Meta ออก Facebook Graph API v19.0 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ Facebook Groups API ที่ใช้เข้าถึงเนื้อหาใน Facebook Groups ถูกปรับสถานะเป็น "ล้าสมัย" (deprecated) และจะปิดการใช้งานในอีก 90 วันข้างหน้า
Meta อธิบายว่าที่ผ่านมา เครื่องมือโซเชียลภายนอกหลายตัวเรียกใช้ Groups API สำหรับให้เพจส่ง Private Replies ไปยังบุคคลที่โพสต์ใน Groups โดยตรง ซึ่ง Meta บอกว่าจะเปิดช่องทางใหม่ให้นักพัฒนาแอพโซเชียลเหล่านี้ใช้งานโดยไม่ต้องผ่าน Groups API
อย่างไรก็ตาม TechCrunch รายงานว่าเครื่องมือจัดการโซเชียลหลายตัวยังใช้ Groups API สำหรับโพสต์ข้อความอัตโนมัติลง Groups แบบตั้งเวลาล่วงหน้า ซึ่งการปิด API นี้จะทำให้ช่องทางนี้ใช้งานไม่ได้อีกต่อไป กระทบกับลูกค้าจำนวนมาก
Facebook มีอายุครบ 20 ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากจุดเริ่มต้นของโปรแกรมนำข้อมูลนักศึกษามาจัดระเบียบใหม่ จนมาถึงการเป็นบริษัทชื่อ Meta Platforms เพื่อมุ่งสู่โลกเสมือนยุคใหม่ พร้อมมูลค่ากิจการที่เพิ่งทำสถิติสูงสูดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
Mark Zuckerger ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Facebook และ Meta ปีนี้นอกจากเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ เป็นรูปที่เขาใช้ตั้งแต่ยังเป็น TheFacebook ก็โพสต์คลิปวิดีโอย้อนเวลาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของ Meta โดยบอกว่าตลอดเส้นทาง มีผู้คนอัศจรรย์มากมายเข้าร่วมและสร้างสิ่งเจ๋ง ๆ เพิ่มขึ้นตลอด ตอนนี้เราก็ยังเป็นเช่นนั้น และจะมีสิ่งดี ๆ ออกมาอีก
ราคาหุ้นของ Meta Platforms บริษัทแม่ของ Facebook, Instagram ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ 20.32% ทำให้ราคาหุ้นปิดการซื้อขายที่ 474.99 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำสถิติราคาสูงสุดของบริษัท และมีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นหรือ Market Cap. เพิ่มขึ้น 1.97 แสนล้านดอลลาร์ เป็นสถิติใหม่สูงสุดภายในวันเดียว แซง Amazon เมื่อปี 2022 ซึ่งปีเดียวกัน Apple ก็ทำสถิติไปก่อนไม่กี่วัน
ที่น่าสนใจคือราคาหุ้น Meta เองก็เจอสถานการณ์มูลค่าลดลงมากที่สุดในวันเดียวมาแล้วเช่นกันในปี 2022 ซึ่งบริษัทก็ใช้เวลา 2 ปี จนราคาหุ้นกลับมาทำสถิติใหม่สูงสุดได้ โดยตอนนี้มีมูลค่ากิจการ 1.22 ล้านล้านดอลลาร์
Meta เป็นบริษัทล่าสุดที่แสดงความเห็นโจมตีนโยบายใหม่ของ App Store และ iOS ที่แอปเปิลปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามกฎหมาย DMA ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป
โดยซีอีโอ Mark Zuckerberg พูดถึงเรื่องนี้ในช่วงแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุดบอกว่า เขาไม่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงแบบใหม่นี้ Meta จะต้องทำอะไรเพิ่มเติมที่ต่างจากเดิม เนื่องจากความยุ่งยากที่แอปเปิลกำหนดออกมาในรายละเอียด และเขาก็ไม่คิดว่านักพัฒนาส่วนใหญ่จะเลือกย้ายแอปไปอยู่สโตร์อื่น เพราะขั้นตอนที่แอปเปิลกำหนดนั้นยุ่งยากสร้างภาระเป็นอย่างมาก
