Stefania Duico ผู้บริหารของไมโครซอฟท์อิตาลี ให้สัมภาษณ์กับสื่ออิตาลี ซึ่งเขาเรียก Windows Phone "Tango" ด้วยชื่ออย่างเป็นทางการว่า Windows Phone 7.5 Refresh
ทางไมโครซอฟท์สำนักงานใหญ่ยังไม่มีปฏิกริยาใดๆ ในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธ
ในงาน SXSW 2012 บริษัทอเจนซีโฆษณาอย่าง BBH Labs ได้ทดลองแคมเปญใหม่ที่เปลี่ยนจะเปลี่ยนคนไร้บ้าน (Homeless) ให้กลายเป็น Wi-fi Hotspot
แคมเปญที่ว่านี้มีชื่อเต็มๆ ว่า Homeless Hotspot โดยทาง BBH Labs ร่วมมือกับองค์กรเพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านอย่าง Front Steps จัดการเปลี่ยนคนไร้บ้าน 13 คนแถบเมืองออสตินให้กลายเป็น Wi-fi Hotspot ด้วยการให้พก Mi-fi 4G เอาไว้ และสวมเสื้อยืดที่เขียนชื่อ พร้อมกับวิธีการเข้าถึง Wi-fi Hotspot ดังกล่าว โดยฝั่งคนไร้บ้านจะได้เงินบริจาค 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 15 นาทีที่มีการใช้งานเครือข่าย
ต่อเนื่องจากข่าว iPad ใหม่ขายดี "เกินคาด" เริ่มเลื่อนวันส่งสินค้าออกไปเป็น 2-3 สัปดาห์แล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า iPad รุ่นใหม่นี้จะทำลายสถิติเดิมของ iPad 2 ที่คาดว่าขายได้ราว 500,000 เครื่องใน 2 วันแรกของการวางขาย หรือไม่
Gene Muster แห่ง Piper Jaffray นักวิเคราะห์ผู้เกาะติดสถานการณ์ของแอปเปิลอย่างเหนียวแน่นเชื่อว่า iPad รุ่นใหม่นี้จะขายได้อย่างน้อยหนึ่งล้านเครื่องในวันวางขาย โดยให้เหตุผลจากการเปรียบเทียบกับยอดขายของ iPhone 4 ที่ทำยอดได้ถึง 1.7 ล้านเครื่องในสามวันแรก และจำนวนประเทศวางขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 12 ประเทศในวันวางขายอีกด้วย
ส่วนล้านจะแตกจริงไหมคงต้องรอถึงศุกร์นี้ครับ
หลายคนในที่นี้คงเริ่มมีโน๊ตบุ๊คที่ใช้พอร์ต Thunderbolt กันบ้างแล้ว (เช่นใน MacBook Pro รุ่นใหม่ และ Vaio Z) ในด้านความเร็วการส่งข้อมูลเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง USB 3.0 ถึงสองเท่าตัว แต่ยังเร็วไม่พอในบางกรณี เช่น เมื่อเชื่อมด็อกกิงของ Vaio Z แล้วไม่สามารถส่งการประมวลผลของชิปกราฟิกผ่าน Thunderbolt ได้เต็มที่ เป็นต้น
ล่าสุดอินเทลได้ออกมาประกาศว่าภายในปี 2012 นี้อินเทอร์เฟซ Thunderbolt ที่ใช้สายใยแก้ว (ซึ่งอยู่ในแผนมาตั้งแต่แรก แต่เสร็จไม่ทัน) ซึ่งทำความเร็วได้สูงสุดตามทฤษฎีถึง 100 Gbps เหนือกว่ารุ่นสายทองแดงที่ออกพร้อมกับ MacBook Pro ถึงสิบเท่า
ที่งานฉลองการก่อตั้งไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชครบ 20 ปี TechFest 2012 ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชเผยงานวิจัย "Monolingual TTS" หรือซอฟต์แวร์แปลเสียงพูดจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่งโดยจำลองหน้าผู้พูดแบบ 3 มิติที่คำพูดถูกแปลแล้วโดยยังคงสำเนียงการพูดต้นฉบับไว้ นอกจากนั้นซอฟต์แวร์นี้รองรับการแปลคำพูดที่มีทั้งชื่อของสถานที่ต่างๆ ที่เป็นภาษาอื่น และคำพูดที่บอกเส้นทาง (direction) ที่เป็นภาษาท้องถิ่นในเวลาเดียวกัน
