Peter S Kolmisoppi ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ BitTorrent ชื่อดัง The Pirate Bay เชื่อว่าพวกเขาแพ้คดีฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว

เรื่องนี้เกิดถูกค้นพบจากข้อความใน twitter ของผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ดังกล่าวโดยมีการระบุข้อความว่า (แปลแล้ว)

จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ของเราในศาล เราแพ้คดีนี้แล้ว

กูเกิลเปิดเผยรายได้ของบริษัทในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยกำไรโดยรวมทั้งหมดนั้นลดลงจากไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้วจาก 5,701 ล้านดอลลาร์เป็น 5,509 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 3% อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้วนั้นก็ยังมากกว่ากันอยู่ 6% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ ส่วนหนึ่งนั้นคาดว่าน่าจะเป็นจากการที่กูเกิลประหยัดมากขึ้น และมีการปลดพนักงานบางส่วน (อ่านข่าวเก่าโดยคุณ mk: กูเกิลปลดฝ่ายขายและการตลาด)

การท้าดวลครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากว่า Ashton Kutcher ดาราชื่อดัง (คนที่แสดงนำใน The Butterfly Effect) นั้นสงสัยว่าคนเพียงคนเดียวนั้นจะมีคน Follow มากกว่าสำนักข่าวได้หรือเปล่า จึงได้ท้าดวล CNN ว่าใครจะมีคน Follow ถึงหนึ่งล้านคนก่อนกัน และ CNN เองก็ยอมรับคำท้าดังกล่าวเสียด้วย (วิดีโอ)

คงต้องยอมรับว่าปัจจุบัน Firefox นั้นก็ได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้น แต่ก็คงต้องยอมรับว่าคนใช้ที่มากขึ้นก็ย่อมจะมีการพบช่องโหว่ของซอฟต์แวร์มากขึ้นเช่นกัน

จากข่าวที่แล้ว ในที่สุดโน้ตบุครุ่นบางเบารุ่นแรกในตระกูล "Aspire Timeline" ซึ่งใช้ชื่อว่า Aspire 3935 ได้เริ่มขายอย่างเป็นทางการแล้ว ราคาเริ่มต้นที่ $899 (ประมาณ 31,900 บาท) โดยมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้

และแล้วก็มาถึงอีกปีที่นิตยสาร Fortune จัดอันดับเกี่ยวกับบริษัทที่น่าทำงานที่สุด และในปี 2009 นี้ NetApp สามารถล้มแชมป์เก่าอย่างกูเกิลไปได้ โดยกูเกิลอดีตแชมป์สองสมัยนั้นตกไปอยู่อันดับที่ 4 ในปีนี้

NetApp นั้นให้ความสำคัญกับพนักงานและสภาพแวดล้อมในการทำงาน จากที่ดูวิดีโอของ Fortune แล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงาน NetApp แทบไม่ต่างอะไรกับกูเกิลเลย จึงไม่น่าแปลกใจที่ปีนี้ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 1 จากเดิมเมื่อปีที่แล้วอยู่อันดับที่ 14

ตอนเก่า: รีวิว Dell Studio 1535 ตอนที่ 1

ไมโครซอฟท์เตรียมออก Office 2007 Service Pack 2 หลังจากที่ไม่ได้อัพเดตชุดใหญ่กันมานาน โดยจะเปิดให้ดาวน์โหลดในวันที่ 28 เมษายนที่จะถึงนี้ สิ่งที่ปรับปรุงใหม่หลักๆ ที่น่าสนใจคือ

• สามารถเปิด, บันทึก, แก้ไข OpenDocument Format (นามสกุล .odt, .ods และ .odp) ได้ใน Word, Excel และ PowerPoint ซึ่งเคยประกาศไว้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
• คำสั่ง Save As PDF/XPS จะถูกติดตั้งลงไปเลย ไม่ต้องโหลดเพิ่มแล้ว
• ปรับปรุงความเร็วในการแสดงผลกราฟฟิค ทั้ง SmartArt และกราฟต่างๆ รวมถึงเพิ่มความละเอียดเวลาพิมพ์

(รายละเอียดเต็มๆ ดูได้จากที่มานะครับ)

เมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวว่า Steve Ballmer และ Carol Bartz ซีอีโอของทั้งสองบริษัท ได้ประชุมพบหน้า และพูดคุยกันเรื่องข้อตกลงความร่วมมือด้านโฆษณาออนไลน์

เว็บไซต์ Silicon Alley Insider ซึ่งรวมข่าววงในของอุตสาหกรรมไอทีสหรัฐ ได้อ้างข้อมูลจากวงในว่า หวยจะออกได้ 3 แบบ

1. ยาฮูกับไมโครซอฟท์ จับมือร่วมกันขายโฆษณาบน Yahoo.com/MSN.com
2. ยาฮูเข้ามาบริหารงานขายโฆษณาทั้งหมดของ MSN
3. ยาฮูซื้อ MSN

แหล่งข่าวบอกว่าตัวเลือก #3 เป็นไปได้มากที่สุด

Windows XP รับใช้เรามายาวนานตั้งแต่ปี 2001 มาถึงปีนี้ 2009 ไมโครซอฟท์ก็ประกาศว่ามันหมดระยะ "Mainstream Support" ลงในวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา

จากวันนี้ไป Windows XP จะเข้าสู่ระยะ Extended Support ซึ่งจะยังมี security fix ออกมาเหมือนเดิม เพียงแต่ hotfix จะมีสำหรับคนที่จ่ายเงินเท่านั้น ช่วง Extended Support จะจบลงในวันที่ 8 เมษายน 2014

ปกติแล้ว Mainstream Support จะมีอายุ 5 ปี แต่ของ Windows XP ถูกต่อมาหลายครั้งจนนับรวมได้ 7 ปีครึ่ง ซึ่งเหตุผลหนึ่งก็เป็นเพราะโรคเลื่อนของ Vista ด้วย

Office 2003 นั้นเข้าสู่สถานะ Extended Support เช่นเดียวกับ XP ในวันที่ 14 เมษายน

เจอจาก Ubuntuclub ครับ ทำได้น่ารักดี อันนี้เป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษ ยังมีภาษาอื่นๆ ให้เลือกดาวน์โหลด ถ้าใครฟิตจัด อยากเอาไฟล์ต้นฉบับ (PSD/SVG) มาแปลเป็นภาษาไทยก็ทำได้ (สัญญาอนุญาตเป็น Creative Commons) และเดี๋ยวผมจะเอามาลงใน Blognone ให้ด้วย

ปิดท้ายด้วยการเตือนอีกรอบว่า งาน Jaunty Release Party ของ Ubuntuclub วันที่ 25 เมษายนนี้

จาก ประกวดวิดีโอ I'm Linux และ ได้เวลาโหวตวิดีโอ "I'm Linux" ในที่สุดก็ได้ผู้ชนะโดยการคัดเลือกจากคณะกรรมการของ Linux Foundation

วิดีโอที่ชนะชื่อว่า What Does It Mean To Be Free? โดย Amitay Tweeto ซึ่งเป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์อายุ 25 เขาจะได้รางวัลเป็นตั๋วเที่ยวโตเกียว ไปงาน Japanese Linux Symposium

ส่วนรองอีกสองคนได้แก่วิดีโอเรื่อง The Origin กับ Linux Pub วิดีโอทั้งหมดดูได้ด้านใน วิดีโออันที่ชนะผมดูแล้วรู้สึกเหมือนโฆษณาชุด Go ของ VISA ส่วน The Origin นี้ภาพสวยแต่ประเด็นไม่สื่อเท่าอันที่ชนะ

Google เสียค่าใช้จ่ายต่อผู้เข้าชม YouTube แต่ละคนประมาณ 1-2 ดอลล่าห์สหรัฐ หลังจากที่มีการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้พบว่า Google มีค่าใช้จ่ายต่อวันสำหรับ YouTube ถึงวันละ 1.65 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 59,400,000 ล้านบาท เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ Google มีรายได้จาก YouTube จากข้อเสนอพิเศษต่างๆ ต่อบรรดาผู้ให้การสนับสนุน และผู้ใช้บริการที่ต้องการนำวีดีโอมาลงโดยไม่จำกัดความยาวของวีดีโอ และพื้นที่การจัดเก็บ

YouTube มีความคาดหวังที่จะให้บริการวีดีโอจำนวน 75 พันล้านเรื่องต่อผู้ชม 375 ล้านคนในปี 2009 ซึ่งจะทำให้มีค่าใช้จ่ายต่อวันอยู่ที่ 2,064,054 ดอลล่าห์สหรัฐต่อวัน หรือ 753 ล้านดอลล่าห์สหรัฐต่อปีเลยทีเดียว

ในขณะที่ผู้ที่กำลังใช้งาน Windows 7 Beta กำลังรอเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์ของ Windows 7 แต่ภาคธุรกิจกลับบอกว่าไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนระบบปฏิบัติการในปีหน้า เมื่อ Windows 7 ออกวางจำหน่ายตามแผนการของไมโครซอฟท์

จากผลการสำรวจบริษัทไอที 1,142 แห่ง จัดสำรวจโดย Dimension Research พบว่าผลการสำรวจร้อยละ 84 ไม่มีแผนการใช้งาน Windows 7 ในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้านี้ เหตุผลต้นๆ คือ แอดมินของหลายๆบริษัทมีประการณ์ไม่ค่อยดีกับ Windows Vista และต้องการรอดูท่าทีและผลการทดสอบ Windows 7 Beta เสียก่อน

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่าง คือบรรดาแอดมินทั้งหลายยังระแวงกับการเปลี่ยนไปใช้ Windows 7 มากกว่าการคงการใช้งาน Windows XP ที่มีอายุการใช้งานมากว่า 8 ปีแล้วก็ตาม

Time Warner Cable ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านระบบเคเบิ้ลในสหรัฐอเมริกา เริ่มทดลองคิดค่าบริการอินเทอร์เน็ตตามจำนวนไบต์ที่ลูกค้าใช้งาน (ข่าวเก่า) ด้วยเหตุผลที่ว่าบริษัทต้องลงทุนในเครือข่ายที่มีราคาแพง และเพื่อป้องกันลูกค้าที่ดาวน์โหลดหรืออัพโหลดข้อมูลมากเกินไป ซึ่งจะกระทบต่อความเร็วของลูกค้าคนอื่น

อย่างไรก็ดี มีการตั้งข้อสังเกตว่า แบนด์วิดท์ของระบบเคเบิ้ลอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถอัพเกรดได้ง่ายและใช้เงินลงทุนไม่มาก ดังนั้นเหตุผลที่ Time Warner Cable ยกมา อาจเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อที่จะปรับโครงสร้างอัตราค่าบริการให้แพงขึ้น

หนึ่งในเทคโนโลยีที่กล่าวถึงมากในปีนี้คือ การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ หรือ Cloud Computing หากแต่เทคโนโลยีนี้อาจทำให้หลายๆ คนสงสัยและถกเถียงถึงบทบาทที่แท้จริงของมัน Joe Weinman จาก AT&T Business Solutions ได้สรุปคุณสมบัติ 6 ข้อที่เขาคิดว่าทุกคนน่าจะเห็นร่วมกันจากมุมมองธุรกิจ เพื่อให้เป็นประเด็นทางความคิดกันต่อไป ดังนี้

1. ประโยชน์ของกลุ่มเมฆคือการลดค่าใช้จ่าย

ไม่เพียงภายนอกบริษัทเท่านั้น แม้แต่ภายในบริษัทเองก็ยังพบว่าพนักงานประจำของไมโครซอฟท์เอง ก็ใช้งาน Google กันสูงถึงร้อยละ 48 ในขณะที่สัดส่วนการใช้งาน Live Search อยู่ที่ตัวเลขร้อยละ 48% เท่ากัน ส่วนที่เหลือเป็นการใช้งาน Yahoo และอื่นๆ

ดูเหมือนว่า Live Search เครื่องมือค้นหาที่ไมโครซอฟท์ลงแรงกว่า 5 ปี และใช้งบลงทุนไปหลายร้อยล้านเหรียญนั้น ยังต้องพยายามอยู่อีกเยอะ จากสัดส่วนการใช้งานเครื่องมือค้นหาในสหรัฐพบว่า Live Search มีส่วนแบ่งเพียงร้อยละ 10.3 ในขณะที่ร้อยละ 15.8 ใช้ Yahoo และร้อยละ 64.2 นั้นใช้งาน Google

ที่มา : cnet

ออกวางขายในเวลาที่ไล่เลี่ยกับ Dell Inspiron Mini 10 ในประเทศญี่ปุ่นสำหรับ Kohjinsha MT Series มิหนำซ้ำยังมีขนาดหน้าจอที่เท่ากันอีก Kohjinsha เป็นที่รู้จักกันดีว่าเชี่ยวชาญในการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กและกำลังขยายตลาดในไทย แต่ด้วยราคาที่ไม่เร้าใจทำให้ความนิยมนั้นดูจะไม่เพิ่มขึันซักเท่าไหร่ เมื่อเปรียบเทียบกับเน๊ตบุกนี่ห้ออื่นๆ

รายละเอียดของ Kohjinsha MT

• Atom N270 1.6GHz
• Display 10.1” LCD(1024x576)
• RAM 1GB
• HDD 160GB
• Intel 945GSE Express
• 1Seg TV Tuner

ราคา 49800 เยน หรือประมาณ 18000บาท
ราคาที่ประเทศไทยสำหรับยี่ห้อนี้คงสูงแน่ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับราคาในประเทศญี่ปุ่น

ไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลว่าในสัปดาห์ที่สามของเดือนเมษายน (สัปดาห์หน้า) จะเริ่มขึ้นข้อความเตือนให้ผู้ใช้ Windows XP, Windows Vista, Windows Server 2003, หรือ Windows Server 2008 ที่ยังใช้ IE6 หรือ IE7 อยู่ ให้อัพเกรดมาใช้ IE8 กันผ่านทาง Automatic Update

สำหรับ Windows XP กับ Server 2003 จะขึ้นเตือนอัพเดตนี้เป็น High-Priority ส่วนบน Windows Vista กับ Server 2008 จะขึ้นเป็น Important แต่จะไม่มีการอัพเดต IE8 อัตโนมัติถ้าผู้ใช้ไม่สั่งเลือก

ผู้ที่ขี้เกียจรอหรืออยากดาวน์โหลดเอง สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้จาก เว็บของ IE8 ถ้าใครยังกล้าๆ กลัวๆ อ่านรีวิว Internet Explorer 8

เนื้อหาทั้งหมดของ Wikipedia รวมถึงโครงการอื่นๆ ของ Wikimedia Foundation นั้นใช้สัญญาอนุญาตแบบ GFDL (GNU Free Documentation License) ซึ่งในเชิงเทคนิคแล้ว มันไม่สามารถใช้ด้วยกันได้กับ Creative Commons ถึงแม้ว่าจะมีแนวคิดคล้ายๆ กันก็ตาม

ปัญหานี้ทำให้ไม่สามารถ "ก็อปแปะ" เนื้อหาที่เป็น Creative Commons ลงใน Wikipedia ได้ ถึงแม้ว่าเจ้าของจะมีเจตนาให้ใช้ประโยชน์ก็ตาม

StumbleUpon อดีตเว็บ 2.0 ที่เคยมีชื่อเสียง (แนะนำเว็บกันระหว่างผู้ใช้โดยใช้ระบบโหวต คล้ายๆ กับ Digg) แต่หลังจากโดน eBay ซื้อกิจการไปเมื่อปี 2006 ก็ดูจะเงียบไปมาก ล่าสุดตอนนี้ทาง StumbleUpon ประกาศซื้อตัวเองคืนจาก eBay แล้ว

ใน Press Release ของ StumbleUpon บอกว่าตอนนี้บริษัทมีสถานะเป็น "investor-backed startup" อีกครั้งหนึ่ง โดยมีบริษัทนักลงทุนกลุ่มเดิมที่เคยเข้ามาตอนตั้งบริษัทใหม่ๆ ให้การสนับสนุนด้านการเงิน และผู้ก่อตั้งบริษัทสองคนคือ Garrett Camp กับ Geoff Smith ก็ได้กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งบริหารอีกด้วย

นักพัฒนาของกูเกิลได้ประกาศ Android 1.5 ซึ่งพัฒนามาจาก Android Cupcake ซึ่งเป็นรุ่นแยกสายของ Android 1.0 (อ่านข่าวเก่าประกอบ: คีย์บอร์ดบนจอภาพในรุ่น Cupcake)

ฟีเจอร์ใหม่ใน Android 1.5 ที่สำคัญๆ มีดังนี้

รายงานจาก BusinessWeek บอกว่าหากมาดูรายละเอียดชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการผลิต iPod shuffle รุ่นล่าสุดแล้วพบว่าต้นทุนชิ้นส่วนต่าง ๆ นั้นมีราคาเพียงแค่ 22 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น (ประมาณ​ 750 บาท) โดยข้อมูลต่าง ๆ นั้นได้มาจาก iSuppli

จากการวิจัยของ iSuppli นั้น ชิ้นส่วนต่าง ๆ ส่วนใหญ่มาจากซัมซุง เช่นหน่วยความจำแฟลชขนาด 4GB ที่มีราคาอยู่ที่ 4 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้แล้วราคาของตัวแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้มีราคาเพียงแค่ 1.20 ดอลลาร์สหรัฐ โดยหนึ่งในนักวิจัยของ iSuppli บอกว่าแบตเตอรี่ตัวนี้นั้นเล็กที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาเลยทีเดียว

หลังจากปล่อยข่าวลือมาตั้งแต่ต้นปี ในที่สุดนิคอนก็หาทางออกให้กับชื่อกล้อง DSLR ของตนเองได้ในกล้องตัวใหม่อย่าง D5000 ครับ

D5000 นี้ถูกจัดให้เป็นตัวแทน D60 ครับ จุดเด่นก็คือ สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 720p มีจุดโฟกัส 11 จุด ซ้ำยังเป็นรุ่นแรกของนิคอนที่มีจอ LCD พับหมุนได้ ขนาด 2.7 นิ้ว (ดูรูปประกอบ) ซึ่งช่วยคุณใช้ได้สนุกขึ้นมาก

ส่วนการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานอื่นๆ ก็เช่น ความละเอียด 12.3 ล้านพิกเซล, ชิพประมวลผล EXPEED, โหมดถ่ายภาพแบบ SCENE มีให้ถึง 19 โหมด แถมด้วยข้อจำกัดเล็กน้อยก็เหมือน D60+D90 นั่นคือออโตโฟกัสได้เฉพาะเลนส์ที่มีมอเตอร์ในตัวเท่านั้น และขณะถ่ายวิดีโอจะออโตโฟกัสไม่ได้ครับ

สถานีโทรทัศน์ BBC ของสหราชอาณาจักร เริ่มโครงการทดลองชื่อ R&DTV โดยรายการนี้เป็นรายการด้านเทคโนโลยีรายเดือน สัมภาษณ์บุคคลากรทั้งของ BBC เองและผู้เชี่ยวชาญภายนอก

แง่มุมที่น่าสนใจไม่อยู่ที่ตัวเนื้อหาของรายการ แต่เป็นวิธีการแพร่ภาพและแจกจ่ายรายการ รายการ R&DTV จะถูกปล่อยออกมา 3 ฟอร์แมต