กูเกิลประกาศฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ใช้ Android ทั้งหมด 9 รายการ ซึ่งเป็นการประกาศในงาน MWC โดยมีทั้งฟีเจอร์ช่วยเหลือการเข้าถึง ไปจนถึงฟีเจอร์ที่เชื่อมต่อกับ Spotify ดังนี้
ตอนนี้กูเกิลกำลังเจอกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (Department of Justice หรือ DoJ) สั่งฟ้องข้อหาผูกขาดตลาด Search ในสหรัฐ กระบวนการไต่สวนยังอยู่ในชั้นศาล
ฝั่งกูเกิลได้ส่งเอกสารแก้ต่างต่อศาล เอกสารฉบับนี้ได้เปิดเผย "ข้อมูลใหม่" ว่าไมโครซอฟท์เคยเสนอขาย Bing ให้แอปเปิลในช่วงปลายปี 2018 แต่สุดท้ายแอปเปิลปฏิเสธข้อเสนอนี้
กูเกิลเพิ่มหน้าเว็บเป็นของเล่น Android เพื่อต้อนรับงาน Mobile World Congress (MWC) ในสัปดาห์หน้า โดยนำ Androidify แอปสร้างอวตารหุ่นเขียว Android ในแบบที่ต้องการกลับมาอีกครั้งโดยเรียกว่าเป็นการคัสตอม Android Bot
การเปลี่ยนแปลงสำคัญของหุ่นเขียว Android จากแอป Androidify เมื่อปี 2011 ก็คือหุ่นยนต์เป็น 3D ที่ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
ผู้ใช้งานสามารถคัสตอม Android Bot ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งตัวหุ่น 25 สไตล์ พร้อมเครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์เสริม ในแบบที่ต้องการแล้วบันทึกรูปเพื่อนำไปแชร์ต่อได้ตามต้องการ
Nikkei Asia รายงานข่าวว่า Google Pixel ทำยอดขายรวมได้ถึง 10 ล้านเครื่องในปี 2023 ถือเป็นครั้งแรกที่กูเกิลขาย Pixel ได้เยอะขนาดนี้ และทำให้กูเกิลตั้งเป้ายอดขาย 10 ล้านเครื่องต่อเนื่องในปี 2024 ด้วย
ตัวเลขของ Nikkei ไม่ได้แยกชัดว่า Pixel แต่ละรุ่นย่อยขายได้เท่าไรกันแน่ เพราะปีที่แล้วมีสินค้าวางขายทั้ง Pixel 7, Pixel 7 Pro, Pixel 6a, Pixel 7a, Pixel 8 และ Pixel 8 Pro ช่วงปลายปี
Nikkei ยังบอกว่ากูเกิลเตรียมเริ่มผลิต Pixel 8 ในอินเดียแล้ว ตามที่เคยประกาศไว้ในเดือนตุลาคม 2023 เพื่อกระจายความเสี่ยงจากซัพพลายเชนในจีนและเวียดนาม โดย Pixel 8 Pro จะเริ่มผลิตก่อนในไตรมาส 2 และ Pixel 8 ตัวธรรมดาเริ่มผลิตช่วงกลางปี
กูเกิลออกมาชี้แจงสาเหตุของปัญหา Gemini image generation สร้างรูปบุคคลผิดพลาด จนเป็นข่าวดัง และต้องปิดการทำงานชั่วคราว
กูเกิลอธิบายว่าฟีเจอร์ image generation ของ "แอพ" Gemini เป็นการเรียกใช้โมเดล Imagen 2 ที่เปิดตัวช่วงปลายปี 2023 โดยเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการสร้างภาพในทางที่ผิด เช่น ภาพที่มีลักษณะรุนแรง มีเนื้อหาทางเพศชัดเจน หรือเป็นการดัดแปลงบุคคลจริงให้เพี้ยนไป หนึ่งในมาตรการป้องกันที่กูเกิลใส่เข้ามาคือความหลากหลาย เช่น สั่งให้สร้างภาพคนกำลังเตะฟุตบอล ก็ไม่ควรได้ภาพของบุคคลที่มีเชื้อชาติแบบเดียว
กูเกิลออกคำชี้แจง หลังจากมีรายงานพบว่า Gemini AI สร้างรูปภาพ ทำงานไม่ถูกต้องเมื่อได้รับคำสั่งให้สร้างรูปภาพบุคคลที่มีจริงในประวัติศาสตร์ ผิดเพี้ยนออกไปจากความจริง เช่น ภาพโป๊ปเป็นคนดำ หรือผู้ก่อตั้งกูเกิลเป็นคนเอเชีย ซึ่งทำให้กูเกิลต้องประกาศปิดการทำงานคำสั่งสร้างรูปภาพบุคคลชั่วคราว
