European Union
เบราว์เซอร์ Brave เปิดเผยตัวเลขจำนวนการติดตั้งบน iPhone ที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในภูมิภาคยุโรป หลังจาก iOS 17.4 ของแอปเปิลเปิดให้อัพเดตสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติให้ผู้ใช้งานตั้งค่าเบราว์เซอร์เริ่มต้นได้ง่ายขึ้น ตามกฎหมายดิจิทัล DMA ของสหภาพยุโรป
ใน iOS 17.4 ผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศยุโรปจะได้หน้าจอแสดงรายการเบราว์เซอร์ให้เลือกเป็นค่าเริ่มต้น เมื่อเริ่มใช้งานครั้งแรก ซึ่ง Brave ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกนั้น
กราฟของ Brave แสดงให้เห็นว่ามีจำนวนดาวน์โหลดเพิ่มมาถึงกว่า 5,000 ครั้ง เฉพาะใน App Store ภูมิภาคยุโรป
ข่าวนี้อาจสะท้อนให้เห็นกระบวนการกำกับดูแลกฎหมายดิจิทัลของสหภาพยุโรปนั้นจริงจังขนาดไหน โดยหน่วยงานดูแลปกป้องข้อมูลของสหภาพยุโรป (EDPS - European Data Protection Supervisor) เปิดเผยรายงานการสอบสวนว่าคณะกรรมาธิการยุโรป (EC - European Commission) ได้ละเมิดกฎการปกป้องข้อมูลส่วนตัวเสียเอง เนื่องจากมีการใช้งาน Microsoft 365 โดยไม่กำหนดวิธีการจัดเก็บข้อมูลร่วมกับไมโครซอฟท์
รายงานระบุว่าคณะกรรมาธิการไม่สามารถแสดงรายละเอียดที่เพียงพอได้ ว่าข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่ถูกจัดเก็บและวัตถุประสงค์การจัดเก็บเพื่ออะไร รวมถึงมีข้อมูลใดบ้างของผู้ใช้งานในสหภาพยุโรปที่ถูกส่งกลับไปสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ EC ได้เริ่มใช้งาน Microsoft 365 มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021
Tim Sweeney ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Epic Games เปิดเผยว่าแอปเปิลได้แจ้งทาง Epic และคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission - EC) ว่าจะกลับมาเปิดการใช้งานบัญชีนักพัฒนาในสวีเดนของ Epic เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล DMA ของสหภาพยุโรป ซึ่งเขาบอกว่า Epic ก็จะเดินหน้าให้บริการ Epic Games Store และนำ Fortnite กลับสู่ iOS สำหรับผู้ใช้ในยุโรปต่อไป
มีรายงานว่าคณะกรรมาธิการยุโรปหรือ EC ได้ร้องขอให้แอปเปิลชี้แจงเพิ่มเติม จากประเด็นที่แอปเปิลระงับบัญชีนักพัฒนาของ Epic Games ก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจขัดต่อกฎหมายดิจิทัล DMA ตลอดจนกฎหมายอื่นของสหภาพยุโรปด้วย
ก่อนหน้านี้แอปเปิลยืนยันว่าบริษัทใช้สิทธิระงับบัญชีนักพัฒนาในสวีเดนของ Epic Games ซึ่งมีผลไม่สามารถใช้งานในการพัฒนาเผยแพร่แอปได้ทั่วโลก ด้วยเหตุผลว่าที่ผ่านมาบริษัทมีพฤติกรรมที่ไม่สามารถไว้วางใจได้ และการกระทำดังกล่าวศาลให้สิทธิรับรองเนื่องจากมีคดีฟ้องร้องกันอยู่แล้ว
กูเกิลอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม ของระบบที่เปิดนักพัฒนาแอป Android สามารถสร้างช่องทางจ่ายเงินภายนอก (External Offers) โดยไม่ต้องผ่านระบบของกูเกิลได้ สำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ที่กูเกิลบอกว่าปฏิบัติตามและมีความพร้อมมานานแล้ว อย่างไรก็ตามกูเกิลก็คิดระบบเงื่อนไขค่าธรรมเนียมใหม่ด้วย
