Rob Chandhok รองประธานอาวุโสของ Qualcomm เผยข้อมูลว่าบริษัทจะออก Snapdragon S4 รุ่นควอดคอร์ สำหรับโน้ตบุ๊ก Windows 8 ที่จะวางขายในปีนี้
ตอนนี้ Qualcomm ยังมีแต่ Snapdragon S4 รุ่นดูอัลคอร์สำหรับแท็บเล็ตและมือถืออยู่ ส่วนคู่แข่งของ S4 ควอดคอร์ก็คือ ultrabook ของอินเทลนั่นเอง โดย Qualcomm มั่นใจว่าโน้ตบุ๊กของฝั่งตัวเองเบากว่า ultrabook ของอินเทลแน่ๆ นอกจากนี้มันยังสามารถต่อเน็ตผ่าน 4G LTE และเล่นมัลติมีเดียได้ดี
ข้อมูลที่ยังไม่ชัดเจนในขณะนี้คือ Qualcomm จะรองรับ 64 บิตเมื่อไรกันแน่ เพราะ Windows 8 ก็เป็นระบบปฏิบัติการ 64 บิตและเราก็เห็น ARM เปิดตัวสถาปัตยกรรม 64 บิตแล้วใน ARMv8
April Fools ปี 2012 นี้ดูเหมือนว่าจะมีกูเกิลเล่นกันองค์กรอยู่รายเดียว (อาจเป็นเพราะมันตรงกับวันอาทิตย์ด้วยนะครับ)
ข่าวที่ลงไปแล้วได้แก่ Google Maps 8-bit, รถไร้คนขับแข่ง NASCAR, Chrome Multitask Mode, YouTube Collection, Gmail Tap
ที่เหลือก็ขอรวมเป็นข่าวนี้ข่าวเดียวจะได้ไม่เปลืองที่ครับ
เมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้ว หนึ่งในแท็บเล็ต Android ตัวแรกๆ ที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเราคือ Acer Iconia A500 (รีวิว) ซึ่งก็เป็นอุปกรณ์ตัวแรกๆ ในขณะนั้นที่ใช้ชิป NVIDIA Tegra 2 ซึ่งแรงที่สุดในตอนนั้น
เวลาผ่านมาประมาณ 1 ปี โลกของแท็บเล็ตเปลี่ยนแปลงไปมาก Tegra 2 ไม่ใช่ชิปที่แรงที่สุดอีกต่อไปแล้ว และเราก็เห็นแท็บเล็ตที่ชิปตัวต่ออย่าง Tegra 3 ออกมาทำตลาดกันบ้างแล้ว (เช่น ASUS Transformer Prime หรือ Acer เองก็มี Iconia A510)
จากข่าว คีย์บอร์ดบนมือถือมันพิมพ์ยากไปใช่ไหม? แก้ด้วย Gmail Tap พิมพ์ด้วยรหัสมอร์ส ที่มีเพียง 2 ปุ่ม
บริษัท TouchType เจ้าของคีย์บอร์ดยอดนิยม SwiftKey บนแอนดรอยด์ ก็ออกมาเกทับกูเกิลด้วยคีย์บอร์ดที่เหนือกว่าคือ SwiftKey Mono คีย์บอร์ดที่มีเพียงแค่ปุ่มเดียวเท่านั้น นั่นคือปุ่ม spacebar!
