สองผู้ก่อตั้งกูเกิลได้ประกาศว่ากำลังเตรียมการขายหุ้นของบริษัทออกทั้งหมด 10 ล้านหุ้นมูลค่่ากว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ (คิดตามราคาปัจจุบัน) ในระยะเวลา 5 ปีเพื่อลดผลกระทบต่อราคาหุ้นในตลาด
ราคาหุ้นของกูเกิลเคยขึ้นสูงสุดถึง 629.51 ดอลาร์ต่อหุ้นและเคยตกต่ำที่สุดเหลือแค่ 289.45 ดอลลาร์ต่อหุ้นเมื่อปลายปี 2008 ดังนั้นมูลค่าเป็นเงินสดที่สองคู่หูจะได้รับยังเป็นแค่มูลค่าประมาณเท่านั้น
สิทธิในการออกเสียงของทั้งคู่หลังจากการขายหุ้นจะอยู่ที่ 48% ส่วน Eric Schmidt นั้ันมีหุ้นอยู่ประมาณ 10%
ที่มา - MarketWatch
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาฮิลลารี คลินตันได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อต้านการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต และยังระบุว่าสหรัฐฯ จะสนับสนุนเครื่องมือเพื่อเปิดเสรีภาพอินเทอร์เน็ตให้กับประชาชนที่ถูกปิดกั้นเหล่านั้น
แม้ว่าฮิลลารีจะกล่าวสุนทรพจน์แนวนี้มาหลายครั้ง แต่ในบรรยากาศอันอึมครึมระหว่างจีนและกูเกิล ทางการจีนซึ่งกำลังตกเป็นเป้าสายตาว่ากำลังละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างซึ่งหน้าก็ทนไม่ได้จนออกมาตอบโต้ว่าให้ทางสหรัฐฯ หยุดใช้เสรีภาพอินเทอร์เน็ตมาเป็นเครื่องมือในการโจมตีจีนอย่างไร้เหตุผล โดยรัฐธรรมนูญจีนนั้นได้มีการปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอยู่แล้ว แต่จีนนั้นมีสถานการณ์ภายในและวัฒนธรรมของตัวเอง (ที่ต่างไปจากสหรัฐฯ)
หลังจากที่ Google ได้ปล่อย Google Nexus One (ไม่มีขายในไทยในตอนนี้ แต่มีเครื่องหิ้วที่มาบุญครอง)ฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับ smartphone ก็คือ multi-touch (คำนี้ Apple ได้จดสิทธิบัตรไว้ในอเมริกา) ซึ่งแน่นอนไม่ช้าไม่เร็วต้องมีคนพยายามแฮ็ค
ซึ่งตอนนี้มันก็ทำได้แล้ว คุณ Cyanogen แฮ็ค Nexus One ทำให้เว็บเบราเซอร์สามารถใช้ multi-touch ได้ และตอนนี้กำลังพยายามพัฒนาสำหรับโปรแกรมตัวอื่นต่อไป
คำถามก็คือ ทำไมเจ้า Nexus One ไม่ทำ multi-touch ออกมาซะตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง คำตอบส่วนหนึ่งที่น่าจะเป็นก็คือ การติดเรื่องสิทธิบัตรของ Apple และข่าวลือเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่าง Apple กับ Google นั่นเองว่าGoogle เองว่าจะไม่ทำฟีเจอร์ multi-touch
เรื่องนี้มีอยู่ว่า ระหว่างที่คุณสตีฟ บัลเมอร์ไปเยือนมหาวิทยาลัย Trevecca Nazarene มีนักศึกษาคนหนึ่งขอให้คุณบัลเมอร์เซ็นบนแล็ปท็อปของเขาซึ่งเป็น MacBook Pro คุณบัลเมอร์ก็หัวเราะแล้วก็เซ็นให้ โดยเขาได้เขียนว่า
Need a new one? -- Steve Ballmer (อยากได้เครื่องใหม่ไหม -- สตีฟ บัลเมอร์)
ดูบรรยากาศตอนเซ็นได้จากคลิปและรูปภาพใต้ข่าวแล้วกันครับ
ที่มา: Gizmodo
CodePlex เว็บที่ให้บริการด้าน Project Hosting สำหรับชุมชนโอเพ่นซอร์ส ของบริษัทไมโครซอฟท์ ได้เพิ่ม Mercurial เข้ามาเป็นตัวเลือกในการสร้าง Source Control Repository
โดยผู้ใช้ที่สร้างโครงการใหม่ สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ Mercurial หรือ Team Foundation Server (TFS) ของไมโครซอฟท์