ฟีเจอร์สร้างรูปภาพใน Gemini มีออกมาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยใช้ Imagen 2 โมเดลสำหรับการสร้างรูปภาพ
Reddit ประกาศขยายความร่วมมือกับกูเกิล เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาเนื้อหาและบทสนทนาที่ต้องการในชุมชน Reddit ได้ง่ายมากขึ้น โดยคอนเทนต์ของ Reddit จะถูกแสดงบนแพลตฟอร์มของกูเกิล ทั้งผ่าน Reddit และ Data API โดยคอนเทนต์เหล่านี้จะนำมาใช้ในการเทรนโมเดล AI อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ความร่วมมือในการเข้าถึงข้อมูลบน Reddit นี้ มีผลกับโพสต์ที่เป็นสาธารณะ ซึ่ง Reddit บอกว่าช่วยให้เนื้อหาที่แสดงบนกูเกิลมีความทันสมัย และอัพเดตตลอดเวลาจากบทสนทนาของผู้ใช้งานที่เป็นมนุษย์
หลังมีกระแสใน X เรื่องการเจนภาพของ Gemini ที่มีความ Woke มากเกินไปจนผิดเพี้ยนไปจากประวัติศาสตร์หรือความเป็นจริง เช่นภาพโป๊ปเป็นคนดำ, ผู้ก่อตั้งสหรัฐอเมริกา เป็นคนดำและเอเชีย
ล่าสุด Google เผยว่ารับทราบเรื่องนี้และจะแก้ไขปัญหานี้แล้ว โดยระหว่างนี้จะระงับการให้บริการเจนภาพไปก่อน และจะกลับมาให้บริการในเวอร์ชันที่ถูกปรับปรุงแล้ว
ปัญหาของ Gemini ที่หลายคนโพสต์บน X ไม่ได้มีแค่เรื่องของการเจนภาพจาก prompt กลางๆ แต่ยังมีปัญหากับ prompt บางคำ เช่น หากกำหนดว่าเป็นผิวขาว "white" ตัว Gemini จะตอบกลับว่าทำให้ไม่ได้ เพราะอาจส่งผลให้เกิดการอคติหรือเหมารวม (stereotype) ต่อบางชาติพันธุ์ ขณะที่หาก prompt เป็นคำอย่าง "Asian", "Jewish" กลับสามารถเจนภาพออกมาได้ตามปกติ
Chrome 122 เพิ่มฟีเจอร์ Help Me Write ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ โดยยังรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษสำหรับผู้ใช้งานในสหรัฐ และมีเฉพาะบนวินโดวส์และแมค
ฟีเจอร์ Help Me Write ของ Chrome เป็นการนำโมเดล Gemini มาช่วยเขียนหรือปรับแก้ข้อความใน textbox บนหน้าเว็บ เช่น รีวิวร้านอาหาร ประกาศขายสินค้าออนไลน์ สอบถามข้อมูลจากโรงแรมที่จะเข้าพัก ฯลฯ โดย Gemini จะเข้าใจบริบทของหน้าเว็บที่เราเปิดอยู่ตอนนั้น และช่วยแนะนำเนื้อหาที่เราต้องการเขียนได้
การใช้งานจำเป็นต้องเปิดใช้ใน Settings > Experimental AI แล้วคลิกขวาที่กล่องข้อความเพื่อเลือกเมนู Help me write
กูเกิลประกาศปิดการทำงานฟีเจอร์สร้างรูปภาพด้วย AI ของ Gemini ชั่วคราว มีผลเฉพาะการสร้างรูปภาพบุคคล โดยจะเปิดให้ใช้งานอีกครั้งในภายหลัง เนื่องจากพบปัญหาในการสร้างรูปภาพประเภทดังกล่าว
ผู้ใช้งาน Gemini ที่ให้คำสั่งสร้างรูปภาพที่มีบุคคล ตอนนี้จะได้คำตอบว่าตอนนี้ระบบกำลังปรับปรุงแก้ไขอยู่
กูเกิลประกาศนำโมเดล Gemini เข้ามาใช้งานในแอพชุด Google Workspace ได้แก่ Gmail, Docs, Sheets, Slides, Meet
ในแง่ฟีเจอร์ไม่ต่างอะไรจากฟีเจอร์กลุ่ม Duet AI ใน Workspace ที่เคยเปิดตัวมาก่อน แต่คราวนี้คือรีแบรนด์มาใช้ชื่อ Gemini และอัพเกรดมาใช้โมเดลเวอร์ชันใหม่ที่ทรงพลังกว่าเดิม