TouchType บอกว่าเทคโนโลยีการเดาคำของ SwiftKey นั้นเจ๋งจริงๆ ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้ว ผู้ใช้ไม่ต้องพิมพ์อะไรเลย SwiftKey จะเดาคำต่อไปให้หมด ขอเพียงแค่ผู้ใช้กด spacebar ไปเรื่อยๆ เป็นพอ ตัว SwifyKey Mono จะออกอัพเดตให้ใช้ในเร็วๆ นี้ครับ
นอกจากแอพฯ Taposé ที่มีแนวคิดจากโครงการแท็บเล็ตสองหน้าจอ Courier ที่ถูกยุบโครงการไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว ก็ยังมีแอพฯ บน iPad แนวเดียวกันที่ชื่อ Paper เช่นกัน
Paper เป็นของบริษัท FiftyThree ได้รับการพัฒนาโดยอดีตผู้บริหารไมโครซอฟท์ที่เคยทำงานโครงการ Courier และอดีตพนักงานไมโครซอฟท์อีกหลายคน ใครสนใจสามารถดาวน์โหลดไปทดลองใช้ได้ฟรี นอกจากนั้นผู้ใช้สามารถซื้อเครื่องมือเสริมจากในแอพฯ โดยตรง (in-app purchase) ในราคา 1.99 ดอลลาร์ (ราว 60 บาท) ต่อรายการ ลองดูคลิปนำเสนอแอพฯ ได้ที่ท้ายข่าว
ปัญหายอดนิยมตลอดกาลของโทรศัพท์มือถือคือ "การป้อนข้อมูล" โดยเฉพาะในยุคมือถือจอสัมผัส การยัดปุ่มตัวอักษรลงในจอขนาดเล็กๆ ทำให้ปุ่มมีขนาดเล็กและกดยากตามไปด้วย ซึ่งข้อจำกัดเรื่องจำนวนตัวอักษร (ภาษาอังกฤษ 26 ตัว ภาษาไทยเยอะกว่านั้นเยอะ) คงทำให้จำนวนปุ่มลดลงจากนี้ไม่ได้เยอะนัก
ทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาคือป้อนข้อมูลด้วยภาษาหรือวิธีการแบบอื่น ซึ่งวิธีการที่กลับเหมาะมากบนพื้นที่หน้าจอจำกัดคือ "รหัสมอร์ส" เพราะมีตัวอักษรเพียงสองตัวคือ "สั้น" (dot) และ "ยาว" (dash) เท่านั้น ดังนั้นถ้ามือถือสามารถป้อนข้อมูลด้วยรหัสมอร์สได้ ปัญหาเรื่องพื้นที่หน้าจอก็หมดไป (เพียงแต่ผู้ใช้ต้องฝึกรหัสมอร์สกันเล็กน้อย)
คอมเมนต์ประเภทหนึ่งที่ผมเห็นเยอะมากตั้งแต่ทำ Blognone มาคือเวลามีข่าวผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต จะต้องมีเสียงวิจารณ์ว่า "ไม่มีเน็ตแล้วจะใช้ได้อย่างไร" ซึ่งอาจจะสะท้อนถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานในประเทศเราเองด้วย
ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และในอดีตเราก็เคยมีข่าวประเภทว่า เยอรมันเตรียมพิมพ์ Wikipedia ออกมาเป็นหนังสือฉบับกระดาษ มาบ้างแล้ว และวันนี้กูเกิลก็ก้าวไปอีกขั้นกับการรวมคลิป YouTube ลงในแผ่นดีวีดีเพื่อให้ดูกันแบบออฟไลน์
Chrome เพิ่มฟีเจอร์ทดลองแนวใหม่ชื่อ Chrome Multitask Mode ช่วยให้เราสามารถท่องเว็บได้พร้อมกันมากกว่า 1 เว็บ เพราะจะมี เคอร์เซอร์เมาส์อันที่สอง เพิ่มเข้ามาให้
ผู้ใช้สามารถท่องเว็บ 2 หน้าจอพร้อมกันโดยใช้วิธีแบ่งจอ และใช้เมาส์แต่ละอันสั่งงานคนละหน้าต่าง นอกจากมันจะช่วยให้ทำงานหลายๆ งานได้พร้อมกันแล้ว ยังช่วยให้การแชร์คอมพิวเตอร์ระหว่าง 2 คนทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย (แบ่งคนละครึ่งจอเล่นเน็ตไปพร้อมๆ กันได้)
ทีมงานของ Chrome บอกว่านอกจากเมาส์แล้ว ยังรองรับอุปกรณ์ชี้ตำแหน่งอื่นๆ เช่น จอยสติ๊ก ทัชแพด แทร็คบอล ฯลฯ ขอเพียงเสียบเพิ่มเข้ามาก็ใช้งานได้ทันที ลองเล่นได้แล้ววันนี้ตามลิงก์ข้างต้นครับ
หลายคนคงจำ รถยนต์ไร้คนขับ โครงการทดลองของกูเกิลได้ ตอนนี้เวลาผ่านมาเกือบสองปี มันพัฒนาขึ้นมากจนกูเกิลเตรียมส่งมันเข้าแข่ง NASCAR Racing การแข่งขันรถแข่งรายการสำคัญของสหรัฐแล้ว
เบื่อที่จะเดินไปเดินมาในโลกอันน่าเบื่อหรือไม่ Razer บริษัทผลิตอุปกรณ์เกมชื่อดังได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาก็เบื่อโลกทุกวันนี้เช่นกัน และเห็นว่าคอเกมหลาย ๆ คนอยากมีชีวิตอยู่ในเกมมากกว่าอยู่ในชีวิตจริง พวกเขาจึงได้ปล่อย SnakeEyes สุดยอดแว่นตา Augment-Reality ทำให้ชีวิตจริงเหมือนอยู่ในเกม!