ซึ่งแต่เดิมนั้น CodePlex สนับสนุนเฉพาะ TFS ซึ่งมีอยู่ในรุ่นสูงสุดของ Visual Studio แต่ได้มีการพัฒนา SvnBridge เพื่อให้ผู้ใช้ Subversion สามารถใช้งานผ่าน Subversion Client ได้
ไม่ทันไรหลังจากกรณีที่ทั้งโนเกียและแอปเปิลต่างร้องขอให้ ITC แบนสินค้าของอีกฝั่งเนื่องจากการละเมิดสิทธิบัตรต่าง ๆ ล่าสุด โมโตโรล่าได้ออกมาขอให้ ITC แบนการนำเข้าสินค้า BlackBerry ของบริษัท RIM เนื่องจากโมโตฯคิดว่า RIM ได้ทำการละเมิดสิทธิบัตรต่าง ๆ ของโมโตฯ
โดยสิทธิบัตรที่ถูกอ้างว่าละเมิดนั้น เป็นสิทธิบัตรเกี่ยวกับการใช้ Wi-Fi, การพัฒนา App, UI และ Power Management
Engadget คาดว่าอีกไม่นานเราก็คงจะเห็น RIM ออกมาขอร้องให้ ITC ทำการแบนการนำเข้าสินค้าของโมโตโรล่าเช่นกัน
ปีนี้คงเป็นปีทองของนักกฏหมายทางด้านสิทธิบัตร
ที่มา - Engadget
เมื่อวานนี้ไมโครซอฟท์ก็ได้ปล่อยแพตช์อุดช่องโหว่ที่ถูกใช้ถล่มกูเกิลและบริษัทอื่นๆ รวม 33 บริษัทแล้ว แต่ใน Microsoft Security Response Center (MSRC) ไมโครซอฟท์ได้แจ้งว่าช่องโหว่ดังกล่าวตรงกับช่องโหว่ที่เคยได้รับรายงานตอนต้นเดือนกันยายนเมื่อปีที่แล้ว หลายคนคงอดคิดไม่ได้ว่า หากไมโครซอฟท์แพตช์ช่องโหว่นี้เร็วกว่านี้ อินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์คงไม่กลายเป็นหนึ่งในช่องทางที่เหล่าแฮกเกอร์ชาวจีนใช้ถล่มบริษัทเหล่านั้น
หลังจากยุค Opteron และ AMD64 เรืองอำนาจและร่ำรวยมีเงินไปซื้อ ATI แต่นับจากยุค Core 2 ของอินเทล ก็เรียกได้ว่าเอเอ็มดีไม่ได้เกิดอีกเลย เพราะแพ้ทั้งพลังงานและประสิทธิภาพตลอดจนการตลาด แต่ในไตรมาสสี่ที่ผ่านมา เอเอ็มดีก็ทำกำไรได้อีกครั้ง
รายได้รวมของเอเอ็มดีอยู่ที่ 1,646 ล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธินั้นอยู่ที่ 1,288 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขสวยๆ นี้นับว่าเกินจริงไปสักหน่อย เพราะเงินสดที่ได้จากการฟ้องร้องอินเทลนั้นเป็นเงินถึง 1,224 ล้านดอลลาร์ แต่แม้ว่าจะตัดตัวเลขนี้ออกไป เอเอ็มดียังทำกำไรได้ด้วยตัวเอง 64 ล้านดอลลาร์ แม้จะไม่มากแต่นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี
หลาย ๆ คนอาจจะทราบจากรายงานของคุณ mk เรื่องที่ AIS จะทำการโรมมิ่งให้ลูกค้าของตัวเองสามารถใช้ 3G ของ TOT ได้ หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ให้บริการ MVNO ทั้งหลายก็ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจว่าการทำแบบนี้จะทำให้บริษัท MVNO ทุกรายไม่สามารถสู้กับเครือข่ายใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านต้นทุน และการตลาด โดยหนึ่งในผู้บริหารที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อของเครือข่าย MVNO รายหนึ่งระบุว่า ทางบริษัทของเขาจะเลิกดำเนินการธุรกิจทันที หากเกิดการโรมมิ่งของ AIS ขึ้น
ไม่ว่าแท็บเล็ตจากแอปเปิลจะมาจริงหรือเปล่า แต่ดูเหมือนประโยชน์ที่น่าจะตรงใจคนใช้แท็บเล็ตอย่างนึงคือการใช้อ่านหนังสือ, นิตยสาร โดย Condé Nast เจ้าของนิตยสารในเครือชื่อดังหลายฉบับ ได้รายงานว่านิตยสาร GQ ฉบับเดือนมกราคมมียอดขายผ่าน iTunes Store กว่า 12,000 ฉบับ
