เมื่อปีก่อน Larry Ellison ซีอีโอของของออราเคิลเคยกล่าวไว้ว่า อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์มีแรงขับดันทางแฟชั่นมากกว่าแฟชั่นสตรี และ Ellison จัดให้ cloud computing เป็นแฟชั่นชิ้นล่าสุด แต่คำว่า "แฟชั่น" ของ Ellison ในที่นี้กลับมีความหมายไปในเชิงลบว่า การที่ผู้คนพากันตามกระแส cloud computing นับว่าเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี และเมื่อเร็วๆนี้ Ellison ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ cloud computing อีกครั้งในงานของ Churchill Club งานหนึ่งว่า cloud computing ไม่ใช่การประมวลผลแห่งยุคอนาคต หากแต่เป็นการประมวลผลของยุคปัจจุบัน รวมถึงในอดีตที่ผ่านมาก็มีการประมวลผลแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
บางครั้งการแปลตรงๆอาจจะทำให้ไม่เห็นภาพได้เท่ากับอ่านเองครับ ผมขอยกคำพูดส่วนหนึ่งของ Ellison มาให้อ่าน ดังนี้
เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทีมงาน TIGR ซึ่งเป็นทีมงานพัฒนาประเทศของรัฐบาลกลางสหรัฐเคยนำเสนอว่า TIGR จะใช้ cloud computing ในการปฎิรูปภาครัฐ [ข่าวเก่า] จนเมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลกลางก็ได้ประกาศเปิดเว็บไซต์ Apps.Gov ที่รวบรวมบริการแอพพลิชันออนไลน์ไว้มากมาย โดยบริการเหล่านี้อาศัย cloud computing ในการให้บริการ ซึ่งหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐสามารถค้นหาและซื้อบริการแอพพลิเคชันออนไลน์ที่ต้องการผ่านทาง Apps.Gov ได้เลย
ความล่าช้าในการขนส่งข้อมูลขนาดใหญ่ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ทำให้ผู้ใช้ส่วนหนึ่งไม่อยากฝากระบบไอทีไว้กับ cloud computing ซึ่งสาเหตุหนึ่งของปัญหานี้เกิดจากกระบวนการที่ฟุ่มเฟือยของโปรโตคอล TCP และเพื่อจัดการกับปัญหานี้ บริษัท Aspera จึงได้พัฒนาโปรโตคอลชื่อ Fast and Secure Protocol หรือมีชื่อย่อว่า FASP เพื่อตัดขั้นตอนบางขั้นตอนของ TCP ออกไป ทั้งนี้ ข้อมูลจากแหล่งข่าวได้ยกตัวอย่างการขนส่งข้อมูลข้ามสหรัฐอเมริกาผ่านแบนด์วิธขนาด 100 Mbps ว่า ถ้าหากใช้โปรโตคอล TCP แล้ว ความเร็วที่ได้จริงอ
เมื่อมีนักเรียนมัธยมคนหนึ่งถามประธานาธิบดีโอบามาว่า จะทำอย่างไรถึงจะได้งานทำดีๆขั้นสุดยอด โอบามาก็ได้ให้คำแนะนำนักเรียนคนนี้ว่า ให้ระวังการโพสต์อะไรก็ตามที่ดูงี่เง่าบนอินเทอร์เน็ต ถึงแม้ว่าวัยเรียนเราอาจคึกคะนองทำสิ่งที่ดูงี่เง่า แต่จงคิดให้รอบคอบอีกทีก่อนจะโพสต์สิ่งเหล่านั้นบนโลกออนไลน์
HOT CHIPS เป็นงานประชุมเกี่ยวกับไมโครโปรเซสเซอร์สมรรถนะสูง จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนสิงหาคมของทุกปีที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ภายในงานประชุมของปีนี้ ซันกับไอบีเอ็มถือโอกาสเปิดตัวโปรเซสเซอร์หน้าใหม่นั่นคือ Rainbow Falls จากซัน และ POWER7 จากไอบีเอ็ม
ซัน ไมโครซิสเต็มส์ เปิดเผยข้อมูลของ Rainbow Falls ซึ่งจะเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นต่อไป (ถัดจาก UltraSPARC T2+) ว่า Rainbow Falls มาพร้อมกับซีพียูคอร์ทั้งหมด 16 คอร์ พร้อมสถาปัตยกรรม SMT ที่ทำให้แต่ละคอร์ประมวลผลชุดคำสั่งได้พร้อมกัน 8 เธรด ส่งผลให้ Rainbow Falls ประมวลผล 128 เธรดพร้อมๆกันได้
บริษัทฟูจิสึได้เปิดเผยว่า ตอนนี้บริษัทกำลังพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีพลังประมวลผลสูงถึง 10 เพตาฟลอป ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาให้แล้วเสร็จภายในต้นปี พ.ศ. 2554 และจะถูกใช้งานโดยศูนย์วิจัย RIKEN ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระบบนี้ติดตั้งโปรเซสเซอร์ SPARC64 VIIIfx (ใช้โค้ดเนมว่า "วีนัส") ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์แบบ 8 คอร์ มาพร้อมกับความเร็วสัญญาณนาฬิกา 2 กิกะเฮิร์ต และมีพลังประมวลผล 128 กิกะฟลอป
SingTel บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์รายใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ เริ่มรุกตลาดการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆแล้ว นอกจากนี้ SingTel ยังได้ร่วมมือกับภาครัฐและบริษัทชั้นนำในการก่อตั้งศูนย์กลางการประมวลผลแบบกลุ่้มเมฆแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ผลการจัดอันดับระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง 500 อันดับแรกของโลก (TOP500) ครั้งที่ 33 ก็ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับอันดับแรกก็ยังคงเป็นแชมป์เก่าไอบีเอ็ม Roadrunner ซูเปอร์คอมพิวเตอร์พลังเพตาฟลอประบบแรกของโลก ส่วนอันดับสองยังรักษาตำแหน่งได้เหมือนกันนั่นคือ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์พลังเพตาฟลอประบบที่สองในนามว่า Jaguar จากเครย์ (ข่าวเก่า) และอันดับสามคือ JUGENE จากไอบีเอ็ม นับว่าเป็นระบบที่มาแรงพอสมควร เพราะเดิมที JUGENE อยู่อันดับที่ 11 และมีพลังประมวลผลที่ 180 เทราฟลอป มาครั้งนี้ ถ้าหากคำนวณตามทฤษฎีแล้ว JUGENE มีพลังการประมวลผลถึงเพตาฟลอปทีเดียว แต่พอรันโปรแกรมวัดผลเข้าจริงๆก็วิ่งได้ 825.50 เทราฟลอป
ในปีที่แล้ว MIT เคยจัดอันดับให้กราฟีน (Graphene) เป็นหนึ่งในสิบเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง [ข่าวเก่า] ล่าสุดนี้ นักวิจัยจาก MIT ใช้กราฟีนพัฒนาไมโครชิปที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิการะดับ 1 เทราเฮิรตซ์ (THz) หรือ 1,000 กิกะเฮิรตซ์สำเร็จแล้ว ซึ่งชิปแบบกราฟีนตัวนี้จะสามารถเพิ่มความเร็วในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ รวมถึงเพิ่มความเร็วในการขนส่งข้อมูลของโทรศัพท์มือถือได้
บริษัท การ์ตเนอร์ วิเคราะห์ว่า ตลาดของการให้บริการแบบกลุ่มเมฆในปีนี้จะมีรายได้สูงกว่า 56.3 พันล้านเหรียญหรือเพิ่มขึ้น 21.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรายได้ปีก่อนที่ทำไปได้ 46.4 พันล้านเหรียญ และการ์ตเนอร์ทำนายว่าปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) รายได้ของตลาดนี้จะเติบโตถึง 150.1 พันล้านเหรียญ ทั้งนี้ การ์ตเนอร์วิเคราะห์ว่าการเติบโตของตลาดดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่องค์กรต่างๆต้องควบคุมงบประมาณของการติดตั้งและดำเนินงานระบบสารสนเทศในองค์กร และหันไปใช้บริการระบบสารสนเทศแบบออนไลน์บนกลุ่มเมฆแทน
เมื่อปลายปีก่อน ซัน ไมโครซิสเต็มส์ ได้ปิดปรับปรุงบริการ NETWORK.COM เพื่อพัฒนาบริการกลุ่มเมฆของตน [ข่่าวเก่า] ล่าสุดนี้ ซันได้ออกมาเผยโฉมหน้าของบริการกลุ่มเมฆของตนในชื่อว่า Sun Cloud แล้ว โดย Sun Cloud จะให้บริการสองบริการหลัก คือ บริการประมวลผลชื่อ Sun Cloud Compute Service และบริการจัดเก็บข้อมูลชื่อ Sun Cloud Storage Service ทั้งนี้ คาดว่าซันจะพร้อมให้บริการ Sun Cloud ในช่วงกลางปีนี้
ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เอเอ็มดีได้เปิดเผยถึงแผนการครั้งใหญ่ภายในงาน CES 2009 ว่า เอเอ็มดีกำลังสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์พลังเพตาฟลอปภายใต้ชื่อ Fusion Render Cloud (FRC) เพื่อให้บริการพลังประมวลผลสำหรับงานกราฟิกผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปีนี้ โดยมีบริษัท Dell, HP, Electronic Arts, Lucasfilm และอีกหลายบริษัทให้การสนับสนุน ทั้งนี้ เอเอ็มดีกล่าวว่า FRC จะทำให้เกิดการปฏิวัติสื่อความละเอียดสูง (หรือ HD)
เมื่อไม่นานมานี้ ไมโครซอฟท์ได้ทดสอบเอาชิป Atom ของอินเทลไปพัฒนาเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า Atom เป็นชิปที่ประหยัดพลังงานไฟฟ้าและปล่อยความร้อนต่ำ แต่ว่าในเชิงปฏิบัติแล้ว Atom จะเหมาะกับเซิร์ฟเวอร์หรือไม่ ?
ต้องยอมรับเลยว่าไมโครซอฟท์ลงทุนอย่างมากกับการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ ดูได้จากงบหลายพันล้านเหรียญที่เตรียมไว้กับแผนการสร้างศูนย์ข้อมูลสำหรับการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆอีกหลายแห่ง [รายงานเก่า] แต่ทว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกกลับกลายเป็นขวากหนามอันยิ่งใหญ่ของไมโครซอฟท์ในแผนการครั้งนี้ โดยในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ไมโครซอฟท์เตรียมตัดค่าใช้จ่ายหลายอย่าง รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูลด้วย
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (วันเดียวกันกับที่เกิด Gfail) Google App Engine Blog ได้ประกาศการให้บริการ App Engine ในรูปแบบ "จ่ายตามการใช้งานจริง" (Pay-per-use) และนโยบายการให้โควต้าฟรีแบบใหม่ โดยผู้ใช้ยังคงสามารถใช้โควต้าฟรีแบบเดิมได้จนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 และหลังจากนั้น กูเกิลจะเริ่มใช้นโยบายโควต้าฟรีแบบใหม่ [อ้างอิง] ดังนี้
บริษัท การ์ตเนอร์ ทำนายแนวโน้มการเติบโตของตลาดซอฟต์แวร์ virtualization ของทั่วโลกในปีนี้ว่า จะมีรายได้สูงกว่าปีก่อนถึง 43 เปอร์เซนต์ หรือคิดเป็นรายได้ทั้งหมด 2.7 พันล้านเหรียญ ทั้งนี้ การ์ตเนอร์กล่าวว่า ปัจจัยที่เป็นแรงผลักดันให้องค์กรต่างๆหันมาให้ความสำคัญกับซอฟต์แวร์ virtualization มาจากคุณสมบัติของซอฟต์แวร์ที่ทำให้องค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์, ลด carbon footprint, และประหยัดพลังงานไฟฟ้า
จากแหล่งข่าว การ์ตเนอร์แบ่งตลาดซอฟต์แวร์ virtualization ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
แม้ว่าทำเนียบขาวถูกจัดว่าเป็นสถานที่โลว์เทค (ข่าวเก่า) แต่ทีมงานบริหารประเทศของโอบามากำลังปฏิรูปการดำเนินงานและการใช้เทคโนโลยีของหน่วยงานภาครัฐ โดยกลุ่มทีมงานที่อยู่เบื้องหลังการปฏิรูปครั้งนี้มีชื่อว่า Technology, Innovation, and Government Reform หรือ TIGR
ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการวิสต้าหลายท่านคงเคยประสบกับปัญหาที่ว่า ไม่สามารถติดตั้งหรือรันโปรแกรมบางตัวได้บนวิสต้า แต่โปรแกรมเหล่านั้นกลับทำงานได้บนวินโดว์รุ่นเก่าๆ ซึ่งปัญหานี้อาจเป็นหนึ่งในหลายสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้กลุ่มหนึ่งถอดใจจากวิสต้าแล้วกลับไปใช้ Windows XP
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ไมโครซอฟท์ได้ส่ง Microsoft Enterprise Desktop Virtualization (หรือ MED-V) เวอร์ชัน 1 รุ่นเบต้าให้ดาวน์โหลดกันแล้ว โดย MED-V ใช้ความสามารถของ Microsoft Virtual PC ในการสร้างคอมพิวเตอร์เสมือน และผู้ใช้สามารถเลือกระบบปฏิบัติการวินโดว์เวอร์ชันเก่าสำหรับการทำงานของคอมพิวเตอร์เสมือนนี้ได้ (เช่น Windows XP หรือ Windows 2000) ทำให้คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้สามารถรันวิสต้าและวินโดว์เวอร์ชันเก่าได้พร้อมๆกัน
Adobe ได้ส่งซอฟต์แวร์ชุดใหญ่ชื่อ LiveCycle ES เพื่อทำงานบนกลุ่มเมฆของอเมซอนหรือ Amazon EC2 โดย Adobe ตั้งชื่อของ LiveCycle เวอร์ชันนี้ว่า LiveCycle ES Developer Express
LiveCycle ES เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนาและรันแอพพลิเคชันเพื่อจัดการเอกสารและกระบวนการของระบบงาน ซึ่งผู้พัฒนาสามารถใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวในการออกแบบและพัฒนาีระบบงานที่มีการรับส่งเอกสารไปจัดการหรือประมวลผลที่หน่วยต่างๆตามลำดับของระบบงานได้ (หน่วยในที่นี้หมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือผู้ใช้ก็ได้)
ในปีนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี วางแผนทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาบริการเทคโนโลยีสารสนเทศแบบพร้อมใช้งานด้วยการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ อย่างเช่นการให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลออนไลน์และซอฟต์แวร์ออนไลน์ประเภท SaaS ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว
ข่าวสดๆร้อนๆ และ(น่า)จะร้อนไปถึงอินเทลและลุงสตีฟ จ็อบส์ด้วย เรื่องก็มีอยู่ว่า นายแมทธิว โรเบิร์ต ยัง ได้ยื่นฟ้องศาลสหรัฐฯ โดยนายยังอ้างว่า นายจ็อบส์ได้ขโมยผลงานของนายยังไปให้บริษัทอินเทลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากตน ซึ่งนายยังอ้างว่า ผลงานชิ้นนั้นก็คือต้นแบบของ Intel Core-2 Duo และเทคโนโลยี virtualization ที่อินเทลกำลังขายในท้องตลาด และนายยังได้เรียกร้องค่าเสียหายจากอินเทลและจ็อบส์เป็นเงินถึง 5 พันล้านเหรียญ
ในปีที่ผ่านมา บริษัทหลายแห่งต้องเจอวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นไปได้สูงมากที่ในปีนี้ ผู้บริหารบริษัทต้องควบคุมงบประมาณสำหรับไอทีให้รอบคอบยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจจะสาหัสเพียงใดก็ตาม บริษัทน้อยใหญ่ก็ยังต้องพึ่งพาไอที ดังนั้น ทาง eWEEK จึงได้แนะนำ 5 เทคโนโลยีที่บริิษัทขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SME ควรจับตามอง อันได้แก่
1.Cloud Computing
บริษัท Alibaba ผู้นำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของจีน ประกาศแผนก่อตั้งศูนย์ประมวลผลแบบกลุ่มเมฆเชิงพาณิชย์ โดยจะเริ่มสร้างศูนย์ดังกล่าวในต้นปีนี้ที่เมืองหนานจิง และคาดว่าจะใช้งบสำหรับช่วงเริ่มต้นประมาณ 100 ล้านหยวน ทั้งนี้ศูนย์ดังกล่าวจะให้บริการลูกค้าในประเทศด้วยบริการอย่าง บริการการประมวลผลออนไลน์ (อาจจะเป็นแบบ Amazon EC2) และการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ นอกจากนี้ Alibaba ยังมีแผนก่อตั้งศูนย์การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆเพิ่มที่เมืองอื่นๆในภายภาคหน้า
กูเกิลได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอันดับต้นในวงการไอที [ข่าวเก่า] หรือเรียกกันว่าเป็นผู้นำด้าน "กรีนไอที" ข่าวล่าสุดจากคู่กัดของกูเกิลอย่างไมโครซอฟท์ ได้ออกมาเปิดเผยให้ชาวโลกทราบว่า ไมโครซอฟท์ก็ไม่ยิ่งหย่อนในเรื่องกรีนไอทีเช่นกัน
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ IBM Blue Gene/P ที่ศูนย์วิจัยอาร์กอนน์ติดอันดับ 5 ใน TOP500 ครั้งล่าสุด นอกเหนือพลังประมวลผลที่มากถึง 450.30 เทราฟลอปแล้ว ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระบบนี้ยังช่วยประหยัดค่าไฟต่อปีได้มากกว่าหนึ่งล้านเหรียญ (เมื่อเทียบกับระบบที่มีสมรรถนะการประมวลผลเท่าๆกัน) สำหรับเคล็ดลับของความสำเร็จนี้ เกิดจากการออกแบบสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์และสร้างระบบทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพ