Sensor Tower บริษัทวิจัยตลาดแอปมือถือ เปิดเผยข้อมูลล่าสุดของตลาดแอปในไตรมาส 3 ปี 2019 พบว่า กลุ่มนักพัฒนาที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในระดับ 1% บน มีตัวเลขดาวน์โหลดรวมคิดเป็น 80% ของการดาวน์โหลดทั้งหมด หรือ 2.96 หมื่นล้านครั้งในไตรมาส 3/2019 เท่ากับว่า 20% ของการดาวน์โหลดที่เหลือ (6 พันล้านครั้ง) เป็นของนักพัฒนาอีก 99%
จำนวนผู้พัฒนาแอปรวมทั้ง App Store และ Google Play มีจำนวน 792,000 ราย ตัวเลข 1% ก็คือ 7,920 ราย ส่วน 99% ที่เหลือคิดเป็น 784,080 รายนั้น เฉลี่ยออกมาได้รายละ 7,650 ดาวน์โหลด
บริษัทวิจัยตลาด Strategy Analytics ออกรายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทวอทช์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2019 จำนวนส่งมอบเพิ่มขึ้นถึง 42% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เป็น 14.2 ล้านชิ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากความต้องการด้านฟิตเนสและตัววัดสุขภาพ จากฐานผู้ใช้สมาร์ทโฟนเดิม ผลักดันให้ยอดขายสมาร์ทวอทช์เพิ่มขึ้น
ส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ยังเป็นของแอปเปิลต่อไป ที่ 47.9% ตามด้วยซัมซุง 13.4% และ Fitbit ในอันดับ 3 ที่ 11.3%
ในภาพรวมนั้นมีเพียงแอปเปิลและซัมซุงที่ทำส่วนแบ่งยอดขายได้เพิ่มสูงขึ้น ส่วน Fitbit มีส่วนแบ่งที่ลดลง นักวิเคราะห์ของ Strategy Analytics จึงตั้งข้อสงสัยว่าหลังการขายกิจการให้กูเกิลนั้น Fitbit จะมีอนาคตอย่างไรต่อไป ซึ่งจะเห็นผลที่ส่วนแบ่งการตลาดในอนาคตนั่นเอง
ต่อจากรายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในไตรมาส 3 ปี 2019 ของ Canalys ก็มีบทวิเคราะห์แยกมาอีกฉบับว่าด้วยตลาดสมาร์ทโฟนในจีนโดยเฉพาะ ภาพรวมส่งมอบสมาร์ทโฟน 97.8 ล้านเครื่อง ลดลง 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2018
ส่วนที่น่าสนใจคือหัวเหว่ยเป็นผู้ผลิตรายเดียวจากทั้งหมด ที่มียอดส่งมอบเพิ่มขึ้นที่ 41.5 ล้านเครื่อง (+66%) ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 42.4%
อันดับ 2-3-4-5 คือ Vivo, Oppo, Xiaomi และแอปเปิลตามลำดับ โดยทุกรายมียอดส่งมอบลดลงตั้งแต่ 20-33% รวมทั้งผู้ผลิตรายอื่น ๆ ภาพรวมก็มียอดส่งมอบที่ลดลง
เว็บไซต์ BankMyCell ที่ให้บริการสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ นำเครื่องเก่ามาขายต่อหรืออัพเกรดเป็นเครื่องใหม่ เปิดเผยรายงานที่รวบรวมจากลูกค้ากว่า 38,000 คน ตั้งแต่ตุลาคมปี 2018 โดยโฟกัสไปที่ความผูกพันภักดี (loyalty) ของลูกค้าแอปเปิล พบว่าค่าความผูกพันลดลงถึง 15%
ข้อมูลพบว่ามีลูกค้าถึง 26% ที่นำ iPhone X มาขายเพื่อไปซื้อสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น ขณะที่ผู้ใช้ซัมซุง Galaxy S9 มีเพียง 7.7% เท่านั้นที่ย้ายไป iPhone ส่วน 92.3% ที่เหลือยังเลือกอยู่ในระบบปฏิบัติการ Android
