Automobile
Cruise สตาร์ทอัพชุดคิทที่เปลี่ยนรถธรรมดาให้กลายเป็นรถไร้คนขับ ถูก General Motors เข้าซื้อตั้งแต่ปีที่แล้ว ผ่านมาราวๆ ปีครึ่ง ล่าสุด Cruise มาเงียบๆ แต่แซงหน้าคู่แข่งหลายรายจากการประกาศว่ารถยนต์ไร้คนขับเตรียมพร้อมสำหรับการออกสู่ตลาดแล้ว
รถยนต์ของ Cruise ถูกเรียกว่า Generation 3 เนื่องจากยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ โดยเป็นการดัดแปลงมาจากรถยนต์ไฟฟ้า Bolt ของ Chevrolet และมีชิ้นส่วนใหม่เพิ่มเข้ามาราว 40% ซึ่ง Cruise ระบุว่ารถคันนี้มีระบบความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสาร ในกรณีที่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเกิดปัญหาหรือล้มเหลวไม่ทำงาน
Dieter Zetsche ซีอีโอของ Daimler บริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ประกาศว่าแบรนด์รถยนต์ Mercedes-Benz จะมีตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ในปี 2022 และแบรนด์รถยนต์ซิตี้คาร์ Smart จะเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าล้วนภายในปี 2020
เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีส่วนต่างรายได้มากกว่ารถยนต์สันดาปภายใน ดังนั้น Daimler จึงวางแผนการประหยัดงบในภายภาคหน้าด้วย โดยเป้าหมายคือจะต้องประหยัดงบให้ได้ 4 พันล้านยูโร โดย 1 พันล้านแรกจะประหยัดจากต้นทุนคงที่, 1 พันล้านถัดมาจะประหยัดจากค่าวิจัยและพัฒนากับค่าใช้จ่ายหลัก ส่วนเงินที่เหลือจะประหยัดให้ได้จากการผลิต คือ Daimler จะเริ่มใช้การซื้อชิ้นส่วนจากผู้ผลิตรายอื่นแทนที่จะพัฒนาขึ้นมาเองทั้งหมด คงเหลือไว้แต่การผลิตชิ้นส่วนสำคัญเท่านั้น
ถึงแม้ Tesla Motors จะติดตั้ง Supercharger ในหลายพื้นที่ของสหรัฐสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานรถไฟฟ้าของ Tesla แต่ด้วยขนาดของสถานีและแท่นชาร์จ ทำให้การติดตั้งมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่และสถานีชาร์จส่วนใหญ่จะอยู่ไม่นอกเมือง ก็ตามโรงแรมขนาดใหญ่หรือทางหลวงเท่านั้น
ล่าสุด Tesla Motors เปิดตัวสถานี Supercharger ใหม่ที่มีขนาดเล็กลงสำหรับการติดตั้งในตัวเมืองที่มีพื้นที่จำกัดและแออัด ซึ่งจะเริ่มติดตั้งตามซูเปอร์มาร์เก็ต, ศูนย์การค้าหรือย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองชิคาโกและบอสตันก่อน และด้วยขนาดนี้ที่เล็กลงก็ต้องแลกมาด้วยกำลังไฟที่ลดลงและเวลาชาร์จที่นานขึ้น โดย Supercharger เวอร์ชันย่อส่วนนี้จะปล่อยไฟที่ 72kW ที่น้อยกว่าปัจจุบันที่อยู่ที่ 150 kW
หนึ่งในฟังก์ชันของรถยนต์ยุคถัดไป คงไม่ใช่มีแค่ความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือมีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ แต่คือระบบการติดต่อสื่อสารบนท้องถนน ไม่ว่าจะระหว่างรถยนต์กันเอง หรือแม้แต่กับรถยนต์และถนนหรือสภาพแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเพื่อเพิ่มความปลอดภัยหรือลดการติดขัดของจราจรก็ตาม