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta เปิดเผยข้อมูลในช่วงแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ที่รายได้เติบโตสูง และประกาศจ่ายเงินปันผลกับผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรก เกี่ยวกับ Threads แพลตฟอร์มโซเชียลเน้นตัวหนังสือที่ออกมาแข่งกับ X หรือ Twitter เดิม
เขาบอกว่าตอนนี้ Threads มีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) มากกว่า 130 ล้านบัญชีแล้ว และการเติบโตยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขนี้สูงกว่าในช่วงแรกที่แอปเปิดตัวและทำสถิติผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วก็ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
Meta รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2023 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 40,111 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นรายได้จากโฆษณา 38,706 ล้านดอลลาร์ รายได้อื่นของแอป 334 ล้านดอลลาร์ และรายได้ Reality Labs 1,071 ล้านดอลลาร์ โดยมีกำไรสุทธิ 14,017 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เฉพาะธุรกิจ Reality Labs ยังคงขาดทุนมากขึ้นเป็น 4,646 ล้านดอลลาร์
Mark Zuckerberg ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Meta กล่าวในแถลงผลประกอบการว่าเป็นอีกไตรมาสที่ดี ทั้งจากชุมชนและธุรกิจที่ยังคงเติบโต โดยบริษัทมีความก้าวหน้าทั้งด้าน AI และ Metaverse
จำนวนผู้ใช้งาน Facebook เป็นประจำทุกเดือน (MAUs) เพิ่มขึ้นเป็น 3,065 ล้านบัญชี ส่วนจำนวนรวมทุกแพลตฟอร์มในเครือมี 3.98 พันล้านคน
บริษัทวิจัยตลาดแอป Appfigures รายงานข้อมูลน่าสนใจของสถิติการดาวน์โหลดแอปในเดือนธันวาคม 2023 พบว่า Threads แอปโซเชียลเน้นตัวหนังสือของ Meta ที่ทำออกมาแข่งกับ X/Twitter มีจำนวนการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับตัวเลขเดือนพฤศจิกายน มีจำนวนดาวน์โหลดรวม 28 ล้านครั้ง (iOS 12 ล้าน, Google Play 16 ล้าน)
Meta ปล่อยโมเดล Code Llama ขนาด 70B หลังจากปีที่แล้วปล่อยรุ่นใหญ่สุดอยู่ที่ 34B เท่านั้น โดยตอนนี้ยังไม่บอกรายละเอียดนัก นอกจากระบุว่าคะแนนทดสอบ HumanEval อยู่ที่ 67.8 แซงหน้า GPT-4 (67.0) และ Gemini Pro (67.7) โดยระบบอื่นๆ ที่ได้คะแนนสูงกว่านี้มักใช้ GPT-4/GPT-3.5 ร่วมกับเทคนิคอื่นๆ เพื่อให้ทำคะแนนได้สูงขึ้น
โมเดลที่ปล่อยออกมามี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นพื้นฐานสำหรับใช้งานทั่วไป, รุ่นภาษาไพธอนโดยเฉพาะ, และรุ่น Instruct สำหรับรับคำสั่งเพื่อเขียนโปรแกรมตาม รุ่นที่รายงานคะแนน HumanEval นั้นคือรุ่น Instruct
โมเดลเหล่านี้ใช้งานได้ฟรีแบบมีข้อจำกัด โดยห้ามใช้งานกับองค์กรที่มีผู้ใช้เกิน 700 ล้านคนต่อเดือน
Meta Platforms บริษัทแม่ของ Facebook ซึ่งเปลี่ยนชื่อบริษัทตั้งแต่ปี 2021 เพื่อสะท้อนวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นบริษัท Metaverse แต่ผ่านมาเกือบสามปี ส่วนธุรกิจ Reality Labs ที่รับผิดชอบด้าน Metaverse ยังมีรายได้น้อยกว่า 1% ของรายได้รวมทั้งหมด ก็อาจสะท้อนว่าตลาดโลกเสมือนนั้นยังไม่ได้ออกสู่กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปแบบธุรกิจโซเชียลมีเดีย
