ต่อจากข่าวเก่า Motorola Shadow: หรือว่ามันคือ Nexus Two? ในงานแถลงข่าวผลประกอบการของ Motorola ซีอีโอ Sanjay Jha ให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทจะออกมือถือทั้งหมด 20 รุ่นในปีนี้ และมีอยู่รุ่นหนึ่งที่ "ขายตรงแก่ผู้ใช้ โดยทำร่วมกับกูเกิล"
รายละเอียดอื่นๆ ยังไม่มีในตอนนี้ แต่นี่แสดงว่ายุทธศาสตร์ขายตรงของกูเกิลใน Nexus One สร้างแรงกระเพื่อมให้กับอุตสาหกรรมมือถือได้ไม่น้อย
Sanjay Jha ยังบอกว่า ตอนนี้ Motorola เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนไปสู่บริษัทที่ขายสมาร์ทโฟนเท่านั้น หนทางยังอีกยาวไกล ไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทขายมือถือได้ 12 ล้านเครื่อง โดยเป็น Android จำนวน 2 ล้านเครื่อง
ดูเหมือน Avatar จะสามารถสร้างกระแสประสบการณ์สามมิติไปได้ทั่วทุกวงการ ล่าสุด Sky เตรียมถ่ายทอดสดฟุตบอลคู่สำคัญ ระหว่างอาร์เซนอลพบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์นี้เป็นระบบสามมิติ เป็นครั้งแรกของโลก
โดยการถ่ายทอดสดครั้งนี้จะถ่ายทอดในวงจำกัดเพียง 9 ผับในแถบประเทศอังกฤษ ซึ่งได้มีการติดตั้งทีวีที่รองรับระบบสามมิติไว้แล้ว โดยเบื้องหลังการถ่ายทำเป็นระบบสามมิตินั้น ทีมงานของ Sky ต้องบินไปศึกษางานและขอคำแนะนำจาก เจมส์ แคเมรอน เลยทีเดียว
ทั้งนี้ Sky เตรียมจะเปิดตัวช่องที่ถ่ายทอดรายการสามมิติตลอด 24 ชั่วโมงในเดือนเมษายนนี้
ไมโครซอฟท์เผยผลประกอบการไตรมาสที่สอง ประจำปีงบประมาณ 2010 (ไตรมาสสุดท้ายของปี 2009 ถ้าเทียบเป็นปีปกติ) ปรากฎว่ากำไรเพิ่มจาก 5.9 พันล้านดอลลาร์ มาเป็น 8.5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
เหตุผลสำคัญก็คือ Windows 7 นั่นเอง ถ้านับเฉพาะรายได้รวมของแผนก Windows ถือว่าโตขึ้นถึง 74% ไมโครซอฟท์รายงานว่าขาย Windows 7 ออกไปแล้ว 60 ล้านชุด
ส่วนแผนก Office ซึ่งลดลงเล็กน้อย แต่ยังทำรายได้ให้ไมโครซอฟท์เป็นกอบเป็นกำเช่นเดิม
ข่าวเล็กๆ ที่สำคัญอันหนึ่งท่ามกลางข่าว iPad จำนวนมหาศาล คือ บริษัท Fujitsu นั้นเคยขายอุปกรณ์พกพาที่เป็นจอสัมผัสชื่อ iPad ตั้งแต่ปี 2002 และเคยขอยื่นจดเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าเสียด้วย
Masahiro Yamane หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Fujitsu ให้สัมภาษณ์ว่า "ชื่อนี้เป็นของเรา" และบริษัท Fujitsu เตรียมรับมือการวางขาย iPad ของแอปเปิลล่วงหน้า โดยปรึกษากับทนายความรอไว้ก่อนแล้ว
Fujitsu iPad มีจอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว ใช้ระบบปฏิบัติการ CE.NET ของไมโครซอฟท์ มี Wi-Fi และ Bluetooth อย่างไรก็ตามราคาขายอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์
