หลังจากเปิดตัว Android Auto ในงาน Google I/O ล่าสุดกูเกิลปรับหน้าเว็บ Android Auto Developer Overview โดยเพิ่มเติมข้อมูลมาอีกหลายประการ

เมื่อสองเดือนก่อนมีข่าวออกมาว่า Baidu กำลังพัฒนารถยนต์ไร้คนขับอยู่ แต่ก็ไม่มีข้อมูลอะไรไปมากกว่านั้น ล่าสุดโฆษกของ Baidu ยืนยันแล้วว่าบริษัทได้เซ็นสัญญาร่วมกับ BMW ในการพัฒนารถดังกล่าว

Baidu กล่าวว่าจะพัฒนารถยนต์แบบ Highly Automated Driving (HAD) โดยจะเจาะตลาดประเทศจีนโดยเฉพาะ ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีแผนที่สามมิติจาก Baidu และคาดว่าจะสามารถโชว์รถต้นแบบได้ในอีกสามปีข้างหน้า

ที่จริงแล้วรถยนต์นี้ไม่ใช่รถยนต์ไร้คนขับ แต่จะเป็นรถอัจฉริยะมากกว่า โดยมันสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้โดยที่ไม่ต้องสั่ง เช่นจอดรถอัตโนมัติหรือการแล่นไปเรื่อยๆ บนทางหลวง

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาถือเป็นวันแรกที่ทางการ California อนุญาตให้ผู้ผลิตรถยนต์ไร้คนขับ นำรถของพวกเขาออกวิ่งทดสอบจริงบนถนนสาธารณะได้อย่างเป็นทางการ หลังมีการผ่านกฎบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม

Google ได้เล่าความคืบหน้าของการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของตนเอง หลังจากที่ได้เผยโฉมหน้าตารถยนต์รุ่นต้นแบบเวอร์ชันทำเองมาให้เห็นกันสักพักแล้ว (ก่อนหน้านี้ Google ใช้วิธีการดัดแปลงรถยนต์ที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาดมาติดตั้งเซ็นเซอร์และระบบซอฟต์แวร์เพิ่มเข้าไป) โดยล่าสุดกำลังจะมีการนำรถรุ่นต้นแบบนี้ไปทดสอบในพื้นที่ศูนย์วิจัยของ NASA

หลังจากที่ประกาศไปตั้งแต่ช่วงต้นปีสำหรับระบบ CarPlay ที่เป็นแพลตฟอร์มของ iOS สำหรับการทำงานบนรถยนต์ส่วนตัวของ Apple แต่ยังไม่มีสินค้าจริง และถึงขั้นเป็นข่าวลือว่าชะลอการเปิดตัวออกไป มาบัดนี้ รถที่ใช้ระบบ CarPlay รุ่นแรกของโลกก็ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็คือ FF จากผู้ผลิตรถสปอร์ตหรูชื่อดัง Ferrari นั่นเอง

สำหรับ Ferrari FF ออกแบบโดย Pininfarina บริษัทออกแบบรถให้กับ Ferrari โดยเป็นรถแบบสี่ที่นั่ง และขับเคลื่อนด้วยระบบ 4 ล้อ ซึ่งถือว่าเป็นรถคันแรกของบริษัทที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อดังกล่าว

เปิดตัวไปตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2014 สำหรับแพลตฟอร์ม iOS บนรถของแอปเปิลอย่าง CarPlay ที่สัญญาไว้ว่าจะมีผู้ผลิตออกรถมารองรับแน่ๆ ภายในปีนี้ แต่จนถึงบัดนี้ย่างเข้าปลายปี จำนวนรถที่รองรับ CarPlay ก็ยังไม่เริ่มนับหนึ่งเสียที

ความล่าช้าของ CarPlay คาดกันว่ามาจากความไม่แน่นอนของผู้ผลิตรถยนต์ที่เริ่มเอนใจให้แพลตฟอร์มรถยนต์ของกูเกิลอย่าง Android Auto ที่บริษัทสำรวจ IHS คาดการณ์ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มที่กินส่วนแบ่งได้มากกว่า โดยบริษัทที่เคยบอกว่าจะออกรถรองรับ CarPlay ในปี 2014 ทั้งห้าราย มีสามรายที่เลื่อนการเปิดตัวออกไปเป็นปีหน้าแล้ว ได้แก่ Mercedes-Benz, Volvo และ Honda

หากยังจำกันได้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กูเกิลได้โชว์รถไร้คนขับขนาด 2 ที่นั่งที่ควบคุมด้วยปุ่มเพียงอย่างเดียว ล่าสุดทางกูเกิลมีแผนจะติดพวงมาลัย คันเร่งและเบรกให้กับรถไร้คนขับขนาดเล็กข้างต้นสำหรับวิ่งทดสอบในรัฐแคลิฟอร์เนีย

เนื่องมาจากกฎหมายของรัฐบอกว่ามนุษย์จะต้องสามารถเข้าควบคุมรถไร้คนขับได้ตลอดเวลา ดังนั้นกูเกิลจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายข้อนี้ และติดตั้งส่วนควบคุมเล็กๆ สำหรับมนุษย์เข้าไปเพื่อทดลองวิ่ง โดยกูเกิลหวังว่าจะสามารถนำรถรุ่นเล็กนี้ไปทดลองวิ่งบนถนนจริงได้ใน 1-2 ปีข้างหน้า

สหราชอาณาจักรผ่านกฎหมายอนุญาตให้รถยนต์ไร้คนขับวิ่ง "ทดสอบ" บนถนนจริงได้แล้ว โดยกำหนดเริ่มในเดือนมกราคมปีหน้า แต่อนุญาตให้วิ่งในเมืองเพียง 3 เมืองเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งเกาะ

กระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้เลือกเมืองทั้ง 3 ต่อไป โดยทุกเมืองจะได้เงินรวมกันทั้งหมด 17 ล้านเหรียญ เป็นเสมือนสินน้ำใจสำหรับการให้รถไร้คนขับมาวิ่งทดสอบในเมือง ทั้งนี้หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สหราชอาณาจักรจะเป็นที่แรกในยุโรปที่อนุญาตให้รถยนต์ไร้คนขับมาวิ่งบนถนนจริงๆ และเป็นที่สี่ในโลกตามหลังรัฐเนวาดา ฟลอริดาและแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา

ไม่ได้มีแค่บริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในยุโรปหรือแม้แต่กูเกิลที่กำลังพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเพื่อใช้ในเชิงพานิชย์เพียงอย่างเดียวแล้ว เมื่อนาวิกโยธินสหรัฐได้ทดสอบรถออฟโร้ดไร้คนขับสำเร็จเป็นครั้งแรกแล้ว โดยจุดประสงค์ในเบื้องต้นเพื่อขนอุปกรณ์และทหารที่บาดเจ็บในสนามรบ

รถออฟโร้ดไร้คนขับนี้มีชื่อเรียกว่า Ground Unmanned Support Surrogate (GUSS) โดยตัวรถถูกติดตั้งด้วยเซ็นเซอร์ LIDAR กล้อง และระบบแผนที่ในการขับเคลื่อนด้วยตัวเอง และสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Michael Halbherr ซีอีโอของ HERE บริษัทลูกภายใต้โนเกีย ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ GeekWire ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

ตัวแทนจาก Baidu ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Tech in Asia ว่าทางบริษัทกำลังพัฒนารถยนต์ไร้คนขับอยู่ เพียงแต่เป็นการพัฒนาในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น โดยการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีข่าวลือดังกล่าวจากเว็บไซต์ในประเทศจีนไปเมื่อไม่นาน ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวรถครับ

ก่อนหน้านี้ทางกูเกิลก็ได้โชว์ต้นแบบรถยนต์ไร้คนขับของตนเองแล้ว ใครสนใจก็ลองไปชมกันได้

ที่มา Tech in Asia

หนังสือพิมพ์ The Guardian สรุปเนื้อหาจากรายงานภายในของ FBI หรือกรมสอบสวนกลางของสหรัฐ (รายงานฉบับนี้จำกัดการเผยแพร่ แต่สามารถเข้าถึงได้ถ้ายื่นคำร้องผ่านกระบวนการทางกฎหมาย) ว่า FBI มอง "รถยนต์ไร้คนขับ" อาจกลายเป็นเครื่องมือของกองกำลังติดอาวุธหรือกลุ่มก่อการร้ายในอนาคต

รูปแบบการโจมตีด้วยรถยนต์ไร้คนขับมีตั้งแต่ การตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องจ้องมองถนนหรือจับพวงมาลัย และสามารถยิงปืนใส่รถยนต์ที่ติดตามได้สะดวกมากขึ้น, ผู้ก่อการร้ายเปลี่ยนระบบนำทางให้ไม่สนใจสัญญาณไฟจราจร และขั้นร้ายแรงที่สุดคือทำเป็น "คาร์บอมบ์" ขนระเบิดเข้าโจมตีเป้าหมายโดยไม่ต้องใช้คนเลย

จินตนาการถึงเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวก เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์เสมอมา ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดทางความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้มนุษย์ไม่สามารถทำให้จินตนาการเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงได้ เป็นได้เพียงความฝันที่รอวันที่จะกลายเป็นจริงขึ้นมาในอนาคต และหนึ่งนวัตกรรมที่เคยเป็นเพียงจินตนาการอย่างรถยนต์ไร้คนขับ ทุกวันนี้ก็ใกล้ที่จะเป็นแค่อดีตและถูกนำมาวิ่งจริงบนท้องถนนเข้าไปทุกเมื่อแล้ว

ที่มาที่ไปและจุดเริ่มต้น

ใช่ว่ารถยนต์ไร้คนขับเพิ่งเกิดมาไม่นาน จริงๆ แล้วความคิดริเริ่มในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเกิดขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1920s หรือไม่นานหลังจากรถยนต์เริ่มถูกผลิตเป็นสินค้าจำนวนมากด้วยซ้ำไป

เมื่อวานนี้ (7 กรกฎาคม) ตามเวลาประเทศไทย Vertu ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือสำหรับตลาดหรูของอังกฤษ ประกาศลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์หรูชื่อดังของอังกฤษ Bentley เป็นระยะเวลานาน 5 ปี เพื่อสร้างโทรศัพท์มือถือหรูสำหรับแฟนๆ และผู้ใช้รถยนต์ Bentley โดยเฉพาะ

ภายใต้ข้อตกลงนี้ Vertu จะเป็นผู้ผลิตมือถือให้กับ Bentley แต่เพียงรายเดียว และจะมีรูปแบบของการออกแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละปีตลอดอายุของข้อตกลง โดยสำหรับเครื่องที่เกิดจากความร่วมมือในการผลิตนี้ จะมีเนื้อหาพิเศษที่มาจากทางค่ายรถ Bentley ส่งให้กับผู้ใช้โดยเฉพาะ (เข้าใจว่าผ่านแอพอย่าง Vertu Life) โดยการออกแบบเครื่อง จะเป็นความร่วมมือทั้งทีมของทาง Vertu และ Bentley ออกแบบร่วมกัน

หากใครติดตามข่าวคราวเรื่องรถยนต์ไร้คนขับอยู่บ้าง คงจะพอทราบว่าขณะนี้ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายเจ้า รวมไปถึงกูเกิล กำลังพัฒนารถยนต์ไร้คนขับอยู่ ล่าสุดหลังจากที่ปล่อยให้ทางกูเกิลโชว์ของมาพอสมควร Mercedes-Benz ได้โชว์รถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง (autobahn) บ้าง โดยในการสาธิตครั้งนี้ รถสามารถวิ่งได้เฉพาะทางหลวงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ศึกระหว่าง iOS และ Android ในสมรภูมิใหม่อย่างระบบอำนวยความสะดวกและความบันเทิงภายในรถยนต์เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ต่างฝ่ายต่างหาแนวร่วมผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ตลอดจนค่ายรถยนต์มาเป็นพันธมิตรสร้างแพลตฟอร์มของตนเองให้เข้มแข็ง และการเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดเป็นทางฝั่ง Apple ที่ประกาศข่าวว่ามีบริษัทผลิตรถยนต์อีก 9 ยี่ห้อที่ตกลงร่วมแผนงาน CarPlay ของ Apple แล้ว นำโดยค่ายรถดังอย่าง Audi, Chrysler และ Dodge

ปีนี้เราเห็นแพลตฟอร์มสำหรับ connected car ออกสู่ตลาดกันเยอะมาก ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, QNX Car, Windows in the Car รวมถึงแพลตฟอร์มเฉพาะค่ายอย่าง Ford Sync หรือ Toyota Entune ที่ออกมาได้สักระยะแล้ว

ฝั่งโลกโอเพนซอร์สเองที่ซุ่มทำเรื่องนี้มานาน ภายใต้การนำของ Linux Foundation ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Automotive Grade Linux (AGL) รุ่นแรกกับเขาบ้าง

ยักษ์ใหญ่ของวงการรถยนต์ Toyota ประกาศความร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ของวงการคอมพิวเตอร์ IBM ในการพัฒนา "แพลตฟอร์มสำหรับพัฒนาแอพพลิเคชันในรถยนต์" (ต้นฉบับใช้คำว่า application development platform) สำหรับบริการที่เรียกว่า T-Connect ของ Toyota

แพลตฟอร์มนี้ส่วนหนึ่งในแผนการใหญ่ชื่อ Toyota Open Vehicle Architecture โดยนักพัฒนาแอพมือถือและเจ้าของคอนเทนต์สามารถนำบริการของตัวเองมาลงรถยนต์ของ Toyota ได้ง่ายๆ ผ่าน SDK และอีมูเลเตอร์ที่จะแจกจ่ายในอนาคต

โครงการนี้เป็นผลงานของฝ่าย Global Automotive Industry ใน IBM โดยจะใช้มิดเดิลแวร์ IBM Lotus Expeditor for Automotive เป็นฐานการพัฒนา ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะเสร็จเมื่อไรและใช้กับรถยนต์รุ่นใดบ้าง

ในงาน Google I/O ครั้งที่ผ่านมา เราเห็นกูเกิลเปิดตัวพันธมิตรใหม่จำนวนมากที่ประกาศเข้าร่วม Android Automotive Alliance (เดิมทีมีแค่ Audi, GM, Hyundai, Honda, NVIDIA)

LG เป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่อีกรายที่เข้าร่วม Open Automotive Alliance โดยบริษัทนำระบบความบันเทิงและนำทาง (audio, visual and navigation หรือ AVN) ที่รองรับ Android Auto มาแสดงในงาน Google I/O ด้วย ซึ่ง LG ประกาศว่าจะวางขายจริงในปี 2015

นอกจาก LG แล้วยังมี Fujitsu Ten บริษัทลูกของ Fujitsu ที่ทำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในรถยนต์ ซึ่งประกาศวางขายอุปกรณ์ที่รองรับ Android Auto ในปี 2015 เช่นกัน

หลังการเปิดตัวของ Android Auto และผู้ผลิตรถยนต์ในกลุ่ม Open Automotive Alliance กันไปแล้ว ล่าสุดมีความคืบหน้าจากสองผู้ผลิตที่เข้าร่วมโครงการเป็นที่เรียบร้อย

โดยวอลโว่เป็นค่ายแรกที่ประกาศว่า Android Auto จะพร้อมให้ใช้งานในรถยนต์รุ่น XC90 (รุ่นเดียวกับที่วอลโว่โชว์ CarPlay ไป) ที่วอลโว่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Paris Motor Show เดือนตุลาคมปีนี้ ดังนั้นทำให้รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์รุ่นแรกของวอลโว่ที่รองรับการใช้งาน CarPlay และ Android Auto พร้อมกันสองระบบ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานจากอุปกรณ์ของตัวเองได้อย่างอิสระในรถยนต์รุ่นเดียว

ในงาน Google I/O เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กูเกิลเปิดตัวแพลตฟอร์ม Android ในอุปกรณ์ใหม่ๆ ชุดใหญ่ ได้แก่ Android TV สำหรับทีวีและไมโครคอนโซล, Android Wear สำหรับอุปกรณ์สวมใส่ได้ และ Android Auto สำหรับรถยนต์

กูเกิลมีเวลาพูดถึง Android Auto บนเวที Keynote ไม่เยอะนัก แต่รายละเอียดจริงๆ อยู่ในเซสชันชื่อ Android Auto: Developers, start your engines! ครับ

เปิดตัวตามข่าวลือ สำหรับระบบปฏิบัติการในรถยนต์ และทาง Google ใช้ชื่อว่า Android Auto โดยระบบปฏิบัติการนี้มี 3 ฟีเจอร์หลักคือระบบนำทาง (แน่นอนว่าผ่าน Google Maps) , การติดต่อสื่อสาร และการเล่นเพลง และที่สำคัญคือพร้อมรับคำสั่งเสียงตลอดเวลา

Android Auto ไม่ใช่ระบบที่ทำงานแยกต่างหาก (standalone) ในรถยนต์ แต่จำเป็นต้องอาศัยสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในการทำงาน พูดอีกอย่างคือเสมือนยกแอนดรอยด์ขึ้นไปทำงานบนคอนโซลรถยนต์ และตัดให้เหลือเพียงระบบแผนที่และความสามารถในการนำทาง โทรศัพท์และเล่นเพลง โดยสั่งงานผ่าน Google Now เท่านั้น (ใช้อินเตอร์เฟซของ Google Now)

ข่าวคราวเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับเป็นที่รับรู้กันในวงกว้างเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ Google รวมถึงค่ายผู้ผลิตรถยนต์หลายรายต่างแข่งขันกันพัฒนารถยนต์ในรูปแบบของตนเอง โดยมีแนวคิดหลักคือการสร้างรถยนต์ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์อันเปรียบเสมือนหูตาของรถ และส่วนประมวลผลที่เป็นดั่งสมองสั่งการและตัดสินใจว่ารถควรเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด

เมื่อต้นปีนี้ กูเกิลประกาศโครงการ Open Automotive Alliance (OAA) จับมือค่ายรถ Audi, GM, Honda, และ Hyundai ทำระบบปฏิบัติการสำหรับรถยนต์ จากนั้นข่าวก็เงียบหายไป

ล่าสุดมีข่าวลือว่ากูเกิลพร้อมเปิดตัวระบบปฏิบัติการที่ว่าในงาน Google I/O 2014 ปลายเดือนนี้แล้ว โดยชื่อที่ใช้ระหว่างการพัฒนาคือ Google Auto Link (GAL) แต่ชื่อจริงอาจเปลี่ยนแปลงได้

ตามข่าวบอกว่าระบบปฏิบัติการ Auto Link จะไม่ทำงานอยู่ภายในรถยนต์ แต่จะเป็นตัวเชื่อม (projected) สมาร์ทโฟน Android ให้ควบคุมหน้าจอและระบบแสดงผลของรถยนต์ได้ (คล้ายกับ AppLink ของ Ford)

ผู้อ่าน Blognone หลายท่านอาจจะคุ้นเคยกับ Uber ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับไว้เรียกบริการรถหรู ซึ่งในจีนก็มีบริการลักษณะแบบเดียวกัน โดยผู้ให้บริการที่มีชื่อว่า Yongche.com ซึ่งปัจจุบันให้บริการมากกว่า 57 เมืองในประเทศจีนและฮ่องกง และถือเป็นผู้เล่นรายสำคัญสำหรับตลาดจีน โดยในปัจจุบัน Yongche.com ยังไม่เคยขยายกิจการออกไปนอกประเทศจีนแต่อย่างใด