Automobile
ในงาน CES 2018 ที่กำลังจัดขึ้น โตโยต้าได้เผยโฉม e-Palette ค็อนเซ็ปรถขนส่งขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยมี Pizza Hut เป็น Founding Partner สำหรับนำรถขับเคลื่อนอัตโนมัติมาใช้ขนส่งพิซซ่าในอนาคต
ทางโตโยต้ามีแผนจะทดสอบ e-Palette ในหลายประเทศทั่วโลกราวปี 2020 ขณะที่ทาง Pizza Hut ระบุว่านอกจากการนำแพลตฟอร์มของโตโยต้ามาใช้ขนส่งแล้ว อาจนำไปปรับใช้เป็นครัวเคลื่อนที่ (mobile kitchen) ในแคมเปญต่างๆ ในอนาคตด้วย ภายใต้ความร่วมมือนี้ ทั้งสองบริษัทได้เริ่มเก็บข้อมูลพฤติกรรมและรูปแบบการขับขี่ของคนส่งพิซซ่า เพื่อนำไปปรับปรุงบริการในฝั่ง Pizza Hut รวมถึงพัฒนาข้อมูลการขับขี่ของฝั่งโตโยต้า
นอกจาก Pizza Hut ยังมี Amazon. Didi, Mazda และ Uber ที่ประกาศเป็นพาร์ทเนอร์กับโตโยต้าในโครงการนี้ด้วย
Qualcomm ประกาศว่า Honda เตรียมใช้ชิพ Snapdragon สำหรับเทคโนโลยีเชื่อมต่อบนรถยนต์ของ Honda Accord โมเดลปี 2018
Accord รุ่นใหม่นี้จะใช้เทคโนโลยี Snapdragon Automotive Platform สำหรับอุปกรณ์ให้ความบันเทิงและนำทางบนรถยนต์ พร้อมกับโมเด็ม 4G LTE สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเทคโนโลยีจาก Qualcomm จะให้บริการทั้งการฟังเพลง, วิดีโอสตรีมมิ่ง, อุปกรณ์นำทางสามมิติ, รองรับหน้าจอความละเอียดสูง และการประมวลผลทางด้านกราฟิก
นอกจาก Honda แล้ว Cristiano Amon ประธานบริษัทกล่าวว่าเทคโนโลยีของ Qualcomm นี้มีลูกค้าเป็นบริษัทรถยนต์แล้วกว่า 25 บริษัทในปี 2017 และผู้ผลิตรถยนต์ 12 รายได้นำ Snapdragon Automotive ไปใช้งานแล้ว
Nvidia ประกาศร่วมมือกับ Uber และ Volkswagen เพื่อช่วยกันพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับในงาน CES ซึ่งจัดขึ้นที่ Las Vegas
ในฝั่งของ Uber นั้น Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia กล่าวในงาน CES ว่าในปัจจุบันกลุ่มรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Uber ได้ใช้เทคโนโลยีของ Nvidia แล้ว ซึ่งตอนนี้ GPU ของ Nvidia อยู่ในรถยนต์ Volvo XC90 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ Uber เริ่มทดสอบระบบในเมือง Pittsburgh และ Phoenix โดยระบบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติขง Uber ได้ทดสอบถึง 1 ล้านไมล์แล้วในเวลาเพียง 100 วันเท่านั้น
BlackBerry และ Baidu ได้เซ็นสัญญาร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ BlackBerry ร่วมมือกับ Qualcomm, Denso และ Aptiv ในการพัฒนาเทคโนโลยีด้วยซอฟต์แวร์ QNX ของ BlackBerry อยู่แล้ว
ภายใต้ความร่วมมือนี้ QNX ของ BlackBerry น่าจะมาเป็นระบบปฏิบัติการของ Apollo แพลตฟอร์มรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Baidu ที่เปิดตัวตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดย Apollo นี้มีบริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่ที่มาร่วมมือแล้วคือ Ford และ Hyundai รวมถึงบริษัทรถยนต์ในจีนอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึง Baidu จะนำเทคโนโลยี CarLife (ซอฟต์แวร์เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถยนต์ในจีน), ระบบ AI และแผนที่ความละเอียดสูงมาใส่ในแพลตฟอร์มของ BlackBerry ด้วย
Tesla รายงานตัวเลขการผลิตประจำไตรมาสที่ 4/2017 ที่ผ่านมา โดยทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง ส่งมอบรถได้รวม 29,870 คัน แบ่งเป็น Model S 15,200 คัน, Model X 13,120 คัน และ Model 3 1,550 คัน ยอดรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสที่ 3/2017
ทั้งนี้ Model 3 ที่ส่งมอบได้ 1,550 คันนั้น Tesla บอกว่ายังรถที่อยู่ในขั้นตอนส่งมอบช่วงท้ายไตรมาสอีก 860 คัน ซึ่งตัวเลขนี้จะนำไปคิดรวมกับไตรมาส 1/2018 สะท้อนว่า Model 3 สามารถผลิตได้เพิ่มขึ้นมาก (ตัวเลขไตรมาส 3/2017 คือ 260 คัน) สอดคล้องกับที่ Tesla บอกว่ากำลังการผลิตของ Model S และ X จะค่อยๆ ลดลง เพื่อนำมาเพิ่มกำลังผลิตให้ Model 3
Honda Motor ได้จับเป็นโกลบอลพาร์ทเนอร์กับ Alibaba Group จากจีน โดย Honda จะร่วมงานกับ AutoNavi บริษัทลูกของ Alibaba ที่เชี่ยวชาญด้านแผนที่และนำทาง ขณะที่ตัวแทนของ Honda ระบุว่าทั้งสองบริษัทได้ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว
ทั้งนี้ทาง IDC คาดว่าตลาดรถยนต์ Connected Car มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยมูลค่าตลาดจะสูงถึงราว 1 แสน 5 พันล้านภายในปี 2021 ขณะที่การจับมือกับ Honda ของ Alibaba จะช่วยให้บริษัทอินเทอร์เน็ตจากจีนสามารถขยายธุรกิจได้มาก โดย Alibaba เริ่มธุรกิจนี้อย่างเป็นทางการในปี 2016 จากการจับมือกับ SAIC Motor บริษัทรถของจีน รวมถึงพัฒนา YunOS สำหรับรถยนต์ขึ้นมาเองด้วย
ข้อจำกัดสำคัญของระบบ Android Auto ของกูเกิลคือมันต้องเสียบสาย USB เชื่อมระหว่างโทรศัพท์กับคอนโซลของรถยนต์ตลอดเวลา ล่าสุดปัญหานี้กำลังจะหมดไป เพราะระบบเครื่องเสียงรุ่นใหม่ๆ เริ่มรองรับ Android Auto ที่เชื่อมต่อไร้สายแล้ว
JVC Kenwood ผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงรถยนต์ชื่อดัง จะเปิดตัวอุปกรณ์รุ่นใหม่ในงาน CES 2018 ที่กำลังจะมาถึง โดยรองรับ Android Auto แบบเชื่อมต่อไร้สาย ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับหน้าจอความละเอียดสูง 1280x720 ด้วย
ฝั่งของ Apple CarPlay รองรับการเชื่อมต่อไร้สายมาก่อนหน้านี้แล้ว กับเครื่องเสียงบางรุ่นของ Alpine และระบบ BMW iDrive
เมื่อคืนวันที่ 27 ธันวาคม Elon Musk ได้ทวีตขอบคุณผู้ใช้รถ Tesla ทุกคนที่ให้โอกาสบริษัทเขา ซึ่งเคยถูกตราหน้าว่าจะเจ๊งแน่นอน เขาระบุว่าทีมงาน Tesla อุทิศแรงกายแรงใจอย่างมากเพื่อสร้างรถยนต์ที่ทุกคนรัก ก่อนจบทวีตด้วยการเปิดรับคำแนะนำว่า Tesla จะพัฒนาอะไรเพิ่มได้อีก
เจ้าของรถ Tesla จำนวนมากได้ตอบกลับไปหา Elon และเขาได้ตอบกลับด้วยตัวเอง ทำให้เราได้ทราบแผนการอัพเดตหลายอย่างจากเหตุการณ์นี้ อย่างแรกคือมีผู้ใช้รายหนึ่งทวีตว่าอยากได้รถกระบะปิคอัพไฟฟ้า Elon ก็ตอบกลับว่าเขาสัญญาว่ามันจะตามมาแน่นอนหลังเปิดตัว Model Y โดยเขามีดีไซน์และรายละเอียดด้านวิศวกรรมอยู่ในใจมานานเกือบ 5 ปีแล้ว และอยากจะทำมันมากๆ โดยจะมีขนาดใกล้เคียงกับ Ford F150
LG ประกาศความร่วมมือกับ HERE Technologies ทำโซลูชันด้านการรับส่งข้อมูลในรถยนต์ (telematics) ร่วมกัน
LG มีธุรกิจด้านระบบ infotainment ในรถยนต์อยู่แล้ว โดยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี telematics ด้านการส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย cellular (GSM/CDMA/LTE) รวมถึง GPS/Bluetooth/Wi-Fi ในรถยนต์มานาน และเป็นผู้นำตลาดอุปกรณ์ฝังตัว LTE ในรถยนต์ด้วย
