หลายคนคงจำ รถยนต์ไร้คนขับ โครงการทดลองของกูเกิลได้ ตอนนี้เวลาผ่านมาเกือบสองปี มันพัฒนาขึ้นมากจนกูเกิลเตรียมส่งมันเข้าแข่ง NASCAR Racing การแข่งขันรถแข่งรายการสำคัญของสหรัฐแล้ว
เบื่อที่จะเดินไปเดินมาในโลกอันน่าเบื่อหรือไม่ Razer บริษัทผลิตอุปกรณ์เกมชื่อดังได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาก็เบื่อโลกทุกวันนี้เช่นกัน และเห็นว่าคอเกมหลาย ๆ คนอยากมีชีวิตอยู่ในเกมมากกว่าอยู่ในชีวิตจริง พวกเขาจึงได้ปล่อย SnakeEyes สุดยอดแว่นตา Augment-Reality ทำให้ชีวิตจริงเหมือนอยู่ในเกม!
Michael Gundlach ผู้สร้างปลั๊กอินที่คนใช้อินเทอร์เน็ตล้วนมีติดตัวกันไว้อย่าง AdBlock ได้ออกมาโพสต์ผ่านบล็อกว่าแมวของเขา (ไม่ระบุชื่อ) ได้แอบมาดัดแปลงโค้ดของ AdBlock ด้วยการเปลี่ยนโลโก้ เป็นรูปอุ้งเท้าแมว (ดูได้ท้ายข่าว) เปลี่ยนบางประโยคในปลั๊กอินจากคำว่า Pause เป็น Paws (หมายถึงอุ้งเท้า) และเด็ดสุดด้วยการเปลี่ยนโฆษณาทุกหน้าเว็บให้กลายเป็นรูปแมวในอิริยาบถต่างๆ ใครที่เกลียดแมว ไม่รักแมว สามารถเอากดไล่แมวออกได้ด้วยการกด "stop showing me cats" ครับ
มาถึงขั้นนี้แล้วต้องมีตัวอย่าง ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย
โลโก้ใหม่ (อันที่สี่)
คนแถวนี้คงคุ้นเคยกับ "เว็บเลียนแบบ" ของประเทศจีน ที่นำแนวคิดหรือไอเดียของเว็บดังในโลกตะวันตกมาใข้งาน (บางทีก็ทำเสียเกือบเหมือนเป๊ะ) ล่าสุดเป็นคิวของ Pinterest เว็บดาวรุ่งมาแรง ที่โดน eTao เว็บลูกของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ Alibaba โคลนไปเรียบร้อยแล้ว
เว็บโคลนนี้มีชื่อว่า Faxian ซึ่งมีความหมายโดยนัยว่า "ค้นพบ" หรือ discovery ("ฟาเสียน" เป็นชื่อของหลวงจีนที่เดินทางไปยังประเทศอินเดียเพื่อนำคัมภีร์ของศาสนาพุทธกลับไปเมืองจีน ก่อนสมัยของพระถังซัมจั๋งที่เราคุ้นเคยกันดี)
ตอนนี้ Faxian ยังมีสถานะเป็นรุ่นเบต้า โดยมีผู้เข้าชมเว็บวันละ 60,000 รายต่อวัน กลุ่มเป้าหมายหลักก็คล้ายกับต้นฉบับคือวัยรุ่นสาวๆ นั่นเอง
มีคนไปเห็นว่าโนเกียได้จดสิทธิบัตรการออกแบบสมาร์ทโฟนและเพิ่งได้รับการอนุมัติเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ที่น่าประหลาดใจคือภาพร่างในสิทธิบัตรดันไปเกือบจะเหมือนกับภาพ Windows Phone ที่หลุดมาเมื่อ 10 ส.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งวันที่หลุดออกมาก็เป็นวันที่โนเกียยื่นขอจดสิทธิบัตรดีไซน์สมาร์ทโฟนนี้อีกต่างหาก ลองดูความเหมือนของภาพร่างในสิทธิบัตรและภาพหลุดเมื่อปีที่แล้วได้ที่ท้ายข่าว
หลังจากที่เคยประกาศไว้ว่า Xperia ปี 2011 ได้ ICS ทุกเครื่องแน่นอน และหลังจากนั้นก็ได้ประกาศช่วงเวลาในการปล่อยคือช่วง
