เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2011 ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Ministry of Education, Science and Technology) ของเกาหลีใต้ได้เปิดเผยนโยบายว่า ภายในปี 2015 ตำราเรียนตามหลักสูตรทั้งหมดจะถูกแปลงให้อยู่ในรูปสื่อดิจิตอล เพื่อให้เด็กนักเรียนเกาหลีใต้ได้เรียนผ่านสื่อการเรียนการสอนที่ดีกว่าและมีปฏิสัมพันธ์มากกว่าตำราเรียนแบบเดิมที่เป็นกระดาษ
Baidu ผู้นำแห่งเว็บค้นหาภาษาจีน ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับ Bing (ตามข่าวลือก่อนหน้านี้) โดย Baidu จะนำผลการค้นหาในภาษาอังกฤษจาก Bing มาใส่ในเว็บของตัวเอง
ผลจากข้อตกลงนี้ทำให้ Baidu ได้ผลการค้นหาข้อมูลภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น ส่วน Bing จะได้ส่วนแบ่งตลาดค้นหาโลกเพิ่มขึ้น (จีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 450 ล้านคน) แถมทั้งสองรายยังเป็นคู่แข่งร่วมของกูเกิล ที่มีปัญหาในการเจาะตลาดประเทศจีนเนื่องจากกฎระเบียบของรัฐบาลจีน
ที่มา - Reuters
ถ้าไม่นับ Mark Zuckerberg ผู้สร้าง Facebook ไว้สักคนหนึ่ง ผู้ที่ออกความเห็นเรื่อง social network แล้วควรค่าแก่การรับฟังคือ Tom Anderson ผู้สร้าง Myspace (และเป็นเพื่อนคนแรกของทุกคนที่ใช้ Myspace อยู่พักหนึ่ง)
Tom Anderson แสดงความเห็นของเขาต่อ Google+ (บน Google+) ว่ากูเกิลมีบริการต่างๆ เป็นจำนวนมาก และ Google+ จะทำหน้าที่เชื่อมบริการแต่ละตัวของกูเกิลเข้าด้วยกัน และช่วยให้บริการของกูเกิลดีขึ้นในภาพรวม
จากข่าว Mark Zuckerberg ขอลอง Google+ ด้วยคน ที่ทำให้หลายคนแปลกใจ (รวมถึงสื่อต่างประเทศนำไปเล่นเป็นหัวข่าวใหญ่โต)
บล็อกเกอร์ชื่อดังในโลกไอทีคนหนึ่งคือ Robert Scoble ได้ส่ง SMS ไปถามเจ้าตัว ซึ่งได้คำตอบกลับมาว่า
“Why are people so surprised that I’d have a Google account?”
Zuckerberg มีบัญชีบน Twitter คือ @finkd แต่ไม่ได้ใช้มานานแล้ว ส่วนผู้บริหารของกูเกิลไม่มีใครใช้ Facebook เลย (หรือถ้ามีก็อาจจะใช้ชื่ออื่น)
ที่มา - TechCrunch
เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม Galaxy S II สามารถทำยอดขายแตะ 1 ล้านเครื่อง มาวันนี้ตัวเลขขึ้นไปที่ 3 ล้านเครื่องแล้ว โดยใช้เวลารวม 55 วันหลังวางขาย
ตัวเลข 55 วันถือว่าน่าสนใจมาก เพราะ Galaxy S รุ่นแรกใช้เวลา 85 วันในการขายให้แตะหลัก 3 ล้านเครื่อง นั่นแปลว่า Galaxy S II ขายได้เร็วกว่าเดิมถึง 30 วัน และในช่วงที่ขายดีที่สุด อัตราการขายสูงถึง 1 เครื่องทุกๆ 1.5 วินาที
ตอนนี้ซัมซุงตั้งเป้า 10 ล้านเครื่อง ซึ่งก็เป็นไปได้สูงเพราะ Galaxy S II ยังไม่ได้วางขายในสหรัฐ ยังมีตลาดเหลืออีกมาก
ที่มา - Electronista
