตช์ความปลอดภัย จนกลายเป็นช่องโหว่ให้ถูกแฮ็กและถูกใช้เป็น botnet จู่โจมคนอื่นต่อไป กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และที่ผ่านมาก็ยังไม่เห็นแนวโน้มว่า ผู้ผลิตอุปกรณ์ IoT สนใจจะอัพเดตแพตช์ให้สินค้าที่วางขายไปแล้วมากนัก
ล่าสุดมีวุฒิสมาชิกของสหรัฐกลุ่มหนึ่ง เสนอร่างกฎหมาย Internet of Things Cybersecurity Improvement Act of 2017 เพื่อใช้กลไกทางกฎหมายมาแก้ปัญหาแล้ว
เนื้อหาของร่างกฎหมายฉบับนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก
สิงคโปร์เพิ่งปรับกฎหมายรองรับรถโดยสารส่วนบุคคล (private-hire) เช่น Uber และ GrabCar แต่ตอนนี้ก็มีข้อขัดแย้งกับกฎหมายอีกครั้งเมื่อรถโดยสารเหล่านี้ไปรับงานรับส่งสินค้า แต่กฎหมายขนส่งทางบกสิงคโปร์กลับไม่เปิดช่องให้ทำได้หากไม่มีผู้โดยสารถือสินค้าไปด้วย
ความกังวลหลักๆ ของเทคโนโลยีรถไร้คนขับ โดยเฉพาะรถบรรทุกไร้คนขับคือการจะเข้ามาแย่งงานคนขับรถบรรทุก ทำให้สหภาพแรงงานทีมสเตอร์ (The International Brotherhood of Teamsters) ที่รวมแรงงานของสหรัฐและแคนาดา ล็อบบี้ภาครัฐขัดขวางการออกกฎหมายสนับสนุนรถบรรทุกไร้คนขับ
การล็อบบี้ค่อนข้างประสบความสำเร็จ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคณะกรรมการว่าด้วยพลังงานและการพาณิชย์ของรัฐสภาผ่านกฎหมายที่สนับสนุนรถยนต์ไร้คนขับอย่างเป็นเอกฉันท์ แต่มีผลบังคับใช้กับรถยนต์ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 1 หมื่นปอนด์เท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่ารถบรรทุกไม่ได้ครอบคลุมไปด้วย
รัฐสภามาเลเซียมีมติผ่านร่างแก้ไขกฎหมาย 2 ฉบับได้แก่กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและกฎหมายที่ว่าด้วยการออกใบอนุญาตรถยนต์สาธารณะ ที่ทำให้การให้บริการของ Uber และ Grab Car ถูกกฎหมาย
จากการแก้กฎหมายดังกล่าว มาเลเซียได้จัดสรรประเภทธุรกิจใหม่ขึ้นมาเพื่อรองรับ Ride-Hailing โดยเฉพาะในชื่อ Intermediation Business License ซึ่งทั้ง Uber, Grab Car หรือผู้ให้บริการอื่นๆ ที่จะทำธุรกิจนี้ต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจประเภทนี้
ก่อนหน้านี้มาเลเซียเผชิญปัญหาคล้ายกับบ้านเรา คือภาครัฐประกาศว่าทั้ง Uber และ Grab Car ให้บริการอย่างผิดกฎหมาย ขณะเดียวกันก็ถูกกลุ่มสมาคมแท็กซี่รวมตัวประท้วง หลังทราบข่าวว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาให้บริการ Ride-Hailing ถูกกฎหมาย