การใช้งาน Gemini ใน Google Workspace จำเป็นต้องซื้อแพ็กเกจ Google One AI Premium ราคา 19.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งจะได้สิทธิใช้งาน Gemini Advanced ที่เป็นโมเดล Ultra 1.0 ด้วย
กูเกิลเปิดตัว Gemma โมเดลภาษาแบบโอเพนซอร์ส ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Gemini โมเดลเชิงพาณิชย์ของตัวเอง และพัฒนาโดยทีม Google DeepMind เหมือนกัน มีโครงสร้างทางเทคนิคบางส่วนเหมือนกัน
กูเกิลปล่อย Gemma ออกมา 2 ขนาดคือ 2B และ 7B (ดาวน์โหลดได้จาก Kaggle หรือ Hugging Face) โดยระบุว่าโมเดลขนาด 7B สามารถเอาชนะคู่แข่งที่ระดับเดียวกันคือ Llama 7B ในเบนช์มาร์คต่างๆ ได้ค่อนข้างทิ้งห่าง และเอาชนะได้แม้กระทั่ง Llama 13B ที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ด้วยซ้ำ
Dylan Roussel นักแกะฟีเจอร์ใหม่ Android โพสต์ข้อมูลที่เขาพบในบัญชี X เกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ที่เตรียมประกาศของ Gemini สำหรับลูกค้า Google Workspace เพื่อนำ Gemini มาใช้ภายในองค์กร ที่ต้องการความสามารถปกป้องข้อมูลเพิ่มเติม
แผนที่กูเกิลเปิดให้สมัครได้แก่ Gemini Business และ Gemini Enterprise สามารถใช้งานโมเดล Gemini Ultra 1.0 โดยกูเกิลจะไม่นำข้อมูลในการสนทนาไปใช้ในการเทรน AI รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษสำหรับลูกค้าใน 150 ประเทศ ทั้งนี้รายละเอียดและราคาต้องรอประกาศทางการอีกครั้ง
กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ Google Docs, Slides, Sheets บนแท็บเล็ตแอนดรอยด์ นั่นคือเพิ่ม formatting sidebar เข้ามารองรับพื้นที่จอแท็บเล็ต ช่วยลดจำนวนการแตะหน้าจอเพื่อปรับฟอร์แมตเอกสารลง เมื่อเทียบกับการใช้ toolbar แบบเดิม (ยังสามารถใช้งานได้ทั้งสองแบบตามชอบ โดยกดที่ปุ่มตัว A ใน toolbar) ฟีเจอร์นี้เริ่มปล่อยให้ใช้งานแล้ว และจะเปิดใช้ในวงกว้างวันที่ 6 มีนาคม 2024
กูเกิลเผยรายละเอียดของโครงการแก้ปัญหาโลกร้อน ด้วยการใช้ AI ตรวจจับตำแหน่งของการปล่อยก๊าซมีเทนจากภาพถ่ายดาวเทียม
ก๊าซมีเทน (methane) เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญของภาวะเรือนกระจก และการปล่อยก๊าซมีเทนมักมาจากกระบวนผลิตเชื้อเพลิงฟอซซิล เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
กูเกิลร่วมกับ Environmental Defense Fund (EDF) หน่วยงานไม่หวังผลกำไรที่ทำด้านสิ่งแวดล้อมมายาวนาน และกำลังจะปล่อยดาวเทียม MethaneSAT ของตัวเองสู่ชั้นบรรยากาศในเดือนมีนาคมนี้ ดาวเทียม MethaneSAT จะโคจรรอบโลกวันละ 15 รอบแล้วถ่ายภาพที่เห็นระดับของกีาซมีเทนกลับมาวิเคราะห์
กูเกิลมีเครื่องมือ IDE ผ่านเบราว์เซอร์ชื่อ IDX เปิดตัวมาตั้งแต่กลางปี 2023 รากฐานของมันคือ VS Code เวอร์ชันรันผ่านเบราว์เซอร์ แล้วเพิ่มฟีเจอร์การใช้ AI ช่วยเขียนโค้ดเข้ามา ลักษณะเดียวกับ GitHub Copilot
ในช่วงแรก โมเดล AI ที่ช่วยเขียนโค้ดยังเป็น Codey ที่พัฒนาต่อจากโมเดลภาษา PaLM 2 แต่เมื่อกูเกิลอัพเกรดโมเดลเป็น Gemini เรียบร้อยแล้ว ทำให้ IDX เปลี่ยนมาใช้ Gemini ตามมาด้วย
16 ก.พ.2567 ที่การประชุมความมั่นคงมิวนิค (Munich Security Conference - MSC) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ 20 ราย ประกาศข้อตกลงว่าจะร่วมมือป้องกันเนื้อหา AI ที่แทรกแซงการเลือกตั้งทั่วโลกในปีนี้ ที่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่าสี่พันล้านคนในกว่า 40 ประเทศ
บริษัทเทคโนโลยีที่ร่วมข้อตกลงได้แก่: Adobe, Amazon, Anthropic, Arm, ElevenLabs, Google, IBM, Inflection AI, LinkedIn, McAfee, Meta, Microsoft, Nota, OpenAI, Snap Inc., Stability AI, TikTok, Trend Micro, Truepic, และ X
ข้อตกลงนี้เป็นขั้นตอนสำคัญหนึ่งในการปกป้องชุมชนออนไลน์จากเนื้อหา AI ที่เป็นอันตราย จากการทำงานของบริษัทแต่ละแห่ง
กูเกิลเริ่มโฆษณาระบบปฏิบัติการ ChromeOS Flex สำหรับองค์กรที่จะต้องเจอปัญหาพีซีเก่าที่เป็น Windows 10 หมดระยะซัพพอร์ตในเดือนตุลาคม 2025 และไม่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้ด้วยข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์
ChromeOS Flex หรือชื่อเดิม Neverware ก่อนกูเกิลซื้อกิจการในปี 2020 เป็นการนำระบบปฏิบัติการ ChromeOS มาดัดแปลงให้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์พีซีและแมครุ่นเก่าๆ ที่หมดระยะซัพพอร์ตแล้ว จุดเด่นของมันคือฟรี ปลอดภัย เล็ก เร็ว อัพเดตง่าย ดูแลง่าย และมีอินเทอร์เฟซหลักเป็นเบราว์เซอร์ Chrome ที่คนจำนวนมากคุ้นเคย
กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์สถานะการทดลองใน Search Labs ชื่อว่า "Talk to a Live Representative" ที่กูเกิลจะโทรไปยังศูนย์บริการลูกค้าของหน่วยงาน ซึ่งปกติจะต้องรอสายเป็นเวลานานหากต้องการคุยกับเจ้าหน้าที่ โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยตั้งแต่การกดหมายเลข ให้ไปถึงสิ่งที่ต้องการ ช่วยรอสายจนกว่าจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ แล้วแจ้งเตือนเมื่อถึงคิว เพื่อให้เราได้ไปสนทนา ทุ่นเวลาในการรอคอย
ฟีเจอร์นี้คล้ายกับ Hold for Me ที่มีเฉพาะลูกค้า Google Pixel แต่มีการปรับปรุงหลายอย่าง และ Talk to a Live Representative ก็เปิดให้ใช้งานได้กับทุกสมาร์ทโฟน ไม่จำกัดเฉพาะ Pixel อีกด้วย
กูเกิลเปิดโครงการ Magika โมเดลปัญญาประดิษฐ์ขนาดเล็กสำหรับการระบุชนิดไฟล์ หรือ mime type เพื่อให้โปรแกรมต่างๆ จัดการไฟล์ได้ถูกต้อง
กระบวนการระบุชนิดไฟล์นั้นไม่มีกฎเกณฑ์ชัดเจน โปรแกรม file สำหรับคาดเดาประเภทไฟล์นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกใน Unix เวอร์ชั่น 4 เมื่อปี 1973 หรือ 51 ปีมาแล้ว ทุกวันนี้โค้ดยังคงใช้งานกันต่อมาเรื่อยๆ โครงการ file นั้นใช้ระบบ source control ตัวแรกคือ RCS เมื่อปี 1987 ก่อนหน้า CVS ด้วยซ้ำ
นอกจากเปิดตัว Gemini 1.5 Pro แล้ว กูเกิลยังประกาศว่าโมเดล AI ทั้ง Gemini 1.0 Pro และ Gemini 1.0 Ultra ที่เปิดตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้เปิดให้นักพัฒนาสามารถใช้งานได้แล้วผ่าน Vertex AI