การมาจับมือกับ HERE ที่เด่นด้านแผนที่และบริการระบุพิกัด จะช่วยให้ระบบแสดงผลข้อมูลของ LG รองรับระบบแผนที่ความละเอียดสูง (HD Live Map) อย่างรวดเร็ว และจะส่งผลให้บริษัทรถยนต์ที่ใช้โซลูชันของ LG ได้ฟีเจอร์เหล่านี้ตามไปด้วย
ที่มา - LG
เรียกว่าเงียบกริบมานาน สำหรับค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า ว่าจะเอาอย่างไรกับทิศทางของบริษัทที่เทรนด์ของโลกมุ่งหน้าไปยังรถยนต์ไฟฟ้า แถมก่อนหน้านี้ก็ชูเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเป็นพลังงานทางเลือก แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะทำตลาดจริงจัง
ล่าสุดโตโยต้าได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วนอย่างจริงจัง โดยจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ (Battery electric vehicle - BEV) ด้วยกัน 10 รุ่น ภายในปี 2020 และรถยนต์ทุกรุ่นของบริษัท (รวมถึงเล็กซัส) จะมีให้เลือกเป็นแบบไฟฟ้าหรือไฮบริดภายในปี 2025
ประเด็นที่น่าสนใจอื่นๆ มีดังนี้
จุดขายหนึ่งของ Tesla คือการสร้างสถานี Supercharger ตามเมืองที่มีการขายรถ และยังขยายจุดชาร์จนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้ แม้เมื่อต้นปีจะมีประเด็นยกเลิกชาร์จไฟฟรีตลอดชีพสำหรับผู้ซื้อรถใหม่ แต่ดูเหมือนการใช้งาน Supercharger ก็ยังคงสูง จนต้องประกาศกฎข้อใหม่เพิ่มเข้ามา
Alibaba ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่จากจีนเตรียมรุกตลาดออฟไลน์มากยิ่งขึ้น หลังจากเข้าลงทุนในไฮเปอร์มาร์เก็ตของจีนมาแล้ว รอบนี้ก็มาถึงคิวของรถยนต์บ้าง โดย Alibaba จะใช้ “เครื่องขายรถยนต์” ให้ผู้ใช้ทดลองใช้รถยนต์ หรือสั่งซื้อจากเครื่องนี้ได้เลย
FIM Moto-e World Cup เป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทางเรียบรายการใหม่ที่ทาง FIM และ Dorna Sports เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขัน MotoGP จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2019 โดยทีมแข่งจะใช้รถจาก Energica ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากอิตาลีที่มีสินค้าจำหน่ายอยู่ในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ
บริษัทเจ้าใหญ่ๆ เริ่มแสดงความสนใจใช้งานรถบรรทุก Tesla Semi มากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดเป็น PepsiCo เจ้าของแบรนด์น้ำอัดลม Pepsi Cola และขนมขบเคี้ยว Frito-Lay ที่ยืนยันกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่าได้สั่งซื้อ Tesla Semi มากถึง 100 คัน
Mike O'Connell ผู้บริหารระดับสูงฝ่าย Supply Chain ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือระบุว่า PepsiCo มีรถบรรทุกใช้งานอยู่กว่า 10,000 คัน และขณะนี้กำลังวิเคราะห์อยู่ว่าจะนำ Tesla Semi มาวิ่งในเส้นทางไหนดี โดยเบื้องต้นเห็นความเป็นไปได้ที่จะนำมาวิ่งขนส่งขนมเบาๆ หรือส่งเครื่องดื่มหนักๆ แต่ระยะทางสั้นๆ
ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Nissan, Mecedes-Benz ไปจนถึงผู้ให้บริการเรียกรถอย่าง Lyft กำลังเริ่มพัฒนาระบบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่ฝั่งของ Ford นั้น บริษัทยังคงจะไม่ทิ้งพลังงานฟอสซิลเสียทีเดียว ล่าสุด Jim Farlehy ประธานฝ่ายการตลาดโลกของ Ford ให้สัมภาษณ์กับ Automotive News ว่ารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Ford ที่วางแผนจะวางจำหน่ายในปี 2021 จะเป็นรถยนต์ไฮบริด
การพัฒนาชิพสำหรับประมวลผล AI นั้นถือเป็นสิ่งที่หลายบริษัทในปัจจุบันเริ่มหันมาสนใจทำกัน เพื่อประสิทธิภาพในการประมวลผลงานเฉพาะของตัวเอง Tesla ก็ด้วยเช่นกัน โดยสำนักข่าวทั้ง The Register และ CNBC รายงานว่าซีอีโอ Elon Musk นั้นเตรียมการพูดคุยถึงการพัฒนาชิพ AI ใช้ในบริษัทเองในงาน NIPS ซึ่งเป็นงานสัมมนาด้าน machine learning
Musk กล่าวในงานไว้อย่างชัดเจนว่า “ผมต้องการพูดให้ชัดเจนว่า Tesla นั้นจริงจังกับ AI ทั้งฝั่งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เรากำลังพัฒนาชิพ AI แบบเฉพาะทาง”
Ford ยังคงเดินหน้าบุกตลาดจีนอยู่เรื่อย ๆ หลังจากที่ร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาแล้ว รอบนี้ Ford ก็ได้ร่วมมือกับ Alibaba โดยเน้นไปที่ช่องทางการจำหน่ายสินค้าสู่คนจีนโดยตรง
ปัจจุบัน Alibaba นั้นมีช่องทาง T-Mall และ Taobao เป็นช่องทางสำหรับการซื้อขายสินค้าออนไลน์อยู่แล้ว ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้เราอาจเห็น Ford นำรถยนต์ขึ้นไปขายบนแพลตฟอร์มของ Alibaba เพื่อให้ขายตรงสู่ลูกค้าได้ แต่ว่าความร่วมมือครั้งนี้อาจไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะช่องทางขายสินค้าออนไลน์เท่านั้น เพราะตอนนี้ Alibaba ก็เริ่มขยายตลาดสู่ออฟไลน์มากขึ้นแล้วเช่นกัน
Honda ประกาศเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท SenseTime สตาร์ทอัพด้าน AI จากจีนเพื่อการพัฒนาระบบรถยนต์อัตโนมัติ ระยะสัญญา 5 ปี
เทคโนโลยีที่ SenseTime เชี่ยวชาญนั้นจะเป็นในด้านการจำแนกวัตถุในภาพถ่าย โดยเฉพาะการระบุวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่โดยใช้เทคโนโลยี deep learning โดยเมื่อกลางปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถระดมทุนได้ 410 ล้านดอลลาร์
Lyft ผู้ให้บริการ Ride-Hailing คู่แข่ง Uber ในสหรัฐเริ่มนำรถยนต์ไร้คนขับมาทดสอบให้บริการแล้ว โดยเริ่มเฉพาะในเขต Seaport ของเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ก่อน โดยรถไร้คนขับเป็นของบริษัท NuTonomy ที่ถูก Delphi ซื้อไป ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นการประกาศความร่วมมือระหว่างสองบริษัทไปกลายๆ
ในส่วนของจำนวนรถไม่มีการเปิดเผยว่ามีทั้งหมดกี่คัน ขณะที่ผู้ใช้ Lyft ที่ใช้แอปในย่าน Seaport จะมีโอกาสได้นั่งรถไร้คนขับแบบสุ่ม โดยจะมีวิศวกรนั่งอยู่หลังพวงมาลัยด้วย ทั้งนี้นอกจาก NuTonomy แล้ว Lyft ได้จับมือกับ Ford ในลักษณะนี้ด้วย
BlueSG เตรียมเปิดให้บริการ Car-Sharing โดยใช้รถยนต์ไฟฟ้าในสิงคโปร์ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ โดยรูปแบบการให้บริการจะเป็นในลักษณะการลงทะเบียนสมาชิก (subscription) รายปีและรายสัปดาห์ และคิดค่าเช่าตามระยะเวลาที่ใช้งานอย่างเดียวโดยไม่นำระยะทางมาคำนวน
รถยนต์ที่จะนำมาให้บริการเบื้องต้นมี 80 คัน สถานี BlueSG ราว 30 สถานะกับอีก 120 จุดชาร์จ โดยบริษัทตั้งเป้าว่าภายใน 2020 จะต้องมีรถยนต์ราว 1,000 คันและจุดชาร์จกว่า 2,000 จุดชาร์จ
