Diabetic Retinopathy (DR) หรือภาวะเบาหวานขึ้นประสาทจอรับภาพ เป็นภาวะที่ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานมีความเสี่ยงจะสูญเสียการมองเห็น ซึ่งสามารถรักษาได้หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ และผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่ก็จะถูกนัดตรวจตาเป็นประจำทุกปี
ด้วยเหตุนี้ทีม DeepMind ของ Google จึงวิจัยและประสบความสำเร็จในการพัฒนาอัลกอริทึม Deep Learning สำหรับค้นหาอาการหรือตัวบ่งชี้ที่จะก่อให้เกิดภาวะเบาหวานขึ้นประสาทจอรับภาพ จากภาพถ่ายดวงตาของผู้ป่วยเพื่อช่วยลดระยะเวลาในการตรวจของจักษุแพทย์
คอนแทคเลนส์อัจฉริยะของ Alphabet สำหรับการวัดน้ำตาลของผู้ป่วยเบาหวาน ดูท่าว่าจะยังไม่ได้ออกในเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากภายในปีนี้ยังไม่ได้มีการทดสอบในสภาพจริง แม้ว่าเมื่อปีที่แล้วซีอีโอ Joe Jimenez ของ Novartis จะบอกว่า Alcon ซึ่งเป็นส่วนของการดูแลตาในบริษัทซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการจะเริ่มทำการทดสอบในปี 2016
โฆษกของ Novartis บริษัทยาที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Alphabet ในเรื่องนี้เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะกล่าวว่าการทดลองกับมนุษย์ของเลนส์นี้จะเกิดขึ้นจริง ซึ่งมันเป็นกระบวนการทางเทคนิคที่ซับซ้อนมาก ๆ
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Imperial College ในกรุงลอนดอน ร่วมกับ DNA Electronics บริษัทด้านไบโอเทค เปิดเผยงานวิจัยที่พัฒนา USB Stick ที่สามารถตรวจสอบระดับเชื้อ HIV-1 ได้ในนิตยสาร Scientific Reports
การใช้งานก็แค่เสียบ USB Stick กับพอร์ต USB และหยดเลือดลงไป หากเลือดมีเชื้อ HIV-1 ก็จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของกรดภายใน ซึ่งจะทำให้ชิปของ USB Stick จะแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า ส่งไปยังแอพบนคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที โดยจากการทดลองพบว่าความถูกต้องของผล สูงถึงกว่า 95% เลยทีเดียว
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Brown เผยแพร่การใช้กล้องจุลทรรศน์และระบบ Machine Learning ในการแยกแยะเซลล์ epithelial ออกจากเซลล์ mesenchymal ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีโอกาสจะก่อให้เกิดเนื้อร้ายและมะเร็ง
ทีมวิจัยระบุว่าถึงแม้เซลล์ 2 ประเภทนี้จะมีความแตกต่างเชิงกายภาพที่เห็นได้ชัดอยู่ แต่หลายๆ ครั้งความแตกต่างนี้ก็เล็กน้อยมากจนแทบแยกไม่ออก ขณะที่ระบบ Machine Learning ถูกป้อนข้อมูลของทั้ง 2 เซลล์ รวมถึงภาพระหว่างที่เซลล์ epithelial กำลังเปลี่ยนไปเป็นเซลล์ mesenchymal ผลปรากฎว่าอัลกอริทึมสามารถแยกแยะและจำแนกเซลล์ 2 ชนิดออกจากกันได้แม่นยำถึง 92% รวมถึงสามารถแยกแยะเซลล์ mesenchymal ที่เกิดจากการกระตุ้นด้วยการใช้ยาได้เช่นกัน
ช่วงหลังมีงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ล้วนแล้วแต่ยังไม่พบว่าอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้นจริงเสียเท่าไหร่ มาวันนี้มีงานวิจัยอีกชิ้นเผยให้เห็นว่า อุปกรณ์ยี่ห้อดังอย่าง Fitbit นั้นมีไว้ใช้เฉยๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น