BankMyCell บอกว่าค่าความผูกพันของ iPhone นั้นต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 โดยอยู่ที่ 73% เทียบกับปี 2017 ซึ่ง iPhone มีค่าความผูกพันสูงสุดถึง 92%
บริษัทวิจัย Harris Interactive ของฝรั่งเศส ได้เก็บรวบรวมข้อมูลบริการหลังการขาย จากเชนเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ Darty โดยเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับการซ่อมแซมสินค้าที่มีปัญหา ซึ่งยังอยู่ในช่วงรับประกัน โดยเป็นข้อมูลเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดต่าง ๆ รวมทั้งสมาร์ทโฟนด้วย
ข้อมูลพบว่าในช่วงระยะรับประกันสินค้า แบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีอัตราการเคลมแจ้งปัญหาต่ำที่สุด อันดับ 1 คือ Honor แบรนด์ลูกของ Huawei ส่วนอันดับ 2 ก็คือ Huawei เอง ตามด้วยอันดับที่ 3 คือ Apple
รายงานยังบอกว่าค่าเฉลี่ยที่คนเปลี่ยนสมาร์ทโฟนไปเป็นเครื่องใหม่อยู่ที่ราว 3 ปี
ที่มา: Phone Arena
บริษัทวิจัยตลาด Gartner รายงานตลาดสมาร์ทโฟนของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 ภาพรวมมียอดขายทั่วโลกรวม 408.4 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 โดยการเติบโตส่วนใหญ่มากรุ่นราคาประหยัด (entry-level) และรุ่นราคากลาง ขณะที่สินค้ากลุ่มบน มียอดขายที่ชะลอตัว ทั้งจากลูกเล่นเทคโนโลยีใหม่ที่มีเพิ่มเติมไม่มาก รวมทั้งราคาเครื่องที่เพิ่มสูงขึ้น
ไฮไลท์ตัวเลขของไตรมาสที่ผ่านมาคือแอปเปิล มียอดขาย 64.5 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งการตลาด 15.8% คิดเป็นอันดับ 2 รองจากซัมซุง โดยลดลงถึง 11.8% เป็นตัวเลขที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี ของแอปเปิล โดยมาจากยอดขายที่ลดลงในเกือบทุกภูมิภาคยกเว้นอเมริกาและเอเชีย (ไม่รวมจีน)
บริษัทวิจัย Above Avalon ออกรายงานระบุว่า AirPods กลายเป็นสินค้าของแอปเปิลที่มีการเติบโตของยอดขายสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในช่วง 2 ปีแรก นับตั้งแต่เริ่มวางจำหน่าย ที่น่าสนใจกว่านั้นในปีที่ผ่านมาช่วงเทศกาลวันหยุด อัตราการค้นหา AirPods บนกูเกิลก็เพิ่มขึ้นถึง 500% จากปีก่อนหน้า
สำหรับอันดับ 1 ของการเติบโตด้านยอดขายคือ iPad ซึ่งหากจำได้ ความนิยมของ iPad เพิ่มสูงขึ้นมากตั้งแต่แอปเปิลออก iPad 2 มาจนถึง iPad 3
IDC รายงานภาพรวมของตลาดสินค้าโครงสร้างพื้นฐานไอที (IT Infrastructure) สำหรับคลาวด์ ได้แก่ เซิร์ฟเวอร์, สตอเรจระดับองค์กร และสวิตช์อีเธอร์เน็ต ของไตรมาสที่ 3 ปี 2018 พบว่ามีการเติบโต 47.2% จากช่วงเดียวกันในปี 2017 มีรายได้รวมมากกว่า 16,800 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวรวมทั้งการขายอุปกรณ์สำหรับคลาวด์แบบ Public และ Private หากคิดตัวเลขรวมไปถึงระดับผู้ให้บริการคลาวด์ รายได้รวมจะอยู่ที่ 65,200 ล้านดอลลาร์
คลาวด์แบบ Public เป็นรายได้ส่วนใหญ่ของตลาดอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐาน คิดเป็น 68.8%
เมื่อวานนี้เป็นตัวเลขของ Gartner คราวนี้มาดูของ IDC บ้าง โดยภาพรวมตลาดพีซีของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 นั้น มียอดส่งมอบ 68.1 ล้านเครื่อง ลดลง 3.7% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ซึ่งแม้ IDC บอกว่าจะลดลงน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ แต่ก็ถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2016
IDC ให้เหตุผลเหมือนกับ Gartner โดยบอกว่า ปัญหาซีพียูขาดตลาดและความตึงเครียดของสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ส่งผลกระทบต่อยอดขายพีซีในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามอีกหลายปัจจัย ที่กระตุ้นให้ยอดขายพีซีเพิ่มขึ้น ทั้งการหยุดสนับสนุน Windows 7 ในปี 2020 ทำให้ต้องมีการอัพเกรดอุปกรณ์ และหลายประเทศก็ยังมียอดขายเพิ่มขึ้นเช่น ญี่ปุ่น
บริษัทวิจัยตลาด Gartner ออกรายงานภาพรวมตลาดพีซีในไตรมาสที่ 4 ปี 2018 มียอดส่งมอบรวม 68.6 ล้านเครื่อง ลดลง 4.3% จากช่วงเดียวกันในปี 2017 ขณะที่ภาพรวมตลอดปี 2018 ยอดส่งมอบ 259.4 ล้านเครื่อง ลดลง 1.3%
นักวิเคราะห์จาก Gartner บอกว่าช่วงต้นปี 2018 นั้น ตลาดพีซีมีสัญญาณที่ดี แต่ก็เจอปัจจัยใหม่ 2 อย่าง ทำให้กระทบต่อตัวเลขส่งมอบ นั่นคือปัญหาซีพียูขาดตลาดในช่วงปลายปี นอกจากนี้คือปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองในหลายประเทศ
ในไตรมาส 4/2018 ผู้ผลิตพีซี 3 อันดับแรกคือ เลอโนโว, เอชพี และเดลล์ ตามลำดับ โดยทั้งสามค่ายมีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันถึง 63% เพิ่มขึ้นจากปี 2017 ที่มีรวมกัน 59%
SquareTrade บริษัทรับประกันอุบัติเหตุที่เกิดกับโทรศัพท์ ออกรายงานผลสำรวจกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในอเมริกา พบข้อมูลน่าสนใจว่า 66% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน เคยทำอุปกรณ์เสียหายอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา และ 29% ก็เป็นกรณีของหน้าจอแตก ซึ่งเป็นกรณีอุปกรณ์เสียหายที่พบเจอมากที่สุด
ส่วนอันดับ 2 และ 3 เป็นปัญหาหน้าจอสัมผัสกดไม่ติด และขอบเครื่องเป็นรอย ตามลำดับ
เมื่อคำนวณตัวเลขจากผลสำรวจนี้กลับ ทำให้พบว่าคนอเมริกาทำหน้าจอโทรศัพท์แตกมากกว่า 50 ล้านครั้ง ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่าคนมักประเมินค่าซ่อมจอต่ำกว่าราคาจริง ทำให้ 67% ตัดสินใจไม่เปลี่ยนหน้าจอเมื่อรู้ราคาค่าซ่อม กรณีที่สมาร์ทโฟนยังพอใช้งานได้
MobData บริษัทวิจัยข้อมูลในจีน เผยรายงานการสำรวจลักษณะของผู้ใช้สมาร์ทโฟนแต่ละยี่ห้อในจีน พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า ผู้ใช้ iPhone ในจีนมีระดับการศึกษาน้อยกว่า มีสินทรัพย์ในครอบครองน้อยกว่า เมื่อเทียบกับผู้ใช้สมาร์ทโฟน Huawei หรือ Xiaomi