ถัดจาก Dailymotion และ YouTube เว็บวิดีโอออนไลน์รายใหญ่อีกเจ้าคือ Vimeo ได้ประกาศรองรับวิดีโอผ่านแท็ก <video> แล้ว
Vimeo เลือกใช้ H.264 เช่นเดียวกับ YouTube นั่นแปลว่าดูได้เฉพาะ Chrome กับ Safari เท่านั้นในตอนนี้ ทางบริษัทบอกว่าวิดีโอกว่า 90% บนเว็บสามารถดูผ่าน <video> ได้แล้ว
ที่มา - CNET
Kindle นับเป็นเรือธงที่ Amazon ทำได้ โดยตอนนี้ประมาณการกันว่า Kindle ครองตลาดอยู่เกือบครึ่งหนึ่ง ของปริมาณรวมประมาณ 1,000,000 เครื่องทั่วสหรัฐฯ (จาก cleantech) โดยตัว SDK จะรองรับทั้ง Kindle และ Kindle DX มีให้ดาวน์โหลดทั้ง Windows, Mac และ Linux (สงสัยว่าจะเป็น Eclipse)
ในตอนนี้ยังไม่มีการเปิดให้ดาวน์โหลดตัว SDK แต่มีการประกาศอัตราส่วนแบ่งรายได้ออกมาเรียบร้อย เป็น 70% เข้านักพัฒนา 30% เข้า Amazon โดย Amazon จะคิดค่าส่งข้อมูลไปยัง Kindle อีก 0.15 ดอลลาร์ต่อเมกกะไบต์ ยกเว้นแต่ซอฟต์แวร์ฟรีจะไม่มีค่าใช้จ่ายการส่งข้อมูล
การซื้อขายครั้งประวัติศาสตร์มูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์ระหว่างกำลังจะเข้ารูปเข้ารอยเมื่อทางสหภาพยุโรปยอมให้มีการซื้อขายนี้เนื่องจากเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปแต่อย่างใด
เรื่องนี้มีสองประเด็นคือ MySQL และ Java
ประเด็น MySQL นั้นตกไปเนื่องจาก MySQL และ Oracle ไม่ได้เป็นคู่แข่งกันโดยตรงอยู่แล้วเนื่องจากตลาดคนละกลุ่ม ในตลาดล่างเองนั้น PostgreSQL มีความสามารถที่จะเข้ามาแทนที่ได้พอสมควร หรือแม้แต่ผู้ใช้เองก็สามารถแยกโค้ดของ MySQL ไปพัฒนาต่อได้
หลังจากที่ Google Nuxus One ได้เปิดตัวและเปิดให้ทำการสั่งซื้อผ่านหน้าเว็บไซต์ได้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ก็มีผู้ให้ความสนใจเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้กันพอสมควร ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่อยากได้เจ้าเครื่อง Nexus One มานอนกอดและเป็นเจ้าของมัน วันนี้หลังจากได้ทดลองใช้มันดูแล้วก็เลยอยากเอาประสบการณ์การใช้มาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆดู ขอบอกไว้ก่อนว่าผมไม่ได้เป็นนักเขียนบทความอาชีพเท่าไหร่ ถ้ามีจุดไหนผิดพลาดยังไงก็ชี้แนะได้นะครับ
มอซิลลาได้ประกาศว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดไฟร์ฟอกซ์ 3.6 วันนี้เวลา 9:30 ตามเวลา Pacific Time แต่ Softpedia บอกว่าสามารถดาวน์โหลดได้แล้ว เนื่องจากมอซิลลาได้อัพโหลดไฟล์ขึ้น FTP เป็นที่เรียบร้อย เข้าไปดูได้ที่นี่
ที่มา: Softpedia
ผมชอบฟีเจอร์ Personas ที่สุดนะ! แต่อยากได้หน้าตาแบบ Mockup ไฟร์ฟอกซ์ 4.0 นะ
เว็บไซต์ YouTube เริ่มทดลองเปิดบริการเช่าวิดีโอออนไลน์แล้ว เริ่มด้วยภาพยนตร์ห้าเรื่องจากเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี 2009 และ 2010 โดยเปิดบริการช่วงวันที่ 22 ถึง 31 มกราคมนี้ เฉพาะในสหรัฐเท่านั้น
ภาพยนตร์ทั้งห้าได้แก่ The Cove, Bass Ackwards, One Too Many Mornings, Homewrecker และ Children of Invention โดยราคาเช่าอยู่ที่ 3.99 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถดูได้ภายใน 48 ชั่วโมง
หลังจากรอบนี้ เว็บไซต์จะชวนพาร์ตเนอร์จากอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากภาพยนตร์อิสระ มาร่วมใช้บริการนี้ด้วย
นักวิเคราะห์มองว่า นี่เป็นก้าวสำคัญของ YouTube ที่จะเข้าสู่ธุรกิจแบบ pay-per-view ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์กลายเป็นคู่แข่งของ iTunes Amazon.com และ Xbox Live
แม้ว่า iPhone จะมีโปรแกรมอีมูเลเตอร์สำหรับเล่นเกมเก่าๆ ให้เลือกใช้เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่เคยมีตัวไหนที่ค่ายเกมทำออกมาเองอย่างเป็นทางการ ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เพราะเซก้าไปขุดเกมดังในอดีตบนเครื่อง Mega Drive หรือที่ฝรั่งเรียก Genesis มาขายบน iPhone ในชื่อ Ultimate Genesis
รูปแบบของโปรแกรมจะต่างจากอีมูเลเตอร์ + หารอมแยกของแต่ละเกม แต่เซก้าจะขายเกมแต่ละเกมแยกจากกัน และในแต่ละเกมจะรวมอีมูเลเตอร์ของ Mega Drive อย่างเป็นทางการมาให้ (ถ้าซื้อหลายเกมก็แชร์อีมูเลเตอร์ด้วยกันได้ และซื้อเกมเพิ่มในภายหลังได้) ตอนนี้มีเกมขาย 4 เกม ได้แก่
ต่อจาก Twitter (บิล เกตส์เปิดทวิตเตอร์แล้ว ชื่อ @billgates) บิล เกตส์ ได้เปิดเว็บไซต์ส่วนตัวชื่อว่า Gates Notes ซึ่งรวบรวมเอาโน้ตต่างๆ ที่เขาจดไว้
เกตส์บอกว่าหลังวางมือจากไมโครซอฟท์มาทำงานการกุศล มีคนถามเขาเยอะมากว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เขาเลยเอาโน้ตและอีเมลจำนวนมากที่เกิดจากการสนทนา และเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาเผยแพร่สู่สาธารณะในเว็บไซต์นี้
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Dailymotion เริ่มทดลองวิดีโอแบบ Ogg ด้วยแท็ก <video> ตอนนี้ คู่แข่งอย่าง YouTube ก็เริ่มรองรับวิดีโอผ่าน <video> โดยไม่ต้องใช้ Flash แล้วเช่นกัน
แต่ถึงแม้จะใช้แท็กเดียวกัน แต่ความต่างอยู่ที่ codec ครับ วิดีโอของ YouTube ซึ่งเป็นของกูเกิลเลือกใช้ H.264 ซึ่งต่างไปจาก Dailymotion ที่เป็น Ogg Vorbis การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้เบราว์เซอร์สาย Mozilla ไม่สามารถดูได้ แต่ Chrome และ Safari รวมถึง IE ที่ใช้ ChromeFrame นั้นดูได้ (อ่านปัญหาเรื่อง codec ใน HTML5 ได้ที่ข่าว WHATWG ยกเลิกข้อกำหนดส่วน codec ใน HTML5 Video)
Lockheed Martin เป็นบริษัทผลิตอาวุธ เครื่องบิน จรวด ยานอวกาศ ฯลฯ รายใหญ่ของโลก เมื่อบริษัทระดับนี้มาทำแฟลชไดรว์ มันต้องไม่ใช่ของธรรมดาแน่ๆ
Lockheed Martin จับมือกับบริษัท IronKey ออกแฟลชไดรว์ชื่อ IronClad ซึ่งโฆษณาว่ามันเป็น "พีซีในแฟลชไดรว์" เอาไว้สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษ เมื่อเสียบ IronClad เข้ากับพีซีของคนอื่น มันจะลัดการทำงานของฮาร์ดดิสก์และบูตผ่าน IronClad แทนโดยอัตโนมัติ (ผมไม่แน่ใจว่าใช้กรรมวิธีอย่างไรนะครับ ในข่าวไม่ได้บอกไว้ อาจจะเป็นเลือกบูตจาก BIOS แบบธรรมดาก็ได้) นอกจากนี้ IronClad ยังเข้ารหัสแบบ 256 บิต มีแอนตี้ไวรัสในตัว รวมถึงมีฟีเจอร์ด้านเครือข่าย (คาดว่าจะเป็นพวก network boot, remote wipe หรือ monitoring) อีกด้วย
เมื่อวานนี้มีข่าวออกมาว่ามีรัฐบาลไทยมีความพยายามที่จะจับข้อมูลอินเทอร์เน็ตทั้งหมดมาตรวจสอบ โดยเสนอให้กทช. ออกกฏบังคับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตว่าต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ดักจับข้อมูลเข้าออกอินเทอร์เน็ตด้วยเหตุผลว่าจะช่วยลดการะเมิดลิขสิทธิ์ในอินเทอร์เน็ตลงจนเกิดการต่อต้านในอินเทอร์เน็ตเป็นวงกันพอสมควร
เนื่องจากลำดับข่าวค่อนข้างงง สรุปเรื่องราวทั้งหมดมีดังนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศแล้วว่าจะปล่อยแพตช์อุดรูที่ถูกใช้ถล่มกูเกิลวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ ถ้าเวลาไทยคงประมาณเที่ยงคืนของวันนี้
อินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ 5.01 เซอร์วิสแพ็ค 4 เป็นต้นมาได้รับผลกระทบจากช่องโหว่ดังกล่าว
แพตช์ดังกล่าวเป็น out-of-band security bulletin คือไม่ได้ถูกปล่อยตามช่วงเวลาปกติที่ไมโครซอฟท์จะปล่อยแพตช์อัพเดตเป็นประจำ
ที่มา: TechNet Security Center ผ่านทวิตเตอร์ @microsoft
คุณเคยประสบปัญหาเหล่านี้บ้างหรือไม่? รู้สึกแย่กับชีวิตที่ผูกติดกับ social network Web 2.0 และการออนไลน์ตลอดเวลา หรือหมู่เพื่อนฝูงที่เริ่มแปรสภาพเป็นโจทก์ และเจ้าหนี้ จนอยากจะหายสาบสูญจากวงการไปตลอดกาล ถ้าคุณกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ ผมมีเว็บมาแนะนำครับ
เว็บนี้มีชื่อว่า Web 2.0 Suicide Machine ครับ คำจำกัดความสั้น ๆ ง่าย ๆ ของมันก็คือ "การฆ่าตัวตายทาง social network" เพียงแต่คุณมอบ login และ password ของบริการ social network ที่ไม่ต้องการใช้ชีวิตอยู่อีกต่อไป ให้กับทาง Web 2.0 Suicide Machine ข้อมูลทุกอย่างของตัวคุณ เพื่อน และคนที่คุณ follow จะถูกลบออกไปจนเกลี้ยงเกลา เหลือไว้เพียงหน้าโปรไฟล์เปล่า ๆ และข้อความสั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย
จากข่าว McAfee เผย การโจมตีกูเกิลใช้ช่องโหว่จาก IE และ รัฐบาลเยอรมนีเตือน: อย่าใช้ IE (จนกว่าจะลงแพตช์)
ผลที่เกิดขึ้นคือ หลังจากการประกาศของรัฐบาลเยอรมนี ทำให้ผู้ใช้เน็ตชาวเยอรมันแห่กันไปดาวน์โหลด Firefox มาใช้แทน ตัวเลขของ Mozilla บอกว่ามีคนดาวน์โหลดมากกว่าอัตราปกติถึง 3 แสนครั้งต่อวันทีเดียว นอกจาก Firefox แล้ว Opera ยังได้รับประโยชน์เช่นกัน คนดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 18,000 ครั้งต่อวัน
ในกรณีของฝรั่งเศส ซึ่งเตือนให้หลีกเลี่ยง IE เช่นกัน ยังไม่มีตัวเลขจาก Mozilla ว่าคนดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นหรือไม่
โครงการ Open-PC ภายใต้สโลแกน "From the community, for the community" ประกาศเปิดตัว PC รุ่นแรก ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนราคานั้นอยู่ที่ 359 เหรียญ หรือประมาณ 12,000 บาท ภายใต้รหัส mini-ITX คุณสมบัติ ประหยัดพลังงาน, ใช้ง่าย, อัพเกรดง่าย และที่สำคัญ ฮาร์ดแวร์ที่นำมาใช้นั้นไดร์เวอร์จะต้องเป็น free software
และแน่นอนที่สุด ระบบปฏิบัติการต้องเป็น Linux ใช้ desktop แบบ KDE (อ่านว่า"เคเด้") (บังคับบริจาค 10 เหรียญเข้าโครงการ KDE) เรื่องการออกแบบกับเรื่องราคานั้นใช้การโหวตจากคอมมูนิตี้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด
สเปคคร่าวๆก็คือ CPU 1.6 GHz dual-core, RAM 3 GB, HDD 160 GB, Graphic Card Intel 950 graphics