พายุลูกใหญ่สำหรับ Theranos ยังไม่ผ่านพ้นไป ล่าสุดประกาศปิดแล็บในแอริโซนา แคลิฟอร์เนีย และเพนซิลวาเนียแล้ว โดยจะเบนกลยุทธ์ไปที่การทำอุปกรณ์ในชื่อ miniLab เพื่อขายให้กับคลีนิกแทน
Elizabeth Holmes ซีอีโอบริษัทเขียนในจดหมายประกาศว่า หลังจากประเมินจุดอ่อนจุดแข็งของบริษัทมาระยะหนึ่ง บริษัทจะมีการเปลี่ยนแปลง จากแล็บทดสอบเลือดไปเป็นการทำอุปกรณ์ใหม่ที่จะสามารถขายให้กับผู้บริการด้านสุขภาพได้ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ ทำอุปกรณ์ตรวจสอบกลุ่มตัวอย่างทางการแพทย์จากกรณีต่างๆ ทั้งมะเร็ง กุมารเวชศาสตร์ ที่มีประโยชน์ทางการแพทย์และสามารถทำการค้าด้วยได้
สำหรับการปิดตัวแล็บ ส่งผลกระทบต่อพนักงานถึง 340 คน หรือเกือบครึ่งของทั้งหมดที่มีประมาณ 790 คน
อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพเป็นอุปกรณ์ที่มาแรงในช่วงหลังๆ จุดมุ่งหมายหลักๆ ของอุปกรณ์เหล่านี้คือนับปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญไปในแต่ละวัน และเตือนผู้ใส่ว่าวันนี้เผาผลาญได้ตามเป้าหมายหรือไม่ จึงนิยมในผู้ที่พยายามที่จะลดความอ้วน แต่งานวิจัยชิ้นใหม่ชี้ให้เห็นว่าความคิดนี้อาจได้ผลไม่ดีอย่างที่เราเข้าใจกัน
วันนี้ที่งานประชุมวิชาการบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ประจำปีพุทธศักราช 2559 (BDMS Academic Annual Meeting 2016) มีการบรรยายในหัวข้อ Enabling Patient-Centered Care through Information & Technology: How the Better Use of Technology & Data Can Support and Enable the Developments Needed to Transform Outcomes for Patients & Citizens บรรยายโดย นพ.นวนรรน ธีระอัมพรพันธุ์ จากภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งผมมีโอกาสได้ไปนั่งฟังอยู่ และคิดว่ามีประเด็นที่น่าสนใจทั้งสำหรับคนที่อยู่โลกไอทีและแพทย์ที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกัน จึงขออนุญาตถ่ายทอดมาเป็นสรุปสั้นๆ ให้ได้อ่านกันครับ
ที่งานประชุมวิชาการบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ประจำปีพุทธศักราช 2559 (BDMS Academic Annual Meeting 2016) วันนี้ มีการประกาศสำคัญอยู่หนึ่งเรื่องคือ โรงพยาบาลกรุงเทพ ประกาศที่จะพัฒนาโซลูชั่นทางการแพทย์ร่วมกับ Apple, Samsung และ True
NHS หรือ National Health Service ระบบบริการสุขภาพของประเทศอังกฤษ เตรียมเปิดบริการวินิจฉัยโรคผ่านสมาร์ทโฟน เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้ารับการรักษาผ่านระบบออนไลน์ โดยระบุอาการผ่านมือถือ หลังจากนั้นผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำจากแพทย์กลับไป หรือมีแพทย์โทรกลับไปหา โดยจะทำให้ระบบนี้สำเร็จภายในสิ้นปีหน้า
หลังจากที่ CMS ได้สั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ดำเนินการห้องปฏิบัติการของ Theranos ใน California เมื่อเดือนก่อน ล่าสุด Theranos ก็ยังไม่ยอมแพ้ และเตรียมแผนการปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าวอีกครั้ง อย่างไรก็ตามแม้ในช่วงวิกฤตที่การกอบกู้ความน่าเชื่อถือของห้องปฏิบัติการเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวดเช่นนี้ ก็มีข่าวว่า Theranos โดนตรวจสอบพบความหละหลวมในการทำงาน จนถึงขนาดทำให้ Theranos เองต้องยอมถอยยกเลิกการขออนุมัติใช้เครื่องมือตรวจหาไวรัสซิก้า
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวร่วมกับ VMware ประเทศไทย นำเอาโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีของ VMware เข้ามาใช้ในกระทรวง โดยเน้นไปที่ vSphere และ Horizon ซึ่งเป็นโซลูชั่นด้าน VDI (Virtual Desktop Infrastructure) และ Virtualization ในองค์กร
AIS ร่วมมือกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. ให้ลูกค้าใช้แอพเรียกรถพยาบาลฉุกเฉิน "EMS 1669" ฟรี ไม่คิดค่าบริการดาต้า ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android
ผู้ใช้กดเรียกรถพยาบาลโดยกดปุ่มใหญ่สีแดงกลางหน้าจอ จากนั้นระบบจะถามพิกัด ชื่อและเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกลับ ซึ่งผู้ใช้สามารถถ่ายรูปเหตุการณ์ส่งผ่านแอพเพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมได้ด้วย
ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
ไอบีเอ็มประกาศความสำเร็จในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ Watson ในการวินิจฉัยโรคลูคิเมียเคสหายากภายในเวลาเพียง 10 นาที เทียบกับกระบวนการการแพทย์ปกติที่ใช้เวลาวินิจฉัยถึง 2 สัปดาห์
เราได้ยินเรื่องอุบัติเหตุถึงชีวิตจากการใช้ระบบ Autopilot มาแล้ว คราวนี้เป็นเรื่องช่วยชีวิตคนกันบ้าง เรื่องเกิดที่เมือง Springfield รัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่นาย Joshua Neally กำลังขับรถยนต์ Tesla Model X อยู่บนไฮเวย์ จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บหน้าอกเหมือนมีอะไรมาแทง เขารู้ตัวว่าต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด จึงกดเปิดระบบ Autopilot สั่งขับไปโรงพยาบาลทันที รถ Tesla ขับพาเขาไปตามไฮเวย์เป็นระยะทางราว 20 ไมล์ (32 กิโลเมตร)
เมื่อลงจากไฮเวย์ และใกล้ถึงโรงพยาบาล เขาเปลี่ยนมาขับด้วยตัวเองและนำรถเข้าจอดทันเวลา แพทย์บอกว่าอาการที่เกิดขึ้นคือภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดเฉียบพลัน (Pulmonary Embolism) ซึ่งนาย Joshua บอกว่าเขาเชื่อในตัวซอฟต์แวร์และวางใจให้รถขับพาเขาไปโรงพยาบาล แทนที่จะจอดแล้วรอรถพยาบาลมารับ เขายังบอกอีกว่าหากเขาขับด้วยตัวเองขณะเกิดอาการ คงไม่สามารถขับบนไฮเวย์และคงชนคนหรือชนกำแพงสักที่เป็นแน่
ที่มา - The Guardian
Google ยื่นขอจดสิทธิบัตรการเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องใช้เครื่องเรือนต่างๆ ภายในบ้านเข้ากับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (ซึ่งอาจเป็นอุปกรณ์พกพาอย่างโทรศัพท์มือถือ) เพื่อทำการรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์เรื่องสุขภาพของผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน
เนื้อหาสำคัญของคำขอจดสิทธิบัตรนี้ไม่ใช่เรื่องทางเทคนิคว่าทำอย่างไรให้เครื่องใช้ภายในบ้านมีสภาพเป็นเซ็นเซอร์เก็บข้อมูลเกี่ยวกับร่างกายคนได้ หากแต่ Google กำลังขอจดสิทธิบัตรในแง่ความแปลกใหม่ของระบบทั้งระบบที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวข้องกับสุขภาพผู้อยู่อาศัยในบ้านจากสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวผู้ใช้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการตั้งใจวัดโดยเฉพาะ
Daniel Strabley วิศวกรทำซอฟต์แวร์ดักจับกัมมันตรังสี ป้องกันการเกิดความเสียหายวงกว้างจากการใช้อาวุธให้กับกองทัพสหรัฐฯ อีกด้านหนึ่งเขาประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคล้ายๆ งานที่เขาทำอยู่ มาช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณตาของภรรยา ที่ป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมและช่วยเหลือตัวเองได้ไม่เต็มที่เนื่องจากสูงอายุมากแล้ว
Strabley เขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์ขึ้นมาและประยุกต์ใช้เข้ากับอุปกรณ์ Amazon Dash ช่วยให้คุณตาสามารถสื่อสารกับคนในครอบครัวได้เมื่อต้องการอะไร ผ่านการกดปุ่มแต่ละปุ่ม
Strabley เขียนโปรแกรมต่างๆ สำหรับแสดงผลคุณตาให้ใช้งานบนแท็บเล็ต เช่น สร้างนาฬิกาอย่างง่าย ระบบเตือนความจำต่างๆ เช่น เวลากินยา เวลาอาหาร เวลารายการทีวี ทำการสื่อสารโต้ตอบกับคุณตาได้ และสามารถแสดงใบหน้าและชื่อของผู้มาเยี่ยมเยียน
Philips บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ ประกาศเปิดตัวชุดอุปกรณ์ wearables เพื่อการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้
ในชุดดังกล่าว ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์จำนวนมาก อย่างเช่นนาฬิกาเพื่อสุขภาพที่ตรวจวัดการเต้นของหัวใจ การนอน กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน (เว็บไซต์ Wearable ระบุว่าเป็นแบบ medical-grade คือใช้งานทางการแพทย์ได้), ตัววัดอุณหภูมิอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถตรวจจวัดร่างกายได้, ที่วัดความดันโลหิตอิเล็กทรอนิกส์, ที่ชั่งน้ำหนักซึ่งสามารถตรวจวัดปริมาณไขมันร่างกายได้ โดยอุปกรณ์ทั้งหมดทำงานผ่านแอพ HealthSuite Health companion
ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ Theranos ต่างๆ นานาจนนำไปสู่การถูกถอนใบอนุญาตห้องแล็บ ขณะที่ Elizabeth Holmes ผู้ก่อตั้งถูกห้ามเปิดแล็บใหม่ 2 ปี (ข่าวเก่า)
ล่าสุดเธอไปปรากฎตัวในงานประชุมเสวนาทางด้านวิทยาศาสตร์ของ American Association for Clinical Chemistry ในรัฐฟิลาเดลเฟีย เปิดตัว miniLab อุปกรณ์วินิจฉัยและตรวจจับสารพัดโรค ถึงแม้ผู้คนส่วนใหญ่ภายในงานจะคาดหวังว่าเซสชันของเธอ จะเป็นการบรรยายและไขข้อข้องใจถึงข่าวฉาวสารพัดที่กำลังถาโถมบริษัทก็ตามที
เทศบาลตำบลแสนสุข จังหวัดชลบุรี จับมือกับ Dell, Intel และศูนย์นวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (ICIC) จากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำเอาเทคโนโลยี Internet of Things มาใช้ในการดูแลคนชรารวมทั้งผู้ป่วยตามครัวเรือนต่างๆ ในเขตเทศบาล โดยใช้ชื่อโครงการว่า Smart Healthcare อนาคตตั้งเป้าทำ Smart Security, Smart Tourism เพื่อจะเข้าสู่ Smart City ในอนาคต
