ที่งานมอบรางวัล Spike Video Game Awards 2011 ทางค่าย Blizzard ได้เปิดเผยวิดีโอฉากเปิดเรื่องของ Diablo III ที่ทุกคนรอคอย
ฉากเปิดเรื่องจะแสดงให้เห็นตัวละคร Deckard Cain จากภาคก่อนๆ กำลังคุยกับหลานสาวชื่อ Leah ว่าการโจมตีจากนรกจะกลับมาอีกครั้ง และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ (ตามด้วยโลโก้ของ Diablo III เป็นอันจบส่วนของภาพยนตร์เปิดเรื่อง)
เกมจะออก "ต้นปี 2012" โดยยังไม่ระบุเดือนครับ
ที่มา - VentureBeat
ผู้อ่าน Blognone คงรู้จักเทคโนโลยี Splashtop หรือระบบปฏิบัติการลินุกซ์แบบฝังตัวที่รวมเอาความสามารถพื้นฐานอย่างเบราว์เซอร์เข้ามา แล้วพรีโหลดมาใน BIOS เพื่อให้บูตเครื่องเข้าอินเทอร์เน็ตได้เร็วๆ
ที่ผ่านมามีผู้ผลิตฮาร์ดแวร์หลายค่ายนำ Splashtop มาใส่ในโน้ตบุ๊กของตัวเอง เป็นทางเลือกไปจากการบูตเข้าวินโดวส์ตามปกติ แต่ล่าสุดบริษัท Splashtop ได้พันธมิตรใหม่รายสำคัญ นั่นคือ "อินเทล"
อินเทลประกาศว่าจะฝัง Splashtop ลงในเมนบอร์ดของซีพียูสาย Sandy Bridge รุ่นที่จะขายในปีหน้า (เริ่มกุมภาพันธ์ 2012) ด้วยเหตุผลว่า Splashtop จะช่วยให้พีซีกลายเป็นศูนย์กลางของอุปกรณ์พกพาอื่นๆ และช่วยให้การส่งข้อมูล ภาพยนต์ เพลง รูปภาพ จากพีซีไปยังมือถือหรือทีวีทำได้ง่ายขึ้น
DigiTimes รายงานว่า ไมโครซอฟท์ได้เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตชิปเลือกผู้ผลิตคอมพิวเตอร์มาเป็นคู่ค้าหลักและคู่ค้ารองในการพัฒนาแท็บเล็ตรัน Windows 8 ผลปรากฎว่า NVIDIA เลือกเลอโนโวเป็นคู่ค้าหลักและเอเซอร์เป็นคู่ค้ารอง Qualcomm เลือกซัมซุงเป็นคู่ค้าหลักและโซนี่เป็นคู่ค้ารอง และ Texas Instruments เลือกโตชิบาเป็นคู่ค้าหลักและซัมซุงเป็นคู่ค้ารอง
ผู้ให้ข้อมูลระบุว่าซัมซุงเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะโดดเด่นในบรรดาผู้ผลิตแท็บเล็ตที่ต่อกรกับ iPad ส่วนเลอโนโวนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีในการทำตลาดในประเทศจีน
กูเกิลนั้นพยายามบุกตลาดเกมบน Chrome อย่างชัดเจน จากการประกาศพันธมิตรครั้งใหญ่จาก Square Enix แต่ค่ายที่เล็กกว่าอย่าง Super Giant Games ก็เดินหน้าแล้วด้วยเกม Bastion
งานนีทางผู้ผลิตกล่าวขอบคุณทีมงานจาก Chrome ที่ให้ความช่วยเหลือ
ตัวเกมรองรับภาพขนาด 1080p แต่ต้องการการ์ดจอที่รองรับ texture ขนาด 4096x4096 ขึ้นไปเท่านั้น และยังไม่รองรับ gamepad ราคาขายคือ 14.99 ดอลลาร์ ถ้าสนใจลองกดมาเล่นด่านแรกก่อนได้