กูเกิลประกาศออก Google Maps เวอร์ชัน 8 บิตสำหรับเครื่องฟามิคอม (หรือชื่อในโลกตะวันตกคือ NES) เพื่อขยายตลาดแผนที่ไปยังแพลตฟอร์มให้มากที่สุด ซึ่งกูเกิลบอกว่าถึงแม้เวอร์ชันฟามิคอมจะออกช้าไปหน่อย แต่ก็ไม่ลืมกัน เพราะมันถือเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแพลตฟอร์มที่ขายดีมากอันหนึ่งในประวัติศาสตร์
งานนี้กูเกิลจับมือกับนินเทนโดและ Square Enix แปลง Google Maps ให้เป็นภาพ 8 บิตเท่าที่ความสามารถของฟามิคอมจะรับได้ นอกจากเรื่องกราฟิกแล้ว มันใช้งานได้เหมือน Google Maps รุ่นปกติทุกประการ รวมไปถึงฟีเจอร์ Street View แบบ 8 บิตด้วย
นอกจากเวอร์ชันออนไลน์แล้ว กูเกิลกำลังเร่งทำตลับเกม Google Maps สำหรับเครื่องฟามิคอม ซึ่งเป็นเกมแรกของฟามิคอมในรอบ 18 ปี จะวางขายใน Google Store เร็วๆ นี้
ไม่นานเกินรอหลังผลประกอบการที่ย่ำแย่ของ RIM ก็มีข่าวลือที่รายงานโดย Wall Street Journal ว่า ไมโครซอฟท์กับโนเกียจะจับมือแท็กทีมกันซื้อ RIM ด้วยกัน
ตามข่าวบอกว่า
ทั้งหมดยังเป็นแค่ข่าวลือ และในการซื้อจริงๆ ก็ไม่ง่ายเท่าไรนัก เพราะรัฐบาลแคนาดาน่าจะสกัดกั้นเต็มที่ในฐานะ "ผลประโยชน์ของชาติ"
การตัดสินใจทิ้งปุ่ม Start เพื่อเปลี่ยนมาใช้ Start Screen เต็มรูปแบบ ถือว่าไมโครซอฟท์กล้าพอตัว แน่นอนว่าผู้ใช้หน้าเก่าๆ ที่คุ้นเคยย่อมไม่ชอบใจ และมีเสียงวิจารณ์ให้ไมโครซอฟท์นำมันกลับมา
Tami Reller ซีเอฟโอของฝ่าย Windows และ Windows Live ของไมโครซอฟท์ (ไม่ใช่ซีเอฟโอของบริษัท) ไปพูดคุยกับทีมงานของบริษัทหลักทรัพย์ Nomura และให้คำยืนยันว่าปุ่ม Start จะไม่กลับมาอย่างแน่นอน แต่ไมโครซอฟท์จะเพิ่ม tutorial ช่วยแนะนำผู้ใช้ไม่ให้สับสน ซึ่งจะทำงานเมื่อบูต Windows 8 ขึ้นมาครั้งแรก
ใครที่หวังว่ามันจะกลับมาก็ต้องแสดงความเสียใจด้วยครับ
ผู้ใช้ Samsung Galaxy S คงเจ็บใจที่ซัมซุงไม่สามารถออกอัพเดต Android 4.0 ให้ได้ (แต่ออกเป็น Value Pack แทน) อย่างไรก็ตาม ความหวังยังไม่หมดไป เพราะความสามารถของ Android ที่เปิดโอกาสให้ติดตั้งรอมอื่นๆ ได้เอง
และสิ่งที่หลายๆ คนรอคอยก็กำลังคืบหน้า เพราะทางทีม CyanogenMod ได้ออกรอม CM9 (Android 4.0) รุ่น nightly สำหรับ Galaxy S (GT-I9000 และ GT-I9000B) มาให้ทดสอบกันแล้ว
แน่นอนว่าเส้นทางของ CM9 บน Galaxy S ยังอีกไกลกว่าจะถึงรุ่นสมบูรณ์ แต่ก็เป็นสัญญาณอันดีว่าอย่างน้อยมันก็คืบหน้ามาเรื่อยๆ (ใครใจร้อนสามารถเข้าไปลองกันก่อนที่ CyanogenMod)
โดยปกติแล้วหากเราตัดสินใจขายต่อมือถือหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เก็บข้อมูลส่วนตัวของเราไว้ หลายๆ คนคงไม่ประมาทที่จะลบข้อมูลเหล่านั้นทิ้งเสีย อาจใช้วิธีลบเองทีละจุด หรือในมือถือบางรุ่นจะมีตัวเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการล้างข้อมูลเหล่านี้ให้
ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญจาก McAfee ได้ทำการทดลองและพบว่าอุปกรณ์ในแพลตฟอร์ม Windows 7, iOS และ BlackBerry สามารถล้างข้อมูลต่างๆ ได้อย่างหมดจด ซึ่งหากจะขายต่อก็นับว่าวางใจได้ แต่ทั้งนี้ผู้ใช้จะต้องทำตามวิธีการที่ผู้ผลิตแนะนำจึงจะปลอดภัย ส่วนรายที่ไม่น่าวางใจคือ Android และ Windows XP ที่แม้จะล้างข้อมูลและการตั้งค่าตามวิธีของผู้ผลิตแล้ว ก็ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ได้อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นเลขที่บัญชีธนาคาร, หมายเลขประกันสังคม ฯลฯ
JR Raphael นักเขียนของ Computerworld สรุปสถานการณ์การอัพเดต Android 4.0 ของผู้ผลิตมือถือรายต่างๆ ออกมาเป็นเกรด
วิธีคิดคะแนนของ JR Raphael จะมีเงื่อนไขอยู่บ้าง คือเขาจะเปรียบเทียบการออกอัพเดตกับ "คำสัญญา" ของผู้ผลิตแต่ละราย ว่าทำได้ตามสัญญาหรือไม่ (ไม่ได้เทียบว่าใครอัพเร็วกว่ากัน) และกำหนดเส้นตายในการคิดคะแนนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้เท่านั้น
เรียงตามตัวอักษร
HTC One กำลังจะเริ่มวางขายในหลายประเทศ (เยอรมนีเริ่ม 2 เมษายนนี้) ทำให้ทาง HTC ต้องรีบปล่อยโฆษณาออกมาทำตลาดแล้ว
โฆษณาชิ้นแรกมีชื่อว่า Welcome to HTC One ซึ่งมีเป้าหมายจะสื่อว่าไม่มีใครในโลกนี้เหมือนกัน ทำให้ HTC แคร์ความเป็นปัจเจกของลูกค้าแต่ละคนมากเป็นพิเศษ
ส่วนโฆษณาชิ้นที่สองยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่มีบล็อกเกอร์ชาวมาเลเซียถ่ายวิดีโองานแถลงข่าวของ HTC ที่นำคลิปมาเปิดในงานอีกที เป็นคลิปแสดงความสามารถของกล้องใน HTC One โดยใช้มือถือถ่ายภาพขณะโดดร่มลงมาจากเครื่องบิน อีกสักพักคงมีคลิปฉบับเต็มมาลงใน YouTube ครับ
เว็บไซต์ Glassdoor.com เป็นเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตการทำงานของพนักงานในองค์กรใหญ่ๆ (มาแชร์ข้อมูลกันว่าแต่ละองค์กรเป็นอย่างไร เพื่อความโปร่งใสตามชื่อ "ประตูกระจก")
ล่าสุด Glassdoor เปิดให้พนักงานในองค์กรต่างๆ ให้คะแนนซีอีโอของตัวเองว่าเวิร์คไม่เวิร์คแค่ไหน ผลรอบล่าสุดออกมาปรากฏว่า Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลได้คะแนนโหวตจากพนักงานของตัวเองสูงสุดคือ 97% (คนลงคะแนนสามารถให้คะแนนได้ตั้งแต่ 1-5)
อันดับรองลงมาได้แก่
Paul Otellini (Intel) 93%
เมื่อปลายปีที่แล้ว กูเกิลเพิ่มความสามารถให้กล่องค้นหาของตัวเอง สามารถรับค่าจากสมการแล้ววาดกราฟออกมาเป็นผลลัพธ์ได้ (ข่าวเก่า)
วันนี้กูเกิลปรับปรุงความสามารถของมันไปอีกขั้น ทำให้สามารถวาดผลลัพธ์ออกมาเป็นกราฟ 3 มิติได้แล้ว (ใช้ WebGL เข้าช่วย) โดยผู้ใช้สามารถหมุนดูกราฟนี้ได้ตามสะดวกทุกทิศทาง ขยาย ซูมเข้าออก หรือจะเล่นเป็นแอนิเมชันให้มันหมุนไปเรื่อยๆ ก็ได้
ประเด็นที่ Android Market (หรือ Google Play ในปัจจุบัน) โดนวิจารณ์มาตลอดคือแอพเยอะจริงแต่ทำเงินต่อแอพไม่ได้เยอะมากนัก
ล่าสุดมีข้อมูลเชิงสถิติของบริษัทวิจัย Flurry เทียบรายได้ของ "แอพยอดฮิต" จากร้านขายแอพ 3 รายใหญ่คือ iTunes App Store, Amazon Appstore, Google Play ผลปรากฏว่า iTunes App Store ชนะตามคาด
แต่ที่เหนือความคาดหมายของหลายๆ คนคือ Amazon Appstore ทำรายได้น้อยกว่า iTunes App Store เพียงเล็กน้อย ในขณะที่ทั้งสองรายนี้ทิ้ง Google Play แบบไกลสุดกู่
เมื่อเดือนที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้เห็นภาพวาด The Starry Night โลดแล่นเคลื่อนไหวได้กันไปแล้ว แต่วิดีโอสั้นๆ แค่นั้นคงไม่จุใจผู้รักงานศิลป์พอ ข่าวดีคือ ภาพนี้ถูกวางขายบน iTunes เรียบร้อยแล้วครับ
สนนราคาที่ 1.99 ดอลลาร์ (60 บาท) ข่าวร้ายซักหน่อยคือมันรองรับแค่ iPad เท่านั้นนะครับ
ที่มา: Engadget
หลังจากที่แอปเปิลได้ปรับเนื้อหาการโฆษณา iPad ของตัวเองโดยเอาคำว่า 4G ออกจากสื่อโฆษณาต่าง ๆ ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและการแข่งขันแห่งออสเตรเลีย (ACCC) ต้องการแล้ว ล่าสุดดูเหมือนว่าองค์กรคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในประเทศอื่น ๆ อย่างนอร์เวย์ สวีเดน และอังกฤษก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวบ้างแล้ว เนื่องจาก iPad ใหม่นี้รองรับ LTE แค่กับเครือข่ายภายในสหรัฐฯ และแคนาดาเท่านั้น
Prince of Persia นับได้ว่าเป็นหนึ่งในตำนานของเกมคอมพิวเตอร์ เพราะมันสามารถถ่ายทอดการเคลื่อนไหวที่เสมือนจริงได้อย่างน่าชมในยุคนั้น และวางมาตรฐานนี้ให้กับเกมยุคต่อมา อย่างไรก็ตาม Jordan Mechner ผู้สร้างเกมนี้กลับทำซอร์สโค้ดของมันหายไปเสียได้ เหลือเพียงแต่โปรแกรมที่คอมไพล์พร้อมเล่นแล้วเท่านั้น
จนกระทั่งไม่นานมานี้ คุณพ่อของเขาก็ได้ส่งกล่องพัสดุของเก่าจากการเก็บกวาดบ้านมาให้ โดยภายในนั้นบรรจุแผ่นฟลอปปีดิสก์ขนาด 3.5 จำนวน 3 แผ่นที่มีซอร์สเกม Prince of Persia เวอร์ชัน Apple II อยู่ ซึ่งแม้จะเป็นโค้ดเก่าสำหรับคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้น แต่เขาก็บอกว่าจะพยายามแกะโค้ดออกมาให้ใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบันนี้ครับ
มีข่าวลือว่าโนเกียกำลังพัฒนาสมาร์ทโฟนสำหรับเจาะตลาดระดับล่าง 2 รุ่นที่มาพร้อมกับ MeeGo โดยผู้ให้ข้อมูลระบุว่าการพัฒนานี้อยู่ในโครงการ Next Billion Group ที่มีเป้าหมายเพื่อนำอินเทอร์เน็ตไปสู่ผู้คนนับพันล้านรายในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา
การทำเช่นนี้ได้ต้องอาศัยระบบปฎิบัติการโอเพนซอร์สอย่าง MeeGo ซึ่งมีการคาดกันว่าที่โนเกียไม่ใช้ Symbian ก็เพราะมันได้ถูกโอนไปให้ Accenture แล้ว ส่วน S40 นั้นก็รองรับการสัมผัสได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้มันไม่สามารถแข่งขันกับ Android ได้
Next Billion Group เกิดขึ้นหลังจากโนเกียประกาศเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ โดยโนเกียได้แบ่งหน่วยงานออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือ Windows Phone Group และ Next Billion Group ตามที่กล่าวมา
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ข่าวนี้ครอบคลุมเฉพาะ Sega ในโลกตะวันตก (สหรัฐ+ยุโรป) ไม่ได้รวมถึง Sega ในญี่ปุ่นนะครับ
Sega ออกแถลงการณ์ว่าจะปรับโครงสร้างองค์กรในโลกตะวันตกเสียใหม่ หลังจากประสบปัญหาขาดทุนเพราะวิกฤตเศรษฐกิจและตลาดเกมที่เริ่มเปลี่ยนไป
สิ่งที่ Sega จะทำคือลดจำนวนพนักงานลง ปรับองค์กรให้มีขนาดเล็กลงเพื่อรักษากำไรเอาไว้ และยกเลิกเกมบางหัวที่กำลังพัฒนาอยู่ หันมาเน้นเฉพาะเกมแบรนด์ดังๆ อย่าง Sonic, Football Manager, Total War, Aliens เท่านั้น ส่วนโฟกัสของธุรกิจจะหันมาเน้นดิจิทัลคอนเทนต์ แทนการขายเกมแบบกล่องอย่างที่เคยทำมา
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า Sega ฝั่งญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบอะไรบ้างครับ
Wikimedia Foundation ประกาศโครงการลูกโครงการใหม่ Wikidata เป้าหมายหลักของมันคือเก็บข้อมูลเชิงโครงสร้าง (structured data) เพื่อให้โครงการอื่นนำไปใช้ต่อ
สำหรับคนที่เคยเข้า Wikipedia คงจะคุ้นเคยกับ "กล่องข้อมูล" ด้านมุมบนขวาในหลายๆ หน้า (ตัวอย่าง) โครงการ Wikidata จะเก็บข้อมูลส่วนนี้ล่ะครับ จากเดิมที่มันถูกเขียนเป็นข้อความธรรมดาใน Wikipedia ก็จะถูกเก็บในรูปแบบที่ชัดเจน นำไปประมวลผลต่อได้ง่ายมากขึ้น สามารถแก้ไขที่เดียวนำไปใช้ที่อื่นได้หมด ข้อมูลเป็นระเบียบและอยู่ในฟอร์แมตเดียวกัน
จากข่าว RIM ไตรมาสล่าสุดขาดทุน - ผู้บริหารระดับสูงลาออกหลายคน RIM แถลงว่าจะ "เลือกโฟกัสเป็นบางตลาด" ทำให้เกิดกระแสข่าวว่า RIM จะถอนตัวออกจากตลาดคอนซูเมอร์ที่บุกไม่ค่อยสำเร็จ
ทางตัวแทนของ RIM คือ Patrick Spence ออกมาปฏิเสธข่าวนี้กับเว็บไซต์ Pocket-lint โดยบอกว่า RIM จะปรับแผนการทำตลาดใหม่ โดยเน้นตลาดที่เข้มแข็งที่สุดคือตลาดลูกค้าองค์กร แต่ในตลาดคอนซูเมอร์ก็จะยังเดินหน้าต่อไป โดยใช้ BBM เป็นจุดขาย
เรื่องราวแปลกประหลาดบางทีก็เกิดขึ้นได้ในโลกไอทีเมื่อทีม IETF หรือ Internet Engineering Task Force (ที่ไมโครซอฟท์เพิ่งส่งมาตรฐาน HTTP 2.0 ให้พิจารณา) ได้ไปประชุมกันที่โรงแรม Concorde Lafayette ในปารีส และพบว่าอินเทอร์เน็ตใช้งานแทบไม่ได้ แพ็กเก็ตสูญหายไปถึง 30% และเวลา latency ของเครือข่ายนั้นสูงถึง 5-6 วินาที
เหตุผลของเรื่องนี้คือผู้เข้าประชุมกับ IETF นั้นล้วนใช้อินเทอร์เน็ตกันทุกคน พอคนใช้มากๆ เข้าช่องความถี่วิทยุของ Wi-Fi ก็เต็มจนใช้งานไม่ได้
แต่ในเมื่อวิศวกรที่ออกแบบอินเทอร์เน็ตมารวมกันจนเต็มโรงแรม จะมีอะไรต้องกลัวอีก?
นับตั้งแต่เปิดตัว Timeline ในงาน Facebook F8 เมื่อปีที่แล้ว และได้มีประกาศว่าจะเปลี่ยนเป็น