ถ้าเครื่องของคุณไม่แรงพอที่จะเปิดกราฟิกให้สุดๆ เท่าที่หวังจริงๆ เมนบอร์ด W555 จาก EVGA อาจจะทำให้หลายๆ คนกลับไปใช้เครื่องเดสก์ทอปอีกครั้งได้ เพราะเมนบอร์ดตัวนี้รองรับการ์ด PCIe ถึง 7 ช่อง
เมนบอร์ดตัวนี้รองรับซ็อกเก็ต LGA1366 ถึงสองซ็อกเก็ต แต่เพราะเหตุนี้ถ้าจะใส่ซีพียูทั้งสองช่องจะต้องใช้ชิป Xeon ราคาแพงเท่านั้นเพราะ Core i7 นั้นมี QPI เพียงหนึ่งชุดไว้ต่อกับเมนบอร์ด ขณะที่ Xeon มีสองชุดเพื่อต่อกันเองระหว่างซีพียู
PCIe x16 ทั้ง 7 ช่องไม่สามารถทำงานเต็มที่ได้พร้อมกันโดยมีให้เลือกสองแบบคือ x16 รองรับได้ 5 ช่องคือ 1, 3, 5, 7 หรือจะใส่การ์ด x8 จำนวน 6 ใบและการ์ด x16 ในช่องที่ 7 และเนื่องจากเป็นชิป nForce ทำให้เลือกใช้การต่อขนานแบบ SLI หรือ CrossFire ก็ได้
Evan Williams ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ได้ขึ้นพูดในงาน World Economic Forum ว่าบริษัทกำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อต่อต้านการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอยู่
Evan ยอมรับว่ามีการบล็อคทวิตเตอร์อย่างน้อยก็บางส่วนในจีนและประเทศอื่นๆ จำนวนหนึ่ง และเขาคิดว่าทวิตเตอร์มีข้อได้เปรียบในเรื่องของการเปิดให้เข้าถึงได้หลายช่องทางทำให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ไม่สามารถปิดกั้นได้
เมื่อครั้งเกิดปัญหาในอิหร่านนั้น รัฐบาลถึงกับปิดอินเทอร์เน็ตไปทั้งประเทศ ก็น่าสนใจว่าเทคโนโลยีนี้จะมีความเหนือชั้นอย่างไรกัน
ไม่มีรายละเอียดของเทคโนโลยีนี้เพิ่มเติม แต่หวังว่ามันจะไม่ทำให้ทวิตเตอร์ล่มบ่อยขึ้น!
ที่มา - IBTimes
ข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad เสียหน่อย เป็นที่รู้กันแล้วว่า iPad นั้นใช้ซีพียูของแอปเปิลเองที่ชื่อว่า Apple A4 โดยมีสองประเด็นคือสถาปัตยกรรมภายในนั้นยังคงเป็น ARM เช่นเดียวกับ iPhone ส่วนนี้ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะระบบซอฟต์แวร์ของ iPhone นั้นเป็น Native-Application ทำให้การเปลี่ยนซีพียูทำได้ยากพอสมควร แต่อีกเรื่องหนึ่งคือซีพียูตัวนี้ถูกผลิตขึ้นโดยซัมซุง ด้วยกระบวนการ 45 นาโนเมตร
ชิป A4 นั้นนอกจากจะมี Cortex-A9 เป็นแกนกลางภายในแล้ว ยังมี GPU Mali ที่ซื้อการออกแบบมาจาก ARM เช่นกันทั้งหมดนี้ทำให้ Apple A4 แทบไม่ต่างอะไรจาก Qualcomm Snapdragon และ NVIDIA Tegra ที่พิเศษสักหน่อยคือมีแอปเปิลเป็นผู้ใช้รายเดียว