ที่มา - Super Giant Games
กูเกิลประกาศความสำเร็จในการเปลี่ยนมาใช้ IPv6 กับเครือข่ายภายในองค์กรทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนมาใช้ IPv6 นั้นยากและยาวนานกว่าแผนการตั้งต้นของกูเกิลมาก
โครงการ IPv6 ภายในองค์กรเริ่มโดยวิศวกรเครือข่ายกลุ่มหนึ่งของกูเกิลตั้งแต่ปี 2008 ใช้เวลาทั้งหมดก็ 4 ปีเต็ม บทเรียนของกูเกิลในการเปลี่ยนมาใช้ IPv6 คือมันไม่ใช่แค่เรื่องฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่จำเป็นต้องหาความร่วมมือจากฝ่ายบริหาร และพนักงานทั้งหมดในองค์กรด้วย (โดยเฉพาะแอดมินของระบบต่างๆ ที่มีงานอื่นต้องทำและไม่สนใจ IPv6 มากนัก)
นอกจากนี้กูเกิลในฐานะองค์กรแรกๆ ที่เปลี่ยนมาใช้ IPv6 ก็ต้องแก้โค้ดของซอฟต์แวร์หลายส่วน โดยเฉพาะส่วนที่ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ของผู้ผลิตรายต่างๆ ให้ทำงานร่วมกับ IPv6 ได้
งานนี้ขอตัดหน้าสักเล็กน้อย พอดีกำลังหาอยู่ว่ามีอะไรน่าสนใจ
กลับมาอีกครั้งหนึ่งสำหรับโปรแกรมเด็ดยั่วน้ำลายอย่าง 10 วัน 10 แอพฯ ต่อวันในราคา 10 เซนต์ ฉลอง 10 พันล้านดาวน์โหลด ให้ได้โหลดโหดกัน วันที่ 6 นี่มีอะไรมายั่วน้ำลายบ้าง มาดูกันดีกว่า
หลังจากที่ลือกันไปได้พักใหญ่ ค่ายเกม RPG ชื่อดัง BioWare (บริษัทลูกของ EA) ก็เปลี่ยนกระแสมาจับเกม RTS บ้าง ด้วยการกลับมาทำภาคต่อของซีรีส์ Command and Conquer จากแต่เดิมที่ถูกพัฒนาโดย EA Los Angeles และ Westwood มาตลอด
ตัวเกมมี 3 ฝ่าย รูปแบบการเล่นยังคงเดิม แต่เปลี่ยนเอนจินเป็น Frostbite 2 และยังคงมีโหมด multiplayer นอกจากนี้แล้ว BioWare ยังยืนยันว่าเนื้อเรื่องจะเข้มข้นและดราม่ามากกว่าเดิม
เกมนี้จะได้ยลโฉมภายในปี 2013 หากโลกไม่แตกก่อนเรายังคงจะมีโอกาสได้เล่นนะครับ
นักพัฒนาแอพฯ เห็นข่าวนี้แล้วคงจะมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่า Windows Store บน Windows 8 นั้นเปิดกว้างกับแอพฯ ประเภทโอเพนซอร์สด้วยเช่นกัน โดยข้อตกลงผู้ใช้ (user agreement) ของ Windows Store ระบุไว้ว่านักพัฒนาสามารถส่งโอเพนซอร์สแอพฯ ขึ้น Windows Store ได้หากไลเซนส์ที่ใช้ได้รับการรับรองจาก OSI (Open Source Initiative)
The Register ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ไมโครซอฟท์ไม่ระบุชนิดของไลเซนส์ที่ชัดเจนแสดงให้เห็นว่า Windows Store จะไม่สนับสนุน GPL (General Public License)
ข่าวนี้เหมาะมากสำหรับคนที่สนใจเรื่องการออกแบบคอมไพเลอร์นะครับ (มีหรือเปล่าหว่า?)