ปฏิบัติการแฮ็กภายใต้ชื่อ #AntiSec ของกลุ่มแฮ็กเกอร์ LulzSec และ Anonymous ได้เผยแพร่เอกสารซึ่งอ้างว่าเป็นบัญชีผู้ใช้งานและรหัสผ่านของผู้ดูแลระบบในเซิร์ฟเวอร์แอปเปิลจำนวน 26 บัญชีที่เจาะออกมาได้ ทั้งหมดเป็นบัญชีสำหรับใช้งานภายในแอปเปิลเองไม่ใช่บัญชีข้อมูลลูกค้าแต่อย่างใดและถือเป็นจำนวนที่น้อยมากหากเทียบกับปฏิบัติการก่อนหน้านี้
พวกเขายังได้อัพเดททางทวิตเตอร์ว่า "แอปเปิลก็เป็นเป้าหมายหนึ่งเช่นกัน แต่ไม่ต้องห่วง ตอนนี้เรากำลังวุ่นกับที่อื่นอยู่" โดยก่อนหน้านี้พวกเขาได้เจาะระบบของรัฐแอริโซนาสำเร็จ
แอปเปิลยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นในข่าวดังกล่าว
ยักษ์ใหญ่แห่งเกมใน social network Zynga ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากมีข่าวลือมาก่อนหน้านี้ โดยจะระดมทุนเพิ่มประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ตัวบริษัทมีมูลค่าตลาดสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์
Zynga จะเป็นอีกบริษัทกลุ่มอินเตอร์เน็ตที่เข้าตลาดหุ้นตามกระแสขณะนี้ทั้ง LinkedIn และ Pandora แต่ Zynga แตกต่างตรงที่บริษัทมีรูปแบบรายได้หลักจากการขายสินค้าเสมือนผ่านเกมต่างๆ ที่ให้เล่นได้ฟรี ปีที่แล้วบริษัทมีรายได้สูงถึง 597 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นกำไรสุทธิถึง 91 ล้านดอลลาร์
ใครที่รอ CentOS 6.0 อยู่ ตอนนี้ CentOS 6.0 ในรูปแบบ iso อิมเมจไฟล์ได้ถูกอัพโหลดเข้าเซิร์ฟเวอร์หลักแล้ว และคาดว่าจะกระจายไปสู่เซิร์ฟเวอร์ mirror ทั้งหมดทั่วโลกภายใน 1-2 วันนี้ ใครที่กำลังจะลง CentOS ใหม่ก็รอกันหน่อยนะครับ
แต่อย่างที่รู้ว่า RHEL ซึ่งเป็นต้นแบบของ CentOS ออกเวอร์ชั่น 6.1 ไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คาดว่าอีกไม่นาน CentOS ก็จะออกเวอร์ชั่น 6.1 ตามมาเช่นกัน
ที่มา: qaweb.dev.centos.org
แท็บเล็ต HP TouchPad ได้คะแนนรีวิวไม่ดีเท่าไรนัก ซึ่งทาง HP ก็เคยพูดแล้วว่าจะแก้ปัญหาต่างๆ ผ่านการอัพเดตซอฟต์แวร์ในอนาคต
ล่าสุดมีหลักฐานยืนยันที่ช่วยให้แฟนๆ TouchPad หรือคนที่ตั้งใจจะซื้อรู้สึกอุ่นใจขึ้น เพราะ Jon Rubinstein อดีตซีอีโอของ Palm ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหารของ HP ได้อีเมลถึงพนักงานภายในบริษัทว่า จงนำเสียงวิจารณ์จากรีวิวต่างๆ มาปรับปรุงแก้ไข webOS เพิ่งจะเริ่มต้น นี่เป็นการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่งแข่งระยะสั้น
Sachin Agarwal ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Posterous ซึ่งในอดีตเป็นพนักงานฝ่าย Final Cut Pro ของแอปเปิลอยู่ 6 ปี ออกมาแสดงความเห็นเรื่อง Final Cut Pro X ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในขณะนี้