ด้วยแนวคิดข้างต้นที่หลายฝ่ายพยายามพัฒนาและสร้างมาตรฐานขึ้นมา Qualcomm ในฐานะผู้ผลิตชิปเซ็ตก็ขอเข้ามามีส่วนร่วม ด้วยการเปิดตัวชิป C-V2x หรือชิป Cellular Vehicle-to-Everything ตามชื่อก็คือชิปเซ็ตระบบสื่อสารสำหรับรถยนต์และ ecosystem ต่างๆ (อาทิ ระหว่างรถยนต์, รถและโครงสร้างพื้นฐาน หรือแม้แต่รถและคนเดินถนน) บนคลื่นความถี่ 5.9GHz ตามมาตรฐานของ 3GPP ซึ่ง C-V2x เป็นทั้งผลิตภัณฑ์ชิปเซ็ตและ reference design ไปในตัว
จีนเตรียมวางแผนกำหนดเส้นตายสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ให้เลิกวางจำหน่ายรถยนต์ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน เพื่อเป็นการผลักดันให้บริษัทเร่งการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เร็วยิ่งขึ้น
Xin Guobin รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายอุตสาหกรรมและไอทีประกาศในงานประชุมผู้ผลิตรถยนต์ในเทียนจินว่า รัฐบาลกำลังทำงานร่วมกับผู้มีอำนาจเพื่อวางตารางเวลาในการเลิกผลิตและวางขายรถยนต์พลังงานฟอสซิล การขยับตัวครั้งนี้ถือว่ามีผลอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมและการเติบโตของอุตสาหกรรม
การแบนรถยนต์เครื่องสันดาปภายในนั้นจะช่วยผลักดันทั้งผู้ผลิตรถยนต์ระดับประเทศและระดับโลกให้เปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ทางรัฐบาลก็จะสนับสนุนด้านการเงินให้กับผู้ผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกให้มากขึ้น
เราคงเห็นข่าวกันแล้วว่าขณะนี้พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา (Hurricane Irma) กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ทางใต้ของรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยความเร็วลมสูงถึง 190 กม./ชม. ครอบคลุมพื้นที่กว้างถึง 181,000 ตารางกิโลเมตร (ใหญ่กว่าฟอริดาทั้งรัฐอีก) รัฐต้องสั่งอพยพประชาชนราว 6.3 ล้านคนออกจากพื้นที่
ในขณะเดียวกันก็มีเจ้าของรถ Tesla จำนวนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในรัฐฟลอริดารายงานกันว่ารถยนต์ของพวกเขาแสดงระยะทางที่วิ่งได้มากกว่าปกติ โดยเจ้าของรถ Tesla Model S 60 คนหนึ่งติดต่อเข้ามายังเว็บไซต์ Electrek ว่ารถเขาบอกว่าวิ่งได้ไกลขึ้นราว 60 กิโลเมตร และบนหน้าจอแสดงตรา "75" (Model S 60 ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นรุ่นเล็กสุดที่ Tesla เคยมีขาย ปัจจุบันเลิกขายไปแล้ว)
ไม่เพียงนโยบายภาครัฐที่เริ่มหันไปหารถยนต์พลังงานสะอาดกันมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ก็เริ่มทยอยเบนเข็มกันไปบ้างแล้วเช่นกัน ไล่ตั้งแต่ Volvo และ Aston Martin ล่าสุดเป็นคิวของ Jaguar Land Rover (JLR) บริษัทรถยนต์สัญชาติอังกฤษ ที่ตอนนี้เป็นแบรนด์ลูกของ Tata Motors
Ralf Speth ผู้บริหารของ JLR ระบุไลน์รถยนต์รุ่นใหม่ของบริษัท (ซึ่งมีทั้งแบรนด์ Jaguar และ Land Rover ซึ่งก็น่าจะหมายรวมทั้งสองแบรนด์) หลังปี 2020 จะมีแต่รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยรถยนต์สปอร์ตรุ่นแรกที่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทคือ Jaguar I-Pace วางจำหน่ายในปีหน้า อย่างไรก็ตามรถยนต์รุ่นเก่าๆ ของ JLR ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะยังคงถูกผลิตอยู่ เพื่อเปิดทางเลือกให้ผู้บริโภค
เยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลักดันด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรัฐ Hesse ทางตอนกลางของประเทศ (เมืองที่เรารู้จักกันดีในรัฐนี้คือ Frankfurt am Main) ได้ร่วมกับบริษัท Siemens ทดลองสร้าง eHighway เพื่อให้รถบรรทุกสามารถสลับไปวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ เพื่อลดมลภาวะที่ปล่อยออกสู่อากาศ
Nissan เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Leaf รุ่นปี 2018 ซึ่งเป็นการอัพเกรดใหญ่ของ Nissan Leaf นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011
Nissan ระบุว่าปรับปรุง Leaf ใหม่ทั้งหมด นอกจากหน้าตาภายนอกที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว จุดเด่นสำคัญคือแบตเตอรี่ 40 kWh ตัวใหม่ที่เพิ่มระยะการขับขี่สูงสุดที่ 400 กิโลเมตร (ตัวเลขจากการทดสอบมาตรฐาน JC08 ของญี่ปุ่น )
ส่วนฟีเจอร์อื่นได้แก่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ProPILOT (รองรับการใช้งานบนไฮเวย์แบบไม่เปลี่ยนเลน), ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ProPILOT Park, ระบบแป้นเหยียบ e-Pedal ที่ใช้เป็นทั้งคันเร่งและเบรกในอันเดียว (ปล่อยคันเร่งคือการเบรก)
เราเริ่มเห็นเมืองใหญ่ๆ หลายเมืองและรัฐบาลหลายประเทศเริ่มประกาศแผนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดเป็นสกอตแลนด์ ที่รัฐบาลออกมาประกาศแผนการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า และตั้งเป้าว่าจะไม่มีรถยนต์ที่ใช้น้ำมันวิ่งในประเทศหลังปี 2032
แผนการหลักๆ ของรัฐบาลสกอตแลนด์คือการผลักดันการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อย่างจุดชาร์จไฟตามถนนเส้นทางหลัก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งรัฐบาลสกอตแลนด์ระบุสาเหตุเบื้องหลังของนโยบายนี้ ก็เพื่อแก้ปัญหาภาวะเรือนกระจกและปัญหามลพิษที่เกิดจากรถยนต์
หลัง Volvo เป็นผู้ผลิตรถยนต์เจ้าแรกที่ออกมาประกาศว่าจะยกเลิกการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันหลังปี 2019 ล่าสุด Aston Martin บริษัทรถยนต์สปอร์ตหรูสัญชาติอังกฤษ เป็นอีกเจ้าที่ออกมาประกาศแนวทางที่คล้ายกันนี้
ผู้บริหารของ Aston Martin ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times เมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า ภายในทศวรรษ 2020 รถยนต์ของบริษัททั้งหมด 100% จะเป็นรถยนต์แบบไฮบริด และจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบภายในสิ้นทศวรรษหน้า ซึ่งแนวทางนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลอังกฤษ ที่จะห้ามขายรถยนต์ที่ใช้งานน้ำมันหลังปี 2040
เมื่อวานนี้ Tesla ปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าลง 3,500 ถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (1.1 ถึง 1.6 แสนบาท) หลังบริษัทฯ สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ขนาด 100 กิโลวัตต์ได้ ซึ่งรถยนต์รุ่นที่ถูกปรับลดราคาคือ Model S และ X ในรุ่นความจุแบตเตอรี่ 100 กิโลวัตต์เท่านั้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีราคาแพงสุด
ลูกค้าที่จองรถไปก่อนประกาศนี้ออกมาแต่ยังไม่ได้ชำระเงินก็จะได้รับราคาใหม่เลย ดังนี้
Grab ประกาศรับเงินลงทุนจากกลุ่มบริษัท Toyota ผ่านบริษัทลูก Toyota Tsusho Corporation และกองทุน Next Technology Fund
การลงทุนของ Toyota ครั้งนี้ไม่เปิดเผยตัวเลข แต่นับเป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนก้อนใหญ่ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ที่เพิ่งประกาศข่าวไปเมื่อเดือนที่แล้ว
นอกจากเงินลงทุนแล้ว บริษัทแม่ Toyota Motor Corporation (TMC), Toyota Financial Services Corporation (TFS) และบริษัทประกันภัย Aioi Nissay Dowa Insurance ยังประกาศความร่วมมือกับ Grab นำระบบเก็บล็อกคนขับ TransLog ที่พัฒนาโดย The Connected Company บริษัทลูกของ TMC มาติดตั้งในรถยนต์ของ Grab เพื่อใช้คำนวณข้อมูลด้านประกันภัย สินเชื่อ และการซ่อมบำรุงด้วย
Truck Platoon กำลังเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการนำรถบรรทุกกึ่งไร้คนขับมาใช้งานและได้รับความสนใจจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะในยุโรป ล่าสุดสหราชอาณาจักรผ่านกฎหมายให้ Truck Platoon วิ่งทดสอบบนทางหลวงแล้ว
การทดสอบเทคโนโลยีนี้รัฐบาลอังกฤษได้ลงเงินสนับสนุนไปถึง 8.1 ล้านปอนด์ ซึ่งรัฐบาลมองว่าเทคโนโลยี หากถูกพัฒนาจนปลอดภัยเพียงพอแล้ว จะช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปจนถึงลดความแออัดของจราจรจากรถบรรทุกลงด้วย
Ford, Jaguar, Land Rover และ Tata Motors รวมกลุ่มกันในแผนการชื่อ Autodrive ในสหราชอาณาจักร เพื่อทดสอบระบบติดต่อสื่อสารระหว่างรถยนต์ไร้คนขับ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์
ตัวอย่างการทดสอบที่เพิ่งเกิดขึ้นในเมือง Warwickshire คือระบบแจ้งเตือนคนขับเหตุการณ์ฉุกเฉินและแจ้งเตือนการชน ก่อนจะแจ้งเตือนไปยังรถยนต์คันที่อยู่ใกล้เคียงด้วย ขณะที่การทดสอบอื่นๆ ก็มีการส่งสัญญาณบอกไฟจราจร, บอกช่องจอดรถที่ว่าง, แจ้งเตือนรถคันอื่นๆ ว่ารถคันหน้าเบรคฉุกเฉิน เป็นต้น โดยทั้ง 4 บริษัทเตรียมจะทดสอบบนถนนสาธารณะในช่วงปลายปี 2018 เป็นการปิดท้ายโครงการ
ที่มา - ReadWrite
มีข่าวการทดสอบวิ่งของรถชัทเทิลบัสไร้คนขับจากหลายเมืองในหลายประเทศ แต่ดูเหมือนฟินแลนด์จะกลายเป็นประเทศแรก ที่นำรถไร้คนขับมาวิ่งให้บริการในฤดูใบไม้ร่วง หรือราวปลายกันยายนเป็นต้นไป
EZ10 ถูกพัฒนาโดยสตาร์ทอัพของฝรั่งเศสและทางการฟินแลนด์นำมาทดสอบตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งก็มีการปรับปรุงและพัฒนามาโดยตลอด โดยปัจจุบัน EZ10 สามารถวิ่งได้ไกลขึ้นและนำไปใช้งานในจุดประสงค์นอกจากการเป็นรถบัสด้วย อาทิ ส่งสินค้าหรือแท็กซี่ ขณะที่เส้นทาง แผนการวิ่งและวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีการประกาศอีกครั้ง
ปลายปีที่แล้ว มีข่าวจาก Bloomberg ว่าแอปเปิลมีปัญหาภายในโครงการรถไร้คนขับ ล่าสุด New York Times ตีพิมพ์บทความจากบทสัมภาษณ์พนักงานแอปเปิล 5 ราย ซึ่งเนื้อหาสนับสนุนข่าวข้างต้นได้เป็นอย่างมาก
