Automobile
ฟอร์ดปฏิเสธข่าวลือที่ว่าจะเปลี่ยนระบบเบื้องหลัง Ford SYNC เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับสั่งงานภายในรถยนต์ จากของไมโครซอฟท์เป็น QNX ของแบล็คเบอร์รี่
กรรมการผู้จัดการของฟอร์ดกล่าวว่าบริษัทประเมินซัพพลายเออร์เสมอและไมโครซอฟท์ก็เป็นเพียงซัพพลายเออร์รายหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้แต่งงานกับฟอร์ดแต่อย่างใด ขณะนี้บริษัทกำลังจัดทำสเปคของ Ford SYNC รุ่นที่ 3 อยู่ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นแล้วก็จะส่งให้บริษัทต่างๆ ไปพิจารณาและส่งข้อเสนอกลับมาหาฟอร์ด ดังนั้นบริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกใช้ระบบของใครทั้งนั้น
กระทรวงคมนาคมของสหรัฐ ประกาศเริ่มตระเตรียมข้อบังคับที่ต้องการให้พาหนะขนาดเล็ก (light vehicle) คันใหม่แต่ละคันสื่อสารระหว่างกัน (vehicle-to-vehicle communication) ได้ ข้อเสนอนี้เป็นผลมาจากการทดสอบโดย National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) เป็นเวลาหนึ่งปี
เรโนลต์ (Renault) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส เผยต้นแบบรถไร้คนขับและแนวคิดรถมีอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กบินสำรวจสภาพจราจรติดขัด รายละเอียดมีดังนี้
ต้นแบบรถไร้คนขับนี้มีชื่อว่า Next Two สามารถขับหาช่องจอดและขับออกมารับผู้โดยสารได้เอง และรองรับการเชื่อมต่อ 4G ในตัว Next Two โดยได้รับการออกแบบตามแนวคิดที่ว่ารถในปี 2020 สามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง ผู้ขับสามารถสั่งให้รถมารับผ่านสมาร์ทโฟน และสามารถทำสิ่งต่างๆ อาทิ จองตั๋วภาพยนตร์ ประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ ให้เสร็จสิ้นได้ขณะนั่งอยู่ในรถที่ขับได้เองที่ความเร็วสูงสุด 30 กม./ชม. (ดูวิดีโอได้ข้างล่าง)
มีรายงานว่า Tim Cook และ Adrian Perica หัวหน้าฝ่ายจัดซื้อบริษัทของแอปเปิลได้เข้าพบกับ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla Motors และ SpaceX เมื่อช่วงต้นปี 2013 จนนำไปสู่การคาดการณ์ว่าแอปเปิลอาจมีแผนเข้าซื้อ Tesla Motors ก็เป็นได้
ตามช่วงเวลาดังกล่าวดูเผินๆ อาจเป็นแค่หนึ่งในดีลของแอปเปิลที่กำลังจะเปิดตัว iOS in the Car ในงาน WWDC ช่วงกลางปี แต่การมีส่วนร่วมของ Perica นั้นทำให้พอจะเดาได้ว่าการพบกันครั้งนี้อาจมากกว่าแค่มาสานสัมพันธ์กัน และในช่วงเวลาไล่กันก็มีนักวิเคราะห์ออกมาแนะนำว่าแอปเปิลควรเข้าซื้อ Tesla Motors อีกด้วย
Nokia US โพสต์วิดีโอทีเซอร์สั้นๆ โดยไม่มีภาพใดๆ แต่มีเสียงการสตาร์ตรถยนต์และรถยนต์เคลื่อนตัวออกไป
ในวิดีโอมีข้อความว่า Have you heard what's coming? และ See and hear what you've been missing ก่อนปิดท้ายด้วยโลโก้ Nokia และ Windows Phone