ย้อนความกันหน่อยว่า เว็บไซต์ขนาดมหึมาอย่าง Facebook ถูกเขียนขึ้นมาด้วย PHP แต่จำนวนผู้ใช้ระดับนี้ ต้องการประสิทธิภาพที่สูงกว่า PHP ทั่วไป และแนวทางมาตรฐานของวงการคือแปลงฟังก์ชันบางส่วนเป็น C++ เพื่อรีดประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น
หลังจากที่เปิดให้คนทั่วไปจดทะเบียนโดเมน .xxx ได้ ก็เริ่มมีปรากฏการณ์ที่ผมคิดว่าหลายคนคงจะพอคาดเดากันได้เกิดขึ้นมาแล้ว
Associated Press ได้รายงานว่าขณะนี้ มหาวิทยาลัยและธุรกิจต่างๆ ได้ไล่ซื้อชื่อโดเมนต่างๆ ที่ลงท้ายด้วย .xxx เพื่อเป็นการป้องกันชื่อเสียงของตนเองแล้ว อย่างเช่น University of Kansas ซึ่งทุ่มทุนไปกว่า 3,000 เหรียญสหรัฐในการซื้อชื่อโดเมนอย่าง www.KUgirls.xxx หรือ www.KUnurses.xxx และธุรกิจอย่างกูเกิลก็ได้ซื้อโดเมนอย่าง Google.xxx, Blogspot.xxx หรือ Youtube.xxx ไปแล้วด้วยเช่นกัน
Androidify แอพสำหรับสร้างอวตารเป็นเจ้าหุ่นแอนดรอยด์สีเขียว (ข่าวเก่า) ได้รับการปรับปรุงอีกครั้ง และคราวนี้มาพร้อมกับเสื้อผ้าฤดูหนาวอย่างหมวก ผ้าพันคอ เสื้อหนาว หรือเขากวางเรนเดียร์!
ไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ TechRadar ว่า Windows Phone "Mango" รุ่นปัจจุบันมีความสามารถรองรับเทคโนโลยี NFC มาในตัวอยู่แล้ว เพียงแต่เรายังไม่เห็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายใดเปิดใช้งานเท่านั้น
ตัวแทนของไมโครซอฟท์บอกว่าสิทธิในการตัดสินใจเป็นของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ ซึ่งถ้าผู้ผลิตรายใดอยากจะเปิด NFC (และใส่ชิปมาในมือถือด้วย) ก็สามารถทำได้เลยทันที แต่ในความเป็นจริงเราจะเห็น Windows Phone รองรับ NFC เมื่อใด ก็ขึ้นกับสภาพตลาดมากกว่า
ส่วนตัวแทนของโนเกียก็บอกว่าเหตุผลที่ยังไม่ใส่ NFC มาใน Lumia 800 ก็เป็นเรื่องของจังหวะเวลาเช่นกัน และโนเกียจะพยายามออก Windows Phone ที่รองรับ NFC ให้ได้เร็วที่สุด เพื่อแสดงศักยภาพของมือถือตัวเองให้เด่นชัดขึ้น
RIM มีปัญหากับรัฐบาลอีกแล้ว คราวนี้เป็น กสทช. ของอินโดนีเซีย (Indonesian Telecommunication Regulation Body หรือ BRTI) บอกว่าอาจสั่งห้ามใช้ BIS และ BBM บน BlackBerry ทุกเครื่องภายในอินโดนีเซีย ถ้าหากว่า RIM ยังไม่ยอมมาตั้งเซิร์ฟเวอร์อยู่ในประเทศ
เมื่อเดือนกันยายนปีนี้ RIM ได้เจรจากับ BRTI ในหลายประเด็น ซึ่งประเด็นหนึ่งคือการตั้งเซิร์ฟเวอร์ BlackBerry ภายในอินโดนีเซีย และ RIM จะต้องทำตามเงื่อนไขเหล่านี้ภายในสิ้นปีนี้
Google+ เพิ่มฟีเจอร์แยกแยะใบหน้าหรือ facial recognition เข้ามาอย่างเงียบๆ โดยจะทำงานกับภาพถ่ายที่เราอัพโหลดขึ้นไปยัง Google+ ชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือ Find My Face
