ปลายปี 2012 โลกอาจจะยังไม่แตกอย่างที่หลายๆ คนคิด แต่อินเทอร์เน็ตนั้นกำลังจะไม่มีทางเติบโตอีกต่อไป เนื่องจาก IPv4 หมดลงภายในอีก 590 วัน และยังเหลือให้ลูกค้ารายย่อยไปขอใช้อีก 958 วัน (IPv4 Countdown)
The Number Resource Organization (NRO) ตัวแทนของหน่วยงานจดทะเบียนหมายเลขไอพี 5 หน่วยงานได้ออกรายงานฉบับล่าสุดระบุว่าหมายเลขไอพีได้ลดลงต่ำกว่าร้อยละ 10 เป็นครั้งแรก กระทั่งบล็อคที่ไม่เคยมีการใช้งานเช่น 1.0.0.0/8 นั้นก็ถูกแจกจ่ายออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เว็บ Photography Bay ได้ไปเจอว่าเดือนนี้แคนอนได้จดสิทธิบัตรใหม่ 2 รายการซึ่งดูน่าสนใจทีเดียว
รายการแรกดูเหมือนจะเป็นระบบป้องกันภาพสั่นไหวด้วยการขยับเซ็นเซอร์รับภาพ (Sensor-based Stabilization) ที่ผู้ผลิตหลายเจ้ามีมานานแล้ว โดยแคนอนน่าจะใส่เทคโนโลยีนี้ลงในกล้องตระกูล Powershot หรือตระกูล EVIL ที่มีข่าวว่ากำลังจะผลิตออกมา
ต่อมาเป็นการใส่จอ LCD เล็กๆ เข้าไปในช่องมองภาพปกติ เดาว่าเพื่อที่จะทำให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องละสายตาออกจากช่องมองภาพหลังจากกดชัตเตอร์ภาพแรกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยีนี้สำหรับกล้อง DSLR
ก่อนหน้านี้เรามีข่าวลักษณะเดียวกันออกมาบ้างแล้ว นักวิจัยเชื่อว่ายอดขาย Android จะชนะ iPhone ในอีกสามปีข้างหน้า และ สมาร์ทโฟน : Android จะแซงหน้าไอโฟนในปี 2012 ?
คราวนี้คล้ายๆ กันครับ เพียงแต่เปลี่ยนสำนักวิจัยมาเป็น IDC เท่านั้น IDC พยากรณ์ว่า ในปี 2013 สมาร์ทโฟนจะมียอดขาย 390 ล้านเครื่องต่อปี
เมื่อ ดีลออราเคิล-ซัน เดินทางมาเกือบถึงจุดสมบูรณ์ หลังจาก EU ยอมให้ Oracle เข้าซื้อ SUN แล้ว ขั้นตอนถัดไปก็ถึงเวลาของผู้บริหารชุดเก่าที่ต้องโบกมือลา ปล่อยให้ผู้บริหารชุดใหม่จากเจ้าของใหม่ เข้ามาควบคุมหางเสือของบริษัทให้เดินหน้าต่อไปในทิศทางใหม่
หลังผมเขียนข่าว ICT พยายามเก็บข้อมูลอินเทอร์เน็ต มีคนมาถามผมว่าถ้าใช้บริการ VPN นั้นจะป้องกันได้ไหม คำตอบสำหรับเรื่องนี้ได้แน่นอน แต่คนใช้ทั่วไปอย่างเราๆ ท่านๆ คงไม่สามารถตั้งเซิร์ฟเวอร์ VPN ไว้ต่างประเทศเล่นๆ เองได้ ครั้นจะเช่าผู้ให้บริการก็ไม่รู้จะเลือกของใคร แต่ The Pirate Bay ผู้ให้บริการค้นหาไฟล์ torrent รายใหญ่ก็ได้เปิดบริการ VPN ของตัวเองแล้วในชื่อ Ipredator
บริการนี้ไม่มีอะไรต่างจากบริการ VPN อื่นๆ ที่มีอยู่ทั่วไป แต่ด้วยชื่อของ The Pirate Bay เราอาจจะวางใจว่าข้อมูลส่วนตัวเราจะเป็นข้อมูลส่วนตัวจริง โดยไม่โอนอ่อนต่ออำนาจรัฐใดๆ จากประวัติอันโชกโชนของทีมงาน
ระยะหลังมานี้ เว็บไซต์ drama-addict ได้รับความนิยมมาก และผมก็เห็นว่าในคอมเมนต์ของ Blognone มีการใช้มุกและสำนวนจาก drama-addict อยู่บ้างพอสมควร
โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่มีปัญหาอะไรกับ drama-addict นะครับ ถือว่าเป็นเว็บที่จับจุดของคนไทยได้เก่ง และมีความคิดสร้างสรรค์มากเว็บหนึ่ง
