Waymo บริษัทลูกในเครือ Alphabet ที่พัฒนารถยนต์ไร้คนขับได้ยื่นฟ้อง Anthony Levandowski อดีตพนักงานที่เคยทำงานสมัยยังเป็น Google X ก่อนจะลาออกมาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมจัดตั้งบริษัท Otto พัฒนารถยนต์ไร้คนขับเช่นกัน (และถูก Uber ซื้อ) ในฐานแอบขโมยไฟล์ลับสุดยอดไปกว่า 14,000 ไฟล์ ซึ่งรวมถึงดีไซน์บอร์ดเซ็นเซอร์ LIDAR ที่ Waymo ออกแบบเอง ซึ่งเป็นทั้งสิทธิบัตรและความลับทางการค้า
ความลับของการขโมยไฟล์ครั้งนี้ Waymo จะไม่มีทางรู้เลย หากหนึ่งในซัพพลายเออร์เซ็นเซอร์ LIDAR ไม่ส่งอีเมลที่แนบไฟล์ "Otto Files" ผิดไปหาหนึ่งในพนักงานของ Waymo ซึ่งไฟล์นั้นเป็นภาพวาดของบอร์ดเซ็นเซอร์ LIDAR ที่เหมือนกับของ Waymo ทำให้บริษัทแทบจะได้ข้อสรุปว่า Levandowski แอบดาวน์โหลดไฟล์ไปก่อนลาออก
หลังจากในช่วงปลายปีที่แล้ว Uber ย้ายการทดสอบรถไร้คนขับจากแคลิฟอร์เนียไปแอริโซนา ล่าสุดหลังได้รับอนุญาตจากรัฐบาลท้องถิ่น Uber ได้เริ่มทดลองให้บริการกับประชาชนทั่วไปแล้วในเมือง Tempe ของแอริโซนา
ตลอดระยะเวลาการทดสอบนี้จะมีวิศวกรนั่งอยู่ด้านหน้าด้วย 2 คน โดยผู้ใช้ในเมือง Tempe มีสิทธิจะได้นั่งรถไร้คนขับเฉพาะเมื่อเรียกใช้บริการ UberX เท่านั้น
ที่มา - The Next Web
ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก Uber ต้องพบกับแคมเปญ #DeleteUber เพื่อต่อต้านท่าทีของผู้บริหารบริษัท Travis Kalanick ที่ไปสนับสนุน Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งทำให้สุดท้ายเขาต้องลาออกเพราะทานกระแสไม่ไหว
Susan J. Fowler อดีตวิศวกรซอฟต์แวร์หญิงของ Uber (ปัจจุบันอยู่กับ Stripe) เขียนบล็อกเล่าประสบการณ์ช่วงที่เธอทำงานอยู่กับ Uber ราว 1 ปี ว่าประสบปัญหาโดนเจ้านายล่วงละเมิดทางเพศด้วยวาจา (ขอมีเซ็กซ์ด้วย) แต่เมื่อร้องเรียนไปยังฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) และผู้บริหารหลายคนกลับไม่เป็นผล สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมองค์กรของ Uber ที่ปฏิบัติกับเพศหญิงอย่างไม่เท่าเทียมกัน
Fowler เล่าว่าเธอพูดคุยกับพนักงานหญิงคนอื่นๆ ใน Uber ที่ได้รับข้อความละเมิดทางเพศแบบเดียวกันจากผู้บริหารคนเดียวกัน และรวมตัวกันคุยกับฝ่าย HR แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น นอกจากเรื่องนี้แล้ว ตัวเธอเองยังถูกกลั่นแกล้งอีกหลายอย่าง เช่น ไม่อนุญาตให้ย้ายทีม หรือได้คะแนนประเมินไม่ดี ด้วยเหตุผลเรื่องเธอเป็นผู้หญิง
Uber ได้นำรถยนต์สำหรับเก็บแผนที่ของบริษัทออกวิ่งมาแล้วในหลายประเทศหลายทวีปทั้งสหรัฐ แคนาดา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แม้แต่แอฟริกาใต้ ล่าสุดมาถึงเอเชียแล้ว โดยเริ่มที่สิงคโปร์เป็นที่แรก
Uber ระบุว่าการเก็บข้อมูลแผนที่เหล่านี้มีไว้สำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการ โดยถึงแม้แผนที่ที่ใช้งานอยู่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ก็ยังไม่ตอบสนองต่อบริการของ Uber เท่าใดนัก อย่างแผนที่หรือภูมิประเทศของมหาสมุทร (Ocean Topography) (เอาไปทำไม?) ป้ายจราจร แพทเทิร์นของการจราจรในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงจุดรับส่ง