ลองมาเดากันดูครับว่าโนเกียหมายถึงอะไร (สื่อต่างประเทศเดาว่าน่าจะเป็น Lumia 929 ที่ขายกับเครือข่าย Verizon และมีฟีเจอร์ด้านการอัดเสียงที่โดดเด่น)
ที่มา - Nokia Conversation
Tata Motors ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากอินเดีย เซ็นสัญญากับซัมซุงในการพัฒนาระบบข้อมูล-ความบันเทิง (infotainment systems) ภายในรถยนต์
ปีหน้า Tata Motors จะออกรถยนต์ที่มีระบบ Drive Link Application ของซัมซุง ซึ่งจะประกอบด้วยระบบนำทาง, การรับโทรศัพท์อัตโนมัติ, ฟังเพลง และต่อเชื่อมกับอินเทอร์เน็ต
ก่อนหน้านี้ซัมซุงเคยมีสัญญาแบบเดียวกันกับ BMW และ Hyundai มาแล้ว
หนังสือพิมพ์ The Telegraph เปิดเผยเอกสารลับที่ระบุว่า สหภาพยุโรปจะพัฒนาระบบที่ตำรวจสามารถสั่งการจากส่วนกลางให้ดับเครื่องยนต์ของรถยนต์ได้ทันที
ถึงแม้ระบบสั่งดับเครื่องยนต์จากระยะไกลจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะผู้ผลิตรถยนต์บางรายได้พัฒนาและติดตั้งระบบนี้ในรถยนต์ของตนแล้ว อาทิ ฟีเจอร์ Stolen Vehicle Slowdown ในระบบนำทางอัจฉริยะและสั่งงานด้วยเสียงภายในรถยนต์ที่ชื่อ OnStar ของเครือรถยนต์ GM แต่เป้าหมายของสหภาพยุโรปคือจะทำให้ระบบนี้เป็นมาตรฐานในรถยนต์ทุกคันที่ขายในประเทศในสหภาพยุโรปและสามารถสั่งการจากตำรวจได้โดยตรง ไม่ใช่สั่งการจากผู้ผลิตรถยนต์
Lockheed Martin บริษัทอากาศยานและการป้องกันภัยสัญชาติอเมริกัน ได้ทำการทดสอบรถยนต์ลำเลียงสำหรับการทหารที่ขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติไร้คนขับ ได้เป็นผลสำเร็จ
การทดสอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม AMAS (Autonomous Mobility Appliqué System) ซึ่งว่าด้วยเรื่องของระบบยานยนต์อัตโนมัติของกองทัพสหรัฐอเมริกา โดยอาศัยการใช้งานเซ็นเซอร์ราคาประหยัดเข้าช่วย ซึ่งล่าสุดก็ประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถลำเลียงไร้คนขับผ่านเส้นทางชนบทในเขตพื้นที่ Fort Hood ในมลรัฐ Texas ทั้งนี้ได้มีการจำลองอุปสรรคของระบบนำทางในรูปแบบต่างๆ ทั้งทางแยก, วงเวียน, ยานพาหนะที่จอดกีดขวางและวิ่งผ่านไปมา รวมถึงหุ่นจำลองแทนผู้คนเดินถนนเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบด้วย
แอปเปิลพูดถึง iOS in the Car หรือระบบสั่งงาน และส่วนติดต่อผู้ใช้สำหรับใช้งาน iOS ร่วมกับหน้าจอบนรถยนต์มาตั้งแต่งาน WWDC เมื่อกลางปี 2013 แต่หลังจากโชว์ภาพแรกบนเวทีไป ก็ไม่มีข่าวคราวของ iOS in the Car ออกมาอีกเลย (บอกเพียงแต่ว่ายังทำอยู่)
ผ่านไปครึ่งปีกว่าๆ ก็มีข่าวคราวของ iOS in the Car ออกมาแล้ว โดยมาจากนักพัฒนาภายนอกที่รัน iOS in the Car มาให้ดู โดยชุดแรกเป็นตัวที่รันอยู่บน iOS 7.0.3
ส่วนติดต่อผู้ใช้ของ iOS in the Car บน iOS 7.0.3 นั้นมีส่วนหลักๆ อยู่ที่ขอบล่างสำหรับวางปุ่มโฮม ข้างกันมีปุ่มควบคุม และส่วนแสดงผลแบตเตอรี่, Wi-Fi ส่วนหน้าจอที่เหลือมีไว้สำหรับแสดงผลแอพโดยเฉพาะ ซึ่งในที่นี้ก็มีเพียงแผนที่เท่านั้น