Meta ประกาศเพิ่มการจำกัดเกี่ยวกับ DM สำหรับผู้ใช้งานวัยรุ่น มีผลทั้งใน Facebook และ Instagram เพื่อป้องกันคนแปลกหน้า DM หากอย่างไม่พึงประสงค์ เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้จำกัดการรีเควสเพียง 1 ข้อความ จนกว่าจะตอบรับข้อความจึงสามารถสนทนาต่อได้
โดยมีผลทันทีตั้งแต่วันนี้ จากเดิมผู้ใหญ่ (อายุ 18 ขึ้นไป) จะไม่สามารถ DM หาวัยรุ่นที่ไม่ได้ติดตามได้ การจำกัดแบบใหม่นี้จะมีผลกับผู้ใช้งานทุกช่วงอายุ โดยผู้ใช้งานอายุต่ำกว่า 16 ปี (หรือ 18 ปี ในบางประเทศ) จะไม่สามารถรับ DM ได้จากคนที่ไม่ได้ติดตาม ไม่ว่าจะอายุเท่าใด การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลต่อการถูกดึงเข้ากลุ่มแชทด้วย
Meta ประกาศว่าเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายกำกับดูแลแพลตฟอร์มออนไลน์ของกลุ่มประเทศ EU หรือ Digital Markets Act (DMA) จึงได้เพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ใช้งานในการควบคุมบริการและฟีเจอร์ต่าง ๆ มีผลเฉพาะผู้ใช้งานในประเทศกลุ่ม EU, EEA และสวิตเซอร์แลนด์
ทางเลือกที่เพิ่มเติมมามีดังนี้
Mark Zuckerberg เปิดเผยว่าตอนนี้ทีม AI ของบริษัท Meta กำลังเทรนโมเดล Llama 3 บนโครงสร้างพื้นฐานคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่จะมีจีพียู NVIDIA H100 เพิ่มเป็น 350,000 ตัวภายในสิ้นปี 2024 และถ้านับจีพียูตัวอื่นๆ มารวมด้วย จะเทียบได้กับการมี H100 จำนวนรวม 600,000 ตัว
ตอนนี้ Meta มีทีมพัฒนา AI สองทีมคือ Fundamental AI Research (FAIR) ที่เน้นงานวิจัย และ GenAI ที่เพิ่งตั้งเมื่อต้นปี 2023 เน้นพัฒนาฟีเจอร์ AI ให้กับบริการในเครือ อย่าง WhatsApp, Messenger, Instagram
Sheryl Sandberg อดีตซีโอโอ Meta และ Facebook ประกาศว่าหลังจากลาออกจากตำแหน่งซีโอโอมาระยะเวลาหนึ่ง เหลือเฉพาะบทบาทหน้าที่กรรมการบอร์ดบริษัท เพื่อดูแลการส่งต่องานให้กับทีมบริหารใหม่ ซึ่งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้พิสูจน์ว่า Meta มีความพร้อมสำหรับอนาคตแล้ว จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะถอยออกมาอีกก้าว
โดย Sheryl Sandberg จะลาออกจากกรรมการบอร์ดของ Meta และรับตำแหน่งที่ปรึกษาของบริษัท มีผลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ได้แสดงความเห็นขอบคุณในโพสต์ของ Sandberg ถึงการมีส่วนร่วมที่พาบริษัทและชุมชนเดินทางมาตลอดกว่า 14 ปี
มีรายงานฟีเจอร์ใหม่ในแอป Facebook บนสมาร์ทโฟนชื่อว่า Link History มีผลเฉพาะการใช้งานผ่านแอปบน iPhone และ Android โดย Meta ระบุว่าฟีเจอร์นี้กำลังทยอยอัพเดตให้ผู้ใช้งานทั่วโลก ฉะนั้นบางคนอาจยังไม่เห็นฟีเจอร์นี้ในตอนนี้
การทำงานก็เป็นไปตามชื่อโดย Facebook จะแสดงประวัติลิงก์ที่ผู้ใช้งานเคยเปิดดูผ่านเบราว์เซอร์ภายในแอป (In-app browser) เก็บข้อมูลย้อนหลัง 30 วัน
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ประกาศว่า Threads แพลตฟอร์มโซเชียลตัวหนังสือ ที่หวังแข่งขันกับ X ตอนนี้เริ่มให้บริการในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU แล้ว ซึ่งช้ากว่าประเทศอื่นทั่วโลก 5 เดือน ตามที่มีรายงานก่อนหน้านี้