นักธุรกิจฝรั่งเศสฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก Uber 45 ล้านยูโรหลังถูกฟ้องหย่าจากภรรยาเพราะจับได้ว่าเดินทางไปหาชู้
นักธุรกิจชายนี้เคยล็อกอินบัญชี Uber บนโทรศัพท์ของภรรยาและล็อกเอาท์ออกไปในภายหลัง แต่บั๊กของ Uber ในบางเวอร์ชั่นทำให้แม้จะล็อกเอาท์ไปแล้ว เมื่อนั่งรถก็ยังส่งข้อมูลการเดินทางกลับไปยังเครื่องที่ล็อกเอาท์ไปแล้วอยู่ ทำให้ภรรยาของเขารู้ว่ากำลังนั่งรถไปหาชู้และถูกฟ้องหย่าในเวลาต่อมา
คดีฟ้องหย่าในยุโรปเริ่มใช้ข้อมูลจากการเดินทางใน Uber บ้าง แต่ก่อนหน้านี้มีการใช้งานข้อมูลจากการบันทึก GPS, และแอปตามหาโทรศัพท์เช่น Find my iPhone มาก่อนแล้ว
ผลกระทบจากแคมเปญประท้วง #DeleteUber นอกจากช่วยดันให้คู่แข่ง Lyft ยอดดาวน์โหลดพุ่ง ยังมีรายงานว่าลูกค้า Uber ลบบัญชีของตัวเองทิ้งไปมากกว่า 200,000 ราย
จากกรณี Uber โดนประท้วงหนัก เพราะซีอีโอไปเป็นที่ปรึกษาให้ Donald Trump ในที่สุด ซีอีโอ Travis Kalanick ก็ทานกระแสไม่ไหว ประกาศลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาแล้ว
Kalanick เขียนบันทึกภายในส่งถึงพนักงาน เล่าว่าเขามีโอกาสได้คุยกับ Trump สั้นๆ เกี่ยวกับคำสั่งแบนผู้อพยพ และแจ้ง Trump ไปว่าเขาคงไม่สามารถเข้าร่วมเป็นคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจได้อีก เขาอธิบายว่าการร่วมเป็นที่ปรึกษาไม่ได้แปลว่าสนับสนุนนโยบายของ Trump แต่ก็โชคร้ายว่าถูกนำไปตีความในทางนั้น
และแล้วในที่สุด Uber ยอมถอยด้วยการระงับการให้บริการอีกหนึ่งประเทศแล้วนั่นคือไต้หวัน หลังสู้รบปรบมือกับรัฐบาลมาหลายปี อย่างไรก็ตามการระงับการให้บริการในทั้งนี้ "อาจจะ" เป็นการชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากทาง Uber ใช้คำว่า "pressing pause" โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป
Uber เซ็นสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์กับ Diamler บริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมันผู้ผลิต Mercedes-Benz โดยทาง Uber จะนำรถยนต์ไร้คนขับของ Diamler (ที่พัฒนาขึ้นมาเอง Uber ไม่ได้มีส่วนร่วมตรงนี้) มาวิ่งในบริการบนแพลตฟอร์มภายใน 1-2 ปีข้างหน้านี้
อย่างไรก็ตามสัญญาพาร์ทเนอร์นี้ไม่ใช่สัญญาแบบ exclusive ทาง Uber สามารถเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ผลิตรถเจ้าอื่น ในการนำรถมาวิ่งบน Open Platform ของตัวเองได้ (เช่นเดียวกับที่เซ็นสัญญากับ Volvo และ Ford ในการนำ XC90 และ Ford Fusion มาวิ่ง) ขณะที่ทาง Diamler เองก็สามารถเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการ Ride-Sharing เจ้าอื่นได้เช่นกัน
จากกรณีแคมเปญประท้วง #DeleteUber ส่งผลให้คู่แข่ง Lyft ที่แสดงท่าทีต่อต้านประธานาธิบดี Trump อย่างชัดเจน ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นทันที และล่าสุดไต่ขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ของ Top Free ใน App Store ของสหรัฐอเมริกาแล้ว (ขณะที่เขียนข่าวนี้ Uber ตกไปเป็นอันดับ 13) ถือเป็นครั้งแรกที่ Lyft สามารถเอาชนะ Uber ได้ในแง่ของอันดับแอพ
แคมเปญ #DeleteUber ได้รับเสียงตอบรับจากดาราคนดังในฮอลลีวู้ดหลายราย (เช่น นักแสดงชื่อดัง Susan Sarandon) และร่วมทวีตข้อความ #DeleteUber ออกไป ส่งผลให้แคมเปญนี้แพร่กระจาย และยอดดาวน์โหลด Lyft เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (ตอนแรกอยู่อันดับ 39)
ต้องรอดูว่า Uber จะแก้เกมนี้อย่างไร
บรรดาผู้นำโลกไอทีสหรัฐต่างออกมาคัดค้านนโยบายผู้อพยพของ Donald Trump ที่ดูเป็นเอกภาพ แต่กรณีของ Uber กลับแตกต่างออกไป
Travis Kalanick ซีอีโอของ Uber เคยเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับ Trump มาก่อน (คนอื่นที่เข้าร่วมคือ Elon Musk และซีอีโอของบริษัทใหญ่อื่นๆ เช่น Disney, IBM, Wal-Mart, GM, PepiCo รวม 19 คน) ทำให้เขาถูกวิจารณ์มาก่อนแล้วว่าเข้าไปช่วย Trump และในแถลงการณ์ของเขาเรื่องผู้อพยพ ก็ไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจน (เท่ากับซีอีโอคนอื่นๆ) ในการคัดค้าน Trump
Uber ถูกสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 20 ล้านดอลลาร์จาก Federal Trade Commission ในข้อหาที่ทางบริษัทชี้นำผู้ขับรถเกี่ยวกับเงินที่จะได้รับเกินความเป็นจริง โดยเงินที่ได้จากการปรับครั้งนี้ FTC จะนำไปจ่ายคืนให้กับผู้ขับรถ Uber โดยทางบริษัทจะต้องช่วย FTC จัดการเงินจำนวนนี้ด้วย ซึ่งโฆษกของ Uber กล่าวว่าทางบริษัทยินดีทำข้อตกลงกับ FTC
Uber ได้ว่าจ้างอดีตผู้บริหาร Google สองคนคือ Amit Singhal อดีตหัวหน้าฝ่ายค้นหาและ Kevin Thompson อดีตรองประธานฝ่ายวิศวกรรมเข้าทำงานบริษัท
สำหรับ Singhal นั้นจะเข้ามาทำงานที่ Uber ในตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรม หน้าที่ใหม่ของเขาจะทำงานควบคู่ไปกับ Thuan Pham ซีทีโอของบริษัท และรายงานตรงต่อซีอีโอ Travis Kalanick โดยหน้าที่ในตำแหน่งงานของเขาคือการจัดการสิ่งต่าง ๆ เช่น การส่งผู้ขับรถ และอัตราค่าบริการ ส่วน Thompson จะดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่าย marketplace engineering
สืบเนื่องจากกรณีความขัดแย้งระหว่าง Uber และรัฐบาลไต้หวันตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ที่รัฐบาลไต้หวันยกเลิกใบอนุญาต Uber เนื่องจากจดทะเบียนบริษัทผิดประเภท จนรัฐบาลต้องขอความร่วมมือแอปเปิลและกูเกิล นำ Uber ออกจาแอพสโตร์
ล่าสุดรัฐบาลประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ผ่านร่างแก้ไขกฎหมายลงโทษคนขับแท็กซี่ผิดกฎหมายและคนขับฉบับใหม่ เป็นค่าปรับขั้นต่ำ 3,164 เหรียญสหรัฐและสูงสุด 791, 277 เหรียญสหรัฐ โดยทางการจะแบ่งส่วนหนึ่งของค่าปรับเป็นรางวัลให้กับคนนำจับด้วย
แอพ Google Maps เพิ่มข้อมูลของบริการเรียกรถไว้ในตัวแอพมาหลายปี วันนี้กูเกิลประกาศปรับปรุงหน้าตาแอพส่วนนี้ใหม่ ให้ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม เห็นแผนที่แสดงรถที่วิ่งอยู่รอบตัวในขณะนั้น และตัวเลือกที่มากขึ้น
Google Maps ยังจับมือกับ Uber (ตอนนี้มี Uber เจ้าเดียว) ให้สามารถกดเรียกรถ Uber ได้จากในแอพ Google Maps โดยตรง ชนิดว่าไม่ต้องสลับไปยังแอพ Uber เลย และไม่จำเป็นต้องมีแอพ Uber ติดตั้งอยู่ในเครื่องด้วยซ้ำ (แต่ต้องล็อกอินบัญชี Uber ในแอพ Google Maps)
ที่มา - Google Blog
สโมสรฟุตบอล Manchester United เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับ Uber โดยถือเป็นสโมสรฟุตบอลรายแรกที่มีข้อตกลงกับบริษัท ride sharing ลักษณะนี้
ภายใต้ข้อตกลงนี้ สโมสรแมนยูฯ จะอำนวยความสะดวกให้ "นั่ง Uber ไปดูบอล" ได้ง่ายขึ้น มีพื้นที่พิเศษในสนาม Old Trafford สำหรับให้ Uber รับส่งผู้โดยสาร ในฝั่งของ Uber เองก็จะได้สิทธิเข้าถึงแบรนด์แมนยูฯ เพื่อทำตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก กระตุ้นให้แฟนแมนยูรู้จักและเข้าถึง Uber มากขึ้น
ในโอกาสเปิดตัวพันธมิตรครั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงานก็ออกคลิปโปรโมทภายใต้สโลแกน Rides to the Match, Everywhere you Watch มาด้วย
Uber ได้เริ่มนำข้อมูลจากปฏิทินมาใช้ในการแนะนำสถานที่ที่จะไปแล้ว คือจะค้นข้อมูลจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ในปฏิทินที่ผู้ใช้บันทึกไว้ โดยจะแสดงเป็นตัวเลือกที่สามด้านข้าง Work และ Home และจะทำการอัพเดตอัตโนมัติตามปฏิทินของผู้ใช้
ผู้ใช้ที่ต้องการเปิดใช้งาน สามารถเข้าไปได้ที่เมนูการตั้งค่าของ Uber และเลือก Calendar Event จากนั้นก็ต้องอนุญาตการเข้าถึงให้ Uber ด้วย
ทั้งนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวยังคงมีเฉพาะสำหรับผู้ใช้ iOS เท่านั้น และยังไม่สามารถใช้ได้กับผู้ใช้ทุกคน ส่วนบน Android จะตามมาในอนาคต
ที่มา - TechCrunch
รัฐสภาสิงคโปร์กำลังพิจารณาร่างแก้ไขกฎหมายจราจรใหม่ ที่มีบทลงโทษคนขับรถให้กับแอพเรียกรถ (Ride-Sharing) อาทิ Uber และ Grab ที่นำรถยนต์ส่วนตัวมาให้บริการ, ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องและไม่มีประกันภัย
คนขับที่ถูกจับได้ว่าทำผิดตามกรณีข้างต้น อาจถูกแบนจากการให้บริการในลักษณะนี้ ขณะที่แอพที่มีคนขับทำผิดกฎครบ 3 ครั้ง อาจถูกพักหรือระงับการให้บริการ โดยตัวกฎหมายระบุให้คนขับรถต้องเข้าคอร์สอบรบ ตรวจสอบภูมิหลังและตรวจสุขภาพก่อนสอบใบขับขี่สำหรับให้บริการรถสาธารณะ ขณะที่รถที่นำมาให้บริการก็ต้องขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งด้วยว่า เป็นรถส่วนตัวที่นำมาให้บริการรับจ้าง
หลังเป็นไม้เบื่อไม้เมากับทั้งภาครัฐและผู้ใช้บริการแท็กซี่มานาน ล่าสุด Uber ดูเหมือนจะต้องการคืนกำไร (?) ให้กับส่วนรวมบ้าง ด้วยการเปิดเว็บไซต์ Uber Movement สำหรับตรวจสอบ ค้นหาและอ้างอิงข้อมูลการจราจรในเมืองต่างๆ โดยอาศัยรถ Uber ที่ให้บริการอยู่บนท้องถนนเป็นแหล่งอ้างอิงการจราจร
Uber วางตัว Movement นี้ไว้ในระดับเดียวกับ Google Trends คือเป็นแหล่งอ้างอิงสาธารณะ และระบุด้วยว่า Movement จะช่วยให้ภาครัฐส่วนท้องถิ่น สามารถวางแผนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยอิงจากการคมนาคมและจราจรภายในเมืองได้ง่ายมากขึ้น โดยเบื้องต้นจะเปิดให้นักวิจัยและเอเจนซีด้านการวางแผนเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ ก่อนที่จะเปิดให้เป็นสาธารณะ
ช่วงนี้มีผู้ใช้หลายคนที่ตั้งข้อสังเกตว่า Uber แอบทำการติดตามผู้ใช้แม้ว่าจะเลิกเรียกรถไปนานแล้วนับวันหรือนับสัปดาห์ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต่อเนื่องมาจากคราวที่แล้วที่ Uber ขอสิทธิการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ตลอดเวลาแม้จะไม่ได้กำลังใช้บริการ โดยในคราวนั้น Uber แจ้งว่าจะขอใช้เป็นเวลา 5 นาทีเท่านั้น เพื่อนำข้อมูลมาใช้ปรับปรุงบริการ
สืบเนื่องจากกรณีที่ทางการรัฐแคลิฟอร์เนีย สั่งให้ Uber ระงับการทดสอบรถไร้คนขับ เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตนั้น ดูเหมือนล่าสุด Uber จะยอมถอยแล้ว แต่ไม่ใช่ถอยเพื่อรอใบอนุญาต แต่ถอยเกียร์ออกจากรัฐแคลิฟอร์เนีย และหันไปทดสอบรถไร้คนขับในรัฐแอริโซนาแทน
ผู้ให้บริการเรียกรถ Ride-Sharing ในจีนอย่าง Didi Chuxing และ Uber กำลังจะประสบปัญหาการให้บริการในแง่ของคนขับ อย่างน้อยๆ ตอนนี้ก็ในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ หลังทั้งสองเมือง ประกาศใช้กฎหมายใหม่ที่ระบุว่าคนขับรถแท็กซี่แบบ on-demand จะสามารถให้บริการในเมืองหนึ่งๆ ได้ก็ต่อเมื่อลงทะเบียนว่าเป็นประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นๆ
Uber ได้เริ่มให้บริการรถยนต์ Tesla Model S แบบฟลีตในกรุงมาดริด ประเทศสเปนแล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของบริการพรีเมี่ยม UberONE ที่ใช้ผู้ขับรถที่ชำนาญและได้รับใบอนุญาตการขับรถ รวมถึงมีอินเทอร์เน็ตให้บริการภายในรถยนต์ระหว่างการเดินทาง
Carles Lloret ผู้บริหาร Uber ในยุโรปตอนใต้กล่าวว่า ทางบริษัทหวังว่าการเปิดใช้งานรถยนต์พลังงานสะอาด จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของบริษัทในเมืองมาดริดซึ่งบริหารโดย Manuela Carmena ซึ่งมีแนวคิดฝ่ายซ้ายและอนุรักษ์ธรรมชาติ
Uber ได้อัพเดตเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สองอย่างบนแอพ คือฟิลเตอร์บน Snapchat และนั่งรถไปหาเพื่อน
Uber ได้ร่วมมือกับ Snap ในการออกฟิลเตอร์ใหม่บน Snapchat ที่ใช้งานได้ในตอนนั่งอยู่บนรถ Uber เท่านั้น เช่น ฟิลเตอร์ที่แสดงเวลาโดยประมาณที่จะถึงสถานที่หมาย และแชร์ลง Snapchat ให้กับเพื่อน ๆ ได้ทันที
นอกจากฟิลเตอร์บน Snapchat แล้ว Uber ยังมีฟีเจอร์นั่งรถไปหาเพื่อนหรือ Uber to a Person ซึ่งเคยประกาศไว้ตอนเปิดตัวแอพใหม่ โดยจะให้เพื่อนแชร์ตำแหน่งที่อยู่มาให้ โดยถ้าเพื่อนติดตั้งแอพ Uber จะมีการแจ้งเตือนเข้ามา แต่ถ้าไม่จะส่งเป็นข้อความแทน โดยฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้บางกลุ่มแล้ว