Michael Gundlach ผู้สร้างปลั๊กอินที่คนใช้อินเทอร์เน็ตล้วนมีติดตัวกันไว้อย่าง AdBlock ได้ออกมาโพสต์ผ่านบล็อกว่าแมวของเขา (ไม่ระบุชื่อ) ได้แอบมาดัดแปลงโค้ดของ AdBlock ด้วยการเปลี่ยนโลโก้ เป็นรูปอุ้งเท้าแมว (ดูได้ท้ายข่าว) เปลี่ยนบางประโยคในปลั๊กอินจากคำว่า Pause เป็น Paws (หมายถึงอุ้งเท้า) และเด็ดสุดด้วยการเปลี่ยนโฆษณาทุกหน้าเว็บให้กลายเป็นรูปแมวในอิริยาบถต่างๆ ใครที่เกลียดแมว ไม่รักแมว สามารถเอากดไล่แมวออกได้ด้วยการกด "stop showing me cats" ครับ
มาถึงขั้นนี้แล้วต้องมีตัวอย่าง ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย
โลโก้ใหม่ (อันที่สี่)
คนแถวนี้คงคุ้นเคยกับ "เว็บเลียนแบบ" ของประเทศจีน ที่นำแนวคิดหรือไอเดียของเว็บดังในโลกตะวันตกมาใข้งาน (บางทีก็ทำเสียเกือบเหมือนเป๊ะ) ล่าสุดเป็นคิวของ Pinterest เว็บดาวรุ่งมาแรง ที่โดน eTao เว็บลูกของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ Alibaba โคลนไปเรียบร้อยแล้ว
เว็บโคลนนี้มีชื่อว่า Faxian ซึ่งมีความหมายโดยนัยว่า "ค้นพบ" หรือ discovery ("ฟาเสียน" เป็นชื่อของหลวงจีนที่เดินทางไปยังประเทศอินเดียเพื่อนำคัมภีร์ของศาสนาพุทธกลับไปเมืองจีน ก่อนสมัยของพระถังซัมจั๋งที่เราคุ้นเคยกันดี)
ตอนนี้ Faxian ยังมีสถานะเป็นรุ่นเบต้า โดยมีผู้เข้าชมเว็บวันละ 60,000 รายต่อวัน กลุ่มเป้าหมายหลักก็คล้ายกับต้นฉบับคือวัยรุ่นสาวๆ นั่นเอง
มีคนไปเห็นว่าโนเกียได้จดสิทธิบัตรการออกแบบสมาร์ทโฟนและเพิ่งได้รับการอนุมัติเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ที่น่าประหลาดใจคือภาพร่างในสิทธิบัตรดันไปเกือบจะเหมือนกับภาพ Windows Phone ที่หลุดมาเมื่อ 10 ส.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งวันที่หลุดออกมาก็เป็นวันที่โนเกียยื่นขอจดสิทธิบัตรดีไซน์สมาร์ทโฟนนี้อีกต่างหาก ลองดูความเหมือนของภาพร่างในสิทธิบัตรและภาพหลุดเมื่อปีที่แล้วได้ที่ท้ายข่าว
หลังจากที่เคยประกาศไว้ว่า Xperia ปี 2011 ได้ ICS ทุกเครื่องแน่นอน และหลังจากนั้นก็ได้ประกาศช่วงเวลาในการปล่อยคือช่วง
กูเกิลประกาศออก Google Maps เวอร์ชัน 8 บิตสำหรับเครื่องฟามิคอม (หรือชื่อในโลกตะวันตกคือ NES) เพื่อขยายตลาดแผนที่ไปยังแพลตฟอร์มให้มากที่สุด ซึ่งกูเกิลบอกว่าถึงแม้เวอร์ชันฟามิคอมจะออกช้าไปหน่อย แต่ก็ไม่ลืมกัน เพราะมันถือเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแพลตฟอร์มที่ขายดีมากอันหนึ่งในประวัติศาสตร์
งานนี้กูเกิลจับมือกับนินเทนโดและ Square Enix แปลง Google Maps ให้เป็นภาพ 8 บิตเท่าที่ความสามารถของฟามิคอมจะรับได้ นอกจากเรื่องกราฟิกแล้ว มันใช้งานได้เหมือน Google Maps รุ่นปกติทุกประการ รวมไปถึงฟีเจอร์ Street View แบบ 8 บิตด้วย
นอกจากเวอร์ชันออนไลน์แล้ว กูเกิลกำลังเร่งทำตลับเกม Google Maps สำหรับเครื่องฟามิคอม ซึ่งเป็นเกมแรกของฟามิคอมในรอบ 18 ปี จะวางขายใน Google Store เร็วๆ นี้