Sachin บอกว่าตอนที่เขาออกมาจากแอปเปิล โครงการ Final Cut Pro X ของแอปเปิลเพิ่งเริ่มพอดี แต่เป้าหมายของแอปเปิลไม่ใช่กลุ่มนักตัดต่อมืออาชีพซึ่งมีขนาดเล็ก แต่ไปเน้นตลาด prosumer (pro+consumer) ที่มีขนาดใหญ่กว่าแทน คนกลุ่มนี้คิดว่า Final Cut Pro ซับซ้อนเกินไป นี่จึงเป็นเหตุว่าทำไม Final Cut Pro X ถึงเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่
ช่วงนี้ยังมีข่าว Google+ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นประเด็นเรื่อง "page" แบบเดียวกับของ Facebook ให้ธุรกิจต่างๆ มาสร้างตัวตนของตัวเองในโลก Google+
Jeff Huber ผู้บริหารฝ่าย Local and Commerce ของกูเกิลให้สัมภาษณ์ว่า "เราจะมี business profile page อย่างแน่นอน ถึงแม้จะบอกไม่ได้ว่าเมื่อไร แต่เราสัญญาว่ามันจะเจ๋ง และเราจะโค้ดมันให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้"
ที่มา - Blumenthals
นักวิเคราะห์จาก Market Intelligence Center (MIC) ของไต้หวัน ประเมินแนวโน้มตลาดสมาร์ทโฟนโลกว่า HTC น่าจะแซง RIM ขึ้นเป็นเบอร์สี่ได้ในปีหน้า
ตามข่าวไม่มีข้อมูลว่า 3 อันดับแรกคือใครบ้าง แต่จากข้อมูลเก่าๆ คือ โนเกีย หรือ ซัมซุง เป็นเบอร์หนึ่ง และตามด้วยแอปเปิลเป็นอันดับสาม
ส่วนระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนในปีนี้ Android เป็นแชมป์ 38%, Symbian 23%, iOS 18%
แต่ปีหน้าสถานการณ์จะเปลี่ยนไป Android เพิ่มเป็น 40%, iOS 19% และ Windows Phone 17%
ที่มา - China Post
นี่ยังไม่ใช่ข่าวอย่างเป็นทางการจากโนเกีย แต่รายงานจากดัชนีหุ้นญี่ปุ่น Nikkei ให้ข้อมูลว่าโนเกียจะถอนตัวออกจากญี่ปุ่นในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้
โนเกียเจาะตลาดญี่ปุ่นไม่เข้ามาตั้งนานแล้ว และโนเกียก็หยุดขายมือถือแบบติดสัญญาผ่านโอเปอเรเตอร์ญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2008
ส่วนข่าวล่าสุดนี้บอกว่าโนเกียจะปิดร้าน Vertu ที่ย่านชิบูย่าและกินซ่า เมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคม, บริการต่างๆ ของโนเกียที่อยู่บนเครือข่าย NTT DoCoMo จะหยุดให้บริการเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคม, และสุดท้าย สำนักงานใหญ่ของโนเกียในโตเกียวจะจัดการเอกสารต่างๆ และการคืนเงินลูกค้าให้เรียบร้อย ก่อนจะปิดสำนักงานช่วงสิ้นปี
StatCounter รายงานส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์โลกประจำเดือนมิถุนายน 2011 พบว่า Chrome มีส่วนแบ่งตลาด 20.65% แล้ว
ตามรายงานของ StatCounter ระบุว่า Chrome เป็นเบราว์เซอร์รายเดียวที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น โดยผู้นำคือ IE และ Firefox ลดลงทั้งคู่ (อยู่ที่ 43.58% และ 28.34% ตามลำดับ) ส่วน Safari และ Opera ค่อนข้างคงตัวที่ 5.07% และ 1.74% ตามลำดับ
ที่มา - StatCounter, GigaOm
Hulu กลายเป็นบริษัทเนื้อหอมที่สุดในขณะนี้ หลังจากมีข่าวยาฮูและไมโครซอฟท์สนใจซื้อ ในที่สุดก็มีข่าวของ "กูเกิล" ออกมาอย่างที่ทุกคนคาดไว้