ข้อมูลจากการวิจัยระบุว่าภาพรวมของผู้ใช้ iPhone ในจีน คือผู้หญิงโสด อายุ 18-34 ปี ระดับการศึกษามัธยมศึกษา รายได้เดือนละ 3,000 หยวน ขณะที่ผู้ใช้ Huawei มักเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว อายุ 25-34 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี รายได้ต่อเดือน 5,000-20,000 หยวน มีแฟลตและรถยนต์เป็นของตนเอง ตัวเลขนี้คล้ายกับสำหรับ Xiaomi ขณะที่ Oppo จะน้อยกว่าอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังสูงกว่า iPhone
อินเทลเปิดผลการศึกษา ที่ร่วมมือกับบริษัทวิจัยตลาดโทรคมนาคม Ovum ถึงผลกระทบของเทคโนโลยี 5G กับอุตสาหกรรมบันเทิง โดยประเมินว่า 5G จะสร้างผลกระทบต่อธุรกิจสื่อบันเทิงอย่างมากใน 10 ปีข้างหน้า และสื่อที่ปรับตัวไม่ทันก็จะอยู่ในความเสี่ยง
ผลการศึกษาประเมินว่าแบนด์วิดท์ของ 5G นั้นจะเป็นของวิดีโอถึง 90% และด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้คอนเทนต์ที่ใช้ปริมาณข้อมูลสูงจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น อาทิ AR, VR และสื่อรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้น โดยประเมินว่า 5G จะสร้างรายได้ใหม่ให้กลุ่มสื่อบันเทิงราว 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ จากส่วนแบ่งของรายได้ใหม่ทั้งหมดราว 3 ล้านล้านดอลลาร์
บริษัทวิจัยตลาด Gartner ออกรายงานภาพรวมตลาดพีซีในไตรมาสที่ 3 ปี 2018 ยอดส่งมอบรวม 67.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ในปี 2017 ซึ่งเป็นแนวโน้มเดียวกับไตรมาสก่อนหน้านี้
Gartner มองว่าตลาดพีซียังเติบโตได้จากตลาดลูกค้าองค์กร เนื่องจากเข้าสู่ช่วงอัพเกรดฮาร์ดแวร์รองรับ Windows 10 ซึ่งจะยาวไปถึงปี 2020 ขณะที่ตลาดลูกค้าส่วนบุคคลยังคงมีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ยังมีปัญหาซีพียูขาดตลาดซึ่งส่งผลให้ราคาพีซีปรับเพิ่มขึ้น แต่ Gartner ยังไม่เห็นผลกระทบที่ชัดเจนนัก
บริษัทวิจัยตลาด Canalys ออกรายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทวอทช์ของไตรมาสที่ 2 ปี 2018 โดยเน้นที่ Apple Watch ระบุว่า Apple Watch ขายไปได้ในไตรมาสที่ผ่านมา 3.5 ล้านเรือน เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2017 ส่วนภาพรวมยอดขายสมาร์ทวอทช์สูงถึง 10 ล้านเรือน
อย่างไรก็ตามแม้ Apple Watch จะยังครองยอดขายสูงสุด แต่ส่วนแบ่งการตลาดก็ลดลงมาก อยู่ที่ 34% เทียบกับไตรมาส 1/2018 ที่ 43% เนื่องจากการเติบโตของคู่แข่ง ทั้ง Fitbit และ Garmin ตลอดจนแบรนด์อื่น ๆ
ข้อมูลที่น่าสนใจคือ Apple Watch ขายได้ในเอเชีย (ไม่รวมจีน) ถึง 2.5 แสนเรือน และ 60% ที่ขายได้เป็น Apple Watch ซีรี่ส์ 3 รุ่น LTE ซึ่งตอนนี้มีจำหน่ายไม่กี่ประเทศ เพราะต้องรับให้เชื่อมต่อกับเครือข่ายผู้ให้บริการแต่ละแห่ง
IDC ออกผลวิจัยตลาดสมาร์ทโฟนในช่วงไตรมาส 1/2018 ซึ่งในไตรมาสนี้พบว่าตลาดโดยรวมมียอดส่งมอบอยู่ที่ 334.3 ล้านหน่วย ลดลง 2.9% จากปีก่อนที่ 344.4 ล้านหน่วย โดยในไตรมาสนี้ตลาดจีนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายลดลง
กลุ่มผู้ผลิต 5 อันดับแรกนั้นมี Apple, Huawei และ Xiaomi ที่มียอดส่งมอบสมาร์ทโฟนสูงขึ้น โดยเฉพาะ Xiaomi เพิ่มขึ้นถึง 87.8% ส่วน Oppo และ Samsung มียอดส่งมอบลดลง แต่ถ้ามองในแง่ส่วนแบ่งตลาดแล้ว ในผู้ผลิต 5 อันดับแรกมี Oppo รายเดียวที่ส่วนแบ่งตลาดลดลง ส่วนผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่นนอกเหนือจาก 5 อันดับแรกเสียส่วนแบ่งการตลาดรวมแล้ว 6.5%
ในขณะที่ Netflix เดินกลยุทธ์ผลิตคอนเทนต์ขึ้นมาเองเพื่อฉายบนแพลตฟอร์ม ทำให้ลดความเสี่ยงในการพึ่งพาคอนเทนต์จากผู้ผลิตรายอื่น และคอนเทนต์เหล่านั้นก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี จนดูเหมือนว่า Netflix เลือกเดินถูกทาง แต่ผลสำรวจกลับให้มุมมองที่ตรงกันข้าม
บริษัทวิจัย 7Park Data เปิดเผยผลสำรวจผู้ชม Netflix ในอเมริกา พบว่าคอนเทนต์ที่กลุ่มตัวอย่างเลือกชม 80% คือซีรี่ส์ที่เคยฉายทางโทรทัศน์มาแล้ว ส่วน 20% เป็นคอนเทนต์ที่ Netflix ผลิตเพื่อฉายบนแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ โดยซีรี่ส์ที่ฉายทางโทรทัศน์ซึ่งมีคนดูย้อนหลังบน Netflix สูง อาทิ Breaking Bad, Grey’s Anatomy, The Blacklist, Criminal Minds, Friends
Cloudability ผู้พัฒนาเครื่องวิเคราะห์ และบริหารจัดการวางแผนค่าใช้จ่ายบน Amazon Web Services (AWS) เปิดเผยรายงาน State of Cloud 2018 โดยวิเคราะห์จากข้อมูลกว่า 1,500 บริษัท ที่มีการใช้จ่ายผ่าน AWS รวมกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ โดยมีข้อมูลน่าสนใจดังนี้
โดยส่วนแบ่งของบริการถึง 85% มาจากเพียง 4 บริการหลักเท่านั้น จากที่ AWS มีหลายร้อยบริการ โดย Elastic Compute Cloud (EC2) มีส่วนแบ่ง 58%, Elastic Block Store 9.9%, Relational Database Service (RDS) 9.3% และ Simple Storage Service (S3) 6.3%
ผลการศึกษาจากบริษัทวิจัย Consumer Intelligence Research Partners (CIRP) ล่าสุด เกี่ยวกับความภักดี (loyalty) ในการเลือกใช้ระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟน พบว่าอัตราความภักดี (ไม่ย้ายค่าย) ของ Android สูงกว่า iOS ซึ่งเป็นเช่นนี้มาระยะหนึ่งแล้ว
โดยตัวเลขล่าสุดนั้น Android มีระดับความภักดีที่ 91% ส่วน iOS อยู่ที่ 86% โดยกลุ่มตัวอย่างในการวัดมาจากผู้ใช้สมาร์ทโฟนในอเมริกา คิดย้อนหลังไป 12 เดือนว่าไม่มีการเปลี่ยนค่าย
ศูนย์ข้อมูลระดับไฮเปอร์สเกล คือศูนย์ข้อมูลที่ให้พลังประมวลผลอย่างมหาศาล ดำเนินการโดยบริษัทใหญ่ ๆ อย่างเช่น Apple, Amazon, Facebook, Google ยังคงเป็นที่นิยมท่ามกลางความต้องการพลังงานในการประมวลผลที่สูงขึ้นและความต้องการเก็บข้อมูลที่มากยิ่งขึ้น มีข้อมูลล่าสุดจาก Synergy Research เผยว่าในปี 2017 นี้ถือเป็นปีที่ศูนย์ข้อมูลแบบไฮเปอร์สเกลมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก และไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลยในปีหน้า
บริษัทวิจัยตลาด Canalys รายงานว่าอินเดียตอนนี้ได้ขึ้นมาเป็นตลาดสมาร์ทโฟนรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกแทนที่อเมริกาแล้ว (อันดับ 1 คือจีน) โดยยอดขายสมาร์ทโฟนช่วงที่ผ่านมาถึง 40 ล้านเครื่อง เติบโตถึง 23% จากปีก่อน
ส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ยอดนิยมในอินเดียนั้นนำโดย ซัมซุง และ Xiaomi โดยสองแบรนด์นี้รวมกันมีส่วนแบ่งมากกว่า 50% ตามด้วย Vivo, Oppo และ Lenovo
Ishan Dutt นักวิเคราะห์ Canalys บอกว่าตัวเลขนี้ช่วยยืนยันว่าตลาดสมาร์ทโฟนในอินเดียนั้นยังมีโอกาสให้โตได้อีกมาก ถึงแม้ช่องทางการขายมือถือจะมีความซับซ้อนยุ่งยากกว่าประเทศอื่น แต่ก็เปิดกว้างให้แบรนด์ใหม่สามารถบุกตลาดได้เสมอ โดยกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาถูกจะขายดีมากที่สุด (ทั้งซัมซุงและ Xiaomi ที่ขายดีเป็นกลุ่มสินค้าระดับล่าง)
Gartner และ IDC บริษัทวิจัยด้านการตลาดได้ออกรายงานยอดการส่งมอบพีซีในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2017 โดยจากข้อมูลทั้งสองบริษัทก็พบว่า ตลาดพีซีโดยรวมก็ยังคงมียอดขายลดลงทั่วโลก
Gartner ประมาณการว่า ยอดขายพีซีทั่วโลกหดตัวลง 3.6% เหลือ 67 ล้านหน่วย โดยยอดการส่งมอบของผู้ผลิตที่มีส่วนแบ่งมากที่สุด 6 ราย มีเพียง HP เท่านั้นที่ยอดส่งมอบเพิ่มขึ้น 4.4% ในขณะที่ผู้ผลิตรายอื่นทั้ง Lenovo, Dell, Asus, Apple และ Acer ยอดส่งมอบลดลงทั้งหมด โดยมี Asus ที่ยอดส่งมอบลดลงสูงที่สุดที่ 9% ส่วนผู้ผลิตรายอื่น ๆ มียอดส่งมอบรวมกันอยู่ที่ 14.08 ล้านหน่วย ลดลง 11.4%
Google ประเทศไทย ร่วมกับบริษัทวิจัยการตลาด Kantar TNS สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคเวลาซื้อสินค้าของใช้ทั่วไป ส่วนใหญ่ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลสินค้าที่จะซื้อ และกลุ่มครัวเรือนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีศักยภาพช่วยเพิ่มมูลค่าการตลาดของสินค้าอุปโภคบริโภคได้
บริษัทวิจัยตลาด Ipsos ของฝรั่งเศสเปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้ระบบจ่ายเงินผ่านมือถือของคนจีน พบข้อมูลน่าสนใจดังนี้
ผลสำรวจนี้สะท้อนว่าจีนกลายเป็นประเทศที่มีการเติบโตของการจ่ายเงินผ่านมือถือสูง โดยตัวเลขเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลังนั้น โตถึงปีละ 195% ซึ่งมี WeChat Pay ครองส่วนแบ่งการจ่ายเงินสูงสุด มีผู้ใช้งาน 938 ล้านคน
ที่ผ่านมาเรามักคุ้นเคยว่าวัยรุ่นอเมริกาไม่เล่น Facebook พวกเขาใช้ Snapchat แต่ข้อมูลนี้ดูแตกต่างไปสักหน่อย โดย Giuseppe Stuto ซีอีโอของ Fam ได้เผยผลการศึกษาพบว่า วัยรุ่นเฉพาะในอเมริกา มีแอพแชทหลักยอดนิยมคือ iMessage ที่เป็นแอพพื้นฐานบน iOS
Stuto ให้ข้อมูลเสริมสำหรับทุกคนที่เริ่มส่ายหัวว่า ถ้าดูเฉพาะวัยรุ่นในอเมริกา สมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งมากที่สุดคือ iPhone ซึ่งมีถึง 75% ฉะนั้น iMessage จึงได้เปรียบมากในฐานะที่เป็นแอพพื้นฐานมีในไอโฟนทุกเรื่อง และลักษณะของแอพก็ต่อยอดจาก SMS