วันนี้มีงาน Mobile Beat conference โดยสำนักข่าว Venture Beat เป็นเจ้าภาพ หลักๆคือเป็นงานโชว์ของเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะ AI, Bot และ Messaging และหนึ่งในผู้มาโชว์ของก็คือบริษัท HealthTap ผู้ให้บริการถาม-ตอบปัญหาสุขภาพผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และ PC มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการกว่าแสนคนในสหรัฐฯ สามารถพูดคุยกับหมอผ่าน video conference ได้ด้วย และนี่เป็นครั้งแรกที่ HealthTap จะนำ Chat Bot มาใช้ประโยชน์ในการบริการถามตอบปัญหาสุขภาพ
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับหลายหน่วยงานในการจัดตั้งโครงการพัฒนาระบบดูแลและสร้างเสริมสุขภาพชุมชนผ่านระบบฐานข้อมูลสุขภาพ หรือบางกอกน้อยโมเดล
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล, กองทัพเรือ, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา, สำนักงานเขตบางกอกน้อย และชุมชนในพื้นที่บางกอกน้อย จะร่วมมือกันรวมรวบฐานข้อมูลสุขภาพของประชากรในเขตพื้นที่บางกอกน้อย ก่อนจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์และศึกษาวิจัยเพื่อกำหนดนโนบายและแนวทางในการวางแผนป้องกันและแก้ปัญหาสุขภาพในพื้นที่ โดยรพ.ศิริราชต่อไป
ความคืบหน้าของกรณี Theranos แนะนำให้อ่านข่าว Theranos โดนทางการสหรัฐฯ สั่งปรับปรุงแล็บด่วน หากไม่ผ่านการประเมินอาจต้องปิดตัว ก่อนนะครับ
ล่าสุด Centers for Medicare & Medicaid Services (CMS) หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐ สั่งลงโทษ Theranos หลังสั่งให้บริษัทปรับปรุงห้องแล็บในแคลิฟอร์เนียในรอบก่อนแล้วไม่เกิดผล โดย CMS มีคำสั่งดังนี้
แอปเปิลออกมาประกาศว่าแอพ Health ที่มีไว้สำหรับเก็บข้อมูลด้านสุขภาพบน iOS 10 จะมาพร้อมการให้ข้อมูลและสร้างการตระหนักรู้เรื่องการบริจาคอวัยวะ พร้อมตัวเลือกให้ผู้ใช้ในสหรัฐได้ลงทะเบียน เป็นผู้บริจาคอวัยวะหรือเนื้อเยื่อเพิ่มเติมด้วย
ข้อมูลในฐานะผู้บริจาคอวัยะที่ลงทะเบียนผ่านแอพ Health จะถูกส่งไปยังหน่วยงาน National Donate Life Registry ภายใต้องค์กร Donate Life America โดยข้อมูลการบริจาคนี้ จะแสดงอยู่ในหน้า "ข้อมูลฉุกเฉิน (Emergency Information)" บน iPhone/iPad พร้อมกับข้อมูลทางการแพทย์อื่นๆ ด้วย
DeepMind ทำงานร่วมกับภาคสาธารณสุขของอังกฤษอย่างรวดเร็ว หลังจากเมื่อกลางเดือนที่แล้วเพิ่งประกาศความร่วมมือกับ NHS ตอนนี้ DeepMind ก็ประกาศความร่วมมือกับโรงพยาบาลจักษุ Moorefields
ภายใต้ความร่วมมือนี้ DeepMind จะเข้าถึงข้อมูลภาพสแกนดวงตากว่าล้านรายการโดยไม่ระบุตัวตน แต่มีข้อมูลสภาวะของดวงตาและโรค โดยทางโรงพยาบาลยืนยันว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถค้นหาตัวตนของคนไข้ได้ และจะไม่กระทบต่อการรักษาของผู้ป่วยในตอนนี้
ความร่วมมือครั้งนี้หาความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาระบบวินิจฉัยโรคจากภาพสแกน และอาจจะนำไปถึงการวินิจฉัยโรคได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนมีอาการ