ในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน ไม่ว่าจะ Generation ไหน หรือมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันก็ตาม ล้วนต้องการอุปกรณ์หรือสิ่งของที่ช่วยทำให้ชีวิตพวกเขามีความสะดวกสบายมากขึ้น ในราคาที่จับต้องได้ และหาได้ไม่ยาก โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างพัฒนาเร็วมาก ๆ
นั่นคือสิ่งที่ dotlife มองเห็น และพร้อมที่จะเป็นจุดหมายใหม่ของคนรักเทคโนโลยีทุกคน กับการเปิดตัว TECHHOUSE by dotlife ที่ One Bangkok ศูนย์กลางธุรกิจแห่งอนาคตใจกลางกรุงเทพฯ ในฐานะ Lifestyle Technology Hub แห่งแรกของไทยที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ณ ชั้น 2 โซน The Storeys, One Bangkok บนทำเลที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ
เครือ CP เปิดตัว Amaze Super App (อเมซ ซูเปอร์แอป) แอปชอปปิ้งที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นกระเป๋าพอยท์ รวมพอยท์จากหลาย ๆ บริการ เพื่อให้ผู้ใช้งานนำพอยท์ไปซื้อของบนแพลตฟอร์มได้ง่าย ๆ แทนการใช้เงินสดแบบเดิม
CP บอกว่า จุดเด่นของ Amaze คือการเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้ใช้แลกพอยท์จากบริการในเครือข้ามไปมาได้ หรือจะนำพอยท์มาแลกใน Amaze เพื่อใช้ซื้อสินค้าจากกว่า 500 ร้านค้า มากกว่า 100,000 รายการ ภายในแอปได้ โดยไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว ซึ่งยังไม่มีแอปไหนในไทยที่ทำได้แบบนี้
JetBrains ประกาศโอเพนซอร์ส Mellum โมเดลช่วยเติมโค้ดที่เปิดตัวในปี 2024 และใช้กับ IDE ในตระกูล JetBrains โดยมีจุดเด่นเรื่องความเร็วกว่าการใช้โมเดลภาษา LLM ตัวใหญ่
JetBrains เรียก Mellum ว่าเป็น "focal model" สร้างมาเพื่อเขียนโค้ดโดยเฉพาะ ไม่ใช่โมเดลภาษา LLM ที่ปรับมาใช้เขียนโค้ด และแผนการของบริษัทคือการสร้างโมเดล Mellum หลายๆ ตัวที่ทำงานเฉพาะทางต่างกันไป เช่น ช่วยเติมโค้ด (code completion) หรือช่วยพยากรณ์ diff ของโค้ดแต่ละเวอร์ชัน
หนึ่งในข่าววงการเทคฯ ที่เห็นอยู่บ่อย ๆ ก็คือ บริษัทเทคฯ ระดับโลกกำลังเร่งปรับตัวให้ตัวเองกลับมาโหดขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบังคับกลับเข้าออฟฟิศ ลดสวัสดิการ เพิ่มแรงกดดันให้พนักงาน และปลดพนักงานออกครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร ซึ่งไม่รู้ว่าทำได้จริง หรือแค่ต้องการให้ตัวเลขในรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสออกมาดูดีขึ้น
แต่ NVIDIA แทบไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย เพราะวัฒนธรรมแบบนี้มีอยู่แล้วตั้งแต่แรก ขณะที่บริษัทอย่าง Shopify, Microsoft, Meta, และ Google พยายามขับเคลื่อนให้เร็วขึ้น และตัดคนที่ไม่เวิร์คออก เพื่อแข่งขันในโลก AI แต่ NVIDIA อยู่ในโหมดนี้มานานแล้ว
Mozilla ประกาศเพิ่มฟีเจอร์จัดกลุ่มแท็บหรือ tab groups ให้กับ Firefox ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีมานานแล้วในเบราว์เซอร์อื่น
Mozilla บอกว่า tab groups เป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานเรียกร้องผ่านระบบเสนอไอเดีย Mozilla Connect มากที่สุด เมื่อมีมากขนาดนี้ Mozilla บอกว่าก็ต้องจัดฟีเจอร์นี้ให้ตามขอ ซึ่งการทำงานผู้ใช้งานสามารถจัดกลุ่มแท็บที่เปิดไว้ ตั้งชื่อตามประเภทที่ต้องการเรียกใช้งาน รวมทั้งใส่สีจัดกลุ่ม
Tab groups เริ่มอัปเดตแล้วใน Firefox 138 นอกจากนี้ Mozilla เตรียมเพิ่มความสามารถ Smart tab groups ในอนาคต ที่ใช้ AI แนะนำชื่อกลุ่มแท็บตามลักษณะแท็บที่เปิดไว้
MiMo มีขนาด 7B พารามิเตอร์ ผลการทดสอบหัวข้อ AIME 2024-2025 และ LiveCodeBench v5 ทำคะแนนได้สูงกว่า o1-mini และ QwQ-32B-Preview
โมเดลชุดแรกที่ Xiaomi เผยแพร่ได้แก่ MiMo-7B-Base
เป็นโมเดลพื้นฐาน, MiMo-7B-RL-Zero
ที่ถูกฝึกฝนแบบ Reinforce จากโมเดลพื้นฐาน, MiMo-7B-SFT
ที่ถูกฝึกแบบ Supervised และ MiMo-7B-RL
ที่ถูกฝึกจากโมเดล SFT ดูรายละเอียดได้ที่ GitHub และ Hugging Face
YouTube อัพเดตหน้าตาของแอพบนสมาร์ททีวีและเครื่องเกมคอนโซล ปรับวิธีการนำเสนอคอนเทนต์บางส่วน
DeepSeek เผยแพร่โมเดลปัญญาประดิษฐ์โอเพนซอร์สรุ่นใหม่ DeepSeek-Prover-V2-671B
ซึ่งโมเดล Prover ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เป็นหลัก
ทั้งนี้ DeepSeek ไม่ได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการถึงรายละเอียดของโมเดลนี้ แต่ใช้วิธีอัปโหลดโค้ดทาง Hugging Face ซึ่ง ณ เวลานี้ Readme ก็ยังไม่มีรายละเอียดด้วย โดยหากดูตามชื่อโมเดลก็มีพารามิเตอร์จำนวน 671B
Prover V2 เป็นรุ่นถัดจาก V1.5 ที่ออกมาเมื่อเดือนสิงหาคม
ที่มา: South China Morning Post
Gearbox Entertainment ประกาศวันวางขายเกม Borderlands 4 ใหม่ เลื่อนมาขายเร็วขึ้น 2 สัปดาห์ จากเดิม 23 กันยายน 2025 เปลี่ยนเป็น 12 กันยายน 2025
การเลื่อนวันวางขายของ Borderlands 4 ถูกวิจารณ์ว่าเป็นเพราะ Marathon ของ Bungie ประกาศวันขายชนกัน 23 กันยายน แต่ Randy Pitchford ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Gearbox ก็โพสต์ยืนยันว่าเป็นเพราะมั่นใจในคุณภาพของเกมแล้วว่าจะไม่มีบั๊ก การเลือกวันขายเกมนั้นไม่ได้สนใจปัจจัยเรื่องเกมคู่แข่งเลย
เกมซีรีส์ Borderlands มียอดขายรวมทุกภาคสูงถึง 77 ล้านชุด โดยเกมขายดีที่สุดคือภาค 2 (2012) ทำไว้ 26 ล้านชุด ตามด้วยภาค 3 (2019) ที่ 18 ล้านชุด
หลังจากที่ Duolingo ปรับแนวทาง AI-First เลิกจ้างพนักงงานสัญญาจ้างทั้งหมด เพื่อใช้ AI แทนที่ บริษัทประกาศเปิดตัวคอร์สเรียนใหม่ทั้งหมด 148 คอร์ส ที่พัฒนาขึ้นโดย Generative AI ซึ่งมากกว่าจำนวนคอร์สเรียนภาษาต่างประเทศสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษสองเท่า เทียบจากปีก่อนหน้า โดยส่วนใหญ่จะเป็นระดับเริ่มต้น และจะมีบทเรียนระดับสูงขึ้นตามมาในปีนี้
นี่เป็นการเปิดตัวคอร์สเรียนภาษาครั้งใหญ่ที่สุดของ Duolingo และอาจช่วยให้ผู้คนมากกว่าพันล้านคนทั่วโลกสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้ จากเดิมที่ใช้เวลา 12 ปี ในการพัฒนาหลักสูตร 100 คอร์สแรก แต่เพราะ AI ทำให้สามารถสร้างเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้คนเรียนรู้ได้เร็วขึ้น
Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ ขึ้นเวทีในงานสัมมนา LlamaCon ของ Meta ซึ่งเป็นการพูดคุยร่วมกับซีอีโอ Mark Zuckerberg โดยเนื้อหาช่วงหนึ่ง Nadella พูดถึงการใช้ AI ช่วยเขียนโค้ดในไมโครซอฟท์
เขาบอกว่าตอนนี้มีโค้ดประมาณ 20-30% ใน Repository ของไมโครซอฟท์ ที่เขียนขึ้นจาก AI ในบางโครงการอาจเป็น AI เขียนทั้งหมดเลยด้วย ซึ่งแนวโน้มมีแต่เพิ่มมากขึ้น
จากนั้น Nadella เลยถามกลับ Zuckerberg ว่า Meta มีโค้ดภายในที่เขียนด้วย AI มากน้อยแค่ไหน เขาบอกว่าไม่ทราบตัวเลขที่แน่นอน แต่โมเดล AI ที่สร้างอยู่ตอนนี้ มีเป้าหมายให้สามารถพัฒนาโมเดล AI ขึ้นมาเองต่อได้ในอนาคตด้วย ปีหน้าตัวเลขอาจอยู่ที่ครึ่งหนึ่งของโครงการทั้งหมด
Andy Jassy ซีอีโอ Amazon รู้สึกกังวลกับการที่สังคมนำ AI มาใช้อย่างรวดเร็วมาก ๆ จนอาจทำให้คนบางกลุ่มปรับตัวตามไม่ทัน โดยเฉพาะในระบบการศึกษา ที่เขามองว่ามีความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด
Jassy กังวลว่าระบบการศึกษาปัจจุบันมีคุณภาพที่ลดลง และอาจไม่สามารถเตรียมคนให้มีทักษะที่จำเป็นสำหรับเศรษฐกิจในอนาคต เช่น การเขียนโปรแกรม และการใช้งานเครื่องมือ AI
เพราะฉะนั้น ต้องมีการพัฒนา และใช้อัลกอริทึม AI และโมเดลต่าง ๆ อย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่คาดคิดรวมทั้งระบบการศึกษาต้องพัฒนาตามเทคโนโลยีพวกนี้ให้ทันแบบก้าวกระโดด ผู้คนจึงจะประสบความสำเร็จในยุคนี้
ผลการทดสอบโดย Google ในสหราชอาณาจักร พบว่า AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างมาก จากการทดลองให้พนักงานลองใช้ AI และฝึกอบรมเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็สามารถเพิ่มอัตราการนำ AI มาใช้เป็นสองเท่า
นอกจากนี้ Google บอกว่า พนักงานส่วนใหญ่ไม่เคยใช้ AI มาก่อน โดยเฉพาะผู้หญิงสูงวัยจากกลุ่มรายได้ต่ำ บางคนไม่แน่ใจว่าใช้แล้วจะ "ถูกต้อง" หรือ "ยุติธรรม" หรือเปล่า
แต่เมื่อได้รับการอนุมัติ และฝึกสอนเล็กน้อย พวกเขาก็เริ่มใช้งาน AI มากขึ้น และสามารถประหยัดเวลาในการทำงานเอกสารไปได้เฉลี่ยปีละ 122 ชั่วโมง
Jason Schreier นักข่าวสายเกมของ Bloomberg รายงานข่าวว่า EA ปลดพนักงานออกราว 300-400 คน และยกเลิกโครงการเกม Titanfall ภาคใหม่ที่กำลังพัฒนาอยู่ (โดนอีกแล้ว)
แหล่งข่าวของ Schreier บอกว่าสตูดิโอ Respawn โดนผลกระทบไปราว 100 คน โครงการเกม Titanfall ที่ว่าใช้โค้ดเนมภายในว่า R7 เป็นเกมยิงแนว extraction shooter ในจักรวาลเดียวกับ Titanfall แต่สถานะของเกมยังห่างไกลกับการวางขายได้จริง
โฆษกของ EA ยืนยันข่าวการปลดพนักงาน แต่ไม่ยืนยันตัวเลข ส่วน Respawn โพสต์ในบัญชีโซเชียลว่าปิดโครงการเกม early-stage ไปสองโครงการ (ไม่บอกว่าเกมอะไร) และปรับลดพนักงานในทีม Apex Legends กับ Star Wars Jedi ออกบางส่วน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และ Amazon Web Services พัฒนาแพลตฟอร์ม Generative AI 2 ตัว ได้แก่ ChatGen และ Matthew เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการเรียนรู้ให้แก่บุคลากรและนักศึกษากว่า 52,000 คน
ผศ. ดร.ชาย รังสิยากูล ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเมืองเพื่อความยั่งยืน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า การพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นไปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของนักศึกษาที่อาจจะเข้าถึง AI ในโมเดลต่าง ๆ ที่ต้องสมัครสมาชิกได้ไม่เท่ากัน
สำหรับ ChatGen จะทำงานร่วมกับ Amazon Nova เพื่อใช้งานทั่วไป เช่น แนะนำวิชาเรียน จัดตารางเรียน และการติดตามความก้าวหน้าของหลักสูตร โดยจะเชื่อมโยงกับระบบต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย สามารถใช้งานได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์ทุกประเภท
Meta ประกาศเปิดบริการ Llama API ในงาน LlamaCon 2025 ให้บริการกับนักพัฒนาภายนอก ทำให้สามารถสร้างแอปพลิเคชั่นบน Llama 4 ได้ทันทีผ่านทาง OpenAI SDK
แม้ว่าจะเปิดบริการแพลตฟอร์มของตัวเอง แต่ทาง Meta ก็ยืนยันว่าจะร่วมกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ เพื่อให้บริการ Llama 4 ไปพร้อมกัน โดยตอนนี้มี Cerebras และ Groq ให้บริการ Llama 4 แบบทดสอบผ่านทาง Llama API ด้วย ผู้ใช้สามารถเลือกว่าจะรันโมเดลผ่านผู้ให้บริการรายใดก็ได้ โดยระบุใน API
สำหรับการทำ fine-tuning บริการ Llama API ยังมีเครื่องมือช่วยฝึก Llama 3.3 8B ให้ในตัว ผู้ใช้สามารถสร้างชุดข้อมูลได้เองแล้วฝึกโมเดล พร้อมกับสร้างชุดทดสอบเพื่อวัดผล เมื่อได้โมเดลที่ต้องการแล้วผู้ใช้สามารถโหลดโมเดลไปรันที่ไหนก็ได้ตามใจชอบ
มีรายงานจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิมอีกครั้งเกี่ยวกับการปรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในแอปเปิล ซึ่งคราวนี้ไม่เกี่ยวกับ Siri แต่เป็นแผนกอื่น
เริ่มที่ Apple Music โดยให้สองผู้บริหารคือ Rachel Newman ซึ่งทำงานในแอปเปิลอยู่แล้ว และ Ole Obermann ที่ดูแลธุรกิจเพลงใน TikTok มารับผิดชอบส่วนบริการฟังเพลงสตรีมมิ่ง ทั้งคู่จะรายงานตรงกับ Oliver Schusser ที่เดิมรับผิดชอบ Apple Music โดยตรง แต่ปัจจุบันมีความรับผิดชอบมากขึ้นทั้ง Beats, Apple TV+, Apple Sports
OpenAI ประกาศถอดอัพเดต GPT-4o เวอร์ชั่นล่าสุดออกจาก ChatGPT หลังพบว่าโมเดลมีลักษณะช่างประจบเกินเหตุ หรือเรียกว่า sycophantic
ทาง OpenAI ทดสอบโมเดลเวอร์ชั่นใหม่เรื่อยๆ โดยสังเกตผลตอบรับจากการกด 👍 และ 👎 โดยเมื่อสังเกตุผลตอบรับที่ดีขึ้นก็นำโมเดลไปใช้งาน แต่ภายหลังพบว่าโมเดลรุ่นทดสอบนี้มีลักษณะประจบประแจงเอาใจแต่กลับไม่จริงใจกับผู้ใช้
โมเดลหลังจากนี้จะถูกฝึกให้ลดการประจบประแจงเอาใจ และเพิ่มระบบ guardrails ให้แสดงความจริงใจมากขึ้น พร้อมกับรับความเห็นจากผู้ใช้ให้มากขึ้นระหว่างทดสอบ
ที่มา - OpenAI
Grab Holdings รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2025 มีรายได้ 773 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน, EBITDA 106 ล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิสำหรับงวด 10 ล้านดอลลาร์ มีปริมาณการใช้จ่ายบนแพลตฟอร์ม (GMV) เพิ่มขึ้น 17% เป็น 4,932 ล้านดอลลาร์
Anthony Tan ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Grab กล่าวว่าในไตรมาสที่ผ่านมาแพลตฟอร์มทำสถิติใหม่ทั้งจำนวนผู้ใช้งาน, จำนวนพาร์ตเนอร์, รายได้ และ EBITDA
Toyota และ Waymo ประกาศความร่วมมือขั้นต้นในการร่วมเร่งพัฒนาและติดตั้งเทคโนโลยีรถยนต์อัตโนมัติ โดยเบื้องต้นทั้งสองบริษัทจะศึกษาแนวทางเพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีควบคุมรถยนต์อัตโนมัติของ Waymo มาติดตั้งใช้งานกับรถยนต์ส่วนบุคคลของ Toyota ได้
แถลงการณ์นี้บอกว่า Waymo ซึ่งให้บริการรถแท็กซี่อัตโนมัติในหลายพื้นที่ และมีข้อมูลการเดินทางหลายล้านไมล์ เมื่อรวมกับ Toyota ที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ส่วนบุคคลจำนวนมากที่สุดในโลก จะทำให้ยานยนต์อัตโนมัติมีโอกาสขยายไปสู่ผู้ใช้งานมากขึ้น
Waymo ยังบอกว่าบริษัทมีแผนนำรถยนต์ Toyota มาใช้กับบริการรถแท็กซี่อัตโนมัติเพิ่มเติมด้วย จากปัจจุบันมีรถยนต์ที่ใช้งานและอยู่ในแผนความร่วมมืออย่าง Jaguar, Hyundai และ Geely
ซัมซุงรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2025 หลังจากให้ข้อมูลตัวเลขเบื้องต้นไปเมื่อต้นเดือน มีรายได้รวม 79.1 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรจากการดำเนินงาน 6.7 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 0.1% และกำไรสุทธิ 8.2 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นจากผลตอบแทนการลงทุนและประโยชน์ทางภาษี
กูเกิลประกาศว่าฟีเจอร์ Audio Overview ใน NotebookLM ที่สร้างไฟล์เสียงแบบรายการพอดคาสต์ที่มีผู้จัดรายการสองคนสนทนากัน รองรับเพิ่มเติมมากกว่า 50 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย
ผู้ใช้งานสามารถอัปโหลดเนื้อหาเพื่อให้ NotebookLM สร้างไฟล์เสียงออกมาตามภาษาที่กำหนดไว้ของบัญชีกูเกิล หรือเลือกภาษาอื่นที่ต้องการเองได้ (Settings > Output Language) ทั้งหมดรองรับเนื้อหาเริ่มต้นจากภาษาอื่นด้วยเช่นกัน เพราะตัว NotebookLM ที่สรุปเนื้อหาจากเอกสารรองรับอยู่แล้วมากกว่า 200 ภาษา
สามารถใช้งาน Audio Overview ได้แล้วที่ notebook.google
Supermicro รายงานผลประกอบการเบื้องต้น (preliminary) ของไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2025 สิ้นสุดเดือนมีนาคม ยอดขายรวมอยู่ในช่วง 4.5-4.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 18% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ประเมินกำไรสุทธิต่อหุ้นตามบัญชี GAAP ที่ 0.16-0.17 ดอลลาร์ต่อหุ้น
บริษัทบอกว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ผ่านมามีผลกระทบสำคัญ 2 อย่างคือ ลูกค้าชะลอการตัดสินใจทำให้ยอดขายส่วนนี้ขยับไปที่ไตรมาสปัจจุบัน และปริมาณสินค้าคงคลังที่เป็นเซิร์ฟเวอร์รุ่นเก่ามีมาก กระทบต่อกำไรบริษัท
ที่มา: Supermicro
Meta ประกาศเทคโนโลยี "Private Processing" เพื่อนำ Meta AI มาใช้กับแอปแชท WhatsApp มากขึ้น โดยยังปกป้องความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้งานได้
Private Processing จะเป็นตัวเลือกที่ผู้ใช้งานต้องเปิดใช้งานเอง (opt-in) โดยนำ Meta AI มาเสริมความสามารถ เช่น การสรุปข้อความ หรือคำแนะนำการเขียนโต้ตอบ มีกระบวนการทำงานเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว โดย Meta มีคลาวด์ที่เสริมความปลอดภัยแยกต่างหากสำหรับ Private Processing โดยเฉพาะ
Meta เปิดตัวแอป Meta AI เป็นแอปบนโทรศัพท์มือถือเฉพาะทาง จากเดิมที่เปิดให้ใช้งานบน Messenger, Instagram, และ WhatsApp ฟีเจอร์สำคัญที่เพิ่มขึ้นมาคือการแชร์พรอมพ์เป็น timeline ของตัวเองได้ด้วยทั้งข้อความและภาพ
นอกจากการแชตปกติแล้ว ในบางประเทศยังสามารถคุยแบบเสียงกับ Meta AI ได้ โดยมีโหมด full duplex คุยได้ต่อเนื่องเนื่องจากโมเดลตอบเป็นเสียงโดยตรง ไม่ได้ตอบเป็นข้อความแล้วแปลงเป็นเสียง โดยตอนนี้จำกัดเฉพาะสหรัฐฯ, แคนาดา, ออสเตรเลีย, และนิวซีแลนด์
แนวทางหนึ่งในการใช้ Meta AI คือการเชื่อมเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Ray-Ban Meta ทำให้สามารถคุยกับปัญญาประดิษฐ์ได้ต่อเนื่อง