แรกเริ่มเดิมที แอปเปิลตั้งใจจะสร้างรถยนต์ขึ้นมาด้วยตัวเองทั้งคัน ตามสไตล์ของแอปเปิลที่ต้องการเป็นเจ้าของและควบคุม ecosystem ทุกอย่างของผลิตภัณฑ์ตัวเอง ถึงขนาดจ้างวิศวกรรมที่เชี่ยวชาญในการสร้างรถยนต์มาร่วมโครงการนี้ ซึ่งแอปเปิลพยายามคิดใหม่ทำใหม่ไม่ว่าจะเป็นประตูที่เปิดปิดไม่มีเสียง, ห้องโดยสารภายในที่ถูกออกแบบใหม่, ล้อที่เป็นทรงกลมแทนที่วงกลมแบนๆ ในปัจจุบัน หรือแม้แต่พยายามจะเอาเซ็นเซอร์ LIDAR ที่ตั้งอยู่บนหลังคารถลง
Ford ในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่กำลังพัฒนาของตัวเองอยู่นั้น ได้ออกมาเปิดเผยแผนการณ์ทางธุรกิจแล้ว โดย Sherif Markaby รองประธานฝ่ายรถไร้คนขับของ Ford ระบุว่าจะอยู่ในลักษณะ Business-to-Business ร่วมกับพาร์ทเนอร์ในฝั่งบริการอย่างแท็กซี่หรือขนส่งสินค้า
Markaby ระบุด้วยว่ารถยนต์ไร้คนขับจะสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของพาร์ทเนอร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพบนถนนให้มากที่สุด ขณะเดียวกันการพัฒนาและผลิตรถยนต์ที่มีความเฉพาะร่วมกับองค์กรอื่นในปัจจุบัน จะช่วยให้ Ford อยู่เหนือคู่แข่งในด้านนี้
Continental ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์สัญชาติเยอรมันประกาศเตรียมทดสอบ The CUbE (Continental Urban Mobility Experience) รถ Robo-Taxi หรือรถบัสขนาดเล็กไร้คนขับ ซึ่ง the Cube เป็นหนึ่งในแผนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติสาธารณะ สำหรับการใช้งานตามชานเมืองในลักษณะ Shared Economy ของ Continental
ตอนนี้ The Cube จัดอยู่ในรถยนต์ไร้คนขับระดับ 2 เช่นเดียวกับรถของ Tesla คือต้องมีคนนั่งหลังพวงมาลัยตลอดเวลา โดยทาง Continental อาศัยความรู้ด้านฮาร์ดแวร์จากการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ทั้ง เซ็นเซอร์, หัวฉีด, หน่วยควบคุม หรือแม้แต่เทคโนโลยีด้านเน็ตเวิร์คบนรถ ให้กับผู้ผลิตรถยนต์เจ้าต่างๆ
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว Mercedes-Benz ได้เผยโฉม Mercedes-Maybach Vision 6 Cabriolet คอนเซ็ปต์รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตหรูแบบเปิดประทุน ที่มีความยาวของตัวรถกว่า 20 ฟุต 750 แรงม้า และสามารถขับได้ไกล 200 ไมล์ (321 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
Maybach 6 Cabriolet สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ภายใน 4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 155 ไมล์ต่อชั่วโมง (250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) พร้อมระบบชาร์จเร็ว รถสามารถวิ่งต่อได้อีกราว 60 ไมล์ (96 กิโลเมตร) จากการชาร์จภายใน 5 นาที
ปีที่แล้วเราเห็นข่าวค่ายรถ BMW จับมือ Intel และ Mobileye พัฒนารถยนต์ไร้คนขับร่วมกัน ล่าสุดกลุ่มพันธมิตรนี้ได้สมาชิกใหม่คือ Fiat Chrysler Automobile (FCA)
Fiat Chrysler Automobiles เป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ Fiat, Chrysler, Alfa Romeo, Jeep, Maserati, Dodge ส่วนความร่วมมือครั้งนี้ FCA จะเข้าร่วมพัฒนารถยนต์ไร้คนขับร่วมกับกลุ่มพันธมิตร ที่จะทดสอบรถยนต์ 40 คันลงถนนจริงภายในปีนี้
พานาโซนิค บริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่นกำลังพัฒนาเทคโนโลยีจากปัญญาประดิษฐ์ ที่ช่วยตรวจจับและแจ้งเตือนคนขับรถที่มีแนวโน้มจะหลับใน ซึ่งหากพัฒนาสำเร็จอาจถูกนำไปใช้งานในยูสเคสอื่นๆ ด้วย
