Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ยังคงอยู่ในโปรแกรมเดินทางในเอเชีย โดยเมื่อวานนี้เขาได้เข้าพบหารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ Yoon Suk Yeol เป็นเวลา 30 นาที ที่ทำเนียบฯ
เนื้อหาการพูดคุยที่มีรายงานออกมานั้น ประธานาธิบดี Yoon ได้แสดงความกังวลเรื่องการจัดการข่าวปลอมบนโซเชียลมีเดีย และต้องการให้ Meta ทำหน้าที่ร่วมพัฒนาให้โลกดิจิทัลมีความน่าเชื่อถือ ซึ่ง Zuckerberg ก็ตอบว่า Meta ยังคงเดินหน้าจัดการปัญหานี้ตลอด โดยเฉพาะสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ในหลายประเทศที่กำลังมาถึง ซึ่งเกาหลีใต้ก็จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนเมษายนนี้
ยังคงเกาะติดการเดินสายในเอเชียของ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta กันต่อ หลังจากเขาไปเล่นสกี ตีดาบ และกินแมคโดนัลด์ ก็ถึงเวลาเรื่องจริงจัง โดยเขาได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Kishida Fumio ที่โตเกียว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งตัวแทนของสำนักนายกรัฐมนตรีบอกว่ามีการพูดคุยกันเป็นเวลา 30 นาที ในเรื่องความเสี่ยงของ Generative AI และ Zuckerberg ก็ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเพิ่มเติม ว่าเขายังมีความสนใจเพิ่มการลงทุนในญี่ปุ่นอีกด้วย
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ได้เดินทางตามโปรแกรมที่หลายประเทศในเอเชียตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตัวแทน Meta บอกว่าเขาจะไปหารือเรื่องการพัฒนา AI รวมถึงพูดคุยกับภาคธุรกิจและหน่วยงานรัฐของแต่ละประเทศ
Zuckerberg เริ่มทริปด้วยการเดินทางไปเล่นสกีกับครอบครัวที่ญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีกำหนดพบกับพนักงาน Meta ที่สำนักงานญี่ปุ่น โดยมีหัวข้อหลักคือเฮดเซต Quest และโมเดล AI Llama ในสัปดาห์นี้ จากนั้นเขาจะเดินทางไปเกาหลีใต้ช่วงกลางสัปดาห์ โดยอาจพบกับประธานาธิบดี Yoon Suk Yeol และพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจบางราย ซึ่งคาดว่าเป็นซัมซุงและแอลจี
คณะกรรมการอิสระ Oversight Board ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบนโยบายควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์มของ Meta ประกาศขยายบทบาทความรับผิดชอบ โดยเพิ่มการตรวจสอบเนื้อหาของ Threads ด้วยอีกแพลตฟอร์ม จากที่ดูแลเนื้อหาของผู้ใช้งาน Facebook และ Instagram มาตั้งแต่ตุลาคม 2020
บัญชีผู้ใช้งาน Threads @whimchic โพสต์สิ่งที่เขาพบว่า Facebook ได้เริ่มทดสอบการโพสต์ข้ามแพลตฟอร์ม (Cross-post) โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกให้โพสต์ใน Facebook นั้น ไปโพสต์ในบัญชี Threads ที่เชื่อมต่อไว้ได้ด้วย แบบเดียวกับที่สามารถเลือกให้โพสต์ Facebook ไปโพสต์ลงใน Instagram ได้ด้วย
ตัวแทนของ Meta ยืนยันการทดสอบนี้ โดยบอกว่าจำกัดผู้ใช้งานกลุ่มเล็กเท่านั้น และมีผลเฉพาะการโพสต์จากแอปใน iOS รวมทั้งไม่มีผลกับกลุ่มผู้ใช้งานประเทศ EU ที่มีการควบคุมความเป็นส่วนตัว โดยสามารถโพสต์แชร์ไปที่ Threads ได้ ทั้งโพสต์ข้อความและโพสต์ลิงก์