สาเหตุที่ Threads ให้บริการใน EU ช้ากว่าที่อื่นนั้น Meta ไม่ได้ออกมาให้เหตุผล แต่คาดเดาว่ากฎระเบียบของ EU มีข้อกำหนดหลายอย่างที่ทำให้ Meta ต้องปฏิบัติตาม โดยส่วนที่สำคัญคือการเปิดให้ผู้ใช้งานใน EU เลือกสร้างโปรไฟล์ที่เชื่อมต่อกับบัญชี Instagram เดิม หรือเลือกสร้างโปรไฟล์ใหม่ไปเลยก็ได้
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล ร่วมมือกับ Meta, Qualcomm และบริษัทเทคโนโลยีอีก 7 แห่ง จัดตั้งกลุ่มเพื่อผลักดันระบบนิเวศดิจิทัลแบบเปิด เรียกย่อว่า CODE (Coalition for Open Digital Ecosystems) เป้าหมายเพื่อโปรโมตแพลตฟอร์มและระบบเปิด รองรับการสร้างนวัตกรรมเพื่อการเติบโตในภูมิภาคยุโรป
กลุ่ม CODE บอกว่าจะทำงานร่วมกับองค์กรการศึกษา การเมือง และบริษัทต่าง ๆ เพื่อผลักดันแพลตฟอร์มแบบเปิดในยุโรปควบคู่ไปกับกฎหมายตลาดดิจิทัล (Digital Markets Act - DMA) ในกลุ่มประเทศ EU ที่กำหนดให้แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากและเป็นระบบปิดซึ่งเรียกว่า gatekeeper ต้องเปิดให้คู่แข่งสามารถเข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มได้ด้วย
Meta เปิดตัวโครงการ Purple Llama รวมเครื่องมือด้านความปลอดภัยของ AI ที่โอเพนซอร์สให้สาธารณะใช้งาน
ตัวชื่อโครงการมาจากภาษาที่ใช้ในโลกความปลอดภัยไซเบอร์ ที่แบ่งการทดสอบออกเป็นทีมลองเจาะ (red team) และทีมป้องกัน (blue team) โครงการนี้ที่มีเครื่องมือทั้งสองฝั่งจึงเอาสองสีมารวมกันเป็นสีม่วง แล้วมารวมกับชื่อ Llama ที่เป็นโมเดล LLM ของบริษัทเอง
Meta ประกาศเริ่มเปิดการส่งข้อความใน Messenger และ Facebook เป็นการเข้ารหัสแบบ End-to-End แล้ว มีผลกับผู้ใช้งานทุกคนทั้งการแชทและการโทรแบบส่วนตัว ตามที่บริษัทเคยประกาศไว้ว่าจะมาภายในปีนี้
Messenger เริ่มรองรับการส่งข้อความเข้ารหัสมาตั้งแต่ปี 2016 แต่เป็นแบบผู้ใช้งานต้องเปิดเอง (opt-in) ซึ่งเหตุผลที่ใช้เวลานานมากกว่าจะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นได้กับทุกคน เพราะต้องแก้ไขโครงสร้างการจัดการข้อความด้านหลัง รวมถึง Messenger เองก็มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มมาโดยตลอด
ถึงแม้กระแสเปิดตัวของใหม่ AI วันนี้จะอยู่ที่ Gemini ของกูเกิล แต่ Meta ก็ประกาศของใหม่เกี่ยวกับ AI ด้วยเช่นกันนั่นคือ Imagine with Meta AI เครื่องสำหรับสร้างรูปภาพด้วย prompt ที่แยกออกมาใช้งานโดยเฉพาะ ไม่ได้ไปรวมกับบริการตัวอื่น ซึ่งเหมือนกับ DALL-E, Midjourney หรือ Stable Diffusion ทำงานบนโมเดล Emu ที่ใช้สร้างรูปภาพ
Imagine with Meta AI ยังเปิดให้ใช้งานแบบจำกัดเฉพาะผู้ใช้ในอเมริกาเท่านั้นผ่าน imagine.meta.com
บริษัทเอกชนและหน่วยงานวิจัยจำนวน 50 แห่ง นำโดย IBM และ Meta ประกาศตั้งกลุ่ม AI Alliance เพื่อกำหนดมาตรฐานของวงการ AI ร่วมกัน โดยเน้นการเปิดกว้างและความโปร่งใส (open and transparent)
เป้าหมายของ AI Alliance มีตั้งแต่พัฒนาเบนช์มาร์ควัดผล AI โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย, พัฒนาโมเดลพื้นฐาน (foundation model) แบบเปิดกว้าง, พัฒนาชิปเร่งการประมวลผล AI, ร่วมกับภาคการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะ อบรม เผยแพร่เอกสารความรู้ต่างๆ
ตัวอย่างบริษัทที่เป็นสมาชิกได้แก่ AMD, Cerebras, Dell Technologies, Hugging Face, Intel, Oracle, Red Hat, ServiceNow, Sony, Stability AI