ในแง่ความสามารถมันคงไม่ต่างอะไรกับ facial recognition ของ Facebook ที่ทำมาก่อนหน้าตั้งแต่ปีที่แล้ว
ต่อเนื่องจากข่าวเก่า ศาลเขต Mannheim ในเยอรมนีตัดสินคดีที่ Motorola ฟ้อง Apple Sales International (ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ไอร์แลนด์) ว่าผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลคือ iPhone รุ่นแรกจนถึง iPhone 4 (ไม่รวม iPhone 4S ที่ออกมาทีหลัง) ละเมิดสิทธิบัตรของ Motorola
มาถึงครึ่งทางแล้วนะครับ สำหรับการฉลองยอดดาวน์โหลดครบ 10,000 ล้านครั้ง ด้วยการลดราคาแหลกเหลือ "~ สามบาทแปดสตางค์" สำหรับวันที่ห้านี้จะมีแอพพลิเคชั่นที่เข้าร่วมรายการดังนี้ครับ
จากข่าวลือเรื่องที่ว่าอเมซอนกำลังวางแผนซื้อตัวนักเขียนเมื่อสามเดือนก่อน มาบัดนี้ข่าวเป็นจริงแล้วครับ
อเมซอนเปิดตัวแคมเปญที่ชื่อว่า "KDP Select" โดยที่ผู้เขียนที่ร่วมโครงการนี้ต้องขายอีบุ๊คเล่มนั้นกับอเมซอนเท่านั้น สิ่งที่นักเขียนจะได้รับพิเศษนอกเหนือจากส่วนแบ่งรายได้ซึ่งสูงสุดถึง 70% (นับว่าสูงสุดในบรรดาสำนักพิมพ์ทั้งหลาย) นั้นก็คือส่วนแบ่งในเงินกองกลาง 500,000 เหรียญต่อเดือนทุกๆเดือนนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีนี้ไปถึงสิ้นปีหน้า ถ้าอีบุ๊คของนักเขียนถูกยืมมากครั้งก็จะได้ส่วนแบ่งจากเงินก้อนนี้มากขึ้นโดยตามสัดส่วนไป ส่วนสิทธิ์ในการตีพิมพ์เป็นเล่มนั้นตัวนักเขียนจะเลือกพิมพ์กับสำนักพิมพ์ไหนก็ได้
โนเกียเปิดตัว Symbian Belle เมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้ และตอนนี้มีมือถือที่มาพร้อมกับ Belle คือ Nokia 700/701 และ Nokia 603 (ส่วน Nokia 600 ถูกยกเลิกไป)
หลังจากโนเกียปล่อย Lumia 800 และมีข่าวยอดขายถล่มทลายในหลายประเทศ บริษัทก็เดินหน้าต่อไปด้วย Windows Phone รุ่นที่สองคือ Lumia 710 "Sabre" ที่เปิดตัวพร้อมกัน
Lumia 710 จะเริ่มขายที่ไต้หวันเป็นประเทศแรกเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) ตามด้วยรัสเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ในอีก 7 วันข้างหน้า และขยายต่อไปยังตลาดอื่นๆ ตามมา (ยังไม่มีข้อมูลของประเทศไทย)
Lumia 710 เป็นมือถือ Windows Phone ราคาถูกของโนเกีย (ราคาอย่างเป็นทางการโดยประมาณคือ 270 ยูโร หรือ 12,000 บาท) ถ้ายังทำตลาดได้ดีอย่างรุ่นพี่ Lumia 800 ก็น่าจะช่วยขยายฐานของ Windows Phone ในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางได้อีกมาก
ขอรวมเป็นสองข่าวไว้ด้วยกันครับ
เริ่มจาก Adobe Reader ซึ่งทีมงานจาก Adobe โพสต์ลงในบล็อกเองว่า Adobe Reader เวอร์ชัน 10.1.1 สำหรับ Windows และ 9.4.6 สำหรับ UNIX รวมไปถึงเวอร์ชันที่ต่ำกว่าข้างต้น มีช่องโหว่ที่อันตราย สามารถทำให้คอมพิวเตอร์หยุดทำงาน (crash) และแฮกเกอร์สามารถที่จะอาศัยช่องโหว่เข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ได้ โดย Adobe แนะนำให้เปิดใช้งาน Adobe Reader ในโหมด Protected View และจะปล่อยอัพเดตมาอุดช่องโหว่นี้ในวันที่ 10 ธันวาคม (ข่าวนี้ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม)
ไมโครซอฟท์ออก Silverlight 5 ตัวจริงมาแบบเงียบๆ หลังจากออกรุ่นเบต้าเมื่อเดือนเมษายน และเงียบหายไปนาน
ของใหม่ในรุ่นนี้คือตัวถอดรหัส H.264 ด้วยฮาร์ดแวร์, Postscript Vector Printing, รองรับการประมวลผลกราฟิกสามมิติด้วย XNA API เป็นต้น
หลังจาก HP ประกาศข่าวเปิดซอร์ส webOS ทางเว็บไซต์ TechCrunch มีโอกาสนั่งคุยกับ Meg Whitman ซีอีโอของ HP ได้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้
มีคนสังเกตกฎการแข่งขันพัฒนาแอพฯ Windows 8 First App Contest ซึ่งระบุไว้ว่าผู้ที่ผ่านเข้ารอบสองจะได้รับการเข้าร่วมโครงการ Beta Program เพื่อดาวน์โหลด Windows 8 เวอร์ชันล่าสุด (ต้นฉบับใช้คำว่า confidential build) และจะต้องทดสอบแอพฯ กับ Windows 8 เวอร์ชันนี้ด้วย โดยการแข่งขันรอบสองจะมีขึ้นระหว่าง 16 ม.ค. ถึง 3 ก.พ. ที่จะถึงนี้
จากกฎการแข่งขันดังกล่าว ทำให้เราน่าจะได้เห็นและมีโอกาสลองเล่น Windows 8 เบต้า (หรือเวอร์ชันที่เข้าใกล้สถานะเบต้ามากที่สุด) เร็วกว่าที่คิดไว้
จากข่าวเก่าที่ GameStop โพสต์ราคาของ PS Vita Memory Card ไว้บนเว็บทำให้โดนเหล่าเกมเมอร์วิจารณ์กันอย่างมากกับราคาที่แพงสุดๆ ของการ์ดดังกล่าว
ล่าสุด โซนี่ได้ออกมาบอกแล้วว่าราคาที่ GameStop ตั้งไว้นั้นเป็นราคาที่ยังไม่เป็นทางการ โดยราคาที่โซนี่แก้ไขใหม่ได้แก่ราคาของการ์ดขนาด 4GB และ 8GB โดยราคาควรจะเป็น $24.99 และ $39.99 ตามลำดับ (จาก $29.99 และ $49.99)
โอ้โห ถูกลงเยอะเลยนะเนี่ย!
หลังจากที่ HP ไม่ประสบความสำเร็จกับ webOS จนต้องประกาศเลิกพัฒนาฮาร์ดแวร์ในสาย webOS และไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับอนาคตของ webOS ต่อไป
ล่าสุด HP ได้ออกมาประกาศแล้วว่าจะพัฒนา webOS ต่อไปควบคู่กับชุมชนนักพัฒนาโอเพนซอร์ส พูดง่ายๆ ก็คือ webOS จะกลายเป็นระบบปฏิบัติการแบบโอเพนซอร์สแล้วนั่นเอง โดยถ้ามีผู้ผลิตเจ้าไหนสนใจก็สามารถนำ webOS ไปใช้งานกับอุปกรณ์ที่ตนเองผลิตขึ้นมาได้ ส่วนสายการผลิตฮาร์ดแวร์ของ HP เองนั้นก็ยังเหมือนเดิม คือจะไม่กลับมาผลิตอีก
บางทีเราอาจจะได้เห็น webOS เกิดใหม่อีกครั้งภายใต้ความช่วยเหลือจากชุมชนโอเพนซอร์สก็ได้ครับ