การเปลี่ยนแปลงของแอปเปิลใน iOS 17.4 สำหรับผู้ใช้ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล DMA ดูจะเป็นประเด็นกันต่อไป โดยล่าสุดไมโครซอฟท์และ Meta ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป ว่านโยบายใหม่ส่วนของ App Store นั้น ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ EU ต้องการในกฎหมาย DMA
ประเด็นที่เป็นปัญหานั้น มีหลายบริษัทเทคโนโลยีที่ออกมาแสดงความเห็นกันก่อนแล้ว เช่น การคิดค่า Core Technology Fee หากแอปมีจำนวนดาวน์โหลดสูง หรือการบีบให้จ่ายส่วนแบ่ง 17% หากมีช่องทางจ่ายเงินอื่นเพิ่มเติม จึงมองว่าแนวทางนี้ไม่ได้สร้างทางเลือกอย่างที่ DMA ต้องการ
Mark Zuckerberg เล่าชีวิตส่วนตัวในรายการ Morning Brew Daily (ตอนเดียวกับ ข่าวนี้ และ ข่าวนี้) หลังได้รับคำถามว่า เขามีสไตล์การบริหารบริษัทอย่างไร หลังเปิดบริษัท Facebook/Meta มานาน 20 ปีแล้ว (เริ่มก่อตั้งปี 2004)
Mark ตอบว่าในตอนแรกสุดนั้นเขาไม่ได้มีความตั้งใจเปิดบริษัทเลย เขาแค่ชอบสร้างสิ่งต่างๆ เท่านั้น (I like building stuffs) เขาไปเรียนมหาวิทยาลัยโดยตั้งเป้าว่าจบไปคงไปเป็นวิศวกรในไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ตาม แม่ของเขาเคยดักคอเอาไว้ว่า เดี๋ยวลูกก็ไปเปิดบริษัท ซึ่งเขายืนกรานว่าไม่ทำแน่ๆ และแม่ของเขาก็เคยปรามาสว่าเขาต้องเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยแน่นอน
Mark Zuckerberg ให้สัมภาษณ์กับรายการพ็อดแคสต์ Morning Brew Daily (ตอนเดียวกับข่าว ลูกสาวคิดว่าพ่อทำอาชีพเลี้ยงวัว เพราะไม่เข้าใจว่า Meta คืออะไร) อธิบายเหตุผลที่เขาในฐานะผู้นำอันดับ 1 ขององค์กรต้องออกมาทำคลิปรีวิวผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง จนเป็นที่โจษจัน
Mark Zuckerberg ไปออกรายการพ็อดแคสต์ Morning Brew Daily เล่าถึงงานอดิเรกล่าสุดของเขาที่กำลังไปทำฟาร์มวัว โดยบอกว่าลูกสาวของเขานั้นเข้าใจว่าพ่อของพวกเธอมีอาชีพเลี้ยงวัว (cattle rancher) อยู่พักใหญ่ๆ เลย เนื่องจากยังเด็กเกินไปกว่าที่จะเข้าใจว่าบริษัท Meta คืออะไร
Mark ยังบอกว่าเขาชอบงานนี้มาก และพูดกับภรรยาว่าหากเกษียณจาก Meta แล้วจะหันไปเปิดร้าน Mark's Meats อย่างจริงจัง แต่ก็บอกว่าคนเลี้ยงวัวทั่วไปมีข้อจำกัดเรื่องการเลี้ยงเพื่อเป็นธุรกิจ ในขณะที่เขาพยายามสร้างเนื้อวัวที่ดีที่สุดในโลก จึงไม่มีข้อจำกัดเรื่องต้นทุนค่าอาหาร สามารถให้วัวกินเบียร์เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร และปลูกต้นแมคาเดเมียเองเพื่อเป็นอาหารสัตว์
16 ก.พ.2567 ที่การประชุมความมั่นคงมิวนิค (Munich Security Conference - MSC) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ 20 ราย ประกาศข้อตกลงว่าจะร่วมมือป้องกันเนื้อหา AI ที่แทรกแซงการเลือกตั้งทั่วโลกในปีนี้ ที่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่าสี่พันล้านคนในกว่า 40 ประเทศ
บริษัทเทคโนโลยีที่ร่วมข้อตกลงได้แก่: Adobe, Amazon, Anthropic, Arm, ElevenLabs, Google, IBM, Inflection AI, LinkedIn, McAfee, Meta, Microsoft, Nota, OpenAI, Snap Inc., Stability AI, TikTok, Trend Micro, Truepic, และ X
ข้อตกลงนี้เป็นขั้นตอนสำคัญหนึ่งในการปกป้องชุมชนออนไลน์จากเนื้อหา AI ที่เป็นอันตราย จากการทำงานของบริษัทแต่ละแห่ง
อาจเรียกได้ว่าเป็นวันของการปล่อยของด้าน AI นอกจาก Gemini 1.5 Pro จากกูเกิล และ Sora จาก OpenAI แล้ว Meta ก็เปิดตัว V-JEPA สถาปัตยกรรมตัวใหม่ของระบบการเรียนรู้ตนเอง สำหรับการพัฒนา AI ขั้นสูง