ไม่นานเกินรอหลังผลประกอบการที่ย่ำแย่ของ RIM ก็มีข่าวลือที่รายงานโดย Wall Street Journal ว่า ไมโครซอฟท์กับโนเกียจะจับมือแท็กทีมกันซื้อ RIM ด้วยกัน
ตามข่าวบอกว่า
ทั้งหมดยังเป็นแค่ข่าวลือ และในการซื้อจริงๆ ก็ไม่ง่ายเท่าไรนัก เพราะรัฐบาลแคนาดาน่าจะสกัดกั้นเต็มที่ในฐานะ "ผลประโยชน์ของชาติ"
การตัดสินใจทิ้งปุ่ม Start เพื่อเปลี่ยนมาใช้ Start Screen เต็มรูปแบบ ถือว่าไมโครซอฟท์กล้าพอตัว แน่นอนว่าผู้ใช้หน้าเก่าๆ ที่คุ้นเคยย่อมไม่ชอบใจ และมีเสียงวิจารณ์ให้ไมโครซอฟท์นำมันกลับมา
Tami Reller ซีเอฟโอของฝ่าย Windows และ Windows Live ของไมโครซอฟท์ (ไม่ใช่ซีเอฟโอของบริษัท) ไปพูดคุยกับทีมงานของบริษัทหลักทรัพย์ Nomura และให้คำยืนยันว่าปุ่ม Start จะไม่กลับมาอย่างแน่นอน แต่ไมโครซอฟท์จะเพิ่ม tutorial ช่วยแนะนำผู้ใช้ไม่ให้สับสน ซึ่งจะทำงานเมื่อบูต Windows 8 ขึ้นมาครั้งแรก
ใครที่หวังว่ามันจะกลับมาก็ต้องแสดงความเสียใจด้วยครับ
ผู้ใช้ Samsung Galaxy S คงเจ็บใจที่ซัมซุงไม่สามารถออกอัพเดต Android 4.0 ให้ได้ (แต่ออกเป็น Value Pack แทน) อย่างไรก็ตาม ความหวังยังไม่หมดไป เพราะความสามารถของ Android ที่เปิดโอกาสให้ติดตั้งรอมอื่นๆ ได้เอง
และสิ่งที่หลายๆ คนรอคอยก็กำลังคืบหน้า เพราะทางทีม CyanogenMod ได้ออกรอม CM9 (Android 4.0) รุ่น nightly สำหรับ Galaxy S (GT-I9000 และ GT-I9000B) มาให้ทดสอบกันแล้ว
แน่นอนว่าเส้นทางของ CM9 บน Galaxy S ยังอีกไกลกว่าจะถึงรุ่นสมบูรณ์ แต่ก็เป็นสัญญาณอันดีว่าอย่างน้อยมันก็คืบหน้ามาเรื่อยๆ (ใครใจร้อนสามารถเข้าไปลองกันก่อนที่ CyanogenMod)
โดยปกติแล้วหากเราตัดสินใจขายต่อมือถือหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เก็บข้อมูลส่วนตัวของเราไว้ หลายๆ คนคงไม่ประมาทที่จะลบข้อมูลเหล่านั้นทิ้งเสีย อาจใช้วิธีลบเองทีละจุด หรือในมือถือบางรุ่นจะมีตัวเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการล้างข้อมูลเหล่านี้ให้
ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญจาก McAfee ได้ทำการทดลองและพบว่าอุปกรณ์ในแพลตฟอร์ม Windows 7, iOS และ BlackBerry สามารถล้างข้อมูลต่างๆ ได้อย่างหมดจด ซึ่งหากจะขายต่อก็นับว่าวางใจได้ แต่ทั้งนี้ผู้ใช้จะต้องทำตามวิธีการที่ผู้ผลิตแนะนำจึงจะปลอดภัย ส่วนรายที่ไม่น่าวางใจคือ Android และ Windows XP ที่แม้จะล้างข้อมูลและการตั้งค่าตามวิธีของผู้ผลิตแล้ว ก็ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ได้อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นเลขที่บัญชีธนาคาร, หมายเลขประกันสังคม ฯลฯ
JR Raphael นักเขียนของ Computerworld สรุปสถานการณ์การอัพเดต Android 4.0 ของผู้ผลิตมือถือรายต่างๆ ออกมาเป็นเกรด