โดย Gemini 1.0 Pro สามารถใช้งานได้แล้วสำหรับลูกค้า Vertex AI ทุกคน ส่วน Gemini 1.0 Ultra โมเดลรุ่นใหญ่ที่สุดในตระกูล Gemini ที่กูเกิลบอกว่าคะแนนทดสอบสูงกว่า GPT-4 ตอนนี้เปิดให้ใช้งานสำหรับลูกค้า Vertex AI ที่อยู่ใน allowlist
ที่มา: กูเกิล
กูเกิลเพิ่งเปิดตัว Gemini Ultra ไปหมาดๆ วันนี้ปล่อยของต่อเนื่องด้วยโมเดลเวอร์ชันอัพเดต Gemini 1.5 Pro ซึ่งเป็นการอัพเกรดโมเดลระดับกลาง (Pro) ที่มีความสามารถระดับเดียวกับ Gemini 1.0 Ultra แต่ใช้พลังประมวลผลน้อยกว่า
ฟีเจอร์เด่นของ Gemini 1.5 Pro ที่น่าสนใจคือการรองรับอินพุตขนาดใหญ่ถึง 1 ล้านโทเคน ซึ่งถือว่ามากที่สุดในบรรดาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ทุกวันนี้ (Anthropic Claude 2.1 รองรับ 2 แสนโทเคน) เปิดโอกาสให้ใช้งานโมเดล LLM กับงานที่หลากหลายขึ้นอีกมาก กูเกิลเทียบให้เห็นภาพว่าเท่ากับคลิปเสียงยาว 11 ชั่วโมง, วิดีโอ 1 ชั่วโมง, เอกสาร 700,000 คำ, โค้ด 30,000 บรรทัด
กูเกิลเปิดเผยว่าได้เพิ่ม "เสียงเอฟเฟคต์" ให้ระบบปฏิบัติการ ChromeOS เป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน 2023 โดยก่อนหน้านั้น ChromeOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่เคยมีเสียงของระบบ (system sound) มาก่อนเลย
กูเกิลตัดสินใจเพิ่มเสียงชุดแรก 2 เสียงคือ เสียงร้องเวลาเสียบสายชาร์จ และเสียงเตือนตอนแบตเตอรี่ลดต่ำลง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ รวมถึงผู้ใช้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็น การมีเสียงบอกว่าเสียบสายชาร์จเข้าแล้ว หรือ แบตเตอรี่ต่ำถึงระดับที่ควรชาร์จ ช่วยลดความจำเป็นในการเรียกแอพอ่านหน้าจอ (screen reader) ลงได้
หุ้นของ NVIDIA ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง โดยล่าสุดหลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการซื้อขายในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย มูลค่ากิจการตามราคาหุ้นหรือ Market Capitalization ของ NVIDIA อยู่ที่ 1.825 ล้านล้านดอลลาร์ โดยหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 2.46% ส่วน Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิลราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 0.53% มีมูลค่ากิจการ 1.821 ล้านล้านดอลลาร์
เมื่อวานนี้ NVIDIA ก็เพิ่งมีมูลค่ากิจการแซง Amazon อย่างเป็นทางการ ทำให้ตอนนี้ NVIDIA เป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของสหรัฐ รองจากไมโครซอฟท์ (3.043 ล้านล้านดอลลาร์) และแอปเปิล (2.844 ล้านล้านดอลลาร์)
สัปดาห์ที่ผ่านมา กูเกิลเปิดตัว Gemini พร้อมปล่อยแอพเวอร์ชัน Android (ยังเปิดให้ดาวน์โหลดเฉพาะในสหรัฐ) ประเด็นที่น่าสนใจคือการติดตั้ง Gemini ใน Android จะปิดการทำงานของ Google Assistant เดิม (ตามแนวทางใหม่ของกูเกิลที่ Gemini จะมาแทนทั้ง Bard, Assistant, DuetAI) การพูดคำว่า Hey Google หรือกดปุ่มโฮมค้างจะเรียก Gemini ขึ้นมาแทน Assistant