Automobile
ช่วงนี้วงการรถยนต์ไฟฟ้ากำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากบริษัทหลายแห่งได้เปิดตัวคอนเซปต์รถยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว ล่าสุด Honda ก็เปิดตัวรถยนต์คอนเซปต์ Sports EV แล้วเช่นกัน เพิ่มเติมจาก Urban EV เดิมของ Honda ซึ่งเน้นไปที่การขับขี่ในเมือง
ทาง Honda ไม่ได้เน้นรายละเอียดของ Sports EV ในแง่สมรรถนะมากนัก โดยบอกเพียงว่ารถยนต์คอนเซปต์นี้สามารถเร่งเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่เงียบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึงจุดศูนย์ถ่วงที่อยู่ต่ำทำให้มีความคล่องแคล่วสูง
ส่วนเทคโนโลยี AI นั้น Honda ใช้ระบบที่เรียกว่า Honda Automated Network Assistant ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI ของ Honda เพื่อให้สร้างการติดต่อสื่อสารที่ผนวกผู้ขับขี่และรถยนต์เข้าด้วยกัน
บนเวทีในงาน Tokyo Motor Show 2017 นิสสันได้ประกาศว่าจะเข้าร่วมการแข่งขัน Formula E ในฤดูกาล 2018-2019 ซึ่งเป็นรายการแข่งรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด
ขณะนี้ผู้ผลิตรถยนต์หลายยี่ห้อต่างถอนตัวจากการแข่งรถแบบเดิมๆ และหันมาลงแข่ง Formula E แทน เช่น Mercedes-Benz ก็ประกาศเลิกแข่งรายการ DTM หลังปี 2018 ส่วน Porsche ก็เลิกแข่ง Le Mans และทั้งสองค่ายก็ประกาศลงแข่ง Formula E แล้วเช่นกัน
ชมวิดีโอจากเวทีได้ท้ายข่าวครับ
วันนี้ที่งานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2017 นิสสันได้ใช้เวทีเปิดตัวรถยนต์ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นใหม่ในชื่อ IMx โดยนิสสันระบุว่าใช้มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีกำลังรวม 320 กิโลวัตต์ แรงบิด 700 นิวตันเมตร ส่วนแบตเตอรี่ก็ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด จึงทำให้นอกจากจะรองรับมอเตอร์กำลังสูง ยังสามารถทำให้รถวิ่งได้ระยะทางไกลกว่า 600 กิโลเมตรอีกด้วย
ส่วนฟีเจอร์ภายในรถก็แน่นอนว่ายังคงคอนเซ็ปต์ Nissan Intelligent Mobility โดยนิสสันได้ใส่เทคโนโลยี ProPILOT เวอร์ชันใหม่เข้ามา เพื่อรองรับการขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เมื่อระบบทำงาน รถจะพับพวงมาลัยเก็บไปในแดชบอร์ดพร้อมเอนเบาะ ทำให้ผู้ขับขี่มีพื้นที่มากขึ้น
โซนีออกมาประกาศว่ากำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าโค้ดเนม SC-1 ที่สามารถควบควมจากระยะไกลได้โดยอาศัยเซ็นเซอร์ 5 ตัวและกล้อง 360 องศา ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์สำหรับแยกแยะคนเดินผ่านรถ เพื่อจุดประสงค์ด้านโฆษณา
SC-1 มีความยาวประมาณ 3 เมตร สูงราว 2 เมตร จุผู้โดยสารได้ราว 3 คนเท่านั้น ซึ่งโซนีบอกว่ารถคันนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการวิ่งบนท้องถนนทั่วไป แต่อาจใช้ขนส่งภายในสถานที่ต่างๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า, สนามบินหรือสนามกอล์ฟ
ถึงแม้จะถูกควบคุมผ่านทางไกลแต่ SC-1 สามารถควบคุมได้จากภายในโดยจะมีคอนโทรลเลอร์และหน้าจอมาให้ด้วย โดยรถรุ่นโปรโตไทป์กำลังถูกทดสอบอยู่ใน Okinawa Institute of Science and Technology Graduate University และโซนีก็ปฏิเสธจะให้ข้อมูลเรื่องกรอบเวลาที่จะเปิดให้ใช้งานจริง
Delphi บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของโลก ประกาศเข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ NuTonomy ด้วยมูลค่า 450 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน NuTonomy มีแท็กซี่ไร้คนขับวิ่งให้บริการในสิงคโปร์ และได้รับใบอนุญาตให้ทดสอบในบอสตัน
Glen De Vos ซีทีโอ Delphi กล่าวว่าบริษัทเล็งเห็นโอกาสในรถยนต์ไร้คนขับ โดยเริ่มต้นที่บริการรถสาธารณะก่อน ซึ่งการซื้อกิจการ NuTonomy นี้จะช่วยให้บริษัทต่อยอดขยายธุรกิจได้รวดเร็วมากขึ้น จากสิทธิบัตรและทีมวิศวกร
สตาร์ตอัพรถยนต์ไร้คนขับ Cruise Automation บริษัทลูกของค่ายรถยักษ์ใหญ่ General Motors (GM) เตรียมทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในรัฐนิวยอร์กช่วงต้นปี 2018
การทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในสหรัฐ ขึ้นกับกฎระเบียบของแต่ละรัฐที่แตกต่างกัน ก่อนหน้านี้ Audi เคยทดสอบรถยนต์ในนิวยอร์กไปในเดือนมิถุนายน แต่กรณีของ Cruise ถือเป็นบริษัทแรกที่ได้ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในย่านแมนฮัตตันของนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นย่านที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด และเป็นสัญลักษณ์ของระบบทุนนิยมโลกด้วย
การทดสอบจะยังมีวิศวกรของ Cruise นั่งอยู่บนที่นั่งคนขับตลอดเวลา ตอนนี้ทีมงาน Cruise เริ่มการสร้างแผนที่ของพื้นที่ทดสอบแล้ว
ปัญหาหัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามี "มาตรฐาน" หลายแบบก็เป็นอีกประเด็นที่สร้างความลำบากในการใช้งานไม่น้อย เพราะผู้ผลิตแต่ละรายต่างก็ออกหัวชาร์จของตนเอง (รวมถึง Tesla เช่นกัน) และจนป่านนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีหัวชาร์จมาตรฐานเดียวทั่วโลก
Tesla จึงต้องแก้ปัญหาที่ปลายเหตุไปก่อน โดยการเปิดตัวรถยนต์ Tesla Model S และ X แบบที่มีพอร์ตชาร์จไฟคู่ รองรับสองมาตรฐานซึ่งเริ่มที่ประเทศจีนก่อน ซึ่งรองรับทั้งหัวชาร์จของ Tesla เอง และหัวชาร์จที่รัฐบาลจีนเป็นผู้พัฒนาในชื่อ "GB"
ก่อนหน้านี้พอร์ตชาร์จไฟของรถยนต์ Tesla ถูกวางไว้ตรงมุมของไฟท้ายด้านซ้ายของรถ (หากดูเผินๆ จะมองไม่เห็น) แต่หลังปรับดีไซน์มาเป็นแบบพอร์ตชาร์จคู่จึงต้องย้ายมาไว้บริเวณด้านข้างตัวถัง เหมือนฝาถังน้ำมันรถยนต์ทั่วไป
Andreas Renschler บอร์ดของ Volkswagen AG ประกาศว่าบริษัทจะลงทุนเพิ่มอีกราว 1.7 พันล้านดอลลาร์เพื่อผลักดันเทคโนโลยีแห่งอนาคตสำหรับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า, รถไร้คนขับและเทคโนโลยีการเชื่อมต่อรถยนต์กับคลาวด์ โดยเจ้าตัวตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะต้องสำเร็จก่อนปี 2022
Renschler ซึ่งเป็นซีอีโอบริษัท Volkswagen Truck & Bus และเป็นบริษัทลูกของ Volkswagen AG ระบุด้วยว่าบริษัทจะผลักดันรถบรรทุกและรถบัสที่ใช้ทั้งพลังงานไฟฟ้าและขับเคลื่อนอัตโนมัติออกมาด้วย โดยตอนนี้ Volkswagen Truck & Bus ร่วมกับ Navistar International Corp แบรนด์รถบรรทุกจากอเมริกาประกาศว่ามีจะเปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดกลางภายในปี 2019
ปีที่แล้ว Cyanogen Inc. เจ้าของรอมโอเพนซอส CyanogenMod ประสบปัญหาภายในครั้งใหญ่ ผู้บริหารลาออก ทีมงานวงแตก จนสุดท้าย ทีม CyanogenMod แยกตัวไปทำ LineageOS ก่อนที่ข่าวคราวของ Cyanogen Inc. จะเงียบหายไปค่อนปี
ล่าสุดที่ Cyanogen Inc. หายหน้าไปเหมือนจะหายไปชุบตัวก่อนที่จะกลับมาในชื่อใหม่ Cyngn โดยซีอีโอยังเป็น Lior Tal คนเดิม พร้อมเปลี่ยนทิศทางและวิสัยทัศน์ของบริษัทแบบหันหัวเรือ จากที่ทำรอมโอเพนซอส คราวนี้บริษัทตั้งใจจะพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับ โดยได้ทีมงานและผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทรถยนต์มาร่วมทีมบ้างแล้ว ขณะเดียวกันก็กำลังประกาศหางานในหลายตำแหน่งด้วย
Porsche เตรียมให้บริการสมัครสมาชิกเพื่อการใช้รถยนต์ของ Porsche ตามความต้องการในชื่อว่า Porsche Passport โดยจะมีสิทธิประโยชน์ให้สมาชิกทั้งการใช้รถยนต์สปอร์ตหรือ SUV ของ Porsche ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,000 ดอลลาร์ต่อเดือน
บริการ Passport นี้จะเป็นบริการในรูปแบบ white-glove service เพื่อให้ผู้ใช้เลือกใช้รถยนต์ Porsche หลากหลายโมเดลได้ โดยขึ้นกับตารางเวลารถยนต์ที่ปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถจองรถยนต์ได้ผ่านแอพบน iOS หรือ Android
NVIDIA ประกาศเปิดตัว Pegasus แพลตฟอร์มประมวลผลในกลุ่ม Drive PX 2 ซึ่งรองรับพลังประมวงลผลของรถยนต์ไร้คนขับระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ที่ตัวรถสามารถขับเคลื่อนได้ในทุกสภาพถนนสภาพอากาศ คนขับไม่จำเป็นต้องสนใจถนนเลย
NVIDIA ระบุว่าพลังในการประมวลผลของ Pegasus อยู่ที่ 320 ล้านล้านครั้งต่อวินาที เทียบเท่าดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดเซิร์ฟเวอร์ 100 ตัว ในฟอร์มแฟ็คเตอร์ขนาดเล็ก ซึ่งจะช่วยลดการใช้พื้นที่สำหรับการติดตั้งฮาร์ดแวร์ประมวลผลบนรถไร้คนขับลง (หนึ่งในเหตุผลที่รถไร้คนขับที่วิ่งทดสอบในปัจจุบันเป็น SUV ก็เพราะฮาร์ดแวร์เหล่านี้กินพื้นที่บนรถ)
ก่อนหน้านี้ Elon Musk ซีอีโอ Tesla เคยประกาศไว้ว่า 26 ตุลาคมนี้จะเปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้า Tesla Semi แต่ล่าสุด Tesla ได้เลื่อนงานเปิดตัวออกไปเป็น 16 พฤศจิกายน โดยให้เหตุผลว่า Model 3 นั้นกำลังประสบปัญหาคอขวดในการผลิต และการช่วยเหลือใน Puerto Rico
สำหรับปัญหาของ Tesla Model 3 นั้นมีปัญหาคอขวดในการผลิตมาก (Musk ใช้คำว่า “deep in production hell”) ซึ่งในช่วงไตรมาสที่สามที่ผ่านมา สามารถผลิตได้เพียง 260 คันเท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายที่ 1,500 คัน
The Information ได้พูดคุยกับพนักงานภายในของ Waymo บริษัทลูกของ Alphabet ที่พัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งมีการเปิดเผยว่าบริษัท มีแผนจะทดสอบบริการเรียกรถหรือ Ride-Hailing ของตัวเองโดยนำรถไร้คนขับมาให้บริการ
ทาง Waymo เล็งจะเปิดให้บริการ Ride-Hailing ในเมือง Phoenix รัฐแอริโซนาให้ได้เร็วที่สุดที่เป็นไปได้ หลังจากเคยทดสอบผ่านโปรแกรม Early Ride Program
Tesla รายงานตัวเลขการผลิตประจำไตรมาสที่ 3/2017 โดยถือเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดเท่าที่มีมาสำหรับ Model S และ Model X โดย Model S ส่งมอบได้ 14,065 คัน ส่วน Model X ส่งมอบ 11,865 คัน ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายสิ้นปีนี้ ที่สองรุ่นรวมกันจะส่งมอบได้ 1 แสนคัน
อย่างไรก็ตามตัวเลขสำหรับ Model 3 นั้นไม่ค่อยดีนัก โดยส่งมอบไปได้ 220 คัน และผลิตออกมาได้ 260 คัน ซึ่งมาจากเกิดปัญหาคอขวดในสายการผลิต ซึ่ง Tesla เน้นย้ำว่าไม่ใช่ปัญหาเชิงพื้นฐาน หรือปัญหาซัพพลายเชน โดยบริษัททราบสาเหตุแล้ว และมั่นใจจะแก้ไขได้
BMW ได้เผยโฉมโซลูชันสำหรับชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์แบบไร้สายของตัวเอง โดยจะเริ่มมาใช้งานในปี 2018 กับ BMW 530e รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอิน ไฮบริดเป็นรุ่นแรก
แท่นชาร์จไร้สายของ BMW จะติดตั้งไว้ที่พื้น จ่ายไฟที่ 3.2 kW ซึ่งสำหรับ 530e ที่มีแบตเตอรี่ขนาด 9.2 kWh จะใช้เวลาชาร์จราว 3 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งถือว่าไม่แตกต่างจากแท่นชาร์จแบบลากสายมากนัก (i Wallbox ของ BMW จ่ายไฟที่ 3.7 kW และใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการชาร์จ 530e)
BMW ยังไม่ได้ระบุราคาวางจำหน่ายของระบบชาร์จไร้สาย รวมถึงประเทศที่จะวางขายแต่ก็คาดว่าสหรัฐและยุโรปจะได้เป็นกลุ่มแรก
ที่มา - CNET
Toyota ร่วมกับ Mazda และ Denso Corporation บริษัทซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนรถยนต์ ประกาศจัดตั้งบริษัท EV Common Architecture Spirit Co Ltd. เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า โดยอาศัยวิศวกรและเทคโนโลยีจากทั้ง 3 บริษัทร่วมกัน
Toyota จะถือหุ้น 90% ในบริษัทนี้ ขณะที่ Mazda และ Denso แบ่งกันบริษัทละ 5% ทำให้เทคโนโลยีที่ออกจาก EV Common จะพัฒนาบนฐานแพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมโมดูลาร์ของ Toyota เป็นหลัก ซึ่งสถาปัตยกรรมนี้ถูกใช้งานอยู่ก่อนแล้วบน Prius และ Camry รุ่นปี 2018 โดย Toyota ระบุว่าโครงสร้างทางธุรกิจของบริษัทใหม่นี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรถยนต์และซัพพลายเออร์เจ้าอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมด้วย
Alexa ผู้ช่วยอัจฉริยะของ Amazon กำลังจะไปอยู่บนรถยนต์เหมือนคู่แข่งบ้านแล้วจากการจับมือกับ BMW ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนี ซึ่ง Alexa จะไปอยู่ทั้งรถแบรนด์ BMW และ MINI ตั้งแต่กลางปี 2018 เป็นต้นไป
Amazon ไม่ได้พูดถึงระบบปฏิบัติการบนรถยนต์ ระบุแต่เพียงว่า Alexa จะคอยช่วยทั้งบอกทาง, โทรศัพท์, เล่นเพลง, อ่าน Audiobook, ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม, อ่านข่าว เป็นต้น โดยไม่ต้องลงแอปแยกใดๆ ขณะที่เจ้าของรถยังสามารถเข้าถึง Alexa Skills จากนักพัฒนาภายนอกได้ด้วย ซึ่งดูแล้วก็เหมือนยกเอา Echo ไปไว้บนรถยนต์ก็คงไม่ผิดนัก
Ford ประกาศเป็นพาร์ทเนอร์กับ Lyft ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Ride-Hailing ผ่านรถยนต์ไร้คนขับร่วมกัน ซึ่งในอนาคตเราจะได้เห็นรถไร้คนขับของ Ford มาวิ่งให้บริการผ่าน Lyft
อย่างไรก็ตามโจทย์ของทั้งสองบริษัทที่จะต้องแก้ร่วมกันก่อน คือการพัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของพาร์ทเนอร์, ควรนำรถไร้คนขับไปให้บริการ Ride-Hailing ที่เมืองไหนก่อนและโครงสร้างพื้นฐานแบบไหนที่จำเป็น สำหรับการให้บริการและดูแลรถไร้คนขับ ให้พร้อมสำหรับการให้บริการ
Ford ระบุด้วยว่าเบื้องต้นจะทดสอบอินเทอร์เฟสของแพลตฟอร์มตัวเอง ด้วยการนำรถ Ford ที่มีคนขับไปให้บริการก่อน ขณะเดียวกันก็มีแผนจะนำรถไร้คนขับไปวิ่งทดสอบผ่านบริการของ Lyft ด้วย แต่ก็ยืนยันว่าจะไม่ให้บริการจริงๆ จนกว่าจะมั่นใจเรื่องความปลอดภัย
เมื่ออุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มเปลี่ยนผ่านและมีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องมากขึ้น บริษัทด้านเทคโนโลยีก็เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมกันมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดซัมซุงเปิดตัวโซลูชันหน่วยความจำ Universal Flash Storage แบบฝังตัวในชื่อ eUFS (embeded UFS) สำหรับรถยนต์อัจฉริยะ
eUFS มีสองขนาดคือ 128GB และ 64GB รองรับแอปพลิเคชันอย่างระบบไร้คนขับ, แดชบอร์ดและระบบ infotainment ที่ฉลาดมากขึ้นบนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และรถยนต์ในอนาคต โดย eUFS มาตามมาตรฐาน JEDEC UFS 2.1 ทำให้ได้ความเร็วในการอ่านสูงสุด 850MBps และความเร็วในการอ่านแบบสุ่มสูงสุดที่ 45,000 IOPS
หลังจากที่ Tesla Motors เคยมีความร่วมมือกับ NVIDIA ในการนำชิปและฮาร์ดแวร์ประมวลผลของ NVIDIA มาใช้งาน ล่าสุด CNBC รายงานข่าวลือจากแหล่งข่าววงในว่า Tesla Motors กำลังหันไปพึ่งคู่แข่งของ NVIDIA อย่าง AMD ในด้านนี้มากขึ้น
CNBC ระบุว่า Tesla กำลังร่วมมือกับ AMD ในการพัฒนาชิปปัญญาประดิษฐ์สำหรับการใช้งานบนรถไร้คนขับ ซึ่งชิปนี้จะเป็นชิปตัวแรกที่ Tesla ผลิตขึ้นมาด้วยตัวเอง ลดการพึ่งพาบริษัทอื่น โดยอาศัยสิทธิบัตรและ know-how จาก AMD โดยหนึ่งในนั้นได้ Jim Keller วิศวกรออกแบบชิปแนวหน้าที่ AMD คว้าตัวมาจากแอปเปิลมาช่วยด้วย ขณะที่ตอนนี้ Tesla กำลังทดสอบชิปตัวแรกอยู่
ทั้ง AMD และ Tesla ปฏิเสธที่จะพูดถึงประเด็นนี้ทั้งคู่
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีโครงการแท็กซี่ไร้คนขับและได้เซ็นสัญญาซื้อรถยนต์ Tesla จำนวน 200 คันเพื่อใช้ในโครงการนี้
ล่าสุดดูไบได้รับมอบรถยนต์ Tesla ล็อตแรกจำนวน 50 คันแล้ว โดยจะนำมาประจำที่สนามบินดูไบก่อน ซึ่ง HH Sheikh Ahmed bin Saeed Al Maktoum ประธานสำนักงานการบินพลเรือนและสนามบินดูไบ กล่าวว่ากรมการขนส่งทางบกดูไบได้รับมอบรถยนต์ Tesla จำนวน 50 คัน และจะรับมอบอีก 75 คันในปี 2018 และอีก 75 คันในปี 2019 ซึ่งบริษัทแท็กซี่ดูไบได้ช่วยจัดหาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งานรถแท็กซี่ไร้คนขับนี้ และตั้งสถานีชาร์จอีก 13 สถานี
ประเด็นการยอมรับต่อรถยนต์ไร้คนขับยังคงเป็นคำถามตัวโตๆ สำหรับผู้ผลิตและผู้พัฒนาขณะนี้ ทำให้ Ford ตัดสินใจทำ Social Experiment ต่อประเด็นดังกล่าว ด้วยการให้คนแต่งตัวเป็นเบาะรถยนต์ก่อนจะออกไปขับรถตามท้องถนน
การทดสอบครั้งนี้ไม่เป็นเพียง Social Experiment เพื่อดูปฏิกิริยาจากคนเดินถนน แต่เป็นการเก็บข้อมูลการโต้ตอบและการแสดงท่าทางต่างๆ เพื่อเป็นการสื่อสารกับรถยนต์ของคนเดินถนน อาทิ การก้มหัวหรือทำมือหยุดรถตอนข้ามถนน ขณะที่บริเวณด้านบนของกระจกรถ มีการติดตั้งสัญญาณไฟ เพื่อสื่อสารกับรถและคนด้วยว่ารถของ Ford จะทำอะไรต่อไป
การทดสอบนี้ทาง Ford ทำร่วมกับ Virginia Tech Transportation Institute โดยวิ่งตามถนนทางตอนเหนือของรัฐเวอร์จิเนียช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ชมคลิปได้จากที่มา
อินเดียกำลังเป็นอีกประเทศที่ผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า โดย Reuters รายงานว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาร่างกฎหมายและโร้ดแม็พ คาดว่าจะแล้วเสร็จและประกาศใช้ภายในสิ้นปีนี้ คร่าวๆ คือรถยนต์ทุกคันในอินเดียจะต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030
ถึงแม้นโยบายจะยังไม่ประกาศใช้ แต่รัฐบาลก็เริ่มแจ้งเตือนบริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์ของอินเดียให้เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนผ่านด้านนโยบาย ขณะที่หลากบริษัทก็เริ่มแผนการไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยตอนนี้มีเพียง Mahindra & Mahindra เป็นบริษัทเดียวในอินเดียที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ทั้งนี้สิ่งที่บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่กังวลคือจำนวนสถานีชาร์จไฟในอินเดีย ซึ่งก็ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะมีแผนผลักดันเรื่องสถานีชาร์จนี้ด้วย
หากยังจำกันได้ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla เคยเขียน "แผนการขั้นสุดยอด" ของบริษัทไว้ โดยในตอนหนึ่งของแผนดังกล่าวเขาระบุไว้ว่า Tesla จะทำ "รถบรรทุกไฟฟ้า" ในนาม Tesla Semi ด้วย โดยตอนนั้นยังอยู่ในช่วงการวิจัยและพัฒนาอยู่
ล่าสุดเขาทวีตผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าจะจัดงานเปิดตัวรถบรรทุกดังกล่าวในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ (ใช้คำว่า tentative คือยังไม่ยืนยันวันที่แน่ชัด) ที่เมือง Hawthorne รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยในงานจะเปิดให้ทดลองขับด้วย ก่อนปิดท้ายทวีตว่าควรจะมาเห็นด้วยตาตนเอง และมัน "เหลือเชื่อ" (it's unreal)
ไว้เปิดตัวแล้ว Blognone จะนำเสนอให้อ่านกันครับ
ท่ามกลางกระแสของรถยนต์ไร้คนขับที่กำลังถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Shuichi Shigeno ผู้เขียน Initail D การ์ตูนมังงะชื่อดังที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแข่งรถบนภูเขาและท้องถนน ได้เปิดตัวการ์ตูนเรื่องใหม่ MF Ghost ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแข่งรถโลกในอนาคตที่รถยนต์ไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนท้องถนน