แต่ช่วงหลังๆ มุกและสำนวนเหล่านี้ถูกใช้เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะล่าสุดถึงกับมีเป็นข่าวด้วย
ผมคิดว่ามุกและสำนวนเหล่านี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม แม้ว่าจะได้รับความนิยม แต่มันไม่ได้หมายความว่าทุกคนเข้าเว็บเหล่านี้ หรือเข้าใจมุกพวกนี้ ซึ่งมันจะสร้างความสับสนแก่ผู้อ่านทั่วไปได้ (Blognone มีผู้อ่านขาจรเยอะมาก ดูในสถิติเก่าๆ ได้)
หลังจากออกข่าวแถลงการถึงแนวคิดการใช้ sniffer เพื่อแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์จนเป็นประเด็นสำคัญในอินเทอร์เน็ตอยู่พักใหญ่ นายสือ ล้ออุทัยก็ได้ออกมาให้ข่าวว่าคณะทำงานฯ ได้ฟังเสียงต้านที่เกิดขึ้นและเลิกใช้แนวคิดดังกล่าวไปแล้ว
โดยต่อจากนี้ การลดการละเมิดลิขสิทธิ์จะให้ผู้เดือดร้อนมาแจ้งเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูล็อกไฟล์และยื่นขอหมายศาลเพื่อดำเนินการต่อไป (พูดอีกอย่างคือจะทำตามกฏหมายปัจจุบัน)
George Hotz คนที่สามารถแฮก iPhone ได้สำเร็จ (ข่าวเก่า) ไม่กี่วันมานี้เขาได้ประกาศในบล็อกว่า "แฮก PS3 ได้แล้ว" แม้ว่าต้องใช้เวลายาวนานกว่าสามปีถึงจะแฮกได้ แต่เขาก็บอกว่ามันไม่สูญเปล่า การแฮกครั้งนี้ไม่ได้ทำผ่าน modchip เหมือนใน PS2 แต่อย่างใด
Hotz ยังไม่คิดจะบอกอะไรมากไปกว่านี้จนกว่าจะแฮกได้อย่างสมบูรณ์ เพียงแต่บอกให้ติดตามผ่าน @geohot ได้เรื่อยๆ
หลังจาก TOT เปิดให้บริการ 3G ไปโดยเน้นการขายบริการยกล๊อตให้กับผู้ให้บริการรายอื่นๆ ไปขายซิมการ์ดต่อเมื่อวานนี้ IEC ก็ได้เปิดตัวบริการของตัวเองบ้างแล้ว ที่น่าสนใจคือราคาถูกกว่าเจ้าเดิมอย่าง i-mobile พอสมควร โดยเฉพาะส่วนของซิมเติมเงิน Smile Net 399 ที่ให้ปริมาณข้อมูล 3,000 เมกกะไบต์ต่อซิมราคา 399 บาท
ที่ค่อนข้างงงคือระบบราคาเพราะดูเหมือนว่าบัตรเติมเงินของ IEC นั้นจะไม่ได้แถมปริมาณอินเทอร์เน็ตมาด้วยทำให้เมื่อคิดราคารวมแล้วอาจจะแพงกว่าของเจ้าอื่นๆ อยู่บ้าง แต่ซิมราคา 399 บาทที่แถมปริมาณข้อมูลมากๆ อย่างนั้น เป็นผม ผมอาจจะซื้อซิมใหม่ไปเรื่อยๆ เอาท่าจะคุ้มกว่า
ที่มา - MXPhone
9to5Mac (via MacRumors) ได้รายงานว่าจากข้อมูลที่ได้รับจากผู้ผลิตและสำนักพิมพ์หนังสือทั้งหลายนั้น พอสรุปได้ว่าแอปเปิลได้พยายามที่จะดึงบริษัทเหล่านี้มาร่วมงานกับตน โดยแอปเปิลได้ออกมาบอกกับบริษัทเหล่านี้ว่าอุปกรณ์ตัวนี้จะเป็น "Game changer" สำหรับตลาด e-Book เลยทีเดียว
โดยข้อตกลงระหว่างแอปเปิลกับบริษัทเหล่านี้นั้นจะเสร็จภายในวันพุธนี้ เพื่อที่แอปเปิลจะได้มีข้อมูล "Partnership" ไปนำเสนอในงาน ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ นั้นเก็บเอาไว้คุยกันหลังจากงาน ส่วนบริษัทอื่น ๆ ที่ก่อนนี้มีข่าวว่าจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการนำ e-Book มาขายลักษณะเดียวกับโปรแกรม e-Book ทั้งหลายบนไอโฟน ในตอนนี้นั้นถูกตัดออกไปแล้ว เนื่องจากแอปเปิลต้องการที่จะทำงานร่วมกับผู้ผลิตและสำนักพิมพ์เองโดยตรง