ช่วงปีสองปีมานี้แม้โนเกียจะทำกำไรในแดนบวกเสมอมาแต่อัตรากำไรก็ลดลงเรื่อยๆ เช่นกัน แต่ในไตรมาสที่สี่ที่ผ่านมาโนเกียก็กลับมาทำกำไรได้ดีอีกครั้ง แม้ว่ายอดขายรวมจะตกลงไปบ้าง
ยอดขายในปีนี้ของโนเกียอยู่ที่ 11,988 ล้านยูโรขณะที่ปลายปีที่แล้วอยู่ที่ 12,655 ล้านยูโรลดลง 5.3% แต่กำไรนั้นเพิ่มขึ้นจาก 1,239 ล้านยูโรมาอยู่ที่ 1,473 ล้านยูโร ทำให้ผลกำไรกลับมาอยู่ที่เลขสองหลักเป็น 12.3% อีกครั้ง
ผลกำไรที่ดีนี้มาจากการลดต้นทุนอย่างหนัก ในแง่ของปริมาณแล้วโนเกียยังทำตลาดได้เพิ่มขึ้นเป็น 126.9 ล้านชุดเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 12% แสดงว่าแม้ยอดขายดีขึ้นแต่ราคาต่อชิ้นนั้นกำลังต่ำลงเรื่อยๆ (แต่ยังดีที่ยังทำกำไรได้ดีขึ้น)
และแล้ว การควบกิจการออราเคิล-ซันก็เสร็จสมบูรณ์ ซันกลายเป็นบริษัทลูกของออราเคิล และออราเคิลได้เผยแผนการเกี่ยวกับอนาคตของซันในวันนี้ (แม้ว่าจะโดนข่าว iPad กลบซะเกือบมิด แต่ก็ยังถือว่าสำคัญมากในโลกไอทีองค์กร)
ออราเคิลจะยังคงแบรนด์ "ซัน" ไว้เหมือนเดิม แต่จะปรับแบรนด์ใหม่หมด โดยสัญญาว่าจะรวมเทคโนโลยีของออราเคิลกับซันเข้าด้วยกันเป็นชุดเดียว ที่การันตีการทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับเทคโนโลยีแต่ละอันมีแผนการเฉพาะของตัวเองดังนี้
Java
ภาษาจาวายังเป็นหัวใจสำคัญในการซื้อกิจการรอบนี้ ออราเคิลสัญญาว่าจะพัฒนาจาวาต่อไป
คณะกรรมการด้านข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดาได้เริ่มทำการสอบสวนกรณีเว็บไซต์ Facebook บังคับให้ผู้ใช้ตั้งค่าความเป็นส่วนบุคคลใหม่เมื่อกลางเดือนธันวาคม 2552 สืบเนื่องจากการร้องเรียนของผู้ใช้ Facebook ว่าค่าปริยายที่เว็บไซต์กำหนดให้ใหม่โดยอัตโนมัติทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาถูกเปิดเผยจนกลายเป็นข้อมูลสาธารณะ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2552 รัฐสภาแคนาดาได้เคยเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบนเว็บไซต์ Facebook โดยได้แนะนำให้เว็บไซต์แก้ไขการกำหนดค่าบางรายการ เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกเปิดเผยโดยผู้ใช้ไม่ต้องการ อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กลับกลายเป็นการทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้ไม่ต้องการเปิดเผยเป็นสาธารณะมากกว่าเดิม
ในวินาทีนี้คงไม่มีกระแสอะไรจะแรงกว่าเรื่องของ iPad หรือ tablet ตัวใหม่ของแอปเปิลที่ใครๆ ก็ลือกันมานานแสนนาน กระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ทั้งแง่บวกและลบต่างหลั่งไหลกันมา ตกลงแล้ว iPad นี่คืออะไร และจะสร้างการเปลี่ยนแปลงอะไรให้กับโลกใบนี้?
อย่างที่หลายๆ ที่บอกกัน ไม่มีคำอธิบายอะไรที่ดีกว่าการบอกว่า iPad คือ iPhone / iPod touch ขนาดยักษ์ ด้วยรูปลักษณ์พื้นฐานที่แทบจะถอดแบบกันมา ทั้งกรอบดำ จอขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ทั้งหมด ปุ่ม Home ที่อยู่ด้านล่าง พร้อมปุ่มและพอร์ทต่างๆ ที่แทบจะไม่แตกต่างกัน สิ่งเดียวที่แตกต่าง คือขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าเดิมมาก ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว iPad มีความหนาสูงสุดอยู่ที่ครึ่งนิ้ว และมีน้ำหนักประมาณ 0.68 กิโลกรัม หรือครึ่งหนึ่งของ MacBook Air พอดี
หลังจากที่เริ่มขาย Nexus One มาได้เกือบเดือนแล้ว กูเกิลก็เอา Desktop Dock ออกมาขายแล้วครับ
สิ่งที่จะมีใน Dock ตัวนี้คือ
โดยเมื่อเราวาง Nexus One บน Dock ตัวนี้ มือถือก็จะเปิดโปรแกรม Clock ไว้ (โปรแกรม Clock นี่ก็จะแสดงเวลา, สภาพอากาศ, แบตเตอรี่ และมีเมนูไปยัง Alarm, Slide Show, Songs และ Home ครับ)
ส่วนตัวแล้ว ในราคา $45 ผมว่ามันต่างกับการเสียบสาย USB แค่ความสะดวกในการชาร์จ และสายแปลงจาก 3.5mm เป็น RCA ซึ่งถ้าที่บ้านไม่มี Stereo ก็คงไม่ได้ใช้
หลังจากแอปเปิลได้เปิดตัว iPad และได้ปล่อย iPhone SDK 3.2 Beta ให้กับนักพัฒนาที่เป็นสมาชิก iPhone Developer Program ซึ่งเวอร์ชันนี้มีความสามารถในการจำลองเครื่อง iPad ได้ ซึ่งหลังจากลองทดสอบใช้งานโดยคร่าวแล้ว ผมเลยขอเขียนรีวิวสั้นๆ ให้ทุกท่านชมกันครับ
คำเตือน
การพัฒนาโปรแกรมเพื่อใช้กับ iPhone OS 3.2 จะไม่สามารถนำไปทดสอบกับเครื่องจริงได้ ถ้าหากท่านใดต้องการพัฒนาโปรแกรมสำหรับ iPhone OS 3.1.2 เพื่อส่งขึ้นไปยัง App Store อย่าพึ่งติดตั้ง iPhone SDK เวอร์ชันนี้นะครับ เพราะจะทำให้ท่านไม่สามารถส่งโปรแกรมขึ้นไปยัง App Store ได้ หรืออีกวิธีคือให้ลง SDK ทั้งสองตัวในเครื่องเดียวก็ได้ครับ
iPhone SDK 3.2 Beta สามารถติดตั้งได้เฉพาะบน Mac OSX 10.6.2 เท่านั้นนะครับ
แอปเปิลเปิดตัวแท็บเล็ตตามคาด สรุปว่าใช้ชื่อ "iPad" ตามที่เก็งกันไว้ในช่วงแรกๆ (ก่อนที่ชื่อ iSlate จะเริ่มเป็นข่าว)
หน้าตาของมันคงหาคำอธิบายใดๆ ที่ดีกว่า "iPhone ยักษ์" ไม่ได้ สเปกเบื้องต้นมีดังนี้
สเปกแบบเต็มๆ ดูได้จาก Apple iPad
ถ้าคุณเป็นวิศวกรเครือข่ายที่เบื่ออากาศร้อนเมืองไทย โดยเฉพาะวันที่แอร์ในศูนย์ข้อมูลเสีย ตอนนี้รัฐบาลออสเตรเลียกำลังรับสมัครวิศวกรเครือข่ายเพื่อดูแลการสื่อสารให้กับทีมงานวิจัยที่ขั้วโลกใต้ โดยต้องดูแลอุปกรณ์ทุกอย่างตั้งแต่วิทยุ HF, VHF ไปจนถึงโทรศัพท์ และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ชื่อตำแหน่งอย่างเป็นทางการที่รับสมัครได้แก่
วันนี้กูเกิลได้ปล่อยอัพเดต Google Voice เว็บแอพพลิเคชันสำหรับ Palm Pre และไอโฟน ฟังก์ชันครบครันเหมือนกับเวอร์ชั่นบนคอมพิวเตอร์ ทั้งโทรออก-รับสาย ส่งข้อความสั้น ฟังวอยซ์เมล ตั้งค่า เปิดดูสมุดรายชื่อ หน้าตาดูได้ท้ายข่าว
ที่มา: Gizmodo
บริษัท Canonical ได้ประกาศว่า Ubuntu รุ่นหน้า 10.04 หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Lucid Lynx จะใช้ยาฮูเป็น search engine หลักแทนกูเกิล นอกจากนี้ยังรวมถึงหน้า start page ของ Firefox และติดตั้ง Yahoo! Toolbar มาให้พร้อมสรรพ
การประกาศแบบนี้ชัดเจนว่า Canonical นั้นได้รับเงินจากยาฮูเป็นสิ่งตอบแทน (ซึ่งกูเกิลก็ทำกับ Firefox เช่นกัน) แม้จะไม่เปิดเผยมูลค่า แต่ตัวแทนของ Canonical บอกว่าดีลกับยาฮูจะช่วยให้มีเงินมาสนับสนุนการพัฒนาของ Ubuntu มากขึ้น อย่างไรก็ตามถ้าผู้ใช้ไม่ชอบ ก็สามารถเปลี่ยนกลับเป็นกูเกิลได้ง่าย
ก่อนหน้านี้ Canonical ได้เงินจากกูเกิลอยู่บ้าง การเปลี่ยนมาใช้ยาฮูแปลว่ายาฮูจ่ายดีกว่า
ไม่ใช่ข่าวที่น่าตื่นเต้นมากนัก เพราะกูเกิลเปิดให้ทดสอบ Chrome 4.0 ผ่าน developer channel มาได้สักระยะแล้ว วันนี้ 4.0 รุ่นเสถียรสำหรับวินโดวส์ออกแล้วครับ
ฟีเจอร์ที่สำคัญใน Chrome 4.0 คือ ระบบ Extensions เช่นเดียวกับ Firefox, Bookmark sync ซึ่งเก็บไว้ใน Google Docs ส่วนในระดับการแสดงผล ก็รองรับฟีเจอร์ใน HTML5 มากขึ้น, เพิ่มความเร็วของ DOM อีก 42%
สำหรับเวอร์ชันลินุกซ์สามารถใช้ Extensions ได้แล้ว ส่วนแมคต้องรออีกสักนิด ใครมี Extension เจ๋งๆ แนะนำ ไปคุยกันได้ที่ ชาว Blognone ใช้ Chrome Extension ตัวไหนกันบ้าง
เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 ชม. ก็จะถึงเวลาการเปิดตัวเครื่อง Tablet ของทาง Apple แต่ปรากฎว่าวันนี้ทาง Engadget ได้ลงภาพของเครื่อง Tablet ที่เหมือนกับถูกปักหมุดเอาไว้กับโต๊ะ แล้วเปิดโปรแกรม Google Maps ของ iPhone อยู่
นอกจากนี้ Engadget ยังออกมาบอกอีกว่าเขาได้รับรายงานถึงราคาของ Apple Tablet ว่าจะอยู่ที่ $800 ถ้าซื้อแบบติดสัญญากับ Verizon และ $1000 ถ้าซื้อแบบไม่ติดสัญญา โดยจะมาพร้อมกับความกว้างของจอขนาด 10''
ในส่วนของชื่อนั้น ยังไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด โดยที่มีข่าวออกมาว่าทางการภายในของ Apple นั้นยังคงเรียกมันด้วยชื่อโค้ดเนมว่า K48 อยู่
ในระหว่างที่ CEO ของ McGraw-Hill ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ถึงผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วตามปกติ ปรากฏว่าช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถามถึงความเห็นเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องแท็บเล็ตตัวใหม่ของแอปเปิล ซึ่ง Terry McGraw ก็เปิดเผยข้อมูลอย่างฉะฉานว่า แอปเปิลจะเปิดตัวแท็บเล็ตตัวนี้ในวันพุธ และแท็บเล็ตจะทำงานบน iPhone OS อีกด้วย
McGraw-Hill เป็นบริษัทสื่อสิ่งพิมพ์รายใหญ่ในสหรัฐ คาดกันว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จะมี e-book บนแท็บเล็ตของแอปเปิลเช่นกัน
Financial Times รายงานจากการให้สัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญจาก McAfee ว่า แฮกเกอร์ที่โจมตีกูเกิลและอีกหลายบริษัทได้เลือกพนักงานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ จากนั้นจึงเพิ่ม (add) พนักงานเหล่านั้นผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ แล้วก็แฮกเอาแอ็กเคานต์ของพนักงานเหล่านั้นไป จากนั้นแฮกเกอร์จะส่งมัลแวร์โดยใช้แอ็กเคานต์ที่แฮกได้มาไปยังเป้าหมายที่แท้จริง ซึ่งมีโอกาสสูงที่เป้าหมายจะคลิกลิงก์ที่ได้รับการจากโปรแกรม IM จากเพื่อนหรือคนที่รู้จัก โดยมัลแวร์ดังกล่าวใช้ช่องโหว่ของอินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ที่ไมโครซอฟท์เพึ่งปล่อยแพตช์มาอุดไปเมื่อไม่นานมานี้