วิธีคิดคะแนนของ JR Raphael จะมีเงื่อนไขอยู่บ้าง คือเขาจะเปรียบเทียบการออกอัพเดตกับ "คำสัญญา" ของผู้ผลิตแต่ละราย ว่าทำได้ตามสัญญาหรือไม่ (ไม่ได้เทียบว่าใครอัพเร็วกว่ากัน) และกำหนดเส้นตายในการคิดคะแนนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้เท่านั้น
เรียงตามตัวอักษร
HTC One กำลังจะเริ่มวางขายในหลายประเทศ (เยอรมนีเริ่ม 2 เมษายนนี้) ทำให้ทาง HTC ต้องรีบปล่อยโฆษณาออกมาทำตลาดแล้ว
โฆษณาชิ้นแรกมีชื่อว่า Welcome to HTC One ซึ่งมีเป้าหมายจะสื่อว่าไม่มีใครในโลกนี้เหมือนกัน ทำให้ HTC แคร์ความเป็นปัจเจกของลูกค้าแต่ละคนมากเป็นพิเศษ
ส่วนโฆษณาชิ้นที่สองยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่มีบล็อกเกอร์ชาวมาเลเซียถ่ายวิดีโองานแถลงข่าวของ HTC ที่นำคลิปมาเปิดในงานอีกที เป็นคลิปแสดงความสามารถของกล้องใน HTC One โดยใช้มือถือถ่ายภาพขณะโดดร่มลงมาจากเครื่องบิน อีกสักพักคงมีคลิปฉบับเต็มมาลงใน YouTube ครับ
เว็บไซต์ Glassdoor.com เป็นเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตการทำงานของพนักงานในองค์กรใหญ่ๆ (มาแชร์ข้อมูลกันว่าแต่ละองค์กรเป็นอย่างไร เพื่อความโปร่งใสตามชื่อ "ประตูกระจก")
ล่าสุด Glassdoor เปิดให้พนักงานในองค์กรต่างๆ ให้คะแนนซีอีโอของตัวเองว่าเวิร์คไม่เวิร์คแค่ไหน ผลรอบล่าสุดออกมาปรากฏว่า Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลได้คะแนนโหวตจากพนักงานของตัวเองสูงสุดคือ 97% (คนลงคะแนนสามารถให้คะแนนได้ตั้งแต่ 1-5)
อันดับรองลงมาได้แก่
Paul Otellini (Intel) 93%
เมื่อปลายปีที่แล้ว กูเกิลเพิ่มความสามารถให้กล่องค้นหาของตัวเอง สามารถรับค่าจากสมการแล้ววาดกราฟออกมาเป็นผลลัพธ์ได้ (ข่าวเก่า)
วันนี้กูเกิลปรับปรุงความสามารถของมันไปอีกขั้น ทำให้สามารถวาดผลลัพธ์ออกมาเป็นกราฟ 3 มิติได้แล้ว (ใช้ WebGL เข้าช่วย) โดยผู้ใช้สามารถหมุนดูกราฟนี้ได้ตามสะดวกทุกทิศทาง ขยาย ซูมเข้าออก หรือจะเล่นเป็นแอนิเมชันให้มันหมุนไปเรื่อยๆ ก็ได้
ประเด็นที่ Android Market (หรือ Google Play ในปัจจุบัน) โดนวิจารณ์มาตลอดคือแอพเยอะจริงแต่ทำเงินต่อแอพไม่ได้เยอะมากนัก
ล่าสุดมีข้อมูลเชิงสถิติของบริษัทวิจัย Flurry เทียบรายได้ของ "แอพยอดฮิต" จากร้านขายแอพ 3 รายใหญ่คือ iTunes App Store, Amazon Appstore, Google Play ผลปรากฏว่า iTunes App Store ชนะตามคาด
แต่ที่เหนือความคาดหมายของหลายๆ คนคือ Amazon Appstore ทำรายได้น้อยกว่า iTunes App Store เพียงเล็กน้อย ในขณะที่ทั้งสองรายนี้ทิ้ง Google Play แบบไกลสุดกู่
เมื่อเดือนที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้เห็นภาพวาด The Starry Night โลดแล่นเคลื่อนไหวได้กันไปแล้ว แต่วิดีโอสั้นๆ แค่นั้นคงไม่จุใจผู้รักงานศิลป์พอ ข่าวดีคือ ภาพนี้ถูกวางขายบน iTunes เรียบร้อยแล้วครับ
สนนราคาที่ 1.99 ดอลลาร์ (60 บาท) ข่าวร้ายซักหน่อยคือมันรองรับแค่ iPad เท่านั้นนะครับ
ที่มา: Engadget