หนังสือพิมพ์ LA Times รายงานข้อมูลจากวงในว่า กูเกิลกำลังเจรจาซื้อ Hulu อยู่เช่นกัน โดย LA Times ประเมินว่ากูเกิลต้องการ Hulu มาเสริมทัพวิดีโอออนไลน์ที่รายการมาจากบริษัทสื่อใหญ่ๆ ซึ่งตรงนี้ยังเป็นจุดอ่อนของกูเกิลอยู่ (เพราะ YouTube เลือกแนวทางวิดีโอจากผู้ผลิตอิสระ)
หลังจากถูกบ่นว่าทุกโพสใน Google+ สามารถถูกแชร์เป็นสาธารณะได้ (เว้นแต่จะตั้งค่าหลังโพส ซึ่งลำบากและลืมได้ง่ายมาก) ทางวิศวกรของกูเกิลก็ออกมาตอบรับแล้วว่าจะแก้ปัญหานี้ให้ โดยโพสที่เป็นวงจำกัดจะไม่สามารถถูกแชร์แบบสาธารณะได้อีกต่อไป
ไม่แน่ชัดนักว่าผลสุดท้ายที่ออกมาจะเป็นอย่างไร โดยกูเกิลอาจจะเปิดให้เพื่อนๆ สามารถแชร์โพสของเราต่อๆ ไปได้เช่นเดิม แต่ห้ามเพิ่มกลุ่ม Public เข้าไปในการแชร์เท่านั้น ซึ่งก็น่าจะช่วยลดปัญหาไปได้มากแล้ว
แต่ถ้าให้ดี มีระบบการเลือกค่าเริ่มต้นสำหรับการแชร์ด้วยน่าจะดีกว่านี้
ที่มา - C|Net
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2001 Bram Cohen ได้ประกาศซอฟต์แวร์ตัวใหม่ในเว็บบอร์ดของ Yahoo! ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของเทคโนโลยี Peer-to-Peer จนกระทั่งวันนี้ BitTorrent กลายเป็นโปรโตคอล P2P ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตัวหนึ่งของโลก
ทุกวันนี้มีข้อมูลที่ส่งด้วยโปรโตคอล BitTorrent ในระดับเพตราไบต์ และยังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
Bram Cohen ระบุว่า "โดยพื้นฐานแล้วเขาคิดว่าเราควรใช้ความเร็วฝั่งอัพโหลดของทุกคนมาช่วยให้การส่งไฟล์ขนาดใหญ่ทำได้เร็วขึ้น"
หลังจากคุณ Stephen Elop โชว์สมาร์ทโฟนที่มีรหัสว่า "Sea Ray" (Windows Phone ฉบับโนเกีย) ก็เกิดคำถามขึ้นว่าต่อไป Windows Phone ไม่จำเป็นต้องมีปุ่มชนิดฮาร์ดแวร์ 3 ปุ่มตามสเปกของไมโครซอฟท์แล้วหรือไม่ ล่าสุดคุณ Eldar Murtazin (นักเขียนชาวรัสเซียของเว็บ Mobile-Review.com) ได้ทวีตบอกว่า ต่อไป Windows Phone รุ่นใหม่ๆ จากซัมซุง แอลจี และเอชทีซี ก็จะไม่มีปุ่ม 3 ปุ่มด้านหน้าเครื่องในลักษณะเดียวกับ "Sea Ray" เช่นกัน
มีคนไปค้นพบฟีเจอร์ประสานการทำงานร่วมกันระหว่างเบราว์เซอร์บน Windows Phone "Mango" กับตัวระบบปฏิบัติการเอง โดยเมื่อผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ที่ใช้แท็ก audio ของ HTML5
ในการเล่นเพลง เพลงก็สามารถเล่นได้ขณะเบราว์เซอร์ทำงานอยู่เบื้องหลังหรือกระทั่งขณะเครื่องถูกล็อกหน้าจออยู่ และผู้ใช้ยังสามารถควบคุมการเล่นเพลงจากปุ่มบนหน้าจอได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเล่นเพลงของเว็บไซต์ดังกล่าวแต่อย่างไร (ดูคลิปได้ที่ท้ายข่าว)
หาก Windows Phone "Mango" ตัวจริงรองรับการทำงานลักษณะดังที่ปรากฏมา จะทำให้การพัฒนาแอพพลิเคชันเพื่อการใช้งานบางลักษณะบน Windows Phone ในอนาคตนั้นไม่จำเป็นต้องยึดติดกับการพัฒนาแอพพลิเคชันฝังไคลเอนท์ก็เป็นได้
