European Union
แอปเปิลประกาศเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการใช้งานใน iOS และ iPadOS เพิ่มเติม มีผลเฉพาะกลุ่มผู้ใช้งานในสหภาพยุโรปเท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายดิจิทัล DMA ซึ่งทั้งหมดจะเริ่มมีผลตั้งแต่ iOS 18 และ iPadOS 18 เป็นต้นไป
การเปลี่ยนแปลงอย่างแรกคือการเลือกเบราว์เซอร์เริ่มต้น (Default) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถแก้ไขได้ตลอด แต่หน้าต่างแนะนำให้เลือกจะปรากฏเพียงครั้งเดียวเมื่อเปิด Safari ครั้งแรก ในอัปเดตใหม่นี้ ถ้าเดิมผู้ใช้เลือก Safari เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น หลังอัปเดต iOS 18 ก็จะถูกถามอีกครั้ง ตัวเลือกนี้จะไม่ซิงก์ข้ามอุปกรณ์ หมายความว่าหน้าต่างคำถามก็จะแสดงอีกครั้งเมื่อย้ายไป iPhone, iPad เครื่องใหม่ด้วย
Spotify ประกาศความคืบหน้า ในประเด็นที่คณะกรรมาธิการยุโรปสั่งปรับเงินแอปเปิล 1,800 ล้านยูโร เรื่องการกีดกันในตลาดแอปฟังเพลงสตรีมมิ่ง ทำให้ Spotify ได้ส่งแอป iOS ซึ่งให้ข้อมูลแพ็คเกจราคาที่ถูกกว่าถ้าซื้อนอกแอป สำหรับผู้ใช้งานในประเทศสหภาพยุโรป แต่ Spotify ออกมาแฉว่าแอปเปิลได้ดึงเวลาอนุมัติแอปเวอร์ชันนี้ ทำให้ Spotify ร้องเรียนไปที่คณะกรรมาธิการยุโรปอีกครั้ง
ต่อเนื่องจากที่แอปเปิลประกาศเปลี่ยนกฎการพัฒนาแอป สำหรับนักพัฒนาในภูมิภาคยุโรปเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล DMA ที่คณะกรรมการธิการยุโรปทักท้วงและบอกอาจมีความผิดก่อนหน้านี้ ซึ่งกฎการพัฒนาแอปใหม่ก็มาพร้อมกับค่าธรรมเนียมใหม่สองอย่างคือ Initial Acquisition Fee และ Store Services Fee ถึงแม้แอปเปิลบอกว่าโดยรวมแล้วนักพัฒนาจะจ่ายเงินน้อยลง แต่ขาประจำคู่ปรับกับแอปเปิลสองรายก็ไม่เห็นด้วย
แอปเปิลแจ้งนักพัฒนาในภูมิภาคยุโรป เรื่องการเปลี่ยนกฎการพัฒนาแอป หลังจากคณะกรรมการธิการยุโรปกล่าวโทษ ว่าแอปเปิลอาจละเมิดกฎหมาย DMA เนื่องจากไม่ได้ให้อิสระแก่นักพัฒนามากพอ ตามแนวทางของกฎหมายนี้ โดยประเด็นสำคัญคือการแทรกลิงก์ในแอป เพื่อออกไปยังเว็บภายนอก สำหรับการจ่ายเงินและให้ข้อเสนอที่ราคาถูกกว่าการจ่ายผ่านระบบ In-App ที่แอปเปิลจำกัดเงื่อนไขไว้ก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้แอปเปิลบอกว่า Apple Intelligence ความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะมีให้ใช้งานใน iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษแบบสหรัฐฯ ก่อน และจะเพิ่มภาษาอื่น ๆ ต่อจากนั้น โดยประเทศในยุโรปไม่น่าได้ใช้งานภายในปีนี้ เพราะแอปเปิลต้องตรวจสอบประเด็นกฎหมายดิจิทัล DMA ของสหภาพยุโรป
อย่างไรก็ตามข้อมูลในอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ที่ตอนนี้อยู่ในสถานะเบต้าสำหรับนักพัฒนา พบว่า macOS Sequoia อาจเปิดให้ใช้งาน Apple Intelligence ได้เลย โดยไม่มีประเด็นเรื่องกฎหมายของ EU
หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค (CPC) ในคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ออกแถลงการณ์เตือน Meta ว่ารูปแบบการให้บริการ "จ่ายเงินหรือยอมรับเงื่อนไข" (Pay or Consent) ที่ใช้กับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) อาจละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
โดย Meta มีเวลาถึงวันที่ 1 กันยายน 2024 ในการยื่นข้อเสนอเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการดังกล่าว มิฉะนั้นอาจมีโทษปรับเงินสูงสุด 4% ของรายได้บริษัทในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป
จากเหตุการณ์ที่ CrowdStrike ซอฟต์แวร์ความปลอดภัย อัปเดตโปรแกรมจนทำให้ Windows จอฟ้าสร้างผลกระทบในระดับโลก ประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาก็คือ Windows เป็นระบบเปิดมากเกินไป ทำให้ซอฟต์แวร์สามารถเข้าถึงได้ระดับเคอร์เนล ถ้าใช้ระบบปิดแบบบางระบบปฏิบัติการ ก็คงไม่เกิดปัญหาแบบนี้แล้ว
Meta เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนออกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ Llama ที่รองรับข้อมูลผสมผสาน (Multimodal) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ประเด็นสำคัญนั้น Meta บอกว่าโมเดล Llama ตัวใหม่นี้จะไม่เผยแพร่ให้กับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU
โดยเหตุผลที่ Meta ตัดสินใจเช่นนั้นเป็นเพราะ Meta มองว่าทิศทางของหน่วยงานกำกับดูแลของ EU มีลักษณะที่คาดเดาได้ยาก จึงเลือกไม่เผยแพร่โมเดลไปเลยดีกว่า
คณะกรรมาธิการยุโรปหรือ EC (European Commission) แจ้งคำเตือนขั้นต้นกับ X ว่าละเมิดกฎหมายดิจิทัล DSA ของสหภาพยุโรป ใน 3 ประเด็น ได้แก่ รูปแบบการดำเนินงาน, ความโปร่งใสในการโฆษณา และการให้นักวิจัยเข้าถึงข้อมูล
EC บอกว่าหลักการของกฎหมาย DSA คือการจัดการเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และความโปร่งใสของระบบโฆษณาแสดงผล ซึ่งผลการสอบสวน รวมทั้งข้อมูลจากเอกสารภายใน การสอบถามผู้เชี่ยวชาญ จึงพบว่า X ละเมิดกฎหมาย DSA ดังนี้
ประเด็นแรกเรื่องการดำเนินงาน EC เจาะจงไปที่ระบบติ๊กถูกสีฟ้า ซึ่ง X เรียกว่าบัญชียืนยันตัวตน แต่ EC พบว่า X ใช้สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้งานมองว่านี่เป็นบัญชีที่เชื่อถือได้ มีการยืนยัน ซึ่งไม่เป็นความจริง เท่ากับหลอกผู้ใช้งาน
คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission - EC) ออกแถลงการณ์ตอบรับข้อตกลงจากแอปเปิล ประเด็นระบบจ่ายเงินผ่าน NFC ด้วย iPhone ที่ก่อนหน้านี้แอปเปิลปิดไม่ให้ผู้พัฒนาภายนอกเข้าถึงใช้งานได้ จึงนำมาสู่การสอบสวนในประเด็นผูกขาด แต่ก็มีข่าวว่าแอปเปิลได้เริ่มหารือกับนักพัฒนา และทาง EC น่าจะยุติการสอบสวน
ในข้อตกลงเบื้องต้นที่แอปเปิลให้กับ EC นั้น มีประเด็นสำคัญดังนี้
คณะกรรมาธิการยุโรปหรือ EC (European Commission) เปิดเผยว่าได้ส่งคำร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก Amazon ภายใต้กฎหมายดิจิทัล DSA โดย EC ต้องการให้ Amazon ชี้แจงเพิ่มเติม เกี่ยวกับความโปร่งใสของระบบแนะนำ และตัวแปรที่นำมาใช้ในการคำนวณ รวมทั้งระบบโฆษณาที่เกี่ยวข้องด้วย
Amazon เป็นบริษัทเทคโนโลยีล่าสุดที่ถูก EC ร้องขอข้อมูลภายใต้เงื่อนไขเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่มาก จึงต้องปฏิบัติตามกฎหมาย DSA ที่มีผลในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป โดย Amazon ต้องให้ข้อมูลต่อ EC ภายในวันที่ 26 กรกฎาคม 2024
ตัวแทนของ Amazon ชี้แจงหลังจากได้รับคำร้องขอจาก EC ยืนยันว่าบริษัทมีเป้าหมายร่วมกันกับ EC เพื่อสร้างระบบนิเวศสำหรับการซื้อสินค้าที่ปลอดภัย คาดเดาได้ และน่าเชื่อถือ
คณะกรรมาธิการยุโรปหรือ EC (European Commission) ออกแถลงการณ์แจ้ง Meta ในขั้นต้นว่ารูปแบบการให้บริการในภูมิภาคยุโรปแบบ "จ่ายเงินหรือยอมรับเงื่อนไข" สำหรับการแสดงผลโฆษณา ไม่เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล DMA โดยมองว่าทางเลือกที่มีอยู่ ไม่มีตัวเลือกที่สามารถปรับลดการแสดงผลเฉพาะบุคคล แต่ยังได้รับบริการเทียบเท่า
มีรายงานจาก Financial Times อ้างข้อมูลจากคนที่เกี่ยวข้องว่าสหภาพยุโรปหรือ EU เตรียมแจ้งความผิดกับ Meta ในประเด็นการให้บริการระบบสมาชิกจ่ายเงิน เพื่อแลกกับการไม่แสดงโฆษณา สำหรับผู้ใช้งานในยุโรป ว่าขัดกับกฎหมายดิจิทัล DMA ตามที่ EU ได้ประกาศเริ่มสอบสวนเมื่อเดือนมีนาคม
Meta เริ่มให้บริการสมัครสมาชิกใช้งาน Facebook และ Instagram แบบไม่มีโฆษณา เฉพาะผู้ใช้งานในยุโรปเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้ผู้ใช้งานมีสองทางเลือกคือใช้งานฟรีแบบมีโฆษณาติดตาม แต่หากไม่ต้องการให้มีโฆษณาเจาะจงก็ต้องจ่ายเงินค่าสมาชิก
คณะกรรมการธิการยุโรปหรือ EC (European Commission) ประกาศว่าหน่วยงานได้ส่งคำขอข้อมูลเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการ กับสองแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซคือ Temu และ Shein ภายใต้กฎหมายดิจิทัล DSA โดยให้ชี้แจงว่าแพลตฟอร์มได้ปฏิบัติตามข้อกำหนด DSA หรือไม่
ประเด็นที่ EC สอบถามได้แก่ กระบวนการแจ้งเตือนและแก้ไขปัญหาหากพบสินค้าที่ไม่ถูกต้อง และระบบป้องกันไม่ให้ลูกค้าได้รับการเสนอสินค้าด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม ทั้งสองแพลตฟอร์มต้องส่งรายงานการกำกับดูแลประเด็นดังกล่าวต่อ EC ภายในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้
เป็นไปตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยคณะกรรมการธิการยุโรปหรือ EC (European Commission) แจ้งในขั้นต้นว่าแอปเปิลอาจละเมิดกฎหมายดิจิทัล DMA เนื่องจากได้กำหนดเงื่อนไข ทำให้นักพัฒนาไม่มีอิสระมากพอที่จะทำให้ผู้ใช้งาน สามารถดาวน์โหลดแอปผ่านช่องทางอื่นนอกจาก App Store ซึ่งเป็นข้อกำหนดในกฎหมาย DMA นี้
แอปเปิลเปิดเผยว่าความสามารถด้าน AI หรือ Apple Intelligence ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ในงาน WWDC24 ซึ่งจะมีในอุปกรณ์ต่าง ๆ ของแอปเปิล อาจไม่ได้เปิดใช้งานสำหรับลูกค้าในภูมิภาคยุโรปภายในปีนี้ เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลสหภาพยุโรปต้องทำการสอบสวนเรื่องการจัดการความเป็นส่วนตัวก่อน
Financial Times อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องระบุว่า สหภาพยุโรปหรือ EU เตรียมออกคำสั่งปรับแอปเปิล เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติได้ตามกฎหมายดิจิทัล DMA โดยคาดว่าจะประกาศเป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และทำให้แอปเปิลเป็นบริษัทแรกที่ถูกปรับจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย DMA นี้
ประเด็นสำคัญของกฎหมาย DMA คือแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ต้องเปิดให้คู่แข่งเข้ามาเชื่อมต่อระบบได้ ต้องสร้างทางเลือกให้ผู้ใช้งาน จึงทำให้แอปเปิลได้อัปเดต iOS 17.4 เพื่อรองรับข้อกำหนดดังกล่าวสำหรับผู้ใช้งานในสหภาพยุโรป เช่น ดาวน์โหลดแอปจากสโตร์ภายนอกได้, ใช้เบราว์เซอร์เอ็นจินอื่นที่ไม่ใช่ WebKit ได้ เป็นต้น
เรื่องนี้มีผลเฉพาะผู้ใช้งานในยุโรป โดย Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ได้แจ้งผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศนี้ว่า บริษัทจะนำโพสต์ที่เป็นสาธารณะมาช่วยพัฒนาและปรับปรุง AI มีผลตั้งแต่ 26 มิถุนายน เป็นต้นไป
ข้อมูลที่จะนำมาใช้เทรน AI มีทั้งที่เป็นโพสต์ รูปภาพ แคปชัน และข้อความที่แชทหาแชทบอต AI ส่วนข้อมูลที่ไม่นำมาเทรนคือข้อความส่วนตัว
Meta บอกว่าบริษัทได้แจ้งกับผู้ใช้งานทั้งในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร ถึงการนำข้อมูลมาใช้งานดังกล่าว ซึ่งตามข้อกำหนดของกฎหมาย GDPR สามารถทำได้ แต่ต้องเปิดทางเลือกให้ผู้ใช้งานปิดไม่ให้ข้อมูลของตนถูกนำไปเทรนได้เช่นกัน (opt-out)
คณะกรรมการธิการยุโรปหรือ EC (European Commission) ประกาศว่า Temu แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ เข้าเกณฑ์เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่มาก (VLOP - Very Large Online Platform) ซึ่งมีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติเพิ่มเติมตามกฎหมาย DSA (Digital Services Act) ในการจัดการเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งเปิดเผยอัลกอริทึมในการคัดเลือกเนื้อหามาแสดงผล
คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission - EC) ประกาศเริ่มประเมินว่า Meta ในฐานะเจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram ได้ละเมิดกฎหมายการให้บริการดิจิทัลหรือ DSA ของสหภาพยุโรปหรือไม่ ในประเด็นการปกป้องกลุ่มผู้ใช้งานที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (minor)
EC ระบุข้อกังวลว่า Facebook และ Instagram ได้ใช้อัลกอริทึมเพื่อทำให้ผู้ใช้งานกลุ่มเยาวชนเกิดการเสพติด ใช้งานต่อเนื่องยาวนานจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลต่อระบบตรวจสอบยืนยันอายุผู้ใช้งานที่ Meta ใช้อยู่ปัจจุบันด้วย
หลังจากที่หน่วยงานด้านคุ้มครองข้อมูลของยุโรป European Data Protection Supervisor (EDPS) ประกาศสร้างโซเชียลของตัวเอง ชื่อ EU Voice และ EU Video เมื่อสองปีก่อน
ล่าสุดทาง EDPS ได้ออกมาประกาศปิดโซเชียลของตัวเองทั้ง EU Voice และ EU Video ในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ด้วยเหตุผลว่าครบกำหนดเวลาของโครงการ 1 ปี และขยายเพิ่มอีก 1 ปี
ทาง EDPS ได้บอกว่าโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จในการเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัวและเน้นผู้ใช้งานเป็นหลัก สำหรับ EU Voice มีบัญชีองค์กร 40 บัญชี รวมถึงคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปและสมาชิกรัฐสภายุโรป และ EU Video มีจำนวน 6 บัญชี
การเปลี่ยนเงื่อนไขสำหรับนักพัฒนาแอปในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปของแอปเปิล เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย DSA มีประเด็นที่ยังเป็นปัญหาอยู่ โดยเฉพาะการคิดค่าธรรมเนียมใหม่ Core Technology Fee ซึ่งจัดเก็บ 0.5 ยูโร ต่อการดาวน์โหลดต่อปี สำหรับแอปที่มีจำนวนดาวน์โหลดส่วนที่มากกว่า 1 ล้านครั้งแรก ทำให้คณะกรรมาธิการยุโรปบอกว่าอาจทำการสอบสวนประเด็นนี้
ล่าสุดแอปเปิลประกาศปรับปรุงรายละเอียดวิธีคิดค่า Core Technology Fee หรือ CTF เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น รองรับกรณีนักพัฒนาที่ไม่สมควรถูกเก็บแม้จำนวนดาวน์โหลดสูง จากเดิมกลุ่มที่ได้รับยกเว้นคือ องค์กรไม่แสวงหากำไร หน่วยงานรัฐบาล และสถาบันการศึกษา มีเพิ่มดังนี้
คณะกรรมาธิการยุโรปเพิ่งมีมติให้ iPadOS เข้าข่าย Gatekeeper ตามกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ตามรอย iOS ที่โดนไปก่อนหน้านี้
กรรมาธิการยุโรประบุว่า แม้ iPadOS อาจจะไม่เกณฑ์ทั้งหมด แต่จากการสำรวจตลาดก็พบว่าตัว iPadOS เป็นเกตเวย์สำคัญที่เป็นตัวกลางสำหรับหลายบริษัทหลายธุรกิจเข้าถึงลูกค้า โดยยกตัวอย่างลูกค้าฝั่งธุรกิจของ iPadOS ที่มากกว่าเกณฑ์ถึง 11 เท่า แม้ลูกค้าทั่วไปจะไม่ถึง แต่ก็เกือบถึงเกณฑ์ และก็คาดว่าจำนวนน่าจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต โดยลูกค้าถูกล็อกอยู่ในอีโคซิสเต็มขนาดใหญ่ผ่าน iPadOS
Spotify กล่าวว่าบริษัทได้ส่งแอปเวอร์ชันใหม่ เพื่อนำขึ้น App Store สำหรับคนใช้ iOS ในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเพิ่มการให้ข้อมูลแพ็คเกจราคา และข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีการแทรกลิงก์ไปยังเว็บของ Spotify ถือเป็นขั้นต่ำที่สุดตามแนวทางคำตัดสินคดีที่คณะกรรมการยุโรป (European Commission - EC) สั่งปรับแอปเปิลเรื่องผูกขาด App Store
ก่อนหน้านี้ Spotify เคยร้องเรียนไปยัง EC ว่าแอปเวอร์ชันที่แทรกลิงก์รายละเอียดแพ็คเกจ และวิธีจ่ายเงินผ่านเว็บ Spotify โดยตรง ถูกแอปเปิลดึงเวลาไม่อนุมัติให้ขึ้น App Store
รัฐสภายุโรปลงมติให้รับรองแนวทางสิทธิของลูกค้าในการซ่อมสินค้าหรือ right to repair ด้วยคะแนน 584-3-14 โดยมีประเด็นสำคัญคือ ผู้ผลิตสินค้าต้องมีแผนรองรับการซ่อมแซม และผลักดันให้ลูกค้าเลือกแนวทางซ่อมมากกว่าเปลี่ยนสินค้า
กฎระเบียบใหม่นี้กำหนดกรอบกว้าง ๆ สำหรับผู้ผลิตสินค้า ว่าต้องรองรับการซ่อมแซมภายในระยะเวลาที่เหมาะสม มีค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล และสินค้าที่ผ่านการซ่อมแซมแล้ว ต้องได้ขยายเวลารับประกันออกไป 1 ปีตามกฎหมาย ทั้งหมดเพื่อให้ลูกค้าเลือกซ่อมมากกว่าเปลี่ยนสินค้าใหม่
กฎระเบียบนี้ครอบคลุมถึงระดับที่ว่า หากสินค้าหมดระยะรับประกันแล้ว ผู้ผลิตต้องมีช่องทางให้ซ่อมแซมได้ มีผลกับสินค้าใช้งานทั่วไป เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น จนถึงสมาร์ทโฟน