ต่อเนื่องจาก Jonathan Schwartz เตรียมลงจากตำแหน่งซีอีโอของซัน ทางฝั่งผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโออย่าง Scott McNealy ก็ได้เขียนจดหมายอำลาถึงพนักงานของซันทุกคน
หัวจดหมายใช้คำว่า "Thanks for a great 28 years" (ขอบคุณที่ร่วมทำงานกันมาตลอด 28 ปีนี้) ในจดหมายเขากล่าวว่า เขาไม่เคยฝันถึงการถูกซื้อกิจการโดยออราเคิล แต่มันก็เป็นทางออกที่ดีทางหนึ่งของบริษัท การรวมกับออราเคิลถือเป็นโอกาสสำคัญในการทำธุรกิจ เพราะออราเคิลนั้นแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ถ้ามีเทคโนโลยีของซันไปต่อยอด ก็น่าจะไปรุ่ง
DTAC ได้ยื่นเรื่องไปยัง กสท. เพื่อขอเปิดบริการ 3G (HSPA) บนคลื่นความถี่เดิมทั่วกรุงเทพมหานครแบบไม่คิดค่าบริการ หลังจากได้ทดลองเปิดบริการไปในบางพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา ผลตอบแทนที่คาดหวังไม่ใช่รายได้ แต่เป็นการสร้างชุมชนการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และรักษาฐานลูกค้าไม่ให้ไหลออกไปใช้ 3G ของระบบอื่น
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC พูดถึงภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมปีนี้ที่ใบอนุญาตการให้บริการ 3G ยังไร้ความชัดเจนว่า
แข่งขันกันที่ความเร็วของบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย จะเป็นปีที่ผู้ใช้จะมีโอกาสได้ใช้บริการฟรีเหมือนรถเมล์ฟรี
ทางด้าน กสท. เจ้าของสัมปทาน บอกว่าอนุญาตให้ขยายพื้นที่ให้บริการเท่าใดก็ได้ ถ้าหากเป็นการให้บริการฟรี
หลังจากที่รอกันมาเป็นเวลานาน(มาก) สำหรับ RSS และ Atom บน Chrome และวันนี้ในที่สุดก็ได้มีการแก้ไขปัญหานี้ออกมา โดยการทำเป็น Extension สำหรับอ่าน RSS แยกต่างห่างกับตัวเบราว์เซอร์ เผื่อว่าสำหรับใครที่ไม่ได้ต้องการที่จะอ่าน RSS ผ่านเบราว์เซอร์ (เช่นผมคนนึงล่ะ) จะได้ไม่ต้องมีความสามารถนี้ติดมา
สำหรับใครที่ต้องการความสามารถนี้ ก็สามารถไปหามาติดตั้งได้จาก ที่นี่ แต่ว่าจะต้องเป็น Chrome รุ่น 4 หรือสูงกว่าเท่านั้น
ที่มา crbug.com
กูเกิลนั้นไม่เคยเปิดเผยว่าจ่ายเงินให้คนติด AdSense เป็นอัตราเท่าไรเมื่อเทียบกับเงินที่กูเกิลได้รับจากผู้ลงโฆษณา แต่เราพอจะหาตัวเลขนี้เองได้ผ่านงบการเงินประจำไตรมาสของกูเกิล
เว็บไซต์ labnol.org ได้ลองเอารายได้จาก AdSense ไปหารค่าใช้จ่ายที่กูเกิลต้องจ่ายให้เจ้าของเว็บผู้ติดโฆษณาเพื่อหาสัดส่วนนี้ และพบว่าในแต่ละไตรมาสของปี 2009 กูเกิลจ่ายเงินให้คนติด AdSense น้อยลงเรื่อยๆ
แม้ว่าการลดลงจะไม่เยอะนัก คือ 75% ในไตรมาสแรก ลงมาเหลือ 72% ในไตรมาสสุดท้าย ถ้าเทียบกับคู่แข่งแล้ว กูเกิลอาจจะเป็นรายที่จ่ายเยอะ แต่ผู้ติด AdSense ก็ควรพึงระวังว่า ถ้าไปในอัตรานี้เรื่อยๆ เดี๋ยวมันอาจจะน้อยกว่าแทน