รายละเอียดอื่นนอกเหนือจากส่วนติดต่อผู้ใช้มีดังนี้ครับ
QNX บริษัทลูกของ BlackBerry จริงๆ แล้วทำระบบปฏิบัติการแบบเรียลไทม์สำหรับงาน embedded อยู่ก่อน ล่าสุดบริษัทเปิดตัวแพลตฟอร์ม QNX Car สำหรับระบบความบันเทิงภายในรถยนต์ และรถยนต์รุ่นต้นแบบที่ใช้ Mercedes-Benz CLA45 AMG เป็นฐาน
QNX ดัดแปลงรถยนต์คันนี้โดยใส่ระบบ infotainment ของตัวเองเข้าไป หน้าจอของระบบออกแบบใหม่หมด มีฟีเจอร์อย่างการแสดงวิดีโอจากกล้องด้านหน้า-หลังของตัวรถ, ระบบนำทางแบบเรียลไทม์, การแจ้งเตือนสายเข้าและข้อความใหม่ รับสายหรือฟังข้อความโดยกดปุ่มเฉพาะที่พวงมาลัยรถยนต์, สั่งงานด้วยเสียงได้แม้เปิดเพลงอยู่, เช็คข้อมูลสถานะของตัวรถ
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ และบริษัทไอทีอย่างกูเกิลเริ่มพูดถึงการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งบางเจ้าได้เริ่มทดลองวิ่งไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเจ้าใหญ่รายไหนทำท่าจะขายจริงได้ในเร็ววันซักราย
ล่าสุดเป็น Induct Technology บริษัทผู้พัฒนาเกี่ยวกับหุ่นยนต์ และยานพาหนะ สัญชาติฝรั่งเศส ได้เปิดตัว Navia รถยนต์ไร้คนขับที่มีวางขายจริงเป็นรายแรกของโลกแล้ว
ตัว Navia นั้นไม่ได้เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลอย่างที่ผู้ผลิตรายอื่นกำลังพัฒนากัน แต่เป็นส่วนผสมระหว่างรถกอล์ฟกับมินิบัสที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งระบบ ทำความเร็วได้มากกว่า 12 ไมล์ต่อชั่วโมง บรรทุกได้ครั้งละ 8 คน และสามารถชาร์จไฟแบบไร้สาย โดยใช้การเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
เราเพิ่งเห็นข่าวคีย์บอร์ด Swype พอร์ตไปลงนาฬิกา Galaxy Gear ฝั่งคู่แข่ง SwiftKey ก็ไม่น้อยหน้า ออกคีย์บอร์ดเวอร์ชันสำหรับเครื่องเสียงติดรถยนต์บ้าง
SwiftKey ประกาศจับมือกับบริษัท Clarion ผู้ผลิตเครื่องเสียงติดรถยนต์ชื่อดังจากมาเลเซีย ออกคีย์บอร์ด SwiftKey สำหรับระบบความบันเทิงภายในรถยนต์รุ่น Clarion AX1 ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการ Android ตัวเต็มอยู่แล้ว (ตอบอีเมลและดู YouTube ได้จากแผงคอนโซลหน้ารถ)
SwiftKey ระบุว่าการใช้คีย์บอร์ดแบบลากนิ้วสำหรับแผงควบคุมหน้ารถ จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถป้อนข้อความเพื่อค้นหาเพลงหรือค้นหาข้อมูลได้สะดวกกว่าคีย์บอร์ดแบบนิ้วจิ้มมาก
NVIDIA ประกาศทำ Tegra K1 รุ่นพิเศษสำหรับช่วยประมวลผลข้อมูลในรถยนต์ไร้คนขับ แต่ก็คงอีกนานกว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์จริง วันนี้มาดูสินค้าที่น่าจะใกล้ตัวกันมากขึ้นดีกว่าครับ
NVIDIA จับมือค่ายรถ Audi ประกาศทำระบบความบันเทิงภายในรถยนต์ที่ใช้หน่วยประมวลผล Tegra หลายรุ่นดังนี้
ซัมซุงประกาศความร่วมมือกับบริษัทรถยนต์ BMW โชว์ฟีเจอร์ใหม่ของนาฬิกา Galaxy Gear สำหรับรถยนต์พลังไฟฟ้า BMW i3
นาฬิกา Galaxy Gear จะได้แอพชื่อ BMW i Remote สำหรับดูสถานะของรถยนต์พลังไฟฟ้าในด้านต่างๆ เช่น สถานะว่าเปิดปิดประตูแน่นหรือไม่, ดูสถานะแบตเตอรี่และสถานะการชาร์จของรถยนต์ในปัจจุบัน และเช็คได้ว่ารถยนต์จำเป็นต้องเข้าศูนย์บริการหรือไม่
นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดพิกัดที่ต้องการเดินทางไปด้วยเสียง พูดใส่ Galaxy Gear แล้วให้ส่งข้อมูลไปโชว์ที่หน้าจอของ BMW i3 ได้เลย
GM ยักษ์ใหญ่ของวงการรถยนต์ ประกาศทำ "รถยนต์ติด 4G" วางขายในสหรัฐอเมริกาช่วงกลางปีนี้ โดยจะเริ่มจากรถแบรนด์ Chevloret รุ่นใหม่ 10 รุ่น
รถยนต์ 4G จะสามารถเชื่อมต่อ 4G LTE กับเครือข่ายของ AT&T ในสหรัฐ จากนั้นจะกระจายสัญญาณผ่าน Wi-Fi ให้คนที่อยู่ในรถ (และรอบๆ รถ) สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ สูงสุด 7 ตัวพร้อมกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงระบบความบันเทิงผ่านอุปกรณ์พกพาได้ง่ายขึ้น
GM บอกว่ามีแผนจะขยายบริการนี้ไปนอกสหรัฐ โดยตอนนี้กำลังเจรจากับโอเปอเรเตอร์ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกอยู่
ที่มา - Technology Review
Qualcomm โชว์แสนยานุภาพของ Snapdragon 805 มาเยอะแล้ว คราวนี้เป็นคิวของ Snapdragon รุ่นเฉพาะทางอื่นๆ บ้างครับ
Snapdragon 602A เป็นหน่วยประมวลผลที่ตั้งใจมาลุยตลาดรถยนต์อย่างเต็มที่ สเปกคร่าวๆ ประกอบด้วยซีพียู Krait ควอดคอร์, จีพียู Adreno 320, ตัวประมวลผลสัญญาณ (DSP) Hexagon, รองรับโมเด็ม Qualcomm Gobi 9x15 3G/LTE เพื่อให้รถยนต์สามารถต่อเน็ตได้ง่าย
กูเกิลจับมือบริษัทรถสี่ค่ายใหญ่ ได้แก่ Audi, GM, Honda, และ Hyundai ก่อตั้ง Open Automotive Alliance (OAA) รูปแบบเดียวกับเมื่อตอนก่อตั้ง OHA สำหรับพัฒนาแอนดรอยด์สำหรับโทรศัพท์มือถือ โดยมี NVIDIA ร่วมพันธมิตรในฐานะผู้ผลิตฮาร์ดแวร์
เป้าหมายของ OAA คือการทำรถที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้สำเร็จภายในปี 2014 นี้ โดยคาดว่ารถคันแรกจะเริ่มเปิดตัวภายในปลายปีนี้
ข้อมูลของ OAA ยังมีไม่มากนัก แต่เราคาดเดาได้ว่ากูเกิลจะร่วมกับสมาชิกเพื่อออกแอนดรอยด์รุ่นที่ตรงกันในผู้ผลิตรถทุกราย ทำให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นได้โดยมี API กลางที่ตรงกัน
ที่มา - Open Automotive Alliance
นอกจากเปิดตัว Tegra K1 สำหรับอุปกรณ์พกพา ทาง NVIDIA ยังประกาศว่าเราจะได้เห็น Tegra K1 รุ่นที่ใช้กับรถยนต์ด้วย
NVIDIA บอกว่าจุดเด่นของ Tegra K1 คือสถาปัตยกรรมประมวลผลแบบเดียวกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ทำให้มันมีศักยภาพในการประมวลข้อมูลและสัญญาณต่างๆ ที่ได้จากกล้องหรือเซ็นเซอร์ของระบบช่วยเหลือการขับขี่ (advanced driver assistance systems - ADAS) นอกจากนี้มันยังสามารถใช้กับระบบความบันเทิงภายในรถเพื่อแสดงกราฟิกสามมิติชั้นสูงได้ด้วย (ต่อไปรถยนต์คงแข่งกันว่า แผงคอนโซลมีจีพียู 192 คอร์ รองรับ OpenGL)
Alan Mulally ซีอีโอของ Ford เพิ่งกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ต่อเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับในงาน IFA ที่ผ่านมา และนับถึงตอนนี้คล้อยหลังมา 4 เดือน Ford ก็เผยโฉมรถยนต์ไร้คนขับรถรุ่นต้นแบบออกมาให้เห็นแล้ว
รถต้นแบบของ Ford นั้นพัฒนาโดยใช้รถรุ่น Fusion Hybrid ซึ่งสามารถแล่นไปตามเส้นทางทดสอบได้เองโดยอาศัยชุดเซ็นเซอร์ตรวจจับเส้นทางและวัตถุภายนอก ซึ่ง Ford เผยว่าจะยังไม่รีบผลักดันรถยนต์ไร้คนขับนี้เข้าสู่ท้องตลาด แต่จะค่อยๆ ทยอยดึงเอาเทคโนโลยีตัวช่วยการขับอัตโนมัติ (ตัวอย่างเช่น ฟังก์ชันการเข้าจอดในซองอัตโนมัติที่มีให้เห็นมาแล้ว) มาใส่ในรถยนต์ที่จะวางขายจริงเรื่อยๆ ซึ่งคาดว่ากว่ารถยนต์ไร้คนขับที่มีฟังก์ชันสมบูรณ์จะได้ออกวางขายจริงน่าจะเป็นปี 2025
Honda Civic 2014 ที่กำลังจะวางขายในวันที่ 4 ธันวาคม จะมาพร้อมกับการเปิดตัวเทคโนโลยีระบบเชื่อมต่อรถยนต์ขั้นสูง ด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วแสดงที่แผงคอนโซลรถ ระบบดังกล่าวมีชื่อว่า HondaLink โดยได้รวมแอพพลิเคชั่นนำทางที่ทำงานแบบ cloud-based ซึ่งเป็นแอพตัวแรกที่พัฒนาโดยบริษัทผลิตรถยนต์ที่ใช้ข้อมูลจาก HERE Maps ของ Nokia โดยสามารถวางแผนการเดินทางด้วยสมาร์ทโฟนก่อนแล้วค่อยส่งข้อมูลไปยังตัวรถ
ในการเปิดตัวระบบนี้ สมาร์ทโฟนที่สามารถใช้งานได้มี iPhone รุ่น 5, 5S และ 5C โดย Android คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ในปีถัดไป และยังไม่มีข่าวใดๆเกี่ยวกับ Windows Phone ว่าจะรองรับระบบนี้ด้วยหรือไม่
Volvo เดินหน้าพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ โดยเตรียมนำรถยนต์ในขั้นพัฒนาออกทดสอบบนถนนจริง ตั้งเป้าให้ใช้งานได้จริงภายในปี 2017
Volvo ได้ประกาศความร่วมมือกับหน่วยงานของสวีเดนเพื่อเริ่มโครงการ Drive Me ซึ่งเป็นการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในเมือง Gothenburg โดยทาง Volvo ได้จัดส่งรถยนต์จำนวน 100 คันให้แก่นักขับที่ได้รับคัดเลือก เพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับรถยนต์อัตโนมัติดังกล่าวและรวบรวมข้อมูลนำกลับมาปรับปรุงระบบต่างๆ ของรถ โดยรถในโครงการ Drive Me ที่ถูกกระจายให้นักขับทั้ง 100 คน จะได้รับการทดสอบใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ทั้งในเขตเมือง หรือบนทางด่วนต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากที่สุด
บริษัทรถยนต์บางรายอย่าง Nissan และ Ford ออกมาประกาศเรื่องวิสัยทัศน์ของรถยนต์ไร้คนขับในอนาคตไปแล้ว แต่พี่ใหญ่อย่าง GM กลับ "เห็นต่าง" ไปครับ
Mike Robinson ผู้บริหารระดับสูงของ GM ไปให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการด้านคมนาคมของรัฐสภาสหรัฐ โดยเขาสะท้อนมุมมองของค่าย GM ว่ารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติยังไม่น่าจะเป็นจริงได้ในอนาคตที่มองเห็น (for the foreseeable future) และมนุษย์ยังต้องเป็นฝ่ายควบคุมยานพาหนะอยู่
แผนการของ "โนเกียยุคใหม่" หลังขายธุรกิจมือถือ ประกาศไว้ชัดว่าอนาคตของโนเกียคือ อุปกรณ์เครือข่าย NSN, ระบบแผนที่ HERE และธุรกิจการขายสิทธิใช้งานสิทธิบัตร
ข่าวนี้เป็นความเคลื่อนไหวของ HERE ครับ โดยโนเกียประกาศว่ารถยนต์ของ Mitsubishi Motors North America ที่จะวางขายในปี 2014 จะมีระบบแสดงข้อมูลสภาพจราจร, สภาพอากาศแบบเรียลไทม์, ราคาน้ำมันจาก HERE Traffic
โนเกียคุยว่าข้อมูลจาก HERE Traffic ครอบคลุมปั๊มน้ำมันกว่า 1 แสนแห่งในสหรัฐ, ข้อมูลสภาพจราจรกว่า 3 แสนไมล์ และข้อมูลสภาพอากาศอัพเดตทุก 30 วินาที กระบวนการส่งข้อมูลจะผ่านคลื่นวิทยุแบบ HD Radio ไปยังระบบ infotainment ของรถยนต์โดยตรง
ไม่ใช่แค่บรรดาบริษัทไอทีที่แห่กันทำนาฬิกามาลุยตลาดกันในปีนี้ เพราะแม้แต่บริษัทผลิตรถยนต์อย่าง Nissan ก็เป็นอีกรายที่ลงมาเล่นในตลาดเช่นกันในชื่อ Nismo
การที่ Nismo มาจากบริษัทผลิตรถยนต์ทำให้ฟีเจอร์หลักคือการเชื่อมต่อกับรถยนต์เพื่อแสดงข้อมูลรถอย่างความเร็วเฉลี่ย อัตราการบริโภคน้ำมันแบบเรียลไทม์ และข้อมูลของผู้ขับโดยวัดจากอัตราการเต้นหัวใจ รวมถึงการข้อความแจ้งเตือนจากในรถ และโซเชียลเน็คเวิร์คด้วย
แม้ว่าจะเป็นนาฬิกา แต่หน้าตาของ Nismo จะคล้ายกับกำไลข้อมือเสียมากกว่า นอกจากเชื่อมต่อกับรถแล้ว ยังเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธเพื่อดูข้อมูลที่เก็บจากนาฬิกาได้อีกด้วย สำหรับอายุการใช้งานของ Nismo นั้น Nissan เคลมว่าอยู่ได้เจ็ดวันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
Alan Mulally ซีอีโอบริษัทรถยนต์ Ford ขึ้นเวทีแถลงข่าวที่งาน IFA ประกาศวิสัยทัศน์ของรถยนต์ในอนาคต ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายและอุปกรณ์รอบตัว และจะเป็นยุคของรถยนต์ที่ขับเองโดยอัตโนมัติ
เขาบอกว่าเห็นด้วยกับแนวทางของค่ายรถยนต์คู่แข่งและบริษัทอย่างกูเกิลในเรื่องรถยนต์ไร้คนขับ เทคโนโลยีพวกนี้มาแน่แต่ยังพูดยากว่าเป็นเมื่อไร เพราะยังมีรายละเอียดที่ต้องแก้ปัญหาอีกมาก ทั้งในแง่เทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน และราคาที่ถูกพอสำหรับผู้บริโภค
Ford บอกว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีการเชื่อมต่อภายในรถแบบค่อยเป็นค่อยไป และจะทยอยนำมาใส่ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ทุกปี