วันนี้ทางอินเทลจัดงาน Blogger Day สำหรับบล็อกเกอร์ในไทย (จริงๆ ต้องเรียกว่าในกรุงเทพฯ) กันอีกครั้ง หลักๆ คือการพูดคุยสอบถามกับผู้บริหารของอินเทลว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรกันบ้างในปีนี้ หัวข้อที่คุยกันมีตั้งแต่อุตสาหกรรมโดยรวม ไล่ไปจนถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ของอินเทล
แต่ข่าวที่ทุกคนคงสนใจมากที่สุดคือ การทำตลาดร่วมกับ Girls' Generation ของอินเทลนั้นเป็นโครงการที่เซ็นสัญญาไว้ครึ่งปี และสัญญาจะหมดลงภายในวันที่ 15 โดยไม่มีแนวโน้มว่าจะต่อสัญญา นี้ทำให้เราจะไม่น่าจะเห็นสาวๆ ทั้ง 9 มาโปรโมทให้กับอินเทลอีกแล้ว
จบข่าวสำคัญ หากยังมีแรงอ่านหัวข้ออื่นๆ ต่อได้
มีรายงานล่าสุดของว่าที่ข้อพิพาทแห่งปีนี้ระหว่างแอปเปิลและซัมซุงครับ แต่เนื่องจากมีหลายประเด็นมากจึงขอแยกย่อยทีละเรื่องดังนี้
นอกจากมีข่าวลือก่อนหน้านี้ว่ายาฮูสนใจที่จะซื้อ Hulu (บริการดูรายการทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ) ล่าสุดหนังสือพิมพ์ Los Angeles Times รายงานว่า ไมโครซอฟท์ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่สนใจจะซื้อ Hulu เช่นกัน
หากไมโครซอฟท์สามารถซื้อ Hulu ได้สำเร็จ ก็จะกลายเป็นคนคอนโทรลบริการโทรทัศน์ผ่านอินเทอร์เน็ตในหลากหลายแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ อาทิ PlayStation 3, iOS, Android และไมโครซอฟท์ก็จะปรับแต่ง Hulu ให้เข้ากับ Xbox 360 หรือกระทั่งกับ Windows 8 และ Windows Phone อย่างแน่นอน
เช่นเคย ตัวแทนของไมโครซอฟท์ไม่แสดงข้อคิดเห็นต่อข่าวลือดังกล่าวแต่อย่างไร
คำแนะนำในการไปเลือกตั้ง สำหรับ geek
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อครั้งที่กูเกิลขายหุ้นต่อสาธารณะชนครั้งแรก กูเกิลได้ยื่นจดทะเบียนต่อคณะกรรมการหลักทรัพย์ของสหรัฐว่าต้องการระดมทุนจำนวน 2,718,281,828 ดอลลาร์จากการขายหุ้น ตัวเลขนี้มีที่มาไม่ธรรมดาเพราะเป็นค่า e คูณด้วย 1 พันล้าน (อ้างอิง)
ข้ามเวลามาอีกหลายปี ในการประมูลสิทธิบัตร Nortel ซึ่งกูเกิลแพ้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องในการประมูลว่า กูเกิลได้เสนอราคาประมูลเป็นตัวเลขแปลกๆ หลายตัว เช่น
ต่อจากข่าวเก่า Adobe ถึงผู้ใช้ Final Cut Pro X "ยินดีต้อนรับ" ทางค่าย Adobe ก็ปล่อยของตามมาอีกขั้น โดยลดราคาโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ Premiere Pro ให้ 50% สำหรับคนที่อยาก "switch"
เงื่อนไขของ Adobe คือคนที่เป็นเจ้าของ Final Cut Pro (ไม่ระบุเวอร์ชัน เข้าใจว่าได้หมด) และ Avid Media Composer สามารถซื้อ Adobe Premiere Pro หรือโปรแกรมชุดใหญ่สำหรับนักตัดต่อ Adobe CS5.5 Production Premium ในราคาถูกกว่าราคาเต็ม 50% ภายใน 30 กันยายนนี้