โดย V-JEPA ซึ่งย่อมาจากคำว่า Video Joint Embedding Predictive Architecture พัฒนาโดยทีม AI ของ Meta ที่นำโดย Yann LeCun ต้องการสร้างโมเดลเรียนรู้ของ AI ขั้นสูง เพื่อให้รองรับการทำความเข้าใจทุกอย่างในโลกได้ดียิ่งขึ้น โดยมีหลักคิดว่ามนุษย์เราเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่จากการดูและสังเกต โดยไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือจำนวนมากเพื่อจะเข้าใจทุกเรื่อง V-JEPA จึงออกแบบมาให้เรียนรู้และเข้าใจโลกในวิธีเดียวกับที่คนเรียนรู้ ประยุกต์ และคิดต่อยอด ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ
Meta ประกาศปรับปรุงรายละเอียดของการซื้อบูสต์โพสต์ หรือโฆษณาใน Facebook และ Instagram ผ่านแอปบน iOS โดยจะมีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีก 30% ของราคาที่กำหนดไว้ มีผลตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป
ค่าธรรมเนียมที่ Meta คิดเพิ่มนี้เป็นผลจากกฎใหม่ที่แอปเปิลประกาศสำหรับ App Store ในปี 2022 ซึ่งกำลังจะมีผล ที่ระบุว่าการซื้อบูสต์โพสต์ จะต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบ In-App Purchase ของแอปเปิล และแอปเปิลจะหักค่าธรรมเนียม 30% ทุกรายการ จึงทำให้ Meta ประกาศเก็บคิดค่าธรรมเนียมส่วนนี้กับลูกค้าเพิ่มเติมนั่นเอง
Meta แต่งตั้งกรรมการบอร์ดบริษัทเพิ่ม 2 คน คือ Hock E. Tan ซีอีโอและประธาน Broadcom กับ John Arnold ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานร่วมของ Arnold Ventures และเคยเป็นอดีตผู้บริหาร Enron โดยให้มีผลทันที
Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Meta กล่าวว่าเขารู้สึกตื่นเต้นที่ทั้ง Hock Tan และ John Arnold ได้เข้าร่วมกรรมการบอร์ดของ Meta การที่บริษัทมีเป้าหมายสร้างปัญญาประดิษฐ์สำหรับงานทั่วไป (AGI) แล้วได้ผู้บริหารที่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมซิลิคอน และโครงสร้างพื้นฐานพลังงานมาร่วมเป็นบอร์ด ก็จะสนับสนุนวิสัยทัศน์ระยะยาวนี้ต่อไป
Meta เสนอโปรโตคอล Simple Precision Time Protocol (SPTP) สำหรับซิงก์เวลาที่ความละเอียดสูง หลังจากใช้งานโปรโตคอล Precision Time Protocol (PTP) ในศูนย์ข้อมูลของตัวเองมาแล้ว
ทีมงาน Meta ระบุว่าปัญหาของ PTP คือมันค่อนข้างซับซ้อน ต้องส่งแพ็กเก็ตเปิดการเชื่อมต่อหลายแพ็กเก็ต และต้องเก็บสถานะการเชื่อมต่อแต่ละครั้ง ทำให้โปรเซสกินซีพียู, แรม, และใช้งานเน็ตเวิร์คค่อนข้างมาก โดยรวมต้องส่งข้อมูลกลับไปมา 11 ครั้งต่อการซิงก์เวลาแต่ละรอบ
Meta และ TikTok ยื่นขอให้ตรวจสอบค่าธรรมเนียม ที่บริษัทต้องจ่ายให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของ EU เพื่อใช้ในการตรวจสอบเนื้อหาต่าง ๆ ตามกฎหมายดิจิทัลใหม่ DSA (Digital Services Act) โดยให้เหตุผลว่าค่าธรรมเนียมนี้ถูกคำนวณอย่างไม่เหมาะสม
ในข้อกำหนดนั้น EU ระบุว่าบริษัทจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ซึ่งมีการคิดคำนวณจากปัจจัยต่าง ๆ โดยเงินที่จ่ายให้กับหน่วยงาน จะสูงสุดไม่เกิน 0.05% ของกำไรบริษัท แต่ตัวเลขนี้ก็ทำให้ตัวแทนของ Meta มองว่าไม่ยุติธรรม เพราะบริษัทที่มีผลประกอบการขาดทุน ต่อให้มีฐานผู้ใช้งานจำนวนมากแค่ไหน ก็ไม่ต้องจ่ายเงินให้ EU เลย
ส่วนตัวแทนของ TikTok มองว่าการคิดจำนวนผู้ใช้งาน ที่ EU ใช้ข้อมูลจากบริษัทภายนอก แล้วนำคำนวณค่าธรรมเนียมนั้น เป็นตัวเลขที่ไม่ถูกต้อง
Meta ประกาศแนวทางขึ้นป้ายกำกับ (label) บอกว่าภาพที่โพสต์ในระบบ Facebook, Instagram, Threads สร้างด้วย AI เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ป้ายกำกับนี้จะเริ่มใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า (coming months)
Meta ออก Facebook Graph API v19.0 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ Facebook Groups API ที่ใช้เข้าถึงเนื้อหาใน Facebook Groups ถูกปรับสถานะเป็น "ล้าสมัย" (deprecated) และจะปิดการใช้งานในอีก 90 วันข้างหน้า
Meta อธิบายว่าที่ผ่านมา เครื่องมือโซเชียลภายนอกหลายตัวเรียกใช้ Groups API สำหรับให้เพจส่ง Private Replies ไปยังบุคคลที่โพสต์ใน Groups โดยตรง ซึ่ง Meta บอกว่าจะเปิดช่องทางใหม่ให้นักพัฒนาแอพโซเชียลเหล่านี้ใช้งานโดยไม่ต้องผ่าน Groups API
อย่างไรก็ตาม TechCrunch รายงานว่าเครื่องมือจัดการโซเชียลหลายตัวยังใช้ Groups API สำหรับโพสต์ข้อความอัตโนมัติลง Groups แบบตั้งเวลาล่วงหน้า ซึ่งการปิด API นี้จะทำให้ช่องทางนี้ใช้งานไม่ได้อีกต่อไป กระทบกับลูกค้าจำนวนมาก
Facebook มีอายุครบ 20 ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากจุดเริ่มต้นของโปรแกรมนำข้อมูลนักศึกษามาจัดระเบียบใหม่ จนมาถึงการเป็นบริษัทชื่อ Meta Platforms เพื่อมุ่งสู่โลกเสมือนยุคใหม่ พร้อมมูลค่ากิจการที่เพิ่งทำสถิติสูงสูดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
Mark Zuckerger ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Facebook และ Meta ปีนี้นอกจากเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ เป็นรูปที่เขาใช้ตั้งแต่ยังเป็น TheFacebook ก็โพสต์คลิปวิดีโอย้อนเวลาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของ Meta โดยบอกว่าตลอดเส้นทาง มีผู้คนอัศจรรย์มากมายเข้าร่วมและสร้างสิ่งเจ๋ง ๆ เพิ่มขึ้นตลอด ตอนนี้เราก็ยังเป็นเช่นนั้น และจะมีสิ่งดี ๆ ออกมาอีก
ราคาหุ้นของ Meta Platforms บริษัทแม่ของ Facebook, Instagram ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ 20.32% ทำให้ราคาหุ้นปิดการซื้อขายที่ 474.99 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำสถิติราคาสูงสุดของบริษัท และมีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นหรือ Market Cap. เพิ่มขึ้น 1.97 แสนล้านดอลลาร์ เป็นสถิติใหม่สูงสุดภายในวันเดียว แซง Amazon เมื่อปี 2022 ซึ่งปีเดียวกัน Apple ก็ทำสถิติไปก่อนไม่กี่วัน
ที่น่าสนใจคือราคาหุ้น Meta เองก็เจอสถานการณ์มูลค่าลดลงมากที่สุดในวันเดียวมาแล้วเช่นกันในปี 2022 ซึ่งบริษัทก็ใช้เวลา 2 ปี จนราคาหุ้นกลับมาทำสถิติใหม่สูงสุดได้ โดยตอนนี้มีมูลค่ากิจการ 1.22 ล้านล้านดอลลาร์
Meta เป็นบริษัทล่าสุดที่แสดงความเห็นโจมตีนโยบายใหม่ของ App Store และ iOS ที่แอปเปิลปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามกฎหมาย DMA ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป
โดยซีอีโอ Mark Zuckerberg พูดถึงเรื่องนี้ในช่วงแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุดบอกว่า เขาไม่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงแบบใหม่นี้ Meta จะต้องทำอะไรเพิ่มเติมที่ต่างจากเดิม เนื่องจากความยุ่งยากที่แอปเปิลกำหนดออกมาในรายละเอียด และเขาก็ไม่คิดว่านักพัฒนาส่วนใหญ่จะเลือกย้ายแอปไปอยู่สโตร์อื่น เพราะขั้นตอนที่แอปเปิลกำหนดนั้นยุ่งยากสร้างภาระเป็นอย่างมาก