พานาโซนิคจะใช้เทคโนโลยี Image Recognition ตรวจจับการเปิดปิดเปลือกตา การแสดงออกทางหน้า เช่น การหาว ไปจนถึงอุณหภูมิของร่างกาย โดยการตรวจจับและคาดการณ์อาการง่วงอาจเกิดขึ้นก่อนที่คนขับจะรู้ตัวว่าง่วงด้วยซ้ำ ซึ่งตัวรถก็จะแจ้งเตือนให้คนขับพัก หรือปล่อยลมเย็นอัดไปที่คนขับเพื่อปลุกให้ตื่น
เทคโนโลยีดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มส่งรุ่นทดสอบให้ผู้ผลิตรถและลูกค้าอื่นๆ ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ โดยทางพานาโซนิคตั้งเป้าว่าจะถูกนำไปติดตั้งร่วมกับรถยนต์ไร้คนขับและเทคโนโลยีป้องกันอุบัติเหตุจากเหตุหลับในอื่นๆ
กลุ่มบริษัท Toyota ประกาศความร่วมมือกับบริษัทไอที-โทรคมนาคมหลายราย ก่อตั้งกลุ่ม Automotive Edge Computing Consortium เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ที่เชื่อมต่อเน็ตได้ (connected car)
เป้าหมายของกลุ่ม Automotive Edge Computing คือพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับบริการใหม่ๆ เช่น ระบบช่วยขับขี่ หรือการสร้างแผนที่แบบเรียลไทม์ โดย Toyota ประเมินว่าในปี 2025 รถยนต์หนึ่งคันจะรับส่งข้อมูลกับคลาวด์ถึง 10 exabyte ต่อเดือน หรือ 10,000 เท่าจากปัจจุบัน ดังนั้นต้องมีสถาปัตยกรรมเครือข่ายและการประมวลผลที่ดีพอ
สมาชิกในกลุ่มนี้ได้แก่ DENSO Corporation, Ericsson, Intel Corporation, Nippon Telegraph and Telephone Corporation (NTT), NTT DOCOMO, INC., Toyota InfoTechnology Center Co., Ltd., Toyota Motor Corporation ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมของกลุ่มจะประกาศในอนาคตต่อไป
หลังการควบรวม Mobileye เสร็จสมบูรณ์ Intel ประกาศพัฒนาและผลิตรถยนต์ไร้คนขับระดับ 4 โดยอาศัยชิปของ Mobileye สำหรับการทดสอบทั้งในสหรัฐ ยุโรปและอิสราเอล ทั้งหมดราว 100 คันและคันแรกน่าจะได้ออกทดสอบวิ่งปลายปีนี้
สาเหตุที่ Intel ตั้งใจจะทดสอบถึง 3 ภูมิภาค เนื่องจากความแตกต่างของสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศ สภาพจราจร Intel จึงต้องการเก็บข้อมูลและทดสอบให้ได้หลากหลายที่สุด ขณะที่รถยนต์ที่จะถูกผลิตออกมาจะมาจากหลากหลายยี่ห้อและรุ่น แต่จะมีชิ้นส่วนจากทั้งของ Mobileye อย่าง Computer vision, เซ็นเซอร์, การทำแผนที่ ร่วมกับเทคโนโลยี Data Center และ 5G ของ Intel
การแฮกเป็นหนึ่งความกังวลสำคัญต่อการใช้งานรถไร้คนขับ ทว่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันกลับชี้ให้เห็นถึงภัยและอันตรายอีกอย่างที่เกิดได้ง่ายกว่า คือการแก้ไขหรือเปลี่ยนป้ายจราจร ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้เลย
อย่างไรก็ตามนักวิจัยระบุว่าไม่ใช่ว่าใครอยู่ๆ จะเอาสติ๊กเกอร์ไปแปะบนป้ายแล้วจะทำให้ Classifier ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์คำสั่งหรือคำเตือนของป้าย เข้าใจหรือตีความป้ายหนึ่งๆ เป็นป้ายอื่นได้ง่ายๆ นักวิจัยระบุว่าแฮกเกอร์จะต้องเข้าถึงและเข้าใจการทำงานของอัลกอริทึมก่อน จึงจะสามารถติดสติ๊กเกอร์ที่ป้ายจราจร จนทำให้ตัวรถเกิดความเข้าใจผิดได้