Meta อธิบายรายละเอียดการทำงานของ WhatsApp และ Facebook Messenger สำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศ EU เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล DMA ที่มีผลในวันที่ 7 มีนาคม ซึ่งทั้งสองแพลตฟอร์มนี้มีสถานะ gatekeeper จึงต้องเปิดให้บริการแชทอื่นสามารถเชื่อมต่อเพื่อใช้งานได้
Spotify เปิดเผยรายละเอียดการอัพเดตในแอปบน iOS มีผลสำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศ EU ซึ่งใช้ช่องทางเท่าที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เดิมที Spotify จะเพิ่มระบบ In-App เพื่อสมัครสมาชิกในแอปเวอร์ชัน iOS ตามแนวทางของ iOS 17.4 ที่เป็นไปตามกฎหมาย DMA ของกลุ่มประเทศ EU ซึ่งเปิดให้สามารถจ่ายเงินผ่านช่องทางอื่นได้ด้วย อย่างไรก็ตามแอปเปิลได้กำหนดเงื่อนไขโดยยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้แอปเปิลส่วนหนึ่ง และแอปจะมาเข้าเกณฑ์ที่ต้องจ่ายค่า Core Technology Fee ที่ 0.5 ยูโรต่อหนึ่งดาวน์โหลด ส่วนที่เกินหนึ่งล้านแรก
แอปเปิลอัพเดต iOS 17.4 โดยมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญสำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU นั่นคือสามารถดาวน์โหลดแอปจากสโตร์อื่นนอกเหนือจาก App Store ได้ ซึ่งหลายคนคงมีคำถามว่าฟีเจอร์นี้ครอบคลุมแค่ไหน ผู้ใช้งาน EU สามารถทำแบบนี้นอกพื้นที่ได้หรือไม่ คนนอกพื้นที่ตั้งค่าเป็น EU จะทำได้หรือไม่? แอปเปิลอธิบายรายละเอียดไว้แล้ว
แอปเปิลออกรายงานเรื่องการปรับปรุง iOS ให้เป็นไปตามกฎหมาย DMA (Digital Markets Act) ของ EU ซึ่งคาดว่าจะออกอัพเดตมาใน iOS 17.4 สัปดาห์หน้า มีประเด็นสำคัญคือ ต้องเปิดให้สามารถดาวน์โหลดแอปจากสโตร์ภายนอกได้ และมีรายละเอียดอื่นเพิ่มเติม
ในรายงานนี้แอปเปิลพยายามย้ำประเด็นหลักคือ แม้มีการเปลี่ยนแปลงตามข้อกำหนดของ EU แต่แอปเปิลก็พยายามทุกทางเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้งานในกลุ่ม EU อย่างไรก็ตามด้วยข้อกำหนดที่ออกมา ระดับความปลอดภัยที่เกิดขึ้นของผู้ใช้งานใน EU ก็จะน้อยกว่าผู้ใช้งานอื่นในโลก
แอปเปิลประกาศนำความสามารถในการสร้างไอคอนเว็บแอปบน iOS (PWA - Progressive Web App) กลับคืนมาใน iOS 17.4 สำหรับผู้ใช้งานกลุ่มประเทศ EU อีกครั้ง หลังจากมีนักพัฒนาพบว่าความสามารถถูกตัดออกไป และแอปเปิลยืนยันว่าปิดไปจริง ๆ ด้วยเหตุผลความปลอดภัยเพราะต้องรองรับเอ็นจินหลายเบราว์เซอร์ แต่นักพัฒนาจำนวนหนึ่งมองว่าแอปเปิลพยายามหาท่ากีดกันเบราว์เซอร์อื่น และร้องเรียนไปทาง EU ให้สอบสวน
ก่อนหน้านี้แอปเปิลได้ออกอัพเดต iOS 17.4 เบต้า สำหรับนักพัฒนา ทำให้มีคนพบว่า แอปเปิลได้ปิดการทำงานในการสร้างไอคอนเว็บแอปบน iOS (PWA - Progressive Web App) ซึ่งต่อมาแอปเปิลก็ยืนยันการจำกัดความสามารถนี้สำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป เนื่องจากมีข้อกำหนดของกฎหมาย DMA ที่ระบุว่าเบราว์เซอร์อื่นต้องใช้เอ็นจินอื่นที่ไม่ใช้ WebKit ได้