Facebook Messenger และ Instagram สามารถส่งข้อความ DM ข้ามแอปกันได้มาตั้งแต่ปี 2020 โดยตอนนั้น Facebook (ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นชื่อ Meta) บอกว่าเพื่อให้ผู้ใช้ Instagram ได้ประสบการณ์ใช้งาน Messenger บนระบบส่งข้อความ Instagram
ผ่านไป 3 ปี เปลี่ยนใจแล้ว
ข้อมูลในหน้าซัพพอร์ตของ Instagram ปรับปรุงล่าสุดระบุว่า การแชทข้ามแอประหว่าง Instagram กับ Facebooke Messenger จะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป มีผลตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2023 เป็นต้นไป
Meta ยืนยันรายงานข่าวว่าบริษัทได้ยุบแผนก Responsible AI (RAI) หรือฝ่ายที่ดูแลด้านความปลอดภัยของ AI ต่าง ๆ ที่มีการใช้งานในแพลตฟอร์ม โดยพนักงานในฝ่ายนี้จะย้ายไปอยู่กับฝ่ายที่ดูแลผลิตภัณฑ์ Genarative AI หรือบางส่วนไปอยู่ส่วน Infrastructure ของ AI แทน
การยุบฝ่าย RAI นี้ เป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดตามแผนงานของ Meta ในปีนี้ ที่นำไปสู่การยุบแผนก หรือปลดพนักงานออกจำนวนมาก อย่างไรก็ตามตำแหน่งงานที่ดูแลความปลอดภัยของ AI ว่าสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เป็นประเด็นสำคัญที่บริษัทเทคโนโลยีซึ่งพัฒนา AI ให้ความสำคัญ
MediaTek ประกาศเซ็นสัญญากับ Meta ผลิตชิปสำหรับแว่น AR Glass รุ่นถัดไปให้ แต่ยังไม่เปิดเผยข้อมูลมากนักว่าแว่นรุ่นนี้จะหน้าตาเป็นอย่างไร
ก่อนหน้านี้ Meta เลือกใช้ชิป Snapdragon XR จาก Qualcomm มาโดยตลอด โดยล่าสุดคือ Meta Quest 3 และแว่น Ray-Ban Meta Smart Glass ที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนกันยายน ก็ใช้ชิป Snapdragon XR/AR ด้วยกันทั้งคู่ จึงน่าสนใจว่าการหันมาเลือก MediaTek ที่เป็นคู่แข่งของ Qualcomm โดยตรงนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร
MediaTek บอกว่า Meta เลือกใช้ชิปของตัวเองเพราะความเชี่ยวชาญในการปรับแต่งระหว่างพลังงาน-ประสิทธิภาพ
Meta โชว์งานวิจัยปัญญาประดิษฐ์ 2 ตัวสำคัญ คือ Emu Edit สำหรับการแก้ไขภาพตามคำสั่ง และ Emu Video ที่แปลงภาพนิ่งกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวโดยทั้งสองโมเดลอาศัยโมเดลแปลงข้อความเป็นภาพที่ชื่อว่า Emu ที่ Meta เคยรายงานมาก่อนหน้านี้แล้ว
Emu Video สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวได้จากข้อความอย่างเดียว, ภาพอย่างเดียว, หรือสองอย่างร่วมกันก็ได้ โดยภายในโครงสร้างเรียบง่ายกว่าโมเดลเดิม เช่น Make-A-Video ทำให้ทำงานได้เร็วกว่ามาก ขณะที่ผลทดสอบด้วยคนให้เลือกวิดีโอที่สวยกว่า Emu Video ก็ถูกเลือกมากกว่าทุกโมเดล โดยเฉลี่ยสูงถึง 96% มีเพียง Imagen-Video ที่ได้คะแนนความถูกต้อง (faithfulness) พอๆ กับ Emu Video
ช่วงนี้ Meta ค่อย ๆ แก้ปัญหาของ Threads อยู่เรื่อย ๆ ล่าสุดเพิ่งเพิ่มตัวเลือกไม่ให้โพสต์ไปแสดงบน Facebook และ Instagramไป วันนี้ผู้ใช้งาน Threads ที่ไม่อยากใช้งานต่อสามารถลบบัญชีของตนในแอปได้โดยไม่ต้องลบบัญชี Instagram ของตนได้แล้ว
ผู้ใช้งานสามารถลบโปรไฟล์ของตนออกจากแอป Threads ได้ผ่านทาง Settings > Account > Delete or deactivate profile