ซอฟต์แวร์ดังกล่าวรองรับการแปลถึง 26 ภาษา แต่การแปลโดยให้ผลลัพธ์เป็นเสียงพูดแบบต้นฉบับนี้ไม่ได้ทำได้โดยทันที ต้องใช้เวลานับชั่วโมงในการสอนให้ซอฟต์แวร์จดจำเสียงก่อน ลองดูคลิปนำเสนอได้จาก Engadget ครับ
อัพเดต ผมสามารถฝังวีดีโอที่ท้ายข่าวได้แล้ว เชิญชมกันได้เลยครับ
เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ Yahoo! ได้เตือน Facebook ว่ากำลังละเมิดสิทธิบัตรของตนเองอยู่ พร้อมทั้งเสนอทางเลือกให้ว่าจะยอมจ่าย หรือให้ฟ้อง นาทีนี้คงไม่ต้องคิดแล้วว่า Facebook เลือกแบบไหน เพราะว่าทาง Yahoo! ได้เดินเรื่องฟ้องศาลประจำรัฐแคลิฟอร์เนียไปแล้ว
เอกสารฟ้องร้องของ Yahoo! มีความยาวทั้งสิ้น 19 หน้า ครอบคลุม 10 สิทธิบัตรที่ Yahoo! อ้างว่าถูก Facebook ลอกเลียนไปใช้ในบริการของตัวเองเช่น หน้ารวมฟีดข่าวเด่น วิธีการจัดการโฆษณา การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ทั้งหมดนั้น Yahoo! เคยทำมาก่อนทั้งสิ้น และบอกว่า Facebook กำลังทำนาบนหลังคนอยู่
เพิ่งออก Readability รุ่น iOS มาได้ไม่ทันไร ล่าสุด Readability ก็ปล่อยแอพเดียวกันเวอร์ชันแอนดรอยด์ออกมาแล้ว
ในแง่ฟีเจอร์ หรืออินเทอร์เฟซนั้น รุ่นบนแอนดรอยด์ไม่มีอะไรแตกต่างจากรุ่น iOS แต่ต่างนิดหน่อยตรงวิธีการปล่อยให้ดาวน์โหลด โดยทาง Readability ได้ทำแอพตัวนี้ร่วมกับ Teehan+Lax ซึ่งปล่อยให้ดาวน์โหลดแบบเอ็กซ์คลูซีฟผ่าน Amazon App Store เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น
หลายคนอาจพอรู้จักกับ Posterous หรือบริการบล็อกที่เน้นความเรียบง่ายคู่แข่งหลักของ Tumblr ที่ช่วงหลังกระแสเริ่มซาไปบ้าง
ล่าสุด Twitter ได้ประกาศผ่านบล็อกอย่างเป็นทางการว่าได้เข้าซื้อ Posterous เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการเข้าซื้อครั้งนี้เน้นไปที่บุคลากร และเทคโนโลยีเพื่อมาทำให้ Twitter นั้นดียิ่งขึ้นไป
สำหรับผู้ใช้ Posterous อยู่ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะ Posterous ยังคงให้บริการต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยใครที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าซื้อครั้งนี้ ดูได้ที่ Acquisition FAQ ของทาง Posterous
Firebug เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยในการพัฒนาเว็บไซต์ที่เรารู้จักกันดี
ในตอนนี้ Firebug ได้กลายเป็นโครงการหนึ่งบน GitHub แล้ว ซึ่งเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถปรับปรุงและพัฒนาให้ Firebug มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่มากขึ้น สามารถเข้าชมและร่วมพัฒนาได้ที่ Firebug on GitHub
ที่มา - Mozilla Hacks
ในหนังสือชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์ ได้กล่าวถึงไอเดียของจ็อบส์ในการปฏิรูปวงการทีวี ซึ่งตัวจ็อบส์บอกว่าคิดได้แล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าไอเดียของจ็อบส์คืออะไรกันแน่ (ระหว่างที่ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ เราเรียกโครงการนี้กันว่า iTV ไปพลางๆ ก่อน)
ล่าสุดแผนการของจ็อบส์ถูกยืนยันโดย Leslie Moonves ซีอีโอของกลุ่มสื่อ CBS ของสหรัฐอเมริกา โดยเขาบอกเพียงว่าเมื่อประมาณ 1 ปีก่อน สตีฟ จ็อบส์ มาหาเขาและชวนให้ CBS เข้าร่วมโครงการลับของแอปเปิลที่ Moonves อธิบายว่ามันเป็น "subscription content service" แต่สุดท้าย Moonves บอกปัดข้อเสนอของจ็อบส์
ปกติแล้วเรามักจะไม่ค่อยได้เห็น Jonathan Ive ให้สัมภาษณ์บ่อยนัก แต่ครั้งนี้เขาก็ยอมให้ London Evening Standard สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระบวนการออกแบบของแอปเปิล โดย Jonathan Ive ได้ถูกถามเกี่ยวกับเป้าหมายในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งเขาได้กล่าวว่า "เป้าหมายของพวกเราฟังดูง่ายมาก คือออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า ถ้าเราทำให้มันดีกว่าเดิมไม่ได้ เราก็จะไม่ทำ"
ไม่ใช่เรื่องแปลกไปเสียแล้วที่แอปเปิลปล่อยสินค้าตัวใหม่ออกมาทีไร จะไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทันกับความต้องการที่ล้มหลาม ล่าสุดแอปเปิลได้เลื่อนวันส่ง iPad ออกสำหรับผู้ที่เพิ่งสั่งซื้อ iPad ใหม่ไป จากเดิมที่จะส่งออกภายในวันที่ 19 มีนาคม ไปเป็น 2-3 สัปดาห์หลังจากที่วันสั่งสินค้า
ในขณะเดียวกัน ตัวแทนจากแอปเปิลก็ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ USA Today ว่าแรงตอบสนองของลูกค้ากับ iPad ใหม่นั้นดีเกินคาด และจำนวนเครื่องที่ถูกผลิตมาสำหรับการสั่งซื้อล่วงหน้าก็ได้ถูกซื้อไปหมดเรียบร้อยแล้ว
คงต้องรออีกซักพัก กว่าเราจะบอกได้ว่า iPad ใหม่นี้จะทำลายสถิติเดิมโดย iPad 2 ได้หรือไม่
เอชพีนั้นเป็นบริษัทผลิตเซิร์ฟเวอร์และพีซีขนาดใหญ่ แต่ทุกวันนี้ตลาดเซิร์ฟเวอร์จำนวนหนึ่งกลับไปตกอยู่ในมือของผู้ให้บริการกลุ่มเมฆ เช่น กูเกิล หรืออเมซอน และตอนนี้อาจจะได้เวลาที่เอชพีชิงมูลค่าตลาดคืนมาบ้าง
ข่าวนี้มาจาก Zorawar Biri Singh รองประธานอาวุโสของเอชพีเอง แต่ดูเหมือนว่าบริการของเอชพีนั้นจะต่างจากอเมซอนพอสมควร โดยเอชพีระบุว่ากระบวนการขายจะ "เป็นส่วนตัว" มากกว่าบริการที่ต้องทำเองทุกอย่างเช่นอเมซอน ทำให้บริการนี้อาจจะขายผ่านตัวแทนจำหน่ายและคู่ค้าอื่นๆ ของเอชพีมากกว่าการเปิดเว็บแล้วจ่ายผ่านบัตรเครดิตเช่นอเมซอน
คดีความระหว่างผู้สร้างเกมดังแห่งยุคสมัย 2 เกม คือ Bethesda Softworks (เจ้าของเกม RPG ตระกูล The Elder Scrolls) กับ Mojang (เจ้าของเกม Minecraft) ได้ข้อยุติ เมื่อทั้งสองบริษัทสามารถตกลงยอมความกันนอกศาลได้แล้ว
เรื่องมีอยู่ว่าบริษัท Mojang ตั้งใจจะออกเกมใหม่ในชื่อ Scrolls แต่โดนบริษัท Bethesda ฟ้องละเมิดเครื่องหมายการค้า ว่าชื่อเกมใกล้เคียงกับ The Elder Scrolls มากเกินไป ในขั้นต้น Mojang ได้คำสั่งศาลคุ้มครองชั่วคราวให้สามารถใช้ชื่อ Scrolls พัฒนาเกมต่อไปได้ แต่ในที่สุดสองบริษัทก็ตกลงกันได้ก่อนคดียุติ
ข่าวลือใหม่ล่าสุดจากเว็บไซต์ DigiTimes ของไต้หวัน ระบุว่าโนเกียกำลังผนึกกำลังกับไมโครซอฟท์ทำแท็บเล็ตที่ใช้ Windows 8 (WoA) ซึ่งน่าจะวางขายได้ในไตรมาสที่สี่ของปีนี้เป็นอย่างเร็ว
ตามข่าวบอกว่าแท็บเล็ตชุดนี้จะมีทั้งรุ่น 8 และ 10 นิ้ว โดยใช้หน่วยประมวลผลแบบดูอัลคอร์ของ Qualcomm และจ้างบริษัท Compal Electronics เป็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อปี 2009 โนเกียเคยเปิดตัวเน็ตบุ๊ก Booklet 3G ที่ใช้หน่วยประมวลผล Atom และรัน Windows 7
ที่มา - DigiTimes
จริงๆ ตั้งใจจะประกาศในงานเลี้ยงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นที่แรก แต่ว่าสถานที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวย (ไม่ได้แยกจากส่วนอื่นของร้าน/เสียงดัง/นั่งแยกกัน) ก็ขอประกาศในเว็บแทนนะครับ
หลังจาก Blognone เริ่มทำการมาตั้งแต่ปี 2004 (ประวัติ) เป็นเวลาเกือบ 8 ปี เราก็ตัดสินใจจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดในชื่อ บริษัท บล็อกนัน จำกัด (Blognone Co., Ltd.) ไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2012 ที่ผ่านมา
หลังจากปล่อยให้คนลุ้นทุกจังหวะของ Instagram ที่ขนาดผู้บริหารบริษัทยังมาบอกว่า ดีกว่า iOS หลายขุม ตอนนี้ ใกล้เวลาสิ้นสุดการรอคอย เมื่อทางบริษัทได้ประกาศว่า เร็ว ๆ นี้เราจะปล่อย Instagram for Android Beta สู่สาธารณะชนแล้วในเร็ววันนี้
ทาง Kevin Systrom ได้บอกว่า ตอนนี้ได้ส่ง Instagram for Android ในรุ่น Private Beta ไปให้ทีมผู้สร้างทดสอบอยู่ ทั้งนี้ยังได้บอกรายละเอียดว่า จะทำงานได้เร็วเหลือเชื่อ ทำงานได้ดีแม้หน้าจอใหญ่ และยังสามารถแชร์ภาพถ่ายผ่าน Facebook, Twitter, Tumblr และสังคมออนไลน์อื่น ๆ ได้ด้วย สุดท้าย Kevin ตอบคำถามว่า Public Beta จะมาเมื่อไหร่ ก็ได้ตอบคือ "Very Soon"
หลังจากที่ทาง Marvel ได้ประกาศจะทำหนังสือขายพ่วงดูแบบดิจิตอล ล่าสุดที่งาน SXSW (South by South West) ได้เปิดเผยเทคโนโลยีล่าสุดที่จะพลิกวงการหนังสือการ์ตูน ด้วย Marvel AR โดยที่เทคโนโลยีนี้จะเริ่มต้นกับหนังสือเรื่อง Avengers vs. X-Men #1 ในเดือนเมษายนนี้
ฟีเจอร์สำคัญอย่างหนึ่งของ Android 4.0 คือฟอนต์ใหม่ Roboto ที่ออกแบบให้ดูทันสมัยกว่าเดิม (เบื้องหลังการออกแบบ) เท่าที่ผมทราบ ฟอนต์ตัวนี้มีคนแกะมาแจกกันนานพอสมควรแล้ว แต่รอบนี้กูเกิลแจกเองอย่างเป็นทางการก็เอามาลงเป็นข่าวหน่อยละกัน
วันนี้เฟซบุ๊กเพจของ Sony Mobile Thailand ได้ประกาศวางขายสมาร์ทโฟนตัวแรกของ Sony เจ้า Xperia S อย่างเป็นทางการแล้ว เปิดราคา 17,990 บาท และจะเริ่มวางขายในสัปดาห์หน้า
สเปคเครื่องที่ขายในไทยจะมีเฉพาะรุ่นความจุ 32GB เท่านั้น โดยมีสองสีมาตรฐานขาว และดำ โดยรองรับ 3G ทุกย่านความถี่ในประเทศไทย 850/900/2100 MHz (ยังไม่บอกว่ามีสองรุ่น หรือควอดแบนด์ เพราะตามปกติแล้วเครื่องที่รหัสลงท้ายด้วย i จะรองรับ 900/2100 ส่วนเครื่องที่ลงท้ายด้วย at จะรองรับ 850/2100)
หลังจาก Amazon เปิดสงครามราคา ลดราคา EC2 ลงมาสูงสุด 37% ตามมาด้วยกูเกิลลดราคา Cloud Storage ลง 8-15% ไมโครซอฟท์ก็ทนไม่ไหวต้องลงมาเล่นในสงครามราคาด้วย
ในยุคนี้เราได้เห็นปัญญาประดิษฐ์หรือ A.I. มาหลายต่อหลายรูปแบบแล้ว (ดูจากแท็ก Artificial Intelligence) และนี่คือครั้งแรกที่ A.I. จะสร้างเกมด้วยตัวเอง
A.I. ที่ว่านี้มีชื่อว่า Angelina ซึ่งย่อมาจาก "A Novel Game-Evolving Labrat I've Named ANGELINA" ทำงานอยู่บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์แมค และเป็นผลงานของ Michael Cook ว่าที่ดร. จากวิทยาลัยอิมพีเรียลลอนดอน
จนถึงตอนนี้ Angelina ได้สร้างเกมขึ้นมาหลายต่อหลายเกม (Cook บอกว่า Angelina สร้างเกมด้วยอัตราส่วน 1 เกมต่อ 10 นาที) โดยสามารถไปลองเล่นเกมบางส่วนได้ที่ Game by Angelina
บล็อกจากเยอรมนี Casych มีโอกาสได้ทดสอบ มือถือรหัส Santa Clara ของ Orange ซึ่งเป็นมือถือตัวแรกของฝั่งยุโรปที่ใช้
ถ้ายังจำกันได้กูเกิลเพิ่งต่อสัญญากับ Mozilla ไปอีกสามปี เพื่อให้ได้สิทธิในการเป็นเครื่องมือค้นหาหลักบนเบราว์เซอร์ Firefox โดยมีค่าใช้จ่ายถึงปีละ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แน่นอนว่าบน Safari นั้นกูเกิลก็เป็นฝ่ายจ่ายเช่นกัน โดย Ben Schachter นักวิเคราะห์จาก Macquarie คาดว่ากูเกิลนั้นทำสัญญากับแอปเปิลเพื่อให้ได้เป็นเครื่องมือค้นหาหลักบน Safari ทั้งบนเดสก์ท็อปเบราว์เซอร์ และโมบายล์เบราว์เซอร์ (บนไอแพด ไอพอด และไอโฟน) มูลค่าถึงปีละ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
วงการจ่ายเงินผ่าน NFC เริ่มคึกคักขึ้นแล้ว หลังจากที่ PayPal ยักษ์ใหญ่แห่งวงการจ่ายเงินออนไลน์ ที่เพิ่งเริ่มทดสอบการจ่ายเงินออฟไลน์ เพิ่งเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับระบบดังกล่าวออกมาอีกครั้ง
ฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาคือสามารถเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงินหลังจากที่ซื้อมาได้ราว 5-7 วัน โดยจะเปลี่ยนไปใช้บัตรเครดิตใบอื่น จ่ายเป็นงวดๆ หรือจ่ายผ่านบัตรของขวัญก็ได้เช่นกัน ตามมาด้วยฟีเจอร์พื้นฐานอย่างการสร้างรายการส่วนตัวเพื่อเทียบราคาสินค้าของแต่ละร้าน ทั้งยังสามารถตั้งกฏในการใช้จ่ายได้ด้วยว่าสามารถใช้เงินกับสินค้าประเภทนั้นๆ ได้เท่าไร ใช้กับการ์ดใบไหนโดยเฉพาะหรือไม่