คณะกรรมการกำกับดูแลการแข่งขันของ EU รายงานว่ากำลังส่งคำถามไปยังนักพัฒนาที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินว่าการกระทำนี้ของแอปเปิลส่งผลกระทบมากแค่ไหน และพิจารณาในการสอบสวนต่อไป
การเปลี่ยนแปลงของแอปเปิลใน iOS 17.4 สำหรับผู้ใช้ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล DMA ดูจะเป็นประเด็นกันต่อไป โดยล่าสุดไมโครซอฟท์และ Meta ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป ว่านโยบายใหม่ส่วนของ App Store นั้น ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ EU ต้องการในกฎหมาย DMA
ประเด็นที่เป็นปัญหานั้น มีหลายบริษัทเทคโนโลยีที่ออกมาแสดงความเห็นกันก่อนแล้ว เช่น การคิดค่า Core Technology Fee หากแอปมีจำนวนดาวน์โหลดสูง หรือการบีบให้จ่ายส่วนแบ่ง 17% หากมีช่องทางจ่ายเงินอื่นเพิ่มเติม จึงมองว่าแนวทางนี้ไม่ได้สร้างทางเลือกอย่างที่ DMA ต้องการ
ใน iOS 17.4 จะมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญสำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศ EU ที่สามารถเลือกเบราว์เซอร์ค่าเริ่มต้นได้เอง และเลือกโหลดแอปจากสโตร์ภายนอกได้ อย่างไรก็ตามมีนักพัฒนาพบว่า มีฟีเจอร์หนึ่งที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว คือการสร้างไอคอนเว็บแอปในหน้า Home (PWA - Progressive Web App)
คณะกรรมการดูแลกฎหมายการตลาดดิจิทัลของสหภาพยุโรป (Digital Markets Act - DMA) ประกาศให้ 4 บริการออนไลน์ ได้แก่ iMessage ของแอปเปิล และ Bing, Edge, Microsoft Advertising ของไมโครซอฟท์ ที่เคยระบุว่าเข้าข่าย gatekeeper ซึ่งทำให้ต้องเปิดแพลตฟอร์มให้บริการอื่นมาเชื่อมต่อใช้งานได้ ไม่เข้าสถานะดังกล่าวเนื่องจากยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
ก่อนหน้านี้ทั้งแอปเปิลและไมโครซอฟท์ ได้ยื่นคำร้องต่อ EU ให้พิจารณาสถานะของ 4 บริการนี้ใหม่ โดยระบุว่ามีผู้ใช้งานน้อยกว่าเกณฑ์ที่ EU กำหนดคือ 45 ล้านคน ซึ่งหลังจากคำตัดสินดังกล่าวออกมา ทั้งแอปเปิลและไมโครซอฟท์ก็ออกแถลงการณ์ว่ายินดีต่อคำตัดสินนี้
Meta และ TikTok ยื่นขอให้ตรวจสอบค่าธรรมเนียม ที่บริษัทต้องจ่ายให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของ EU เพื่อใช้ในการตรวจสอบเนื้อหาต่าง ๆ ตามกฎหมายดิจิทัลใหม่ DSA (Digital Services Act) โดยให้เหตุผลว่าค่าธรรมเนียมนี้ถูกคำนวณอย่างไม่เหมาะสม
ในข้อกำหนดนั้น EU ระบุว่าบริษัทจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ซึ่งมีการคิดคำนวณจากปัจจัยต่าง ๆ โดยเงินที่จ่ายให้กับหน่วยงาน จะสูงสุดไม่เกิน 0.05% ของกำไรบริษัท แต่ตัวเลขนี้ก็ทำให้ตัวแทนของ Meta มองว่าไม่ยุติธรรม เพราะบริษัทที่มีผลประกอบการขาดทุน ต่อให้มีฐานผู้ใช้งานจำนวนมากแค่ไหน ก็ไม่ต้องจ่ายเงินให้ EU เลย
ส่วนตัวแทนของ TikTok มองว่าการคิดจำนวนผู้ใช้งาน ที่ EU ใช้ข้อมูลจากบริษัทภายนอก แล้วนำคำนวณค่าธรรมเนียมนั้น เป็นตัวเลขที่ไม่ถูกต้อง
Meta เป็นบริษัทล่าสุดที่แสดงความเห็นโจมตีนโยบายใหม่ของ App Store และ iOS ที่แอปเปิลปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามกฎหมาย DMA ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป
โดยซีอีโอ Mark Zuckerberg พูดถึงเรื่องนี้ในช่วงแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุดบอกว่า เขาไม่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงแบบใหม่นี้ Meta จะต้องทำอะไรเพิ่มเติมที่ต่างจากเดิม เนื่องจากความยุ่งยากที่แอปเปิลกำหนดออกมาในรายละเอียด และเขาก็ไม่คิดว่านักพัฒนาส่วนใหญ่จะเลือกย้ายแอปไปอยู่สโตร์อื่น เพราะขั้นตอนที่แอปเปิลกำหนดนั้นยุ่งยากสร้างภาระเป็นอย่างมาก
มีประเด็นเล็ก ๆ เพิ่มเติม จากประกาศของแอปเปิล เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใน App Store, iOS และ Safari เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย DMA ของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป เช่น สามารถโหลดแอปจากสโตร์อื่นได้ หรือเบราว์เซอร์สามารถใช้เอ็นจินอื่นที่ไม่ใช่ WebKit ได้ นั่นคือ บางอย่างมีผลกับทุกแพลตฟอร์มของแอปเปิล (ในสหภาพยุโรป) แต่บางอย่างมีผลแค่ iPhone เท่านั้น iPad ไม่ได้สิทธิ์นี้
สาเหตุก็เพราะตอนที่สหภาพยุโรปหรือ EU ระบุว่าแพลตฟอร์มใดบ้างที่เข้าข่าย gatekeeper นั่นคือ ต้องเป็นบริษัทขนาดใหญ่, มีผู้ใช้งานจำนวนมาก และมีสถานะป้องกันการแข่งขันได้ดี ระบบปฏิบัติการของแอปเปิลที่เข้าข่ายคือ iOS สำหรับ iPhone ส่วน iPadOS ของ iPad ถือว่าเป็นคนละระบบปฏิบัติการ และยังไม่เข้าเกณฑ์ gatekeeper
Mozilla ออกมาแสดงความเห็นจากนโยบายใหม่ของแอปเปิล ที่ปฏิบัติตามกฎหมาย DMA ของสหภาพยุโรป ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้เบราว์เซอร์อื่นเป็นค่าเริ่มต้นง่ายขึ้น และผู้พัฒนาก็ไม่ต้องใช้ WebKit เป็นเอ็นจินได้ด้วย ทั้งหมดอาจฟังดูเป็นประโยชน์สำหรับผู้พัฒนาเบราว์เซอร์ 3rd Party แต่ Mozilla ไม่คิดเช่นกัน
แอปเปิลประกาศปรับโครงสร้างการคิดค่าธรรมเนียมแบบใหม่ มีผลกับแอป iOS สำหรับนักพัฒนาในกลุ่มประเทศ EU ตามแนวทางใหม่ที่ปฏิบัติตามกฎหมาย DMA ที่เปิดให้สามารถสร้างสโตร์แยกสำหรับการดาวน์โหลดแอป รวมทั้งเลือกจ่ายเงินผ่านช่องทางอื่นนอกจากของแอปเปิลได้
โดยส่วนที่มีเปลี่ยนแปลงสำหรับแอปที่ใช้ช่องทาง App Store เหมือนเดิมมีดังนี้
แอปเปิลประกาศการเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล Digital Markets Act (DMA) ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้กับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรายใหญ่ 7 มีนาคมนี้
การเปลี่ยนแปลงนั้นแอปเปิลบอกว่าจะมี API ใหม่ มากกว่า 600 รายการ สำหรับนักพัฒนา เพื่อให้เข้าถึงทั้งเอ็นจินของเบราว์เซอร์, กระบวนการจ่ายเงินในแอป, กระบวนการเผยแพร่แอป, การวิเคราะห์ข้อมูลแอป ซึ่งทั้งหมด แอปเปิลบอกว่าจะมาพร้อมแนวทางการป้องกันความปลอดภัยกับผู้ใช้งานแบบใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากแนวทาง DMA นี้ และทำให้การใช้อุปกรณ์แอปเปิลปลอดภัยสำหรับลูกค้าในกลุ่มประเทศ EU
ตามที่กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ที่รัฐสภายุโรปออกมาเพื่อควบคุมการผูกขาดของแพลตฟอร์มออนไลน์ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 มีนาคมนี้ และแอปเปิลก็ต้องปฏิบัติตามโดยเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศ EU โหลดแอปผ่านช่องทางอื่นนอกเหนือจาก App Store ได้ด้วย ตอนนี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่แอปเปิลจะเปิดให้ใช้งาน
Meta ประกาศว่าเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายกำกับดูแลแพลตฟอร์มออนไลน์ของกลุ่มประเทศ EU หรือ Digital Markets Act (DMA) จึงได้เพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ใช้งานในการควบคุมบริการและฟีเจอร์ต่าง ๆ มีผลเฉพาะผู้ใช้งานในประเทศกลุ่ม EU, EEA และสวิตเซอร์แลนด์
ทางเลือกที่เพิ่มเติมมามีดังนี้
Mark Gurman แห่ง Bloomberg ให้ข้อมูลล่าสุดว่าตามที่รัฐสภายุโรปได้ผ่านกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) เพื่อควบคุมการผูกขาดของแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้ระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนต้องเปิดให้ลงสโตร์ภายนอกได้ มากกว่าแค่ Play Store หรือ App Store นั้น
โดยกรณีของแอปเปิล เขาบอกว่าแอปเปิลได้เตรียมปฏิบัติตามกฎหมายใหม่นี้ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมนี้ โดยใช้วิธีสร้าง App Store แยกออกมาอีกเวอร์ชันที่ใช้เฉพาะในกลุ่มประเทศ EU ซึ่งจะแตกต่างไปจากที่อื่นในโลก อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดการทำงานส่วนนี้ แต่แอปเปิลนั้นได้ทำงานและปรึกษากับหน่วยงานกำกับดูแลตลอด
ArsTechnica อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัว ระบุว่าสหภาพยุโรปเตรียมจัดเว็บโป๊ 3 เว็บ ได้แก่ Xvideos, Pornhub, และ Stripchat ว่าเข้าข่ายแพลตฟอร์มขนาดใหญ่มาก (very large online platform) ที่จะถูกมาตรการกำกับดูแลเพิ่มเติมตามกฎหมาย Digital Services Act (DSA)
ตามเกณฑ์ของ DSA แพลตฟอร์มที่เข้าข่ายแพลตฟอร์มขนาดใหญ่มากนี้ต้องมีผู้ใช้เกิน 45 ล้านคน ที่ผ่านมาเว็บขนาดใหญ่ถูกกำกับด้วยมาตรการนี้ เช่น Facebook, Wikipedia, TikTok ในกรณีของเว็บโป๊เหล่านี้จะถูกบังคับให้มีมาตรการตรวจสอบอายุผู้ใช้, มาตรการลบเนื้อหาผิดกฎหมาย รวมถึงภาพโป๊ที่ไม่ได้รับความยินยอม
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ประกาศว่า Threads แพลตฟอร์มโซเชียลตัวหนังสือ ที่หวังแข่งขันกับ X ตอนนี้เริ่มให้บริการในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU แล้ว ซึ่งช้ากว่าประเทศอื่นทั่วโลก 5 เดือน ตามที่มีรายงานก่อนหน้านี้
สาเหตุที่ Threads ให้บริการใน EU ช้ากว่าที่อื่นนั้น Meta ไม่ได้ออกมาให้เหตุผล แต่คาดเดาว่ากฎระเบียบของ EU มีข้อกำหนดหลายอย่างที่ทำให้ Meta ต้องปฏิบัติตาม โดยส่วนที่สำคัญคือการเปิดให้ผู้ใช้งานใน EU เลือกสร้างโปรไฟล์ที่เชื่อมต่อกับบัญชี Instagram เดิม หรือเลือกสร้างโปรไฟล์ใหม่ไปเลยก็ได้