ที่มา - Strait Times
เราเริ่มเห็นประเทศต่างๆ ประเทศแผนการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์น้ำมันไปเป็นไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็ไต้หวัน ที่รัฐบาลเริ่มพิจารณาแผนการเปลี่ยนผ่านให้ทั้งประเทศใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า โดยจะเริ่มจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก่อน ภายในปี 2030
Shen Jong-chin รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวันระบุว่า รัฐบาลจะเริ่มพุดคุยเจรจากับภาคธุรกิจ ทั้งโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงห่วงโซ่อุปทาน
GM ประกาศแผนการให้บริการรถไร้คนขับที่กำลังพัฒนาอยู่ขณะนี้ ว่าจะเริ่มให้บริการรับส่งคนตามใจกลางเมืองต่างๆ ภายในปี 2019 เพื่อรีบชิงตลาดก่อนคู่แข่งอย่าง Waymo หากยังสามารถพัฒนาได้ในอัตราความเร็ว ณ ปัจจุบัน
Chuck Steven CFO ของ GM ประเมิณว่าธุรกิจรถไร้คนขับของบริษัทในระยะยาว มีแนวโน้มจะทำเงินและทำกำไรให้บริษัทมากกว่าธุรกิจหลักในปัจจุบันเสียอีก ซึ่ง Steven ก็ระบุว่ารถไร้คนขับ 1 คันน่าจะสร้างรายได้ให้บริษัทหลายแสนเหรียญสหรัฐ เทียบกับรถยนต์ 1 คันในปัจจุบันที่ GM ได้เงินไปเพียงราว 3 หมื่นเหรียญ
ต้องถือว่ากระแสตอบรับดีทีเดียวสำหรับรถบรรทุก Tesla Semi ที่เพิ่งเปิดตัวได้เพียง 2 สัปดาห์แต่ก็มีบริษัทหลายแห่งให้ความสนใจและสั่งซื้อกันแล้ว ล่าสุด DHL ยักษ์ใหญ่วงการโลจิสติกส์จากเยอรมนีได้ยืนยันแล้วว่าพวกเขาได้สั่งซื้อ Tesla Semi แล้ว 10 คัน
Jim Monkmeyer ประธานฝ่ายการขนส่งประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือได้ยืนยันการสั่งซื้อดังกล่าว โดยระบุว่า DHL Supply Chain จะนำ Tesla Semi มาใช้วิ่งขนพัสดุสำหรับการส่งแบบ same-day ในเมืองใหญ่ๆ ของสหรัฐอเมริกา และมีแผนจะทดสอบรถบรรทุกพลังไฟฟ้าในระยะยาวว่ามีผลต่อความปลอดภัยและความสบายของคนขับอย่างไรบ้าง
Waymo บริษัทรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติภายใต้ Alphabet ประกาศความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติว่า ตอนนี้กลุ่มรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Waymo สามารถวิ่งออกบนถนนสาธารณะได้ครบถึง 4 ล้านไมล์แล้ว โดยสามารถเก็บข้อมูลเพื่อการนำมาพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติได้เป็นอย่างดี
ในโอกาสนี้ Waymo ได้เผยสถิติของรถยนต์ไร้คนขับของตนเองดังนี้ คือ
สองสัปดาห์ก่อน Tesla ได้จัดงานเปิดตัว Tesla Semi รถบรรทุกพลังไฟฟ้า พร้อมเปิดให้วางเงินมัดจำเป็นเงินจำนวน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อจองรถรุ่นดังกล่าว แต่ยังไม่ได้เปิดเผยราคาเต็มออกมา
ล่าสุด Tesla ได้เผยตัวเลขที่ "คาดว่า" จะขายในราคานี้ (แปลว่าอาจหรืออาจจะไม่ขายในราคานี้ แต่บอกเป็นแนวเฉยๆ) โดยเปิดมาที่ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับรุ่นที่วิ่งได้ไกล 300 ไมล์ (ราว 4.9 ล้านบาท) และ 180,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับรุ่นที่วิ่งได้ 500 ไมล์ (ราว 5.88 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีรถรุ่น Founders Series ที่ราคา 200,000 ดอลลาร์สหรัฐด้วย (ราว 6.53 ล้านบาท)