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta เปิดเผยข้อมูลในช่วงแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ที่รายได้เติบโตสูง และประกาศจ่ายเงินปันผลกับผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรก เกี่ยวกับ Threads แพลตฟอร์มโซเชียลเน้นตัวหนังสือที่ออกมาแข่งกับ X หรือ Twitter เดิม
เขาบอกว่าตอนนี้ Threads มีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) มากกว่า 130 ล้านบัญชีแล้ว และการเติบโตยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขนี้สูงกว่าในช่วงแรกที่แอปเปิดตัวและทำสถิติผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วก็ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
Meta รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2023 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 40,111 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นรายได้จากโฆษณา 38,706 ล้านดอลลาร์ รายได้อื่นของแอป 334 ล้านดอลลาร์ และรายได้ Reality Labs 1,071 ล้านดอลลาร์ โดยมีกำไรสุทธิ 14,017 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เฉพาะธุรกิจ Reality Labs ยังคงขาดทุนมากขึ้นเป็น 4,646 ล้านดอลลาร์
Mark Zuckerberg ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Meta กล่าวในแถลงผลประกอบการว่าเป็นอีกไตรมาสที่ดี ทั้งจากชุมชนและธุรกิจที่ยังคงเติบโต โดยบริษัทมีความก้าวหน้าทั้งด้าน AI และ Metaverse
จำนวนผู้ใช้งาน Facebook เป็นประจำทุกเดือน (MAUs) เพิ่มขึ้นเป็น 3,065 ล้านบัญชี ส่วนจำนวนรวมทุกแพลตฟอร์มในเครือมี 3.98 พันล้านคน
บริษัทวิจัยตลาดแอป Appfigures รายงานข้อมูลน่าสนใจของสถิติการดาวน์โหลดแอปในเดือนธันวาคม 2023 พบว่า Threads แอปโซเชียลเน้นตัวหนังสือของ Meta ที่ทำออกมาแข่งกับ X/Twitter มีจำนวนการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับตัวเลขเดือนพฤศจิกายน มีจำนวนดาวน์โหลดรวม 28 ล้านครั้ง (iOS 12 ล้าน, Google Play 16 ล้าน)
Meta ปล่อยโมเดล Code Llama ขนาด 70B หลังจากปีที่แล้วปล่อยรุ่นใหญ่สุดอยู่ที่ 34B เท่านั้น โดยตอนนี้ยังไม่บอกรายละเอียดนัก นอกจากระบุว่าคะแนนทดสอบ HumanEval อยู่ที่ 67.8 แซงหน้า GPT-4 (67.0) และ Gemini Pro (67.7) โดยระบบอื่นๆ ที่ได้คะแนนสูงกว่านี้มักใช้ GPT-4/GPT-3.5 ร่วมกับเทคนิคอื่นๆ เพื่อให้ทำคะแนนได้สูงขึ้น
โมเดลที่ปล่อยออกมามี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นพื้นฐานสำหรับใช้งานทั่วไป, รุ่นภาษาไพธอนโดยเฉพาะ, และรุ่น Instruct สำหรับรับคำสั่งเพื่อเขียนโปรแกรมตาม รุ่นที่รายงานคะแนน HumanEval นั้นคือรุ่น Instruct
โมเดลเหล่านี้ใช้งานได้ฟรีแบบมีข้อจำกัด โดยห้ามใช้งานกับองค์กรที่มีผู้ใช้เกิน 700 ล้านคนต่อเดือน
Meta Platforms บริษัทแม่ของ Facebook ซึ่งเปลี่ยนชื่อบริษัทตั้งแต่ปี 2021 เพื่อสะท้อนวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นบริษัท Metaverse แต่ผ่านมาเกือบสามปี ส่วนธุรกิจ Reality Labs ที่รับผิดชอบด้าน Metaverse ยังมีรายได้น้อยกว่า 1% ของรายได้รวมทั้งหมด ก็อาจสะท้อนว่าตลาดโลกเสมือนนั้นยังไม่ได้ออกสู่กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปแบบธุรกิจโซเชียลมีเดีย