หลายเว็บไซต์ของนักสิทธิมนุษยชนที่เคลื่อนไหวในจีนถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ ท่ามกลางความไม่ลงรอยระหว่าง Google และ จีน (ดูข่าวเก่า)
หนึ่งในนั้นก็คือ เว็บไซต์ Chinese Human Rights Defenders ซึ่งถูกโจมตีด้วย DDoS (distributed denial of service) เป็นผลให้ระบบอีเมลเป็นอัมพาต เป็นเวลา 16 ชั่วโมงในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 มกราคม) "เราสงสัยว่ารัฐบาลจีนจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง" เว็บไซต์ดังกล่าวพาดพิง
ข่าวเก่าไปนิดแต่ยังน่าสนใจครับ รัฐบาลสหราชอาณาจักรเปิดตัวเว็บไซต์ data.gov.uk ซึ่งเป็นเว็บลักษณะเดียวกับ data.gov ของรัฐบาลสหรัฐ นั่นคือมีไว้เผยแพร่ชุดข้อมูล (dataset) ของหน่วยงานรัฐบาล
กลับมารีวิวกันต่อหลังจากได้ลองใช้งานเพิ่มมาขึ้น โดยในตอนที่ 2 นี้จะขอพูดถึงฟังก์ชั่นการทำงาน และโปรแกรมทั่วไปที่แถมติดมากับตัว Android 2.1 กันก่อนล่ะกันครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่ 1 ทีก็คลิกเข้าไปอ่านกันก่อนนะครับ
[Review] Nexus One ตัวจริง : ตอนที่ 1
การใช้งานด้านการโทรศัพท์
ENISA ได้ออกรายงานถึงผลสำรวจจากบริษัทที่ให้บริการอีเมลกว่า 100 แห่งใน 30 ประเทศในยุโรป ซึ่งมีผู้ใช้บริการมากกว่า 80 ล้านราย พบว่าอีเมลที่ถูกส่งกันในระบบมีเพียงไม่ถึง 5% ที่ไปถึงมือผู้รับ นอกนั้นถูกจัดเป็นสแปมเมล์ทั้งหมด
นอกจากนี้จากผลสำรวจยังพบว่า ผู้ให้บริการอีเมลต้องต่อสู้กับสแปมด้วยวิธีต่างๆ มากมาย ซึี่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการป้องกัน โดยหนึ่งในสามของผู้ให้บริการรายใหญ่ใช้งบประมาณกว่า 1 ล้านยูโรต่อปีเพื่อจัดการกับสแปมเมลโดยเฉพาะ และวิธีที่ถูกใช้บ่อยที่สุดคือการทำแบล็กลิสผู้ใช้
ว่าแต่เบื่อยาลดน้ำหนักหรือทำงานที่บ้านกันแล้วรึยัง
ที่มา - Net Security
ร้อนแรงแต่เช้ากับ มิน ดาฮอง ประธานองค์กรสื่อออนไลน์ของกรุงปักกิ่ง ที่ลุกขึ้นมาประกาศกร้าว
"อินเทอร์เน็ตของจีนจะถูกพัฒนาและควบคุมอย่างไร เป็นธุระของประเทศจีน และจีนไม่ต้องการให้สหรัฐอเมริกามาสอนอะไรทั้งนั้น"
ปัญหาของเรื่องนี้ยาวกันมาตั้งแต่ คำพูดของกูเกิลที่พูดอ้อมๆ ว่า โดนประเทศจีนแฮคข้อมูลนักสิทธิมนุษยชน จนมาถึง สุนทรพจน์โจมตีการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตของ ฮิลลารี คลินตัน
จากข่าวต้นฉบับมีการกล่าวว่า นายมิน ดาฮอง ถึงกับวิจารณ์ว่า "คำพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ฮิลลารี คลินตัน เป็นการไม่แสดงความเคารพต่อประเทศจีน"
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา ในงาน Nokia Ovi โนเกียได้ประกาศว่าจะให้บริการแนะนำเส้นทางสำหรับคนเดินเท้า (Walk navigation) และผู้ขับรถยนต์ (Drive navigation) ของ Ovi Maps กับผู้ใช้งานทั่วโลกฟรี ไม่คิดเงินแล้ว
จุดเด่นที่สำคัญคือ แผนที่จะถูกเก็บไว้ในโทรศัพท์ ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ทำให้สามารถใช้งานได้เสมือน GPS จริงๆ
โทรศัพท์ที่รองรับโปรโมชันดังกล่าวคือ X6, N97 mini, E72, E55, E52, 6730 Classic, 6710 Navigator, 5800 Xpress Music, 5800 Navigation Edition และ 5230 ดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่นี่
คุณ Monty Wong รองประธานและผู้จัดการกลุ่มธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของเอชพีที่ประเทศไต้หวัน ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเอชพีกำลังพัฒนาแท็บเล็ตและโน้ตบุ๊กที่ฝังโปรเจกเตอร์ขนาดเล็กในตัว โดยเลนส์โปรเจกเตอร์น่าจะติดอยู่ที่ตำแหน่งที่เคยเป็นกล้องเว็บแคม แต่เขาได้กล่าวเสริมว่าเอชพีไม่มีแผนปล่อยผลิตภัณฑ์ลักษณะดังกล่าวในปีนี้
สองผู้ก่อตั้งกูเกิลได้ประกาศว่ากำลังเตรียมการขายหุ้นของบริษัทออกทั้งหมด 10 ล้านหุ้นมูลค่่ากว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ (คิดตามราคาปัจจุบัน) ในระยะเวลา 5 ปีเพื่อลดผลกระทบต่อราคาหุ้นในตลาด
ราคาหุ้นของกูเกิลเคยขึ้นสูงสุดถึง 629.51 ดอลาร์ต่อหุ้นและเคยตกต่ำที่สุดเหลือแค่ 289.45 ดอลลาร์ต่อหุ้นเมื่อปลายปี 2008 ดังนั้นมูลค่าเป็นเงินสดที่สองคู่หูจะได้รับยังเป็นแค่มูลค่าประมาณเท่านั้น
สิทธิในการออกเสียงของทั้งคู่หลังจากการขายหุ้นจะอยู่ที่ 48% ส่วน Eric Schmidt นั้ันมีหุ้นอยู่ประมาณ 10%
ที่มา - MarketWatch
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาฮิลลารี คลินตันได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อต้านการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต และยังระบุว่าสหรัฐฯ จะสนับสนุนเครื่องมือเพื่อเปิดเสรีภาพอินเทอร์เน็ตให้กับประชาชนที่ถูกปิดกั้นเหล่านั้น
แม้ว่าฮิลลารีจะกล่าวสุนทรพจน์แนวนี้มาหลายครั้ง แต่ในบรรยากาศอันอึมครึมระหว่างจีนและกูเกิล ทางการจีนซึ่งกำลังตกเป็นเป้าสายตาว่ากำลังละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างซึ่งหน้าก็ทนไม่ได้จนออกมาตอบโต้ว่าให้ทางสหรัฐฯ หยุดใช้เสรีภาพอินเทอร์เน็ตมาเป็นเครื่องมือในการโจมตีจีนอย่างไร้เหตุผล โดยรัฐธรรมนูญจีนนั้นได้มีการปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอยู่แล้ว แต่จีนนั้นมีสถานการณ์ภายในและวัฒนธรรมของตัวเอง (ที่ต่างไปจากสหรัฐฯ)
หลังจากที่ Google ได้ปล่อย Google Nexus One (ไม่มีขายในไทยในตอนนี้ แต่มีเครื่องหิ้วที่มาบุญครอง)ฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับ smartphone ก็คือ multi-touch (คำนี้ Apple ได้จดสิทธิบัตรไว้ในอเมริกา) ซึ่งแน่นอนไม่ช้าไม่เร็วต้องมีคนพยายามแฮ็ค
ซึ่งตอนนี้มันก็ทำได้แล้ว คุณ Cyanogen แฮ็ค Nexus One ทำให้เว็บเบราเซอร์สามารถใช้ multi-touch ได้ และตอนนี้กำลังพยายามพัฒนาสำหรับโปรแกรมตัวอื่นต่อไป
คำถามก็คือ ทำไมเจ้า Nexus One ไม่ทำ multi-touch ออกมาซะตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง คำตอบส่วนหนึ่งที่น่าจะเป็นก็คือ การติดเรื่องสิทธิบัตรของ Apple และข่าวลือเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่าง Apple กับ Google นั่นเองว่าGoogle เองว่าจะไม่ทำฟีเจอร์ multi-touch
เรื่องนี้มีอยู่ว่า ระหว่างที่คุณสตีฟ บัลเมอร์ไปเยือนมหาวิทยาลัย Trevecca Nazarene มีนักศึกษาคนหนึ่งขอให้คุณบัลเมอร์เซ็นบนแล็ปท็อปของเขาซึ่งเป็น MacBook Pro คุณบัลเมอร์ก็หัวเราะแล้วก็เซ็นให้ โดยเขาได้เขียนว่า
Need a new one? -- Steve Ballmer (อยากได้เครื่องใหม่ไหม -- สตีฟ บัลเมอร์)
ดูบรรยากาศตอนเซ็นได้จากคลิปและรูปภาพใต้ข่าวแล้วกันครับ
ที่มา: Gizmodo
CodePlex เว็บที่ให้บริการด้าน Project Hosting สำหรับชุมชนโอเพ่นซอร์ส ของบริษัทไมโครซอฟท์ ได้เพิ่ม Mercurial เข้ามาเป็นตัวเลือกในการสร้าง Source Control Repository
โดยผู้ใช้ที่สร้างโครงการใหม่ สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ Mercurial หรือ Team Foundation Server (TFS) ของไมโครซอฟท์
ซึ่งแต่เดิมนั้น CodePlex สนับสนุนเฉพาะ TFS ซึ่งมีอยู่ในรุ่นสูงสุดของ Visual Studio แต่ได้มีการพัฒนา SvnBridge เพื่อให้ผู้ใช้ Subversion สามารถใช้งานผ่าน Subversion Client ได้
ไม่ทันไรหลังจากกรณีที่ทั้งโนเกียและแอปเปิลต่างร้องขอให้ ITC แบนสินค้าของอีกฝั่งเนื่องจากการละเมิดสิทธิบัตรต่าง ๆ ล่าสุด โมโตโรล่าได้ออกมาขอให้ ITC แบนการนำเข้าสินค้า BlackBerry ของบริษัท RIM เนื่องจากโมโตฯคิดว่า RIM ได้ทำการละเมิดสิทธิบัตรต่าง ๆ ของโมโตฯ
โดยสิทธิบัตรที่ถูกอ้างว่าละเมิดนั้น เป็นสิทธิบัตรเกี่ยวกับการใช้ Wi-Fi, การพัฒนา App, UI และ Power Management
Engadget คาดว่าอีกไม่นานเราก็คงจะเห็น RIM ออกมาขอร้องให้ ITC ทำการแบนการนำเข้าสินค้าของโมโตโรล่าเช่นกัน
ปีนี้คงเป็นปีทองของนักกฏหมายทางด้านสิทธิบัตร
ที่มา - Engadget
เมื่อวานนี้ไมโครซอฟท์ก็ได้ปล่อยแพตช์อุดช่องโหว่ที่ถูกใช้ถล่มกูเกิลและบริษัทอื่นๆ รวม 33 บริษัทแล้ว แต่ใน Microsoft Security Response Center (MSRC) ไมโครซอฟท์ได้แจ้งว่าช่องโหว่ดังกล่าวตรงกับช่องโหว่ที่เคยได้รับรายงานตอนต้นเดือนกันยายนเมื่อปีที่แล้ว หลายคนคงอดคิดไม่ได้ว่า หากไมโครซอฟท์แพตช์ช่องโหว่นี้เร็วกว่านี้ อินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์คงไม่กลายเป็นหนึ่งในช่องทางที่เหล่าแฮกเกอร์ชาวจีนใช้ถล่มบริษัทเหล่านั้น
หลังจากยุค Opteron และ AMD64 เรืองอำนาจและร่ำรวยมีเงินไปซื้อ ATI แต่นับจากยุค Core 2 ของอินเทล ก็เรียกได้ว่าเอเอ็มดีไม่ได้เกิดอีกเลย เพราะแพ้ทั้งพลังงานและประสิทธิภาพตลอดจนการตลาด แต่ในไตรมาสสี่ที่ผ่านมา เอเอ็มดีก็ทำกำไรได้อีกครั้ง
รายได้รวมของเอเอ็มดีอยู่ที่ 1,646 ล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธินั้นอยู่ที่ 1,288 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขสวยๆ นี้นับว่าเกินจริงไปสักหน่อย เพราะเงินสดที่ได้จากการฟ้องร้องอินเทลนั้นเป็นเงินถึง 1,224 ล้านดอลลาร์ แต่แม้ว่าจะตัดตัวเลขนี้ออกไป เอเอ็มดียังทำกำไรได้ด้วยตัวเอง 64 ล้านดอลลาร์ แม้จะไม่มากแต่นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี